บทที่ 8 เป็นไปได้อย่างไรกัน!!
เมื่อถึงเวลาเปิดร้านชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ทำหน้าที่เรียกขานเชิญชวนทุกคนที่ผ่านมา อีกทั้งมีโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ราคาเพียง 30 หยวนเท่านั้น ในยุคที่เงินเดือนเดือนละ2000 หยวนต่อเดือน หลิวหลิวจึงคิดว่าราคานี้ไม่ได้แพงเท่าไหร่นักพอที่คนจะเจียดเงินมาซื้อซุปหมาล่าของเธอได้
คนที่เคยชิมเมื่อวานรู้รสชาติได้กลับมาอุดหนุนหมาล่าเพราะอยากกินเยอะกว่าที่แจกฟรี
“เชิญด้านในเลยค่ะ”
“เมื่อวานฉันได้ชิมที่เจ้าของร้านแจกฟรีทำให้ติดใจและยังไม่อิ่มวันนี้เลยชวนสามีมากินด้วยกัน”
“ได้เลยค่ะร้านหมาล่าของเราขายเป็นชุด ชุดหนึ่งสามารถกินได้สองถึงสามคนเชิญลูกค้านั่งด้านนี้เลยค่ะ ฉันจะรีบเข้าไปเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้นะคะ” หลิวหลิวผายมือให้ลูกค้าที่มากันสองคนไปนั่งเก้าอี้ก่อนที่เธอจะเข้าไปจัดเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้ลูกค้าและเครื่องเคียงที่จัดเตรียมเป็นชุดเอาไว้ ไม่นานลูกค้าเข้ามานั่งที่โต๊ะจนเต็มทุกตัว หลิวหลิวมีความสุขมากที่หมาล่าของเธอขายได้และได้รับคำชมเมื่อลูกค้ากินอิ่มต่างชมว่าอร่อยและจะไปบอกต่อให้
วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วของที่หลิวหลิวเตรียมเอาไว้ 10 ชุดได้หมดลงทำให้เธอปิดร้านตั้งแต่ยังไม่ดึกนัก
“ว๊าวว^ ^พี่ชิงฮวานี่คือเงินที่เราขายได้วันนี้หรือคะ” ชิงหนี่ว์ถามขึ้นเมื่อเห็นพี่สาวกำลังนั่งนับเงินหลังจากที่เก็บร้านเรียบร้อยแล้ว
“ใช่แล้ว วันพรุ่งนี้พี่จะทำเพิ่มให้มากกว่าเดิม ถ้าเราขายได้แบบนี้ทุกวันอีกไม่นานคงมีเงินให้ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ไปเรียนหนังสือ ตอนนี้ทุกคนคงเหนื่อยแล้ว ไปล้างมือมากินข้าวกันพี่ไม่ลืมเรื่องที่พูดเอาไว้หรอกนะเรื่องขนมหวานไหนมีใครอยากกินบ้าง” เด็ก ๆ ทั้งดีใจเรื่องเรียนหนังสือและดีใจที่จะได้กินขนมหวานดวงตาเป็นประกายกลมโตรีบยกมือขึ้นทั้งสองคน
“ผมครับ เย้ ๆ จะได้กินขนมแล้ว” ชิงเทียนรีบพูดขึ้น
“หนูด้วยค่ะ อย่างนั้นรีบไปล้างมือก่อนนะคะ” หลิวหลิวยิ้มกริ่มส่ายหน้าไปมาในความไร้เดียงสาของเด็ก ๆ
หลายวันต่อมาร้านหมาล่าสกุลไป๋เริ่มเป็นที่พูดถึงจนถึงหูของเหมยอิ๋งที่ได้ยินเพื่อนของเธอว่าครอบครัวของเพื่อนพากันไปกินมา รสชาติไม่เคยกินจากที่ไหนมาก่อน เหมยอิ๋งได้ยินเกิดความสงสัยหมาล่าสกุลไป๋นั่นคงไม่ใช่ฝีมือของไป๋ชิงฮวาหรอกใช่มั้ย? เพราะวันนั้นเธอเห็นกับตาตัวเองว่าสามคนพี่น้องไม่มีเงินติดตัวไปสักหยวนและป่านนี้ไม่รู้ว่าทั้งสามคนไปอยู่ที่ไหน
“มีมี่ร้านหมาล่าสกุลไป๋ที่เธอพูดถึงอยู่ตรงไหนหรือ?”
