แชร์

บทที่ 9 หาของป่า

ผู้เขียน: BBNanz
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-20 15:19:41

หลินเสี่ยวเหยา เดินออกจากห้องมา เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงกำลังนั่งรอเธออยู่ที่ลานหน้าบ้าน บนพื้นมีตะกร้าสานใบโปรดวางอยู่พร้อมกับขวานตัดฟืนและมีดพร้า หลินเสี่ยวเหยาเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดเก่าๆ มัดผมเรียบง่าย คว้าตะกร้าสานที่บรรจุเครื่องมือและของทานเล่นนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับผู้เป็นน้องชาย

พวกเขาเดินมุ่งหน้าไปยังป่าไผ่ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ป่าไผ่แห่งนี้เป็นแหล่งอาหารสำคัญสองคนพี่น้อง ซึ่งเมื่อก่อนหลินเสี่ยวหมิงมักจะเข้ามาหาของป่าให้พี่สาวอยู่เป็นประจำ

เมื่อมาถึงจุดที่เต็มไปด้วยต้นไผ่ หลินเสี่ยวเหยาก็หยุดลง เธอวางตะกร้าสานลงบนพื้น หยิบขวานอันคมออกมาจากตะกร้า ผู้เป็นพี่สาวเริ่มสอนน้องชายถึงวิธีการตัดต้นไผ่

"เสี่ยวหมิง น้องจับขวานให้มั่นนะ ตีตรงโคนต้นไผ่ ระวังอย่าให้โดนเท้าตัวเอง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

เด็กน้อยพยักหน้ารับอย่างตั้งใจ ดวงตาของเขาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น เขาสวมหมวกฟางเก่า ๆ กำขวานแน่นในมือเล็ก ๆ พยายามเลียนแบบท่าทางของผู้เป็นพี่สาว

"ผลัวะ!" เสียงขวานดังก้องไปทั่วป่า หลินเสี่ยวหมิงฟาดฟันต้นไผ่อย่างขะมักเขม้น แม้ว่าแรงของเขาจะยังไม่มากนัก แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่

"เก่งมากน้องเล็ก!" หลินเสี่ยวเหยาส่งเสียงเชียร์เมื่อต้นไผ่ต้นแรกเริ่มเอียงลง ไม่นานนัก ต้นไผ่ก็ล้มลงกับพื้น หลินเสี่ยวหมิงยิ้มกว้างด้วยความภูมิใจ

หลินเสี่ยวเหยาสลับกันตัดต้นไผ่กับน้องชาย เหงื่อไหลอาบใบหน้า เสียงขวานดังก้องไปทั่วป่า กองต้นไผ่ที่ถูกตัดเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากตัดต้นไผ่ได้พอสมควร หลินเสี่ยวเหยาก็หันเหความสนใจของผู้เป็นน้องชาย ที่จ้องมองพี่สาวตัดไม้ไผ่ด้วยความสนใจ

"เสี่ยวหมิง มาสิ มาพี่จะสอนให้เก็บเห็ดในป่า" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยเรียกน้องชายด้วยรอยยิ้ม

ดวงตาของหลินเสี่ยวหมิงเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น เขารีบวิ่งเข้าหาพี่สาวทันที

"เห็ดอะไรเหรอครับพี่สาว?" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"เห็ดชนิดนี้เรียกว่าเห็ดระโงก มีสีน้ำตาลอ่อน ขึ้นอยู่ตามโคนต้นไม้ ระวังอย่าเก็บเห็ดที่มีสีสันสดใส เพราะอาจจะเป็นพิษได้นะ" ผู้เป็นพี่สาวอธิบายให้น้องชายฟังอย่างใจเย็น

เด็กน้อยพยักหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ เขามองไปรอบๆ ป่าเพื่อมองหาเห็ด

หลินเสี่ยวเหยาพาเขาไปยังจุดที่เห็ดระโงกขึ้นอยู่เยอะ เสี่ยวหมิงค่อยๆ เก็บเห็ดตามคำสอนของพี่สาวอย่างระมัดระวัง

"น้องเล็กเก่งมาก เก็บเห็ดได้เยอะเลย เดี๋ยวน้องเก็บเห็ดตรงนี้ไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่สาวไปหาของป่าแถวๆ นี้ดูเผื่อจะมีอะไรที่เราจะพอทานได้บ้าง"

หลินเสี่ยวหมิงพยักหน้าให้ "ได้ครับพี่สาว"

หลังจากที่หลินเสี่ยวหมิงสนใจเก็บเห็ด หลินเสี่ยวเหยาก็ได้นำไม้ไผ่บางส่วนเข้าไปไว้ในมิติของเธอ ไม้ไผ่เหล่านี้จะเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการสร้างเฟอร์นิเจอร์และโรงเรือนไก่ในอนาคต

เด็กน้อยก้มมองพื้นป่าอย่างตั้งใจ พยายามค้นหาเห็ดตามที่พี่สาวบอก ในที่สุด เขาก็พบเห็ดระโงกขึ้นอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาเก็บเห็ดใส่ตะกร้าอย่างภูมิใจ

"วันนี้ได้ของป่าเยอะเลย เดี๋ยวกลับไปพี่สาวจะทำอาหารอร่อยๆ ให้กินนะ" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง

หลินเสี่ยวหมิงยิ้มกว้าง เด็กน้อยรู้สึกดีใจที่ได้ช่วยพี่สาวหาของป่า วันนี้พวกเขาทั้งสองคนเก็บได้ทั้งหน่อไม้ ผักป่า และผลไม้ป่ามาได้มากมาย เพียงพอสำหรับมื้อเย็นแสนอร่อย

"พี่สาวครับ ผมอยากช่วยแบกตะกร้าให้ครับ" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยขึ้น

หลินเสี่ยวเหยาส่ายหน้า "ไม่เป็นไร พี่แบกเองได้ เดี๋ยวน้องเล็กช่วยถือต้นไผ่ให้พี่หน่อย พี่ถือคนเดียวไม่หมด"

หลินเสี่ยวหมิงรับต้นไผ่ที่พี่สาวส่งมา ถือไว้แน่นในอ้อมแขน ต้นไผ่ลำยาวนั้นหนักอึ้ง แต่เขาก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยพี่สาวแบกของ

เมื่อใกล้จะพลบค่ำ หลินเสี่ยวเหยาและหลินเสี่ยวหมิงสองพี่น้องรีบเร่งฝีเท้ากลับบ้าน ระหว่างทาง ผู้เป็นพี่สาวครุ่นคิดเรื่องการศึกษาของน้องชาย ตอนนี้ปี 1970 อีก 7 ปีข้างหน้า จะมีการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธออยากจะส่งเด็กน้อยให้เรียนหนังสือ เธอจึงตัดสินใจเอ่ยถามน้องชายขึ้นว่า "เสี่ยวหมิง พี่สาวมีเรื่องอยากจะคุยด้วยหน่อย"

หลินเสี่ยวหมิง เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า "มีอะไรหรือครับพี่สาว?"

