Share

บทที่ 12 เปิดเผยความลับ

Author: BBNanz
last update Last Updated: 2024-12-20 15:20:38

หลินเสี่ยวเหยา ก้าวเท้าออกมาจากบ้านดินหลังเล็ก ก่อนที่จะเดินตรงไปยังแปลงผักที่อยู่หลังบ้าน

เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิง กำลังยืนอยู่หน้าแปลงผัก สายตาของเขาจดจ่อกับต้นผักกาดหอมที่เพิ่งปลูกไปเมื่อวานนี้ ใบสีเขียวอ่อนเริ่มคลี่ออก เผยให้เห็นยอดอ่อนสีขาว หลินเสี่ยวเหยาเดินเข้าไปหาเด็กชาย

"น้องเล็กทำอะไรอยู่เหรอ?"

"พี่สาวดูสิครับ ต้นผักกาดเริ่มแตกใบแล้ว!" หลินเสี่ยวหมิงตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขารู้สึกดีใจที่ได้เห็นผลลัพธ์จากการทุ่มเทดูแลแปลงผัก

หลินเสี่ยวเหยาโน้มตัวลง มองดูต้นผักกาดอย่างใกล้ชิด รอยยิ้มของเธอขยายกว้างขึ้น "น้องเล็กเก่งมากเลยนะ เป็นเพราะน้องเล็กช่วยพี่สาวรดน้ำ เมล็ดจึงแตกยอดออกมา" เธอเอื้อมมือลูบศีรษะน้องชายเบาๆ

"ต่อไปเราก็จะมีผักสดๆ ไว้กินเองแล้ว"

หลินเสี่ยวหมิงดีใจสุดๆ เขาตั้งตารอที่จะได้กินผักกาดที่ดูแลเองกับมือ

ท่ามกลางความร่าเริงของเด็กน้อย หลินเสี่ยวเหยากำลังครุ่นคิดว่าจะบอกความจริงเรื่องมิติของเธอให้น้องชายได้รับรู้หรือไม่ เธออยากนำเครื่องมือในห้างสรรพสินค้าของมาสร้างเล้าไก่ คนร่างบางรู้สึกลังเลใจว่าจะบอกน้องชายดีหรือไม่

หลินเสี่ยวเหยานึกถึงเรื่องราวในนิยายที่เธอหลุดเข้ามา น้องชายของนางร้ายหลินเสี่ยวเหยานั้น รักพี่สาวของเขามาก ถึงขนาดยอมถูกอันธพาลรุมทำร้าย เพียงเพื่อปกปิดความลับของพี่สาว เธอคิดว่าหลินเสี่ยวหมิงไม่น่าจะเปิดเผยความลับของเธอให้คนอื่นได้รับรู้ หญิงสาวจึงตัดสินใจเอ่ยปากบอกเรื่องมิติกับน้องชาย

"เสี่ยวหมิง พี่สาวมีเรื่องอยากจะบอก" หลินเสี่ยวเหยาตัดสินใจเอ่ยขึ้น

"เรื่องอะไรครับ?" เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"เดี๋ยวพี่สาวจะพาเราไปที่ที่หนึ่ง แต่ว่าน้องเล็กต้องเก็บเป็นความลับนะ เราไม่สามารถจะบอกใครได้ เพราะว่าจะเป็นอันตรายกับพวกเรา"

หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยรับคำด้วยความงุนงง แม้เขาสงสัยว่าพี่สาวของเขาจะพาเขาไปที่ไหน

หลินเสี่ยวเหยาจับมือน้องชายไว้ เธอหลับตาลงทันที รอยสักรูปดอกบัวสีเงินสว่างขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะหายเข้าในมิติ

เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาก็มาอยู่ในสถานที่ที่ว่างเปล่า เต็มไปด้วยข้าวที่เธอหามาตอนอยู่ในวันโลกาวินาศในชาติที่แล้ว ข้าวของวางระเกะระกะดูไม่เป็นระเบียบ ภายในมิติมีห้างสรรพค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงตรงกลางมิติ

"นี่คือที่ไหนครับพี่สาว?" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยถามด้วยความตื่นตาตื่นใจในสิ่งแปลกใหม่ที่เขาค้นพบ

"นี่คือห้างสรรพสินค้าที่อยู่ในมิติของพี่สาว ที่นี่มีสินค้าที่วางขายทุกประเภท พี่สาวสามารถหยิบจับสิ่งของเหล่านั้นออกมานอกมิติได้โดยไม่เสียเงิน" หลินเสี่ยวเหยาอธิบายให้น้องชายได้รับฟัง

"มิติของพี่สาวเหรอครับ?" หลินเสี่ยวหมิงยิ่งรู้สึกงุนงงไปใหญ่

"ใช่แล้ว แต่ว่าน้องเล็กห้ามบอกใครเรื่องนี้เด็ดขาดนะ เข้าใจไหม?"

เสี่ยวหมิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เด็กชายรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่พี่สาวของเขากล่าว เขารอคอยที่จะสำรวจมิติอย่างใจจดใจจ่อ

หลินเสี่ยวเหยาพาเด็กน้อยไปเดินชมห้างสรรพสินค้า แต่ทันใดนั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นหลินเสี่ยวหมิงกลับไม่สามารถเดินเข้าประตูห้างสรรพสินค้ามาได้

"ทำไมผมถึงเข้าไม่ได้ครับพี่สาว?" เด็กชายร้องถามด้วยความตกใจ

หลินเสี่ยวเหยารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เธอพยายามหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ดูเหมือนว่าห้างสรรพสินค้าของเธอจะเปิดรับเฉพาะแต่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น

"ไม่เป็นไรน้องเล็ก เดี๋ยวพี่เอาของมาให้น้องเล็กทีหลัง" หลินเสี่ยวเหยาปลอบใจน้องชาย

"งั้นเดี๋ยววันนี้พวกเราลงมือกันสร้างเล้าไก่ กันก่อนก็แล้วกัน" คนเป็นพี่สาวเอ่ยขึ้น

หลินเสี่ยวหมิงพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น เขาอยากช่วยพี่สาวสร้างเล้าไก่ ด้วย

เมื่อพวกเขาออกมานอกมิติ หลินเสี่ยวเหยาดึงเครื่องมืออุปกรณ์ช่างออกมา เธอจะสร้างโรงเลี้ยงไก่ไข่แบบสมัยใหม่ ด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมือช่างอันทันสมัย เธอสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หลินเสี่ยวหมิง มองดูพวกเครื่องมือเหล่านั้นด้วยความทึ่งและตื่นเต้น