“นี่เธอไม่รู้อะไรเลยเหรอ ร้านหมาล่าอยู่ละแวกเดียวกับบ้านที่เธออยู่ตอนนี้เพียงสิบกิโลเมตรเองนะ”
“ฉันอยากไปเธอช่วยพาฉันไปหน่อยได้มั้ย”
“ได้สิ ฉันเชื่อว่าเธอได้กินต้องติดใจแน่ ๆ แถมที่ร้านนั้นมีน้อง ๆ ช่วยงานในร้านช่างเป็นเด็กดีจริง ๆ”
“เด็ก ๆ หรือ” เหมยอิ๋งทวนคำพูดของเพื่อนด้วยความสงสัย
“ใช่แล้ว แถมยังเป็นเด็กแฝดอีกด้วย” ยิ่งได้ยินอย่างนั้นทำให้ความอยากรู้อยากเห็นของเหมยอิ๋งเพิ่มมากขึ้นเธอจะต้องไปดูให้ได้ว่าร้านที่เพื่อนพูดถึงใช่ร้านของชิงฮวาหรือไม่แล้วเธอไปเอาเงินมาจากไหน หรือว่าเข้ามาขโมยเงินตอนที่ทุกคนไม่อยู่ที่บ้านอย่างนั้นเรื่องนี้เธอจะต้องแจ้งแม่ของเธอให้รับรู้เช่นเดียวกัน
“ฉันต้องการไปที่ร้านนั่นตอนนี้เลยเธอพาฉันไปหน่อยสิ”
“ทำไมถึงรีบร้อนแบบนั้นอีกอย่างร้านหมาล่าเปิดช่วงกลางวันถึงกลางคืนไปตอนนี้คงยังไม่ได้กินหรอกนะ”
“ไปเถอะน่าฉันไม่ได้อยากกินหมาล่าอะไรนี่หรอกแค่อยากไปเห็นกับตาตัวเองว่าเจ้าของร้านและน้อง ๆ ใช่ไป๋ชิงฮวาลูกของคุณอาฉันหรือเปล่าแค่นั้นเอง”
“ได้สิ” พูดจบทั้งสองเดินทางโดยรถประจำทางไปที่ร้านหมาล่าสกุลไป๋
และเมื่อมาถึงร้านเหมยอิ๋งได้เห็นกับตายิ่งโมโหริษยาที่ไป๋ชิงฮวาเปิดร้านขายของแถมยังขายได้ดีอีกด้วย
“คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นเธอ มีมี่ฉันขอกลับบ้านก่อนนะ”
“อะไรกันเดี๋ยวอยากมาเดี๋ยวอยากกลับถ้าเป็นญาติของเธอจริง ๆ ทำไมไม่เข้าไปหาล่ะจะได้ขอกินฟรีด้วยเลยไง”
“ไม่เอาหรอกอะไรที่เป็นฝีมือของไป๋ชิงฮวาฉันไม่อยากกินทั้งนั้น ถ้าเธออยากกินก็รอจนกว่าร้านของมันจะเปิดแล้วกันวันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีขอกลับก่อน” พูดจบเหมยอิ๋งก็เดินหนีเพื่อนและทิ้งเพื่อนเอาไว้แบบงง ๆ
“อะไรของเธอนะ ฉันไม่เข้าใจเลยหรือว่าเหมยอิ๋งไม่ถูกกับญาติคนนี้ ก็แล้วยังไงในเมื่อฉันมาถึงนี่แล้วรอกินหมาล่าดีกว่า” มีมี่ไม่ได้สนใจว่าใครไม่ถูกกับใครเพราะของอร่อยขนาดนี้เธอไม่พลาดที่จะกินมันอีกครั้งแน่นอน
ฝั่งด้านซิ่นเจี่ยว
ตั้งแต่เมื่อวานที่เธอออกจากบ้านไปที่บ่อนเธอเล่นเสียอยากได้คืนเลยอยู่เล่นทั้งคืนจนกระทั่งเช้าเงินที่เธอเตรียมไปหมดกระเป๋าทำให้เธออารมณ์เสียกลับบ้านอย่างเจ็บใจ มาถึงบ้านก็ต้องเหนื่อยใจเพราะตอนนี้บ้านที่เคยสะอาดรกจนแทบไม่มีทางจะเดินเสื้อผ้าที่ใส่และไม่ได้ซักเต็มตะกร้าไปหมดไหนจะถ้วยชามที่ถูกวางเอาไว้หลังจากกินเสร็จเริ่มเน่าเหม็นมีแมลงบินมาตอมกลิ่นในบ้านเหม็นอับจนไม่น่าอยู่
“นี่มันอะไรกันทำไมบ้านหลังนี้ถึงได้สกปรกขนาดนี้ เหมยอิ๋งทำไมเธอไม่ทำงานบ้านบ้างแล้วนี่ทำไมบ้านถึงเงียบแบบนี้อย่าบอกนะว่าไม่มีใครอยู่ เฮ้อ! ทำไมลูกของฉันถึงได้ขี้เกียจกันอย่างนี้นะ”
“คุณแม่บ่นอะไรคะ แล้วทีคุณแม่ออกไปที่บ่อนไม่ยอมกลับบ้านทั้งวันทั้งคืนฉันยังไม่เห็นบ่นอะไร คุณแม่มาก็ดีแล้วเสื้อผ้าของฉันไม่มีจะใส่แล้วช่วยไปซักให้หน่อยสิ แล้วถ้วยชามนะเหม็นเน่าจนแทบอยากจะอ้วกช่วยล้างด้วยนะ”
“นี่เหมยอิ๋งมันจะเกินไปแล้วนะ นั่นมันสมควรเป็นหน้าที่ของเธอไม่ใช่ฉัน”
“โธ่ คุณแม่คะจะให้ฉันล้างชามซักผ้าเองได้อย่างไรดูสิเล็บที่ฉันทำมาไม่ใช่ถูก ๆ ถ้าเกิดนิ้วของฉันเปื่อยเพราะล้างชามจะทำอย่างไร อ้อ..จริงด้วยวันนี้ฉันมีเรื่องของนังไป๋ชิงฮวามาเล่าให้คุณแม่ฟังด้วยล่ะ” เหมยอิ๋งชูมือให้คนเป็นแม่ดูทำท่าทางรังเกียจถ้วยชามและการซักผ้า ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไปเห็นอะไรมา
“เรื่องอะไรเกี่ยวกับนังชิงฮวาหวังว่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะ หรือว่าตอนนี้สามคนพี่น้องไปนั่งขอทานอย่างน่าอนาจอย่างนั้นเหรอ ฮ่า ฮ่า หากไม่เหิมเกริมคงได้อยู่ที่นี่มีที่ให้นอนทำตัวเองแท้ ๆ”
“เป็นเช่นนั้นก็ดีสิคะ แต่มันไม่ใช่แบบที่คุณแม่คิดตอนนี้สามคนพี่น้องเปิดร้านขายหมาล่าห่างจากที่นี่ไปประมาณสิบกิโล คุณแม่คะฉันสงสัยว่ามันเอาเงินมาจากไหนไปขายของหรือว่าจะมาขโมยตอนที่เราไม่อยู่”