"คือว่า พี่สาวอยากจะส่งน้องเล็กไปเรียนหนังสือที่เมืองจินหลง น้องคิดว่าอย่างไร?" ผู้เป็นพี่สาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

หลินเสี่ยวหมิงได้ฟังดังนั้น คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน ความรู้สึกที่หลากหลายปะปนกันอยู่ในใจ เขาดีใจที่พี่สาวอยากส่งเขาไปเรียนหนังสือ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกกังวล เพราะเขาตระหนักดีว่าครอบครัวของพวกเขาไม่ได้มีเงินมากเหมือนเมื่อก่อน

"พี่สาวครับ ผม..." หลินเสี่ยวหมิงอึกอัก พูดต่อไม่ถูก

"น้องไม่ต้องพูดอะไร พี่สาวรู้ว่าน้องอยากเรียนหนังสือ และอีกอย่างน้องเล็กไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน พี่สาวมีแหล่งทำเงิน สามารถส่งน้องเล็กเรียนได้จนจบ" หลินเสี่ยวเหยากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

หลินเสี่ยวหมิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวัง

"ขอบคุณครับพี่สาว ผมจะตั้งใจเรียนหนังสือให้หนัก"

สองพี่น้องเดินออกจากป่าทึบ มุ่งหน้ากลับบ้าน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ผู้เป็นพี่สาวรีบเอ่ยกับน้องชาย "เดี๋ยวพวกเราเอาไม้ไผ่ไปเก็บไว้ที่สวนหลังบ้านก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกเราจะเอาไปสร้างเล้าไก่"

หลินเสี่ยวหมิงพยักหน้ารับด้วยความกระตือรือร้น พวกเขาเดินตรงไปที่สวนหลังบ้านอย่างร่าเริง

ร่างบางหันมามองตะกร้าสานที่มีหน่อไม้ ผักป่า เห็ดระโงก และผลไม้ป่าที่เก็บมา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอนึกถึงเมนูอาหารแสนอร่อยที่เธอจะรังสรรค์ขึ้นมาในวันนี้

แต่ทว่า...

หลินเสี่ยวเหยาไม่เคยทำอาหารป่ามาก่อน เธอจึงตัดสินใจก้าวเข้าไปในมิติ ทันทีที่เธอปรากฏตัวภายในมิติ เธอก็รีบตรงไปที่ร้านหนังสือขนาดใหญ่ ดวงตาของเธอค้นหาหนังสือสอนทำอาหารป่าอย่างตั้งใจ

ในที่สุดเธอก็เจอหนังสือที่ต้องการ หญิงสาวหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เธอรวบรวมความรู้และเทคนิคการปรุงอาหารป่าอย่างละเอียด

เมื่อกลับมาโผล่โลกแห่งความเป็นจริง ร่างบางก็เริ่มลงมือทำอาหารตามสูตรในหนังสือ เธอใส่ใจทุกขั้นตอน พิถีพิถันคัดสรรวัตถุดิบ ผสมผสานเครื่องปรุงรสจนกลมกล่อม

ไม่นานกลิ่นหอมฟุ้งของอาหารป่าก็โชยตลบอบอวลไปทั่วบ้าน หลินเสี่ยวหมิงที่พึ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ เดินตามกลิ่นหอมมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เมื่อเขาเห็นอาหารที่วางไว้ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

"พี่สาว พี่ทำอาหารอะไรน่ะ?" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น

"พี่ลองทำอาหารป่าดูบ้าง เผื่อว่าน้องเล็กจะชอบ" ผู้เป็นพี่สาวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

หลินเสี่ยวหมิงตักอาหารป่าเข้าปาก คำแรกที่เขาสัมผัสได้คือรสชาติเผ็ดร้อน กลมกล่อม ผสมผสานกับความหอมของผักป่าและเห็ดระโงก

"อร่อยมากเลยพี่สาว!" เด็กน้อยร้องด้วยความดีใจ

หลินเสี่ยวเหยารู้สึกดีใจที่น้องชายชอบอาหารที่เธอทำ เธอมองไปที่จานอาหารของคุณตัวร้ายที่วางอยู่ข้างๆ

‘เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จค่อยยกอาหารไปให้คุณตัวร้ายแล้วกัน’ เธอครุ่นคิดอยู่ในใจ

"เดี๋ยวพี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวพวกเราค่อยมาทานข้าวด้วยกัน" เธอบอกน้องชายก่อนที่จะเดินไปอาบน้ำที่หลังบ้าน

ที่นี่ไม่มีห้องน้ำ มีแค่ไม้กั้นบาง ๆ เท่านั้น เธอคิดว่าถ้ามีเวลาเธอจะทำห้องน้ำ จะให้เธออาบที่โล่งๆ ไม่มีประตูปิด แบบนี้ก็ดูจะวาบหวิวยังไงไม่รู้

เธอนำสบู่หอม ออกมาจากมิติ ก่อนจะจัดการการอาบสระผมทันที ไม่นานนัก หลินเสี่ยวเหยาก็เดินออกมาจากหลังบ้าน ใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นทันที

หลินเสี่ยวหมิงนั่งรอพี่สาวของเขาอย่างใจจดใจจ่อ รอคอยที่จะได้ทานอาหารเย็นแสนอร่อย

ในที่สุด เสียงฝีเท้าของหญิงสาวก็ดังขึ้น เด็กน้อยหันไปมอง เห็นพี่สาวของเขาเดินเข้ามาในห้องครัว

หลินเสี่ยวเหยา สวมชุดสีฟ้าอ่อนเรียบง่าย ผมยาวสีดำขลับของเธอถูกมัดรวบไว้เอย่างเรียบร้อย ใบหน้าของเธอเปื้อนยิ้มอย่างมีความสุข

"เสี่ยวหมิง พี่สาวอาบน้ำแล้ว!" ผู้เป็นพี่สาวเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส

