แชร์

ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70
ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70
ผู้แต่ง: BBNanz

บทที่ 1 ก่อนการเปลี่ยนแปลง

ผู้เขียน: BBNanz
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 20:19:00

ณ ฐานทัพเมือง A อันเงียบสงัด ท่ามกลางซากปรักหักพังของอารยธรรมที่ล่มสลาย ทีมของหลินเสี่ยวเหยา เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจสำคัญ พวกเขาคือความหวังในการอยู่รอดของฐานทัพแห่งนี้

หลินเสี่ยวเหยา เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม เธอมีน้องสาวคนสนิท อย่างหลินเสี่ยวถง ที่คอยช่วยเหลือเธอในทุกสถานการณ์ และเจิ้งห้าว แฟนหนุ่มของหลินเสี่ยวเหยา ที่เป็นนักสู้ผู้เก่งกาจและเป็นที่พึ่งพิงของทุกคนในทีม นอกจากนี้ยังมีเพื่อนร่วมทีมอีกห้าคนที่ต่างก็มีความสามารถพิเศษกันทุกคน พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมของฐาน A

"ทุกคนพร้อมไหม?" เจิ้งห้าวที่เป็นหัวหน้าทีมเอ่ยถามสมาชิกร่วมทีมทุกคน ทุกคนพยักหน้ารับพร้อมเพรียง

"ภารกิจในวันนี้สำคัญมาก พวกเราต้องออกไปหาเสบียงอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้ได้มากที่สุด" เจิ้งห้าวกล่าวต่อ "จำไว้ว่าทุกคนต้องระวังตัวให้มาก โลกภายนอกไม่ปลอดภัยอีกต่อไป"

ทีมของเจิ้งห้าวออกเดินทางจากฐานทัพด้วยรถบรรทุกคันใหญ่ พวกเขาต้องเดินทางไกล

ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ถูกทิ้งร้าง หลินเสี่ยวเหยาและทีมรีบเข้าไปสำรวจภายในห้างสรรพสินค้า พวกเขาพบกับอาหารกระป๋อง น้ำดื่ม ยา และของใช้ที่จำเป็นอื่น ๆ อีกมากมาย เธอนำข้าวของที่เน่าเสียได้ง่ายนำมาใส่ไว้ในมิติของเธอ ส่วนที่เหลือทุกคนต่างช่วยกันขนของขึ้นรถบรรทุกอย่างรวดเร็ว

ขณะที่กำลังขนของอยู่นั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงคำรามของซอมบี้ดังมาจากด้านนอก หลินเสี่ยวเหยาและทีมรีบคว้าอาวุธเตรียมพร้อมรับมือ

ซอมบี้จำนวนมากต่างหลั่งไหลกันเข้ามาในห้างสรรพสินค้า หลินเสี่ยวเหยาและทีมต่างต่อสู้กับซอมบี้อย่างดุเดือด พวกเขาใช้ปืน มีด และอาวุธอื่น ๆ ที่มีจัดการกับซอมบี้ที่เข้ามาใกล้

หลินเสี่ยวเหยาเป็นผู้ใช้พลังธาตุมิติ เธอสามารถเปิดมิติเพื่อเก็บเสบียงจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ เธอยังมีทักษะการใช้ดาบที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้กับซอมบี้ ส่วนหลินเสี่ยวถงมีพลังธาตุน้ำและเจิ้งห้าวมีพลังธาตุไฟ พวกเขาต่างเป็นนักสู้ที่มีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดที่แข็งแกร่ง พวกเขาคือกองกำลังสำคัญในการปกป้องทีม

เสียงคำรามกึกก้องราวกับฟ้าถล่ม ด้วยฝีเท้าของซอมบี้กลายพันธุ์ขั้น 4 ตัวใหญ่ ผิวหนังเน่าเฟะสีเขียวคล้ำแตกลายงา มีกรงเล็บยาวแหลมคมราวใบมีดโกน กลิ่นเหม็นสาบของเลือดและเนื้อเน่าโชยมาตามลม ทำเอาทุกคนแทบอาเจียน

"ทุกคนแยกกันวิ่ง! ไปรวมกันที่จุดนัดพบ!" เจิ้งห้าวตะโกนบอกพลางยิงปืนกลใส่เจ้าซอมบี้ยักษ์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

หลินเสี่ยวเหยาหันไปมองน้องสาวและแฟนหนุ่มที่วิ่งนำหน้าไปแล้ว เธอสูดหายใจลึก พยายามรวบรวมสติ ไม่ให้ความกลัวเข้าครอบงำ เธอหยิบดาบคู่ใจออกมาถือไว้แน่น มือไม้สั่นเทาไปหมด แต่ต้องกัดฟันวิ่งต่อไป

"เสี่ยวถง! เจิ้งห้าว! รอฉันด้วย!" เธอตะโกนเรียกทั้งสองคน แต่เสียงของเธอจมหายไปกับเสียงคำรามของซอมบี้ยักษ์

เสียงคำรามของฝูงซอมบี้ยักษ์ดังกึกก้องไปทั่วห้างสรรพสินค้า หลินเสี่ยวเหยาหัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก เธอวิ่งสุดกำลังเพื่อหนีเอาชีวิตรอด ขณะที่ซอมบี้กลายพันธุ์เหวี่ยงแขนไปมาอย่างบ้าคลั่ง ต้นไม้ใหญ่ตามทางเดินหักโค่นล้มระเนระนาด เธอต้องกระโดดหลบหลีกซ้ายขวาอย่างสุดชีวิต

"พี่เสี่ยวเหยา! เร็วเข้า!" เสียงของเสี่ยวถงดังมาจากรถบรรทุกที่จอดอยู่ไม่ไกล หลินเสี่ยวเหยาเร่งฝีเท้าสุดกำลัง หวังเพียงว่าจะไปถึงรถให้ทันก่อนที่ฝูงซอมบี้จะตามมาทัน

แต่แล้ว เสี้ยววินาทีที่เธอกำลังจะกระโดดขึ้นรถบรรทุก เสี่ยวถงและเจิ้งห้าวกลับหันมาผลักเธอออกจากรถอย่างแรง ร่างของหลินเสี่ยวเหยาปลิวไปตามแรงกระแทก ก่อนจะร่วงลงสู่พื้นถนนเบื้องหน้าฝูงซอมบี้ที่กำลังหิวกระหาย

