บทที่ 13หลังจากที่พี่จุนหานรับปากว่าจะช่วยแล้ว จึงไล่เธอสองคนกลับตึกต้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นพวกเขาจะจัดการเอง แล้วยังขู่เธอว่าถ้าก่อเรื่องอีก เขาฆ่าเธอแน่ ตอนนี้เธอเลยต้องกลับมานั่งเรียนในสภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพื่อน ๆ ในห้องต่างก็ว่าพวกเธอแอบปีนกำแพงไปกินซาลาเปาร้านดังมาแน่ ๆ เพราะสภาพเธอสองคนเหมือนตอนที่แอบปีนกำแพงหรือต้นไม้ออกไปนอกโรงเรียน ทุกคนไม่ค่อยตกใจ เพราะสภาพนี้คือสภาพปกติของเธอสองคน เธออยากจะบอกเพื่อนร่วมห้องเหลือเกิน ถ้าออกนอกโรงเรียนตอนนี้ พวกเธอไม่มีสภาพแบบนี้แล้ว เพราะเธอมีช่องทางลับ แต่ต้องเก็บเงียบไว้หลังเลิกเรียน พี่ชายกับพี่สาวมารอรับเธอกับเล่อเล่อเพื่อที่จะได้กลับบ้านพร้อมกัน โดยเดินไปอีกทาง ไม่ได้ตรงกลับบ้าน เพราะพี่ทั้งสองคนรู้ดีว่าควรบอกน้องในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน น้องสาวจะได้สบายใจ"แวะซื้อของกินก่อนค่อยไปนั่งริมน้ำ" พี่ชายเธอพูดจบแล้วลากเล่อเล่อให้ตามไปซื้อของด้วยกันทันทีตอนนี้เลยเหลือแค่เธอกับพี่สาวที่กำลังเดินนั่งที่ริมน้ำ พออยู่สองคน เธอก็มองหน้าพี่สาวเพื่อเป็นสัญญาณว่าเธอรอฟังอยู่นะ พูดมาได้เลย"พี่คิดว่ามันจะไม่มีปัญหา เพราะพี่ก็ทำงานนี
บทที่ 14ทั้งสามคนที่มาใหม่ตกใจที่เห็นปิงปิงถือเงินจำนวนมากยื่นออกไป ส่วนแม่เอามือปิดปากท่าทางตกใจ ส่วนปิงปิงนั้นตกใจมากกว่า ไม่คิดว่าพ่อกับพี่จะกลับมาเร็วขนาดนี้ คิดจะให้แม่ช่วยพูด กลายเป็นว่ามาเห็นตอนที่เธอกำลังยื่นเงินให้แม่พอดี...หลิวชวนตั้งสติได้เป็นคนแรก เขารีบปิดประตูห้องทันทีพร้อมกับหันไปมองหน้าภรรยา เหมือนกับกำลังกังวลกับเงินจำนวนนี้"ปิงปิง เงินใคร" หลิวชวนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทุกคนรับรู้ได้ทันทีเพราะปกติพ่อจะเรียกปิงปิงว่าตัวแสบมากกว่าเรียกชื่อ นอกจากเวลาที่ต้องคุยจริงจังเท่านั้นที่จะเรียกชื่อนี้"เงินที่ปิงปิงจะให้พ่อกับแม่ค่ะ... เงินนี้ปิงปิงได้มาเพราะ... " ปิงปิง อ้ำอึ้งเพราะเหมือนทุกคนจ้องจับผิดเธอ มันเลยทำให้เธอประหม่าที่จะพูดออกไป"ปิงปิงเห็นป้าใหญ่ลับ ๆ ล่อ ๆ ที่สวนหลังบ้านบ่อย ๆ ... พอไม่มีใครอยู่ ปิงปิงเลยไปดูตรงนั้นก็เจอเข้ากับเงินจำนวนนี้ค่ะ"ปิงปิงตัดสินใจบอกไปแบบนั้น ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะเธอยังไม่แน่ใจว่าความสามารถพิเศษที่เธอมีมันใช้ได้ตลอดไหม เพราะบางทีก็มองเห็น บางทีก็มองไม่เห็น ถ้าบอกไปแล้วมันไม่เป็นแบบที่พูดล่ะ... เธอเลยคิดว่าบอกแบบนี้แหละดีที่สุดแล้
