บทที่ 9 หาเรื่อง
ฝั่งด้านหลิวหลิวหลังจากที่ลูกค้าชุดแรกออกไปจากร้านจนหมดทุกโต๊ะเธอจึงเก็บถ้วยชามจะนำไปล้างโดยให้น้องทั้งสองเฝ้าอยู่หน้าร้านหากมีลูกค้ามาให้ไปเรียกเธอที่ครัว แต่ทว่าเมื่อเธอกำลังเดินเข้าไปหลังร้านได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา หลิวหลิวคิดว่าลูกค้าจึงหันกลับมายิ้มกว้างกล่าวตอนรับทันที
“ร้านหมาล่าสกุลไป๋ยินดีต้อนรับค่ะ ชะ..” หลิวหลิวพูดไม่ทันจบรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกลับหลายเป็นบูดบึ้งทันทีเพราะคนที่เข้ามาในร้านตอนนี้เป็นคนที่เธอไม่อยากพบเจอหน้าแม้แต่น้อย คงได้ยินเรื่องร้านของเธอแล้วสินะถึงได้พากันมาที่นี่
“แหม ๆ ฉันก็คิดว่าหลานของฉันจะไปอยู่ที่ไหนที่แท้ก็มาเปิดร้านขายของอะไรเนี้ยะ! ฉันไม่เห็นจะรู้จัก”
“คุณป้ามาทำอะไรที่นี่หากจะมาหาเรื่องเชิญกลับไปด้วยค่ะอย่ามาทำให้ร้านของฉันเสียหายและรบกวนเวลาลูกค้าคนอื่น”
“นี่แกจะมากไปแล้วนะ มีเงินเปิดร้านเลยปีกกล้าขาแข็งขับไล่ฉันกับคุณแม่สินะ เงินที่เธอนำมาเปิดร้านคงเป็นเงินที่เธอขโมยมาจากบ้านของฉันล่ะสิไม่ว่า” ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามายืนตรงหน้าพี่สาวพร้อมอธิบายให้เหมยอิ๋งกับคุณป้าได้รู้
“ไม่ใช่นะครับพี่ชิงฮวาไม่เคยไปขโมยของใคร ทำไมพี่เหมยอิ๋งกับคุณป้าต้องมาหาเรื่องพวกเราด้วย”
“นั่นสิพี่ชิงฮวาหาเงินมาด้วยตัวเองไม่มีความคิดสกปรกไปขโมยของคนอื่นเหมือนคุณป้ากับพี่เหมยอิ๋งหรอกค่ะ”
“นี่นังชิงหนี่ว์นางเด็กแก่แดดปากดีนักนะอย่างนี้ต้องสั่งสอน” ซิ่นเจี่ยวรู้สึกโมโหเมื่อถูกเด็กต่อว่า จึงจะเข้ามาดึงแขนของชิงหนี่ว์ไปตีเพื่อสั่งสอนแต่ทว่าหลิวหลิวไม่ยอมให้ป้ามาทำร้ายน้อง ๆ ของเธอได้อีก เธอรีบคว้าตัวของน้อง ๆ ไปยืนอยู่ด้านหลังและตวาดใส่ผู้เป็นป้า
“ลองสิคะ ถ้าป้าคิดจะทำร้ายน้องของฉันอีกฉันจะไม่ยอมทนเรื่องบ้านและสมบัติฉันก็ยอมป้าไปแล้วแต่ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมเด็ดขาดเพราะเงินที่หามาได้ทุกอย่างที่อยู่ในร้านนี้เป็นเงินของฉัน ลองแตะต้องน้องของฉันแม้แต่ปลายเล็บรับรองน้ำซุปที่ฉันถืออยู่คงได้ราดตัวป้ากับเหมยอิ๋งแน่ ออกไปจากร้านของฉันก่อนที่ฉันจะสาดน้ำหมาล่าใส่ ฉันไม่รับประกันนะคะว่าถ้าถูกน้ำซุปราดตัวจะแสบร้อนแค่ไหน อ้อ..คงไม่แสบร้อนหรอกฉันลืมไปว่าป้ากับเหมยอิ๋งหน้าด้านขนาดไหน” ดวงตาจ้องเขม็งน้ำเสียงเย็นยะเยือกของหลิวหลิวทำให้สองแม่ลูกเริ่มถอยหลังหนี มือของหลิวหลิวถือหม้อน้ำซุปยกขึ้นสูงคล้ายจะทำอย่างที่เธอพูดจริงๆ เหมยอิ๋งรีบจับมือของแม่ให้ออกไปนอกร้าน
“คุณแม่ฉันว่านังชิงฮวามันต้องทำจริง ๆ แน่ ๆ ครั้งนี้เรายอมถอยดีกว่าค่ะเอาไว้คิดแผนการเอาคืนมันทีหลัง” เหมยอิ๋งกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ซิ่นเจี่ยวพยักหน้าเพราะเธอไม่อยากจะเปียกโชกกลิ่นกายเหม็นหึ่งจากน้ำซุปของชิงฮวา
“เฮอะ!ก็ได้ครั้งนี้ที่ฉันยอมให้ไม่ใช่เพราะฉันกลัวหรอกนะ แต่แกอย่าคิดว่าจะหนีจากฉันได้เงินของเธอที่เธอขโมยมาฉันจะเอาคืนทุกหยวน”
“หนูไป๋ชิงฮวาไม่ได้ไปขโมยเงินของเธอมาหรอกนะ เงินที่เธอใช้เช่าร้านและเปิดร้านเป็นเงินของฉันเอง” ครั้นนั้นเสียงของป้ามิ่งจูได้ดังขึ้น เธอผ่านมาแถวนี้พอดีได้ยินเสียงคนทะเลาะกันจึงรีบเข้ามาดูเห็นว่าซิ่นเจี่ยวมาหาเรื่องไป๋ชิงฮวาเธอไม่สามารถอยู่นิ่งได้จึงออกหน้าปกป้องชิงฮวาทันที
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอไม่ต้องมายุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่น”
“ฉันเองก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ! แต่เธอมันก็เหลือเกินไล่เจ้าของบ้านออกจากบ้านยึดสมบัติไปจนหมดแล้วยังมาตามรังควานไม่จบไม่สิ้น เรื่องนี้ฉันไม่สามารถทนได้หรอกนะ คนที่เธอว่าขโมยเงินนะไม่ใช่ชิงฮวาเสียหน่อยแต่เป็นเธอกับลูกที่ไม่เอาไหนของเธอมากกว่าที่มาขโมยทั้งบ้านและสมบัติของเด็กทั้งสามนี้ช่างไร้ยางอายจริง ๆ ”
