Share

บทที่ 2 ครอบครัวปิงปิง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-01 21:15:36

บทที่ 2 ครอบครัวปิงปิง

ในช่วงเย็น พ่อ แม่ และพี่ชายก็มาหาเธอ ครอบครัวของเธอมีทั้งหมด 5 คน ไม่นับรวมปู่ย่าลุงป้าทั้งหลาย นับแค่ครอบครัวของเธอจริง ๆ  พ่อของเธอคือ หลิวชวน อายุ 38 ปี แม่เธอคือ ลู่ฟางเหนียง อายุ 36 ปี นี่คือครอบครัวของเธอที่หนังสือไม่ได้กล่าวถึงเลย กล่าวถึงแค่พวกเธอสามคนพี่น้องที่พอจะมีชื่ออยู่ในหนังสือเล่มนั้น แต่ไม่มีบทบาทอย่างอื่น มีหน้าที่แค่ตายเท่านั้น…

"ยังปวดหัวอยู่ไหม... หมอบอกพรุ่งนี้ก็กลับได้แล้วนะ"

"ไม่ปวดแล้วค่ะ แต่ยังเจ็บหัวและเจ็บตัว" ปิงปิงตอบแม่ของเธอ

"ต่อไปก็ระวังให้มาก อย่าวิ่งจนตัวเองต้องเจ็บตัว จำที่พ่อบอกด้วยล่ะ" หลิวชวนพูดแล้วเข้ามาลูบหัวของลูกสาวเบา ๆ

ลูกสาวคนเล็กของเขาชอบวิ่งชอบซนทั้งที่เริ่มโตแล้ว แต่ก็ยังทำตัวและเล่นแบบเด็ก ๆ เขาต้องคอยห้ามปรามอยู่ตลอด

"พ่อ... วันนี้เหนื่อยไหมคะ" ปิงปิงรู้ตัวว่าต้องโดนบ่นแน่ ๆ เลยต้องออดอ้อนไว้ก่อนเผื่อจะช่วยได้

"หึ... ช่างรู้จักเอาตัวรอด" หลิวชวนหัวเราะกับท่าทางลูกสาวคนเล็ก

"ต้องโดนไม้ถึงจะเข็ด" ฟางเหนียงเริ่มขู่ลูกสาวที่ซนจนตัวเองเจ็บตัว

พอทุกคนเห็นท่าทางของปิงปิงก็อดยิ้มและหัวเราะไม่ได้ อาจเพราะลูกสาวคนเล็กของบ้านนี้มีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูมาก ไม่ว่าจะผิวพรรณ หน้าตาที่จิ้มลิ้มดูน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่าสวย ส่วนลูกสาวคนโตจะดูสวยมากกว่าน่ารัก ลูกชายก็เหมือนกัน หน้าตาดูดีหล่อเหลา

"พ่อคะ... ตัวร้ายเป็นแบบไหนได้บ้าง" ปิงปิงถามพ่อนี่แหละ พ่ออายุเยอะกว่าทุกคน ต้องหาตัวร้ายได้แน่ ๆ

"พ่อไม่ต้องตอบน้องสาวหรอก วันนี้น้องสาวถามแต่เรื่องตัวร้ายทั้งวันเลย" อิงอิงคิดว่าตอบไปแล้วน้องจะเลิกถาม แต่ก็ยังมาถามพ่ออีก

"อยากรู้ไปทำไม... หืม" หลิวชวนถามลูกสาว

"ต้องทำแบบไหนถึงจะเป็นตัวร้ายที่ฆ่าคนได้ แล้วตัวร้ายทำอะไรได้บ้าง" 

"เรียกหมอมาตรวจน้องเพิ่มไหมครับ" พี่ชายเห็นน้องสาวถามวนไปวนมา เขากลัวหัวน้องสาวกระแทกอย่างแรง เพื่อความสบายใจควรให้หมอมาตรวจอีกรอบก่อนกลับบ้าน

พี่ชายยกมือมาจับหัวน้องสาวแล้วโคลงไปโคลงมา จังหวะนั้นทำให้ปิงปิงเวียนหัวเลยเอามือขึ้นไปจับมือพี่ชายไว้ ทำให้ปิงปิงถึงกับตาโตอ้าปากค้าง 

"ปวดหัวเหรอ พี่ชายจับเบา ๆ เองนะปิงปิง"

"ไม่ปวด แต่ปิงปิงเห็น... " 

