บทที่ 9 นักสืบปิงปิง
ปิงปิงได้ยินก็กลอกตามองบน จากขี้เหร่อยู่แล้ว ตอนนี้มีคำว่าอ้วนห้อยติดตามมาด้วย แล้วชาตินี้จะสวยเหมือนคนอื่นไหม... "บีบทำไม" ปิงปิงหันมากระซิบเล่อเล่อที่อยู่ ๆ ก็บีบก้นเธอในเวลานี้ "ยัยขี้เหร่! เธอแอบไปกินซาลาเปาร้านประจำแล้วไม่บอกฉันใช่ไหม! " เล่อเล่อได้ยินที่พี่จุนหานเรียกน้องอ้วนปิงปิง เธอก็ต้องจับก้นพิสูจน์ และเธอคิดว่าเพื่อนเธอต้องแอบไปกินของอร่อยตอนที่เธอไม่อยู่แน่ ๆ โป๊ก! ปิงปิงถวายกำปั้นใส่หัวเล่อเล่อทันทีพร้อมกับถลึงตาใส่อีกด้วย จากนั้นเธอก็เลิกสนใจยัยเห็นแก่กินแล้วทำตามแผนที่เธอวางไว้ เธอส่งยิ้มทะเล้นให้พี่จุนหานพร้อมกับยักคิ้วให้อีกด้วย จะเรียกอะไรเธอก็ไม่สน ขอแค่ได้ข้อมูลมาก็พอ "ปิงปิงมาขอบคุณพี่" ปิงปิงพูดเสียงดังเพราะเขากับเธออยู่ห่างกันพอสมควร แล้วดูเหมือนจะมีคนอื่น ๆ ยืนขวางไม่ให้เธอเข้าใกล้ "หึ! กล้าดี" จุนหานพูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้คนของเขาหลีกทางให้เด็กอ้วน ปิงปิงเดินเข้าไปหาพี่จุนหานด้วยท่าทางที่ไม่ได้กลัวเลยสักนิด แต่ใครจะไปรู้ว่าใจเธอเต้นแทบทะลุออกมา ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นหรอกนะแต่เป็นเพราะเธอกลัว ไม่ได้กลัวธรรมดานะ กลัวมากที่สุด! เธออาศัยความใจกล้าและหน้าด้านเดินเข้าไปเพื่อหาข้อมูลโดยเฉพาะ "ปิงปิงขอถามอะไรพี่ได้ไหมคะ" ปิงปิงพยายามทำตัวให้น่ารักที่สุด เผื่อพี่เขาจะเมตตาและสงสาร "..." พี่เขาไม่ตอบแต่ชำเลืองมองเธอพร้อมเลิกคิ้วขึ้น ปิงปิงเลยเดาว่าเขาอนุญาตให้เธอถามได้ "พี่รู้จักฝาแฝดที่เป็นพี่ของปิงปิงใช่ไหม" พอถามออกไป เธอก็แอบมองดูว่าพี่จุนหานแสดงอาการอะไรยังไงไหม หงุดหงิดหรือเปล่าแต่ว่าไม่มี เขายังมองเธอและมีสีหน้าเรียบเฉย เธอก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า... เขาอนุญาตให้เธอถามต่อได้ ปิงปิงขยับเข้าไปใกล้ ๆ และถามคำถามเรื่อย ๆ โดยมีเล่อเล่อช่วยถาม ถึงเขาไม่ตอบอะไร แต่พวกเธอก็ตีเนียนชวนคุยชวนถามเรื่อย ๆ มือข้างซ้ายก็ค่อย ๆ ยื่นไปแตะพี่จุนหานโดยไม่ให้เขารู้ตัว แต่แค่ยื่นออกเท่านั้นแหละ เขาก็ปัดมือเธอออกทันที "ไม่ไม่! ปิงเหมือนเห็นอะไรติดที่แขนพี่ มา ๆ เดี๋ยวปิงปิงเอาออกให้" ตีหน้ามึนเก่งที่สุดก็ปิงปิงนี่แหละค่ะ พอเธอแตะข้างซ้ายเสร็จก็เปลี่ยนเป็นฝั่งขวาเพื่อดูเหตุการณ์ พร้อมกับส่งยิ้มกว้างจนตาหยีให้กับพี่จุนหานที่ยืนนิ่งมองเหมือนรำคาญเธอ... แต่เธอไม่สน... รำคาญไปเหอะ... "พูดมากนะน้องอ้วน" "พี่ช่วยปิงปิงได้ไหม พี่ดูนี่ให้หน่อย รู้จักใครบ้างไหม... " ปิงปิงหยิบสมุดอีกเล่มที่เธอจดรายชื่อแยกไว้และยื่นให้พี่เขาดู เขาเหลือบตามองแค่แป๊บเดียว ไม่รู้ว่าเห็นหรือไม่เห็น เธอก็พยายามยื่นเข้าไปใกล้ ๆ "พี่ก็ดูให้ปิงปิงหน่อย... ปิงปิงจะได้เลิกก่อกวนพี่" เล่อเล่อรีบช่วยทันที ที่บอกเพราะกลัวพี่เขารำคาญแล้วจับพวกเธอโยนออกไปจะทำยังไง "ใช่ ๆ ดูหน่อย... นะนะ" ปิงปิงพยายามยิ้มให้น่ารักที่สุดแล้วส่งตาวิ้งๆ ให้ด้วย เผื่อเขาจะนึกเอ็นดูเธอขึ้นมาบ้าง "พี่เธอน่าจะรู้จักดี" จุนหานตอบกลับเสียงเรียบ "ใครบ้าง บอกได้ไหมแล้ว แต่ละคนเป็นยังไงบอกหน่อย" ปิงปิงรัวคำถามทันที ในเมื่อรู้จักแล้วก็ต้องพอรู้บ้างล่ะ "ไปถามพี่เธอโน่น กลับไปได้แล้ว" "แลกกัน... พี่ให้ข้อมูล ปิงปิงจะยอมทำตามคำสั่งพี่... ตกลงไหม" เธอรีบยื่นข้อเสนอทันที อย่างน้อยพี่จุนหานก็เป็นคนกว้างขวางในโรงเรียน และจากที่ใช้เมื่อซ้ายแตะดูเหตุการณ์ จริง ๆ เขาก็ไม่ได้เลวกับทุกคน เลวแค่กับบางคนเท่านั้น หวังว่าหนึ่งในนั้นที่เขาทำเลวใส่จะไม่ใช่ปิงปิงคนนี้นะ! โป๊ก! เล่อเล่อผู้ยืนฟังยัยเพื่อนที่คิดอะไรโง่ ๆ เลยอดเตือนสติสักทีไม่ได้ "ยัยโง่! ปิงปิง ถ้าเขาสั่งเธอทำเรื่องไม่ดีล่ะ" เล่อเล่อรีบเข้าไปกระซิบถาม "ก็ไม่ทำไง... " ปิงปิงยักไหล่ตอบอย่างไม่สนใจว่าคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ จะได้ยิน "ได้! พรุ่งนี้ค่อยมาเอา กลับไปได้แล้ว" จุนหานดึงสมุดโน้ตของเด็กอ้วนมาเก็บไว้แล้วรีบไล่กลับบ้านทันที "ตกลง! ขอบคุณพี่มาก พรุ่งนี้เจอกัน! " ปิงปิงรับปากทันที หวังว่ามือซ้ายของเธอจะไม่ทำให้เธอผิดหวังนะ สองสาวรีบเดินกลับบ้านทันที ถ้าได้ข้อมูลจากพี่จุนหาน แสดงว่าวันนี้วันเดียว เธอจะได้ข้อมูลของคนที่มีรายชื่อในหนังสือเล่มนั้นเกือบครบ แต่ที่น่าเสียดายคือ เธอได้อ่านแค่เล่มแรก "ยังดีที่เธอแยกสมุดโน้ต... ไม่อย่างนั้น ถ้าพี่จุนหานเห็นชื่อตัวเองขึ้นมา ฉันไม่อยากจะคิด" เล่อเล่อพูดและยังทำท่าขนลุกขนพอง "นี่ใคร! ปิงปิงเชียวนะ" ปิงปิงเชิดหน้ายืดอกแล้วเอานิ้วโป้งชี้เข้าหาตัวเองเพื่อให้เพื่อนรู้ว่าเธอสุดยอดมาก! "ไม่ใช่ว่าข้อแลกเปลี่ยนคือให้เธอเป็นทาสเขาล่ะ" เล่อเล่อยังห่วงเรื่องนี้อยู่ ถ้ายัยบ๊องนี่บ้าขึ้นมามันจะยุ่ง "ก็ไม่เอาและไม่ทำ" ปิงปิงยังคงตอบตามปกติ "ยัยบ้า! ไม่ทำเดี๋ยวก็โดนลากไปกระทืบหรอก แล้วไม่อยากได้ข้อมูลหรือไง ฮะ! " เล่อเล่อพูดเสียงดังจนคนเดินผ่านไปมาหันมามองสองสาวที่เหมือนกำลังจะตีกันเอง "เอา! ก็หาจากที่อื่นไง... ที่ไหนทำให้เดือดร้อนจะไปเอาทำไม ถ้าเขาสั่งให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ ฉันก็ไม่เอาข้อมูลจากเขา ไม่จำเป็นที่ฉันต้องทำตามที่เขาบอก ข้อแลกเปลี่ยนถือว่าล้มเลิก" "เออ... ก็จริง นึกว่าหัวกระแทกแล้วจะโง่" เล่อเล่อสบายใจขึ้นมาหน่อย ถึงจะกลัวพี่จุนหาน แต่อีกไม่นานพวกพี่ก็เรียนจบแล้ว เขาคงไม่มารังควานเด็กแบบพวกเธอหรอก ปิงปิงเดินคิดไปเรื่อย ๆ ก็แอบมองเพื่อนสนิทไปด้วย ใครจะโง่หาข้อมูลจากทางเดียว ต้องหาหลาย ๆ ทาง ถึงมันจะเหนื่อยก็ยังดีกว่าอยู่เฉย ๆ รอความตาย พอถึงหน้าบ้านก็เจอกับพี่สาวที่กำลังจะเดินออกไปข้างนอก ปิงปิงรีบหลบทันที เพราะเวลานี้พี่สาวเธอจะต้องช่วยแม่ทำกับข้าว เธอเลยต้องแอบตามไปดู ตอนนี้ใครทำอะไรแปลก ๆ หรือทำตัวผิดปกติ เธอก็สงสัยหมดแหละ ยิ่งเกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว เธอยิ่งต้องรู้! .................................................... ฉายาใหม่ ปิงปิงร้อยอาชีพ ยังไม่ถึง 10 ตอน ปิงปิงทำไปหลายอย่างเลย....บทที่ 10 แมว... ปิงปิงปิงปิงคิดว่าวันนี้มันเป็นวันอะไร ทำไมมีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอมากมาย เธอเดินตามพี่สาวไปเรื่อย ๆ จนเห็นพี่สาวของเธอเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก ๆ เธอจึงหยุด รอให้เวลาผ่านไปสักพักถึงจะเดินตามเข้าไป…"แหนะ... มีเรื่องสนุกทำไมไม่เรียก" เล่อเล่อเข้ามากระซิบใกล้ ๆ"เล่อเล่อ บ้านเธออยู่โน่น มาทำอะไรตรงนี้" ปิงปิงตอบกลับทันที ถ้ามาจากโรงเรียน บ้านเล่อเล่อถึงก่อนบ้านเธอ เมื่อกี้เล่อเล่อเข้าบ้านไปแล้ว ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่อีก"ลืมสมุดการบ้านไง ต้องเอาไปลอก จะให้ไปลอกที่โรงเรียนหรือไง... ถามโง่ ๆ " เล่อเล่อรีบบอกทันที เธอรู้ว่าปิงปิงทำการบ้านเสร็จก่อนเลิกเรียนตลอด เอามาลอกที่บ้านปลอดภัยที่สุด!