“คุณป้ามิ่งจู่ไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียงกับคนแบบนี้หรอกค่ะ อย่างไรก็ไม่เข้าใจอยู่ดีเพราะสมองมืดบอด”
“นี่พวกแก!! ฉันฝากเอาไว้ก่อนแล้วฉันจะกลับมาเอาคืน ฮึ่ย!!.” ซิ่นเจี่ยวกัดฟันพูดออกไปอย่างเจ็บใจทั้งขายหน้ารีบเดินออกจากร้านของไป๋ชิงฮวาทันที
“ขอบคุณนะคะที่ป้ามาช่วยเอาไว้”
“ไม่เป็นไรคนอย่างนี้ต้องถูกว่าบ้าง เด็ก ๆ คงจะตกใจน่าดูดูสิหน้าซีดเซียวไปหมด” หลิวหลิวหันกลับไปมองวางหม้อซุปลงก่อนจะดึงกายน้องทั้งสองมากอดเอาไว้แน่น
“ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัวพี่จะปกป้องทั้งสองเอง”
“พวกเราไม่กลัวแต่สิ่งที่เรากลัวคือพี่ถูกทำร้ายมากกว่าเมื่อครู่สายตาของป้าช่างโหดร้าย ป้าต้องมาเอาคืนแน่ ๆ”
“ไม่ต้องกลัวไปนะพี่จะไม่ยอมให้ป้ามาทำอะไรเราง่าย ๆ หรอกนะ” หลิวหลิวลูบหลังน้องเบา ๆ อย่างปลอบโยน
หลังจากที่ทั้งสองหยุดตัวสั่นเทาเธอก็ให้ป้ามิ่งจูนั่งที่เก้าอี้ส่วนเธอเอาของเข้าไปเก็บในครัวเดินออกมาพร้อมน้ำดื่ม
“ฉันคิดว่าซิ่นเจี่ยวคงไม่จบแค่นี้แน่นอน เธอจะรับมือย่างไรหรือ”
“ฉันเองก็คิดไม่ตกเหมือนกันคิดว่าออกจากที่นั่นแล้วป้าจะพึงพอใจและไม่ตามราวีอีก ทำไมถึงได้โลภมากขนาดนี้แต่ฉันไม่กลัวหรอกนะคะ ถ้าป้ามาอีกครั้งนี้ฉันจะสู้สุดใจเหมือนกัน”
“ป้าล่ะเป็นห่วงจริง ๆ” ทั้งสองนั่งคุยกันพักใหญ่ไม่นานลูกค้าก็ได้เข้ามาที่ร้านหลิวหลิวจึงไปขายของต่อส่วนป้ามิ่งจูได้เดินทางกลับร้านของตัวเอง
ฝั่งด้านซิ่นเจี่ยวเธอกลับมาถึงบ้านด้วยความโมโหที่ไม่สามารถทำอะไรชิงฮวาได้จึงเก็บมาคิดแค้น
“ฉันจะไม่ยอมให้มันได้ดีหรอก น่าโมโหจริงๆ”
“นั่นสิคะคุณแม่ เรื่องนี้คุณแม่อย่าไปยอมนะคะถ้าไม่มีคุณแม่มันคงไม่มีวันนี้ เพราะคุณแม่เอ็นดูเลี้ยงมาตั้งแต่คุณอาเสีย ในเมื่อมันไม่ได้มาขโมยเงินของเราไปแต่อย่างไรคุณแม่ต้องไปทวงเอาค่าเลี้ยงดูมันนะคะ ยิ่งตอนนี้ร้านของมันกำลังโด่งดังขายดี เงินของมันคงมีไม่น้อยถ้าได้เงินของมันมาเพิ่มต่อจากนี้เราไม่ต้องทำงานก็อยู่ได้ จริงสิคุณแม่วันนี้ฉันกับเพื่อนไปเดินเล่นที่ห้างมามีชุดออกมาพร้อมกระเป๋าเป็นเซ็ทคู่ คุณแม่ต้องไปเอามาจากนางชิงฮวาให้ได้นะคะฉันอยากได้ชุดใหม่”
“นี่แกอยากได้อะไรนักหนาเสื้อผ้าที่แกมีกระเป๋าที่แกถือพึ่งจะให้เงินไปซื้อไม่ใช่หรือไงกัน”
“โธ่คุณแม่แต่รอบนี้เป็นเสื้อผ้าที่คนในเมืองกำลังเป็นที่นิยมกันนะคะ ไม่รู้ล่ะฉันต้องได้พรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อคุณแม่เตรียมเงินไว้ให้ด้วย” พูดจบเหมยอิ๋งเดินขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเองส่วนซิ่นเจี่ยวก็คิดไม่ตกจะทำอย่างไรเพื่อที่จะรีดไถเงินจากชิงฮวามาเป็นของเธอให้ได้
บทที่ 10 คิดมากดวงตะวันเปลี่ยนผลันเป็นดวงจันทร์ที่ขึ้นแทนที่ตอนนี้ร้านหมาล่าสกุลไป๋ได้ปิดร้านเมื่อของที่เธอเตรียมเอาไว้ได้หมดก่อนเวลา หลิวหลิวเฝ้าแต่คิดเรื่องที่ซิ่นเจี่ยวกับเหมยอิ๋งที่เข้ามาวุ่นวายที่ร้านเหมือนทั้งสองไม่รู้จักพอ หลิวหลิวเริ่มเป็นกังวลเกรงว่าทั้งสองต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ“พี่ชิงฮวาคิดอะไรอยู่หรือคะทำไมสีหน้าพี่ดูไม่ดีเลย”“นั่นสิครับหรือว่าพี่ชิงฮวาจะคิดมากเรื่องคุณป้าที่เข้ามาวุ่นวายกับเราวันนี้” เด็กทั้งสองเห็นพี่สาวนั่งนิ่งเหม่อลอยแถมยังถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า น่าจะดีใจที่ขายของได้ดีขนาดหากมีเรื่องให้เคลียดคงมีเรื่องเดียวคือเรื่องที่ป้าเข้ามาหาเรื่องวันนี้ เด็ก ๆ เห็นพี่ไม่สบายจึงพากันเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง“พี่มีเรื่องเป็นห่วงนิดหน่อยกลัวว่าป้าซิ่นเจี่ยวจะไม่ยอมเลิกลามาวุ่นวายกับเราอีกนะสิ ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์คงกลัวมากเลยสินะมานี่หน่อยสิ” หลิวหลิวอ้าแขนให้น้องเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโอบกอดทั้งสองคนแนบแน่น“พี่ชิงฮวาพวกเราไม่กลัวเลยครับ ถ้าครั้งหน้าป้ามาอีกผมจะปกป้องพี่กับชิงหนี่ว์เอง”“หนูก็ไม่กลัวเหมือนกันค่ะ ถ้าป้ามาอีกหนูจะเอาไม้ไล่ไปไกล ๆ เลยพี่ไม่ต้อง
