บทที่ 7 ช่วยปิงปิง
หลังจากวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตแล้วก็มาถึงจุดนัดหมาย ตอนนี้ปิงปิงแอบอยู่ในห้องน้ำหญิงที่ตึกปลายเพื่อรอเล่อเล่อตามที่นัดไว้
"ขังมันไว้เลย! สารเลว"
"เร็ว ๆ เดี๋ยวคนมา มึงไปดูต้นทาง! "
ปิงปิงได้ยินเสียงกลุ่มคนคุยกันและเหมือนลากอะไรเข้ามาในห้องน้ำ เธอรีบซ่อนตรงมุมถังขยะด้านในสุด ยังดีที่เธอตัวเล็กสามารถมุดเข้าช่องได้แต่มันก็ยังทำให้เธออึดอัด แต่ความอึดอัดก็สู้ความอยากรู้ไม่ได้ ปิงปิงทั้งแอบฟังทั้งแอบดูทั้งที่มองไม่ค่อยเห็น ได้ยินชัดเจนแต่ไม่รู้เรื่อง เพราะต่างคนต่างพูด ทั้งด่าทั้งร้องไห้ ไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใคร
"มึงกล้ากับกู! ปากดีนักใช่ไหม !"
"กรี๊ด... อีหมาบ้า! ปล่อยกู! "
เพียะ! เพียะ! เพียะ!
ปิงปิงที่แอบอยู่ก็เริ่มอยู่ไม่ได้เหมือนกัน ด้านนอกเขาตีกัน ด้านในก็อึดอัดมาก จะออกไปตอนนี้ก็กลัวซวยไปด้วย เดี๋ยวจะหาว่ามาช่วย เผลอ ๆ อาจคิดว่าเธอเป็นพยานรู้เห็นอีก ทางไหนก็มีแต่ซวย แต่ตอนนี้มันอยู่ไม่ได้แล้วแม่จ๋า... หลบอยู่ข้างถังขยะ มดแดงมันเยอะ มันรุมกัด ทั้งเจ็บทั้งแสบทั้งคันไปหมดแล้ว....
"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! "
ปิงปิงทั้งวิ่งและตะโกน เธอมุดหลบพวกรุ่นพี่ที่กำลังตบกันอย่างเมามัน บางคนก็ส่งเสียงเชียร์ พอมองดูคนที่นอนกองอยู่บนพื้น จากสภาพที่เห็นน่าจะโดนหนักน่าดู ได้แต่คิดในใจ พี่จ๋า...อย่าว่าปิงปิงเลยนะ คนเยอะมาก ปิงปิงคงช่วยพี่ไม่ไหวจริง ๆ...
"จับยัยเด็กนั่นไว้! " สิ้นเสียงนั้น ปิงปิงก็ถูกจับไว้
"พี่จับปิงปิงทำไม" ปิงปิงที่ถูกจับก็พยายามทั้งดิ้นทั้งเขย่าตัวเพื่อให้มดมันออกไปให้หมด
"เด็กตึกต้นมาทำอะไรที่ตึกปลาย! ฮะ! "
ปิงปิงยืนตัวแข็งทื่อ เพราะตอนนี้เธอโดนล้อม ออกไปไหนไม่ได้ เธอไม่ได้กลัว แต่คนเยอะต้องออกแรงเยอะ มันเหนื่อยมากที่ต้องออกแรงเยอะ ๆ พอเหนื่อยเธอก็หิวอีก พอหิวก็ต้องซื้อของกินอีก มันเปลืองมาก ยิ่งเธอต้องเก็บเงินแยกบ้านอยู่เนี่ย!
"เอ่อ... ปิง... ปิงมาเข้าห้องน้ำค่ะ"
ตอบเสร็จก็รีบดิ้นเพราะเธอกำลังจะโดนตบ!
"จับมันดีๆ ! "
พลัก! เพียะ!