บทที่ 15เช้านี้ปิงปิงตื่นมาด้วยอาการเหมือนคนนอนไม่พอ นั่งกินข้าวไปก็อ้าปากหาวไปด้วย ตอนนี้เธออยากกินน้ำคาเฟยที่คนโตชอบกินเพื่อไม่ให้ง่วงนอน แต่พ่อของเธอเคยบอกว่าเด็กกินไม่ดี เธอเลยไม่เคยได้ลิ้มลองคาเฟยสักที...สภาพเดินไปเรียนก็เหมือนศพเดินได้จนพี่สาวต้องคอยจูงมือไป เธอมีหน้าที่แค่หลับตาแล้วเดินตาม ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเธอหลับฝัน แต่ทำไมพอตื่นขึ้นมามันเหมือนคนไม่ได้นอนเลยแม้แต่นิดเดียว "ปิงปิง พี่ว่าเธอไม่น่าจะไหว... เมื่อคืนนอนดึกใช่ไหม! " อิงอิงเห็นสภาพน้องสาวแล้วว่าไม่ไหว เมื่อคืนก็เข้านอนพร้อมกัน แต่ทำไมน้องสาวถึงมีสภาพแบบนี้"เรานอนพร้อมกันนะพี่อิงอิง... แต่ทำไมมันง่วงแบบนี้" ปิงปิงก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"เด็กอ้วน... " เสียงดังมาจากทางด้านหลังปิงปิงไม่สนใจเสียงนั้น ตอนนี้เธอจะหลับให้ได้เลย หรือว่าเธอหลุดเข้าไปในห้องหนังสือนั่นทั้งตัวจริง ๆ ไม่ใช่แค่หลับฝันไปอย่างที่เธอเข้าใจ"ลุกขึ้น ปิงปิง! " เฉินเฉินมาช่วยลากน้องสาวให้ยืนขึ้นจากการนั่งยองๆ หลับตาอยู่บนถนน"เกิดอะไรขึ้น" คนมาใหม่ถามขึ้นทันทีที่เห็น"ง่วงจะหลับ" เฉินเฉินเป็นคนตอบคำถามนี้"อิงอิง... กินนี่ก่อน" เสียงผู้ชายอีกคนที่ฟัง
บทที่ 1 อุบัติเหตุปิงปิงหลิวปิงปิง กำลังนั่งมองตัวเองในกระจก บนหัวมีผ้าพันแผลพันไว้รอบหัว ตอนแรกปิงปิงคิดว่ามันคือความฝัน แต่มันจะเป็นฝันได้ยังไงในเมื่อเธอยังรู้สึกเจ็บหัวปวดหัวมากขนาดนี้ ความฝันมันต้องไม่เจ็บสิ แต่ตอนนี้เธอทั้งเจ็บทั้งปวดหัวไปหมด มองไปที่แขนก็มีรอยช้ำ เธอมั่นใจว่ามันคือเรื่องจริงแน่นอนต้องกล่าวย้อนกลับไป... ก่อนที่เธอจะมีผ้าพันแผลพันรอบ ๆ หัวแบบนี้ เธอตกบันไดลงมาตั้งสองชั้น ทำให้เธอหัวแตกและสลบ ดีที่มีคนมาช่วยพาเธอไปส่งโรงพยาบาล ช่วงเวลาที่เธอไม่รู้สึกตัวเธอได้ไปสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนห้องหนังสือที่มีชั้นหนังสือวางเรียงรายเต็มไปหมด เธอเดินดูตามชั้นหนังสือเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้หยิบเล่มไหนออกมาดูปิงปิงเดินไปที่โต๊ะที่มีหนังสือเล่มหนึ่งวางอยู่ เธอลองเปิดดูว่าคือหนังสืออะไร เธอสุ่มเปิดดู ไม่ได้ระบุว่าจะเปิดหน้าไหนเพียงสุ่มไปเรื่อย ๆ จนไปสะดุดกับชื่อที่เหมือนชื่อของเธอ หลิวปิงปิง ในหนังสือบอกว่าเธอตายเพราะตัวร้าย ปิงปิงก็สงสัยว่าตัวร้ายแบบไหนที่ทำให้ตายได้ เหมือนพวกคนใจร้ายไหม เหมือนพวกที่ด่าเก่ง ๆ พอจะเป็นตัวร้ายที่ทำให้ตายได้ไหม เธอเลยตัดสินใจอ่านหนังสือต่อ และบรร