บทที่ 1 น่าเหลือเชื่อในคืนที่ฟ้าเต็มไปด้วยแสงดาวระยิบระยับบ้านเช่าหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง มีหญิงสาวอายุ 26 ปีพักอาศัยอยู่เพียงลำพังกำลังนั่งดูซีรี่ย์นักแสดงคนโปรดที่เธอตั้งหน้าตั้งตารอหลังจากเลิกงานและพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์เธอจึงเตรียมขนมเครื่องดื่มเพื่อจะดื่มด่ำในคืนวันศุกร์อย่างมีความสุขจนซีรี่ย์เล่นมาถึงจุดที่นางเอกกับน้อง ๆ ของเธอถูกพี่สาวพ่อหรือว่าป้ากำลังทำร้ายร่างกายมิหนำซ้ำยังถูกลูก ๆ ของป้าใช้งานยิ่งกว่าสาวใช้ด้วยซ้ำ“ฮึ! ทำไมต้องทนแบบนั้นฉันไม่เข้าใจไป๋ชิงฮวาเลยสักนิด ลองเป็นฉันดูสิฉันจะสู้สุดใจให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย สมบัติก็ของครอบครัวนางเอกเป็นคนสร้างมาแท้ ๆ ป้านี่ก็เลวจริง ๆ อยากได้ของหลานจนไม่มีสามัญสำนึกชั่วดีแม้แต่น้อย ชิ!! ดูแล้วอยากจะทะลุเข้าไปในทีวีเพื่อจัดการป้าชั่วแบบนี้จริง ๆ” หลิวหลิวกินขนมไปพร้อมกับบ่นเรื่องที่นางเอกกำลังพบเจอจนทำให้ขนมติดคอจนสำลักแค่ก ๆๆ!! เธอรีบลุกขึ้นวิ่งไปเอาน้ำที่ตู้เย็นจังหวะนั้นนั่นเองเท้าของเธอได้ไปสะดุดสายไฟทำให้เกิดกระแสไฟปะทุออกมาจากจอทีวี สายตาของเธอจับจ้องไปหน้าจอทีวีอย่างตื่นตระหนกอีกทั้งยังทรมานกับขนมติดคอเริ่มทำ
บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัยหลิวหลิวเดินออกจากห้อง ชิงเทียนน้องชายเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ตามมาทีหลังรีบดึงมือเธอเอาไว้ก่อน“พี่ชิงฮวา พี่พึ่งหายจากการเป็นไข้อย่าหาเรื่องให้คุณป้าทำร้ายพี่อีกเลย แค่ได้กินก้อนแป้งพวกเราก็อิ่มมากแล้วไม่อยากให้พี่ต้องมานอนไม่ได้สติแบบนี้อีก” หลิวหลิวหันกลับมามองมือเล็กที่สั่นเทาจับเธอเอาไว้แน่นสายสัมพันธ์ความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่ทำให้หลิวหลิวเจ็บจี้ดที่ใจ ยกมือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างเอ็นดู“ชิงเทียนพี่จะไม่ยอมทนคุณป้าอีกต่อไป บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อเป็นบ้านของเรา พี่จะไม่ทนให้ป้าใช้งานเราและโขกสับเราอีกต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราได้อีก”"จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ หรือครับ ""ได้สิ มาเถอะไปที่ห้องครัวกัน "หลิวหลิวเห็นร่างกายของเด็กทั้งสองที่ผอมแทบเหลือแต่กระดูกคงไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยสินะ เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นแค่ดูในทีวีเธอแทบอยากจะเข้ามาจัดการผู้เป็นป้า ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วเธอจะไม่ให้พวกนั้นมาทำอะไรเธอกับน้อง ๆ ได้อีกสกุลไป๋เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีลูกสามคนด้วยกัน คือไป๋ชิงฮวา ไป๋ชิงเทียนและไป๋ชิงหนี่
