Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70 / บทที่ 13 เอาคืนพวกเพื่อนพระเอก

Share

บทที่ 13 เอาคืนพวกเพื่อนพระเอก

Author: BBNanz
last update Last Updated: 2024-12-20 15:20:44

จ้าวหยวนตงยื่นมือไปคว้าตะกร้าหวายจากหลินเสี่ยวเหยาที่มีผ้าขาวปกคลุมเอาไว้

"สหายหลิน จะรีบไปไหน พวกเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ" จ้าวหยวนตงยิ้มเจ้าเล่ห์

หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโกรธแค้น เธอพยายามเดินหนี แต่ชายหนุ่มจับตะกร้าเธอไว้แน่น

"ปล่อยตะกร้าฉันเดี๋ยวนี้! ของพวกนี้ไม่ใช่ของพวกแก!" หลินเสี่ยวเหยาตะโกนกลับมา

"ของฝากพวกนี้เอามาให้สหายเหว่ยเฉียงใช่มั้ยล่ะ? เดี๋ยวพวกเราเอาไปให้เขาเอง สหายหลินไม่ต้องเป็นห่วง" กัวเฉิงหลง ชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจ

หลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้พวกชาวบ้านเลิกงานเริ่มทยอยออกมาประปราย หญิงสาวไม่กล้าใช้ความรุนแรง ในขณะที่เธอกำลังจะยื้อตะกร้า จ้าวหยวนตงทำท่าจะโน้มตัวลงมาดูของในตะกร้าว่ามีอะไรบ้าง

ทันใดนั้นเธอแกล้งก็ใช้ศอกฟาดเข้าที่ปากของจ้าวหยวนตงอย่างแรงจนชายหนุ่มเซไปข้างหลัง เลือดไหลซิบจากมุมปาก

"โอ๊ย!" จ้าวหยวนตงร้องโอดโอย ก่อนจะปล่อยตะกร้าหวายออกจากมือ ชายหนุ่มไม่พอใจกล่าวว่าหญิงสาวตรงหน้าทันที

"แกนังตัวดี! แกกล้ามาทำร้ายฉันเหรอ?!"จ้าวหยวนตงตะโกนขึ้น

ผู้คนรอบข้างเริ่มหยุดชะงัก มองมาที่หลินเสี่ยวเหยาและจ้าวหยวนตงด้วยความตกใจ เสียงโหวกเหวกโวยวายเริ่มดังขึ้น

"ฉันไม่ได้ทำอะไรคุณ คุณเป็นคนจับตะกร้าฉันไว้ฉันก็แค่หมุนตัวไปดูเท่านั้นเอง" หลินเสี่ยวเหยาแกล้งพูดเสียงสั้น พยายามทำตัวน่าสงสาร

"แกโกหก! แกคิดว่าฉันจะไม่รู้เหรอว่าแกแกล้งทำร้ายฉัน!" จ้าวหยวนตงตะโกนเสียงดัง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ

หลินเสี่ยวเหยาแกล้งทำตัวสั่นเทา ใบหน้าซีดเซียว

"ฉันไม่ได้โกหก ถ้าสหายไม่จับตะกร้าฉันไว้ก็คงไม่โดนข้อศอกของฉันตอนที่ฉันหมุนตัวมา" หลินเสี่ยวเหยากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

จ้าวหยวนตงจ้องมองหลินเสี่ยวเหยาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว เขาไม่เชื่อคำพูดของเธอทำท่าจะเข้ามาทำร้ายหญิงสาว

หลินฟูหยง ชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนของพระเอก พยายามห้ามปรามสหายอย่างหยวนตงที่กำลังโมโหจัด

"สหายหยวนตงใจเย็นๆ ก่อน สหายหลินคงไม่ได้ตั้งใจ" หลินฟูหยงเอ่ยขึ้น เพราะตอนนี้พวกชาวบ้านต่างก็เริ่มทยอยออกแปลงนากันมาเยอะแล้ว

"แต่...แต่..." หยวนตงพยายามกลืนความโกรธเพราะเขาก็ไม่อยากให้พวกชาวบ้านมองเขาไม่ดีเหมือนกัน เขาเอาชายเสื้อมากดปิดบาดแผลไว้ ก่อนจะเดินมาหากัวเฉิงหลง เขาพยักหน้าให้กัวเฉิงหลง ให้ทำตามแผนขั้นต่อไปทันที

"สหายเหว่ยเฉียง ฉันอิจฉานายซะจริงๆ สหายหลินคงจะหิ้วของมาฝากนายเยอะแยะเลย" เสียงของกัวเฉิงหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงล้อเลียนหลี่เหว่ยเฉียงที่กำลังยืนมองหลินเสี่ยวเหยาอยู่นิ่งๆ

หลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น อารมณ์ของเธอเริ่มขุ่นมัว "ของฝากพวกนี้ฉันเอามาฝากลุงเหวินค่ะ ฉันไม่ได้เอามาให้พวกคุณซะหน่อย พวกคุณถอยออกไป ฉันจะรีบไป" เธอพยายามสะกดอารมณ์โกรธพยายามสร้างภาพหญิงสาวที่อ่อนแอ

กัวเฉิงหลงหัวเราะเยาะ "ของฝากอะไรกัน น่าสนใจดีนะ ให้ฉันดูหน่อยซิ" เขาเอื้อมมือไปคว้าตะกร้าของหลินเสี่ยวเหยา แต่เธอดึงตะกร้ากลับอย่างรวดเร็ว

"อย่ามายุ่งกับของของฉัน!" คนร่างบางตวาดใส่พวกกลุ่มพวกเพื่อนพระเอก

‘คนพวกนี้ยังไม่รู้จักเข็ดหลาบใช่ไหม เดี๋ยวรอดูคืนนี้ก็แล้วกัน ฉันจะเอาคืนพวกแกอย่างสาสม’ หลินเสี่ยวเหยาคิดแผนร้ายอยู่ในใจ

ในขณะที่บรรยากาศเริ่มแย่ลง หลี่เหว่ยเฉียง เริ่มสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น

"สหายหลิน เธออย่าโกรธพวกเพื่อนๆ ของฉันเลย พวกเขาก็แค่อยากแซวเธอเล่นเท่านั้น" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พยายามลดความตึงเครียดลง

หลินเสี่ยวเหยาหันขวับไปมองคุณพระเอก "เฮอะ...แซวเล่นแบบไหนกัน! ถึงทำท่าเอาของของฉันไป!"