"พี่สาวสิ่งนี้คืออะไรเหรอครับ?"เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"มันคือเครื่องมือช่างที่อยู่ในมิติของพี่สาว " คนเป็นพี่สาวอธิบายให้เด็กน้อยฟัง "มันจะช่วยให้เราสร้างโรงเรือนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย"

หญิงสาวเริ่มต้นลงมือทำงาน เธอหยิบแผงโซล่าเซลล์สีดำออกมาจากมิติ วางเรียงต่อกันบนพื้นดินอย่างคล่องแคล่ว

"แผงโซล่าเซลล์เหล่านี้จะช่วยผลิตไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่เรานำมาสร้างโรงเรือน" เธออธิบาย "มันจะช่วยให้เราประหยัดพลังงานและไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอก"

เด็กชายพยักหน้าอย่างตั้งใจ พยายามจดจำคำพูดของพี่สาว

หลินเสี่ยวเหยาทำงานอย่างขะมักเขม้น ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ ไม่นานแผงโซล่าเซลล์ก็ติดตั้งเสร็จ

"เสร็จแล้วละ!" เธอบอกกล่าวกับเจ้าตัวเล็ก "ต่อไปเราก็ต้องต่อสายไฟเพื่อเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่"

"ว้าว…พี่สาว พี่เก่งมากเลย!" เด็กน้อยเอ่ยด้วยความชื่นชม

"ขอบคุณนะ" ผู้เป็นพี่สาวโอบกอดน้องชายด้วยความรัก "ต่อไปเราก็เริ่มสร้างโรงเรือนกันได้แล้ว"

จากนั้น เธอหยิบเลื่อยไฟฟ้าออกจากมิติ ยื่นมันให้น้องชายดู

“น้องเล็กนี้คือเลื่อยไฟฟ้า เดี๋ยวพี่สาวจะสอนตัดไม้ไผ่ เครื่องมือนี้อันตรายมากเราต้องใช้อย่างระมัดระวัง” หลินเสี่ยวเหยาอธิบายให้เด็กชายฟัง

“ว้าว เครื่องมือใช้งานง่ายมากเลยนะครับพี่สาว” หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

"เดี๋ยวน้องเล็กช่วยพี่สาวตัดไม้ไผ่มาทำโครงสร้างเล้าไก่ด้วยนะงานจะได้เสร็จไวๆ"

หลินเสี่ยวหมิง รับเลื่อยไฟฟ้ามาด้วยความตื่นเต้น เขาลองใช้มันตัดไม้ไผ่ ภายในเวลาไม่นาน เขาก็ตัดไม้ไผ่และซีกไม้ไผ่เสร็จเรียบร้อย

หลินเสี่ยวเหยา หยิบเครื่องยิงตะปูไฟฟ้าออกมาจากมิติ

"พี่สาวครับ เครื่องนี้คืออะไรเหรอครับ" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

"มันคือเครื่องยิงตะปูไฟฟ้า" หญิงสาวอธิบาย "เพียงแค่กดปุ่ม มันก็จะยิงตะปูเข้าไปในไม้ไผ่ได้อย่างง่ายดาย"

หลินเสี่ยวเหยา สาธิตการใช้เครื่องยิงตะปูไฟฟ้า ยิงตะปูเข้าไปในแผ่นไม้ไผ่ เสียงตะปูถูกยิงดัง "ปัง!"

"มันสุดยอดมาก!" เด็กน้อยอุทานด้วยความทึ่ง

ด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมืออุปกรณ์เหล่านี้ สองพี่น้องทั้งสองใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็สามารถสร้างเล้าไก่ ไข่ก็ใกล้เสร็จเรียบร้อย

เล้าไก่หลังนี้ โปร่งสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก หลินเสี่ยวเหยา มั่นใจว่า เล้าไก่แห่งนี้ จะช่วยให้เธอและครอบครัวมีไข่กินตลอดปีโดยที่ไม่มีใครสงสัยที่มาของไข่

พอถึงยามเย็นเล้าไก่ หลังน้อยก็เสร็จเรียบร้อย สองพี่น้องนั่งมองผลงานของตัวเองด้วยความภูมิใจ

หลินเสี่ยวเหยาจ้องมองไปรอบๆ ด้วยความพึงพอใจ รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้า "เสร็จซะทีนะ เล้าไก่ ของพวกเรา"

"เก่งมากครับพี่สาว พวกเราเก่งกันมาก!" หลินเสี่ยวหมิงปรบมือดีใจ

"ใช่ เก่งมาก" หลินเสี่ยวเหยารีบเอ่ย "แต่ว่างานของเรายังไม่เสร็จนะ พวกเราต้องหาไก่พันธุ์ดีๆ มาเลี้ยงด้วย"

หลินเสี่ยวหมิงพยักหน้า "จริงด้วยครับ พี่สาวจะเลี้ยงไก่อะไรครับ?"

หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า "พี่สาวว่าพวกเราเลี้ยงไก่ไข่ดีไหม ไข่ไก่ขายได้ราคาดีด้วย "

"ดีเลยครับพี่สาว" หลินเสี่ยวหมิงสนับสนุนความคิดของพี่สาว

"งั้นเดี๋ยวพี่สาวไปบ้านลุงเหวินก่อนนะ พี่จะไปถามซื้อไก่ไข่มาเลี้ยง เดี๋ยวน้องเล็กช่วยรดน้ำผักรอที่สาวอยู่ที่บ้านไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่สาวกลับมาจะทำกับข้าวให้ทาน" หญิงสาวสั่งการน้องชายก่อนจะไล่เก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปในมิติรวมทั้งแผงโซล่าเซลล์ด้วย

หลินเสี่ยวหมิงพยักหน้ารับคำ"ได้ครับ พี่สาวไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมจะช่วยรดน้ำผักให้เอง"

หลินเสี่ยวเหยานำตะกร้าหวายมาใส่หมูสามชั้น และผักสด ๆ นำมาใส่ตะกร้าก่อนจะเอาผ้าขาวมาคลุมตะกร้าไว้ ร่างบางก้าวเท้าเดินออกจากบ้านไปมุ่งหน้าไปบ้านลุงเหวินทันที