"แม่ว่านอนได้แล้ว พักให้เยอะ ๆ พรุ่งนี้เช้าจะได้กลับบ้านได้" ฟางเหนียงต้องบอกให้รีบนอน ไม่อย่างนั้นก็หยอกล้อเล่นกันอยู่ตรงนี้ไม่ได้พักสักที

"ทุกคนนอนที่ไหนกันคะ" ปิงปิงสงสัยเพราะที่นี่เป็นห้องรวม มีคนไข้อยู่ครบทุกเตียง แล้วครอบครัวเธอนอนที่ไหนกัน

"ข้างนอกมีเก้าอี้ และวันนี้แม่เตรียมเสื่อมาปูนอนข้างนอก ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวก็เช้าแล้ว" ฟางเหนียงก็ยังเป็นคนที่บอกลูกสาว เมื่อคืนก็พากันนอนบนเก้าอี้ข้างนอก เพราะลูกสาวคนเล็กยังไม่ฟื้นเลยต้องเฝ้ากันทั้งคืน

"ทุกคนต้องนอนลำบากเพราะปิงปิง"

"นอน ๆ เจ้าตัวแสบ พรุ่งนี้จะได้กลับบ้านพร้อมกัน" หลิวชวนรีบบอกให้ลูกสาวรีบนอน

"พ่อคะ... ขอจับมือก่อน"

"จับมือแล้วทำหน้านิ่วคิ้วขมวดทำไม" หลิวชวนยื่นมือให้ลูกสาวจับ แต่พอให้จับมือแล้ว ลูกสาวกลับมีท่าทีแปลก ๆ

"นอน ๆ อย่าเพิ่งจับ พรุ่งนี้ค่อยจับ" เป็นแม่อีกตามเคยที่มาบอกให้ปิงปิงรีบนอน

ปิงปิงเลยต้องแกล้งหลับตาและใช้ความคิดเกี่ยวกับเรื่องตัวร้าย ต้องร้ายขนาดไหนถึงมาฆ่าเธอได้ แล้วทำไมถึงต้องฆ่าเธอด้วย ปิงปิงกำลังคิดว่าเธอไปทำอะไรให้ใครหรือเปล่า เท่าที่จำได้เธอก็ไม่มีศัตรูที่ไหนที่พอจะให้มาฆ่ากันได้ คนที่เกลียดเธอนับเป็นตัวร้ายด้วยไหม ปิงปิงใช้ทั้งสมองและความคิดอย่างหนักแต่ก็คิดไม่ออก และเพราะฤทธิ์ยาเลยทำให้เธอเผลอหลับทั้งที่สมองยังทำงานอยู่…

"ไหนจะค่าเรียน ค่ารักษา เลิกเรียนแล้วออกมาช่วยงานจะได้ไม่ก่อเรื่อง"

"ย่าเหนื่อยไหมคะ... เอาน้ำไหมคะ"

ปิงปิงยืนฟังย่าบ่นตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ ขาเธอเริ่มแข็งแล้ว และเธออยากเข้าห้องน้ำมากแต่ไปไหนไม่ได้ ต้องรอให้ย่าอนุญาตก่อน  ไม่อย่างนั้นย่าจะไม่บ่นแค่เธอ แต่จะลามไปถึงพ่อแม่พี่ชายพี่สาวของเธออีก เธอเลยยอมให้ย่าบริหารปาก ถามว่าปิงปิงได้ฟังที่ย่าบ่นไหม ปิงปิงก็ได้ยินนะ มันเหมือนวิ่งผ่านเข้ามาหูซ้ายแล้ววิ่งออกไปทางหูขวาทันทีเลย...

"ยอกย้อนเก่งที่สุด หมดเงินหมดทองเพราะแกเท่าไรแล้ว"

"ย่า... ทำไมย่าถึงชอบบ่นปิงปิง คนอื่นใช้เงินเยอะกว่าปิงปิงตั้งเยอะ ทำไมไม่เรียกมาบ่นแบบนี้บ้าง"