หลี่เหว่ยเฉียงกระอักกระอ่วน ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไรเขาเลยตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุย

"สหายหลิน! เธอหายไปไหนมาครับ เธอไม่สบายหรือเปล่า" หลี่เหว่ยเฉียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

หลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นความรังเกียจที่ผุดขึ้นมาในใจ ถ้าเป็นเจ้าของร่างเดิม เธอคงจะใจอ่อนระทวยให้กับหนุ่มหล่อคนนี้แล้ว แต่เธอที่ผ่านวันโลกาวินาศมา ได้เจอคนเห็นแก่ตัวมาทุกรูปแบบ แค่นี้ทำไมเธอก็ดูออกว่า คุณพระเอกพูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจ แต่เธอไม่อยากพูดจาร้ายกาจออกไปเพราะตอนนี้มีพวกชาวบ้างมายืนมุงรอดูเรื่องสนุกอยู่ ทำให้หญิงสาวไม่สะดวกใจในการด่าพวกคนตอแหลเหล่านี้

‘ฮึ ...พระเอกนางเอกเรื่องนี้ช่างเหมาะสมกันอย่างกับผีเน่ากับโลงผุ‘ เธอได้แต่ต่อว่าพวกเขาอยู่ในใจก่อนจะตอบคุณพระเอกออกไป

"ตอนนี้ฉันแค่ยุ่งๆ ไม่มีเวลามานั่งทำเรื่องไร้สาระ" เธอตอบสั้นๆ น้ำเสียงของเธอปราศจากอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น สร้างความผิดหวังให้พวกที่มามุงดู

หลี่เหว่ยเฉียงคิ้วขมวด "คุณยุ่งเรื่องอะไรกันครับ?"

"พวกเราสนิทสนมกันเหรอคะ คุณถึงมาถามเรื่องส่วนตัวของฉัน" หลินเสี่ยวเหยากล่าวต่อว่าคุณพระเอกทันที

“ผมก็แต่อยากรู้เรื่องคุณเท่านั้น” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงหวานหู

แต่หลินเสี่ยวเหยาได้ฟังแล้วกลับรู้สึกสยองแต่ก็ต้องจำใจกัดฟันตอบชายหนุ่มไป "ตอนนี้ฉันมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ฉันต้องทำงานเก็บแต้ม ตอนนี้ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ทำตัวไร้สาระเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พวกคุณเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว อย่าหาว่าฉันไม่เตือนละ"

"สหายหลิน คุณพูดอะไรน่ะ?" ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ "หญิงสาวเหมือนไม่ใช่คนเดิมที่เขาได้เคยรู้จัก"

หลี่เหว่ยเฉียงจ้องมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่ทำหน้าเฉยชาใส่เขา ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ในเวลาไม่กี่วัน ทั้งที่เมื่อก่อนเธอจะชอบมาหาเขาบ่อยๆ จนเขาแทบจะรำคาญ

ในระหว่างที่พวกเขาคุยกันทันใดนั้น พวกเขาได้ยินเสียงตะโกนออกมาดึงดูดความสนใจของทุกคน เหวินหยาง หัวหน้าหน่วยผลิต ก็ปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย

"เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมพวกนายถึงมารุมล้อมหนูเหยาเหยา แล้วนี่พวกนายรับผิดชอบแปลงนาที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อยหรือยัง?" หัวหน้าหน่วยผลิตเอ่ยถาม

พวกเพื่อนๆ ของพวกพระเอกต่างก็ตอบกันอย่างอึกอัก "พวกเราจัดการงานที่แปลงนาเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ"

เหวินหยางพูดสวนขึ้นมาทันที "แต่เมื่อกี้ที่ฉันไปตรวจดูแปลงนาของพวกนาย พวกนายยังทำงานกันไม่ค่อยเรียบร้อยเลย พวกนายปลูกต้นข้าวห่างกันเกินไปกลับไปซ่อมพวกแปลงนาของพวกนายให้เสร็จเรียบร้อย ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่แจกแต้มให้กับพวกนาย " หัวหน้าหน่วยผลิตข่มขู่พวกยุวชนปัญญา

กลุ่มพวกเพื่อนพระเอกต่างก็หวาดกลัวหัวหน้าฝ่ายผลิตมาก

"ครับหัวหน้าเหวิน เดี๋ยวพวกเราจะไปซ่อมแซมงานให้เสร็จเรียบร้อย "หลี่เหว่ยเฉียงกล่าวก่อนจะพาพวกเพื่อนๆ เดินจากไป

เหวินหยางมองดูพวกชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง "พวกเด็กสมัยนี้มันช่าง..." เขาพูดก่อนจะหันมาหาหลินเสี่ยวเหยา

"เหยาเหยาหลานเป็นอะไรหรือเปล่า ลุงเห็นคนพวกนั้นมารุมล้อมหลาน" เหวินหยางเอ่ยขึ้น

"หนูไม่เป็นไรค่ะ หนูเพียงแต่โดนคนพวกนั้นก่อกวนพยายามจะแย่งของตะกร้าของหนูเท่านั้น" หลินเสี่ยวเหยาตอบกลับผู้เป็นลุง

เหวินหยางถอนหายใจด้วยความโล่งอก"ดีแล้วที่หลานไม่เป็นอะไร"

"ลุงเหวินค่ะ กลับบ้านลุงกันเถอะค่ะ หนูมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย"

"ได้สิหลานเดี๋ยวลุงเก็บของก่อน เดี๋ยวกลับบ้านไปพร้อมกับลุง"

เมื่อเหวินหยางเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนก็เดินกลับด้วยกันทันที

เมื่อมาถึงบ้านลุงเหวิน หลินซิน ภรรยาของลุงเหวินผู้แสนจะใจดีก็ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

"สามี..วันนี้คุณกลับมาพร้อมกับเหยาเหยาเหรอ รีบเข้ามาข้างในบ้านก่อน เดี๋ยวป้าจะรินน้ำชาให้"

"อึ่ม...พอดีเหยาเหยามีเรื่องจะคุยด้วยนะ"เหวินหยางกล่าวก่อนจะเดินเข้าบ้านไป

หลินเสี่ยวเหยารีบก้มหัวคำนับภรรยาของลุงเหวิน"สวัสดีค่ะป้าสะใภ้ หนูขอโทษที่มารบกวนนะคะ"