“อะไรนะ!! นางชิงฮวาเปิดร้านขายของอย่างนั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้มันจะเอาเงินมาจากไหนวันนั้นที่มันออกจากที่นี่เงินติดตัวไม่มีสักหยวนหรือว่าจะเป็นอย่างที่เธอบอก มันช่างกล้าเข้ามาขโมยเงินของฉันอย่างนั้นหรือ? ร้านมันอยู่ที่ไหนฉันจะไปทวงเงินคืน” ซิ่นเจี่ยวไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าชิงฮวาจะมีเงินลงทุนเปิดร้าน ยิ่งได้ยินคำพูดของเหมยอิ๋งเธอยิ่งโมโหเลือดขึ้นหน้าเพราะคิดว่าชิงฮวามาขโมยเงินอย่างที่เหมยอิ๋งพูดจึงจะไปหาเธอที่ร้านในตอนนี้
“ได้ค่ะ ฉันจะพาไป” เหมยอิ๋งยิ้มออกมาอย่างสะใจอยากรู้เหมือนกันถ้านางชิงฮวาเห็นหน้าคุณแม่จะทำหน้ายังไง ทั้งสองไม่รอช้ารีบออกเดินทางไปที่ร้านของชิงฮวาทันที
บทที่ 9 หาเรื่องฝั่งด้านหลิวหลิวหลังจากที่ลูกค้าชุดแรกออกไปจากร้านจนหมดทุกโต๊ะเธอจึงเก็บถ้วยชามจะนำไปล้างโดยให้น้องทั้งสองเฝ้าอยู่หน้าร้านหากมีลูกค้ามาให้ไปเรียกเธอที่ครัว แต่ทว่าเมื่อเธอกำลังเดินเข้าไปหลังร้านได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา หลิวหลิวคิดว่าลูกค้าจึงหันกลับมายิ้มกว้างกล่าวตอนรับทันที“ร้านหมาล่าสกุลไป๋ยินดีต้อนรับค่ะ ชะ..” หลิวหลิวพูดไม่ทันจบรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกลับหลายเป็นบูดบึ้งทันทีเพราะคนที่เข้ามาในร้านตอนนี้เป็นคนที่เธอไม่อยากพบเจอหน้าแม้แต่น้อย คงได้ยินเรื่องร้านของเธอแล้วสินะถึงได้พากันมาที่นี่“แหม ๆ ฉันก็คิดว่าหลานของฉันจะไปอยู่ที่ไหนที่แท้ก็มาเปิดร้านขายของอะไรเนี้ยะ! ฉันไม่เห็นจะรู้จัก”“คุณป้ามาทำอะไรที่นี่หากจะมาหาเรื่องเชิญกลับไปด้วยค่ะอย่ามาทำให้ร้านของฉันเสียหายและรบกวนเวลาลูกค้าคนอื่น”“นี่แกจะมากไปแล้วนะ มีเงินเปิดร้านเลยปีกกล้าขาแข็งขับไล่ฉันกับคุณแม่สินะ เงินที่เธอนำมาเปิดร้านคงเป็นเงินที่เธอขโมยมาจากบ้านของฉันล่ะสิไม่ว่า” ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามายืนตรงหน้าพี่สาวพร้อมอธิบายให้เหมยอิ๋งกับคุณป้าได้รู้“ไม่ใช่นะครับพี่ชิงฮวาไม่เคยไปขโมยของ
บทที่ 10 คิดมากดวงตะวันเปลี่ยนผลันเป็นดวงจันทร์ที่ขึ้นแทนที่ตอนนี้ร้านหมาล่าสกุลไป๋ได้ปิดร้านเมื่อของที่เธอเตรียมเอาไว้ได้หมดก่อนเวลา หลิวหลิวเฝ้าแต่คิดเรื่องที่ซิ่นเจี่ยวกับเหมยอิ๋งที่เข้ามาวุ่นวายที่ร้านเหมือนทั้งสองไม่รู้จักพอ หลิวหลิวเริ่มเป็นกังวลเกรงว่าทั้งสองต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ“พี่ชิงฮวาคิดอะไรอยู่หรือคะทำไมสีหน้าพี่ดูไม่ดีเลย”“นั่นสิครับหรือว่าพี่ชิงฮวาจะคิดมากเรื่องคุณป้าที่เข้ามาวุ่นวายกับเราวันนี้” เด็กทั้งสองเห็นพี่สาวนั่งนิ่งเหม่อลอยแถมยังถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า น่าจะดีใจที่ขายของได้ดีขนาดหากมีเรื่องให้เคลียดคงมีเรื่องเดียวคือเรื่องที่ป้าเข้ามาหาเรื่องวันนี้ เด็ก ๆ เห็นพี่ไม่สบายจึงพากันเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง“พี่มีเรื่องเป็นห่วงนิดหน่อยกลัวว่าป้าซิ่นเจี่ยวจะไม่ยอมเลิกลามาวุ่นวายกับเราอีกนะสิ ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์คงกลัวมากเลยสินะมานี่หน่อยสิ” หลิวหลิวอ้าแขนให้น้องเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโอบกอดทั้งสองคนแนบแน่น“พี่ชิงฮวาพวกเราไม่กลัวเลยครับ ถ้าครั้งหน้าป้ามาอีกผมจะปกป้องพี่กับชิงหนี่ว์เอง”“หนูก็ไม่กลัวเหมือนกันค่ะ ถ้าป้ามาอีกหนูจะเอาไม้ไล่ไปไกล ๆ เลยพี่ไม่ต้อง
บทที่ 1 น่าเหลือเชื่อในคืนที่ฟ้าเต็มไปด้วยแสงดาวระยิบระยับบ้านเช่าหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง มีหญิงสาวอายุ 26 ปีพักอาศัยอยู่เพียงลำพังกำลังนั่งดูซีรี่ย์นักแสดงคนโปรดที่เธอตั้งหน้าตั้งตารอหลังจากเลิกงานและพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์เธอจึงเตรียมขนมเครื่องดื่มเพื่อจะดื่มด่ำในคืนวันศุกร์อย่างมีความสุขจนซีรี่ย์เล่นมาถึงจุดที่นางเอกกับน้อง ๆ ของเธอถูกพี่สาวพ่อหรือว่าป้ากำลังทำร้ายร่างกายมิหนำซ้ำยังถูกลูก ๆ ของป้าใช้งานยิ่งกว่าสาวใช้ด้วยซ้ำ“ฮึ! ทำไมต้องทนแบบนั้นฉันไม่เข้าใจไป๋ชิงฮวาเลยสักนิด ลองเป็นฉันดูสิฉันจะสู้สุดใจให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย สมบัติก็ของครอบครัวนางเอกเป็นคนสร้างมาแท้ ๆ ป้านี่ก็เลวจริง ๆ อยากได้ของหลานจนไม่มีสามัญสำนึกชั่วดีแม้แต่น้อย ชิ!! ดูแล้วอยากจะทะลุเข้าไปในทีวีเพื่อจัดการป้าชั่วแบบนี้จริง ๆ” หลิวหลิวกินขนมไปพร้อมกับบ่นเรื่องที่นางเอกกำลังพบเจอจนทำให้ขนมติดคอจนสำลักแค่ก ๆๆ!! เธอรีบลุกขึ้นวิ่งไปเอาน้ำที่ตู้เย็นจังหวะนั้นนั่นเองเท้าของเธอได้ไปสะดุดสายไฟทำให้เกิดกระแสไฟปะทุออกมาจากจอทีวี สายตาของเธอจับจ้องไปหน้าจอทีวีอย่างตื่นตระหนกอีกทั้งยังทรมานกับขนมติดคอเริ่มทำ
บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัยหลิวหลิวเดินออกจากห้อง ชิงเทียนน้องชายเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ตามมาทีหลังรีบดึงมือเธอเอาไว้ก่อน“พี่ชิงฮวา พี่พึ่งหายจากการเป็นไข้อย่าหาเรื่องให้คุณป้าทำร้ายพี่อีกเลย แค่ได้กินก้อนแป้งพวกเราก็อิ่มมากแล้วไม่อยากให้พี่ต้องมานอนไม่ได้สติแบบนี้อีก” หลิวหลิวหันกลับมามองมือเล็กที่สั่นเทาจับเธอเอาไว้แน่นสายสัมพันธ์ความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่ทำให้หลิวหลิวเจ็บจี้ดที่ใจ ยกมือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างเอ็นดู“ชิงเทียนพี่จะไม่ยอมทนคุณป้าอีกต่อไป บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อเป็นบ้านของเรา พี่จะไม่ทนให้ป้าใช้งานเราและโขกสับเราอีกต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราได้อีก”"จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ หรือครับ ""ได้สิ มาเถอะไปที่ห้องครัวกัน "หลิวหลิวเห็นร่างกายของเด็กทั้งสองที่ผอมแทบเหลือแต่กระดูกคงไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยสินะ เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นแค่ดูในทีวีเธอแทบอยากจะเข้ามาจัดการผู้เป็นป้า ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วเธอจะไม่ให้พวกนั้นมาทำอะไรเธอกับน้อง ๆ ได้อีกสกุลไป๋เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีลูกสามคนด้วยกัน คือไป๋ชิงฮวา ไป๋ชิงเทียนและไป๋ชิงหนี่
บทที่ 3 โดนไล่ออกจากบ้านมับ!!หลิวหลิวคิดเอาไว้แล้วว่าซิ่นเจี่ยวต้องลงไม้ลงมือทำร้ายเธอแน่ ๆ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นได้อีก เธอยกมือของเธอจับมือของป้าเอาไว้ทันก่อนที่มันจะฟาดลงที่ใบหน้าของเธอ หลิวหลิวใช้แรงทั้งหมดที่มือบีบที่ข้อมือของป้าอย่างเต็มแรง“คิดว่าฉันจะยอมให้ป้าลงไม้ลงมือกับฉันตามอำเภอใจได้อีกอย่างนั้นเหรอฝันไปเถอะ ตอนนี้ชิงฮวาคนเก่าไม่มีอีกแล้วคนที่อ่อนแอให้ป้าคอยรังแกข่มเหง ต่อจากนี้จะมีเพียงไป๋ชิงฮวาคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายร่างกายได้อีก” เธอดันแขนของผู้เป็นป้าออกจากมือแต่ทว่าแรงของเธอที่บีบข้อมือของซิ่นเจี่ยวแน่นทำให้เธอถลาล้มลงกับพื้น จัวหวะนั้นเองที่ต้าหลงกับเหมยอิ๋งกลับมาจากด้านนอกได้เห็นพอดี“โอ๊ย! นี่แก แกมันบ้าไปแล้วตื่นจากเจ็บไข้มาเปลี่ยนไปคนละคนอย่างนี้หรือว่าผีร้ายจะเข้าแกไม่ได้การล่ะฉันจะต้องจัดการไล่ผีชั่ว ๆ ตัวนี้ออกไป”“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นคะ นี่ไป๋ชิงฮวาเธอกล้าลงไม้ลงมือกับแม่ฉันเหรอ” เหมยอิ๋งรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาพยุงกายของซิ่นเจี่ยวให้ลุกขึ้น“ใช่นี่เธอกล้ามากนะที่ทำร้ายแม่ของฉัน ฉันเห็นว่าเธอมีสายเลือดเดียวกันกับฉันหรอกนะฉันถึงปล่อยเธออยู่ม