"ทำไม ทำไม..."หลินเสี่ยวเหยาพึมพำกับตัวเอง น้ำตาไหลอาบแก้ม " ทำไมพวกเขาถึงทำกับฉันแบบนี้"

หลินเสี่ยวเหยาไม่เคยคิดเลยว่า น้องสาวที่เธอรักและแฟนหนุ่มที่เธอไว้ใจ จะหักหลังเธอได้อย่างเลือดเย็น พวกเขาทั้งสองผลักเธอออกจากรถบรรทุกที่กำลังแล่นหนีฝูงซอมบี้และทิ้งเธอไว้เบื้องหลังเพื่อเป็นเหยื่อล่อพวกมัน

ความเจ็บปวดจากการถูกผลักและความผิดหวังจากการถูกหักหลัง จากเธอคนรัก ทำให้หลินเสี่ยวเหยาแทบจะหมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้น แต่สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดก็ยังคงอยู่ เธอพยายามคลานหนีจากฝูงซอมบี้ที่กำลังเข้ามาใกล้

"เสี่ยวถง...เจิ้งห้าว..." เธอพึมพำชื่อของคนทั้งสองด้วยความเจ็บปวดและแค้นใจ

"กรรร..." เสียงคำรามน่าขนลุกดังขึ้นใกล้เข้ามาทุกที หลินเสี่ยวเหยาหันไปมอง เห็นซอมบี้หลายสิบตัวกำลังวิ่งตรงมาหาเธอด้วยความหิวกระหาย

“ไม่นะ...ฉันจะไม่ยอมตายง่ายๆ หรอก!” หลินเสี่ยวเหยาพึมพำกับตัวเอง ขณะที่เธอพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

เธอเหลือบมองไปด้านหลัง เห็นเงาดำๆ ของซอมบี้หลายสิบตัวกำลังวิ่งตามเธอมาติดๆ หัวใจของหลินเสี่ยวเหยาเต้นรัวเร็ว เธอรู้ว่าถ้าเธอหยุดวิ่งตอนนี้ เธอจะกลายเป็นอาหารของพวกมันทันที

“ต้องมีทางออกสิ...ต้องมีทางรอด...” หลินเสี่ยวเหยาพยายามคิดหาทางเอาชีวิตรอด ขณะที่เธอมองไปรอบๆ

สายตาของเธอเหลือบไปเห็นร้านหนังสือเก่าๆ ร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมถนน หลินเสี่ยวเหยาไม่รอช้า เธอรีบวิ่งเข้าไปในร้านหนังสือทันที

“แกร๊ก!” เสียงประตูปิดดังขึ้น หลินเสี่ยวเหยาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอหันไปล็อกประตู ก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งกับพื้น

“รอดแล้ว...ฉันรอดแล้ว...” หลินเสี่ยวเหยาพึมพำกับตัวเอง ขณะที่เธอมองไปรอบๆ ร้านหนังสือ

ร้านหนังสือเก่าๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยหนังสือมากมาย ร่างบางไม่เคยคิดเลยว่าร้านหนังสือแห่งนี้จะกลายเป็นที่หลบภัยของเธอในวันนี้

หญิงสาวทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า ร่างบางหอบหายใจอย่างแรงราวกับจะขาดใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ ร้านหนังสือที่เต็มไปด้วยฝุ่นและหนังสือเก่าๆ ที่วางเรียงรายอยู่บนชั้น

หลินเสี่ยวเหยาเป็นผู้มีพลังพิเศษ เธอมีพลังวิเศษสายมิติระดับ 2 ที่เธอเรียกว่า "มิติส่วนตัว" เธอสำรวจกองอาหารที่กักตุนไว้ในมิติของเธอ มันคงจะพอให้เธอประทังชีวิตไปได้อีกหลายเดือน

"ไหนๆ ก็จะตายแล้ว ขอมีความสุขก่อนตายสักหน่อยก็แล้วกัน" หลินเสี่ยวเหยาพึมพำกับตัวเอง แต่ในวินาทีนั้นเอง เธอก็เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนชั้น หนังสือปกแข็งเก่าๆ ที่มีชื่อว่า "ฝากรักไว้กับสายลม" เธอเดินไปหยิบหนังสือเล่มหนาเล่มนั้นมาปัดฝุ่นออก

นิ้วเรียวไล้ไปตามตัวอักษรที่เรียงรายอยู่บนหน้ากระดาษ เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคมืด ค.ศ. 1970 เป็นยุคที่มีความยากลำบาก ความแร้นแค้น และการต่อสู้ดิ้นรนของผู้คนในยุคสมัยนั้น

เป็นเรื่องราวของพระเอกและนางเอกที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งความยากจน การขาดแคลนอาหาร และการปฏิวัติที่รุนแรง แต่พวกเขาก็ยังคงรักและเชื่อมั่นในกันและกัน พวกเขาต่อสู้เพื่อความรักและความฝันของพวกเขา จนสามารถล้มล้างอำนาจของตระกูลหยางที่เป็นหนึ่งในตระกูลเก่าแก่ของเมืองหลวงและเป็นผู้นำในฝ่ายรัฐบาลกลางได้

แต่ในเรื่องราวความรักที่สวยงามนี้ กลับมีตัวละครหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกสะดุด นั่นคือ หลินเสี่ยวเหยา นางร้ายของเรื่อง เธอเป็นหญิงสาวที่สวย แต่กลับตกหลุมรักพระเอกที่เป็นยุวชนปัญญา เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้พระเอกมาครอบครอง ทั้งมอบสิ่งของ และเงินทอง ที่พ่อแม่หามาให้ด้วยความยากลำบาก แต่สุดท้ายเธอก็ต้องตายพระเงื้อมือของพระเอกเนื่องจากเธอวางแผนคิดทำร้ายนางเอกของเรื่อง

แต่แผนการของเธอกลับถูกพระเอกซ้อนแผน เธอต้องสูญเสียทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิตของเธอเอง

"ช่างน่าสมเพชอะไรเช่นนี้" หลินเสี่ยวเหยาถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอรู้สึกเห็นใจตัวร้ายในนิยายอย่างประหลาด เธอรู้สึกว่าหลินเสี่ยวเหยาเป็นเพียงเหยื่อของความรัก เธอทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก แต่กลับต้องพบกับจุดจบที่น่าเศร้า

ร่างบางวางหนังสือลงบนตัก เธอเงยหน้ามองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย เธอไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดไปได้ถึงเมื่อไหร่ เพราะประตูร้านหนังสือที่เธอหลบหนีซอมบี้เข้ามาอยู่ ไม่รู้ว่าจะทนต่อแรงกระแทกของซอมบี้ได้อีกนานเท่าไหร่

เสียงประตูไม้เก่าผุพังเริ่มดังสนั่นหวั่นไหว ท่ามกลางความเงียบสงัดของร้านหนังสือร้าง หลินเสี่ยวเหยาเงยหน้าจากกองหนังสือที่เธอพยายามใช้เป็นที่กำบัง ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังเงาตะคุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่หลังประตูที่กำลังจะพังทลายลงมา

หัวใจของหญิงสาวเต้นระรัว มือเรียวบางกำดาบที่เตรียมไว้ข้างกายแน่น เธอสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามเรียกสติและความกล้าที่หลงเหลืออยู่

ทันใดนั้น ประตูไม้ก็พังครืนลงมา พร้อมกับฝูงซอมบี้จำนวนมากที่พุ่งเข้ามาในร้าน มันคำรามเสียงต่ำ ดวงตาสีขุ่นมัวจ้องมองหลินเสี่ยวเหยาอย่างหิวกระหาย ร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลและคราบเลือดแห้งกรังส่งกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งไปทั่ว

หลินเสี่ยวเหยาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องสู้ เธอพุ่งเข้าใส่พวกซอมบี้ หวังจะปลิดชีพมันให้เร็วที่สุด แต่ร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางและการต่อสู้กับฝูงซอมบี้ก่อนหน้านี้ ทำให้เธอพลาดท่า ดาบหลุดจากมือ ร่างของเธอถูกซอมบี้ตะปบลงกับพื้น

"กรรร..." ซอมบี้คำรามเสียงดัง ก่อนจะก้มลงกัดเข้าที่แขนของหลินเสี่ยวเหยาอย่างแรง ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย เธอพยายามดิ้นรน แต่ก็ไม่เป็นผล

"โอ๊ยยยย" เสียงร้องของหลินเสี่ยวเหยาดังไปทั่วร้านหนังสือร้าง แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน เธอรู้ดีว่าชะตากรรมของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป

ดวงตาของหลินเสี่ยวเหยาพร่าเลือน เธอเห็นภาพของพ่อแม่และคุณปู่ที่เธอรักแวบเข้ามาในห้วงคำนึง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง พร้อมกับร่างที่ล้มลง ท่ามกลางฝูงซอมบี้ที่กรูเข้ามาอย่างหิวกระหาย รุมทึ้งเนื้อหนังของเธออย่างบ้าคลั่ง

ร้านหนังสือร้างกลับคืนสู่ความเงียบสงัดอีกครั้ง เหลือเพียงคราบเลือดและเศษเสื้อผ้าของหลินเสี่ยวเหยาที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น เป็นเครื่องยืนยันถึงโศกนาฏกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้น

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 2 ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

    "โอ๊ยยยยย" หลินเสี่ยวเหยาครางออกมาอย่างทรมาน เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างมึนงง ภาพตรงหน้าพร่าเลือนก่อนจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เผยให้เห็นห้องนอนไม้เก่าๆ ทรุดโทรม แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านช่องหน้าต่างเล็กๆ ส่องกระทบใบหน้าซีดเซียวของเธอ ความเจ็บแปลบแล่นริ้วไปทั่วศีรษะราวกับเพิ่งถูกกระแทกอย่างแรง"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน" หลินเสี่ยวเหยาบ่นพึมพำกับตัวเอง เธอลุกขึ้นนั่งแล้วสำรวจตัวเอง หญิงสาวไม่พบร่องรอยบาดแผลจากฝูงซอมบี้แม้แต่น้อย"นี้ฉันจะฝันไปหรือเปล่า... ที่นี่คือที่ไหนกันแน่?" หลินเสี่ยวเหยาครุ่นคิดอย่างสับสนทันใดนั้น ความทรงจำของเจ้าของร่างนี้ก็ไหลทะลักเข้ามาในหัวของเธอราวกับเขื่อนแตก หลินเสี่ยวเหยาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอจำได้ทันที… ว่าเธอเข้ามาอยู่ในนิยายที่เพิ่งอ่านจบไปก่อนที่จะตายนี่นา! และที่ร้ายยิ่งกว่านั้น เธอยังมาอยู่ในร่างของนางร้าย ‘หลินเสี่ยวเหยา’ ที่ดันมีชื่อเหมือนกับเธออีกหญิงสาวพยายามตั้งสติ พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เดินไปที่หน้าต่างแล้วมองออกไปข้างนอก เห็นทุ่งนาเขียวขจีและภูเขาสูงตระหง่านที่แห่งนี้อยู่ในยุคมืดในปี 1970 ผู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 3 ตลาดมืด

    หลินเสี่ยวเหยาเดินออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านไป๋เหอ เพื่อหาทางเข้าไปในเมืองจินหลง หมู่บ้านไป๋เหอแห่งนี้มีสมาชิกอยู่เกือบร้อยหลังคาเรือนแต่ทันทีที่เธอปรากฏตัวในหมู่บ้านที่ตอนนี้ทุกคนกำลังเริ่มลงแปลงนากันอยู่ หลินเสี่ยวเหยาเดินไปตามถนนในหมู่บ้าน สายตาชาวบ้านที่มองมาและนินทาในระยะเผาขนเสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น เมื่อหลินเสี่ยวเหยาปรากฏตัวขึ้นในชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนสะอาดตา ผมยาวสลวยถูกรวบเป็นมวยหลวม ๆ ตกแต่งด้วยปิ่นหยกเรียบหรู แม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็ขับให้ใบหน้าหวานนั้นดูโดดเด่นขึ้นเป็นกอง"นั่นหลินเสี่ยวเหยาไม่ใช่เหรอ? วันนี้แต่งตัวซะสวยเชียว" เสียงแหลมเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มคนที่ยืนมุงดูอยู่ริมทาง"ก็แน่สิ เงินพ่อแม่หล่อนทั้งนั้นที่ทิ้งไว้ให้" เสียงอีกคนเสริมขึ้นมาอย่างเหยียดหยัน"ผู้หญิงอะไรขี้เกียจ ไม่ยอมทำลงแปลงนาเหมือนคนอื่น""ระวังเถอะ พอเงินพ่อแม่หล่อนหมดจะอดตายไม่มีข้าวจะกิน"หลินเสี่ยวเหยาได้ยินทุกคำพูดเหล่านั้น แต่เธอก็ทำเพียงแค่เมินเฉยและเดินหน้าต่อไป ริมฝีปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ ราวกับไม่ได้ใส่ใจกับคำนินทาเหล่านั้นแม้แต่น้อย เธอรู้ดีว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นเพียง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 4 ไฟแค้นโหมกระหน่ำ