เมื่อเธอเดินผ่านแปลงนา ชาวบ้านกำลังจะเลิกงานกันพอดี เธอได้เจอพวกยุวชนปัญญายืนอยู่กับหลี่เหว่ยเฉียงพระเอกในนิยายเรื่องนี้ ชายหนุ่มเอ่ยทักเธอทันทีเมื่อเห็นเธอเดินผ่าน

"สหายหลิน หายหน้าหายตาไปนานเลยนะ" หลี่เหว่ยเฉียงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น

หลินเสี่ยวเหยาเมินเฉยคำพูดของคุณพระเอก เธอไม่ตอบคำทักทายของหลี่เหว่ยเฉียง

"แหม่..พอสหายเหว่ยเฉียง พูดด้วยก็ทำท่าทางหยิ่งยโสขึ้นมาทันทีนะ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

หลินเสี่ยวเหยาหันขวับไปมอง พบกับจ้าวหยวนตง เพื่อนสนิทของหลี่เหว่ยเฉียงใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

"ไม่เห็นมาหาสหายเหว่ยเฉียงหลายวันเลย" กัวเฉิงหลง เพื่อนอีกคนของหลี่เหว่ยเฉียงพูดเสริมขึ้นมา

หลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น อารมณ์โกรธค่อยๆ ก่อตัวขึ้นภายในใจ

"ทำไมฉันต้องหาสหายหลี่ด้วย?" เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

หลินเสี่ยวเหยาเริ่มคิดถึงฉากในนิยายที่เธออ่านจบไปเมื่อชาติที่แล้ว ความทรงจำจากนิยายวนเวียนอยู่ในหัว

ในนิยาย หลินเสี่ยวเหยา เป็นนางร้ายที่ทั้งโง่เขลาและน่ารำคาญ เธอหลงรักหลี่เหว่ยเฉียง ชายหนุ่มยุวชนปัญญาที่หน้าตาหล่อเหลา แต่หลี่เหว่ยเฉียงกับเย็นชาและรังเกียจเธอ หลินเสี่ยวเหยาพยายามเอาใจพระเอกด้วยการนำเงินทองที่พ่อแม่เหลือทิ้งไว้ให้มาซื้ออาหารและของใช้ให้ชายหนุ่ม แต่หลี่เหว่ยเฉียงกลับไม่สนใจนางร้ายอย่างหลินเสี่ยวเหยา กลับทำท่ารังเกียจไม่ยอมรับของเหล่านั้นต่อหน้าพวกชาวบ้าน

เขาแสร้งทำเป็นรังเกียจเธอ เพราะชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ของนางร้ายที่ชาวบ้านต่างร่ำลือ เขาโยนของที่เธอซื้อมาให้เพื่อนสนิทของเขาอย่างจ้าวหยวนตง หลังจากนั้นจ้าวหยวนตงก็ได้หลอกลวงหลินเสี่ยวเหยาว่าจะเอาข้าวของไปให้หลี่เหว่ยเฉียงทีหลังเพราะตอนนี้ชาวบ้านอยู่กันเยอะทำให้หลี่เหว่ยเฉียงไม่กล้ารับของเดี๋ยวเขาจะโดนมองไม่ดี หลินเสี่ยวเหยาที่โง่เง่า จึงเชื่อคำลวงของพวกเพื่อนพระเอก และสุดท้ายพวกเขาก็ต้องกินต้องใช้ข้าวของที่นางร้ายซื้อมาให้ เนื่องจากความแร้นแค้นเนื่องจากอาหารที่หายาก

"ฮึ…ตอนนี้ฉันได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว อย่าหวังว่าพวกแกจะได้ข้าวของจากฉันอีก" หลินเสี่ยวเหยามองพวกเพื่อนพระเอกด้วยแววตาเกลียดชัง ก่อนจะรีบเดินหนีไปทันที

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 13 เอาคืนพวกเพื่อนพระเอก

    จ้าวหยวนตงยื่นมือไปคว้าตะกร้าหวายจากหลินเสี่ยวเหยาที่มีผ้าขาวปกคลุมเอาไว้"สหายหลิน จะรีบไปไหน พวกเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ" จ้าวหยวนตงยิ้มเจ้าเล่ห์หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโกรธแค้น เธอพยายามเดินหนี แต่ชายหนุ่มจับตะกร้าเธอไว้แน่น"ปล่อยตะกร้าฉันเดี๋ยวนี้! ของพวกนี้ไม่ใช่ของพวกแก!" หลินเสี่ยวเหยาตะโกนกลับมา"ของฝากพวกนี้เอามาให้สหายเหว่ยเฉียงใช่มั้ยล่ะ? เดี๋ยวพวกเราเอาไปให้เขาเอง สหายหลินไม่ต้องเป็นห่วง" กัวเฉิงหลง ชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจหลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้พวกชาวบ้านเลิกงานเริ่มทยอยออกมาประปราย หญิงสาวไม่กล้าใช้ความรุนแรง ในขณะที่เธอกำลังจะยื้อตะกร้า จ้าวหยวนตงทำท่าจะโน้มตัวลงมาดูของในตะกร้าว่ามีอะไรบ้างทันใดนั้นเธอแกล้งก็ใช้ศอกฟาดเข้าที่ปากของจ้าวหยวนตงอย่างแรงจนชายหนุ่มเซไปข้างหลัง เลือดไหลซิบจากมุมปาก"โอ๊ย!" จ้าวหยวนตงร้องโอดโอย ก่อนจะปล่อยตะกร้าหวายออกจากมือ ชายหนุ่มไม่พอใจกล่าวว่าหญิงสาวตรงหน้าทันที"แกนังตัวดี! แกกล้ามาทำร้ายฉันเหรอ?!"จ้าวหยวนตงตะโกนขึ้นผู้คนรอบข้างเริ่มหยุดชะงัก มองมาที่หลินเสี่ยวเหยาและจ้าวหยวนตงด้วยความตกใจ เสียงโหวกเหวก

    Last Updated : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 14 อย่าทำให้ฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้