บทที่ 4 ป้าใจดีทั้งสามจึงพากันเดินไปนั่งที่นั่นก่อน หลิวหลิวเริ่มครุ่นคิดคืนนี้เธอจะพาน้องของเธอไปนอนที่ไหนกันดี เธอถูกขับไล่ออกแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่ให้เธอติดตัวมาเงินสักหยวนก็ไม่มี เธอเริ่มเป็นกังวลคิดไม่ตกจนกระทั่งเจ้าของร้านค้าออกมาจากร้านเพื่อเอาขยะมาทิ้งเห็นเด็กทั้งสามที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ นั่งอยู่หน้าร้านด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แม้เขาจะรู้ว่าตั้งแต่พ่อกับแม่ของพวกเธอจากไปถูกป้ารังแกแต่ไม่เคยเห็นทั้งสามพี่น้องมานั่งที่นี่ในยามกลางคืนสักครั้ง“ชิงฮวาเธอพาน้อง ๆ มานั่งทำอะไรที่นี่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วพาน้อง ๆ เข้าบ้านเถอะ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นเธอพอได้เห็นในซีรี่ย์แม้ว่าหญิงคนนี้จะโผล่มาเพียงไม่กี่ฉากแต่เธอก็จำได้ดี“ป้ามิ่งจูฉันกับน้องขอนั่งอยู่ที่นี่สักครู่เถอะนะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อยค่ะ”“มีเรื่องอะไรอีกหรือว่าเธอทะเลาะกับซิ่งเจี่ยวอีกแล้ว โธ่ ๆ น่าสงสารจริง ๆ ทำไมป้าของเธอต้องใจร้ายกับเธอด้วย”“เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะป้าอยากได้สมบัติของคุณพ่อคุณแม่มั่งคะตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป ฉันกับน้อง ๆ ถูกขับไล่ออกจากบ้านเพราะฉันทนไม่ไหวต่อปากต่อคำกับป้า ทำให้เธอ
บทที่ 5 ทำน้ำซุปฝั่งด้านซิ่นเจี่ยวหลังจากที่ขับไล่ชิงฮวากับน้องของเธอออกไปจากบ้านได้ ซิ่นเจี่ยวมีความสุขที่ไม่ต้องทนเห็นใบหน้าของหลานอีก ต่อจากนี้บ้านหลังนี้เงินทองมากมายของน้องชายจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว“คุณแม่คะวันนี้ฉันจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนขอเงินหน่อยสิยิ่งตอนนี้มีกระเป๋าเข้ามาใหม่ ฉันไม่อยากจะตกยุคให้เพื่อนคนอื่นดูถูกต่อว่า” ซิ่นเจี่ยวดื่มน้ำชาอยู่ในห้องโถงของบ้านกำลังครุ่นคิดว่าวันนี้เธอจะไปเข้าบ่อนเพื่อเอาคืนที่เสียไปเมื่อวานครันนั้นเหมยอิ๋งได้เดินออกมาจากห้องแต่งกายสีฉูดฉาดแต่งแต้มใบหน้าเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกเอ่ยขอเงินผู้เป็นแม่“เหมยอิ๋งแกเองก็ต้องรู้จักประหยัดช่วยกันสิ เราไม่ได้ทำงานต่อให้เงินที่มีอยู่ตอนนี้มากแค่ไหนใช้ฟุ่มเฟือยสักวันมันต้องหมดแล้วกระเป๋าแกพึ่งไปซื้อมาใหม่ไม่กี่วันก่อนไม่ใช่หรือไงกัน”“เฮอะ! แล้วทีคุณแม่ล่ะคะออกไปบ่อนทุกวันเสียทุกวันฉันยังไม่เคยว่าอะไรเลย ฉันซื้อของได้ของแต่คุณแม่เสียเงินแถมยังไม่ได้อะไรอีกด้วย”“เจ้าลูกคนนี้ยอกย้อนจริง ๆ เอานี่เอาไปจะได้ไม่ต้องมาบ่นให้อารมณ์เสีย” ซิ่นเจี่ยวแม้ปากจะบ่นแต่ก็หยิบกระเป๋าล้วงนำเงินออกมาให้แก่เหมยอิ๋งไป
บทที่ 6 แจกฟรีรุ่งเช้าวันต่อมาเด็ก ๆ ลงมาจากห้องนอนต้องพากันตกตะลึงเพราะเมื่อวานบ้านหลังนี้ด้านล่างยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแต่ทว่าตอนนี้ถูกจัดเป็นร้านอาหารมีของมากมาย“โอ้โห่ชิงเทียนนี่คือบ้านที่เราเข้ามาเมื่อวานจริง ๆ หรือของพวกนี้มาจากไหนกัน… ก่อนที่เราจะไปนอนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ”“นั่นสิคงเป็นฝีมือของพี่ชิงฮวาเราไปดูที่ครัวกันเถอะพี่น่าจะอยู่ที่นั่น” เด็กทั้งสองรีบเดินไปที่ครัวอย่างตื่นเต้นและสงสัยว่าพี่จะทำอะไรหลิวหลิวอยู่ในครัวจัดการอุ่นซุปวันนี้เธอตั้งใจจะแจกให้กินฟรี เพราะเธอยังไม่รู้ว่าคนในยุคนี้จะรู้จักและกินอาหารแบบนี้มั้ย ครั้นนั้นเสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาในครัวเธอวางของหันกลับไปมอง"ตื่นกันแล้วเหรอมานี่สิพี่จะเอาอะไรให้กิน ""อะไรหรือคะ? ว่าแต่ในบ้านของเรามีโต๊ะเต็มไปหมดพี่ชิงฮวาจะทำอะไรเหรอคะ ""สิ่งที่เราทั้งสองเห็นคือธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะขายซุปหมาล่าเลี้ยงดูทั้งสองคน ถ้าขายได้ดีพี่จะส่งเราทั้งคู่เข้าเรียนหนังสือ เอาล่ะมากินซาลาเปาเพื่อลองท้องก่อนพี่จะให้ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ไปป่าวประกาศให้คนที่ผ่านมาละแวกนี้ได้เข้ามาชิมเพื่อเป็นการโปรโมทและดึงดูดลูกค้า ""โปรโมทดึงด