"หยุด! "
สิ้นเสียงนั้น ทุกคนต่างหยุดชะงัก แม้แต่ปิงปิงก็หยุดดิ้นหยุดถีบ เพราะเสียงนั้นทั้งดังและฟังดูน่ากลัวมากสำหรับปิงปิง
"พี่จุนหาน! "
ตอนนี้ พวกที่รุมจับตัวปิงปิงไว้ต่างปล่อยมือ แล้วไปยืนรวมกันตรงมุมทางออก ส่วนคนที่โดนตบก็ยืนแอบอยู่อีกมุม มีแต่ปิงปิงที่ยืนอยู่กลางคนพวกนี้ กำลังมองดูคนที่สั่งให้หยุด เขาคือคนเดียวกับที่ทำให้เธอต้องวิ่งหนีมาซ่อน แต่เดี๋ยวนะ! 'จุนหาน' นี่มันชื่อที่เธอจดไว้ในสมุด แล้วแซ่ล่ะ ถามแซ่ตอนนี้ได้ไหม
"ออกมา! "
พอเห็นสีหน้าท่าทางและน้ำเสียง ปิงปิงเห็นว่าไม่ควรถามตอนนี้ เงียบไว้ดีที่สุด... เธอเลยยืนนิ่งไม่กระดุกกระดิก
"หูตึงเหรอ! ออกมา! "
เสียงออกคำสั่งดังขึ้นอีกครั้ง ปิงปิงเลยเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นเล่อเล่ออยู่ด้านหลังคนที่ชื่อจุนหาน กำลังกวักมือเรียกเธอ พอเห็นเพื่อน เธอเลยยิ้มกว้างและรีบวิ่งออกไปหาทันที
"เจ็บไหมปิงปิง" เล่อเล่อถามพร้อมกับจับปิงปิงหมุนเพื่อดูว่าเพื่อนได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
"ไม่เจ็บ แค่โดนพวกพี่จับไว้"
"ฉันได้ยินเสียงเหมือนคนตบกัน! "
"พี่เขาจับตัวฉันไว้และจะทำร้าย แต่ฉันทั้งดิ้นทั้งถีบสู้เลยไม่โดน" ประโยคหลังปิงปิงกระซิบเสียงเบา
"พูดมาก... มานี่! "
ปิงปิงโดนคนที่สั่งให้ 'หยุด' ลากออกจากตรงนั้น และพี่อีกคนก็ลากเล่อเล่อตามมาติด ๆ เราสองคนเลยโดนลากออกมา!
ตอนนี้ พวกเธอยืนอยู่ตรงทางเชื่อมตึกเรียนที่แยกระหว่างตึกต้นและตึกปลาย โรงเรียนแยกเป็นสัดส่วน ไม่ได้ห้ามถ้านักเรียนจะเดินไปตึกไหน แต่คนส่วนมากจะไม่มีใครเดินข้ามตึกกัน พวกเธอถูกลากมาโดยมีพี่ ๆ ตึกปลายเดินตามกันมาเป็นพรวน เดินผ่านไปตรงไหนก็มีแต่คนมอง
"กลับไป"
ปิงปิงเงยหน้ามองคนที่พูด เล่อเล่อรีบลากปิงปิงกลับไปทางอาคารเรียน แต่ปิงปิงยังรั้งตัวไว้ก่อน
"พี่คะ... พี่ชื่อจุนหานเหรอคะ"
"..."
"แซ่อะไรคะ" ปิงปิงเอียงคอเล็กน้อยแล้วถามออกไป
ด้วยความสูงที่ต่างกันมาก ปิงปิงสูงแค่หน้าอกพี่เขาแค่นั้น! ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้ เธอยิ่งต้องแหงนหน้ามองจนแทบจะหงายหลัง ต้องถอยหลังเรื่อย ๆ เพื่อเว้นระยะห่าง
"อยากรู้ทำไม หลิวปิงปิง! " เขาถามย้อนกลับ
"ปิงปิงไปเถอะ ต้องเข้าเรียนแล้ว"
เล่อเล่อรีบมาลากเพื่อนกลับห้องเรียนทันที ตอนนี้เธอไม่ได้ขัดขืนเหมือนตอนแรก เธอวิ่งตามแรงที่เล่อเล่อลากกลับห้องเรียน
"เธอไปถามพี่เขาแบบนั้นได้ยังไง!! "
"อ้าว... ก็อยากรู้ เห็นพี่ในห้องน้ำหญิงเรียกชื่อจุน... " ยังพูดไม่ทันจบ เธอก็โดนเล่อเล่อยกมือมาปิดปาก