    หลังจากหลินเสี่ยวเหยาออกจากบ้านลุงเหวินมา หญิงสาวรีบเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวน้องชายจะหิ้วท้องรอ เธอก้าวเท้าผ่านแปลงนาด้วยความเร่งรีบ มุ่งหน้ากลับบ้านที่อยู่ติดกับเชิงเขาที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ท่ามกลางดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกลุ่มชายหนุ่มสามคนที่ยืนดักรอเธออยู่"นังตัวดี!" จ้าวหยวนตงตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ฉันจะแก้แค้นที่แกทำปากฉันแตก! ตอนนี้พวกชาวบ้านต่างก็กลับบ้านไปกันหมดแล้ว ไม่มีใครช่วยเหลือแกได้ ถ้าแกไม่อยากเจ็บตัว ก็นำข้าวของมาให้พวกฉันซะ!" ชายหนุ่มข่มขู่หลินเสี่ยวเหยาทันทีหลินเสี่ยวเหยา กัดฟันกรอด ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอไม่คิดจะให้ใครมารังแกเธอได้ง่ายๆ หรอก"ไอ้จ้าวหยวนตง แกอย่ามาหาเรื่อง ฉันไม่มีของอะไรจะให้แก" หลินเสี่ยวเหยา ตะโกนโต้กลับไป ด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว"นังนี่มันปากดีจริงๆ พวกเราจัดการสั่งสอนนังผู้หญิงคนนี้กันหน่อย!" จ้าวหยวนตง เรียกเพื่อนสนิททั้งสอง ตรงรี่เข้าหาหลินเสี่ยวเหยา"เฮอะ..ในเมื่อฉันไม่ได้ไปหาเรื่องพวกแก แต่พวกแกกับเสือกหาเรื่องเอง แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนละ ถ้าพวกแกแน่จริง ก็เข้ามา" หญิงสาวตะโกน

    Last Updated : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 15 คุณเลิกอ่อยฉันได้แล้ว

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเสี่ยวเหยา ตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะโหลสะเหล เธอนอนไม่หลับทั้งคืน ภาพใบหน้าหล่อเหลาของคุณตัวร้าย ย้ำเตือนความทรงจำเมื่อคืน น้ำเสียงอันทุ่ม นุ่มลึก ของร่างสูงที่บอกว่าเธอ"น่ารัก" ยังคงก้องอยู่ในหูความร้อนผ่าวจากใบหน้าไต่ขึ้นสู่แก้ม แก้มของเธอแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแค่คิดถึงมัน หัวใจของเธอก็เต้นระรัวเมื่อคืนนี้ เธอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่ม แม้จะนอนคนละที่กัน แต่ความใกล้ชิดก็เพียงพอที่จะปลุกเร้าจินตนาการของหญิงสาว"โอ๊ย…คุณตัวร้ายแอบคิดอะไรเกินเลยกับเธอหรือเปล่า" เสียงร้องอุทานของเธอแทบจะหลุดออกมา หัวใจเธอเต้นตึกตัก ภาพใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกริ่มของพันตรีหนุ่มลอยมาปรากฏในความคิดหลินเสี่ยวเหยาพลิกตัวไปมาบนเสื่อ ด้วยอาการของคนนอนไม่หลับ เธอครุ่นคิดว่าชายหนุ่มกำลังจะจีบเธอหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่กล้าคิดเกินเลยไปไกล ทำให้คิดวนเวียนไปมาเธอนอนหลับๆ ตื่นๆ พอรู้ตัวอีกทีเกือบใกล้รุ่งเช้าแล้วคนร่างบางจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ห้องครัว หวังจะดื่มกาแฟร้อนๆ สักแก้ว เพื่อปลุกให้ตัวเองตื่นเต็มตาเช้านี้ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย หญิงสาวเดินไปที่เตาฟืน ก่อไฟต้มน้ำร้อน เสียงฟืนที่แ

    Last Updated : 2024-12-20
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 1 ก่อนการเปลี่ยนแปลง

    ณ ฐานทัพเมือง A อันเงียบสงัด ท่ามกลางซากปรักหักพังของอารยธรรมที่ล่มสลาย ทีมของหลินเสี่ยวเหยา เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจสำคัญ พวกเขาคือความหวังในการอยู่รอดของฐานทัพแห่งนี้หลินเสี่ยวเหยา เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม เธอมีน้องสาวคนสนิท อย่างหลินเสี่ยวถง ที่คอยช่วยเหลือเธอในทุกสถานการณ์ และเจิ้งห้าว แฟนหนุ่มของหลินเสี่ยวเหยา ที่เป็นนักสู้ผู้เก่งกาจและเป็นที่พึ่งพิงของทุกคนในทีม นอกจากนี้ยังมีเพื่อนร่วมทีมอีกห้าคนที่ต่างก็มีความสามารถพิเศษกันทุกคน พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมของฐาน A"ทุกคนพร้อมไหม?" เจิ้งห้าวที่เป็นหัวหน้าทีมเอ่ยถามสมาชิกร่วมทีมทุกคน ทุกคนพยักหน้ารับพร้อมเพรียง"ภารกิจในวันนี้สำคัญมาก พวกเราต้องออกไปหาเสบียงอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้ได้มากที่สุด" เจิ้งห้าวกล่าวต่อ "จำไว้ว่าทุกคนต้องระวังตัวให้มาก โลกภายนอกไม่ปลอดภัยอีกต่อไป"ทีมของเจิ้งห้าวออกเดินทางจากฐานทัพด้วยรถบรรทุกคันใหญ่ พวกเขาต้องเดินทางไกลในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ถูกทิ้งร้าง หลินเสี่ยวเหยาและทีมรีบเข้าไปสำรวจภายในห้างสรรพสินค้า พวกเขาพบกับอาหารกระป๋อง น้ำดื่ม ยา และของใช้ที่จำเป็นอื่น ๆ อี

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 2 ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