บทที่ 10 คิดมากดวงตะวันเปลี่ยนผลันเป็นดวงจันทร์ที่ขึ้นแทนที่ตอนนี้ร้านหมาล่าสกุลไป๋ได้ปิดร้านเมื่อของที่เธอเตรียมเอาไว้ได้หมดก่อนเวลา หลิวหลิวเฝ้าแต่คิดเรื่องที่ซิ่นเจี่ยวกับเหมยอิ๋งที่เข้ามาวุ่นวายที่ร้านเหมือนทั้งสองไม่รู้จักพอ หลิวหลิวเริ่มเป็นกังวลเกรงว่าทั้งสองต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ“พี่ชิงฮวาคิดอะไรอยู่หรือคะทำไมสีหน้าพี่ดูไม่ดีเลย”“นั่นสิครับหรือว่าพี่ชิงฮวาจะคิดมากเรื่องคุณป้าที่เข้ามาวุ่นวายกับเราวันนี้” เด็กทั้งสองเห็นพี่สาวนั่งนิ่งเหม่อลอยแถมยังถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า น่าจะดีใจที่ขายของได้ดีขนาดหากมีเรื่องให้เคลียดคงมีเรื่องเดียวคือเรื่องที่ป้าเข้ามาหาเรื่องวันนี้ เด็ก ๆ เห็นพี่ไม่สบายจึงพากันเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง“พี่มีเรื่องเป็นห่วงนิดหน่อยกลัวว่าป้าซิ่นเจี่ยวจะไม่ยอมเลิกลามาวุ่นวายกับเราอีกนะสิ ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์คงกลัวมากเลยสินะมานี่หน่อยสิ” หลิวหลิวอ้าแขนให้น้องเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโอบกอดทั้งสองคนแนบแน่น“พี่ชิงฮวาพวกเราไม่กลัวเลยครับ ถ้าครั้งหน้าป้ามาอีกผมจะปกป้องพี่กับชิงหนี่ว์เอง”“หนูก็ไม่กลัวเหมือนกันค่ะ ถ้าป้ามาอีกหนูจะเอาไม้ไล่ไปไกล ๆ เลยพี่ไม่ต้อง
บทที่ 9 หาเรื่องฝั่งด้านหลิวหลิวหลังจากที่ลูกค้าชุดแรกออกไปจากร้านจนหมดทุกโต๊ะเธอจึงเก็บถ้วยชามจะนำไปล้างโดยให้น้องทั้งสองเฝ้าอยู่หน้าร้านหากมีลูกค้ามาให้ไปเรียกเธอที่ครัว แต่ทว่าเมื่อเธอกำลังเดินเข้าไปหลังร้านได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา หลิวหลิวคิดว่าลูกค้าจึงหันกลับมายิ้มกว้างกล่าวตอนรับทันที“ร้านหมาล่าสกุลไป๋ยินดีต้อนรับค่ะ ชะ..” หลิวหลิวพูดไม่ทันจบรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกลับหลายเป็นบูดบึ้งทันทีเพราะคนที่เข้ามาในร้านตอนนี้เป็นคนที่เธอไม่อยากพบเจอหน้าแม้แต่น้อย คงได้ยินเรื่องร้านของเธอแล้วสินะถึงได้พากันมาที่นี่“แหม ๆ ฉันก็คิดว่าหลานของฉันจะไปอยู่ที่ไหนที่แท้ก็มาเปิดร้านขายของอะไรเนี้ยะ! ฉันไม่เห็นจะรู้จัก”“คุณป้ามาทำอะไรที่นี่หากจะมาหาเรื่องเชิญกลับไปด้วยค่ะอย่ามาทำให้ร้านของฉันเสียหายและรบกวนเวลาลูกค้าคนอื่น”“นี่แกจะมากไปแล้วนะ มีเงินเปิดร้านเลยปีกกล้าขาแข็งขับไล่ฉันกับคุณแม่สินะ เงินที่เธอนำมาเปิดร้านคงเป็นเงินที่เธอขโมยมาจากบ้านของฉันล่ะสิไม่ว่า” ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามายืนตรงหน้าพี่สาวพร้อมอธิบายให้เหมยอิ๋งกับคุณป้าได้รู้“ไม่ใช่นะครับพี่ชิงฮวาไม่เคยไปขโมยของ
บทที่ 8 เป็นไปได้อย่างไรกัน!!เมื่อถึงเวลาเปิดร้านชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ทำหน้าที่เรียกขานเชิญชวนทุกคนที่ผ่านมา อีกทั้งมีโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ราคาเพียง 30 หยวนเท่านั้น ในยุคที่เงินเดือนเดือนละ2000 หยวนต่อเดือน หลิวหลิวจึงคิดว่าราคานี้ไม่ได้แพงเท่าไหร่นักพอที่คนจะเจียดเงินมาซื้อซุปหมาล่าของเธอได้คนที่เคยชิมเมื่อวานรู้รสชาติได้กลับมาอุดหนุนหมาล่าเพราะอยากกินเยอะกว่าที่แจกฟรี“เชิญด้านในเลยค่ะ”“เมื่อวานฉันได้ชิมที่เจ้าของร้านแจกฟรีทำให้ติดใจและยังไม่อิ่มวันนี้เลยชวนสามีมากินด้วยกัน”“ได้เลยค่ะร้านหมาล่าของเราขายเป็นชุด ชุดหนึ่งสามารถกินได้สองถึงสามคนเชิญลูกค้านั่งด้านนี้เลยค่ะ ฉันจะรีบเข้าไปเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้นะคะ” หลิวหลิวผายมือให้ลูกค้าที่มากันสองคนไปนั่งเก้าอี้ก่อนที่เธอจะเข้าไปจัดเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้ลูกค้าและเครื่องเคียงที่จัดเตรียมเป็นชุดเอาไว้ ไม่นานลูกค้าเข้ามานั่งที่โต๊ะจนเต็มทุกตัว หลิวหลิวมีความสุขมากที่หมาล่าของเธอขายได้และได้รับคำชมเมื่อลูกค้ากินอิ่มต่างชมว่าอร่อยและจะไปบอกต่อให้วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วของที่หลิวหลิวเตรียมเอาไว้ 10 ชุดได้หมดลงทำให้เธอปิดร้านตั้งแต่ยัง