บทที่ 3 โดนไล่ออกจากบ้านมับ!!หลิวหลิวคิดเอาไว้แล้วว่าซิ่นเจี่ยวต้องลงไม้ลงมือทำร้ายเธอแน่ ๆ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นได้อีก เธอยกมือของเธอจับมือของป้าเอาไว้ทันก่อนที่มันจะฟาดลงที่ใบหน้าของเธอ หลิวหลิวใช้แรงทั้งหมดที่มือบีบที่ข้อมือของป้าอย่างเต็มแรง“คิดว่าฉันจะยอมให้ป้าลงไม้ลงมือกับฉันตามอำเภอใจได้อีกอย่างนั้นเหรอฝันไปเถอะ ตอนนี้ชิงฮวาคนเก่าไม่มีอีกแล้วคนที่อ่อนแอให้ป้าคอยรังแกข่มเหง ต่อจากนี้จะมีเพียงไป๋ชิงฮวาคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายร่างกายได้อีก” เธอดันแขนของผู้เป็นป้าออกจากมือแต่ทว่าแรงของเธอที่บีบข้อมือของซิ่นเจี่ยวแน่นทำให้เธอถลาล้มลงกับพื้น จัวหวะนั้นเองที่ต้าหลงกับเหมยอิ๋งกลับมาจากด้านนอกได้เห็นพอดี“โอ๊ย! นี่แก แกมันบ้าไปแล้วตื่นจากเจ็บไข้มาเปลี่ยนไปคนละคนอย่างนี้หรือว่าผีร้ายจะเข้าแกไม่ได้การล่ะฉันจะต้องจัดการไล่ผีชั่ว ๆ ตัวนี้ออกไป”“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นคะ นี่ไป๋ชิงฮวาเธอกล้าลงไม้ลงมือกับแม่ฉันเหรอ” เหมยอิ๋งรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาพยุงกายของซิ่นเจี่ยวให้ลุกขึ้น“ใช่นี่เธอกล้ามากนะที่ทำร้ายแม่ของฉัน ฉันเห็นว่าเธอมีสายเลือดเดียวกันกับฉันหรอกนะฉันถึงปล่อยเธออยู่ม
บทที่ 4 ป้าใจดีทั้งสามจึงพากันเดินไปนั่งที่นั่นก่อน หลิวหลิวเริ่มครุ่นคิดคืนนี้เธอจะพาน้องของเธอไปนอนที่ไหนกันดี เธอถูกขับไล่ออกแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่ให้เธอติดตัวมาเงินสักหยวนก็ไม่มี เธอเริ่มเป็นกังวลคิดไม่ตกจนกระทั่งเจ้าของร้านค้าออกมาจากร้านเพื่อเอาขยะมาทิ้งเห็นเด็กทั้งสามที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ นั่งอยู่หน้าร้านด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แม้เขาจะรู้ว่าตั้งแต่พ่อกับแม่ของพวกเธอจากไปถูกป้ารังแกแต่ไม่เคยเห็นทั้งสามพี่น้องมานั่งที่นี่ในยามกลางคืนสักครั้ง“ชิงฮวาเธอพาน้อง ๆ มานั่งทำอะไรที่นี่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วพาน้อง ๆ เข้าบ้านเถอะ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นเธอพอได้เห็นในซีรี่ย์แม้ว่าหญิงคนนี้จะโผล่มาเพียงไม่กี่ฉากแต่เธอก็จำได้ดี“ป้ามิ่งจูฉันกับน้องขอนั่งอยู่ที่นี่สักครู่เถอะนะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อยค่ะ”“มีเรื่องอะไรอีกหรือว่าเธอทะเลาะกับซิ่งเจี่ยวอีกแล้ว โธ่ ๆ น่าสงสารจริง ๆ ทำไมป้าของเธอต้องใจร้ายกับเธอด้วย”“เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะป้าอยากได้สมบัติของคุณพ่อคุณแม่มั่งคะตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป ฉันกับน้อง ๆ ถูกขับไล่ออกจากบ้านเพราะฉันทนไม่ไหวต่อปากต่อคำกับป้า ทำให้เธอ
บทที่ 5 ทำน้ำซุปฝั่งด้านซิ่นเจี่ยวหลังจากที่ขับไล่ชิงฮวากับน้องของเธอออกไปจากบ้านได้ ซิ่นเจี่ยวมีความสุขที่ไม่ต้องทนเห็นใบหน้าของหลานอีก ต่อจากนี้บ้านหลังนี้เงินทองมากมายของน้องชายจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว“คุณแม่คะวันนี้ฉันจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนขอเงินหน่อยสิยิ่งตอนนี้มีกระเป๋าเข้ามาใหม่ ฉันไม่อยากจะตกยุคให้เพื่อนคนอื่นดูถูกต่อว่า” ซิ่นเจี่ยวดื่มน้ำชาอยู่ในห้องโถงของบ้านกำลังครุ่นคิดว่าวันนี้เธอจะไปเข้าบ่อนเพื่อเอาคืนที่เสียไปเมื่อวานครันนั้นเหมยอิ๋งได้เดินออกมาจากห้องแต่งกายสีฉูดฉาดแต่งแต้มใบหน้าเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกเอ่ยขอเงินผู้เป็นแม่“เหมยอิ๋งแกเองก็ต้องรู้จักประหยัดช่วยกันสิ เราไม่ได้ทำงานต่อให้เงินที่มีอยู่ตอนนี้มากแค่ไหนใช้ฟุ่มเฟือยสักวันมันต้องหมดแล้วกระเป๋าแกพึ่งไปซื้อมาใหม่ไม่กี่วันก่อนไม่ใช่หรือไงกัน”“เฮอะ! แล้วทีคุณแม่ล่ะคะออกไปบ่อนทุกวันเสียทุกวันฉันยังไม่เคยว่าอะไรเลย ฉันซื้อของได้ของแต่คุณแม่เสียเงินแถมยังไม่ได้อะไรอีกด้วย”“เจ้าลูกคนนี้ยอกย้อนจริง ๆ เอานี่เอาไปจะได้ไม่ต้องมาบ่นให้อารมณ์เสีย” ซิ่นเจี่ยวแม้ปากจะบ่นแต่ก็หยิบกระเป๋าล้วงนำเงินออกมาให้แก่เหมยอิ๋งไป