บทที่ 2 ครอบครัวปิงปิงในช่วงเย็น พ่อ แม่ และพี่ชายก็มาหาเธอ ครอบครัวของเธอมีทั้งหมด 5 คน ไม่นับรวมปู่ย่าลุงป้าทั้งหลาย นับแค่ครอบครัวของเธอจริง ๆ พ่อของเธอคือ หลิวชวน อายุ 38 ปี แม่เธอคือ ลู่ฟางเหนียง อายุ 36 ปี นี่คือครอบครัวของเธอที่หนังสือไม่ได้กล่าวถึงเลย กล่าวถึงแค่พวกเธอสามคนพี่น้องที่พอจะมีชื่ออยู่ในหนังสือเล่มนั้น แต่ไม่มีบทบาทอย่างอื่น มีหน้าที่แค่ตายเท่านั้น…"ยังปวดหัวอยู่ไหม... หมอบอกพรุ่งนี้ก็กลับได้แล้วนะ""ไม่ปวดแล้วค่ะ แต่ยังเจ็บหัวและเจ็บตัว" ปิงปิงตอบแม่ของเธอ"ต่อไปก็ระวังให้มาก อย่าวิ่งจนตัวเองต้องเจ็บตัว จำที่พ่อบอกด้วยล่ะ" หลิวชวนพูดแล้วเข้ามาลูบหัวของลูกสาวเบา ๆลูกสาวคนเล็กของเขาชอบวิ่งชอบซนทั้งที่เริ่มโตแล้ว แต่ก็ยังทำตัวและเล่นแบบเด็ก ๆ เขาต้องคอยห้ามปรามอยู่ตลอด"พ่อ... วันนี้เหนื่อยไหมคะ" ปิงปิงรู้ตัวว่าต้องโดนบ่นแน่ ๆ เลยต้องออดอ้อนไว้ก่อนเผื่อจะช่วยได้"หึ... ช่างรู้จักเอาตัวรอด" หลิวชวนหัวเราะกับท่าทางลูกสาวคนเล็ก"ต้องโดนไม้ถึงจะเข็ด" ฟางเหนียงเริ่มขู่ลูกสาวที่ซนจนตัวเองเจ็บตัวพอทุกคนเห็นท่าทางของปิงปิงก็อดยิ้มและหัวเราะไม่ได้ อาจเพราะลูกสาวคนเล็กของ
บทที่ 3 ความสามารถพิเศษปิงปิงชีวิตก็ต้องรักษา เงินก็ต้องหา แล้วตอนนี้เธออายุแค่ 14 จะไปหาเงินได้จากไหนเยอะ ๆ ถึงไปทำงานก็ต้องแอบทำไม่ให้คนในบ้านรู้ เพราะถ้ารู้ก็ถูกยึดเงินแน่นอน ตอนที่พี่สาวเธอแอบสอนพิเศษเด็กเล็ก พอย่ารู้เข้า เงินก็ถูกยึด ทั้งถูกด่าและถูกตีอีกด้วย เธอต้องหาเงินแบบไม่ให้ย่ารู้และต้องปิดไม่ให้ทุกคนรู้"พ่อคะ... พ่ออยากแยกบ้านไหม" "ถามทำไม... หืมม... " หลิวชวนถามกลับลูกสาวจะให้เขาพูดได้ยังไงว่าอยากแยกบ้านเหมือนกัน เพราะเขาสงสารเมียกับลูกสาวคนโตที่ต้องทำงานบ้านกันแค่สองคน ทั้งที่คนในบ้านอยู่กันตั้งเยอะแต่ไม่มีใครคิดจะช่วยทำเลย ตอนนี้เขาก็แอบเก็บเงินเพื่อที่จะได้มีเงินไปเช่าบ้าน แต่เพราะต้องใช้เงินเยอะและลูก ๆ ยังต้องเรียนกัน อีกไม่ถึงปีลูกชายและลูกสาวก็จะเรียนจบแล้ว ถ้าออกไปตอนนี้ เงินที่แอบเก็บไว้อาจไม่พอ ถ้าหากลูก ๆ ของเขาอยากเรียนต่อวิทยาลัย"ปิงปิงรู้ว่าแยกบ้านต้องใช้เงินเยอะ ปิงปิงอยากช่วยหาเงินค่ะ" ปิงปิงบอกพ่อไปตามความจริง"ตัวแสบ... เพิ่งกลับมาก็หาเรื่องซุกซน" หลิวชวนคิดว่าลูกสาวอยากออกไปเล่นซนมากกว่า เพราะตอนนี้ถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน คงรู้สึกเบื่อแน่ ๆ"จริง
บทที่ 4 ขโมยปิงปิงตอนนี้ปิงปิงมั่นใจแล้วว่าถ้าแตะมือข้างขวาไปที่ใครแล้วจะเห็นอนาคตของคนนั้น แต่เธอไม่ได้เห็นทุกอย่าง มันมีแค่บางเหตุการณ์แค่นั้นที่ปรากฏให้เธอเห็น และภาพที่เห็นมันก็เลือนรางไม่ชัดเจนเหมือนตอนที่เธอใช้มือข้างซ้ายแตะ ถ้าใช้มือข้างซ้ายแตะมันจะเห็นภาพชัดเจนมาก ปิงปิงเดาว่ามือข้างซ้ายของเธอจะทำให้เธอเห็นอดีตของคนที่เธอแตะตัววันนี้เป็นวันจันทร์ ทุกคนไปทำงานและไปโรงเรียนกันหมด ยกเว้นปิงปิงคนนี้ที่พ่อกับแม่บอกให้หยุดเรียนอยู่บ้านอีกสักวัน ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พรุ่งนี้ค่อยไปเรียน ปิงปิงอยากจะบอกว่าจริง ๆ แล้วเธอดีขึ้นมากแล้ว ไปเรียนได้ แต่ปิงปิงอยากหยุดเรียนวันนี้เพื่อที่เธอจะได้พิสูจน์ความสามารถมือซ้ายของเธอเมื่อวานปิงปิงไล่แตะตัวคนทั้งบ้าน จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่เธอจำได้ดีคือเธอเห็นป้าใหญ่เอาเงินไปซ่อนตรงสวนหลังบ้าน ที่ปิงปิงมั่นใจว่าซ่อนเพราะปกติย่าเป็นคนเก็บเงินของทุกคน เพื่อพิสูจน์ความจริงนี้ เธอเลยมาอยู่ตรงสวนหลังบ้านบริเวณที่เธอเห็นว่าป้าใหญ่เอาเงินมาซ่อน ปิงปิงจัดการยกกระถางต้นไม้ออกเพื่อดูว่ามีอะไรข้างในไหม"โห... ปิงปิงจะรวยแล้ว" ปิงปิงเจอเงินจริง ๆ ด้วย...
บทที่ 5 หมอดูปิงปิงธุรกิจขโมยของปิงปิงในตอนนี้ถือว่ากำลังไปได้ดี ตอนนี้เธอมีเงินเกือบ 500 หยวน จากที่ต้องปีนต้นไม้ไปสู้กับมด มันคุ้มค่ามากเพราะเธอได้เงินมา 300 กว่าหยวน ย่าซ่อนเงินไว้เยอะมาก ตอนนี้เธอพอจะรู้แล้วว่าส่วนมากผู้หญิงจะเป็นคนซ่อนเงิน และเธอไม่กลัวว่าคนอื่นจะโวยวายเรื่องที่เงินหายไป เพราะเงินพวกนี้ทุกคนต่างก็ซ่อนไม่ให้ใครรู้ สบายใจได้ว่าทุกคนจะปิดปากเงียบ เป้าหมายต่อไปของเธอคือป้ารอง แต่ติดที่ว่าวันนี้เธอต้องไปโรงเรียนจึงทำให้ต้องเลื่อนแผนขโมยเงินของป้ารองออกไป"อย่ามัวแต่ยืนเหม่อ รีบ ๆ เดินตามมา" อิงอิงบอกน้องสาวที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่ยอมเดินไปสักที"ปิงปิงเร็ว! เดี๋ยวสาย" เฉินเฉินเร่งน้องสาวด้วยอีกคน ถ้ามัวแต่ยืนเหม่อได้ไปสายแน่ ๆที่ปิงปิงยืนเหม่อเพราะว่าตอนออกจากบ้านมา มือขวาของเธอไปโดนตัวลุงรอง เธอเห็นว่าลุงรองกับย่าคุยกัน แต่เธอไม่รู้ว่าคุยอะไร รู้แต่ว่าย่ายื่นเงินส่งให้ลุงรอง ปิงปิงกำลังสงสัยว่าทุกคนจะเข้าไปเอาเงินจากย่าหรือเปล่า แล้วทำไมพ่อเธอไม่เข้าไปเอาบ้าง พอคิดได้แบบนั้น เธอก็วิ่งกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่ฟังเสียงเรียกของพี่ชายกับพี่สาว"พี่ไปเรียนก่อน เดี๋ยวผมรอน้องเอง
บทที่ 15เช้านี้ปิงปิงตื่นมาด้วยอาการเหมือนคนนอนไม่พอ นั่งกินข้าวไปก็อ้าปากหาวไปด้วย ตอนนี้เธออยากกินน้ำคาเฟยที่คนโตชอบกินเพื่อไม่ให้ง่วงนอน แต่พ่อของเธอเคยบอกว่าเด็กกินไม่ดี เธอเลยไม่เคยได้ลิ้มลองคาเฟยสักที...สภาพเดินไปเรียนก็เหมือนศพเดินได้จนพี่สาวต้องคอยจูงมือไป เธอมีหน้าที่แค่หลับตาแล้วเดินตาม ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเธอหลับฝัน แต่ทำไมพอตื่นขึ้นมามันเหมือนคนไม่ได้นอนเลยแม้แต่นิดเดียว "ปิงปิง พี่ว่าเธอไม่น่าจะไหว... เมื่อคืนนอนดึกใช่ไหม! " อิงอิงเห็นสภาพน้องสาวแล้วว่าไม่ไหว เมื่อคืนก็เข้านอนพร้อมกัน แต่ทำไมน้องสาวถึงมีสภาพแบบนี้"เรานอนพร้อมกันนะพี่อิงอิง... แต่ทำไมมันง่วงแบบนี้" ปิงปิงก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"เด็กอ้วน... " เสียงดังมาจากทางด้านหลังปิงปิงไม่สนใจเสียงนั้น