เฉินเฉินยืนฟังมานานแล้ว น้องสาวเขาโดนเรียกมาว่ามาด่าตลอดไม่ว่าจะผิดเล็กน้อย หรือที่เขาเข้าใจคืออันไหนที่ย่าไม่พอใจจะผิดหรือถูกก็จะโดนเรียกมาแบบนี้ตลอด บ้านนี้คนอยู่สิบกว่าคน ส่วนมากผู้หญิงจะโดนด่าและใช้งานหนักว่าผู้ชาย ทั้งที่ผู้ชายมีแรงมากกว่าผู้หญิง อย่างพี่สาวเขาก็เหมือนกัน โดนย่าใช้งานตลอด ผิดกับพวกผู้ชายที่ย่าบอกให้ตั้งใจเรียน

"อาเฉิน อ่านหนังสือเสร็จแล้วเหรอ" 

"เปล่าครับ ผมมาตามน้องไปกินยา" 

"เออ ๆ ไปไกล ๆ จะไปไหนก็ไป! "

เมื่อพี่ชายมาช่วยชีวิต ปิงปิงก็รีบเดินออกมา เธออยากให้พ่อกับแม่แยกไปอยู่ที่อื่น เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะว่าเธอโดนบ่นประจำหรอกนะ แต่เธอสงสารแม่และพี่สาวที่ต้องคอยทำงานทั้งข้างนอกแล้วยังจะมาทำงานบ้านอีกด้วย บ้านหลังนี้ไม่ได้มีแค่ปู่กับย่า ยังมีลุงใหญ่กับครอบครัว และมีลุงรองกับครอบครัวอีก ปู่กับย่ามีลูกชาย 3 คน ทุกคนอยู่รวมกันในบ้านหลังนี้ พ่อของเธอเป็นคนสุดท้องและทำงานหนักกว่าลุงใหญ่เสียอีก ส่วนพี่สาวกับแม่ต้องซักผ้าให้คนทั้งบ้าน พี่สาวเธอถึงอยากให้พ่อกับแม่แยกบ้าน แต่พี่สาวบอกว่าต้องใช้เงิน ปิงปิงเลยคิดว่าจะต้องหาเงินมาช่วยพ่อกับแม่ให้แยกบ้านให้ได้!

Bab terkait

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 3 ความสามารถพิเศษปิงปิง

    บทที่ 3 ความสามารถพิเศษปิงปิงชีวิตก็ต้องรักษา เงินก็ต้องหา แล้วตอนนี้เธออายุแค่ 14 จะไปหาเงินได้จากไหนเยอะ ๆ ถึงไปทำงานก็ต้องแอบทำไม่ให้คนในบ้านรู้ เพราะถ้ารู้ก็ถูกยึดเงินแน่นอน ตอนที่พี่สาวเธอแอบสอนพิเศษเด็กเล็ก พอย่ารู้เข้า เงินก็ถูกยึด ทั้งถูกด่าและถูกตีอีกด้วย เธอต้องหาเงินแบบไม่ให้ย่ารู้และต้องปิดไม่ให้ทุกคนรู้"พ่อคะ... พ่ออยากแยกบ้านไหม" "ถามทำไม... หืมม... " หลิวชวนถามกลับลูกสาวจะให้เขาพูดได้ยังไงว่าอยากแยกบ้านเหมือนกัน เพราะเขาสงสารเมียกับลูกสาวคนโตที่ต้องทำงานบ้านกันแค่สองคน ทั้งที่คนในบ้านอยู่กันตั้งเยอะแต่ไม่มีใครคิดจะช่วยทำเลย ตอนนี้เขาก็แอบเก็บเงินเพื่อที่จะได้มีเงินไปเช่าบ้าน แต่เพราะต้องใช้เงินเยอะและลูก ๆ ยังต้องเรียนกัน อีกไม่ถึงปีลูกชายและลูกสาวก็จะเรียนจบแล้ว ถ้าออกไปตอนนี้ เงินที่แอบเก็บไว้อาจไม่พอ ถ้าหากลูก ๆ ของเขาอยากเรียนต่อวิทยาลัย"ปิงปิงรู้ว่าแยกบ้านต้องใช้เงินเยอะ ปิงปิงอยากช่วยหาเงินค่ะ" ปิงปิงบอกพ่อไปตามความจริง"ตัวแสบ... เพิ่งกลับมาก็หาเรื่องซุกซน" หลิวชวนคิดว่าลูกสาวอยากออกไปเล่นซนมากกว่า เพราะตอนนี้ถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน คงรู้สึกเบื่อแน่ ๆ"จริง

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-01
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 4 ขโมยปิงปิง