"ไม่เป็นไรจ้ะ มาถึงก็ดีแล้ว เข้ามาๆ" ป้าสะใภ้เอ่ยพลางเชิญหลินเสี่ยวเหยาเข้าไปในบ้าน

หลินเสี่ยวเหยานั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวเก่า มองไปรอบๆ บ้านที่ไม้ที่ดูสะอาดตา เธอได้กลิ่นดอกหอมของดอกไม้ลอยมาตามลม

"หลานนั่งรอป้าแป๊บนะ เดี๋ยวป้าจะไปชงน้ำชามาให้" ป้าสะใภ้เอ่ยก่อนจะไปตั้งเตาชงน้ำชาอุ่นๆ มาให้

หลินซิน วางแก้วน้ำชาลงตรงหน้าหลินเสี่ยวเหยาและสามีของเธอ "เดินมาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำชากันก่อนจะได้ชื่นใจ "

"ขอบคุณค่ะคุณป้า" หลินเสี่ยวเหยาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

หลินซิน สังเกตเห็นตะกร้าที่หลินเสี่ยวเหยาถือมา "เหยาเหยา เอาหนูเอาอะไรมาฝากป้าเหรอ? " เธอถามด้วยความสงสัย

หลินเสี่ยวเหยา ยื่นตะกร้าให้ป้าสะใภ้ "หนูมีหมูสามชั้นกับผักสดมาฝากค่ะ หนูรู้ว่าลุงกับป้าชอบทาน"

ป้าสะใภ้รีบเอื้อมมือไปรับตะกร้า "คราวหลังหลานไม่ต้องเอาอะไรมาฝากป้าหรอก ป้ามีของกินอยู่แล้ว" เธอกล่าวด้วยความเกรงใจ

"หนูอยากให้ลุงกับป้าได้ทานของอร่อยๆ ค่ะแล้วอีกอย่างหนูก็มีเรื่องรบกวนคุณป้าด้วย " เธอกล่าวกับคนเป็นป้า

หลินซิน แกะตะกร้าออกมาดู "โห หมูสามชั้นนี่มันช่างน่ากินเสียจริง ขอบคุณนะจ๊ะ " เธอพูดด้วยความดีใจก่อนจะเดินนำของไปไว้ในห้องครัวก่อนจะเอาตะกร้ามาคืน

เหวินหยางจ้องมองหลานสาวด้วยความสงสัย "หลานมีเรื่องอะไรก็บอกลุงมาได้ ไม่ต้องเกรงใจ?"

"คือว่า...หนูอยากจะขอความช่วยเหลือคุณลุงเรื่อง..." หลินเสี่ยวเหยาหยุดชะงัก ลังเลที่จะพูดต่อ

"เรื่องอะไรเหรอหลาน?" เหวินหยางเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"หนูอยากหาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ไข่ค่ะ แต่หนูไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหนดีคะ และก็ไม่รู้ว่าสายพันธุ์ไหนดี ไก่พันธุ์ไหนให้ไข่เยอะ" หลินเสี่ยวเหยาพูดด้วยน้ำเสียงกังวล

เหวินหยางยิ้มให้หลินเสี่ยวเหยาอย่างใจดี "เรื่องแค่นี้เอง ลุงมีไก่ไข่พันธุ์ดีอยู่หลายตัว หลานอยากได้ตัวผู้ตัวเมียกี่ตัวล่ะ"

หลินเสี่ยวเหยารู้สึกดีใจ เธอยิ้มกว้างให้ผู้เป็นลุง "ขอบคุณลุงค่ะ หนูอยากได้ไก่สัก 2 ตัวค่ะ"

ลุงเหวินลุกขึ้นเดินไปหลังบ้าน หลินเสี่ยวเหยาลุกตามไปด้วยความตื่นเต้น

คนเป็นลุงพาหลานสาวไปที่คอกไก่หลังบ้าน ในคอกมีไก่ไข่หลายตัว กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนพื้นดิน

"หลานดูเอาเลยว่าชอบตัวไหน" เขากล่าวกับหลานสาว

หลินเสี่ยวเหยามองดูไก่แต่ละตัวด้วยความสนใจ เธอมองหาไก่ที่มีรูปร่างสมบูรณ์ ขนมันเงางาม และท่าทางแข็งแรง

ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเลือกไก่เพศผู้ตัวหนึ่งที่มีหางยาวสีแดงสด และไก่เพศเมียตัวหนึ่งที่มีขนสีน้ำตาลอ่อน

"ลุงคะ หนูขอเลือกตัวนี้กับตัวนี้ค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาร้องบอกคนเป็นลุง

เหวินหยางยิ้มและพยักหน้าให้หลานสาว"ได้เลย หลานตาดี เลือกไก่พันธุ์ดีทั้งคู่"

เหวินหยางจับไก่ทั้งสองตัวใส่ตะกร้าให้หลินเสี่ยวเหยา

"หลานเอาไปเลี้ยงดูให้ดีล่ะ ไก่พวกนี้ให้ไข่ดีมาก" ลุงเหวินกล่าวพร้อมยื่นไก่มาให้หลานสาว

"ขอบคุณมากค่ะคุณลุง เดี๋ยวหนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ"หลินเสี่ยวเหยากล่าว

"หลานจะไปแล้วเหรอ เดี๋ยวลุงไปส่ง"ลุงเหวินเอ่ยด้วยความเป็นห่วง

"ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูเดินกลับเองได้"หลินเสี่ยวเหยากล่าวด้วยความเกรงใจ

"งั้นหลานก็ระวังตัวด้วยนะ"เหวินหยางกล่าว

"ค่ะ ลุง"หลินเสี่ยวเหยากล่าวก่อนโบกมือลาลุงและคุณป้าเธอเดินกลับบ้านพร้อมกับตะกร้าไก่

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 14 อย่าทำให้ฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้