    "โอ๊ยยยยย" หลินเสี่ยวเหยาครางออกมาอย่างทรมาน เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างมึนงง ภาพตรงหน้าพร่าเลือนก่อนจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เผยให้เห็นห้องนอนไม้เก่าๆ ทรุดโทรม แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านช่องหน้าต่างเล็กๆ ส่องกระทบใบหน้าซีดเซียวของเธอ ความเจ็บแปลบแล่นริ้วไปทั่วศีรษะราวกับเพิ่งถูกกระแทกอย่างแรง"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน" หลินเสี่ยวเหยาบ่นพึมพำกับตัวเอง เธอลุกขึ้นนั่งแล้วสำรวจตัวเอง หญิงสาวไม่พบร่องรอยบาดแผลจากฝูงซอมบี้แม้แต่น้อย"นี้ฉันจะฝันไปหรือเปล่า... ที่นี่คือที่ไหนกันแน่?" หลินเสี่ยวเหยาครุ่นคิดอย่างสับสนทันใดนั้น ความทรงจำของเจ้าของร่างนี้ก็ไหลทะลักเข้ามาในหัวของเธอราวกับเขื่อนแตก หลินเสี่ยวเหยาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอจำได้ทันที… ว่าเธอเข้ามาอยู่ในนิยายที่เพิ่งอ่านจบไปก่อนที่จะตายนี่นา! และที่ร้ายยิ่งกว่านั้น เธอยังมาอยู่ในร่างของนางร้าย ‘หลินเสี่ยวเหยา’ ที่ดันมีชื่อเหมือนกับเธออีกหญิงสาวพยายามตั้งสติ พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เดินไปที่หน้าต่างแล้วมองออกไปข้างนอก เห็นทุ่งนาเขียวขจีและภูเขาสูงตระหง่านที่แห่งนี้อยู่ในยุคมืดในปี 1970 ผู

    Last Updated : 2024-12-18
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 3 ตลาดมืด

    หลินเสี่ยวเหยาเดินออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านไป๋เหอ เพื่อหาทางเข้าไปในเมืองจินหลง หมู่บ้านไป๋เหอแห่งนี้มีสมาชิกอยู่เกือบร้อยหลังคาเรือนแต่ทันทีที่เธอปรากฏตัวในหมู่บ้านที่ตอนนี้ทุกคนกำลังเริ่มลงแปลงนากันอยู่ หลินเสี่ยวเหยาเดินไปตามถนนในหมู่บ้าน สายตาชาวบ้านที่มองมาและนินทาในระยะเผาขนเสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น เมื่อหลินเสี่ยวเหยาปรากฏตัวขึ้นในชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนสะอาดตา ผมยาวสลวยถูกรวบเป็นมวยหลวม ๆ ตกแต่งด้วยปิ่นหยกเรียบหรู แม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็ขับให้ใบหน้าหวานนั้นดูโดดเด่นขึ้นเป็นกอง"นั่นหลินเสี่ยวเหยาไม่ใช่เหรอ? วันนี้แต่งตัวซะสวยเชียว" เสียงแหลมเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มคนที่ยืนมุงดูอยู่ริมทาง"ก็แน่สิ เงินพ่อแม่หล่อนทั้งนั้นที่ทิ้งไว้ให้" เสียงอีกคนเสริมขึ้นมาอย่างเหยียดหยัน"ผู้หญิงอะไรขี้เกียจ ไม่ยอมทำลงแปลงนาเหมือนคนอื่น""ระวังเถอะ พอเงินพ่อแม่หล่อนหมดจะอดตายไม่มีข้าวจะกิน"หลินเสี่ยวเหยาได้ยินทุกคำพูดเหล่านั้น แต่เธอก็ทำเพียงแค่เมินเฉยและเดินหน้าต่อไป ริมฝีปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ ราวกับไม่ได้ใส่ใจกับคำนินทาเหล่านั้นแม้แต่น้อย เธอรู้ดีว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นเพียง

    Last Updated : 2024-12-18
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 4 ไฟแค้นโหมกระหน่ำ

    หลี่เหว่ยเฉียงยังคงสงบนิ่ง ไม่แสดงความหวาดกลัวออกมาให้เห็น แม้ภายในใจจะร้อนรุ่มเพียงใด เขารู้ดีว่าการขัดขืนมีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงทว่าในชั่วพริบตา ร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า เธอคือหลินฮวา สหายหญิงที่หลี่เหว่ยเฉียงแอบมีใจให้"ใจเย็นก่อนเถิด สหาย" หลินฮวากล่าวเสียงหวานแต่หนักแน่น "ตอนนี้สหายหลี่กำลังจะหมั้นหมายกับฉัน หากพวกคุณจับเขาไป งานมงคลก็คงต้องล่ม"เหล่าทหารชะงัก หันไปมองหน้าหญิงสาวที่กล้าขวางทางพวกเขาด้วยความประหลาดใจ"สหายหญิง ท่านอย่าได้เข้ามาขวางทางการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเรา" หัวหน้าทหารกล่าวเตือน"ฉันรู้ดี สหาย" หลินฮวาตอบ "แต่คุณลองคิดดู หากสหายหลี่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปฏิวัติจริง เขาจะกล้าประกาศหมั้นหมายกับฉันอย่างเปิดเผยเช่นนี้หรือ"หัวหน้าทหารครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพูดกับลูกน้อง "พวกเราไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน หากสหายทั้งสองโกหก ฉันจะกลับมาเอาหัวสหายทั้งสองคน จำไว้"หลี่เหว่ยเฉียงมองหลินฮวาด้วยความซาบซึ้งใจ หากไม่ใช่เพราะเธอ เขาคงถูกจับไปแล้ว และอาจต้องเผชิญชะตากรรมอันเลวร้าย"ขอบคุณมากสหายหลิน" หลี่เหว่ยเฉียงกล่าวอย่างจริงใจ "หากไม่ใช

    Last Updated : 2024-12-18
  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 5 ขออภัยที่ต้องรบกวนยามวิกาล

    ท่ามกลางราตรีอันมืดมิด เสียงฟ้าร้องคำรามดังกึกก้องไปทั่วผืนฟ้า เม็ดฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย บนเส้นทางสายเปลี่ยวที่ทอดยาวผ่านหมู่บ้านชนบทอันห่างไกล หยางเฟิง หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับหน่วยที่ 13 ผู้มากฝีมือ กำลังก้าวเดินอย่างยากลำบาก เนื้อตัวของชายหนุ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนและเลือดใบหน้าคมคาย เผยดวงตาสีดำคมกริบดุจเหยี่ยว และร่างกายกำยำล่ำสันของเขาเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกซุ่มโจมตีของกลุ่มกบฏที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้เมืองจินหลง พวกลูกน้องของเขาถูกศัตรูล้อมกรอบจนต้องแตกหนีเอาตัวรอด ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม หยางเฟิงจึงต้องสละตัวเองเพื่อเปิดทางให้พวกเขาหนีไปได้ เขาได้ต่อสู้กับพวกกบฏอย่างดุเดือด แต่ก็ไม่อาจต้านทานกองกำลังที่มากกว่าของพวกมันได้ เขาถูกยิงเข้าที่สีข้างจนเลือดไหลอาบ หยางเฟิงกัดฟันข่มความเจ็บปวด พยายามตะเกียกตะกายหนีออกจากวงล้อมของศัตรู เขาต้องหนีออกไปให้ได้และต้องกลับไปรายงานเรื่องนี้ให้ทางการได้รับทราบ เขาต้องไม่ยอมให้พวกกบฏลอยนวลหลังจากฝ่าวงล้อมออกมาหยางเฟิงก็เดินโซซัดโซเซไปตามเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และจะไปทางไหนต่อ เขาได้แต่