บทที่ 6 แจกฟรีรุ่งเช้าวันต่อมาเด็ก ๆ ลงมาจากห้องนอนต้องพากันตกตะลึงเพราะเมื่อวานบ้านหลังนี้ด้านล่างยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแต่ทว่าตอนนี้ถูกจัดเป็นร้านอาหารมีของมากมาย“โอ้โห่ชิงเทียนนี่คือบ้านที่เราเข้ามาเมื่อวานจริง ๆ หรือของพวกนี้มาจากไหนกัน… ก่อนที่เราจะไปนอนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ”“นั่นสิคงเป็นฝีมือของพี่ชิงฮวาเราไปดูที่ครัวกันเถอะพี่น่าจะอยู่ที่นั่น” เด็กทั้งสองรีบเดินไปที่ครัวอย่างตื่นเต้นและสงสัยว่าพี่จะทำอะไรหลิวหลิวอยู่ในครัวจัดการอุ่นซุปวันนี้เธอตั้งใจจะแจกให้กินฟรี เพราะเธอยังไม่รู้ว่าคนในยุคนี้จะรู้จักและกินอาหารแบบนี้มั้ย ครั้นนั้นเสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาในครัวเธอวางของหันกลับไปมอง"ตื่นกันแล้วเหรอมานี่สิพี่จะเอาอะไรให้กิน ""อะไรหรือคะ? ว่าแต่ในบ้านของเรามีโต๊ะเต็มไปหมดพี่ชิงฮวาจะทำอะไรเหรอคะ ""สิ่งที่เราทั้งสองเห็นคือธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะขายซุปหมาล่าเลี้ยงดูทั้งสองคน ถ้าขายได้ดีพี่จะส่งเราทั้งคู่เข้าเรียนหนังสือ เอาล่ะมากินซาลาเปาเพื่อลองท้องก่อนพี่จะให้ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ไปป่าวประกาศให้คนที่ผ่านมาละแวกนี้ได้เข้ามาชิมเพื่อเป็นการโปรโมทและดึงดูดลูกค้า ""โปรโมทดึงด
บทที่ 7 ฉันจะไปดูงานเองแม่ของซุนเย่ถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย เธออยากให้เขามีครอบครัวมีภรรยาคอยดูแล ตอนนี้ทุกอย่างก็มีพร้อมแล้วเธอเองก็แก่มากขึ้นทุกวันหากมีหลานตัวน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะตายคงจะดี“คุณป้าคะดูท่าวันนี้พี่ซุนเย่จะอารมณ์ไม่ดีเอาไว้วันหน้าฉันจะมาหาใหม่แล้วกันค่ะ”“หนูหวางลี่อิงป้าต้องขอโทษด้วยนะที่ซุนเย่เสียมารยาทกับหนู”“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าไม่ต้องคิดมากพี่เขาคงเหนื่อยมาจากงาน ฉันขอตัวนะคะ” หวางลี่อินลูกสาวคนรองของท่านนายพลเธอเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ชายที่เธอปักใจคือซุนเย่ทั้งฐานะครอบครัว และชื่อเสียงหากทั้งสองตระกูลได้เป็นครอบครัวเดียวกัน อำนาจอิทธิพลจะยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลนี้ เขาทั้งรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายไม่ว่าจะมองตรงใดก็ไม่มีที่ติแม้แต่น้อย ทำให้สาว ๆ ในมณฑลนี้ต่างพากันหลงใหลเข้าหาเขาจนเขาเกิดความรำคาญ แต่หวางลี่อิงไม่ได้ใส่ใจและยอมแพ้อย่างไรก็ตามเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเว่ยให้ได้ฝั่งด้านซุนเย่เขาเข้ามาในห้องกำลังจะถอดเสื้อเนคไทด์ออกจากเสื้อสูทด้วยความอึกอันครั้นนั้นเสียงประตูได้ดังขึ้นก๊อก ๆ“คุณชายผมขอเข้าไปด้านในนะครับมีเรื่องมารายงาน” เสียงของลูกน้องค
บทที่ 10 คิดมากดวงตะวันเปลี่ยนผลันเป็นดวงจันทร์ที่ขึ้นแทนที่ตอนนี้ร้านหมาล่าสกุลไป๋ได้ปิดร้านเมื่อของที่เธอเตรียมเอาไว้ได้หมดก่อนเวลา หลิวหลิวเฝ้าแต่คิดเรื่องที่ซิ่นเจี่ยวกับเหมยอิ๋งที่เข้ามาวุ่นวายที่ร้านเหมือนทั้งสองไม่รู้จักพอ หลิวหลิวเริ่มเป็นกังวลเกรงว่าทั้งสองต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ“พี่ชิงฮวาคิดอะไรอยู่หรือคะทำไมสีหน้าพี่ดูไม่ดีเลย”“นั่นสิครับหรือว่าพี่ชิงฮวาจะคิดมากเรื่องคุณป้าที่เข้ามาวุ่นวายกับเราวันนี้” เด็กทั้งสองเห็นพี่สาวนั่งนิ่งเหม่อลอยแถมยังถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า น่าจะดีใจที่ขายของได้ดีขนาดหากมีเรื่องให้เคลียดคงมีเรื่องเดียวคือเรื่องที่ป้าเข้ามาหาเรื่องวันนี้ เด็ก ๆ เห็นพี่ไม่สบายจึงพากันเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง“พี่มีเรื่องเป็นห่วงนิดหน่อยกลัวว่าป้าซิ่นเจี่ยวจะไม่ยอมเลิกลามาวุ่นวายกับเราอีกนะสิ ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์คงกลัวมากเลยสินะมานี่หน่อยสิ” หลิวหลิวอ้าแขนให้น้องเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโอบกอดทั้งสองคนแนบแน่น“พี่ชิงฮวาพวกเราไม่กลัวเลยครับ ถ้าครั้งหน้าป้ามาอีกผมจะปกป้องพี่กับชิงหนี่ว์เอง”“หนูก็ไม่กลัวเหมือนกันค่ะ ถ้าป้ามาอีกหนูจะเอาไม้ไล่ไปไกล ๆ เลยพี่ไม่ต้อง