    หลังจากหลินเสี่ยวเหยาออกจากบ้านลุงเหวินมา หญิงสาวรีบเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวน้องชายจะหิ้วท้องรอ เธอก้าวเท้าผ่านแปลงนาด้วยความเร่งรีบ มุ่งหน้ากลับบ้านที่อยู่ติดกับเชิงเขาที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ท่ามกลางดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกลุ่มชายหนุ่มสามคนที่ยืนดักรอเธออยู่"นังตัวดี!" จ้าวหยวนตงตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ฉันจะแก้แค้นที่แกทำปากฉันแตก! ตอนนี้พวกชาวบ้านต่างก็กลับบ้านไปกันหมดแล้ว ไม่มีใครช่วยเหลือแกได้ ถ้าแกไม่อยากเจ็บตัว ก็นำข้าวของมาให้พวกฉันซะ!" ชายหนุ่มข่มขู่หลินเสี่ยวเหยาทันทีหลินเสี่ยวเหยา กัดฟันกรอด ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอไม่คิดจะให้ใครมารังแกเธอได้ง่ายๆ หรอก"ไอ้จ้าวหยวนตง แกอย่ามาหาเรื่อง ฉันไม่มีของอะไรจะให้แก" หลินเสี่ยวเหยา ตะโกนโต้กลับไป ด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว"นังนี่มันปากดีจริงๆ พวกเราจัดการสั่งสอนนังผู้หญิงคนนี้กันหน่อย!" จ้าวหยวนตง เรียกเพื่อนสนิททั้งสอง ตรงรี่เข้าหาหลินเสี่ยวเหยา"เฮอะ..ในเมื่อฉันไม่ได้ไปหาเรื่องพวกแก แต่พวกแกกับเสือกหาเรื่องเอง แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนละ ถ้าพวกแกแน่จริง ก็เข้ามา" หญิงสาวตะโกน

    Last Updated : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 15 คุณเลิกอ่อยฉันได้แล้ว

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเสี่ยวเหยา ตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะโหลสะเหล เธอนอนไม่หลับทั้งคืน ภาพใบหน้าหล่อเหลาของคุณตัวร้าย ย้ำเตือนความทรงจำเมื่อคืน น้ำเสียงอันทุ่ม นุ่มลึก ของร่างสูงที่บอกว่าเธอ"น่ารัก" ยังคงก้องอยู่ในหูความร้อนผ่าวจากใบหน้าไต่ขึ้นสู่แก้ม แก้มของเธอแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแค่คิดถึงมัน หัวใจของเธอก็เต้นระรัวเมื่อคืนนี้ เธอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่ม แม้จะนอนคนละที่กัน แต่ความใกล้ชิดก็เพียงพอที่จะปลุกเร้าจินตนาการของหญิงสาว"โอ๊ย…คุณตัวร้ายแอบคิดอะไรเกินเลยกับเธอหรือเปล่า" เสียงร้องอุทานของเธอแทบจะหลุดออกมา หัวใจเธอเต้นตึกตัก ภาพใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกริ่มของพันตรีหนุ่มลอยมาปรากฏในความคิดหลินเสี่ยวเหยาพลิกตัวไปมาบนเสื่อ ด้วยอาการของคนนอนไม่หลับ เธอครุ่นคิดว่าชายหนุ่มกำลังจะจีบเธอหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่กล้าคิดเกินเลยไปไกล ทำให้คิดวนเวียนไปมาเธอนอนหลับๆ ตื่นๆ พอรู้ตัวอีกทีเกือบใกล้รุ่งเช้าแล้วคนร่างบางจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ห้องครัว หวังจะดื่มกาแฟร้อนๆ สักแก้ว เพื่อปลุกให้ตัวเองตื่นเต็มตาเช้านี้ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย หญิงสาวเดินไปที่เตาฟืน ก่อไฟต้มน้ำร้อน เสียงฟืนที่แ

    Last Updated : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 16 ต้อนรับแขกมาเยือนบ้าน

    ณ เมืองจินหลงหวังลี่จู ภรรยา พลตรีเฉินกั๋วชิง ผู้บังคับบัญชาประจำมณฑลเธอหยิบผลไม้สดๆ อาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน และของกินมากมายอย่างข้าวสาร แป้ง และผ้าเนื้อดีบรรจงใส่ลงในตะกร้าสานใบใหญ่"สามี" เธอเอ่ยเรียกชายหนุ่มวัยกลางคนที่นั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้ไม้แกะสลัก "ฉันอยากไปเยี่ยมแม่หนูเสี่ยวเหยาที่หมู่บ้านไป๋เหอ"เฉินกั๋วชิง นิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขากำลังกังวลใจเกี่ยวกับภารกิจสำคัญในการตามหาพันตรีหยาง บุตรชายของท่านจอมพลหยางที่หายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในเมืองจินหลง เมื่อเขาเห็นภรรยาจะออกไปข้างนอกเมืองผู้เป็นสามีจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"ภรรยาคุณจะไปข้างนอกคนเดียวเหรอครับ?""ไม่ค่ะ ฉันกะว่าจะไปกับจางหยิง"หวังลี่จูตอบพลางยิ้มหวานให้สามี จางหยิง คือคนรับใช้คนสนิทของเธอ ที่คอยดูแลเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งสองมีความผูกพันกันมาก เหมือนพี่น้องเฉินกั๋วชิง วางถ้วยชาลงบนโต๊ะ สายตาของเขามองมาที่ภรรยาอย่างอ่อนโยน "ลี่จู คุณอยากไปหาแม่หนูคนนั้นหรือ?""ใช่แล้วค่ะ" ผู้เป็นภรรยาพยักหน้า "แม่หนูเสี่ยวเหยาเธอได้ช่วยชีวิตของฉันไว้จากการหมดสติริมทาง ฉันรู้สึกอยากขอบคุณเด็กสาวคนนั้นมาก แ

    Last Updated : 2024-12-21
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 17 ผมวางแผนจะหมั้นกับเธอ