บทที่ 7 ฉันจะไปดูงานเองแม่ของซุนเย่ถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย เธออยากให้เขามีครอบครัวมีภรรยาคอยดูแล ตอนนี้ทุกอย่างก็มีพร้อมแล้วเธอเองก็แก่มากขึ้นทุกวันหากมีหลานตัวน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะตายคงจะดี“คุณป้าคะดูท่าวันนี้พี่ซุนเย่จะอารมณ์ไม่ดีเอาไว้วันหน้าฉันจะมาหาใหม่แล้วกันค่ะ”“หนูหวางลี่อิงป้าต้องขอโทษด้วยนะที่ซุนเย่เสียมารยาทกับหนู”“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าไม่ต้องคิดมากพี่เขาคงเหนื่อยมาจากงาน ฉันขอตัวนะคะ” หวางลี่อินลูกสาวคนรองของท่านนายพลเธอเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ชายที่เธอปักใจคือซุนเย่ทั้งฐานะครอบครัว และชื่อเสียงหากทั้งสองตระกูลได้เป็นครอบครัวเดียวกัน อำนาจอิทธิพลจะยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลนี้ เขาทั้งรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายไม่ว่าจะมองตรงใดก็ไม่มีที่ติแม้แต่น้อย ทำให้สาว ๆ ในมณฑลนี้ต่างพากันหลงใหลเข้าหาเขาจนเขาเกิดความรำคาญ แต่หวางลี่อิงไม่ได้ใส่ใจและยอมแพ้อย่างไรก็ตามเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเว่ยให้ได้ฝั่งด้านซุนเย่เขาเข้ามาในห้องกำลังจะถอดเสื้อเนคไทด์ออกจากเสื้อสูทด้วยความอึกอันครั้นนั้นเสียงประตูได้ดังขึ้นก๊อก ๆ“คุณชายผมขอเข้าไปด้านในนะครับมีเรื่องมารายงาน” เสียงของลูกน้องค
บทที่ 6 แจกฟรีรุ่งเช้าวันต่อมาเด็ก ๆ ลงมาจากห้องนอนต้องพากันตกตะลึงเพราะเมื่อวานบ้านหลังนี้ด้านล่างยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแต่ทว่าตอนนี้ถูกจัดเป็นร้านอาหารมีของมากมาย“โอ้โห่ชิงเทียนนี่คือบ้านที่เราเข้ามาเมื่อวานจริง ๆ หรือของพวกนี้มาจากไหนกัน… ก่อนที่เราจะไปนอนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ”“นั่นสิคงเป็นฝีมือของพี่ชิงฮวาเราไปดูที่ครัวกันเถอะพี่น่าจะอยู่ที่นั่น” เด็กทั้งสองรีบเดินไปที่ครัวอย่างตื่นเต้นและสงสัยว่าพี่จะทำอะไรหลิวหลิวอยู่ในครัวจัดการอุ่นซุปวันนี้เธอตั้งใจจะแจกให้กินฟรี เพราะเธอยังไม่รู้ว่าคนในยุคนี้จะรู้จักและกินอาหารแบบนี้มั้ย ครั้นนั้นเสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาในครัวเธอวางของหันกลับไปมอง"ตื่นกันแล้วเหรอมานี่สิพี่จะเอาอะไรให้กิน ""อะไรหรือคะ? ว่าแต่ในบ้านของเรามีโต๊ะเต็มไปหมดพี่ชิงฮวาจะทำอะไรเหรอคะ ""สิ่งที่เราทั้งสองเห็นคือธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะขายซุปหมาล่าเลี้ยงดูทั้งสองคน ถ้าขายได้ดีพี่จะส่งเราทั้งคู่เข้าเรียนหนังสือ เอาล่ะมากินซาลาเปาเพื่อลองท้องก่อนพี่จะให้ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ไปป่าวประกาศให้คนที่ผ่านมาละแวกนี้ได้เข้ามาชิมเพื่อเป็นการโปรโมทและดึงดูดลูกค้า ""โปรโมทดึงด
บทที่ 5 ทำน้ำซุปฝั่งด้านซิ่นเจี่ยวหลังจากที่ขับไล่ชิงฮวากับน้องของเธอออกไปจากบ้านได้ ซิ่นเจี่ยวมีความสุขที่ไม่ต้องทนเห็นใบหน้าของหลานอีก ต่อจากนี้บ้านหลังนี้เงินทองมากมายของน้องชายจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว“คุณแม่คะวันนี้ฉันจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนขอเงินหน่อยสิยิ่งตอนนี้มีกระเป๋าเข้ามาใหม่ ฉันไม่อยากจะตกยุคให้เพื่อนคนอื่นดูถูกต่อว่า” ซิ่นเจี่ยวดื่มน้ำชาอยู่ในห้องโถงของบ้านกำลังครุ่นคิดว่าวันนี้เธอจะไปเข้าบ่อนเพื่อเอาคืนที่เสียไปเมื่อวานครันนั้นเหมยอิ๋งได้เดินออกมาจากห้องแต่งกายสีฉูดฉาดแต่งแต้มใบหน้าเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกเอ่ยขอเงินผู้เป็นแม่“เหมยอิ๋งแกเองก็ต้องรู้จักประหยัดช่วยกันสิ เราไม่ได้ทำงานต่อให้เงินที่มีอยู่ตอนนี้มากแค่ไหนใช้ฟุ่มเฟือยสักวันมันต้องหมดแล้วกระเป๋าแกพึ่งไปซื้อมาใหม่ไม่กี่วันก่อนไม่ใช่หรือไงกัน”“เฮอะ! แล้วทีคุณแม่ล่ะคะออกไปบ่อนทุกวันเสียทุกวันฉันยังไม่เคยว่าอะไรเลย ฉันซื้อของได้ของแต่คุณแม่เสียเงินแถมยังไม่ได้อะไรอีกด้วย”“เจ้าลูกคนนี้ยอกย้อนจริง ๆ เอานี่เอาไปจะได้ไม่ต้องมาบ่นให้อารมณ์เสีย” ซิ่นเจี่ยวแม้ปากจะบ่นแต่ก็หยิบกระเป๋าล้วงนำเงินออกมาให้แก่เหมยอิ๋งไป
