บทที่ 6 เพื่อนปิงปิง
ปิงปิงโดนครูสั่งให้ยืนหน้าห้องเรียนเป็นการทำโทษ และตอนพักกลางวันให้เข้าไปช่วยงานครู ตอนที่เธอยืนอยู่หน้าห้องก็ค่อย ๆ เอาหัวชะโงกหน้าดูตรงหน้าต่างห้องเรียนเพื่อมองหาเพื่อนสนิทของเธอ แต่ก็ไม่เห็น เพื่อนของเธอบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติแค่ 3 วัน วันนี้ก็น่าจะมาเรียนได้แล้ว แต่เดี๋ยวนะ! เธอเห็นเพื่อนเธอแล้ว กำลังคลานเข้ามา คงมาสายเหมือนเธอ แต่เล่อเล่อมาสายกว่า
"เย่วเล่อ! จะหลบครูหรือยังไง! ไปยืนกับเพื่อนเธอเดี๋ยวนี้! "
ปิงปิงคิดว่าคุณครูเหมือนมีเครื่องตรวจจับนักเรียนมาสาย แต่พอรู้ว่าเพื่อนสนิทก็โดนทำโทษด้วยกัน จึงทำให้ปิงปิงมีความสุขขึ้นมาทันที
"ปิงปิง เธอวิ่งลงบันไดอีกแล้วใช่ไหม"
เย่วเล่อรู้จักเพื่อนของเธอดี เพราะเล่นกันมาตั้งแต่จำความได้
"ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว... ฉันอยากรู้ว่าเธอรู้จักคนพวกนี้ไหม"
ปิงปิงหยิบสมุดส่งให้เพื่อนแล้วขยิบตาเป็นสัญลักษณ์ที่รู้กันแค่สองคน เพราะถ้าครูจับได้จะได้บอกว่าคุยกันเรื่องเรียน
"ถามถูกคนแล้ว เล่อเล่อคือผู้รอบรู้เรื่องผู้คน" เล่อเล่อรีบยืดอกพูดด้วยความภูมิใจ
เล่อเล่อค่อย ๆ ไล่อ่านทีละชื่อแล้วก็เกาหัวแกรก ๆ
"หัวเธอกระแทกพื้นแรงมากหรือเปล่า นี่มันชื่อเธอกับพี่ ๆ ของเธอ ไม่รู้ก็บ้าแล้ว! "
"ไม่ใช่ไม่ใช่... ชื่ออื่นสิ ถ้ารู้ก็เขียนไว้ให้ด้วยว่าคนนั้นเป็นใคร"
"พอรู้จัก บางคนก็เรียนที่เดียวกับเรานี่แหละ เป็นพวกรุ่นพี่ และมีโรงเรียนตรงข้ามเราด้วย" เล่อเล่อกระซิบบอก
เล่อเล่อเป็นผู้รอบรู้จริง ๆ ปิงปิงขอนับถือ...
"กระซิบกระซาบอะไรกัน มาสายยังไม่สำนึกอีก มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ"
"เปล่าค่ะคุณครู หนูแค่คุยเรื่องเรียน นี่ไงคะสมุดของหนู" ปิงปิงรีบบอกพร้อมกับดึงสมุดจากมือเพื่อนและโบกให้คุณครูเห็น
"ใช่ค่ะ เมื่อวานเราไม่ได้มาเรียนกัน เลยคุยกันเรื่องเรียนค่ะ" เล่อเล่อก็รีบยืนยันให้ครูเชื่อพวกเธอ
"เข้าไปนั่งที่แล้วไปหาหัวหน้าชั้น ตามส่งงานให้เรียบร้อยด้วย"
"ค่ะครู"
ช่วงพักกลางวัน ปิงปิงเอาสมุดบันทึกออกมาดู แล้วค่อย ๆ เขียนรายละเอียดของแต่ละบุคคลตามที่เล่อเล่อบอกจนเสร็จ
"เออ ปิงปิง เธอเขียนรายชื่อนั่นทำไม อยากรู้จักหรือว่า... แอบชอบเหรอ" เล่อเล่อรีบถามเพื่อนทันทีที่คิดได้
"เคยได้ยินเรื่องกลั่นแกล้งในโรงเรียนหรือเปล่า ฉันอยากรู้ว่าคนพวกนี้เป็นคนร้ายไหม"
ปิงปิงไม่ได้บอกเรื่องจริงทั้งหมด แต่เรื่องกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนมันมีอยู่จริง และพวกเธอก็เคยเห็นมาแล้วด้วย
"เคยสิ ก็ฉันกับเธอไงที่ไปแกล้งคนอื่น"
โป๊ก! ปิงปิงเคาะหัวเพื่อนไปหนึ่งที
"เจ็บนะปิงปิง! "
"ก็เคาะให้เจ็บ"
"เออ... บอกมาว่าเธอจะทำอะไร"