กลิ่นหอมของกับข้าวโชยมาแตะจมูก บนโต๊ะมีกับข้าวหลายอย่าง

"น้องเล็ก เดี๋ยวน้องมาช่วยพี่นำกับข้าวไปจัดวางตรงโต๊ะอาหารที่ลานบ้านให้หน่อย" หลินเสี่ยวเหยาเรียกเสี่ยวหมิง ที่กำลังจ้องมองกับข้าวตาลุกวาว

"ได้ครับพี่เสี่ยวเหยา" เด็กน้อยรับคำ

"เดี๋ยวพี่สาวยกกับข้าวให้สหายหยางก่อนนะ เดี๋ยวพวกเราค่อยมาทานข้าวด้วยกัน" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยขึ้น

เสี่ยวหมิงพยักหน้ารับ "ครับพี่สาว"

หลังจากน้องชายเธอยกกับข้าวไปไว้ที่ลานหน้าหน้าบ้าน หลินเสี่ยวเหยามองกับข้าวของคุณตัวร้าย

"หวังว่าหยางเฟิงจะชอบเหมือนกันนะ" เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง

หญิงสาวตักอาหารป่าใส่ถ้วยกระเบื้อง เติมน้ำซุปอุ่นๆ ราดลงบนข้าวสวย รังสรรค์เป็นเมนูพิเศษสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

ร่างบางยกอาหารของคุณตัวร้ายเดินมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของเธอที่ตอนนี้โดนชายหนุ่มยึดครองอยู่

เมื่อมาถึงห้องนอน เธอจ้องมองดูคนร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนเตียง ใบหน้าของเขาซีดเผือด เต็มไปร่องรอยด้วยรอยแผลขีดข่วนทั่วตัว แต่ก็ยังดูหล่อเหลาอยู่

คนร่างบางวางชามข้าวลงบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะโน้มตัวไปแตะหน้าผากของหยางเฟิง ร่างกายของเขายังคงอุ่นๆ แสดงว่าอาการไข้เริ่มลดลง

"สหายหยาง... ตื่นมากินข้าวก่อนนะคะ"

หยางเฟิง ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เปลือกตาหนักอึ้งจากฤทธิ์ยา เมื่อสายตาของเขามองเห็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ภาพแรกที่สะท้อนให้เห็นจอประสาทคือรอยยิ้มหวานละมุนของคนร่างบาง กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเส้นผมของเธอโชยมาแตะจมูก เขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ

"สหายหยางรู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคะ?" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวลเมื่อเห็นเขาทำหน้าตาแปลกๆ

ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ ร่างกายของเขายังรู้สึกอ่อนเพลียจากบาดแผลที่ถูกยิง

"คุณทานข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะได้ทานยาต่อ" หลินเสี่ยวเหยาวางชามอาหารป่า ที่ใส่วัตถุดิบบำรุงเลือดไว้ตรงหน้าเจ้าของรอยสักรูปมังกร

หยางเฟิงจ้องมองดูอาหารป่าที่เต็มไปด้วยสมุนไพร น้ำซุปสีเหลืองทองอร่ามส่งกลิ่นหอมเย้ายวน น้ำลายของเขาเริ่มไหล

คนร่างสูงเริ่มตักอาหารเข้าปาก น้ำซุปกลมกล่อมช่างอร่อยเหลือเกิน

"คุณทานเยอะๆ นะคะ คุณจะได้มีแรง" เธอเอ่ยกับคุณตัวร้าย

หลังจากหยางเฟิงทานอาหารเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็เอายาแก้ปวดมาให้เขาทาน

"สหายหยางคุณทานยานี้ก่อนนะคะ เผื่อจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้บ้าง"

"ขอบคุณนะครับสหายหลิน" เขากล่าวด้วยความซึ้งใจ

หยางเฟิงกลืนยาแก้ปวดลงคอ คนร่างสูงรู้สึกว่าอาการปวดของเขาเริ่มจะดีขึ้น

"นี้ก็ดึกแล้ว พักผ่อนก่อนเถอะนะคะ" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยก่อนจะเดินออกจากห้องไป ชายหนุ่มมองตามหลังเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาล ความรู้สึกบางอย่างค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขาอย่างเงียบๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 10 ตบตีพวกเพื่อนนางเอก

    เมื่อคนเป็นพี่สาวเดินมาที่ลานหน้าบ้าน เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงน้องชายของเธอกำลังนั่งรอทานข้าวอย่างใจจดใจจ่อ บนโต๊ะไม้เก่า ๆ มีแกงผักป่าร้อน ๆ กับข้าวสวยวางอยู่ เมื่อเธอเดินมาหาน้องชาย หลินเสี่ยวหมิงยิ้มร่าด้วยความดีใจ"พี่เสี่ยวเหยา แกงที่พี่ทำมันหอมมากเลยครับ จนน้ำลายผมไหลยืด" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยขึ้น"มันหอมเพราะพี่สาวใส่เครื่องปรุงตามสูตรที่พี่สาวคิดค้นขึ้น มันทำให้น้ำแกงอร่อยขึ้น ถ้าน้องเล็กชอบพี่สาวจะทำให้ทานทุกวัน" หลินเสี่ยวเหยาตักแกงใส่ถ้วย ส่งให้น้องชายหลินเสี่ยวหมิงตักแกงเข้าปาก เคี้ยวช้า ๆ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเด็กน้อย"อร่อยมากเลยพี่สาว ฝีมือพี่นี่ไม่แพ้แม่เลยนะ" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยชมไม่หยุด‘หึ..ถ้าไม่มีเครื่องปรุงสำเร็จรูปกับข้าว ฉันก็คงทำคงไม่อร่อยเท่านี้หรอก’ หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโชคดีที่ในห้างสรรพสินค้าของเธอมีเครื่องปรุงสำเร็จรูปครบครันทำให้การใช้ชีวิตในยุคนี้ ไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิดหลังจากทานข้าวเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็ทำการเก็บกวาดโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันมาบอกกับน้องชาย"เสี่ยวหมิง วันนี้น้องเหนื่อยมาทั้งวัน เดี๋ยวน้องไปพักผ่อนได้แล้ว""ครับพี่สาว เดี๋ยวผมไปก่อนนะครับ" เด็กชายพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 11 จูบทางอ้อม