    หลี่เหว่ยเฉียงยังคงสงบนิ่ง ไม่แสดงความหวาดกลัวออกมาให้เห็น แม้ภายในใจจะร้อนรุ่มเพียงใด เขารู้ดีว่าการขัดขืนมีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงทว่าในชั่วพริบตา ร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า เธอคือหลินฮวา สหายหญิงที่หลี่เหว่ยเฉียงแอบมีใจให้"ใจเย็นก่อนเถิด สหาย" หลินฮวากล่าวเสียงหวานแต่หนักแน่น "ตอนนี้สหายหลี่กำลังจะหมั้นหมายกับฉัน หากพวกคุณจับเขาไป งานมงคลก็คงต้องล่ม"เหล่าทหารชะงัก หันไปมองหน้าหญิงสาวที่กล้าขวางทางพวกเขาด้วยความประหลาดใจ"สหายหญิง ท่านอย่าได้เข้ามาขวางทางการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเรา" หัวหน้าทหารกล่าวเตือน"ฉันรู้ดี สหาย" หลินฮวาตอบ "แต่คุณลองคิดดู หากสหายหลี่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปฏิวัติจริง เขาจะกล้าประกาศหมั้นหมายกับฉันอย่างเปิดเผยเช่นนี้หรือ"หัวหน้าทหารครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพูดกับลูกน้อง "พวกเราไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน หากสหายทั้งสองโกหก ฉันจะกลับมาเอาหัวสหายทั้งสองคน จำไว้"หลี่เหว่ยเฉียงมองหลินฮวาด้วยความซาบซึ้งใจ หากไม่ใช่เพราะเธอ เขาคงถูกจับไปแล้ว และอาจต้องเผชิญชะตากรรมอันเลวร้าย"ขอบคุณมากสหายหลิน" หลี่เหว่ยเฉียงกล่าวอย่างจริงใจ "หากไม่ใช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 5 ขออภัยที่ต้องรบกวนยามวิกาล

    ท่ามกลางราตรีอันมืดมิด เสียงฟ้าร้องคำรามดังกึกก้องไปทั่วผืนฟ้า เม็ดฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย บนเส้นทางสายเปลี่ยวที่ทอดยาวผ่านหมู่บ้านชนบทอันห่างไกล หยางเฟิง หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับหน่วยที่ 13 ผู้มากฝีมือ กำลังก้าวเดินอย่างยากลำบาก เนื้อตัวของชายหนุ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนและเลือดใบหน้าคมคาย เผยดวงตาสีดำคมกริบดุจเหยี่ยว และร่างกายกำยำล่ำสันของเขาเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกซุ่มโจมตีของกลุ่มกบฏที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้เมืองจินหลง พวกลูกน้องของเขาถูกศัตรูล้อมกรอบจนต้องแตกหนีเอาตัวรอด ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม หยางเฟิงจึงต้องสละตัวเองเพื่อเปิดทางให้พวกเขาหนีไปได้ เขาได้ต่อสู้กับพวกกบฏอย่างดุเดือด แต่ก็ไม่อาจต้านทานกองกำลังที่มากกว่าของพวกมันได้ เขาถูกยิงเข้าที่สีข้างจนเลือดไหลอาบ หยางเฟิงกัดฟันข่มความเจ็บปวด พยายามตะเกียกตะกายหนีออกจากวงล้อมของศัตรู เขาต้องหนีออกไปให้ได้และต้องกลับไปรายงานเรื่องนี้ให้ทางการได้รับทราบ เขาต้องไม่ยอมให้พวกกบฏลอยนวลหลังจากฝ่าวงล้อมออกมาหยางเฟิงก็เดินโซซัดโซเซไปตามเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และจะไปทางไหนต่อ เขาได้แต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 6 ดูแลคุณตัวร้าย

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ่านบานหน้าต่างไม้เก่าๆ เข้ามาในห้องนอนเล็กๆ หลินเสี่ยวเหยาค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา หญิงสาวจ้องมองไปยังร่างของคุณตัวร้าย ที่บาดเจ็บสาหัสจากการถูกยิง เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนเก่าๆ เธอจึงจัดการเก็บเสื่อ หมอน และผ้าห่มไว้ในตู้ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบ เธอเดินออกไปยังห้องครัวเล็กๆ ที่อยู่ติดกับลานบ้าน"เสี่ยวหมิงคงหิวแล้ว" หลินเสี่ยวเหยาคิดในใจ เธอมองไปยังเตาถ่านที่ตั้งอยู่มุมห้อง หลินเสี่ยวหมิง น้องชายของเธอ ตอนนี้เป็นเด็กที่กำลังจะโต เด็กน้อยสมควรที่จะทานอาหารเยอะๆ หลินเสี่ยวเหยาจึงตั้งใจว่าจะทำอาหารเช้าให้น้องชายและคุณตัวร้ายให้อิ่มท้องก่อนออกไปข้างนอกแต่แล้วเธอก็ต้องพบกับปัญหาใหญ่ เธอไม่รู้วิธีจุดเตาถ่าน! ในยุค 70 นี้ การทำอาหารด้วยเตาถ่านเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับหลินเสี่ยวเหยาที่เพิ่งย้อนเวลามา เธอไม่เคยมีประสบการณ์จุดเตาถ่านมาก่อนเลย"จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย" เธอพึมพำกับตัวเอง พลางจ้องมองไปรอบๆ ห้องครัว หวังว่าจะพบอุปกรณ์บางอย่างที่พอจะช่วยเธอได้ แต่เธอก็ไม่พบอะไรเลยทันใดนั้น เธอก็นึกถึงห้างสรรพสินค้าในมิติของเธอขึ้นมาหลินเสี่ยวเหยาเอามือบางลูบไล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 7 ปะทะพวกเพื่อนนางเอก