"ก็จะตามดูคนพวกนี้ไง ถ้าคนพวกนี้แกล้งพี่สาวฉันล่ะ" ปิงปิงหาข้ออ้าง
"เออจริง อาจอิจฉาที่พี่สาวเธอสวยแล้วลากไปตบในห้องน้ำอะไรแบบนี้ เราต้องหาตัวคนร้ายให้ได้! " เล่อเล่อเห็นด้วย
"แล้วแบบนี้จะมีคนอิจฉาฉันไหมเล่อเล่อ อิจฉาจนมาฆ่าอะไรแบบนี้" ปิงปิงทำท่าขนลุกขนพอง
"เธอไม่ได้สวยแบบพี่อิงอิง! ใครมันจะมาทำอะไร แล้วอีกอย่าง มีแต่เธอที่จะไปฆ่าคนอื่น ยัยบ๊อง! "
"ฉันไม่สวยจริง ๆ เหรอ" เธอมีพี่สาวสวย พี่ชายหล่อ มีแต่คนบอกแบบนี้ทั้งนั้น แล้วเธอจะไม่สวยเลยเหรอ...
"ไม่สวยเหมือนพี่อิงอิง เธอขาวมากเกินไป ตาก็กลมโต ขนตาก็ยาวจนน่าสงสารหนังตาที่ต้องแบกรับน้ำหนักขนตา คิ้วก็ดำ ปากก็นิดเดียวแล้วสีมันแดงด้วย ปากเเค่นี้ เธอยัดของกินเข้าไปได้ยังไงเยอะแยะ แก้มก็ป่อง ๆ แถมมีรอยบุ๋มเวลายิ้ม เธอตัวเตี้ยอีก ง่าย ๆ เลย เธอไม่สวย เธอกับฉันเหมือนกัน เราไม่สวยถึงได้เป็นเพื่อนกันไง! "
"ก็จริง ไม่มีใครชมฉันสวยเลย มีแต่บอกน่ารักเหมือนตุ๊กตา แล้วคิดดู ตุ๊กตามันน่ากลัวน่าสยองมากเลยนะ"
เล่อเล่อเห็นด้วย พวกเธอเคยเห็นตุ๊กตาแล้ว มันน่ากลัวมากกว่าน่ารักอีก
"ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้ว่าง เราไปแอบดูคนพวกนี้ไหม" เล่อเล่อเอานิ้วจิ้มไปที่สมุด
"เราจะหาเจอได้ที่ไหน" ปิงปิงโน้มหน้าเข้าไปใกล้เล่อเล่อ
"ตามมา... "
ทั้งสองลัดเลาะกันไปด้านหลังโรงเรียน พอเดินไปทางไหนก็มีแต่คนมอง ปิงปิงสงสัยเลยก้มมองตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติไหม หรือว่ามีอะไรติดหน้าเธอ ทำไมพวกรุ่นพี่ถึงพากันมองพวกเธอขนาดนี้
"เล่อเล่อมองหน้าฉัน มีอะไรผิดปกติไหม ทำไมพี่ ๆ เขามองหน้าแปลก ๆ "
"ไหน ไม่เห็นมีอะไรก็ขี้เหร่เหมือนเดิม มันเป็นเขตเด็กโต ถึงโรงเรียนไม่ห้ามแต่รุ่นเราก็ไม่ค่อยมีใครเข้ามา อย่าคิดมาก เขาคงไม่เคยเห็นคนขี้เหร่นั่นแหละ เร็ว ๆ ตามมา เดี๋ยวหมดเวลาพัก"
"จะไปไหนกัน"
ปิงปิงกับเล่อเล่อยืนนิ่ง ไม่กล้าขยับขาก้าวต่อ
"นี่มันน้อง ๆ อาคารต้น มาทำอะไรอาคารปลาย"
"พาเพื่อนมาหาพี่ชายค่ะ" เล่อเล่อรีบหันหน้ามาตอบรุ่นพี่ และค่อย ๆ ดึงปิงปิงให้หันมาเหมือนกัน
ปิงปิงเงยหน้ามองพวกรุ่นพี่ เธอค่อย ๆ ไล่สายตามองทีละคนแต่ไม่ได้พูดอะไร แค่จำหน้าไว้เท่านั้น
"พี่ชายชื่ออะไร" พี่คนหนึ่งถามขึ้น มองดูก็รู้ว่าสูงมาก เพราะเขาเดินเข้ามาใกล้จนเธอต้องแหงนหน้ามองเขาเลยทีเดียว
"พี่ชื่อ... วิ่งเร็วปิงปิง" เล่อเล่อพูดได้แค่นั้นก็บอกให้เพื่อนวิ่งทันที
ส่วนปิงปิงผู้ชำนาญด้านการหนี เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย แค่เล่อเล่อส่งสัญญาณบอกก็ผลักพี่ที่อยู่ใกล้ ๆ แล้ววิ่งหนีทันที
สองสาววิ่งกันไปคนละทิศคนละทาง แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงเพราะเธอสองคนเป็นมืออาชีพ มองตารู้ใจ ไปเจอกันที่นัดหมายได้เลย...