"เขาคือหยางจุนหาน! คนที่เราตามหา และเขาเป็นคนที่น่ากลัวมาก พี่ ๆ ตึกปลายไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขา เห็นพวกเขาไหม กลุ่มใหญ่มาก ยิ่งอยู่ข้างนอกยิ่งกลุ่มใหญ่! หากไม่พอใจใครแล้วเรียกเข้าไปคุย กลับออกมาต้องไปนอนโรงพยาบาล เขาไม่ชอบให้ใครจ้องหน้าหรือถามคำถามกับเขา ทุกอย่างที่ฉันพูดมาเธอทำมันทั้งหมดเลยยัยปิงปิง!!! " พูดจบแถมกำปั้นเคาะหัวปิงปิงไปหนึ่งที
"เล่อเล่อเก่งมาก! มีข้อมูลเยอะมาก แต่ว่าเขาไปช่วยฉันนะ" ปิงปิงกำลังใช้ความคิด เพราะว่าหยางจุนหานมีชื่อในหนังสือที่เธออ่านเหมือนกัน แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดมาก บอกแต่เขาค่อนข้างลึกลับเข้าถึงยาก
"ฉันฟังคนอื่นพูดมาอีกที จริง ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจไปช่วยเธอหรอกนะ พอดีฉันถูกเขาจับได้ แล้วเขาเป็นคนน่ากลัวมากเธอก็เห็น ฉันเลยต้องบอกว่าเธอไปซ่อนที่ไหน เลยไปเจอเธอนั่นแหละ"
"ไอ้เพื่อนทรยศ!! " ปิงปิงถวายกำปั้นเคาะหัวเพื่อนหนึ่งที
"ใครจะไปเอียงคอทำหน้าทำตาน่าเกลียด ถามชื่อตรง ๆ แบบเธอล่ะ! "
"พวกพี่ ๆ จะมาตามล่าฉันไหม" เพราะเธอเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"ไม่ต้องกลัว... เพราะถ้าใครมีเรื่องกับกลุ่มพี่จุนหานแล้ว พวกนั้นจะไม่แตะต้อง เพราะแค่พี่จุนหานคนเดียวก็ฆ่าเธอตายได้เลย! "
บทที่ 8 น้องอ้วนปิงปิงเมื่อได้ยินที่เพื่อนบอกแล้ว ปิงปิงถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่ไม่ลืมจดรายละเอียดที่ได้มา กลัวได้แต่รายละเอียดก็ต้องจด เพื่อชีวิตที่เหลือเวลาเพียงน้อยนิดนี้ เธอต้องใจกล้าเข้าไว้"ตอนฉันวิ่งหนี ฉันไปเจออะไรมาด้วย" เล่อเล่อขยับเข้าใกล้เพื่อนแล้วกระซิบเสียงเบา"อะไร... ยังไง" ปิงปิงก็ไม่น้อยหน้า กระซิบตอบกลับเบากว่า"ฉันเห็นพี่สาวเธอยืนคุยกับผู้ชาย ถ้าฉันมองไม่ผิด ฉันเห็นเขาจับมือกันด้วย" "จับมือด้วยเหรอ แล้วผู้ชายเป็นใคร เห็นหน้าไหม" ปิงปิงถามกลับ"ถ้าพวกผู้ใหญ่มาเห็นเป็นเรื่องแน่ ฉันไม่เห็นหน้า เห็นแค่ด้านข้าง ฉันโดนพี่จุนหานลากมาหาเธอเนี่ยแหละ แต่ฉันเห็นพวกพี่จุนหานมองไปทางที่พี่สาวเธอยืนอยู่พักหนึ่ง ก่อนออกมา""เธอห้ามบอกคนอื่นเรื่องพี่อิงอิงนะ" ปิงปิงกลัวเพื่อนเธอเผลอหลุดปากเหลือเกิน"ไม่หลุดหรอก ฉันเห็นไม่ชัดด้วย ถ้าฉันเห็นชัดอาจหลุด" เรื่องที่ไม่มั่นใจ หากหลุดไปอาจมีเรื่องมาหาตัวได้ เธอไม่กล้าเสี่ยง มันอันตรายเกินไป เล่อเล่อไม่หลุดกับเรื่องที่ยังไม่มั่นใจแน่นอน"นั่นแหละ ชัดไม่ชัดก็ห้ามหลุด เธอว่าพี่จุนหานจะรู้จักกับพี่สาวฉันไหม และเมื่อกี้เขาเรียกท