    ณ เมืองหลวงหลิวซิวหยวน มารดาของ หยางเฟิง เดินเข้ามาหา หยางกั๋วเฉิง ผู้เป็นสามีด้วยความร้อนใจ เธออยากรู้ว่าทำไมลูกชายเธอถึงไม่ยอมกลับมาบ้านสักที เธอพยายามถามผู้เป็นสามี เขาก็ตอบแต่เพียงว่า ลูกสามงานยุ่ง ตามปกติแล้วแม้งานของลูกสามจะยุ่งแค่ไหนเขาจะกลับมาที่บ้านใหญ่เสมอ เพื่อมาเยี่ยมครอบครัวทุกอาทิตย์แต่นี่ก็นานมาแล้วที่ลูกชายเธอขาดติดต่อกลับมา ใบหน้าของคุณนายหยางเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อหลิวซิวหยวน มาถึงที่ทำงานของสามี เธอเดินเข้าไปในห้องทำงานของสามีด้วยความรีบร้อน โดยไม่ได้เคาะประตู ทันใดนั้น เธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นภาพที่ไม่คาดคิดหยางกั๋วเฉิง สามีของเธอ กำลังนั่งสนทนาอยู่กับ หลิวซิวฉีพี่ชายของเธอ ใบหน้าของทั้งคู่ดูเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยความกังวล"พี่ชาย!" หลิวซิวหยวนร้องออกไปด้วยความตกใจ "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนหน้าถึงทำหน้าเคร่งเครียดแบบนี้?"หลิวซิวฉี หันมามองน้องสาว ก่อนจะถอนหายใจยาว "เจ้าสาม เขา...""เขา… เป็นอะไรไป?" คุณนายหยางรีบเอ่ยถามด้วยความร้อนรน หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว"เจ้าสามเขา... ไปปฏิบัติภารกิจลับ เพียงแต่ว่า... ตอนนี้พวกเราได้ขาดการติดต่อกับเจ้าสาม มาหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 12 เปิดเผยความลับ

    หลินเสี่ยวเหยา ก้าวเท้าออกมาจากบ้านดินหลังเล็ก ก่อนที่จะเดินตรงไปยังแปลงผักที่อยู่หลังบ้านเธอเห็นหลินเสี่ยวหมิง กำลังยืนอยู่หน้าแปลงผัก สายตาของเขาจดจ่อกับต้นผักกาดหอมที่เพิ่งปลูกไปเมื่อวานนี้ ใบสีเขียวอ่อนเริ่มคลี่ออก เผยให้เห็นยอดอ่อนสีขาว หลินเสี่ยวเหยาเดินเข้าไปหาเด็กชาย"น้องเล็กทำอะไรอยู่เหรอ?""พี่สาวดูสิครับ ต้นผักกาดเริ่มแตกใบแล้ว!" หลินเสี่ยวหมิงตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขารู้สึกดีใจที่ได้เห็นผลลัพธ์จากการทุ่มเทดูแลแปลงผักหลินเสี่ยวเหยาโน้มตัวลง มองดูต้นผักกาดอย่างใกล้ชิด รอยยิ้มของเธอขยายกว้างขึ้น "น้องเล็กเก่งมากเลยนะ เป็นเพราะน้องเล็กช่วยพี่สาวรดน้ำ เมล็ดจึงแตกยอดออกมา" เธอเอื้อมมือลูบศีรษะน้องชายเบาๆ"ต่อไปเราก็จะมีผักสดๆ ไว้กินเองแล้ว"หลินเสี่ยวหมิงดีใจสุดๆ เขาตั้งตารอที่จะได้กินผักกาดที่ดูแลเองกับมือท่ามกลางความร่าเริงของเด็กน้อย หลินเสี่ยวเหยากำลังครุ่นคิดว่าจะบอกความจริงเรื่องมิติของเธอให้น้องชายได้รับรู้หรือไม่ เธออยากนำเครื่องมือในห้างสรรพสินค้าของมาสร้างเล้าไก่ คนร่างบางรู้สึกลังเลใจว่าจะบอกน้องชายดีหรือไม่หลินเสี่ยวเหยานึกถึงเรื่องราวในนิยายที่เธอหลุดเข้ามา น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 13 เอาคืนพวกเพื่อนพระเอก

    จ้าวหยวนตงยื่นมือไปคว้าตะกร้าหวายจากหลินเสี่ยวเหยาที่มีผ้าขาวปกคลุมเอาไว้"สหายหลิน จะรีบไปไหน พวกเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ" จ้าวหยวนตงยิ้มเจ้าเล่ห์หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโกรธแค้น เธอพยายามเดินหนี แต่ชายหนุ่มจับตะกร้าเธอไว้แน่น"ปล่อยตะกร้าฉันเดี๋ยวนี้! ของพวกนี้ไม่ใช่ของพวกแก!" หลินเสี่ยวเหยาตะโกนกลับมา"ของฝากพวกนี้เอามาให้สหายเหว่ยเฉียงใช่มั้ยล่ะ? เดี๋ยวพวกเราเอาไปให้เขาเอง สหายหลินไม่ต้องเป็นห่วง" กัวเฉิงหลง ชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจหลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้พวกชาวบ้านเลิกงานเริ่มทยอยออกมาประปราย หญิงสาวไม่กล้าใช้ความรุนแรง ในขณะที่เธอกำลังจะยื้อตะกร้า จ้าวหยวนตงทำท่าจะโน้มตัวลงมาดูของในตะกร้าว่ามีอะไรบ้างทันใดนั้นเธอแกล้งก็ใช้ศอกฟาดเข้าที่ปากของจ้าวหยวนตงอย่างแรงจนชายหนุ่มเซไปข้างหลัง เลือดไหลซิบจากมุมปาก"โอ๊ย!" จ้าวหยวนตงร้องโอดโอย ก่อนจะปล่อยตะกร้าหวายออกจากมือ ชายหนุ่มไม่พอใจกล่าวว่าหญิงสาวตรงหน้าทันที"แกนังตัวดี! แกกล้ามาทำร้ายฉันเหรอ?!"จ้าวหยวนตงตะโกนขึ้นผู้คนรอบข้างเริ่มหยุดชะงัก มองมาที่หลินเสี่ยวเหยาและจ้าวหยวนตงด้วยความตกใจ เสียงโหวกเหวก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 14 อย่าทำให้ฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้