    หลินเสี่ยวเหยายกกับข้าวมาให้หยางเฟิงที่เตียง ชายหนุ่มมองอาหารตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอาหารธรรมดา ๆ จะดูน่ารับประทานได้ขนาดนี้เขาตักข้าวต้มเข้าปากคำแรก รสชาติกลมกล่อมของข้าวต้มทำให้เขาแทบหยุดไม่ได้ เขาตักข้าวต้มเข้าปากคำแล้วคำเล่า จนข้าวต้มหมดถ้วย"อร่อยมากเลยครับ" ชายหนุ่มกล่าวชมด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจหลินเสี่ยวเหยายิ้มรับคำชม คนในยุคนี้ชาวบ้านทั่วไปชอบทำกับข้าวจืดๆ ไม่ได้เน้นเครื่องปรุงรสอะไร กับข้าวที่เธอใส่ผงปรุงรสไปก็เลยดูอร่อยเป็นพิเศษเธอสามารถทำกับข้าวขายได้เลย ถ้ามีผงปรุงรสอยู่ในมือ รับรองกับข้าวอร่อยทุกอย่าง แต่น่าเสียดายที่ยุคนี้ทำการค้าขายลำบาก"ฉันดีใจที่คุณชอบค่ะ"เธอกล่าวกับชายหนุ่มหลังจากหยางเฟิงทานข้าวเช้าเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็หยิบยาแก้ปวด และยาลดไข้ ออกมา 2 เม็ด"สหายหยางทานยาแก้ปวดและยาลดไข้หน่อยนะคะ อาการของคุณจะได้ดีขึ้น"หยางเฟิงรับยามาดู พบว่าเป็นยาฝรั่งราคาแพง เม็ดสีขาวกลม ๆ"คุณ... เอาเงินมาจากไหนมาซื้อยาพวกนี้?" ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลินเสี่ยวเหยาอึกอักไปชั่วครู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 8 ผมสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆ

    หลินเสี่ยวเหยา เดินกลับมาถึงบ้านหลังเล็กๆ ของเธอ ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่และหญ้ารกทึบ คนเป็นพี่สาวเห็นน้องชายกำลัง กำลังก้มหน้าก้มตาถางหญ้าอยู่คนเดียว เหงื่อของเขาไหลอาบบนใบหน้า แววตาเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยด้วยความสงสารเด็กน้อยตัวเล็กๆ ที่ต้องทำงานหนักเหมือนผู้ใหญ่ หลินเสี่ยวเหยาก็รีบเดินตรงไปที่ห้องครัว เธอหยิบขวดน้ำหวานเย็นๆ และขนมปังแสนอร่อยจากมิติของเธอหญิงสาวเทน้ำหวานใส่กระบอกไม้ไผ่ และวางขนมปังอบกรอบไว้บนจานกระเบื้องเก่าๆ จากนั้นก็เดินตรงไปหาหลินเสี่ยวหมิงที่ทำงานอยู่สวนหลังบ้าน"เสี่ยวหมิง! พี่กลับมาแล้ว!" หญิงสาวตะโกนเรียกน้องชายด้วยน้ำเสียงสดใสและอบอุ่นหลินเสี่ยวหมิงเงยหน้าขึ้นจากแปลงผัก ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นพี่สาวกลับมาถึงบ้าน "พี่สาว! กลับมาแล้วเหรอครับ!" เขารีบวิ่งเข้าไปหาพี่สาวด้วยความดีใจหญิงสาวยิ้มกว้างพลางลูบหัวน้องชายเบาๆ "อืม... พี่กลับมาแล้ว" เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เสี่ยวหมิงไปพักก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะช่วยถางหญ้าต่อเอง""แต่ว่า..." หลินเสี่ยวหมิงทำท่าจะแย้งผู้เป็นพี่สาวขัดขึ้น "ไม่มีแต่" เธอยิ้มให้น้องชาย "พี่สาวแข็งแรงจะตายไป น้องเล็กไปพักผ่อนเถอะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 9 หาของป่า

    หลินเสี่ยวเหยา เดินออกจากห้องมา เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงกำลังนั่งรอเธออยู่ที่ลานหน้าบ้าน บนพื้นมีตะกร้าสานใบโปรดวางอยู่พร้อมกับขวานตัดฟืนและมีดพร้า หลินเสี่ยวเหยาเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดเก่าๆ มัดผมเรียบง่าย คว้าตะกร้าสานที่บรรจุเครื่องมือและของทานเล่นนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับผู้เป็นน้องชายพวกเขาเดินมุ่งหน้าไปยังป่าไผ่ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ป่าไผ่แห่งนี้เป็นแหล่งอาหารสำคัญสองคนพี่น้อง ซึ่งเมื่อก่อนหลินเสี่ยวหมิงมักจะเข้ามาหาของป่าให้พี่สาวอยู่เป็นประจำเมื่อมาถึงจุดที่เต็มไปด้วยต้นไผ่ หลินเสี่ยวเหยาก็หยุดลง เธอวางตะกร้าสานลงบนพื้น หยิบขวานอันคมออกมาจากตะกร้า ผู้เป็นพี่สาวเริ่มสอนน้องชายถึงวิธีการตัดต้นไผ่"เสี่ยวหมิง น้องจับขวานให้มั่นนะ ตีตรงโคนต้นไผ่ ระวังอย่าให้โดนเท้าตัวเอง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเด็กน้อยพยักหน้ารับอย่างตั้งใจ ดวงตาของเขาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น เขาสวมหมวกฟางเก่า ๆ กำขวานแน่นในมือเล็ก ๆ พยายามเลียนแบบท่าทางของผู้เป็นพี่สาว"ผลัวะ!" เสียงขวานดังก้องไปทั่วป่า หลินเสี่ยวหมิงฟาดฟันต้นไผ่อย่างขะมักเขม้น แม้ว่าแรงของเขาจะยังไม่มากนัก แต่เขาก็พยายามอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 15 คุณเลิกอ่อยฉันได้แล้ว