    Last Updated : 2024-12-18

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 15 คุณเลิกอ่อยฉันได้แล้ว

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเสี่ยวเหยา ตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะโหลสะเหล เธอนอนไม่หลับทั้งคืน ภาพใบหน้าหล่อเหลาของคุณตัวร้าย ย้ำเตือนความทรงจำเมื่อคืน น้ำเสียงอันทุ่ม นุ่มลึก ของร่างสูงที่บอกว่าเธอ"น่ารัก" ยังคงก้องอยู่ในหูความร้อนผ่าวจากใบหน้าไต่ขึ้นสู่แก้ม แก้มของเธอแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแค่คิดถึงมัน หัวใจของเธอก็เต้นระรัวเมื่อคืนนี้ เธอนอนห้องเดียวกับชายหนุ่ม แม้จะนอนคนละที่กัน แต่ความใกล้ชิดก็เพียงพอที่จะปลุกเร้าจินตนาการของหญิงสาว"โอ๊ย…คุณตัวร้ายแอบคิดอะไรเกินเลยกับเธอหรือเปล่า" เสียงร้องอุทานของเธอแทบจะหลุดออกมา หัวใจเธอเต้นตึกตัก ภาพใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกริ่มของพันตรีหนุ่มลอยมาปรากฏในความคิดหลินเสี่ยวเหยาพลิกตัวไปมาบนเสื่อ ด้วยอาการของคนนอนไม่หลับ เธอครุ่นคิดว่าชายหนุ่มกำลังจะจีบเธอหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่กล้าคิดเกินเลยไปไกล ทำให้คิดวนเวียนไปมาเธอนอนหลับๆ ตื่นๆ พอรู้ตัวอีกทีเกือบใกล้รุ่งเช้าแล้วคนร่างบางจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ห้องครัว หวังจะดื่มกาแฟร้อนๆ สักแก้ว เพื่อปลุกให้ตัวเองตื่นเต็มตาเช้านี้ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย หญิงสาวเดินไปที่เตาฟืน ก่อไฟต้มน้ำร้อน เสียงฟืนที่แ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 14 อย่าทำให้ฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้

    หลังจากหลินเสี่ยวเหยาออกจากบ้านลุงเหวินมา หญิงสาวรีบเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวน้องชายจะหิ้วท้องรอ เธอก้าวเท้าผ่านแปลงนาด้วยความเร่งรีบ มุ่งหน้ากลับบ้านที่อยู่ติดกับเชิงเขาที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ท่ามกลางดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกลุ่มชายหนุ่มสามคนที่ยืนดักรอเธออยู่"นังตัวดี!" จ้าวหยวนตงตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ฉันจะแก้แค้นที่แกทำปากฉันแตก! ตอนนี้พวกชาวบ้านต่างก็กลับบ้านไปกันหมดแล้ว ไม่มีใครช่วยเหลือแกได้ ถ้าแกไม่อยากเจ็บตัว ก็นำข้าวของมาให้พวกฉันซะ!" ชายหนุ่มข่มขู่หลินเสี่ยวเหยาทันทีหลินเสี่ยวเหยา กัดฟันกรอด ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอไม่คิดจะให้ใครมารังแกเธอได้ง่ายๆ หรอก"ไอ้จ้าวหยวนตง แกอย่ามาหาเรื่อง ฉันไม่มีของอะไรจะให้แก" หลินเสี่ยวเหยา ตะโกนโต้กลับไป ด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว"นังนี่มันปากดีจริงๆ พวกเราจัดการสั่งสอนนังผู้หญิงคนนี้กันหน่อย!" จ้าวหยวนตง เรียกเพื่อนสนิททั้งสอง ตรงรี่เข้าหาหลินเสี่ยวเหยา"เฮอะ..ในเมื่อฉันไม่ได้ไปหาเรื่องพวกแก แต่พวกแกกับเสือกหาเรื่องเอง แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนละ ถ้าพวกแกแน่จริง ก็เข้ามา" หญิงสาวตะโกน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 13 เอาคืนพวกเพื่อนพระเอก

    จ้าวหยวนตงยื่นมือไปคว้าตะกร้าหวายจากหลินเสี่ยวเหยาที่มีผ้าขาวปกคลุมเอาไว้"สหายหลิน จะรีบไปไหน พวกเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ" จ้าวหยวนตงยิ้มเจ้าเล่ห์หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโกรธแค้น เธอพยายามเดินหนี แต่ชายหนุ่มจับตะกร้าเธอไว้แน่น"ปล่อยตะกร้าฉันเดี๋ยวนี้! ของพวกนี้ไม่ใช่ของพวกแก!" หลินเสี่ยวเหยาตะโกนกลับมา"ของฝากพวกนี้เอามาให้สหายเหว่ยเฉียงใช่มั้ยล่ะ? เดี๋ยวพวกเราเอาไปให้เขาเอง สหายหลินไม่ต้องเป็นห่วง" กัวเฉิงหลง ชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจหลินเสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้พวกชาวบ้านเลิกงานเริ่มทยอยออกมาประปราย หญิงสาวไม่กล้าใช้ความรุนแรง ในขณะที่เธอกำลังจะยื้อตะกร้า จ้าวหยวนตงทำท่าจะโน้มตัวลงมาดูของในตะกร้าว่ามีอะไรบ้างทันใดนั้นเธอแกล้งก็ใช้ศอกฟาดเข้าที่ปากของจ้าวหยวนตงอย่างแรงจนชายหนุ่มเซไปข้างหลัง เลือดไหลซิบจากมุมปาก"โอ๊ย!" จ้าวหยวนตงร้องโอดโอย ก่อนจะปล่อยตะกร้าหวายออกจากมือ ชายหนุ่มไม่พอใจกล่าวว่าหญิงสาวตรงหน้าทันที"แกนังตัวดี! แกกล้ามาทำร้ายฉันเหรอ?!"จ้าวหยวนตงตะโกนขึ้นผู้คนรอบข้างเริ่มหยุดชะงัก มองมาที่หลินเสี่ยวเหยาและจ้าวหยวนตงด้วยความตกใจ เสียงโหวกเหวก