    หลังจากหลินเสี่ยวเหยาออกจากบ้านลุงเหวินมา หญิงสาวรีบเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวน้องชายจะหิ้วท้องรอ เธอก้าวเท้าผ่านแปลงนาด้วยความเร่งรีบ มุ่งหน้ากลับบ้านที่อยู่ติดกับเชิงเขาที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ท่ามกลางดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกลุ่มชายหนุ่มสามคนที่ยืนดักรอเธออยู่"นังตัวดี!" จ้าวหยวนตงตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ฉันจะแก้แค้นที่แกทำปากฉันแตก! ตอนนี้พวกชาวบ้านต่างก็กลับบ้านไปกันหมดแล้ว ไม่มีใครช่วยเหลือแกได้ ถ้าแกไม่อยากเจ็บตัว ก็นำข้าวของมาให้พวกฉันซะ!" ชายหนุ่มข่มขู่หลินเสี่ยวเหยาทันทีหลินเสี่ยวเหยา กัดฟันกรอด ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอไม่คิดจะให้ใครมารังแกเธอได้ง่ายๆ หรอก"ไอ้จ้าวหยวนตง แกอย่ามาหาเรื่อง ฉันไม่มีของอะไรจะให้แก" หลินเสี่ยวเหยา ตะโกนโต้กลับไป ด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว"นังนี่มันปากดีจริงๆ พวกเราจัดการสั่งสอนนังผู้หญิงคนนี้กันหน่อย!" จ้าวหยวนตง เรียกเพื่อนสนิททั้งสอง ตรงรี่เข้าหาหลินเสี่ยวเหยา"เฮอะ..ในเมื่อฉันไม่ได้ไปหาเรื่องพวกแก แต่พวกแกกับเสือกหาเรื่องเอง แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนละ ถ้าพวกแกแน่จริง ก็เข้ามา" หญิงสาวตะโกน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 15 คุณเลิกอ่อยฉันได้แล้ว

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเสี่ยวเหยา ตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะโหลสะเหล เธอนอนไม่หลับทั้งคืน ภาพใบหน้าหล่อเหลาของคุณตัวร้าย ย้ำเตือนความทรงจำเมื่อคืน น้ำเสียงอันทุ่ม นุ่มลึก ของร่างสูงที่บอกว่าเธอ"น่ารัก" ยังคงก้องอยู่ในหูความร้อนผ่าวจากใบหน้าไต่ขึ้นสู่แก้ม แก้มของเธอแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแค่คิดถึงมัน หัวใจของเธอก็เต้นระรัวเมื่อคืนนี้ เธอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่ม แม้จะนอนคนละที่กัน แต่ความใกล้ชิดก็เพียงพอที่จะปลุกเร้าจินตนาการของหญิงสาว"โอ๊ย…คุณตัวร้ายแอบคิดอะไรเกินเลยกับเธอหรือเปล่า" เสียงร้องอุทานของเธอแทบจะหลุดออกมา หัวใจเธอเต้นตึกตัก ภาพใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกริ่มของพันตรีหนุ่มลอยมาปรากฏในความคิดหลินเสี่ยวเหยาพลิกตัวไปมาบนเสื่อ ด้วยอาการของคนนอนไม่หลับ เธอครุ่นคิดว่าชายหนุ่มกำลังจะจีบเธอหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่กล้าคิดเกินเลยไปไกล ทำให้คิดวนเวียนไปมาเธอนอนหลับๆ ตื่นๆ พอรู้ตัวอีกทีเกือบใกล้รุ่งเช้าแล้วคนร่างบางจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ห้องครัว หวังจะดื่มกาแฟร้อนๆ สักแก้ว เพื่อปลุกให้ตัวเองตื่นเต็มตาเช้านี้ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย หญิงสาวเดินไปที่เตาฟืน ก่อไฟต้มน้ำร้อน เสียงฟืนที่แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 1 ก่อนการเปลี่ยนแปลง

    ณ ฐานทัพเมือง A อันเงียบสงัด ท่ามกลางซากปรักหักพังของอารยธรรมที่ล่มสลาย ทีมของหลินเสี่ยวเหยา เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจสำคัญ พวกเขาคือความหวังในการอยู่รอดของฐานทัพแห่งนี้หลินเสี่ยวเหยา เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม เธอมีน้องสาวคนสนิท อย่างหลินเสี่ยวถง ที่คอยช่วยเหลือเธอในทุกสถานการณ์ และเจิ้งห้าว แฟนหนุ่มของหลินเสี่ยวเหยา ที่เป็นนักสู้ผู้เก่งกาจและเป็นที่พึ่งพิงของทุกคนในทีม นอกจากนี้ยังมีเพื่อนร่วมทีมอีกห้าคนที่ต่างก็มีความสามารถพิเศษกันทุกคน พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมของฐาน A"ทุกคนพร้อมไหม?" เจิ้งห้าวที่เป็นหัวหน้าทีมเอ่ยถามสมาชิกร่วมทีมทุกคน ทุกคนพยักหน้ารับพร้อมเพรียง"ภารกิจในวันนี้สำคัญมาก พวกเราต้องออกไปหาเสบียงอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้ได้มากที่สุด" เจิ้งห้าวกล่าวต่อ "จำไว้ว่าทุกคนต้องระวังตัวให้มาก โลกภายนอกไม่ปลอดภัยอีกต่อไป"ทีมของเจิ้งห้าวออกเดินทางจากฐานทัพด้วยรถบรรทุกคันใหญ่ พวกเขาต้องเดินทางไกลในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ถูกทิ้งร้าง หลินเสี่ยวเหยาและทีมรีบเข้าไปสำรวจภายในห้างสรรพสินค้า พวกเขาพบกับอาหารกระป๋อง น้ำดื่ม ยา และของใช้ที่จำเป็นอื่น ๆ อี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 2 ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