.......................................................
*แจ้งทุกคนนะคะ*
โรงเรียนที่ปิงปิงเรียนเป็นเหมือนโรงเรียนมัธยมนะคะ จะมี ม.ต้น ม.ปลาย แต่ในนิยายเรียกชั้นต้นและชั้นปลาย ตึกเรียนก็เรียกตึกต้น ตึกปลายนะคะ
อีกเรื่องที่อาจจะสงสัย ปิงปิงกับเล่อเล่ออายุ 14 ทำให้ไม่รู้ว่าน่ารักเป็นแบบไหน ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนไม่รู้ว่าน่ารักเป็นแบบไหน แต่เพราะปิงปิงถูกเปรียบเทียบว่าน่ารักเหมือนตุ๊กตา พอมีคำว่าเหมือนตุ๊กตา จึงทำให้เธอเข้าใจว่ามันขี้เหร่ไม่น่ารักมันน่าเกลียด เพราะสมัยนั้นตุ๊กตาไม่ได้น่ารักเหมือนยุคปัจจุบันของเรา และปิงปิงก็เคยเห็นแต่ตุ๊กตาที่มันน่ากลัวและขี้เหร่ ยัยน้องเลยเข้าใจว่าตัวเองขี้เหร่ค่ะ
บทที่ 7 ช่วยปิงปิงหลังจากวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตแล้วก็มาถึงจุดนัดหมาย ตอนนี้ปิงปิงแอบอยู่ในห้องน้ำหญิงที่ตึกปลายเพื่อรอเล่อเล่อตามที่นัดไว้"ขังมันไว้เลย! สารเลว""เร็ว ๆ เดี๋ยวคนมา มึงไปดูต้นทาง! "ปิงปิงได้ยินเสียงกลุ่มคนคุยกันและเหมือนลากอะไรเข้ามาในห้องน้ำ เธอรีบซ่อนตรงมุมถังขยะด้านในสุด ยังดีที่เธอตัวเล็กสามารถมุดเข้าช่องได้แต่มันก็ยังทำให้เธออึดอัด แต่ความอึดอัดก็สู้ความอยากรู้ไม่ได้ ปิงปิงทั้งแอบฟังทั้งแอบดูทั้งที่มองไม่ค่อยเห็น ได้ยินชัดเจนแต่ไม่รู้เรื่อง เพราะต่างคนต่างพูด ทั้งด่าทั้งร้องไห้ ไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใคร"มึงกล้ากับกู! ปากดีนักใช่ไหม !" "กรี๊ด... อีหมาบ้า! ปล่อยกู! "เพียะ! เพียะ! เพียะ!ปิงปิงที่แอบอยู่ก็เริ่มอยู่ไม่ได้เหมือนกัน ด้านนอกเขาตีกัน ด้านในก็อึดอัดมาก จะออกไปตอนนี้ก็กลัวซวยไปด้วย เดี๋ยวจะหาว่ามาช่วย เผลอ ๆ อาจคิดว่าเธอเป็นพยานรู้เห็นอีก ทางไหนก็มีแต่ซวย แต่ตอนนี้มันอยู่ไม่ได้แล้วแม่จ๋า... หลบอยู่ข้างถังขยะ มดแดงมันเยอะ มันรุมกัด ทั้งเจ็บทั้งแสบทั้งคันไปหมดแล้ว...."ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! " ปิงปิงทั้งวิ่งและตะโกน เธอมุดหลบพวกรุ่นพี่ที่กำลังตบกันอย่างเมา
บทที่ 8 น้องอ้วนปิงปิงเมื่อได้ยินที่เพื่อนบอกแล้ว ปิงปิงถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่ไม่ลืมจดรายละเอียดที่ได้มา กลัวได้แต่รายละเอียดก็ต้องจด เพื่อชีวิตที่เหลือเวลาเพียงน้อยนิดนี้ เธอต้องใจกล้าเข้าไว้"ตอนฉันวิ่งหนี ฉันไปเจออะไรมาด้วย" เล่อเล่อขยับเข้าใกล้เพื่อนแล้วกระซิบเสียงเบา"อะไร... ยังไง" ปิงปิงก็ไม่น้อยหน้า กระซิบตอบกลับเบากว่า"ฉันเห็นพี่สาวเธอยืนคุยกับผู้ชาย