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเสี่ยวเหยา ตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะโหลสะเหล เธอนอนไม่หลับทั้งคืน ภาพใบหน้าหล่อเหลาของคุณตัวร้าย ย้ำเตือนความทรงจำเมื่อคืน น้ำเสียงอันทุ่ม นุ่มลึก ของร่างสูงที่บอกว่าเธอ"น่ารัก" ยังคงก้องอยู่ในหูความร้อนผ่าวจากใบหน้าไต่ขึ้นสู่แก้ม แก้มของเธอแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแค่คิดถึงมัน หัวใจของเธอก็เต้นระรัวเมื่อคืนนี้ เธอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่ม แม้จะนอนคนละที่กัน แต่ความใกล้ชิดก็เพียงพอที่จะปลุกเร้าจินตนาการของหญิงสาว"โอ๊ย…คุณตัวร้ายแอบคิดอะไรเกินเลยกับเธอหรือเปล่า" เสียงร้องอุทานของเธอแทบจะหลุดออกมา หัวใจเธอเต้นตึกตัก ภาพใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกริ่มของพันตรีหนุ่มลอยมาปรากฏในความคิดหลินเสี่ยวเหยาพลิกตัวไปมาบนเสื่อ ด้วยอาการของคนนอนไม่หลับ เธอครุ่นคิดว่าชายหนุ่มกำลังจะจีบเธอหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่กล้าคิดเกินเลยไปไกล ทำให้คิดวนเวียนไปมาเธอนอนหลับๆ ตื่นๆ พอรู้ตัวอีกทีเกือบใกล้รุ่งเช้าแล้วคนร่างบางจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ห้องครัว หวังจะดื่มกาแฟร้อนๆ สักแก้ว เพื่อปลุกให้ตัวเองตื่นเต็มตาเช้านี้ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย หญิงสาวเดินไปที่เตาฟืน ก่อไฟต้มน้ำร้อน เสียงฟืนที่แ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 14 อย่าทำให้ฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้

    หลังจากหลินเสี่ยวเหยาออกจากบ้านลุงเหวินมา หญิงสาวรีบเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวน้องชายจะหิ้วท้องรอ เธอก้าวเท้าผ่านแปลงนาด้วยความเร่งรีบ มุ่งหน้ากลับบ้านที่อยู่ติดกับเชิงเขาที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ท่ามกลางดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกลุ่มชายหนุ่มสามคนที่ยืนดักรอเธออยู่"นังตัวดี!" จ้าวหยวนตงตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ฉันจะแก้แค้นที่แกทำปากฉันแตก! ตอนนี้พวกชาวบ้านต่างก็กลับบ้านไปกันหมดแล้ว ไม่มีใครช่วยเหลือแกได้ ถ้าแกไม่อยากเจ็บตัว ก็นำข้าวของมาให้พวกฉันซะ!" ชายหนุ่มข่มขู่หลินเสี่ยวเหยาทันทีหลินเสี่ยวเหยา กัดฟันกรอด ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอไม่คิดจะให้ใครมารังแกเธอได้ง่ายๆ หรอก"ไอ้จ้าวหยวนตง แกอย่ามาหาเรื่อง ฉันไม่มีของอะไรจะให้แก" หลินเสี่ยวเหยา ตะโกนโต้กลับไป ด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว"นังนี่มันปากดีจริงๆ พวกเราจัดการสั่งสอนนังผู้หญิงคนนี้กันหน่อย!" จ้าวหยวนตง เรียกเพื่อนสนิททั้งสอง ตรงรี่เข้าหาหลินเสี่ยวเหยา"เฮอะ..ในเมื่อฉันไม่ได้ไปหาเรื่องพวกแก แต่พวกแกกับเสือกหาเรื่องเอง แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนละ ถ้าพวกแกแน่จริง ก็เข้ามา" หญิงสาวตะโกน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 13 เอาคืนพวกเพื่อนพระเอก

    จ้าวหยวนตงยื่นมือไปคว้าตะกร้าหวายจากหลินเสี่ยวเหยาที่มีผ้าขาวปกคลุมเอาไว้"สหายหลิน จะรีบไปไหน พวกเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ" จ้าวหยวนตงยิ้มเจ้าเล่ห์หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโกรธแค้น เธอพยายามเดินหนี แต่ชายหนุ่มจับตะกร้าเธอไว้แน่น"ปล่อยตะกร้าฉันเดี๋ยวนี้! ของพวกนี้ไม่ใช่ของพวกแก!" หลินเสี่ยวเหยาตะโกนกลับมา"ของฝากพวกนี้เอามาให้สหายเหว่ยเฉียงใช่มั้ยล่ะ? เดี๋ยวพวกเราเอาไปให้เขาเอง สหายหลินไม่ต้องเป็นห่วง" กัวเฉิงหลง ชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจหลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้พวกชาวบ้านเลิกงานเริ่มทยอยออกมาประปราย หญิงสาวไม่กล้าใช้ความรุนแรง ในขณะที่เธอกำลังจะยื้อตะกร้า จ้าวหยวนตงทำท่าจะโน้มตัวลงมาดูของในตะกร้าว่ามีอะไรบ้างทันใดนั้นเธอแกล้งก็ใช้ศอกฟาดเข้าที่ปากของจ้าวหยวนตงอย่างแรงจนชายหนุ่มเซไปข้างหลัง เลือดไหลซิบจากมุมปาก"โอ๊ย!" จ้าวหยวนตงร้องโอดโอย ก่อนจะปล่อยตะกร้าหวายออกจากมือ ชายหนุ่มไม่พอใจกล่าวว่าหญิงสาวตรงหน้าทันที"แกนังตัวดี! แกกล้ามาทำร้ายฉันเหรอ?!"จ้าวหยวนตงตะโกนขึ้นผู้คนรอบข้างเริ่มหยุดชะงัก มองมาที่หลินเสี่ยวเหยาและจ้าวหยวนตงด้วยความตกใจ เสียงโหวกเหวก