    หลินเสี่ยวเหยายืนประคองร่างสูงโปร่งของหยางเฟิงที่ได้รับบาดเจ็บไว้ด้วยความกังวล"สหายหยางคุณได้รับบาดเจ็บอยู่นะ" หญิงสาวเอ็ดเขาเบาๆ "ถ้าเกิดแผลของคุณปริแตกอีกจะว่าอย่างไร"หยางเฟิงยิ้มอ่อนให้หญิงสาว "ผมต้องขอโทษด้วยครับที่ทำให้คุณเป็นห่วง" เขาก้มมองใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน "ผมแค่อยากลุกขึ้นมาดูว่าคุณคุยกับใครเท่านั้น "คนร่างบางถอนหายใจ "คุณรู้ไหมว่าสภาพของคุณยังไม่แข็งแรงพอที่จะลุกขึ้นเดินไปไหน คุณควรจะนอนพักต่อ""ผมไม่เป็นไรจริงๆ" หยางเฟิงพยายามยืนตัวตรง "พอดีผมได้ยินที่พวกคุณคุยกันก็เลยสงสัยว่าจะใช่คนที่ผมรู้จักหรือเปล่าผมถึงออกมาดูครับ"หลินเสี่ยวเหยาพยุงพาชายหนุ่มมานั่งที่ม้านั่งตรงลานหน้าบ้าน"สหายหลินเดี๋ยวผมจะขอคุยกับท่านนายพลเฉินก่อนนะครับ" เขาเอ่ยกับคนร่างบางทีอยู่ข้าง ๆ"ได้ค่ะเดี๋ยวพวกคุณคุยกันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปทำข้าวเที่ยงมาให้พวกคุณทาน"หญิงสาวกล่าวก่อนจะเดินไปหาป้าหวัง"พลตรีเฉิน" หยางเฟิงรีบโค้งคำนับ"คุณไม่ต้องมากพิธี ตอนนี้คุณบาดเจ็บอยู่""ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกกับท่านครับ"เสียงของหยางเฟิงยังคง

    Last Updated : 2024-12-22
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 18 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

    หลังจากลุงเฉินกับป้าหวังขับรถออกจากบ้านของเธอไป หลินเสี่ยวเหยาก็เก็บกวาดถ้วยชามบนโต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ เสียงน้ำไหลริน กระทบถ้วยจามดังขึ้นในบ้านหลังเล็กอันทรุดโทรมเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจล้างจาน คนร่างบางก็เดินตรงไปยังห้องคุณตัวร้าย เธอเปิดประตูห้องอย่างช้าๆ พบร่างชายหนุ่มนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเขาซีดเผือด ดูเหมือนเขาจะรู้สึกเจ็บปวดจากบาดแผล เธอเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของพันตรีหนุ่มเบาๆ เธอรู้สึกโล่งใจที่ตอนนี้ตัวของเขาอุ่นไม่มีไข้"สหายหยาง... คุณมาทานยาก่อนแล้วค่อยไปนอน" เธอเอ่ยเรียกคนที่ได้รับบาดเจ็บด้วยเสียงแผ่วเบาหยางเฟิงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เขาเห็นรอยยิ้มกังวลของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าหลินเสี่ยวเหยาวางถาดยาไว้บนโต๊ะ เธอเอื้อมมือไปถลกเสื้อของชายหนุ่ม เธอแตะแผลบนร่างกายของเขาเบาๆ"สหายหยางคุณเจ็บไหมคะ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยหยางเฟิง ขยับตัวเล็กน้อย พยายามกลั้นเสียงร้อง"ไม่เจ็บมากเท่าไหร่ครับ" พันตรีหนุ่มกัดฟันตอบหลินเสี่ยวเหยา มองดูบาดแผลของเขาอย่างละเอียด เห็นรอยเลือดซึมออกมาเล็กน้อย สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นกังวล

    Last Updated : 2024-12-22
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 19 ความลับของหลินฮวา

    "พี่สาวครับ! พี่สาวทะเลาะกับใคร?" หลินเสี่ยวหมิง วิ่งปรี่เข้ามาหาหลินเสี่ยวเหยาด้วยความตกใจ มือเล็กๆ เปื้อนดินจากการดูแลต้นผักในสวนหลังบ้าน ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความกังวลหลินเสี่ยวเหยา ลูบหัวน้องชายอย่างแผ่นเบา ก่อนจะเอ่ยบอกความจริงกับคนเป็นน้อง"เมื่อกี้ลุงใหญ่กับป้าสะใภ้ใหญ่ มาหา พวกเขาต้องการจะมาแย่งของที่ลุงเฉินกับป้าหวัง นำมาให้พวกเรา""ทำไมล่ะครับ? แต่ว่าของพวกนั้นมันเป็นของเราไม่ใช่เหรอ พวกเขาทำไมถึงมาแย่งของของพวกเราไป?" หลินเสี่ยวหมิงกล่าวอย่างไม่เข้าใจ"เป็นเพราะว่า พวกเขาคิดว่าเราเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีใครปกป้อง พวกเขาเลยคิดจะเอาเปรียบพวกเรา แต่พวกเขาคิดผิดแล้ว พี่สาวจะไม่ยอมให้คนพวกนั้นเอาข้าวของของเราไปได้" ผู้เป็นพี่สาวกล่าวกับน้องชาย"พี่สาวครับ แล้วพี่สาวโดนคุณลุงคุณป้าตีหรือเปล่า?" เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยความห่วงใย"พี่สาวไม่ได้โดนตี พี่สาวแค่โมโหพวกเขาหน่อยนึงเท่านั้น""ถ้าคราวหน้าคุณลุงคุณป้ามาอีกผมจะช่วยพี่สาวเอง!" หลินเสี่ยวหมิงตบอกพูดน้ำเสียงมุ่งมั่นผู้เป็นพี่สาวยิ้มให้กับน้องชายอย่างเอ็นดู เธอดีใจที่มีหลินเส

    Last Updated : 2024-12-23
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 20 พี่สาวของโทษนะ

    หลินเสี่ยวเหยา เดินเท้ากลับบ้าน หญิงสาวยิ้มอย่างอารมณ์ดี วันนี้เธอโชคดีเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่จะได้ดอกกล้วยไม้ป่าหายากมาครอบครอง แต่ในกระบุงของเธอยังเต็มไปด้วยผักป่าหลากหลายชนิด ผักขม เห็ดป่า ผักกาดน้ำคนร่างบางเร่งฝีเท้า มุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างทาง เธอมองดูธรรมชาติรอบตัวอย่างเพลิดเพลิน ทำให้เธอลืมความเหนื่อยล้าไปจนหมดสิ้นทันใดนั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นพุ่มไม้เตี้ยๆ ที่ปกคลุมไปด้วยผลไม้สีแดงสดใส เธอใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น"ว้าว" หญิงสาวอุทานออกมา นั่นมันผลราสป์เบอร์รีนี่!เธอรีบก้มลงเก็บผลราสป์เบอร์รีอย่างทะมัดทะแมง นิ้วเรียวเล็กสัมผัสกับผิวของผลไม้ที่นุ่มนวลอย่างอ่อนโยน กลิ่นหอมหวานของราสป์เบอร์รีโชยมาแตะจมูก ช่างเป็นกลิ่นที่ชวนน้ำลายสอด้วยความเพลิดเพลิน หลินเสี่ยวเหยาเผลอเดินลึกเข้าไปในป่าจนไม่รู้ตัว เธอคุกเข่าลงบนพื้นดิน สายตาของเธอไล่สแกนไปรอบๆ มองหาผลราสป์เบอร์รีที่ซ่อนอยู่ตามซอกหิน ใต้ใบไม้ เธอเก็บราสป์เบอร์รีอย่างเบามือ กลัวว่าจะทำผิวของผลไม้ช้ำไม่นาน กระบุงของเธอก็เต็มไปด้วยราสป์เบอร์รีสีแดงสดใส คนร่างบางยิ้มอย่างมีความสุข