ถ้าฉันมองไม่ผิด ฉันเห็นเขาจับมือกันด้วย" "จับมือด้วยเหรอ แล้วผู้ชายเป็นใคร เห็นหน้าไหม" ปิงปิงถามกลับ"ถ้าพวกผู้ใหญ่มาเห็นเป็นเรื่องแน่ ฉันไม่เห็นหน้า เห็นแค่ด้านข้าง ฉันโดนพี่จุนหานลากมาหาเธอเนี่ยแหละ แต่ฉันเห็นพวกพี่จุนหานมองไปทางที่พี่สาวเธอยืนอยู่พักหนึ่ง ก่อนออกมา""เธอห้ามบอกคนอื่นเรื่องพี่อิงอิงนะ" ปิงปิงกลัวเพื่อนเธอเผลอหลุดปากเหลือเกิน"ไม่หลุดหรอก ฉันเห็นไม่ชัดด้วย ถ้าฉันเห็นชัดอาจหลุด" เรื่องที่ไม่มั่นใจ หากหลุดไปอาจมีเรื่องมาหาตัวได้ เธอไม่กล้าเสี่ยง มันอันตรายเกินไป เล่อเล่อไม่หลุดกับเรื่องที่ยังไม่มั่นใจแน่นอน"นั่นแหละ ชัดไม่ชัดก็ห้ามหลุด เธอว่าพี่จุนหานจะรู้จักกับพี่สาวฉันไหม และเมื่อกี้เขาเรียกท
บทที่ 9 นักสืบปิงปิงปิงปิงได้ยินก็กลอกตามองบน จากขี้เหร่อยู่แล้ว ตอนนี้มีคำว่าอ้วนห้อยติดตามมาด้วย แล้วชาตินี้จะสวยเหมือนคนอื่นไหม... "บีบทำไม" ปิงปิงหันมากระซิบเล่อเล่อที่อยู่ ๆ ก็บีบก้นเธอในเวลานี้"ยัยขี้เหร่! เธอแอบไปกินซาลาเปาร้านประจำแล้วไม่บอกฉันใช่ไหม! "เล่อเล่อได้ยินที่พี่จุนหานเรียกน้องอ้วนปิงปิง เธอก็ต้องจับก้นพิสูจน์ และเธอคิดว่าเพื่อนเธอต้องแอบไปกินของอร่อยตอนที่เธอไม่อยู่แน่ ๆโป๊ก! ปิงปิงถวายกำปั้นใส่หัวเล่อเล่อทันทีพร้อมกับถลึงตาใส่อีกด้วย จากนั้นเธอก็เลิกสนใจยัยเห็นแก่กินแล้วทำตามแผนที่เธอวางไว้ เธอส่งยิ้มทะเล้นให้พี่จุนหานพร้อมกับยักคิ้วให้อีกด้วย จะเรียกอะไรเธอก็ไม่สน ขอแค่ได้ข้อมูลมาก็พอ"ปิงปิงมาขอบคุณพี่" ปิงปิงพูดเสียงดังเพราะเขากับเธออยู่ห่างกันพอสมควร แล้วดูเหมือนจะมีคนอื่น ๆ ยืนขวางไม่ให้เธอเข้าใกล้"หึ! กล้าดี" จุนหานพูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้คนของเขาหลีกทางให้เด็กอ้วนปิงปิงเดินเข้าไปหาพี่จุนหานด้วยท่าทางที่ไม่ได้กลัวเลยสักนิด แต่ใครจะไปรู้ว่าใจเธอเต้นแทบทะลุออกมา ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นหรอกนะแต่เป็นเพราะเธอกลัว ไม่ได้กลัวธรรมดานะ กลัวมากที่สุด! เธออาศัยความใจก
บทที่ 10 แมว... ปิงปิงปิงปิงคิดว่าวันนี้มันเป็นวันอะไร ทำไมมีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอมากมาย เธอเดินตามพี่สาวไปเรื่อย ๆ จนเห็นพี่สาวของเธอเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก ๆ เธอจึงหยุด รอให้เวลาผ่านไปสักพักถึงจะเดินตามเข้าไป…"แหนะ... มีเรื่องสนุกทำไมไม่เรียก" เล่อเล่อเข้ามากระซิบใกล้ ๆ"เล่อเล่อ บ้านเธออยู่โน่น มาทำอะไรตรงนี้" ปิงปิงตอบกลับทันที ถ้ามาจากโรงเรียน บ้านเล่อเล่อถึงก่อนบ้านเธอ เมื่อกี้เล่อเล่อเข้าบ้านไปแล้ว ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่อีก"ลืมสมุดการบ้านไง ต้องเอาไปลอก จะให้ไปลอกที่โรงเรียนหรือไง... ถามโง่ ๆ " เล่อเล่อรีบบอกทันที เธอรู้ว่าปิงปิงทำการบ้านเสร็จก่อนเลิกเรียนตลอด เอามาลอกที่บ้านปลอดภัยที่สุด!