    บทที่ 4 ขโมยปิงปิงตอนนี้ปิงปิงมั่นใจแล้วว่าถ้าแตะมือข้างขวาไปที่ใครแล้วจะเห็นอนาคตของคนนั้น แต่เธอไม่ได้เห็นทุกอย่าง มันมีแค่บางเหตุการณ์แค่นั้นที่ปรากฏให้เธอเห็น และภาพที่เห็นมันก็เลือนรางไม่ชัดเจนเหมือนตอนที่เธอใช้มือข้างซ้ายแตะ ถ้าใช้มือข้างซ้ายแตะมันจะเห็นภาพชัดเจนมาก ปิงปิงเดาว่ามือข้างซ้ายของเธอจะทำให้เธอเห็นอดีตของคนที่เธอแตะตัววันนี้เป็นวันจันทร์ ทุกคนไปทำงานและไปโรงเรียนกันหมด ยกเว้นปิงปิงคนนี้ที่พ่อกับแม่บอกให้หยุดเรียนอยู่บ้านอีกสักวัน ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พรุ่งนี้ค่อยไปเรียน ปิงปิงอยากจะบอกว่าจริง ๆ แล้วเธอดีขึ้นมากแล้ว ไปเรียนได้ แต่ปิงปิงอยากหยุดเรียนวันนี้เพื่อที่เธอจะได้พิสูจน์ความสามารถมือซ้ายของเธอเมื่อวานปิงปิงไล่แตะตัวคนทั้งบ้าน จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่เธอจำได้ดีคือเธอเห็นป้าใหญ่เอาเงินไปซ่อนตรงสวนหลังบ้าน ที่ปิงปิงมั่นใจว่าซ่อนเพราะปกติย่าเป็นคนเก็บเงินของทุกคน เพื่อพิสูจน์ความจริงนี้ เธอเลยมาอยู่ตรงสวนหลังบ้านบริเวณที่เธอเห็นว่าป้าใหญ่เอาเงินมาซ่อน ปิงปิงจัดการยกกระถางต้นไม้ออกเพื่อดูว่ามีอะไรข้างในไหม"โห... ปิงปิงจะรวยแล้ว" ปิงปิงเจอเงินจริง ๆ ด้วย...

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-01
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 5 หมอดูปิงปิง

    บทที่ 5 หมอดูปิงปิงธุรกิจขโมยของปิงปิงในตอนนี้ถือว่ากำลังไปได้ดี ตอนนี้เธอมีเงินเกือบ 500 หยวน จากที่ต้องปีนต้นไม้ไปสู้กับมด มันคุ้มค่ามากเพราะเธอได้เงินมา 300 กว่าหยวน ย่าซ่อนเงินไว้เยอะมาก ตอนนี้เธอพอจะรู้แล้วว่าส่วนมากผู้หญิงจะเป็นคนซ่อนเงิน และเธอไม่กลัวว่าคนอื่นจะโวยวายเรื่องที่เงินหายไป เพราะเงินพวกนี้ทุกคนต่างก็ซ่อนไม่ให้ใครรู้ สบายใจได้ว่าทุกคนจะปิดปากเงียบ เป้าหมายต่อไปของเธอคือป้ารอง แต่ติดที่ว่าวันนี้เธอต้องไปโรงเรียนจึงทำให้ต้องเลื่อนแผนขโมยเงินของป้ารองออกไป"อย่ามัวแต่ยืนเหม่อ รีบ ๆ เดินตามมา" อิงอิงบอกน้องสาวที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่ยอมเดินไปสักที"ปิงปิงเร็ว! เดี๋ยวสาย" เฉินเฉินเร่งน้องสาวด้วยอีกคน ถ้ามัวแต่ยืนเหม่อได้ไปสายแน่ ๆที่ปิงปิงยืนเหม่อเพราะว่าตอนออกจากบ้านมา มือขวาของเธอไปโดนตัวลุงรอง เธอเห็นว่าลุงรองกับย่าคุยกัน แต่เธอไม่รู้ว่าคุยอะไร รู้แต่ว่าย่ายื่นเงินส่งให้ลุงรอง ปิงปิงกำลังสงสัยว่าทุกคนจะเข้าไปเอาเงินจากย่าหรือเปล่า แล้วทำไมพ่อเธอไม่เข้าไปเอาบ้าง พอคิดได้แบบนั้น เธอก็วิ่งกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่ฟังเสียงเรียกของพี่ชายกับพี่สาว"พี่ไปเรียนก่อน เดี๋ยวผมรอน้องเอง