บทที่ 9 นักสืบปิงปิงปิงปิงได้ยินก็กลอกตามองบน จากขี้เหร่อยู่แล้ว ตอนนี้มีคำว่าอ้วนห้อยติดตามมาด้วย แล้วชาตินี้จะสวยเหมือนคนอื่นไหม... "บีบทำไม" ปิงปิงหันมากระซิบเล่อเล่อที่อยู่ ๆ ก็บีบก้นเธอในเวลานี้"ยัยขี้เหร่! เธอแอบไปกินซาลาเปาร้านประจำแล้วไม่บอกฉันใช่ไหม! "เล่อเล่อได้ยินที่พี่จุนหานเรียกน้องอ้วนปิงปิง เธอก็ต้องจับก้นพิสูจน์ และเธอคิดว่าเพื่อนเธอต้องแอบไปกินของอร่อยตอนที่เธอไม่อยู่แน่ ๆโป๊ก! ปิงปิงถวายกำปั้นใส่หัวเล่อเล่อทันทีพร้อมกับถลึงตาใส่อีกด้วย จากนั้นเธอก็เลิกสนใจยัยเห็นแก่กินแล้วทำตามแผนที่เธอวางไว้ เธอส่งยิ้มทะเล้นให้พี่จุนหานพร้อมกับยักคิ้วให้อีกด้วย จะเรียกอะไรเธอก็ไม่สน ขอแค่ได้ข้อมูลมาก็พอ"ปิงปิงมาขอบคุณพี่" ปิงปิงพูดเสียงดังเพราะเขากับเธออยู่ห่างกันพอสมควร แล้วดูเหมือนจะมีคนอื่น ๆ ยืนขวางไม่ให้เธอเข้าใกล้"หึ! กล้าดี" จุนหานพูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้คนของเขาหลีกทางให้เด็กอ้วนปิงปิงเดินเข้าไปหาพี่จุนหานด้วยท่าทางที่ไม่ได้กลัวเลยสักนิด แต่ใครจะไปรู้ว่าใจเธอเต้นแทบทะลุออกมา ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นหรอกนะแต่เป็นเพราะเธอกลัว ไม่ได้กลัวธรรมดานะ กลัวมากที่สุด! เธออาศัยความใจก
บทที่ 10 แมว... ปิงปิงปิงปิงคิดว่าวันนี้มันเป็นวันอะไร ทำไมมีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอมากมาย เธอเดินตามพี่สาวไปเรื่อย ๆ จนเห็นพี่สาวของเธอเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก ๆ เธอจึงหยุด รอให้เวลาผ่านไปสักพักถึงจะเดินตามเข้าไป…"แหนะ... มีเรื่องสนุกทำไมไม่เรียก" เล่อเล่อเข้ามากระซิบใกล้ ๆ"เล่อเล่อ บ้านเธออยู่โน่น มาทำอะไรตรงนี้" ปิงปิงตอบกลับทันที ถ้ามาจากโรงเรียน บ้านเล่อเล่อถึงก่อนบ้านเธอ เมื่อกี้เล่อเล่อเข้าบ้านไปแล้ว ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่อีก"ลืมสมุดการบ้านไง ต้องเอาไปลอก จะให้ไปลอกที่โรงเรียนหรือไง... ถามโง่ ๆ " เล่อเล่อรีบบอกทันที เธอรู้ว่าปิงปิงทำการบ้านเสร็จก่อนเลิกเรียนตลอด เอามาลอกที่บ้านปลอดภัยที่สุด!พอรู้ว่าปิงปิงกำลังแอบตามดูพี่สาว เล่อเล่อก็ขอตามไปด้วย ทั้งสองจึงแอบอยู่ฝั่งตรงข้ามของอีกซอย ตอนนี้พวกเธอมองเห็นพี่อิงอิงยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าใคร ด้วยระยะที่ไกลจึงทำให้ไม่สามารถได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน พยายามมองดูว่าผู้ชายหน้าตาเป็นยังไงก็มองไม่เห็น"ปิงปิง... เราออกไปก่อนดีไหม ตรงนี้เสี่ยงเกินไป" เล่อเล่อกระซิบบอก"ดีเหมือนกัน" ปิงปิงคิดว่าถึงแอบดูหรือแอบฟังก็ไม่ได้ยินอยู่ดีทั้