พอรู้ว่าปิงปิงกำลังแอบตามดูพี่สาว เล่อเล่อก็ขอตามไปด้วย ทั้งสองจึงแอบอยู่ฝั่งตรงข้ามของอีกซอย ตอนนี้พวกเธอมองเห็นพี่อิงอิงยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าใคร ด้วยระยะที่ไกลจึงทำให้ไม่สามารถได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน พยายามมองดูว่าผู้ชายหน้าตาเป็นยังไงก็มองไม่เห็น"ปิงปิง... เราออกไปก่อนดีไหม ตรงนี้เสี่ยงเกินไป" เล่อเล่อกระซิบบอก"ดีเหมือนกัน" ปิงปิงคิดว่าถึงแอบดูหรือแอบฟังก็ไม่ได้ยินอยู่ดีทั้
บทที่ 11หลังจากได้ข้อสรุปแล้วว่าครอบครัวเราจะต้องไปหาห้องเช่าหรือบ้านเช่าอยู่ก่อน ถึงย่าจะยอมให้แยกบ้านแต่ก็ไม่ได้ให้เงิน ถึงยังไงก็ต้องย้ายออกให้เร็วพร้อมหนังสือแยกบ้าน ก่อนที่ตาแก่โรงไม้จะมาคุยกับย่า พรุ่งนี้พ่อจะต้องหาบ้านเช่าและอาจต้องหางานใหม่สำรองไว้ด้วย ส่วนหน้าที่ของเธอในคืนนี้คือ ต้องออกไปทำงานพิเศษช่วงที่คนหลับกันหมดหลังจากทุกคนเข้าห้องนอนกันหมดแล้ว ปิงปิงก็หาข้ออ้างไปเข้าห้องน้ำ เพราะเธอปวดหนักมากถึงมากที่สุด อาจต้องเข้าห้องน้ำนาน ๆ ถึงมันจะฟังไม่ขึ้นแต่เพราะทุกคนชินกับการพูดเกินจริงของเธออยู่แล้วก็เลยไม่สนใจ อีกอย่าง เธออยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนแน่ ๆ"ทำไมคนพวกนี้ถึงซ่อนเงินไกลตัว แทนที่จะเก็บไว้ใกล้ตัว" เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ถ้าเป็นเธอจะเก็บไว้ใกล้ตัวให้มากที่สุดปิงปิงเดินไปดูตามที่เห็นภาพ ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้ ใต้ตู้ หลังภาพวาด สารพัดที่ซ่อน บางที่ก็ได้มาไม่กี่หยวน แต่ก็ต้องเอาไว้ก่อน บางที่ต้องมุดเข้าใต้โต๊ะแคบ ๆ ก็ต้องทำ ตอนนี้หัวเธอคงมีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด ตรงไหนที่ต้องมุดก็พอไหว แต่บางที่ต้องปีน อย่างหลังตู้สูงต้องหาเก้าอี้มาเป็นตัวช่วย"อื้อ... อย่า เดี๋ยวมีคนมาเห็