บทที่ 9 หาเรื่องฝั่งด้านหลิวหลิวหลังจากที่ลูกค้าชุดแรกออกไปจากร้านจนหมดทุกโต๊ะเธอจึงเก็บถ้วยชามจะนำไปล้างโดยให้น้องทั้งสองเฝ้าอยู่หน้าร้านหากมีลูกค้ามาให้ไปเรียกเธอที่ครัว แต่ทว่าเมื่อเธอกำลังเดินเข้าไปหลังร้านได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา หลิวหลิวคิดว่าลูกค้าจึงหันกลับมายิ้มกว้างกล่าวตอนรับทันที“ร้านหมาล่าสกุลไป๋ยินดีต้อนรับค่ะ ชะ..” หลิวหลิวพูดไม่ทันจบรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกลับหลายเป็นบูดบึ้งทันทีเพราะคนที่เข้ามาในร้านตอนนี้เป็นคนที่เธอไม่อยากพบเจอหน้าแม้แต่น้อย คงได้ยินเรื่องร้านของเธอแล้วสินะถึงได้พากันมาที่นี่“แหม ๆ ฉันก็คิดว่าหลานของฉันจะไปอยู่ที่ไหนที่แท้ก็มาเปิดร้านขายของอะไรเนี้ยะ! ฉันไม่เห็นจะรู้จัก”“คุณป้ามาทำอะไรที่นี่หากจะมาหาเรื่องเชิญกลับไปด้วยค่ะอย่ามาทำให้ร้านของฉันเสียหายและรบกวนเวลาลูกค้าคนอื่น”“นี่แกจะมากไปแล้วนะ มีเงินเปิดร้านเลยปีกกล้าขาแข็งขับไล่ฉันกับคุณแม่สินะ เงินที่เธอนำมาเปิดร้านคงเป็นเงินที่เธอขโมยมาจากบ้านของฉันล่ะสิไม่ว่า” ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามายืนตรงหน้าพี่สาวพร้อมอธิบายให้เหมยอิ๋งกับคุณป้าได้รู้“ไม่ใช่นะครับพี่ชิงฮวาไม่เคยไปขโมยของ
บทที่ 8 เป็นไปได้อย่างไรกัน!!เมื่อถึงเวลาเปิดร้านชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ทำหน้าที่เรียกขานเชิญชวนทุกคนที่ผ่านมา อีกทั้งมีโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ราคาเพียง 30 หยวนเท่านั้น ในยุคที่เงินเดือนเดือนละ2000 หยวนต่อเดือน หลิวหลิวจึงคิดว่าราคานี้ไม่ได้แพงเท่าไหร่นักพอที่คนจะเจียดเงินมาซื้อซุปหมาล่าของเธอได้คนที่เคยชิมเมื่อวานรู้รสชาติได้กลับมาอุดหนุนหมาล่าเพราะอยากกินเยอะกว่าที่แจกฟรี“เชิญด้านในเลยค่ะ”“เมื่อวานฉันได้ชิมที่เจ้าของร้านแจกฟรีทำให้ติดใจและยังไม่อิ่มวันนี้เลยชวนสามีมากินด้วยกัน”“ได้เลยค่ะร้านหมาล่าของเราขายเป็นชุด ชุดหนึ่งสามารถกินได้สองถึงสามคนเชิญลูกค้านั่งด้านนี้เลยค่ะ ฉันจะรีบเข้าไปเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้นะคะ” หลิวหลิวผายมือให้ลูกค้าที่มากันสองคนไปนั่งเก้าอี้ก่อนที่เธอจะเข้าไปจัดเตรียมหม้อน้ำซุปมาให้ลูกค้าและเครื่องเคียงที่จัดเตรียมเป็นชุดเอาไว้ ไม่นานลูกค้าเข้ามานั่งที่โต๊ะจนเต็มทุกตัว หลิวหลิวมีความสุขมากที่หมาล่าของเธอขายได้และได้รับคำชมเมื่อลูกค้ากินอิ่มต่างชมว่าอร่อยและจะไปบอกต่อให้วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วของที่หลิวหลิวเตรียมเอาไว้ 10 ชุดได้หมดลงทำให้เธอปิดร้านตั้งแต่ยัง
บทที่ 7 ฉันจะไปดูงานเองแม่ของซุนเย่ถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย เธออยากให้เขามีครอบครัวมีภรรยาคอยดูแล ตอนนี้ทุกอย่างก็มีพร้อมแล้วเธอเองก็แก่มากขึ้นทุกวันหากมีหลานตัวน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะตายคงจะดี“คุณป้าคะดูท่าวันนี้พี่ซุนเย่จะอารมณ์ไม่ดีเอาไว้วันหน้าฉันจะมาหาใหม่แล้วกันค่ะ”“หนูหวางลี่อิงป้าต้องขอโทษด้วยนะที่ซุนเย่เสียมารยาทกับหนู”“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าไม่ต้องคิดมากพี่เขาคงเหนื่อยมาจากงาน ฉันขอตัวนะคะ” หวางลี่อินลูกสาวคนรองของท่านนายพลเธอเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ชายที่เธอปักใจคือซุนเย่ทั้งฐานะครอบครัว และชื่อเสียงหากทั้งสองตระกูลได้เป็นครอบครัวเดียวกัน อำนาจอิทธิพลจะยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลนี้ เขาทั้งรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายไม่ว่าจะมองตรงใดก็ไม่มีที่ติแม้แต่น้อย ทำให้สาว ๆ ในมณฑลนี้ต่างพากันหลงใหลเข้าหาเขาจนเขาเกิดความรำคาญ แต่หวางลี่อิงไม่ได้ใส่ใจและยอมแพ้อย่างไรก็ตามเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเว่ยให้ได้ฝั่งด้านซุนเย่เขาเข้ามาในห้องกำลังจะถอดเสื้อเนคไทด์ออกจากเสื้อสูทด้วยความอึกอันครั้นนั้นเสียงประตูได้ดังขึ้นก๊อก ๆ“คุณชายผมขอเข้าไปด้านในนะครับมีเรื่องมารายงาน” เสียงของลูกน้องค