บทที่ 11หลังจากได้ข้อสรุปแล้วว่าครอบครัวเราจะต้องไปหาห้องเช่าหรือบ้านเช่าอยู่ก่อน ถึงย่าจะยอมให้แยกบ้านแต่ก็ไม่ได้ให้เงิน ถึงยังไงก็ต้องย้ายออกให้เร็วพร้อมหนังสือแยกบ้าน ก่อนที่ตาแก่โรงไม้จะมาคุยกับย่า พรุ่งนี้พ่อจะต้องหาบ้านเช่าและอาจต้องหางานใหม่สำรองไว้ด้วย ส่วนหน้าที่ของเธอในคืนนี้คือ ต้องออกไปทำงานพิเศษช่วงที่คนหลับกันหมดหลังจากทุกคนเข้าห้องนอนกันหมดแล้ว ปิงปิงก็หาข้ออ้างไปเข้าห้องน้ำ เพราะเธอปวดหนักมากถึงมากที่สุด อาจต้องเข้าห้องน้ำนาน ๆ ถึงมันจะฟังไม่ขึ้นแต่เพราะทุกคนชินกับการพูดเกินจริงของเธออยู่แล้วก็เลยไม่สนใจ อีกอย่าง เธออยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนแน่ ๆ"ทำไมคนพวกนี้ถึงซ่อนเงินไกลตัว แทนที่จะเก็บไว้ใกล้ตัว" เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ถ้าเป็นเธอจะเก็บไว้ใกล้ตัวให้มากที่สุดปิงปิงเดินไปดูตามที่เห็นภาพ ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้ ใต้ตู้ หลังภาพวาด สารพัดที่ซ่อน บางที่ก็ได้มาไม่กี่หยวน แต่ก็ต้องเอาไว้ก่อน บางที่ต้องมุดเข้าใต้โต๊ะแคบ ๆ ก็ต้องทำ ตอนนี้หัวเธอคงมีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด ตรงไหนที่ต้องมุดก็พอไหว แต่บางที่ต้องปีน อย่างหลังตู้สูงต้องหาเก้าอี้มาเป็นตัวช่วย"อื้อ... อย่า เดี๋ยวมีคนมาเห็
บทที่ 12ทั้งสองยืนดูอยู่ห่าง ๆ เพราะยังไม่แน่ใจว่าคนกลุ่มนั้นจะเข้าไปหาพี่สาวของเธอหรือเปล่า ปิงปิงจ้องตาไม่กะพริบ และในช่วงจังหวะนั้น สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับบางอย่าง "คิดว่าเราไหวไหม" เล่อเล่อไม่คิดหนี แต่ก็ไม่แน่ใจว่าสู้ไหวไหม"ไม่ไหว... ดูคนก่อน ถ้ามีเรื่องจริง ๆ จะเอาอะไรไปสู้ และมองดูรอบ ๆ คนดูต้นทางเว้นระยะขนาดนั้น มีคนเดียวที่จะช่วยเราได้ในตอนนี้ ไปตามพี่จุนหานมาให้เร็วที่สุด ฉันจะถ่วงเวลาเอง" เขาคนเดียวที่น่าจะช่วยเธอได้ในตอนนี้"อือ... ฉันจะรีบให้สุดชีวิต" พูดจบ เล่อเล่อก็รีบวิ่งออกไปทันที ใจก็ภาวนาให้กลุ่มพี่จุนหานอยู่ที่เดียวกับที่เธอเจอเมื่อวานเมื่อรู้ว่าคนกลุ่มนั้นเดินเข้าไปหาพี่สาวของเธอจริง ๆ แม้จะยังไม่ทำอะไรแต่มันก็คิดดีไม่ได้เลย ปิงปิงเดินยิ้มกว้างเข้าไปหาด้วยท่าทางสบายอารมณ์"พี่อิงอิง! " เธอตะโกนดังลั่น พร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้พี่สาวทุกคนที่ได้ยินเสียงเธอต่างหันมามองเป็นตาเดียว แต่ปิงปิงไม่ได้สนใจใคร เธอชำเลืองมองไปที่มุมหนึ่งของตึก แล้วก็ละสายตากลับมามองพี่สาวกับผู้ชายที่ยืนอยู่ด้วยกัน"ปิงปิงมีเรื่องจะให้พี่ช่วย... ไปด้วยกันหน่อยนะคะ" ปิงปิงดึงแขนพี่สาวให้รีบ