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 12 เปิดเผยความลับ

    หลินเสี่ยวเหยา ก้าวเท้าออกมาจากบ้านดินหลังเล็ก ก่อนที่จะเดินตรงไปยังแปลงผักที่อยู่หลังบ้านเธอเห็นหลินเสี่ยวหมิง กำลังยืนอยู่หน้าแปลงผัก สายตาของเขาจดจ่อกับต้นผักกาดหอมที่เพิ่งปลูกไปเมื่อวานนี้ ใบสีเขียวอ่อนเริ่มคลี่ออก เผยให้เห็นยอดอ่อนสีขาว หลินเสี่ยวเหยาเดินเข้าไปหาเด็กชาย"น้องเล็กทำอะไรอยู่เหรอ?""พี่สาวดูสิครับ ต้นผักกาดเริ่มแตกใบแล้ว!" หลินเสี่ยวหมิงตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขารู้สึกดีใจที่ได้เห็นผลลัพธ์จากการทุ่มเทดูแลแปลงผักหลินเสี่ยวเหยาโน้มตัวลง มองดูต้นผักกาดอย่างใกล้ชิด รอยยิ้มของเธอขยายกว้างขึ้น "น้องเล็กเก่งมากเลยนะ เป็นเพราะน้องเล็กช่วยพี่สาวรดน้ำ เมล็ดจึงแตกยอดออกมา" เธอเอื้อมมือลูบศีรษะน้องชายเบาๆ"ต่อไปเราก็จะมีผักสดๆ ไว้กินเองแล้ว"หลินเสี่ยวหมิงดีใจสุดๆ เขาตั้งตารอที่จะได้กินผักกาดที่ดูแลเองกับมือท่ามกลางความร่าเริงของเด็กน้อย หลินเสี่ยวเหยากำลังครุ่นคิดว่าจะบอกความจริงเรื่องมิติของเธอให้น้องชายได้รับรู้หรือไม่ เธออยากนำเครื่องมือในห้างสรรพสินค้าของมาสร้างเล้าไก่ คนร่างบางรู้สึกลังเลใจว่าจะบอกน้องชายดีหรือไม่หลินเสี่ยวเหยานึกถึงเรื่องราวในนิยายที่เธอหลุดเข้ามา น

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 11 จูบทางอ้อม

    ณ เมืองหลวงหลิวซิวหยวน มารดาของ หยางเฟิง เดินเข้ามาหา หยางกั๋วเฉิง ผู้เป็นสามีด้วยความร้อนใจ เธออยากรู้ว่าทำไมลูกชายเธอถึงไม่ยอมกลับมาบ้านสักที เธอพยายามถามผู้เป็นสามี เขาก็ตอบแต่เพียงว่า ลูกสามงานยุ่ง ตามปกติแล้วแม้งานของลูกสามจะยุ่งแค่ไหนเขาจะกลับมาที่บ้านใหญ่เสมอ เพื่อมาเยี่ยมครอบครัวทุกอาทิตย์แต่นี่ก็นานมาแล้วที่ลูกชายเธอขาดติดต่อกลับมา ใบหน้าของคุณนายหยางเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อหลิวซิวหยวน มาถึงที่ทำงานของสามี เธอเดินเข้าไปในห้องทำงานของสามีด้วยความรีบร้อน โดยไม่ได้เคาะประตู ทันใดนั้น เธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นภาพที่ไม่คาดคิดหยางกั๋วเฉิง สามีของเธอ กำลังนั่งสนทนาอยู่กับ หลิวซิวฉีพี่ชายของเธอ ใบหน้าของทั้งคู่ดูเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยความกังวล"พี่ชาย!" หลิวซิวหยวนร้องออกไปด้วยความตกใจ "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนหน้าถึงทำหน้าเคร่งเครียดแบบนี้?"หลิวซิวฉี หันมามองน้องสาว ก่อนจะถอนหายใจยาว "เจ้าสาม เขา...""เขา… เป็นอะไรไป?" คุณนายหยางรีบเอ่ยถามด้วยความร้อนรน หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว"เจ้าสามเขา... ไปปฏิบัติภารกิจลับ เพียงแต่ว่า... ตอนนี้พวกเราได้ขาดการติดต่อกับเจ้าสาม มาหล

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 10 ตบตีพวกเพื่อนนางเอก

    เมื่อคนเป็นพี่สาวเดินมาที่ลานหน้าบ้าน เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงน้องชายของเธอกำลังนั่งรอทานข้าวอย่างใจจดใจจ่อ บนโต๊ะไม้เก่า ๆ มีแกงผักป่าร้อน ๆ กับข้าวสวยวางอยู่ เมื่อเธอเดินมาหาน้องชาย หลินเสี่ยวหมิงยิ้มร่าด้วยความดีใจ"พี่เสี่ยวเหยา แกงที่พี่ทำมันหอมมากเลยครับ จนน้ำลายผมไหลยืด" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยขึ้น"มันหอมเพราะพี่สาวใส่เครื่องปรุงตามสูตรที่พี่สาวคิดค้นขึ้น มันทำให้น้ำแกงอร่อยขึ้น ถ้าน้องเล็กชอบพี่สาวจะทำให้ทานทุกวัน" หลินเสี่ยวเหยาตักแกงใส่ถ้วย ส่งให้น้องชายหลินเสี่ยวหมิงตักแกงเข้าปาก เคี้ยวช้า ๆ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเด็กน้อย"อร่อยมากเลยพี่สาว ฝีมือพี่นี่ไม่แพ้แม่เลยนะ" หลินเสี่ยวหมิงเอ่ยชมไม่หยุด‘หึ..ถ้าไม่มีเครื่องปรุงสำเร็จรูปกับข้าว ฉันก็คงทำคงไม่อร่อยเท่านี้หรอก’ หลินเสี่ยวเหยารู้สึกโชคดีที่ในห้างสรรพสินค้าของเธอมีเครื่องปรุงสำเร็จรูปครบครันทำให้การใช้ชีวิตในยุคนี้ ไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิดหลังจากทานข้าวเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็ทำการเก็บกวาดโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันมาบอกกับน้องชาย"เสี่ยวหมิง วันนี้น้องเหนื่อยมาทั้งวัน เดี๋ยวน้องไปพักผ่อนได้แล้ว""ครับพี่สาว เดี๋ยวผมไปก่อนนะครับ" เด็กชายพ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 9 หาของป่า