บทที่ 4 ป้าใจดีทั้งสามจึงพากันเดินไปนั่งที่นั่นก่อน หลิวหลิวเริ่มครุ่นคิดคืนนี้เธอจะพาน้องของเธอไปนอนที่ไหนกันดี เธอถูกขับไล่ออกแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่ให้เธอติดตัวมาเงินสักหยวนก็ไม่มี เธอเริ่มเป็นกังวลคิดไม่ตกจนกระทั่งเจ้าของร้านค้าออกมาจากร้านเพื่อเอาขยะมาทิ้งเห็นเด็กทั้งสามที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ นั่งอยู่หน้าร้านด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แม้เขาจะรู้ว่าตั้งแต่พ่อกับแม่ของพวกเธอจากไปถูกป้ารังแกแต่ไม่เคยเห็นทั้งสามพี่น้องมานั่งที่นี่ในยามกลางคืนสักครั้ง“ชิงฮวาเธอพาน้อง ๆ มานั่งทำอะไรที่นี่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วพาน้อง ๆ เข้าบ้านเถอะ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นเธอพอได้เห็นในซีรี่ย์แม้ว่าหญิงคนนี้จะโผล่มาเพียงไม่กี่ฉากแต่เธอก็จำได้ดี“ป้ามิ่งจูฉันกับน้องขอนั่งอยู่ที่นี่สักครู่เถอะนะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อยค่ะ”“มีเรื่องอะไรอีกหรือว่าเธอทะเลาะกับซิ่งเจี่ยวอีกแล้ว โธ่ ๆ น่าสงสารจริง ๆ ทำไมป้าของเธอต้องใจร้ายกับเธอด้วย”“เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะป้าอยากได้สมบัติของคุณพ่อคุณแม่มั่งคะตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป ฉันกับน้อง ๆ ถูกขับไล่ออกจากบ้านเพราะฉันทนไม่ไหวต่อปากต่อคำกับป้า ทำให้เธอ
บทที่ 3 โดนไล่ออกจากบ้านมับ!!หลิวหลิวคิดเอาไว้แล้วว่าซิ่นเจี่ยวต้องลงไม้ลงมือทำร้ายเธอแน่ ๆ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นได้อีก เธอยกมือของเธอจับมือของป้าเอาไว้ทันก่อนที่มันจะฟาดลงที่ใบหน้าของเธอ หลิวหลิวใช้แรงทั้งหมดที่มือบีบที่ข้อมือของป้าอย่างเต็มแรง“คิดว่าฉันจะยอมให้ป้าลงไม้ลงมือกับฉันตามอำเภอใจได้อีกอย่างนั้นเหรอฝันไปเถอะ ตอนนี้ชิงฮวาคนเก่าไม่มีอีกแล้วคนที่อ่อนแอให้ป้าคอยรังแกข่มเหง ต่อจากนี้จะมีเพียงไป๋ชิงฮวาคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายร่างกายได้อีก” เธอดันแขนของผู้เป็นป้าออกจากมือแต่ทว่าแรงของเธอที่บีบข้อมือของซิ่นเจี่ยวแน่นทำให้เธอถลาล้มลงกับพื้น จัวหวะนั้นเองที่ต้าหลงกับเหมยอิ๋งกลับมาจากด้านนอกได้เห็นพอดี“โอ๊ย! นี่แก แกมันบ้าไปแล้วตื่นจากเจ็บไข้มาเปลี่ยนไปคนละคนอย่างนี้หรือว่าผีร้ายจะเข้าแกไม่ได้การล่ะฉันจะต้องจัดการไล่ผีชั่ว ๆ ตัวนี้ออกไป”“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นคะ นี่ไป๋ชิงฮวาเธอกล้าลงไม้ลงมือกับแม่ฉันเหรอ” เหมยอิ๋งรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาพยุงกายของซิ่นเจี่ยวให้ลุกขึ้น“ใช่นี่เธอกล้ามากนะที่ทำร้ายแม่ของฉัน ฉันเห็นว่าเธอมีสายเลือดเดียวกันกับฉันหรอกนะฉันถึงปล่อยเธออยู่ม
บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัยหลิวหลิวเดินออกจากห้อง ชิงเทียนน้องชายเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ตามมาทีหลังรีบดึงมือเธอเอาไว้ก่อน“พี่ชิงฮวา พี่พึ่งหายจากการเป็นไข้อย่าหาเรื่องให้คุณป้าทำร้ายพี่อีกเลย แค่ได้กินก้อนแป้งพวกเราก็อิ่มมากแล้วไม่อยากให้พี่ต้องมานอนไม่ได้สติแบบนี้อีก” หลิวหลิวหันกลับมามองมือเล็กที่สั่นเทาจับเธอเอาไว้แน่นสายสัมพันธ์ความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่ทำให้หลิวหลิวเจ็บจี้ดที่ใจ ยกมือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างเอ็นดู“ชิงเทียนพี่จะไม่ยอมทนคุณป้าอีกต่อไป บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อเป็นบ้านของเรา พี่จะไม่ทนให้ป้าใช้งานเราและโขกสับเราอีกต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราได้อีก”"จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ หรือครับ ""ได้สิ มาเถอะไปที่ห้องครัวกัน "หลิวหลิวเห็นร่างกายของเด็กทั้งสองที่ผอมแทบเหลือแต่กระดูกคงไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยสินะ เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นแค่ดูในทีวีเธอแทบอยากจะเข้ามาจัดการผู้เป็นป้า ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วเธอจะไม่ให้พวกนั้นมาทำอะไรเธอกับน้อง ๆ ได้อีกสกุลไป๋เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีลูกสามคนด้วยกัน คือไป๋ชิงฮวา ไป๋ชิงเทียนและไป๋ชิงหนี่