บทที่ 12ทั้งสองยืนดูอยู่ห่าง ๆ เพราะยังไม่แน่ใจว่าคนกลุ่มนั้นจะเข้าไปหาพี่สาวของเธอหรือเปล่า ปิงปิงจ้องตาไม่กะพริบ และในช่วงจังหวะนั้น สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับบางอย่าง "คิดว่าเราไหวไหม" เล่อเล่อไม่คิดหนี แต่ก็ไม่แน่ใจว่าสู้ไหวไหม"ไม่ไหว... ดูคนก่อน ถ้ามีเรื่องจริง ๆ จะเอาอะไรไปสู้ และมองดูรอบ ๆ คนดูต้นทางเว้นระยะขนาดนั้น มีคนเดียวที่จะช่วยเราได้ในตอนนี้ ไปตามพี่จุนหานมาให้เร็วที่สุด ฉันจะถ่วงเวลาเอง" เขาคนเดียวที่น่าจะช่วยเธอได้ในตอนนี้"อือ... ฉันจะรีบให้สุดชีวิต" พูดจบ เล่อเล่อก็รีบวิ่งออกไปทันที ใจก็ภาวนาให้กลุ่มพี่จุนหานอยู่ที่เดียวกับที่เธอเจอเมื่อวานเมื่อรู้ว่าคนกลุ่มนั้นเดินเข้าไปหาพี่สาวของเธอจริง ๆ แม้จะยังไม่ทำอะไรแต่มันก็คิดดีไม่ได้เลย ปิงปิงเดินยิ้มกว้างเข้าไปหาด้วยท่าทางสบายอารมณ์"พี่อิงอิง! " เธอตะโกนดังลั่น พร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้พี่สาวทุกคนที่ได้ยินเสียงเธอต่างหันมามองเป็นตาเดียว แต่ปิงปิงไม่ได้สนใจใคร เธอชำเลืองมองไปที่มุมหนึ่งของตึก แล้วก็ละสายตากลับมามองพี่สาวกับผู้ชายที่ยืนอยู่ด้วยกัน"ปิงปิงมีเรื่องจะให้พี่ช่วย... ไปด้วยกันหน่อยนะคะ" ปิงปิงดึงแขนพี่สาวให้รีบ
บทที่ 13หลังจากที่พี่จุนหานรับปากว่าจะช่วยแล้ว จึงไล่เธอสองคนกลับตึกต้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นพวกเขาจะจัดการเอง แล้วยังขู่เธอว่าถ้าก่อเรื่องอีก เขาฆ่าเธอแน่ ตอนนี้เธอเลยต้องกลับมานั่งเรียนในสภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพื่อน ๆ ในห้องต่างก็ว่าพวกเธอแอบปีนกำแพงไปกินซาลาเปาร้านดังมาแน่ ๆ เพราะสภาพเธอสองคนเหมือนตอนที่แอบปีนกำแพงหรือต้นไม้ออกไปนอกโรงเรียน ทุกคนไม่ค่อยตกใจ เพราะสภาพนี้คือสภาพปกติของเธอสองคน เธออยากจะบอกเพื่อนร่วมห้องเหลือเกิน ถ้าออกนอกโรงเรียนตอนนี้ พวกเธอไม่มีสภาพแบบนี้แล้ว เพราะเธอมีช่องทางลับ แต่ต้องเก็บเงียบไว้หลังเลิกเรียน พี่ชายกับพี่สาวมารอรับเธอกับเล่อเล่อเพื่อที่จะได้กลับบ้านพร้อมกัน โดยเดินไปอีกทาง ไม่ได้ตรงกลับบ้าน เพราะพี่ทั้งสองคนรู้ดีว่าควรบอกน้องในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน น้องสาวจะได้สบายใจ"แวะซื้อของกินก่อนค่อยไปนั่งริมน้ำ" พี่ชายเธอพูดจบแล้วลากเล่อเล่อให้ตามไปซื้อของด้วยกันทันทีตอนนี้เลยเหลือแค่เธอกับพี่สาวที่กำลังเดินนั่งที่ริมน้ำ พออยู่สองคน เธอก็มองหน้าพี่สาวเพื่อเป็นสัญญาณว่าเธอรอฟังอยู่นะ พูดมาได้เลย"พี่คิดว่ามันจะไม่มีปัญหา เพราะพี่ก็ทำงานนี