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-02
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 6 เพื่อนปิงปิง

    บทที่ 6 เพื่อนปิงปิงปิงปิงโดนครูสั่งให้ยืนหน้าห้องเรียนเป็นการทำโทษ และตอนพักกลางวันให้เข้าไปช่วยงานครู ตอนที่เธอยืนอยู่หน้าห้องก็ค่อย ๆ เอาหัวชะโงกหน้าดูตรงหน้าต่างห้องเรียนเพื่อมองหาเพื่อนสนิทของเธอ แต่ก็ไม่เห็น เพื่อนของเธอบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติแค่ 3 วัน วันนี้ก็น่าจะมาเรียนได้แล้ว แต่เดี๋ยวนะ! เธอเห็นเพื่อนเธอแล้ว กำลังคลานเข้ามา คงมาสายเหมือนเธอ แต่เล่อเล่อมาสายกว่า "เย่วเล่อ! จะหลบครูหรือยังไง! ไปยืนกับเพื่อนเธอเดี๋ยวนี้! " ปิงปิงคิดว่าคุณครูเหมือนมีเครื่องตรวจจับนักเรียนมาสาย แต่พอรู้ว่าเพื่อนสนิทก็โดนทำโทษด้วยกัน จึงทำให้ปิงปิงมีความสุขขึ้นมาทันที"ปิงปิง เธอวิ่งลงบันไดอีกแล้วใช่ไหม" เย่วเล่อรู้จักเพื่อนของเธอดี เพราะเล่นกันมาตั้งแต่จำความได้ "ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว... ฉันอยากรู้ว่าเธอรู้จักคนพวกนี้ไหม" ปิงปิงหยิบสมุดส่งให้เพื่อนแล้วขยิบตาเป็นสัญลักษณ์ที่รู้กันแค่สองคน เพราะถ้าครูจับได้จะได้บอกว่าคุยกันเรื่องเรียน"ถามถูกคนแล้ว เล่อเล่อคือผู้รอบรู้เรื่องผู้คน" เล่อเล่อรีบยืดอกพูดด้วยความภูมิใจเล่อเล่อค่อย ๆ ไล่อ่านทีละชื่อแล้วก็เกาหัวแกรก ๆ"หัวเธอกระแทกพื้นแรงมากหรือเปล่า น

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-03
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 7 ช่วยปิงปิง

    บทที่ 7 ช่วยปิงปิงหลังจากวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตแล้วก็มาถึงจุดนัดหมาย ตอนนี้ปิงปิงแอบอยู่ในห้องน้ำหญิงที่ตึกปลายเพื่อรอเล่อเล่อตามที่นัดไว้"ขังมันไว้เลย! สารเลว""เร็ว ๆ เดี๋ยวคนมา มึงไปดูต้นทาง! "ปิงปิงได้ยินเสียงกลุ่มคนคุยกันและเหมือนลากอะไรเข้ามาในห้องน้ำ เธอรีบซ่อนตรงมุมถังขยะด้านในสุด ยังดีที่เธอตัวเล็กสามารถมุดเข้าช่องได้แต่มันก็ยังทำให้เธออึดอัด แต่ความอึดอัดก็สู้ความอยากรู้ไม่ได้ ปิงปิงทั้งแอบฟังทั้งแอบดูทั้งที่มองไม่ค่อยเห็น ได้ยินชัดเจนแต่ไม่รู้เรื่อง เพราะต่างคนต่างพูด ทั้งด่าทั้งร้องไห้ ไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใคร"มึงกล้ากับกู! ปากดีนักใช่ไหม !" "กรี๊ด... อีหมาบ้า! ปล่อยกู! "เพียะ! เพียะ! เพียะ!ปิงปิงที่แอบอยู่ก็เริ่มอยู่ไม่ได้เหมือนกัน ด้านนอกเขาตีกัน ด้านในก็อึดอัดมาก จะออกไปตอนนี้ก็กลัวซวยไปด้วย เดี๋ยวจะหาว่ามาช่วย เผลอ ๆ อาจคิดว่าเธอเป็นพยานรู้เห็นอีก ทางไหนก็มีแต่ซวย แต่ตอนนี้มันอยู่ไม่ได้แล้วแม่จ๋า... หลบอยู่ข้างถังขยะ มดแดงมันเยอะ มันรุมกัด ทั้งเจ็บทั้งแสบทั้งคันไปหมดแล้ว...."ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! " ปิงปิงทั้งวิ่งและตะโกน เธอมุดหลบพวกรุ่นพี่ที่กำลังตบกันอย่างเมา