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 12 เปิดเผยความลับ

    หลินเสี่ยวเหยา ก้าวเท้าออกมาจากบ้านดินหลังเล็ก ก่อนที่จะเดินตรงไปยังแปลงผักที่อยู่หลังบ้านเธอเห็นหลินเสี่ยวหมิง กำลังยืนอยู่หน้าแปลงผัก สายตาของเขาจดจ่อกับต้นผักกาดหอมที่เพิ่งปลูกไปเมื่อวานนี้ ใบสีเขียวอ่อนเริ่มคลี่ออก เผยให้เห็นยอดอ่อนสีขาว หลินเสี่ยวเหยาเดินเข้าไปหาเด็กชาย"น้องเล็กทำอะไรอยู่เหรอ?""พี่สาวดูสิครับ ต้นผักกาดเริ่มแตกใบแล้ว!" หลินเสี่ยวหมิงตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขารู้สึกดีใจที่ได้เห็นผลลัพธ์จากการทุ่มเทดูแลแปลงผักหลินเสี่ยวเหยาโน้มตัวลง มองดูต้นผักกาดอย่างใกล้ชิด รอยยิ้มของเธอขยายกว้างขึ้น "น้องเล็กเก่งมากเลยนะ เป็นเพราะน้องเล็กช่วยพี่สาวรดน้ำ เมล็ดจึงแตกยอดออกมา" เธอเอื้อมมือลูบศีรษะน้องชายเบาๆ"ต่อไปเราก็จะมีผักสดๆ ไว้กินเองแล้ว"หลินเสี่ยวหมิงดีใจสุดๆ เขาตั้งตารอที่จะได้กินผักกาดที่ดูแลเองกับมือท่ามกลางความร่าเริงของเด็กน้อย หลินเสี่ยวเหยากำลังครุ่นคิดว่าจะบอกความจริงเรื่องมิติของเธอให้น้องชายได้รับรู้หรือไม่ เธออยากนำเครื่องมือในห้างสรรพสินค้าของมาสร้างเล้าไก่ คนร่างบางรู้สึกลังเลใจว่าจะบอกน้องชายดีหรือไม่หลินเสี่ยวเหยานึกถึงเรื่องราวในนิยายที่เธอหลุดเข้ามา น

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 11 จูบทางอ้อม

    ณ เมืองหลวงหลิวซิวหยวน มารดาของ หยางเฟิง เดินเข้ามาหา หยางกั๋วเฉิง ผู้เป็นสามีด้วยความร้อนใจ เธออยากรู้ว่าทำไมลูกชายเธอถึงไม่ยอมกลับมาบ้านสักที เธอพยายามถามผู้เป็นสามี เขาก็ตอบแต่เพียงว่า ลูกสามงานยุ่ง ตามปกติแล้วแม้งานของลูกสามจะยุ่งแค่ไหนเขาจะกลับมาที่บ้านใหญ่เสมอ เพื่อมาเยี่ยมครอบครัวทุกอาทิตย์แต่นี่ก็นานมาแล้วที่ลูกชายเธอขาดติดต่อกลับมา ใบหน้าของคุณนายหยางเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อหลิวซิวหยวน มาถึงที่ทำงานของสามี เธอเดินเข้าไปในห้องทำงานของสามีด้วยความรีบร้อน โดยไม่ได้เคาะประตู ทันใดนั้น เธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นภาพที่ไม่คาดคิดหยางกั๋วเฉิง สามีของเธอ กำลังนั่งสนทนาอยู่กับ หลิวซิวฉีพี่ชายของเธอ ใบหน้าของทั้งคู่ดูเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยความกังวล"พี่ชาย!" หลิวซิวหยวนร้องออกไปด้วยความตกใจ "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนหน้าถึงทำหน้าเคร่งเครียดแบบนี้?"หลิวซิวฉี หันมามองน้องสาว ก่อนจะถอนหายใจยาว "เจ้าสาม เขา...""เขา… เป็นอะไรไป?" คุณนายหยางรีบเอ่ยถามด้วยความร้อนรน หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว"เจ้าสามเขา... ไปปฏิบัติภารกิจลับ เพียงแต่ว่า... ตอนนี้พวกเราได้ขาดการติดต่อกับเจ้าสาม มาหล

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 10 ตบตีพวกเพื่อนนางเอก

    เมื่อคนเป็นพี่สาวเดินมาที่ลานหน้าบ้าน เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงน้องชายของเธอกำลังนั่งรอทานข้าวอย่างใจจดใจจ่อ บนโต๊ะไม้เก่า ๆ มีแกงผักป่าร้อน ๆ กับข้าวสวยวางอยู่ เมื่อเธอเดินมาหาน้องชาย หลินเสี่ยวหมิงยิ้มร่าด้วยความดีใจ"พี่เสี่ยวเหยา แกงที่พี่ทำมันหอมมากเลยครับ จนน้ำลายผมไหลยืด" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยขึ้น"มันหอมเพราะพี่สาวใส่เครื่องปรุงตามสูตรที่พี่สาวคิดค้นขึ้น มันทำให้น้ำแกงอร่อยขึ้น ถ้าน้องเล็กชอบพี่สาวจะทำให้ทานทุกวัน" หลินเสี่ยวเหยาตักแกงใส่ถ้วย ส่งให้น้องชายหลินเสี่ยวหมิงตักแกงเข้าปาก เคี้ยวช้า ๆ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเด็กน้อย"อร่อยมากเลยพี่สาว ฝีมือพี่นี่ไม่แพ้แม่เลยนะ" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยชมไม่หยุด‘หึ..ถ้าไม่มีเครื่องปรุงสำเร็จรูปกับข้าว ฉันก็คงทำคงไม่อร่อยเท่านี้หรอก’ หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโชคดีที่ในห้างสรรพสินค้าของเธอมีเครื่องปรุงสำเร็จรูปครบครันทำให้การใช้ชีวิตในยุคนี้ ไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิดหลังจากทานข้าวเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็ทำการเก็บกวาดโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันมาบอกกับน้องชาย"เสี่ยวหมิง วันนี้น้องเหนื่อยมาทั้งวัน เดี๋ยวน้องไปพักผ่อนได้แล้ว""ครับพี่สาว เดี๋ยวผมไปก่อนนะครับ" เด็กชายพ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 9 หาของป่า