บทที่ 13หลังจากที่พี่จุนหานรับปากว่าจะช่วยแล้ว จึงไล่เธอสองคนกลับตึกต้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นพวกเขาจะจัดการเอง แล้วยังขู่เธอว่าถ้าก่อเรื่องอีก เขาฆ่าเธอแน่ ตอนนี้เธอเลยต้องกลับมานั่งเรียนในสภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพื่อน ๆ ในห้องต่างก็ว่าพวกเธอแอบปีนกำแพงไปกินซาลาเปาร้านดังมาแน่ ๆ เพราะสภาพเธอสองคนเหมือนตอนที่แอบปีนกำแพงหรือต้นไม้ออกไปนอกโรงเรียน ทุกคนไม่ค่อยตกใจ เพราะสภาพนี้คือสภาพปกติของเธอสองคน เธออยากจะบอกเพื่อนร่วมห้องเหลือเกิน ถ้าออกนอกโรงเรียนตอนนี้ พวกเธอไม่มีสภาพแบบนี้แล้ว เพราะเธอมีช่องทางลับ แต่ต้องเก็บเงียบไว้หลังเลิกเรียน พี่ชายกับพี่สาวมารอรับเธอกับเล่อเล่อเพื่อที่จะได้กลับบ้านพร้อมกัน โดยเดินไปอีกทาง ไม่ได้ตรงกลับบ้าน เพราะพี่ทั้งสองคนรู้ดีว่าควรบอกน้องในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน น้องสาวจะได้สบายใจ"แวะซื้อของกินก่อนค่อยไปนั่งริมน้ำ" พี่ชายเธอพูดจบแล้วลากเล่อเล่อให้ตามไปซื้อของด้วยกันทันทีตอนนี้เลยเหลือแค่เธอกับพี่สาวที่กำลังเดินนั่งที่ริมน้ำ พออยู่สองคน เธอก็มองหน้าพี่สาวเพื่อเป็นสัญญาณว่าเธอรอฟังอยู่นะ พูดมาได้เลย"พี่คิดว่ามันจะไม่มีปัญหา เพราะพี่ก็ทำงานนี
บทที่ 14ทั้งสามคนที่มาใหม่ตกใจที่เห็นปิงปิงถือเงินจำนวนมากยื่นออกไป ส่วนแม่เอามือปิดปากท่าทางตกใจ ส่วนปิงปิงนั้นตกใจมากกว่า ไม่คิดว่าพ่อกับพี่จะกลับมาเร็วขนาดนี้ คิดจะให้แม่ช่วยพูด กลายเป็นว่ามาเห็นตอนที่เธอกำลังยื่นเงินให้แม่พอดี...หลิวชวนตั้งสติได้เป็นคนแรก เขารีบปิดประตูห้องทันทีพร้อมกับหันไปมองหน้าภรรยา เหมือนกับกำลังกังวลกับเงินจำนวนนี้"ปิงปิง เงินใคร" หลิวชวนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทุกคนรับรู้ได้ทันทีเพราะปกติพ่อจะเรียกปิงปิงว่าตัวแสบมากกว่าเรียกชื่อ นอกจากเวลาที่ต้องคุยจริงจังเท่านั้นที่จะเรียกชื่อนี้"เงินที่ปิงปิงจะให้พ่อกับแม่ค่ะ... เงินนี้ปิงปิงได้มาเพราะ... " ปิงปิง อ้ำอึ้งเพราะเหมือนทุกคนจ้องจับผิดเธอ มันเลยทำให้เธอประหม่าที่จะพูดออกไป"ปิงปิงเห็นป้าใหญ่ลับ ๆ ล่อ ๆ ที่สวนหลังบ้านบ่อย ๆ ... พอไม่มีใครอยู่ ปิงปิงเลยไปดูตรงนั้นก็เจอเข้ากับเงินจำนวนนี้ค่ะ"ปิงปิงตัดสินใจบอกไปแบบนั้น ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะเธอยังไม่แน่ใจว่าความสามารถพิเศษที่เธอมีมันใช้ได้ตลอดไหม เพราะบางทีก็มองเห็น บางทีก็มองไม่เห็น ถ้าบอกไปแล้วมันไม่เป็นแบบที่พูดล่ะ... เธอเลยคิดว่าบอกแบบนี้แหละดีที่สุดแล้