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-03
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 8 น้องอ้วนปิงปิง

    บทที่ 8 น้องอ้วนปิงปิงเมื่อได้ยินที่เพื่อนบอกแล้ว ปิงปิงถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่ไม่ลืมจดรายละเอียดที่ได้มา กลัวได้แต่รายละเอียดก็ต้องจด เพื่อชีวิตที่เหลือเวลาเพียงน้อยนิดนี้ เธอต้องใจกล้าเข้าไว้"ตอนฉันวิ่งหนี ฉันไปเจออะไรมาด้วย" เล่อเล่อขยับเข้าใกล้เพื่อนแล้วกระซิบเสียงเบา"อะไร... ยังไง" ปิงปิงก็ไม่น้อยหน้า กระซิบตอบกลับเบากว่า"ฉันเห็นพี่สาวเธอยืนคุยกับผู้ชาย ถ้าฉันมองไม่ผิด ฉันเห็นเขาจับมือกันด้วย" "จับมือด้วยเหรอ แล้วผู้ชายเป็นใคร เห็นหน้าไหม" ปิงปิงถามกลับ"ถ้าพวกผู้ใหญ่มาเห็นเป็นเรื่องแน่ ฉันไม่เห็นหน้า เห็นแค่ด้านข้าง ฉันโดนพี่จุนหานลากมาหาเธอเนี่ยแหละ แต่ฉันเห็นพวกพี่จุนหานมองไปทางที่พี่สาวเธอยืนอยู่พักหนึ่ง ก่อนออกมา""เธอห้ามบอกคนอื่นเรื่องพี่อิงอิงนะ" ปิงปิงกลัวเพื่อนเธอเผลอหลุดปากเหลือเกิน"ไม่หลุดหรอก ฉันเห็นไม่ชัดด้วย ถ้าฉันเห็นชัดอาจหลุด" เรื่องที่ไม่มั่นใจ หากหลุดไปอาจมีเรื่องมาหาตัวได้ เธอไม่กล้าเสี่ยง มันอันตรายเกินไป เล่อเล่อไม่หลุดกับเรื่องที่ยังไม่มั่นใจแน่นอน"นั่นแหละ ชัดไม่ชัดก็ห้ามหลุด เธอว่าพี่จุนหานจะรู้จักกับพี่สาวฉันไหม และเมื่อกี้เขาเรียกท

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-04
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 9 นักสืบปิงปิง

    บทที่ 9 นักสืบปิงปิงปิงปิงได้ยินก็กลอกตามองบน จากขี้เหร่อยู่แล้ว ตอนนี้มีคำว่าอ้วนห้อยติดตามมาด้วย แล้วชาตินี้จะสวยเหมือนคนอื่นไหม... "บีบทำไม" ปิงปิงหันมากระซิบเล่อเล่อที่อยู่ ๆ ก็บีบก้นเธอในเวลานี้"ยัยขี้เหร่! เธอแอบไปกินซาลาเปาร้านประจำแล้วไม่บอกฉันใช่ไหม! "เล่อเล่อได้ยินที่พี่จุนหานเรียกน้องอ้วนปิงปิง เธอก็ต้องจับก้นพิสูจน์ และเธอคิดว่าเพื่อนเธอต้องแอบไปกินของอร่อยตอนที่เธอไม่อยู่แน่ ๆโป๊ก! ปิงปิงถวายกำปั้นใส่หัวเล่อเล่อทันทีพร้อมกับถลึงตาใส่อีกด้วย จากนั้นเธอก็เลิกสนใจยัยเห็นแก่กินแล้วทำตามแผนที่เธอวางไว้ เธอส่งยิ้มทะเล้นให้พี่จุนหานพร้อมกับยักคิ้วให้อีกด้วย จะเรียกอะไรเธอก็ไม่สน ขอแค่ได้ข้อมูลมาก็พอ"ปิงปิงมาขอบคุณพี่" ปิงปิงพูดเสียงดังเพราะเขากับเธออยู่ห่างกันพอสมควร แล้วดูเหมือนจะมีคนอื่น ๆ ยืนขวางไม่ให้เธอเข้าใกล้"หึ! กล้าดี" จุนหานพูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้คนของเขาหลีกทางให้เด็กอ้วนปิงปิงเดินเข้าไปหาพี่จุนหานด้วยท่าทางที่ไม่ได้กลัวเลยสักนิด แต่ใครจะไปรู้ว่าใจเธอเต้นแทบทะลุออกมา ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นหรอกนะแต่เป็นเพราะเธอกลัว ไม่ได้กลัวธรรมดานะ กลัวมากที่สุด! เธออาศัยความใจก