บทที่ 6 แจกฟรีรุ่งเช้าวันต่อมาเด็ก ๆ ลงมาจากห้องนอนต้องพากันตกตะลึงเพราะเมื่อวานบ้านหลังนี้ด้านล่างยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแต่ทว่าตอนนี้ถูกจัดเป็นร้านอาหารมีของมากมาย“โอ้โห่ชิงเทียนนี่คือบ้านที่เราเข้ามาเมื่อวานจริง ๆ หรือของพวกนี้มาจากไหนกัน… ก่อนที่เราจะไปนอนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ”“นั่นสิคงเป็นฝีมือของพี่ชิงฮวาเราไปดูที่ครัวกันเถอะพี่น่าจะอยู่ที่นั่น” เด็กทั้งสองรีบเดินไปที่ครัวอย่างตื่นเต้นและสงสัยว่าพี่จะทำอะไรหลิวหลิวอยู่ในครัวจัดการอุ่นซุปวันนี้เธอตั้งใจจะแจกให้กินฟรี เพราะเธอยังไม่รู้ว่าคนในยุคนี้จะรู้จักและกินอาหารแบบนี้มั้ย ครั้นนั้นเสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาในครัวเธอวางของหันกลับไปมอง"ตื่นกันแล้วเหรอมานี่สิพี่จะเอาอะไรให้กิน ""อะไรหรือคะ? ว่าแต่ในบ้านของเรามีโต๊ะเต็มไปหมดพี่ชิงฮวาจะทำอะไรเหรอคะ ""สิ่งที่เราทั้งสองเห็นคือธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะขายซุปหมาล่าเลี้ยงดูทั้งสองคน ถ้าขายได้ดีพี่จะส่งเราทั้งคู่เข้าเรียนหนังสือ เอาล่ะมากินซาลาเปาเพื่อลองท้องก่อนพี่จะให้ชิงเทียนกับชิงหนี่ว์ไปป่าวประกาศให้คนที่ผ่านมาละแวกนี้ได้เข้ามาชิมเพื่อเป็นการโปรโมทและดึงดูดลูกค้า ""โปรโมทดึงด
บทที่ 5 ทำน้ำซุปฝั่งด้านซิ่นเจี่ยวหลังจากที่ขับไล่ชิงฮวากับน้องของเธอออกไปจากบ้านได้ ซิ่นเจี่ยวมีความสุขที่ไม่ต้องทนเห็นใบหน้าของหลานอีก ต่อจากนี้บ้านหลังนี้เงินทองมากมายของน้องชายจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว“คุณแม่คะวันนี้ฉันจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนขอเงินหน่อยสิยิ่งตอนนี้มีกระเป๋าเข้ามาใหม่ ฉันไม่อยากจะตกยุคให้เพื่อนคนอื่นดูถูกต่อว่า” ซิ่นเจี่ยวดื่มน้ำชาอยู่ในห้องโถงของบ้านกำลังครุ่นคิดว่าวันนี้เธอจะไปเข้าบ่อนเพื่อเอาคืนที่เสียไปเมื่อวานครันนั้นเหมยอิ๋งได้เดินออกมาจากห้องแต่งกายสีฉูดฉาดแต่งแต้มใบหน้าเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกเอ่ยขอเงินผู้เป็นแม่“เหมยอิ๋งแกเองก็ต้องรู้จักประหยัดช่วยกันสิ เราไม่ได้ทำงานต่อให้เงินที่มีอยู่ตอนนี้มากแค่ไหนใช้ฟุ่มเฟือยสักวันมันต้องหมดแล้วกระเป๋าแกพึ่งไปซื้อมาใหม่ไม่กี่วันก่อนไม่ใช่หรือไงกัน”“เฮอะ! แล้วทีคุณแม่ล่ะคะออกไปบ่อนทุกวันเสียทุกวันฉันยังไม่เคยว่าอะไรเลย ฉันซื้อของได้ของแต่คุณแม่เสียเงินแถมยังไม่ได้อะไรอีกด้วย”“เจ้าลูกคนนี้ยอกย้อนจริง ๆ เอานี่เอาไปจะได้ไม่ต้องมาบ่นให้อารมณ์เสีย” ซิ่นเจี่ยวแม้ปากจะบ่นแต่ก็หยิบกระเป๋าล้วงนำเงินออกมาให้แก่เหมยอิ๋งไป
บทที่ 4 ป้าใจดีทั้งสามจึงพากันเดินไปนั่งที่นั่นก่อน หลิวหลิวเริ่มครุ่นคิดคืนนี้เธอจะพาน้องของเธอไปนอนที่ไหนกันดี เธอถูกขับไล่ออกแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่ให้เธอติดตัวมาเงินสักหยวนก็ไม่มี เธอเริ่มเป็นกังวลคิดไม่ตกจนกระทั่งเจ้าของร้านค้าออกมาจากร้านเพื่อเอาขยะมาทิ้งเห็นเด็กทั้งสามที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ นั่งอยู่หน้าร้านด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แม้เขาจะรู้ว่าตั้งแต่พ่อกับแม่ของพวกเธอจากไปถูกป้ารังแกแต่ไม่เคยเห็นทั้งสามพี่น้องมานั่งที่นี่ในยามกลางคืนสักครั้ง“ชิงฮวาเธอพาน้อง