ตอนนี้เธอจะหลับให้ได้เลย หรือว่าเธอหลุดเข้าไปในห้องหนังสือนั่นทั้งตัวจริง ๆ ไม่ใช่แค่หลับฝันไปอย่างที่เธอเข้าใจ"ลุกขึ้น ปิงปิง! " เฉินเฉินมาช่วยลากน้องสาวให้ยืนขึ้นจากการนั่งยองๆ หลับตาอยู่บนถนน"เกิดอะไรขึ้น" คนมาใหม่ถามขึ้นทันทีที่เห็น"ง่วงจะหลับ" เฉินเฉินเป็นคนตอบคำถามนี้"อิงอิง... กินนี่ก่อน" เสียงผู้ชายอีกคนที่ฟัง
บทที่ 14ทั้งสามคนที่มาใหม่ตกใจที่เห็นปิงปิงถือเงินจำนวนมากยื่นออกไป ส่วนแม่เอามือปิดปากท่าทางตกใจ ส่วนปิงปิงนั้นตกใจมากกว่า ไม่คิดว่าพ่อกับพี่จะกลับมาเร็วขนาดนี้ คิดจะให้แม่ช่วยพูด กลายเป็นว่ามาเห็นตอนที่เธอกำลังยื่นเงินให้แม่พอดี...หลิวชวนตั้งสติได้เป็นคนแรก เขารีบปิดประตูห้องทันทีพร้อมกับหันไปมองหน้าภรรยา เหมือนกับกำลังกังวลกับเงินจำนวนนี้"ปิงปิง เงินใคร" หลิวชวนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทุกคนรับรู้ได้ทันทีเพราะปกติพ่อจะเรียกปิงปิงว่าตัวแสบมากกว่าเรียกชื่อ นอกจากเวลาที่ต้องคุยจริงจังเท่านั้นที่จะเรียกชื่อนี้"เงินที่ปิงปิงจะให้พ่อกับแม่ค่ะ... เงินนี้ปิงปิงได้มาเพราะ... " ปิงปิง อ้ำอึ้งเพราะเหมือนทุกคนจ้องจับผิดเธอ มันเลยทำให้เธอประหม่าที่จะพูดออกไป"ปิงปิงเห็นป้าใหญ่ลับ ๆ ล่อ ๆ ที่สวนหลังบ้านบ่อย ๆ ... พอไม่มีใครอยู่ ปิงปิงเลยไปดูตรงนั้นก็เจอเข้ากับเงินจำนวนนี้ค่ะ"ปิงปิงตัดสินใจบอกไปแบบนั้น ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะเธอยังไม่แน่ใจว่าความสามารถพิเศษที่เธอมีมันใช้ได้ตลอดไหม เพราะบางทีก็มองเห็น บางทีก็มองไม่เห็น ถ้าบอกไปแล้วมันไม่เป็นแบบที่พูดล่ะ... เธอเลยคิดว่าบอกแบบนี้แหละดีที่สุดแล้
บทที่ 13หลังจากที่พี่จุนหานรับปากว่าจะช่วยแล้ว จึงไล่เธอสองคนกลับตึกต้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นพวกเขาจะจัดการเอง แล้วยังขู่เธอว่าถ้าก่อเรื่องอีก เขาฆ่าเธอแน่ ตอนนี้เธอเลยต้องกลับมานั่งเรียนในสภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพื่อน ๆ ในห้องต่างก็ว่าพวกเธอแอบปีนกำแพงไปกินซาลาเปาร้านดังมาแน่ ๆ เพราะสภาพเธอสองคนเหมือนตอนที่แอบปีนกำแพงหรือต้นไม้ออกไปนอกโรงเรียน ทุกคนไม่ค่อยตกใจ เพราะสภาพนี้คือสภาพปกติของเธอสองคน เธออยากจะบอกเพื่อนร่วมห้องเหลือเกิน ถ้าออกนอกโรงเรียนตอนนี้ พวกเธอไม่มีสภาพแบบนี้แล้ว เพราะเธอมีช่องทางลับ แต่ต้องเก็บเงียบไว้หลังเลิกเรียน พี่ชายกับพี่สาวมารอรับเธอกับเล่อเล่อเพื่อที่จะได้กลับบ้านพร้อมกัน โดยเดินไปอีกทาง ไม่ได้ตรงกลับบ้าน เพราะพี่ทั้งสองคนรู้ดีว่าควรบอกน้องในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน น้องสาวจะได้สบายใจ"แวะซื้อของกินก่อนค่อยไปนั่งริมน้ำ" พี่ชายเธอพูดจบแล้วลากเล่อเล่อให้ตามไปซื้อของด้วยกันทันทีตอนนี้เลยเหลือแค่เธอกับพี่สาวที่กำลังเดินนั่งที่ริมน้ำ พออยู่สองคน เธอก็มองหน้าพี่สาวเพื่อเป็นสัญญาณว่าเธอรอฟังอยู่นะ พูดมาได้เลย"พี่คิดว่ามันจะไม่มีปัญหา เพราะพี่ก็ทำงานนี