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-04
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 10 แมว... ปิงปิง

    บทที่ 10 แมว... ปิงปิงปิงปิงคิดว่าวันนี้มันเป็นวันอะไร ทำไมมีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอมากมาย เธอเดินตามพี่สาวไปเรื่อย ๆ จนเห็นพี่สาวของเธอเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก ๆ เธอจึงหยุด รอให้เวลาผ่านไปสักพักถึงจะเดินตามเข้าไป…"แหนะ... มีเรื่องสนุกทำไมไม่เรียก" เล่อเล่อเข้ามากระซิบใกล้ ๆ"เล่อเล่อ บ้านเธออยู่โน่น มาทำอะไรตรงนี้" ปิงปิงตอบกลับทันที ถ้ามาจากโรงเรียน บ้านเล่อเล่อถึงก่อนบ้านเธอ เมื่อกี้เล่อเล่อเข้าบ้านไปแล้ว ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่อีก"ลืมสมุดการบ้านไง ต้องเอาไปลอก จะให้ไปลอกที่โรงเรียนหรือไง... ถามโง่ ๆ " เล่อเล่อรีบบอกทันที เธอรู้ว่าปิงปิงทำการบ้านเสร็จก่อนเลิกเรียนตลอด เอามาลอกที่บ้านปลอดภัยที่สุด!พอรู้ว่าปิงปิงกำลังแอบตามดูพี่สาว เล่อเล่อก็ขอตามไปด้วย ทั้งสองจึงแอบอยู่ฝั่งตรงข้ามของอีกซอย ตอนนี้พวกเธอมองเห็นพี่อิงอิงยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าใคร ด้วยระยะที่ไกลจึงทำให้ไม่สามารถได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน พยายามมองดูว่าผู้ชายหน้าตาเป็นยังไงก็มองไม่เห็น"ปิงปิง... เราออกไปก่อนดีไหม ตรงนี้เสี่ยงเกินไป" เล่อเล่อกระซิบบอก"ดีเหมือนกัน" ปิงปิงคิดว่าถึงแอบดูหรือแอบฟังก็ไม่ได้ยินอยู่ดีทั้

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-05

Bab terbaru

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 51 บทส่งท้าย

    บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 50

    บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 49

    บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 48

    บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 47

    บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 46

    บทที่ 46ปิงปิงเตรียมไขกุญแจเข้าห้องอย่าทุลักทุเล... แต่ที่น่าตกใจคือประตูเปิดออกเอง ทั้งที่เธอยังไม่ได้เสียบกุญแจเลยด้วยซ้ำ ปิงปิงเลยจุดคบเพลิงตามที่ปู่ทวดบอกแล้วถือเดินตามทางเดินเข้าไป ภายในห้องกว้างมีกลิ่นดอกไม้หอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ปิงปิงเดินไปจนถึงที่จุดคบเพลิงที่ติดอยู่กับผนัง เธอจึงจุดเพิ่มเพื่อที่จะได้มองเห็นรอบ ๆ แสงสว่างค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละนิด พอทั้งห้องเริ่มสว่างก็เกิดเสียงดัง ปัง!! พร้อมกับประตูทางเข้าปิดสนิท เหมือนว่าตอนนี้เธอถูกขังอยู่ในห้องนี้แล้ว...ชั่วขณะที่ปิงปิงสำรวจ ห้องนี้ที่มีขนาดกว้างพอสมควร แต่พอสำรวจจนทั่วก็ทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ เพราะว่าห้องนี้เหมือนกับลานกว้างในฝันของเธอนั่นเอง ลานกว้างที่มีแท่นบูชา... ถ้าให้เดาคงเป็นสถานที่ที่เทพธิดาอักษรจบชีวิตลงแน่นอน ปิงปิงเดินเข้าไปที่แท่นบูชาที่มีดอกเหมยกุยสีแดงขึ้นอยู่เต็มและกำลังเบ่งบานชูช่อสวยงาม เธอค่อย ๆ เอามือลูบไล้ตามพื้นของแท่น สัมผัสดูเรื่อย ๆ สายตาก็สำรวจสิ่งของที่วางบนแท่นบูชา มีตะเกียงแก้ววางอยู่... ถัดมาเป็นหนังสือเล่มสีแดง... สิ่งสุดท้ายคือกริชโบราณแบบที่แทงเข้าไปในหัวใจของธิดาอักษร แบบเดียวกันกับท