    Last Updated : 2024-12-23
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 21 เงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม

    ณ หมู่บ้านไป๋เหออากาศยามเช้าปลายเดือนกรกฎาคม ชาวบ้านต่างตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง เมื่อได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นมาแต่ไกล บนถนนดินที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นผง รถบรรทุกหลายคันต่างแล่นเข้ามาในหมู่บ้านเป็นขบวน แต่ละคันล้วนบรรทุกชายฉกรรจ์รูปร่างกำยำสวมชุดช่างก่อสร้างเต็มคัน"พวกเขาคือใครกันนะ?""ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขามาทำอะไรที่นี่?""หรือทางการจะมาสร้างเขื่อนหรือเปล่า?""อย่าพูดเพ้อเจ้อ! เขื่อนมันอยู่ไกลลิบโน่น!"เสียงถกเถียงของชาวบ้านดังอื้ออึงไปทั่ว ชาวบ้านต่างจับกลุ่มคุยกัน หน้าตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัยไม่นานนัก หัวหน้าช่างก็ก้าวลงจากรถ เขาเดินตรงไปหา เหวินหยาง หัวหน้าหน่วยผลิตของหมู่บ้านไป๋เหอ และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ"ผมขอสอบถามหน่อยได้ไหมครับ ว่าบ้านของคุณหนูหลินเสี่ยวเหยาอยู่ที่ไหนครับ?"เหวินหยาง รู้สึกประหลาดใจ เขาจึงเอ่ยถามกลับไป "พวกคุณมีธุระอะไรกับแม่หนูเหยาเหยาเหรอครับ?"หัวหน้าช่าง ยิ้มกว้าง ก่อนจะอธิบาย"พวกเราได้รับมอบหมายจากพลตรีเฉิน ให้มาสร้างบ้านใหม่ให้กับคุณหนูหลินเสี่ยวเหยา เพื่อเป็นการต

    Last Updated : 2024-12-24

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 71 บทส่งท้าย ค่ำคืนของสองเรา

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมา รถไฟขบวนพิเศษจากเมืองหลวงก็แล่นเข้าสู่สถานีรถไฟเมืองจินหลง หยางกั๋วเฉิงและหลิวซิวหยวน พ่อแม่ของหยางเฟิง ย่างก้าวลงจากรถไฟด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุข ท่ามกลางเสียงต้อนรับของลูกชายและลูกสะใภ้ที่มารอรับอย่างพร้อมหน้า"คุณพ่อ คุณแม่" หยางเฟิงโผเข้ากอดพ่อแม่ด้วยความคิดถึง น้ำตาคลอหน่วย "ผมคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน""ลูกชายแม่" หลิวซิวหยวนลูบหลังลูกชายเบาๆ ปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน"หยางกั๋วเฉิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "เจ้าสามแกโตเป็นหนุ่มแล้วนะ แถมยังจะแต่งงานมีครอบครัวอีกต่างหาก""แล้วนี่หลินเสี่ยวเหยา คู่หมั้นของลูก ใช่ไหม?" หลิวซิวหยวนเอ่ยถามพลางมองไปยังหญิงสาวหน้าหวานที่ยืนข้างๆ ลูกชายด้วยสายตาเอ็นดู"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ หนูชื่อหลินเสี่ยวเหยาค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาโค้งคำนับอย่างนอบน้อม"หนูเสี่ยวเหยา ไม่ต้องมากพิธีหรอก" หยางกั๋วเฉิงยิ้มให้หลินเสี่ยวเหยาอย่างเป็นมิตร "พ่อได้ยินเรื่องของลูกจากเจ้าสามมาเยอะพอสมควร พอได้มาเห็นตัวจริงแล้วน่ารักกว่าที่คิดไว้มาก""จริงสิ พี่ชายคนโตของพ่อกับลูกสะใภ้ก็มาด้วยนะ"

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 70 ขอแต่งงาน

    เสียงไซเรนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณโรงแรมหลงหยวนชุน เซียวจิ้งหนานและเจียงเหม่ยหลิงถูกใส่กุญแจมือถูกลากตัวไปขึ้นรถทหาร หยางเฟิงหัวหน้าหน่วยที่ 13 ปาดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผาก เขาหันไปสั่งการเจียงเฉินเพื่อนสนิทของเขา"เจียงเฉิน นายรีบพาหลินฮวาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!" หยางเฟิงสั่งการด้วยน้ำเสียงเข้มเจียงเฉินพยักหน้ารับคำสั่งอย่างรวดเร็ว เขารับร่างบอบบางของหลินฮวาที่หมดสติไปจากหัวหน้าหน่วยอย่างระมัดระวัง ใบหน้าซีดเผือดของหลินฮวามีรอยไหม้จากน้ำกรดปรากฏให้เห็นเป็นบาดแผลที่น่ากลัว ใบหน้าของเธอเสียหายไปทั้งใบหน้า เจียงเฉินกัดฟันแน่น เขาอุ้มหลินฮวาขึ้นรถ รีบบึ่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์และพยาบาลต่างก็กรูเข้ามาช่วยเหลือหลินฮวาอย่างเร่งด่วน พวกเขาเข็นเตียงของหลินฮวาเข้าห้องฉุกเฉินทันที เจียงเฉินมองตามร่างของหญิงสาวที่หายลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน"คุณหมอครับ อาการของเธอจะเป็นยังไงบ้างครับ" เจียงเฉินถามคุณหมอเมื่อเห็นทีมแพทย์ออกจากห้องฉุกเฉินมา"อาการของเธอค่อนข้างสาหัส ของเหลวที่เธอได้รับเข้าไปนั้นเป็นกรดที่มีฤทธิ์รุนแรงมาก ตอนนี้เ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 69 จับกุมตัวสองผัวเมีย

    หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดจากหลี่เหว่ยแล้ว หลินเสี่ยวเหยาก็รีบแจ้งหยางเฟิงถึงแผนที่จะไปช่วยลูกชายของหลี่เหว่ยที่บ้านพักตากอากาศชานเมืองจินหลงทันทีหยางเฟิงแสดงสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด "เหยาเหยา เธอแน่ใจนะว่าจะไปเอง? ไม่ให้พี่ไปด้วย"หลินเสี่ยวเหยาส่ายหน้า "ไม่เป็นไรหรอกพี่เฟิง พี่ไปจัดการเรื่องจับกุมเซียวจิ้งหนานเถอะ เรื่องหลี่เหว่ยตงฉันจัดการเองได้" เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"แต่ว่า..." หยางเฟิงยังคงลังเล"ไม่มีแต่ค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ พี่ไม่ต้องห่วง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมส่งยิ้มหวานละมุนให้คู่หมั้นหนุ่มหยางเฟิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเหยาเหยาก็ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรโทรมาที่ค่ายทหารติดต่อพี่ได้ตลอด"หลินเสี่ยวเหยาพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ค่ะ...พี่เฟิง งั้นเดี๋ยวฉันขอยืมรถพี่เฟิงหน่อยนะคะ""เหยาเหยาขับรถเป็นด้วยหรือครับ" หยางเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นหลินเสี่ยวเหยาขับรถมาก่อน"ฉันขับรถเป็นค่ะ" หลินเสี่ยวเหยากล่าวอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 68 ใบหน้าเสียโฉม

    แสงอาทิตย์สีทองค่อยๆ ลับหายไปหลังแนวขุนเขา ทิ้งไว้เพียงสีส้มจางๆ ระบายขอบฟ้า แต่แสงนั้นไม่อาจบรรเทาความร้อนรุ่มในใจของเจียงเหม่ยหลิงได้เลยแม้แต่น้อย รถยนต์คันใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองจินหลงในยามพลบค่ำ เธอหันไปสั่งคนสนิทเสียงเข้ม"ไปสืบเรื่องหลินฮวาที่ร้านจินหยวนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้"รถยนต์ยังคงแล่นไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและรถลาก เจียงเหม่ยหลิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยกลับดูหม่นหมองลงในสายตา"นายหญิงครับ" เสียงของลูกน้องคนสนิทดังขึ้น ทำให้เจียงเหม่ยหลิงละสายตาจากภาพด้านนอก"ว่าอย่างไร" เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงแววเคร่งขรึม"คุณเซียวได้ไถ่ตัวหลินฮวาจากร้านจินหยวนจริงครับ จากการสืบปากคำเจ้าของร้านทำให้ทราบว่าตอนนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรมหลงหยวนชุน" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยรายงานเจียงเหม่ยหลิงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ความโกรธเกรี้ยวประดุจเปลวไฟลุกโชนขึ้นในอก เธอหวนนึกถึงคำพูดของบรรดาอนุภรรยาของเซียวจิ้งหนานที่คอยพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ชอบโอ้อวดเรื่องสามีให้เธอฟัง แม้จะโกรธเพียงใด แต่เจียงเหม่ยหลิงก็รู้ดีว่าเธอต้องอดทน เธอรู้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 67 หายนะที่กำลังจะมาเยือน

    ไม่ถึงสิบนาที ประตูห้องสอบสวนก็เปิดออกอีกครั้ง ร่างระหงของหลินเสี่ยวเหยาปรากฏขึ้น เธอเดินอย่างสง่าผ่าเผยออกมาจากห้อง ทิ้งให้หลี่เหว่ยจมอยู่กับความคิดอันสับสนวุ่นวายเพียงลำพังทันทีที่ก้าวพ้นประตู หลินเสี่ยวเหยาต้องเผชิญหน้ากับบุรุษสองนายที่ยืนรออยู่ หยางเฟิงในชุดทหารที่ดูสง่างามยืนรออยู่เคียงข้างพลตรีเฉินกั๋วชิง ผู้บังคับบัญชาของเขา ดวงตาคมกริบของหยางเฟิงจับจ้องมาที่หลินเสี่ยวเหยาอย่างร้อนรน ความอยากรู้ฉายชัดอยู่ในแววตา"เหยาเหยา เป็นยังไงบ้าง หลี่เหว่ยมันยอมปริปากหรือยัง?" เสียงทุ้มเข้มของพันตรีหนุ่มดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบของทางเดินหลินเสี่ยวเหยาหยุดยืนอยู่หน้าหยางเฟิงและพลตรีเฉินกั๋วชิง เธอสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบ "แน่นอนค่ะว่าหลี่เหว่ยสารภาพ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศหยางเฟิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาและเหว่ยเจี้ยน ต่างก็เค้นสอบสวนหลี่เหว่ยมาตลอดทั้งอาทิตย์ ใช้ทั้งวิธีข่มขู่และทรมานสารพัด แต่หัวหน้ากลุ่มกบฏก็ยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวแต่หลินเสี่ยวเหยาที่เข้าไปในห้องสืบสวน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 66 เปิดปากหลี่เหว่ย

    ท้องฟ้าเหนือเมืองจินหลงยังคงมืดครึ้ม แม้แสงอาทิตย์แรกของวันใหม่จะเริ่มสาดส่อง ทว่าบรรยากาศในเซฟเฮาส์ลับกลับเย็นเยียบราวกับถูกปกคลุมด้วยเงามืดเซียวจิ้งหนานนั่งนิ่ง สายตาคมกริบจับจ้องไปยังลูกน้องที่ยืนตัวสั่นอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าที่ถึงจะมีอายุเยอะแต่ก็ยังคงความหล่อเหลา บัดนี้ใบหน้าเขากลับบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อทุกสิ่งที่เขาได้วางแผนไว้ล้มเหลวไม่เป็นท่า"นายท่านผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ ผมได้รับรายงานว่าค่ายของพวกกบฏที่เราสนับสนุนถูกทหารบุกโจมตีตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วครับ" เสียงของลูกน้องรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "อาวุธและคนของเราถูกจับยึดไปทั้งหมด...""ว่ายังไงนะ!" เสียงทุ้มต่ำของเซียวจิ้งหนานดังก้องไปทั่วห้องทำงานเมื่อได้ยินข่าวร้าย "ค่ายของเราถูกพวกทหารรัฐบาลบุกโจมตีงั้นเหรอ?"แก้วเหล้าคริสตัลที่บรรจุของเหลวสีอำพันล้ำค่าหลุดร่วงจากมือหนา กระทบกับพื้นหินอ่อนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ของเหลวสีทองอร่ามไหลนองไปทั่วพรมเปอร์เซียราคาแพง"ครับนายท่าน" ลูกน้องคนสนิทก้มหน้าลงต่ำด้วยความหวาดกลัว "พวกมันบุกเข้ามาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนของเราเสียชีวิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 65 จดหมายแจ้งข่าว