    หลินเสี่ยวเหยา เดินออกจากห้องมา เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงกำลังนั่งรอเธออยู่ที่ลานหน้าบ้าน บนพื้นมีตะกร้าสานใบโปรดวางอยู่พร้อมกับขวานตัดฟืนและมีดพร้า หลินเสี่ยวเหยาเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดเก่าๆ มัดผมเรียบง่าย คว้าตะกร้าสานที่บรรจุเครื่องมือและของทานเล่นนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับผู้เป็นน้องชายพวกเขาเดินมุ่งหน้าไปยังป่าไผ่ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ป่าไผ่แห่งนี้เป็นแหล่งอาหารสำคัญสองคนพี่น้อง ซึ่งเมื่อก่อนหลินเสี่ยวหมิงมักจะเข้ามาหาของป่าให้พี่สาวอยู่เป็นประจำเมื่อมาถึงจุดที่เต็มไปด้วยต้นไผ่ หลินเสี่ยวเหยาก็หยุดลง เธอวางตะกร้าสานลงบนพื้น หยิบขวานอันคมออกมาจากตะกร้า ผู้เป็นพี่สาวเริ่มสอนน้องชายถึงวิธีการตัดต้นไผ่"เสี่ยวหมิง น้องจับขวานให้มั่นนะ ตีตรงโคนต้นไผ่ ระวังอย่าให้โดนเท้าตัวเอง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเด็กน้อยพยักหน้ารับอย่างตั้งใจ ดวงตาของเขาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น เขาสวมหมวกฟางเก่า ๆ กำขวานแน่นในมือเล็ก ๆ พยายามเลียนแบบท่าทางของผู้เป็นพี่สาว"ผลัวะ!" เสียงขวานดังก้องไปทั่วป่า หลินเสี่ยวหมิงฟาดฟันต้นไผ่อย่างขะมักเขม้น แม้ว่าแรงของเขาจะยังไม่มากนัก แต่เขาก็พยายามอย่าง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 8 ผมสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆ

    หลินเสี่ยวเหยา เดินกลับมาถึงบ้านหลังเล็กๆ ของเธอ ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่และหญ้ารกทึบ คนเป็นพี่สาวเห็นน้องชายกำลัง กำลังก้มหน้าก้มตาถางหญ้าอยู่คนเดียว เหงื่อของเขาไหลอาบบนใบหน้า แววตาเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยด้วยความสงสารเด็กน้อยตัวเล็กๆ ที่ต้องทำงานหนักเหมือนผู้ใหญ่ หลินเสี่ยวเหยาก็รีบเดินตรงไปที่ห้องครัว เธอหยิบขวดน้ำหวานเย็นๆ และขนมปังแสนอร่อยจากมิติของเธอหญิงสาวเทน้ำหวานใส่กระบอกไม้ไผ่ และวางขนมปังอบกรอบไว้บนจานกระเบื้องเก่าๆ จากนั้นก็เดินตรงไปหาหลินเสี่ยวหมิงที่ทำงานอยู่สวนหลังบ้าน"เสี่ยวหมิง! พี่กลับมาแล้ว!" หญิงสาวตะโกนเรียกน้องชายด้วยน้ำเสียงสดใสและอบอุ่นหลินเสี่ยวหมิงเงยหน้าขึ้นจากแปลงผัก ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นพี่สาวกลับมาถึงบ้าน "พี่สาว! กลับมาแล้วเหรอครับ!" เขารีบวิ่งเข้าไปหาพี่สาวด้วยความดีใจหญิงสาวยิ้มกว้างพลางลูบหัวน้องชายเบาๆ "อืม... พี่กลับมาแล้ว" เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เสี่ยวหมิงไปพักก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะช่วยถางหญ้าต่อเอง""แต่ว่า..." หลินเสี่ยวหมิงทำท่าจะแย้งผู้เป็นพี่สาวขัดขึ้น "ไม่มีแต่" เธอยิ้มให้น้องชาย "พี่สาวแข็งแรงจะตายไป น้องเล็กไปพักผ่อนเถอะ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 7 ปะทะพวกเพื่อนนางเอก

    หลินเสี่ยวเหยายกกับข้าวมาให้หยางเฟิงที่เตียง ชายหนุ่มมองอาหารตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอาหารธรรมดา ๆ จะดูน่ารับประทานได้ขนาดนี้เขาตักข้าวต้มเข้าปากคำแรก รสชาติกลมกล่อมของข้าวต้มทำให้เขาแทบหยุดไม่ได้ เขาตักข้าวต้มเข้าปากคำแล้วคำเล่า จนข้าวต้มหมดถ้วย"อร่อยมากเลยครับ" ชายหนุ่มกล่าวชมด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจหลินเสี่ยวเหยายิ้มรับคำชม คนในยุคนี้ชาวบ้านทั่วไปชอบทำกับข้าวจืดๆ ไม่ได้เน้นเครื่องปรุงรสอะไร กับข้าวที่เธอใส่ผงปรุงรสไปก็เลยดูอร่อยเป็นพิเศษเธอสามารถทำกับข้าวขายได้เลย ถ้ามีผงปรุงรสอยู่ในมือ รับรองกับข้าวอร่อยทุกอย่าง แต่น่าเสียดายที่ยุคนี้ทำการค้าขายลำบาก"ฉันดีใจที่คุณชอบค่ะ"เธอกล่าวกับชายหนุ่มหลังจากหยางเฟิงทานข้าวเช้าเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็หยิบยาแก้ปวด และยาลดไข้ ออกมา 2 เม็ด"สหายหยางทานยาแก้ปวดและยาลดไข้หน่อยนะคะ อาการของคุณจะได้ดีขึ้น"หยางเฟิงรับยามาดู พบว่าเป็นยาฝรั่งราคาแพง เม็ดสีขาวกลม ๆ"คุณ... เอาเงินมาจากไหนมาซื้อยาพวกนี้?" ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลินเสี่ยวเหยาอึกอักไปชั่วครู่

DMCA.com Protection Status