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 45

    บทที่ 45หลังจากได้รับคำตอบรับจากผู้อาวุโสตระกูลจ้าวแล้ว จ้าวหลิวหยางเลยพาทุกคนมาที่ตระกูลหลัก ปิงปิงเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับทุกคน ส่วนคนติดตามหรือคนสนิทต้องรออยู่นอกบ้านเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ตอนแรกเธอไม่ได้มีอาการกลัวแต่อย่างใด แต่พอมาอยู่ท่ามกลางสายตาของคนตระกูลจ้าวหลายสิบคน จึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งอยู่บ้างปิงปิงทำความเคารพผู้อาวุโสทุกท่านตามที่พ่อจ้าวแนะนำจนครบทุกคน ตอนนี้มีคนตระกูลจ้าวหลายคนที่สนใจรอดูผลทดสอบว่าจะออกมาเป็นแบบไหนยังไงบ้าง... ปู่ทวดเรียกเธอให้เข้าไปยืนบริเวณตรงกลางซึ่งมีผู้อาวุโสนั่งล้อมรอบเป็นวงกลม"จ้าวปิงปิง... มันคือพิธีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไรเลย""ปู่ทวดคะ... ให้ทุกคนอยู่ด้วยได้ไหมคะ" ปิงปิงอยากให้พ่อ พี่ชายหาน และเล่อเล่ออยู่ด้วย มันจะทำให้เธออุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว"ตอนนี้อยู่ได้... แต่ถ้าผ่านการทดสอบ ต้องเข้าไปในห้องลับนั้นเพียงคนเดียว... มันคือความเชื่อและคำทำนายที่ส่งต่อให้แก่ผู้นำตระกูล""ปู่ทวดเล่าให้ฟังได้ไหมคะ""เดี๋ยวก็รู้... ลูกหลานตระกูลจ้าวล้วนเชื่อและทำตามมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้""ปู่ขอถามปิงปิงหน่อยได

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 44

    บทที่ 44ปิงปิงได้อ่านหนังสือเล่มแดงของพี่ชายหานแล้ว เธอคิดว่ามันต้องมีหนังสืออีกเล่มหรือสองเล่มแน่ ๆ เพราะมันเหมือนยังไม่จบ ปิงปิงได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอให้พี่ชายหานได้ฟังทั้งหมด ไม่มีปิดบังสักเรื่อง ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่พี่ชายหานก็เชื่อเธอ เพราะเขาก็ได้เข้าไปที่ห้องหนังสือเช่นเดียวกันกับเธอ...หนังสือเล่มนั้นมันเหมือนเป็นเรื่องราวบันทึกคล้าย ๆ เล่มของเธอ หนังสือบอกไว้ว่า... ก่อนที่ธิดาอักษรจะยอมเป็นเครื่องสังเวยให้จอมมาร เธอได้แบ่งดวงจิตออกเป็นร้อย ๆ ดวงเพื่อส่งไปจุติตามโลกหนังสือต่าง ๆ ที่ธิดาอักษรสร้างขึ้น หนังสือต่าง ๆ ที่ว่านี้ก็เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง มิติหนึ่งที่ต่างเวลาและต่างสถานที่... เพื่อที่จะไม่ได้ดวงจิตถูกทำลายไปทั้งหมด... เหลือไว้เพียงดวงจิตเดียวในโลกนี้ซึ่งต้องใช้สังเวยให้กับจอมมาร... แต่เรื่องที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ เหมือนธิดาอักษรจะมีคนคอยช่วย นั่นคือ ธิดาบุปผา ที่มาช่วยก่อนที่ดวงจิตจะแตกสลายจากการสละญาณบารมีทั้งหมด โดยได้เก็บเศษเสี้ยวดวงจิตใส่ตะเกียงแก้วและส่งให้กับตระกูลที่เทพมังกรจะถือกำเนิด พร้อมกับบอกว่า... ธิดาอักษรจะหวนคืน..."คิดออก

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status