    คฤหาสน์ตระกูลเซียว อันโอ่อ่ากว้างใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองหยวนหลิงเมืองขนาดใหญ่ทางภาคใต้ของประเทศ ภายในห้องโถงใหญ่ ที่ประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง และแจกันดอกเหมยที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น เจียงเหม่ยหลิง ภรรยาหลวงของเซียวจิ้งหนาน เจ้าของคฤหาสน์ กำลังนั่งจิบน้ำชาอย่างสง่างามอยู่บนเก้าอี้ไม้มะฮอกกานีตัวโปรดรอบโต๊ะน้ำชา ยังมีคุณนายอีกสี่คนนั่งอยู่ ได้แก่ ซูหนิง คุณนายรองผู้มีใบหน้าเรียวสวยหวาน ลู่เหยา คุณนายสามผู้มีดวงตากลมโตเป็นประกาย เฉินหง คุณนายสี่ผู้มีผิวขาวผ่องราวกับหยก และคุณนายห้าหยางเหมย บุคลิกเงียบขรึมแต่แฝงไปด้วยความเฉลียวฉลาด บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย"พี่เหม่ยหลิง ฉันเห็นพี่จิ้งหนานซื้อสร้อยไข่มุกเส้นใหม่ให้น้องเหมยเมื่ออาทิตย์ก่อน สวยงามมากเลยนะคะ" ซูหนิงคุณนายรองเอ่ยถึงคุณนายห้าด้วยน้ำเสียงหวานหยด พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้เจียงเหม่ยหลิงผู้เป็นภรรยาหลวงเจียงเหม่ยหลิงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "อืม ก็แค่สร้อยไข่มุกธรรมดา ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลย""แหม พี่เหม่ยหลิง พูดอย่างน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 64 แผนการเอาคืนหลินฮวา

    พลตรีเฉินยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้ากลุ่มทหารที่รายล้อมตัวพวกกบฏเอาไว้ ร่างสูงใหญ่ของเขาในชุดเครื่องแบบสีเขียวเข้มเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น ใบหน้ามีรอยย่นใต้หมวกทรงทหารบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าจากการศึกอันยาวนานเบื้องหลังเขาคือกองทหารผู้ภักดีราวหนึ่ง170นาย ทุกคนต่างถืออาวุธคู่กายแน่น มือเปื้อนเลือดจากการต่อสู้อันดุเดือดที่เพิ่งจบลงไป เหล่าเชลยศึกกว่าเก้าสิบคนที่รอดชีวิตต่างถูกจับมัดรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ทุกคนต่างมีใบหน้าซีดเผือดและร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว พวกเขาคือกลุ่มกบฏที่พยายามโค่นล้มรัฐบาลและสร้างความวุ่นวายให้แก่ประเทศชาติไม่ไกลจากจุดที่พลตรีเฉินยืนอยู่ ร่างสองร่างที่ถูกจับมัดอย่างแน่นหนาคุกเข่าอยู่บนพื้น จางเหว่ยและหลี่เหว่ย ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผล"รายงานสถานการณ์มา" พลตรีเฉินสั่งการเสียงเข้มหยางเฟิงก้าวออกมาข้างหน้า "เรียนท่านผู้บังคับบัญชา พวกเราได้ทำการจับกุมหลี่เหว่ย หัวหน้ากลุ่มกบฏ พร้อมพรรคพวกได้สำเร็จในขณะที่พวกมันกำลังหลบหนีออกไปทางด้านหลังค่าย"พลตรีเฉินพยักหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ"พวกมันถูกจับโดยหลินเสี่ยวเ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 63 สติแตก

    ยามราตรีแผ่คลุมทั่วผืนป่า ท้องฟ้าไร้แสงจันทร์ มีเพียงแสงดาวริบหรี่ส่องประกายอยู่ห่างไกล ท่ามกลางความมืดมิดนั้น กองกำลังทหารกำลังเคลื่อนพลอย่างเงียบเชียบ พวกเขาซ่อนตัวอยู่ตามพุ่มไม้และโขดหิน รอคอยสัญญาณจากผู้นำกลุ่มทันใดนั้น เสียงหวานแต่หนักแน่นก็ดังขึ้นจากวิทยุสื่อสารคู่กายของพันตรีหนุ่ม หยางเฟิง"พี่เฟิง ได้ยินไหม? ฉันเจอคลังอาวุธของพวกกบฏแล้ว เตรียมพร้อมโจมตีได้เลย " เสียงหวานแต่หนักแน่นของหลินเสี่ยวเหยาดังแว่วมาจากในวิทยุสื่อสาร ทำให้บรรยากาศในกองทัพอบอวลไปด้วยความตื่นเต้นหยางเฟิงยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ เขาหันไปพยักหน้าให้เหว่ยเจี้ยน หัวหน้าหน่วยที่ 7 ผู้ที่มีฝีมือการต่อสู้เก่งกาจพอๆ กับเขา เหว่ยเจี้ยนตอบรับด้วยการพยักหน้ากลับอย่างมั่นคง แววตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในการทำภารกิจที่จะเกิดขึ้น"ทุกหน่วย เตรียมพร้อม! เราจะบุกโจมตีฐานทัพพวกกบฏในอีกสิบนาทีข้างหน้า" หยางเฟิงออกคำสั่งผ่านวิทยุสื่อสาร น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและเด็ดขาดเหล่าทหารหนุ่มคนอื่นๆ ต่างขานรับคำสั่งของหัวหน้ากลุ่มด้วยความพร้อมเพรียง พวกเขาตรวจสอบอาวุธและส

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status