บทที่ 14ทั้งสามคนที่มาใหม่ตกใจที่เห็นปิงปิงถือเงินจำนวนมากยื่นออกไป ส่วนแม่เอามือปิดปากท่าทางตกใจ ส่วนปิงปิงนั้นตกใจมากกว่า ไม่คิดว่าพ่อกับพี่จะกลับมาเร็วขนาดนี้ คิดจะให้แม่ช่วยพูด กลายเป็นว่ามาเห็นตอนที่เธอกำลังยื่นเงินให้แม่พอดี...หลิวชวนตั้งสติได้เป็นคนแรก เขารีบปิดประตูห้องทันทีพร้อมกับหันไปมองหน้าภรรยา เหมือนกับกำลังกังวลกับเงินจำนวนนี้"ปิงปิง เงินใคร" หลิวชวนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทุกคนรับรู้ได้ทันทีเพราะปกติพ่อจะเรียกปิงปิงว่าตัวแสบมากกว่าเรียกชื่อ นอกจากเวลาที่ต้องคุยจริงจังเท่านั้นที่จะเรียกชื่อนี้"เงินที่ปิงปิงจะให้พ่อกับแม่ค่ะ... เงินนี้ปิงปิงได้มาเพราะ... " ปิงปิง อ้ำอึ้งเพราะเหมือนทุกคนจ้องจับผิดเธอ มันเลยทำให้เธอประหม่าที่จะพูดออกไป"ปิงปิงเห็นป้าใหญ่ลับ ๆ ล่อ ๆ ที่สวนหลังบ้านบ่อย ๆ ... พอไม่มีใครอยู่ ปิงปิงเลยไปดูตรงนั้นก็เจอเข้ากับเงินจำนวนนี้ค่ะ"ปิงปิงตัดสินใจบอกไปแบบนั้น ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะเธอยังไม่แน่ใจว่าความสามารถพิเศษที่เธอมีมันใช้ได้ตลอดไหม เพราะบางทีก็มองเห็น บางทีก็มองไม่เห็น ถ้าบอกไปแล้วมันไม่เป็นแบบที่พูดล่ะ... เธอเลยคิดว่าบอกแบบนี้แหละดีที่สุดแล้
ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า
บทที่ 46ปิงปิงเตรียมไขกุญแจเข้าห้องอย่าทุลักทุเล... แต่ที่น่าตกใจคือประตูเปิดออกเอง ทั้งที่เธอยังไม่ได้เสียบกุญแจเลยด้วยซ้ำ ปิงปิงเลยจุดคบเพลิงตามที่ปู่ทวดบอกแล้วถือเดินตามทางเดินเข้าไป ภายในห้องกว้างมีกลิ่นดอกไม้หอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ปิงปิงเดินไปจนถึงที่จุดคบเพลิงที่ติดอยู่กับผนัง เธอจึงจุดเพิ่มเพื่อที่จะได้มองเห็นรอบ ๆ แสงสว่างค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละนิด พอทั้งห้องเริ่มสว่างก็เกิดเสียงดัง ปัง!! พร้อมกับประตูทางเข้าปิดสนิท เหมือนว่าตอนนี้เธอถูกขังอยู่ในห้องนี้แล้ว...ชั่วขณะที่ปิงปิงสำรวจ ห้องนี้ที่มีขนาดกว้างพอสมควร แต่พอสำรวจจนทั่วก็ทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ เพราะว่าห้องนี้เหมือนกับลานกว้างในฝันของเธอนั่นเอง ลานกว้างที่มีแท่นบูชา... ถ้าให้เดาคงเป็นสถานที่ที่เทพธิดาอักษรจบชีวิตลงแน่นอน ปิงปิงเดินเข้าไปที่แท่นบูชาที่มีดอกเหมยกุยสีแดงขึ้นอยู่เต็มและกำลังเบ่งบานชูช่อสวยงาม เธอค่อย ๆ เอามือลูบไล้ตามพื้นของแท่น สัมผัสดูเรื่อย ๆ สายตาก็สำรวจสิ่งของที่วางบนแท่นบูชา มีตะเกียงแก้ววางอยู่... ถัดมาเป็นหนังสือเล่มสีแดง... สิ่งสุดท้ายคือกริชโบราณแบบที่แทงเข้าไปในหัวใจของธิดาอักษร แบบเดียวกันกับท