บทที่ 12ทั้งสองยืนดูอยู่ห่าง ๆ เพราะยังไม่แน่ใจว่าคนกลุ่มนั้นจะเข้าไปหาพี่สาวของเธอหรือเปล่า ปิงปิงจ้องตาไม่กะพริบ และในช่วงจังหวะนั้น สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับบางอย่าง "คิดว่าเราไหวไหม" เล่อเล่อไม่คิดหนี แต่ก็ไม่แน่ใจว่าสู้ไหวไหม"ไม่ไหว... ดูคนก่อน ถ้ามีเรื่องจริง ๆ จะเอาอะไรไปสู้ และมองดูรอบ ๆ คนดูต้นทางเว้นระยะขนาดนั้น มีคนเดียวที่จะช่วยเราได้ในตอนนี้ ไปตามพี่จุนหานมาให้เร็วที่สุด ฉันจะถ่วงเวลาเอง" เขาคนเดียวที่น่าจะช่วยเธอได้ในตอนนี้"อือ... ฉันจะรีบให้สุดชีวิต" พูดจบ เล่อเล่อก็รีบวิ่งออกไปทันที ใจก็ภาวนาให้กลุ่มพี่จุนหานอยู่ที่เดียวกับที่เธอเจอเมื่อวานเมื่อรู้ว่าคนกลุ่มนั้นเดินเข้าไปหาพี่สาวของเธอจริง ๆ แม้จะยังไม่ทำอะไรแต่มันก็คิดดีไม่ได้เลย ปิงปิงเดินยิ้มกว้างเข้าไปหาด้วยท่าทางสบายอารมณ์"พี่อิงอิง! " เธอตะโกนดังลั่น พร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้พี่สาวทุกคนที่ได้ยินเสียงเธอต่างหันมามองเป็นตาเดียว แต่ปิงปิงไม่ได้สนใจใคร เธอชำเลืองมองไปที่มุมหนึ่งของตึก แล้วก็ละสายตากลับมามองพี่สาวกับผู้ชายที่ยืนอยู่ด้วยกัน"ปิงปิงมีเรื่องจะให้พี่ช่วย... ไปด้วยกันหน่อยนะคะ" ปิงปิงดึงแขนพี่สาวให้รีบ
บทที่ 11หลังจากได้ข้อสรุปแล้วว่าครอบครัวเราจะต้องไปหาห้องเช่าหรือบ้านเช่าอยู่ก่อน ถึงย่าจะยอมให้แยกบ้านแต่ก็ไม่ได้ให้เงิน ถึงยังไงก็ต้องย้ายออกให้เร็วพร้อมหนังสือแยกบ้าน ก่อนที่ตาแก่โรงไม้จะมาคุยกับย่า พรุ่งนี้พ่อจะต้องหาบ้านเช่าและอาจต้องหางานใหม่สำรองไว้ด้วย ส่วนหน้าที่ของเธอในคืนนี้คือ ต้องออกไปทำงานพิเศษช่วงที่คนหลับกันหมดหลังจากทุกคนเข้าห้องนอนกันหมดแล้ว ปิงปิงก็หาข้ออ้างไปเข้าห้องน้ำ เพราะเธอปวดหนักมากถึงมากที่สุด อาจต้องเข้าห้องน้ำนาน ๆ ถึงมันจะฟังไม่ขึ้นแต่เพราะทุกคนชินกับการพูดเกินจริงของเธออยู่แล้วก็เลยไม่สนใจ อีกอย่าง เธออยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนแน่ ๆ"ทำไมคนพวกนี้ถึงซ่อนเงินไกลตัว แทนที่จะเก็บไว้ใกล้ตัว" เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ถ้าเป็นเธอจะเก็บไว้ใกล้ตัวให้มากที่สุดปิงปิงเดินไปดูตามที่เห็นภาพ ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้ ใต้ตู้ หลังภาพวาด สารพัดที่ซ่อน บางที่ก็ได้มาไม่กี่หยวน แต่ก็ต้องเอาไว้ก่อน บางที่ต้องมุดเข้าใต้โต๊ะแคบ ๆ ก็ต้องทำ ตอนนี้หัวเธอคงมีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด ตรงไหนที่ต้องมุดก็พอไหว แต่บางที่ต้องปีน อย่างหลังตู้สูงต้องหาเก้าอี้มาเป็นตัวช่วย"อื้อ... อย่า เดี๋ยวมีคนมาเห็