    หลินเสี่ยวเหยา เดินออกจากห้องมา เธอเห็นหลินเสี่ยวหมิงกำลังนั่งรอเธออยู่ที่ลานหน้าบ้าน บนพื้นมีตะกร้าสานใบโปรดวางอยู่พร้อมกับขวานตัดฟืนและมีดพร้า หลินเสี่ยวเหยาเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดเก่าๆ มัดผมเรียบง่าย คว้าตะกร้าสานที่บรรจุเครื่องมือและของทานเล่นนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับผู้เป็นน้องชายพวกเขาเดินมุ่งหน้าไปยังป่าไผ่ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ป่าไผ่แห่งนี้เป็นแหล่งอาหารสำคัญสองคนพี่น้อง ซึ่งเมื่อก่อนหลินเสี่ยวหมิงมักจะเข้ามาหาของป่าให้พี่สาวอยู่เป็นประจำเมื่อมาถึงจุดที่เต็มไปด้วยต้นไผ่ หลินเสี่ยวเหยาก็หยุดลง เธอวางตะกร้าสานลงบนพื้น หยิบขวานอันคมออกมาจากตะกร้า ผู้เป็นพี่สาวเริ่มสอนน้องชายถึงวิธีการตัดต้นไผ่"เสี่ยวหมิง น้องจับขวานให้มั่นนะ ตีตรงโคนต้นไผ่ ระวังอย่าให้โดนเท้าตัวเอง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเด็กน้อยพยักหน้ารับอย่างตั้งใจ ดวงตาของเขาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น เขาสวมหมวกฟางเก่า ๆ กำขวานแน่นในมือเล็ก ๆ พยายามเลียนแบบท่าทางของผู้เป็นพี่สาว"ผลัวะ!" เสียงขวานดังก้องไปทั่วป่า หลินเสี่ยวหมิงฟาดฟันต้นไผ่อย่างขะมักเขม้น แม้ว่าแรงของเขาจะยังไม่มากนัก แต่เขาก็พยายามอย่าง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 8 ผมสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆ

    หลินเสี่ยวเหยา เดินกลับมาถึงบ้านหลังเล็กๆ ของเธอ ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่และหญ้ารกทึบ คนเป็นพี่สาวเห็นน้องชายกำลัง กำลังก้มหน้าก้มตาถางหญ้าอยู่คนเดียว เหงื่อของเขาไหลอาบบนใบหน้า แววตาเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยด้วยความสงสารเด็กน้อยตัวเล็กๆ ที่ต้องทำงานหนักเหมือนผู้ใหญ่ หลินเสี่ยวเหยาก็รีบเดินตรงไปที่ห้องครัว เธอหยิบขวดน้ำหวานเย็นๆ และขนมปังแสนอร่อยจากมิติของเธอหญิงสาวเทน้ำหวานใส่กระบอกไม้ไผ่ และวางขนมปังอบกรอบไว้บนจานกระเบื้องเก่าๆ จากนั้นก็เดินตรงไปหาหลินเสี่ยวหมิงที่ทำงานอยู่สวนหลังบ้าน"เสี่ยวหมิง! พี่กลับมาแล้ว!" หญิงสาวตะโกนเรียกน้องชายด้วยน้ำเสียงสดใสและอบอุ่นหลินเสี่ยวหมิงเงยหน้าขึ้นจากแปลงผัก ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นพี่สาวกลับมาถึงบ้าน "พี่สาว! กลับมาแล้วเหรอครับ!" เขารีบวิ่งเข้าไปหาพี่สาวด้วยความดีใจหญิงสาวยิ้มกว้างพลางลูบหัวน้องชายเบาๆ "อืม... พี่กลับมาแล้ว" เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เสี่ยวหมิงไปพักก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะช่วยถางหญ้าต่อเอง""แต่ว่า..." หลินเสี่ยวหมิงทำท่าจะแย้งผู้เป็นพี่สาวขัดขึ้น "ไม่มีแต่" เธอยิ้มให้น้องชาย "พี่สาวแข็งแรงจะตายไป น้องเล็กไปพักผ่อนเถอะ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 7 ปะทะพวกเพื่อนนางเอก

    หลินเสี่ยวเหยายกกับข้าวมาให้หยางเฟิงที่เตียง ชายหนุ่มมองอาหารตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอาหารธรรมดา ๆ จะดูน่ารับประทานได้ขนาดนี้เขาตักข้าวต้มเข้าปากคำแรก รสชาติกลมกล่อมของข้าวต้มทำให้เขาแทบหยุดไม่ได้ เขาตักข้าวต้มเข้าปากคำแล้วคำเล่า จนข้าวต้มหมดถ้วย"อร่อยมากเลยครับ" ชายหนุ่มกล่าวชมด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจหลินเสี่ยวเหยายิ้มรับคำชม คนในยุคนี้ชาวบ้านทั่วไปชอบทำกับข้าวจืดๆ ไม่ได้เน้นเครื่องปรุงรสอะไร กับข้าวที่เธอใส่ผงปรุงรสไปก็เลยดูอร่อยเป็นพิเศษเธอสามารถทำกับข้าวขายได้เลย ถ้ามีผงปรุงรสอยู่ในมือ รับรองกับข้าวอร่อยทุกอย่าง แต่น่าเสียดายที่ยุคนี้ทำการค้าขายลำบาก"ฉันดีใจที่คุณชอบค่ะ"เธอกล่าวกับชายหนุ่มหลังจากหยางเฟิงทานข้าวเช้าเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็หยิบยาแก้ปวด และยาลดไข้ ออกมา 2 เม็ด"สหายหยางทานยาแก้ปวดและยาลดไข้หน่อยนะคะ อาการของคุณจะได้ดีขึ้น"หยางเฟิงรับยามาดู พบว่าเป็นยาฝรั่งราคาแพง เม็ดสีขาวกลม ๆ"คุณ... เอาเงินมาจากไหนมาซื้อยาพวกนี้?" ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลินเสี่ยวเหยาอึกอักไปชั่วครู่

DMCA.com Protection Status