ๆ มานั่งทำอะไรที่นี่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วพาน้อง ๆ เข้าบ้านเถอะ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นเธอพอได้เห็นในซีรี่ย์แม้ว่าหญิงคนนี้จะโผล่มาเพียงไม่กี่ฉากแต่เธอก็จำได้ดี“ป้ามิ่งจูฉันกับน้องขอนั่งอยู่ที่นี่สักครู่เถอะนะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อยค่ะ”“มีเรื่องอะไรอีกหรือว่าเธอทะเลาะกับซิ่งเจี่ยวอีกแล้ว โธ่ ๆ น่าสงสารจริง ๆ ทำไมป้าของเธอต้องใจร้ายกับเธอด้วย”“เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะป้าอยากได้สมบัติของคุณพ่อคุณแม่มั่งคะตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป ฉันกับน้อง ๆ ถูกขับไล่ออกจากบ้านเพราะฉันทนไม่ไหวต่อปากต่อคำกับป้า ทำให้เธอ
บทที่ 3 โดนไล่ออกจากบ้านมับ!!หลิวหลิวคิดเอาไว้แล้วว่าซิ่นเจี่ยวต้องลงไม้ลงมือทำร้ายเธอแน่ ๆ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นได้อีก เธอยกมือของเธอจับมือของป้าเอาไว้ทันก่อนที่มันจะฟาดลงที่ใบหน้าของเธอ หลิวหลิวใช้แรงทั้งหมดที่มือบีบที่ข้อมือของป้าอย่างเต็มแรง“คิดว่าฉันจะยอมให้ป้าลงไม้ลงมือกับฉันตามอำเภอใจได้อีกอย่างนั้นเหรอฝันไปเถอะ ตอนนี้ชิงฮวาคนเก่าไม่มีอีกแล้วคนที่อ่อนแอให้ป้าคอยรังแกข่มเหง ต่อจากนี้จะมีเพียงไป๋ชิงฮวาคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายร่างกายได้อีก” เธอดันแขนของผู้เป็นป้าออกจากมือแต่ทว่าแรงของเธอที่บีบข้อมือของซิ่นเจี่ยวแน่นทำให้เธอถลาล้มลงกับพื้น จัวหวะนั้นเองที่ต้าหลงกับเหมยอิ๋งกลับมาจากด้านนอกได้เห็นพอดี“โอ๊ย! นี่แก แกมันบ้าไปแล้วตื่นจากเจ็บไข้มาเปลี่ยนไปคนละคนอย่างนี้หรือว่าผีร้ายจะเข้าแกไม่ได้การล่ะฉันจะต้องจัดการไล่ผีชั่ว ๆ ตัวนี้ออกไป”“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นคะ นี่ไป๋ชิงฮวาเธอกล้าลงไม้ลงมือกับแม่ฉันเหรอ” เหมยอิ๋งรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาพยุงกายของซิ่นเจี่ยวให้ลุกขึ้น“ใช่นี่เธอกล้ามากนะที่ทำร้ายแม่ของฉัน ฉันเห็นว่าเธอมีสายเลือดเดียวกันกับฉันหรอกนะฉันถึงปล่อยเธออยู่ม
บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัยหลิวหลิวเดินออกจากห้อง ชิงเทียนน้องชายเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ตามมาทีหลังรีบดึงมือเธอเอาไว้ก่อน“พี่ชิงฮวา พี่พึ่งหายจากการเป็นไข้อย่าหาเรื่องให้คุณป้าทำร้ายพี่อีกเลย แค่ได้กินก้อนแป้งพวกเราก็อิ่มมากแล้วไม่อยากให้พี่ต้องมานอนไม่ได้สติแบบนี้อีก” หลิวหลิวหันกลับมามองมือเล็กที่สั่นเทาจับเธอเอาไว้แน่นสายสัมพันธ์ความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่ทำให้หลิวหลิวเจ็บจี้ดที่ใจ ยกมือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างเอ็นดู“ชิงเทียนพี่จะไม่ยอมทนคุณป้าอีกต่อไป บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อเป็นบ้านของเรา พี่จะไม่ทนให้ป้าใช้งานเราและโขกสับเราอีกต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราได้อีก”"จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ หรือครับ ""ได้สิ มาเถอะไปที่ห้องครัวกัน "หลิวหลิวเห็นร่างกายของเด็กทั้งสองที่ผอมแทบเหลือแต่กระดูกคงไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยสินะ เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นแค่ดูในทีวีเธอแทบอยากจะเข้ามาจัดการผู้เป็นป้า ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วเธอจะไม่ให้พวกนั้นมาทำอะไรเธอกับน้อง ๆ ได้อีกสกุลไป๋เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีลูกสามคนด้วยกัน คือไป๋ชิงฮวา ไป๋ชิงเทียนและไป๋ชิงหนี่