บทที่ 10 แมว... ปิงปิงปิงปิงคิดว่าวันนี้มันเป็นวันอะไร ทำไมมีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอมากมาย เธอเดินตามพี่สาวไปเรื่อย ๆ จนเห็นพี่สาวของเธอเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก ๆ เธอจึงหยุด รอให้เวลาผ่านไปสักพักถึงจะเดินตามเข้าไป…"แหนะ... มีเรื่องสนุกทำไมไม่เรียก" เล่อเล่อเข้ามากระซิบใกล้ ๆ"เล่อเล่อ บ้านเธออยู่โน่น มาทำอะไรตรงนี้" ปิงปิงตอบกลับทันที ถ้ามาจากโรงเรียน บ้านเล่อเล่อถึงก่อนบ้านเธอ เมื่อกี้เล่อเล่อเข้าบ้านไปแล้ว ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่อีก"ลืมสมุดการบ้านไง ต้องเอาไปลอก จะให้ไปลอกที่โรงเรียนหรือไง... ถามโง่ ๆ " เล่อเล่อรีบบอกทันที เธอรู้ว่าปิงปิงทำการบ้านเสร็จก่อนเลิกเรียนตลอด เอามาลอกที่บ้านปลอดภัยที่สุด!พอรู้ว่าปิงปิงกำลังแอบตามดูพี่สาว เล่อเล่อก็ขอตามไปด้วย ทั้งสองจึงแอบอยู่ฝั่งตรงข้ามของอีกซอย ตอนนี้พวกเธอมองเห็นพี่อิงอิงยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าใคร ด้วยระยะที่ไกลจึงทำให้ไม่สามารถได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน พยายามมองดูว่าผู้ชายหน้าตาเป็นยังไงก็มองไม่เห็น"ปิงปิง... เราออกไปก่อนดีไหม ตรงนี้เสี่ยงเกินไป" เล่อเล่อกระซิบบอก"ดีเหมือนกัน" ปิงปิงคิดว่าถึงแอบดูหรือแอบฟังก็ไม่ได้ยินอยู่ดีทั้
บทที่ 9 นักสืบปิงปิงปิงปิงได้ยินก็กลอกตามองบน จากขี้เหร่อยู่แล้ว ตอนนี้มีคำว่าอ้วนห้อยติดตามมาด้วย แล้วชาตินี้จะสวยเหมือนคนอื่นไหม... "บีบทำไม" ปิงปิงหันมากระซิบเล่อเล่อที่อยู่ ๆ ก็บีบก้นเธอในเวลานี้"ยัยขี้เหร่! เธอแอบไปกินซาลาเปาร้านประจำแล้วไม่บอกฉันใช่ไหม! "เล่อเล่อได้ยินที่พี่จุนหานเรียกน้องอ้วนปิงปิง เธอก็ต้องจับก้นพิสูจน์ และเธอคิดว่าเพื่อนเธอต้องแอบไปกินของอร่อยตอนที่เธอไม่อยู่แน่ ๆโป๊ก! ปิงปิงถวายกำปั้นใส่หัวเล่อเล่อทันทีพร้อมกับถลึงตาใส่อีกด้วย จากนั้นเธอก็เลิกสนใจยัยเห็นแก่กินแล้วทำตามแผนที่เธอวางไว้ เธอส่งยิ้มทะเล้นให้พี่จุนหานพร้อมกับยักคิ้วให้อีกด้วย จะเรียกอะไรเธอก็ไม่สน ขอแค่ได้ข้อมูลมาก็พอ"ปิงปิงมาขอบคุณพี่" ปิงปิงพูดเสียงดังเพราะเขากับเธออยู่ห่างกันพอสมควร แล้วดูเหมือนจะมีคนอื่น ๆ ยืนขวางไม่ให้เธอเข้าใกล้"หึ! กล้าดี" จุนหานพูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้คนของเขาหลีกทางให้เด็กอ้วนปิงปิงเดินเข้าไปหาพี่จุนหานด้วยท่าทางที่ไม่ได้กลัวเลยสักนิด แต่ใครจะไปรู้ว่าใจเธอเต้นแทบทะลุออกมา ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นหรอกนะแต่เป็นเพราะเธอกลัว ไม่ได้กลัวธรรมดานะ กลัวมากที่สุด! เธออาศัยความใจก