    "โอ๊ยยยยย" หลินเสี่ยวเหยาครางออกมาอย่างทรมาน เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างมึนงง ภาพตรงหน้าพร่าเลือนก่อนจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เผยให้เห็นห้องนอนไม้เก่าๆ ทรุดโทรม แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านช่องหน้าต่างเล็กๆ ส่องกระทบใบหน้าซีดเซียวของเธอ ความเจ็บแปลบแล่นริ้วไปทั่วศีรษะราวกับเพิ่งถูกกระแทกอย่างแรง"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน" หลินเสี่ยวเหยาบ่นพึมพำกับตัวเอง เธอลุกขึ้นนั่งแล้วสำรวจตัวเอง หญิงสาวไม่พบร่องรอยบาดแผลจากฝูงซอมบี้แม้แต่น้อย"นี้ฉันจะฝันไปหรือเปล่า... ที่นี่คือที่ไหนกันแน่?" หลินเสี่ยวเหยาครุ่นคิดอย่างสับสนทันใดนั้น ความทรงจำของเจ้าของร่างนี้ก็ไหลทะลักเข้ามาในหัวของเธอราวกับเขื่อนแตก หลินเสี่ยวเหยาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอจำได้ทันที… ว่าเธอเข้ามาอยู่ในนิยายที่เพิ่งอ่านจบไปก่อนที่จะตายนี่นา! และที่ร้ายยิ่งกว่านั้น เธอยังมาอยู่ในร่างของนางร้าย ‘หลินเสี่ยวเหยา’ ที่ดันมีชื่อเหมือนกับเธออีกหญิงสาวพยายามตั้งสติ พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เดินไปที่หน้าต่างแล้วมองออกไปข้างนอก เห็นทุ่งนาเขียวขจีและภูเขาสูงตระหง่านที่แห่งนี้อยู่ในยุคมืดในปี 1970 ผู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 15 คุณเลิกอ่อยฉันได้แล้ว

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเสี่ยวเหยา ตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะโหลสะเหล เธอนอนไม่หลับทั้งคืน ภาพใบหน้าหล่อเหลาของคุณตัวร้าย ย้ำเตือนความทรงจำเมื่อคืน น้ำเสียงอันทุ่ม นุ่มลึก ของร่างสูงที่บอกว่าเธอ"น่ารัก" ยังคงก้องอยู่ในหูความร้อนผ่าวจากใบหน้าไต่ขึ้นสู่แก้ม แก้มของเธอแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแค่คิดถึงมัน หัวใจของเธอก็เต้นระรัวเมื่อคืนนี้ เธอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่ม แม้จะนอนคนละที่กัน แต่ความใกล้ชิดก็เพียงพอที่จะปลุกเร้าจินตนาการของหญิงสาว"โอ๊ย…คุณตัวร้ายแอบคิดอะไรเกินเลยกับเธอหรือเปล่า" เสียงร้องอุทานของเธอแทบจะหลุดออกมา หัวใจเธอเต้นตึกตัก ภาพใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกริ่มของพันตรีหนุ่มลอยมาปรากฏในความคิดหลินเสี่ยวเหยาพลิกตัวไปมาบนเสื่อ ด้วยอาการของคนนอนไม่หลับ เธอครุ่นคิดว่าชายหนุ่มกำลังจะจีบเธอหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่กล้าคิดเกินเลยไปไกล ทำให้คิดวนเวียนไปมาเธอนอนหลับๆ ตื่นๆ พอรู้ตัวอีกทีเกือบใกล้รุ่งเช้าแล้วคนร่างบางจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ห้องครัว หวังจะดื่มกาแฟร้อนๆ สักแก้ว เพื่อปลุกให้ตัวเองตื่นเต็มตาเช้านี้ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย หญิงสาวเดินไปที่เตาฟืน ก่อไฟต้มน้ำร้อน เสียงฟืนที่แ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 14 อย่าทำให้ฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้

    หลังจากหลินเสี่ยวเหยาออกจากบ้านลุงเหวินมา หญิงสาวรีบเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวน้องชายจะหิ้วท้องรอ เธอก้าวเท้าผ่านแปลงนาด้วยความเร่งรีบ มุ่งหน้ากลับบ้านที่อยู่ติดกับเชิงเขาที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ท่ามกลางดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกลุ่มชายหนุ่มสามคนที่ยืนดักรอเธออยู่"นังตัวดี!" จ้าวหยวนตงตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ฉันจะแก้แค้นที่แกทำปากฉันแตก! ตอนนี้พวกชาวบ้านต่างก็กลับบ้านไปกันหมดแล้ว ไม่มีใครช่วยเหลือแกได้ ถ้าแกไม่อยากเจ็บตัว ก็นำข้าวของมาให้พวกฉันซะ!" ชายหนุ่มข่มขู่หลินเสี่ยวเหยาทันทีหลินเสี่ยวเหยา กัดฟันกรอด ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอไม่คิดจะให้ใครมารังแกเธอได้ง่ายๆ หรอก"ไอ้จ้าวหยวนตง แกอย่ามาหาเรื่อง ฉันไม่มีของอะไรจะให้แก" หลินเสี่ยวเหยา ตะโกนโต้กลับไป ด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว"นังนี่มันปากดีจริงๆ พวกเราจัดการสั่งสอนนังผู้หญิงคนนี้กันหน่อย!" จ้าวหยวนตง เรียกเพื่อนสนิททั้งสอง ตรงรี่เข้าหาหลินเสี่ยวเหยา"เฮอะ..ในเมื่อฉันไม่ได้ไปหาเรื่องพวกแก แต่พวกแกกับเสือกหาเรื่องเอง แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนละ ถ้าพวกแกแน่จริง ก็เข้ามา" หญิงสาวตะโกน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 13 เอาคืนพวกเพื่อนพระเอก

    จ้าวหยวนตงยื่นมือไปคว้าตะกร้าหวายจากหลินเสี่ยวเหยาที่มีผ้าขาวปกคลุมเอาไว้"สหายหลิน จะรีบไปไหน พวกเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ" จ้าวหยวนตงยิ้มเจ้าเล่ห์หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโกรธแค้น เธอพยายามเดินหนี แต่ชายหนุ่มจับตะกร้าเธอไว้แน่น"ปล่อยตะกร้าฉันเดี๋ยวนี้! ของพวกนี้ไม่ใช่ของพวกแก!" หลินเสี่ยวเหยาตะโกนกลับมา"ของฝากพวกนี้เอามาให้สหายเหว่ยเฉียงใช่มั้ยล่ะ? เดี๋ยวพวกเราเอาไปให้เขาเอง สหายหลินไม่ต้องเป็นห่วง" กัวเฉิงหลง ชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจหลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้พวกชาวบ้านเลิกงานเริ่มทยอยออกมาประปราย หญิงสาวไม่กล้าใช้ความรุนแรง ในขณะที่เธอกำลังจะยื้อตะกร้า จ้าวหยวนตงทำท่าจะโน้มตัวลงมาดูของในตะกร้าว่ามีอะไรบ้างทันใดนั้นเธอแกล้งก็ใช้ศอกฟาดเข้าที่ปากของจ้าวหยวนตงอย่างแรงจนชายหนุ่มเซไปข้างหลัง เลือดไหลซิบจากมุมปาก"โอ๊ย!" จ้าวหยวนตงร้องโอดโอย ก่อนจะปล่อยตะกร้าหวายออกจากมือ ชายหนุ่มไม่พอใจกล่าวว่าหญิงสาวตรงหน้าทันที"แกนังตัวดี! แกกล้ามาทำร้ายฉันเหรอ?!"จ้าวหยวนตงตะโกนขึ้นผู้คนรอบข้างเริ่มหยุดชะงัก มองมาที่หลินเสี่ยวเหยาและจ้าวหยวนตงด้วยความตกใจ เสียงโหวกเหวก