บทที่ 45หลังจากได้รับคำตอบรับจากผู้อาวุโสตระกูลจ้าวแล้ว จ้าวหลิวหยางเลยพาทุกคนมาที่ตระกูลหลัก ปิงปิงเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับทุกคน ส่วนคนติดตามหรือคนสนิทต้องรออยู่นอกบ้านเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ตอนแรกเธอไม่ได้มีอาการกลัวแต่อย่างใด แต่พอมาอยู่ท่ามกลางสายตาของคนตระกูลจ้าวหลายสิบคน จึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งอยู่บ้างปิงปิงทำความเคารพผู้อาวุโสทุกท่านตามที่พ่อจ้าวแนะนำจนครบทุกคน ตอนนี้มีคนตระกูลจ้าวหลายคนที่สนใจรอดูผลทดสอบว่าจะออกมาเป็นแบบไหนยังไงบ้าง... ปู่ทวดเรียกเธอให้เข้าไปยืนบริเวณตรงกลางซึ่งมีผู้อาวุโสนั่งล้อมรอบเป็นวงกลม"จ้าวปิงปิง... มันคือพิธีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไรเลย""ปู่ทวดคะ... ให้ทุกคนอยู่ด้วยได้ไหมคะ" ปิงปิงอยากให้พ่อ พี่ชายหาน และเล่อเล่ออยู่ด้วย มันจะทำให้เธออุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว"ตอนนี้อยู่ได้... แต่ถ้าผ่านการทดสอบ ต้องเข้าไปในห้องลับนั้นเพียงคนเดียว... มันคือความเชื่อและคำทำนายที่ส่งต่อให้แก่ผู้นำตระกูล""ปู่ทวดเล่าให้ฟังได้ไหมคะ""เดี๋ยวก็รู้... ลูกหลานตระกูลจ้าวล้วนเชื่อและทำตามมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้""ปู่ขอถามปิงปิงหน่อยได
บทที่ 44ปิงปิงได้อ่านหนังสือเล่มแดงของพี่ชายหานแล้ว เธอคิดว่ามันต้องมีหนังสืออีกเล่มหรือสองเล่มแน่ ๆ เพราะมันเหมือนยังไม่จบ ปิงปิงได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอให้พี่ชายหานได้ฟังทั้งหมด ไม่มีปิดบังสักเรื่อง ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่พี่ชายหานก็เชื่อเธอ เพราะเขาก็ได้เข้าไปที่ห้องหนังสือเช่นเดียวกันกับเธอ...หนังสือเล่มนั้นมันเหมือนเป็นเรื่องราวบันทึกคล้าย ๆ เล่มของเธอ หนังสือบอกไว้ว่า... ก่อนที่ธิดาอักษรจะยอมเป็นเครื่องสังเวยให้จอมมาร เธอได้แบ่งดวงจิตออกเป็นร้อย ๆ ดวงเพื่อส่งไปจุติตามโลกหนังสือต่าง ๆ ที่ธิดาอักษรสร้างขึ้น หนังสือต่าง ๆ ที่ว่านี้ก็เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง มิติหนึ่งที่ต่างเวลาและต่างสถานที่... เพื่อที่จะไม่ได้ดวงจิตถูกทำลายไปทั้งหมด... เหลือไว้เพียงดวงจิตเดียวในโลกนี้ซึ่งต้องใช้สังเวยให้กับจอมมาร... แต่เรื่องที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ เหมือนธิดาอักษรจะมีคนคอยช่วย นั่นคือ ธิดาบุปผา ที่มาช่วยก่อนที่ดวงจิตจะแตกสลายจากการสละญาณบารมีทั้งหมด โดยได้เก็บเศษเสี้ยวดวงจิตใส่ตะเกียงแก้วและส่งให้กับตระกูลที่เทพมังกรจะถือกำเนิด พร้อมกับบอกว่า... ธิดาอักษรจะหวนคืน..."คิดออก