บทที่ 8 น้องอ้วนปิงปิงเมื่อได้ยินที่เพื่อนบอกแล้ว ปิงปิงถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่ไม่ลืมจดรายละเอียดที่ได้มา กลัวได้แต่รายละเอียดก็ต้องจด เพื่อชีวิตที่เหลือเวลาเพียงน้อยนิดนี้ เธอต้องใจกล้าเข้าไว้"ตอนฉันวิ่งหนี ฉันไปเจออะไรมาด้วย" เล่อเล่อขยับเข้าใกล้เพื่อนแล้วกระซิบเสียงเบา"อะไร... ยังไง" ปิงปิงก็ไม่น้อยหน้า กระซิบตอบกลับเบากว่า"ฉันเห็นพี่สาวเธอยืนคุยกับผู้ชาย ถ้าฉันมองไม่ผิด ฉันเห็นเขาจับมือกันด้วย" "จับมือด้วยเหรอ แล้วผู้ชายเป็นใคร เห็นหน้าไหม" ปิงปิงถามกลับ"ถ้าพวกผู้ใหญ่มาเห็นเป็นเรื่องแน่ ฉันไม่เห็นหน้า เห็นแค่ด้านข้าง ฉันโดนพี่จุนหานลากมาหาเธอเนี่ยแหละ แต่ฉันเห็นพวกพี่จุนหานมองไปทางที่พี่สาวเธอยืนอยู่พักหนึ่ง ก่อนออกมา""เธอห้ามบอกคนอื่นเรื่องพี่อิงอิงนะ" ปิงปิงกลัวเพื่อนเธอเผลอหลุดปากเหลือเกิน"ไม่หลุดหรอก ฉันเห็นไม่ชัดด้วย ถ้าฉันเห็นชัดอาจหลุด" เรื่องที่ไม่มั่นใจ หากหลุดไปอาจมีเรื่องมาหาตัวได้ เธอไม่กล้าเสี่ยง มันอันตรายเกินไป เล่อเล่อไม่หลุดกับเรื่องที่ยังไม่มั่นใจแน่นอน"นั่นแหละ ชัดไม่ชัดก็ห้ามหลุด เธอว่าพี่จุนหานจะรู้จักกับพี่สาวฉันไหม และเมื่อกี้เขาเรียกท
บทที่ 7 ช่วยปิงปิงหลังจากวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตแล้วก็มาถึงจุดนัดหมาย ตอนนี้ปิงปิงแอบอยู่ในห้องน้ำหญิงที่ตึกปลายเพื่อรอเล่อเล่อตามที่นัดไว้"ขังมันไว้เลย! สารเลว""เร็ว ๆ เดี๋ยวคนมา มึงไปดูต้นทาง! "ปิงปิงได้ยินเสียงกลุ่มคนคุยกันและเหมือนลากอะไรเข้ามาในห้องน้ำ เธอรีบซ่อนตรงมุมถังขยะด้านในสุด ยังดีที่เธอตัวเล็กสามารถมุดเข้าช่องได้แต่มันก็ยังทำให้เธออึดอัด แต่ความอึดอัดก็สู้ความอยากรู้ไม่ได้ ปิงปิงทั้งแอบฟังทั้งแอบดูทั้งที่มองไม่ค่อยเห็น ได้ยินชัดเจนแต่ไม่รู้เรื่อง เพราะต่างคนต่างพูด ทั้งด่าทั้งร้องไห้ ไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใคร"มึงกล้ากับกู! ปากดีนักใช่ไหม !" "กรี๊ด... อีหมาบ้า! ปล่อยกู! "เพียะ! เพียะ! เพียะ!ปิงปิงที่แอบอยู่ก็เริ่มอยู่ไม่ได้เหมือนกัน ด้านนอกเขาตีกัน ด้านในก็อึดอัดมาก จะออกไปตอนนี้ก็กลัวซวยไปด้วย เดี๋ยวจะหาว่ามาช่วย เผลอ ๆ อาจคิดว่าเธอเป็นพยานรู้เห็นอีก ทางไหนก็มีแต่ซวย แต่ตอนนี้มันอยู่ไม่ได้แล้วแม่จ๋า... หลบอยู่ข้างถังขยะ มดแดงมันเยอะ มันรุมกัด ทั้งเจ็บทั้งแสบทั้งคันไปหมดแล้ว...."ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! " ปิงปิงทั้งวิ่งและตะโกน เธอมุดหลบพวกรุ่นพี่ที่กำลังตบกันอย่างเมา