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 12 เปิดเผยความลับ

    หลินเสี่ยวเหยา ก้าวเท้าออกมาจากบ้านดินหลังเล็ก ก่อนที่จะเดินตรงไปยังแปลงผักที่อยู่หลังบ้านเธอเห็นหลินเสี่ยวหมิง กำลังยืนอยู่หน้าแปลงผัก สายตาของเขาจดจ่อกับต้นผักกาดหอมที่เพิ่งปลูกไปเมื่อวานนี้ ใบสีเขียวอ่อนเริ่มคลี่ออก เผยให้เห็นยอดอ่อนสีขาว หลินเสี่ยวเหยาเดินเข้าไปหาเด็กชาย"น้องเล็กทำอะไรอยู่เหรอ?""พี่สาวดูสิครับ ต้นผักกาดเริ่มแตกใบแล้ว!" หลินเสี่ยวหมิงตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขารู้สึกดีใจที่ได้เห็นผลลัพธ์จากการทุ่มเทดูแลแปลงผักหลินเสี่ยวเหยาโน้มตัวลง มองดูต้นผักกาดอย่างใกล้ชิด รอยยิ้มของเธอขยายกว้างขึ้น "น้องเล็กเก่งมากเลยนะ เป็นเพราะน้องเล็กช่วยพี่สาวรดน้ำ เมล็ดจึงแตกยอดออกมา" เธอเอื้อมมือลูบศีรษะน้องชายเบาๆ"ต่อไปเราก็จะมีผักสดๆ ไว้กินเองแล้ว"หลินเสี่ยวหมิงดีใจสุดๆ เขาตั้งตารอที่จะได้กินผักกาดที่ดูแลเองกับมือท่ามกลางความร่าเริงของเด็กน้อย หลินเสี่ยวเหยากำลังครุ่นคิดว่าจะบอกความจริงเรื่องมิติของเธอให้น้องชายได้รับรู้หรือไม่ เธออยากนำเครื่องมือในห้างสรรพสินค้าของมาสร้างเล้าไก่ คนร่างบางรู้สึกลังเลใจว่าจะบอกน้องชายดีหรือไม่หลินเสี่ยวเหยานึกถึงเรื่องราวในนิยายที่เธอหลุดเข้ามา น

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 11 จูบทางอ้อม

    ณ เมืองหลวงหลิวซิวหยวน มารดาของ หยางเฟิง เดินเข้ามาหา หยางกั๋วเฉิง ผู้เป็นสามีด้วยความร้อนใจ เธออยากรู้ว่าทำไมลูกชายเธอถึงไม่ยอมกลับมาบ้านสักที เธอพยายามถามผู้เป็นสามี เขาก็ตอบแต่เพียงว่า ลูกสามงานยุ่ง ตามปกติแล้วแม้งานของลูกสามจะยุ่งแค่ไหนเขาจะกลับมาที่บ้านใหญ่เสมอ เพื่อมาเยี่ยมครอบครัวทุกอาทิตย์แต่นี่ก็นานมาแล้วที่ลูกชายเธอขาดติดต่อกลับมา ใบหน้าของคุณนายหยางเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อหลิวซิวหยวน มาถึงที่ทำงานของสามี เธอเดินเข้าไปในห้องทำงานของสามีด้วยความรีบร้อน โดยไม่ได้เคาะประตู ทันใดนั้น เธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นภาพที่ไม่คาดคิดหยางกั๋วเฉิง สามีของเธอ กำลังนั่งสนทนาอยู่กับ หลิวซิวฉีพี่ชายของเธอ ใบหน้าของทั้งคู่ดูเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยความกังวล"พี่ชาย!" หลิวซิวหยวนร้องออกไปด้วยความตกใจ "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนหน้าถึงทำหน้าเคร่งเครียดแบบนี้?"หลิวซิวฉี หันมามองน้องสาว ก่อนจะถอนหายใจยาว "เจ้าสาม เขา...""เขา… เป็นอะไรไป?" คุณนายหยางรีบเอ่ยถามด้วยความร้อนรน หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว"เจ้าสามเขา... ไปปฏิบัติภารกิจลับ เพียงแต่ว่า... ตอนนี้พวกเราได้ขาดการติดต่อกับเจ้าสาม มาหล

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 10 ตบตีพวกเพื่อนนางเอก

    เมื่อคนเป็นพี่สาวเดินมาที่ลานหน้าบ้าน เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงน้องชายของเธอกำลังนั่งรอทานข้าวอย่างใจจดใจจ่อ บนโต๊ะไม้เก่า ๆ มีแกงผักป่าร้อน ๆ กับข้าวสวยวางอยู่ เมื่อเธอเดินมาหาน้องชาย หลินเสี่ยวหมิงยิ้มร่าด้วยความดีใจ"พี่เสี่ยวเหยา แกงที่พี่ทำมันหอมมากเลยครับ จนน้ำลายผมไหลยืด" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยขึ้น"มันหอมเพราะพี่สาวใส่เครื่องปรุงตามสูตรที่พี่สาวคิดค้นขึ้น มันทำให้น้ำแกงอร่อยขึ้น ถ้าน้องเล็กชอบพี่สาวจะทำให้ทานทุกวัน" หลินเสี่ยวเหยาตักแกงใส่ถ้วย ส่งให้น้องชายหลินเสี่ยวหมิงตักแกงเข้าปาก เคี้ยวช้า ๆ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเด็กน้อย"อร่อยมากเลยพี่สาว ฝีมือพี่นี่ไม่แพ้แม่เลยนะ" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยชมไม่หยุด‘หึ..ถ้าไม่มีเครื่องปรุงสำเร็จรูปกับข้าว ฉันก็คงทำคงไม่อร่อยเท่านี้หรอก’ หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโชคดีที่ในห้างสรรพสินค้าของเธอมีเครื่องปรุงสำเร็จรูปครบครันทำให้การใช้ชีวิตในยุคนี้ ไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิดหลังจากทานข้าวเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็ทำการเก็บกวาดโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันมาบอกกับน้องชาย"เสี่ยวหมิง วันนี้น้องเหนื่อยมาทั้งวัน เดี๋ยวน้องไปพักผ่อนได้แล้ว""ครับพี่สาว เดี๋ยวผมไปก่อนนะครับ" เด็กชายพ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 9 หาของป่า