บทที่ 15เช้านี้ปิงปิงตื่นมาด้วยอาการเหมือนคนนอนไม่พอ นั่งกินข้าวไปก็อ้าปากหาวไปด้วย ตอนนี้เธออยากกินน้ำคาเฟยที่คนโตชอบกินเพื่อไม่ให้ง่วงนอน แต่พ่อของเธอเคยบอกว่าเด็กกินไม่ดี เธอเลยไม่เคยได้ลิ้มลองคาเฟยสักที...สภาพเดินไปเรียนก็เหมือนศพเดินได้จนพี่สาวต้องคอยจูงมือไป เธอมีหน้าที่แค่หลับตาแล้วเดินตาม ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเธอหลับฝัน แต่ทำไมพอตื่นขึ้นมามันเหมือนคนไม่ได้นอนเลยแม้แต่นิดเดียว "ปิงปิง พี่ว่าเธอไม่น่าจะไหว... เมื่อคืนนอนดึกใช่ไหม! " อิงอิงเห็นสภาพน้องสาวแล้วว่าไม่ไหว เมื่อคืนก็เข้านอนพร้อมกัน แต่ทำไมน้องสาวถึงมีสภาพแบบนี้"เรานอนพร้อมกันนะพี่อิงอิง... แต่ทำไมมันง่วงแบบนี้" ปิงปิงก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"เด็กอ้วน... " เสียงดังมาจากทางด้านหลังปิงปิงไม่สนใจเสียงนั้น ตอนนี้เธอจะหลับให้ได้เลย หรือว่าเธอหลุดเข้าไปในห้องหนังสือนั่นทั้งตัวจริง ๆ ไม่ใช่แค่หลับฝันไปอย่างที่เธอเข้าใจ"ลุกขึ้น ปิงปิง! " เฉินเฉินมาช่วยลากน้องสาวให้ยืนขึ้นจากการนั่งยองๆ หลับตาอยู่บนถนน"เกิดอะไรขึ้น" คนมาใหม่ถามขึ้นทันทีที่เห็น"ง่วงจะหลับ" เฉินเฉินเป็นคนตอบคำถามนี้"อิงอิง... กินนี่ก่อน" เสียงผู้ชายอีกคนที่ฟัง
ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า
บทที่ 46ปิงปิงเตรียมไขกุญแจเข้าห้องอย่าทุลักทุเล... แต่ที่น่าตกใจคือประตูเปิดออกเอง ทั้งที่เธอยังไม่ได้เสียบกุญแจเลยด้วยซ้ำ ปิงปิงเลยจุดคบเพลิงตามที่ปู่ทวดบอกแล้วถือเดินตามทางเดินเข้าไป ภายในห้องกว้างมีกลิ่นดอกไม้หอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ปิงปิงเดินไปจนถึงที่จุดคบเพลิงที่ติดอยู่กับผนัง เธอจึงจุดเพิ่มเพื่อที่จะได้มองเห็นรอบ ๆ แสงสว่างค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละนิด พอทั้งห้องเริ่มสว่างก็เกิดเสียงดัง ปัง!! พร้อมกับประตูทางเข้าปิดสนิท เหมือนว่าตอนนี้เธอถูกขังอยู่ในห้องนี้แล้ว...ชั่วขณะที่ปิงปิงสำรวจ ห้องนี้ที่มีขนาดกว้างพอสมควร แต่พอสำรวจจนทั่วก็ทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ เพราะว่าห้องนี้เหมือนกับลานกว้างในฝันของเธอนั่นเอง ลานกว้างที่มีแท่นบูชา... ถ้าให้เดาคงเป็นสถานที่ที่เทพธิดาอักษรจบชีวิตลงแน่นอน ปิงปิงเดินเข้าไปที่แท่นบูชาที่มีดอกเหมยกุยสีแดงขึ้นอยู่เต็มและกำลังเบ่งบานชูช่อสวยงาม เธอค่อย ๆ เอามือลูบไล้ตามพื้นของแท่น สัมผัสดูเรื่อย ๆ สายตาก็สำรวจสิ่งของที่วางบนแท่นบูชา มีตะเกียงแก้ววางอยู่... ถัดมาเป็นหนังสือเล่มสีแดง... สิ่งสุดท้ายคือกริชโบราณแบบที่แทงเข้าไปในหัวใจของธิดาอักษร แบบเดียวกันกับท