    หลินเสี่ยวเหยา เดินออกจากห้องมา เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงกำลังนั่งรอเธออยู่ที่ลานหน้าบ้าน บนพื้นมีตะกร้าสานใบโปรดวางอยู่พร้อมกับขวานตัดฟืนและมีดพร้า หลินเสี่ยวเหยาเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดเก่าๆ มัดผมเรียบง่าย คว้าตะกร้าสานที่บรรจุเครื่องมือและของทานเล่นนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับผู้เป็นน้องชายพวกเขาเดินมุ่งหน้าไปยังป่าไผ่ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ป่าไผ่แห่งนี้เป็นแหล่งอาหารสำคัญสองคนพี่น้อง ซึ่งเมื่อก่อนหลินเสี่ยวหมิงมักจะเข้ามาหาของป่าให้พี่สาวอยู่เป็นประจำเมื่อมาถึงจุดที่เต็มไปด้วยต้นไผ่ หลินเสี่ยวเหยาก็หยุดลง เธอวางตะกร้าสานลงบนพื้น หยิบขวานอันคมออกมาจากตะกร้า ผู้เป็นพี่สาวเริ่มสอนน้องชายถึงวิธีการตัดต้นไผ่"เสี่ยวหมิง น้องจับขวานให้มั่นนะ ตีตรงโคนต้นไผ่ ระวังอย่าให้โดนเท้าตัวเอง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเด็กน้อยพยักหน้ารับอย่างตั้งใจ ดวงตาของเขาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น เขาสวมหมวกฟางเก่า ๆ กำขวานแน่นในมือเล็ก ๆ พยายามเลียนแบบท่าทางของผู้เป็นพี่สาว"ผลัวะ!" เสียงขวานดังก้องไปทั่วป่า หลินเสี่ยวหมิงฟาดฟันต้นไผ่อย่างขะมักเขม้น แม้ว่าแรงของเขาจะยังไม่มากนัก แต่เขาก็พยายามอย่าง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 8 ผมสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆ

    หลินเสี่ยวเหยา เดินกลับมาถึงบ้านหลังเล็กๆ ของเธอ ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่และหญ้ารกทึบ คนเป็นพี่สาวเห็นน้องชายกำลัง กำลังก้มหน้าก้มตาถางหญ้าอยู่คนเดียว เหงื่อของเขาไหลอาบบนใบหน้า แววตาเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยด้วยความสงสารเด็กน้อยตัวเล็กๆ ที่ต้องทำงานหนักเหมือนผู้ใหญ่ หลินเสี่ยวเหยาก็รีบเดินตรงไปที่ห้องครัว เธอหยิบขวดน้ำหวานเย็นๆ และขนมปังแสนอร่อยจากมิติของเธอหญิงสาวเทน้ำหวานใส่กระบอกไม้ไผ่ และวางขนมปังอบกรอบไว้บนจานกระเบื้องเก่าๆ จากนั้นก็เดินตรงไปหาหลินเสี่ยวหมิงที่ทำงานอยู่สวนหลังบ้าน"เสี่ยวหมิง! พี่กลับมาแล้ว!" หญิงสาวตะโกนเรียกน้องชายด้วยน้ำเสียงสดใสและอบอุ่นหลินเสี่ยวหมิงเงยหน้าขึ้นจากแปลงผัก ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นพี่สาวกลับมาถึงบ้าน "พี่สาว! กลับมาแล้วเหรอครับ!" เขารีบวิ่งเข้าไปหาพี่สาวด้วยความดีใจหญิงสาวยิ้มกว้างพลางลูบหัวน้องชายเบาๆ "อืม... พี่กลับมาแล้ว" เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เสี่ยวหมิงไปพักก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะช่วยถางหญ้าต่อเอง""แต่ว่า..." หลินเสี่ยวหมิงทำท่าจะแย้งผู้เป็นพี่สาวขัดขึ้น "ไม่มีแต่" เธอยิ้มให้น้องชาย "พี่สาวแข็งแรงจะตายไป น้องเล็กไปพักผ่อนเถอะ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 7 ปะทะพวกเพื่อนนางเอก

    หลินเสี่ยวเหยายกกับข้าวมาให้หยางเฟิงที่เตียง ชายหนุ่มมองอาหารตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอาหารธรรมดา ๆ จะดูน่ารับประทานได้ขนาดนี้เขาตักข้าวต้มเข้าปากคำแรก รสชาติกลมกล่อมของข้าวต้มทำให้เขาแทบหยุดไม่ได้ เขาตักข้าวต้มเข้าปากคำแล้วคำเล่า จนข้าวต้มหมดถ้วย"อร่อยมากเลยครับ" ชายหนุ่มกล่าวชมด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจหลินเสี่ยวเหยายิ้มรับคำชม คนในยุคนี้ชาวบ้านทั่วไปชอบทำกับข้าวจืดๆ ไม่ได้เน้นเครื่องปรุงรสอะไร กับข้าวที่เธอใส่ผงปรุงรสไปก็เลยดูอร่อยเป็นพิเศษเธอสามารถทำกับข้าวขายได้เลย ถ้ามีผงปรุงรสอยู่ในมือ รับรองกับข้าวอร่อยทุกอย่าง แต่น่าเสียดายที่ยุคนี้ทำการค้าขายลำบาก"ฉันดีใจที่คุณชอบค่ะ"เธอกล่าวกับชายหนุ่มหลังจากหยางเฟิงทานข้าวเช้าเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็หยิบยาแก้ปวด และยาลดไข้ ออกมา 2 เม็ด"สหายหยางทานยาแก้ปวดและยาลดไข้หน่อยนะคะ อาการของคุณจะได้ดีขึ้น"หยางเฟิงรับยามาดู พบว่าเป็นยาฝรั่งราคาแพง เม็ดสีขาวกลม ๆ"คุณ... เอาเงินมาจากไหนมาซื้อยาพวกนี้?" ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลินเสี่ยวเหยาอึกอักไปชั่วครู่

DMCA.com Protection Status