บทที่ 45หลังจากได้รับคำตอบรับจากผู้อาวุโสตระกูลจ้าวแล้ว จ้าวหลิวหยางเลยพาทุกคนมาที่ตระกูลหลัก ปิงปิงเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับทุกคน ส่วนคนติดตามหรือคนสนิทต้องรออยู่นอกบ้านเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ตอนแรกเธอไม่ได้มีอาการกลัวแต่อย่างใด แต่พอมาอยู่ท่ามกลางสายตาของคนตระกูลจ้าวหลายสิบคน จึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งอยู่บ้างปิงปิงทำความเคารพผู้อาวุโสทุกท่านตามที่พ่อจ้าวแนะนำจนครบทุกคน ตอนนี้มีคนตระกูลจ้าวหลายคนที่สนใจรอดูผลทดสอบว่าจะออกมาเป็นแบบไหนยังไงบ้าง... ปู่ทวดเรียกเธอให้เข้าไปยืนบริเวณตรงกลางซึ่งมีผู้อาวุโสนั่งล้อมรอบเป็นวงกลม"จ้าวปิงปิง... มันคือพิธีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไรเลย""ปู่ทวดคะ... ให้ทุกคนอยู่ด้วยได้ไหมคะ" ปิงปิงอยากให้พ่อ พี่ชายหาน และเล่อเล่ออยู่ด้วย มันจะทำให้เธออุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว"ตอนนี้อยู่ได้... แต่ถ้าผ่านการทดสอบ ต้องเข้าไปในห้องลับนั้นเพียงคนเดียว... มันคือความเชื่อและคำทำนายที่ส่งต่อให้แก่ผู้นำตระกูล""ปู่ทวดเล่าให้ฟังได้ไหมคะ""เดี๋ยวก็รู้... ลูกหลานตระกูลจ้าวล้วนเชื่อและทำตามมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้""ปู่ขอถามปิงปิงหน่อยได
บทที่ 44ปิงปิงได้อ่านหนังสือเล่มแดงของพี่ชายหานแล้ว เธอคิดว่ามันต้องมีหนังสืออีกเล่มหรือสองเล่มแน่ ๆ เพราะมันเหมือนยังไม่จบ ปิงปิงได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอให้พี่ชายหานได้ฟังทั้งหมด ไม่มีปิดบังสักเรื่อง ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่พี่ชายหานก็เชื่อเธอ เพราะเขาก็ได้เข้าไปที่ห้องหนังสือเช่นเดียวกันกับเธอ...หนังสือเล่มนั้นมันเหมือนเป็นเรื่องราวบันทึกคล้าย ๆ เล่มของเธอ หนังสือบอกไว้ว่า... ก่อนที่ธิดาอักษรจะยอมเป็นเครื่องสังเวยให้จอมมาร เธอได้แบ่งดวงจิตออกเป็นร้อย ๆ ดวงเพื่อส่งไปจุติตามโลกหนังสือต่าง ๆ ที่ธิดาอักษรสร้างขึ้น หนังสือต่าง ๆ ที่ว่านี้ก็เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง มิติหนึ่งที่ต่างเวลาและต่างสถานที่... เพื่อที่จะไม่ได้ดวงจิตถูกทำลายไปทั้งหมด... เหลือไว้เพียงดวงจิตเดียวในโลกนี้ซึ่งต้องใช้สังเวยให้กับจอมมาร... แต่เรื่องที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ เหมือนธิดาอักษรจะมีคนคอยช่วย นั่นคือ ธิดาบุปผา ที่มาช่วยก่อนที่ดวงจิตจะแตกสลายจากการสละญาณบารมีทั้งหมด โดยได้เก็บเศษเสี้ยวดวงจิตใส่ตะเกียงแก้วและส่งให้กับตระกูลที่เทพมังกรจะถือกำเนิด พร้อมกับบอกว่า... ธิดาอักษรจะหวนคืน..."คิดออก