พอรู้ว่าปิงปิงกำลังแอบตามดูพี่สาว เล่อเล่อก็ขอตามไปด้วย ทั้งสองจึงแอบอยู่ฝั่งตรงข้ามของอีกซอย ตอนนี้พวกเธอมองเห็นพี่อิงอิงยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าใคร ด้วยระยะที่ไกลจึงทำให้ไม่สามารถได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน พยายามมองดูว่าผู้ชายหน้าตาเป็นยังไงก็มองไม่เห็น"ปิงปิง... เราออกไปก่อนดีไหม ตรงนี้เสี่ยงเกินไป" เล่อเล่อกระซิบบอก"ดีเหมือนกัน" ปิงปิงคิดว่าถึงแอบดูหรือแอบฟังก็ไม่ได้ยินอยู่ดีทั้
บทที่ 11หลังจากได้ข้อสรุปแล้วว่าครอบครัวเราจะต้องไปหาห้องเช่าหรือบ้านเช่าอยู่ก่อน ถึงย่าจะยอมให้แยกบ้านแต่ก็ไม่ได้ให้เงิน ถึงยังไงก็ต้องย้ายออกให้เร็วพร้อมหนังสือแยกบ้าน ก่อนที่ตาแก่โรงไม้จะมาคุยกับย่า พรุ่งนี้พ่อจะต้องหาบ้านเช่าและอาจต้องหางานใหม่สำรองไว้ด้วย ส่วนหน้าที่ของเธอในคืนนี้คือ ต้องออกไปทำงานพิเศษช่วงที่คนหลับกันหมดหลังจากทุกคนเข้าห้องนอนกันหมดแล้ว ปิงปิงก็หาข้ออ้างไปเข้าห้องน้ำ เพราะเธอปวดหนักมากถึงมากที่สุด อาจต้องเข้าห้องน้ำนาน ๆ ถึงมันจะฟังไม่ขึ้นแต่เพราะทุกคนชินกับการพูดเกินจริงของเธออยู่แล้วก็เลยไม่สนใจ อีกอย่าง เธออยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนแน่ ๆ"ทำไมคนพวกนี้ถึงซ่อนเงินไกลตัว แทนที่จะเก็บไว้ใกล้ตัว" เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ถ้าเป็นเธอจะเก็บไว้ใกล้ตัวให้มากที่สุดปิงปิงเดินไปดูตามที่เห็นภาพ ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้ ใต้ตู้ หลังภาพวาด สารพัดที่ซ่อน บางที่ก็ได้มาไม่กี่หยวน แต่ก็ต้องเอาไว้ก่อน บางที่ต้องมุดเข้าใต้โต๊ะแคบ ๆ ก็ต้องทำ ตอนนี้หัวเธอคงมีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด ตรงไหนที่ต้องมุดก็พอไหว แต่บางที่ต้องปีน อย่างหลังตู้สูงต้องหาเก้าอี้มาเป็นตัวช่วย"อื้อ... อย่า เดี๋ยวมีคนมาเห็
บทที่ 12ทั้งสองยืนดูอยู่ห่าง ๆ เพราะยังไม่แน่ใจว่าคนกลุ่มนั้นจะเข้าไปหาพี่สาวของเธอหรือเปล่า ปิงปิงจ้องตาไม่กะพริบ และในช่วงจังหวะนั้น สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับบางอย่าง "คิดว่าเราไหวไหม" เล่อเล่อไม่คิดหนี แต่ก็ไม่แน่ใจว่าสู้ไหวไหม"ไม่ไหว... ดูคนก่อน ถ้ามีเรื่องจริง ๆ จะเอาอะไรไปสู้ และมองดูรอบ ๆ คนดูต้นทางเว้นระยะขนาดนั้น มีคนเดียวที่จะช่วยเราได้ในตอนนี้ ไปตามพี่จุนหานมาให้เร็วที่สุด ฉันจะถ่วงเวลาเอง" เขาคนเดียวที่น่าจะช่วยเธอได้ในตอนนี้"อือ... ฉันจะรีบให้สุดชีวิต" พูดจบ เล่อเล่อก็รีบวิ่งออกไปทันที ใจก็ภาวนาให้กลุ่มพี่จุนหานอยู่ที่เดียวกับที่เธอเจอเมื่อวานเมื่อรู้ว่าคนกลุ่มนั้นเดินเข้าไปหาพี่สาวของเธอจริง ๆ แม้จะยังไม่ทำอะไรแต่มันก็คิดดีไม่ได้เลย ปิงปิงเดินยิ้มกว้างเข้าไปหาด้วยท่าทางสบายอารมณ์"พี่อิงอิง! " เธอตะโกนดังลั่น พร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้พี่สาวทุกคนที่ได้ยินเสียงเธอต่างหันมามองเป็นตาเดียว แต่ปิงปิงไม่ได้สนใจใคร เธอชำเลืองมองไปที่มุมหนึ่งของตึก แล้วก็ละสายตากลับมามองพี่สาวกับผู้ชายที่ยืนอยู่ด้วยกัน"ปิงปิงมีเรื่องจะให้พี่ช่วย... ไปด้วยกันหน่อยนะคะ" ปิงปิงดึงแขนพี่สาวให้รีบ
บทที่ 13หลังจากที่พี่จุนหานรับปากว่าจะช่วยแล้ว จึงไล่เธอสองคนกลับตึกต้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นพวกเขาจะจัดการเอง แล้วยังขู่เธอว่าถ้าก่อเรื่องอีก เขาฆ่าเธอแน่ ตอนนี้เธอเลยต้องกลับมานั่งเรียนในสภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพื่อน ๆ ในห้องต่างก็ว่าพวกเธอแอบปีนกำแพงไปกินซาลาเปาร้านดังมาแน่ ๆ เพราะสภาพเธอสองคนเหมือนตอนที่แอบปีนกำแพงหรือต้นไม้ออกไปนอกโรงเรียน ทุกคนไม่ค่อยตกใจ เพราะสภาพนี้คือสภาพปกติของเธอสองคน เธออยากจะบอกเพื่อนร่วมห้องเหลือเกิน ถ้าออกนอกโรงเรียนตอนนี้ พวกเธอไม่มีสภาพแบบนี้แล้ว เพราะเธอมีช่องทางลับ แต่ต้องเก็บเงียบไว้หลังเลิกเรียน พี่ชายกับพี่สาวมารอรับเธอกับเล่อเล่อเพื่อที่จะได้กลับบ้านพร้อมกัน โดยเดินไปอีกทาง ไม่ได้ตรงกลับบ้าน เพราะพี่ทั้งสองคนรู้ดีว่าควรบอกน้องในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน น้องสาวจะได้สบายใจ"แวะซื้อของกินก่อนค่อยไปนั่งริมน้ำ" พี่ชายเธอพูดจบแล้วลากเล่อเล่อให้ตามไปซื้อของด้วยกันทันทีตอนนี้เลยเหลือแค่เธอกับพี่สาวที่กำลังเดินนั่งที่ริมน้ำ พออยู่สองคน เธอก็มองหน้าพี่สาวเพื่อเป็นสัญญาณว่าเธอรอฟังอยู่นะ พูดมาได้เลย"พี่คิดว่ามันจะไม่มีปัญหา เพราะพี่ก็ทำงานนี
บทที่ 14ทั้งสามคนที่มาใหม่ตกใจที่เห็นปิงปิงถือเงินจำนวนมากยื่นออกไป ส่วนแม่เอามือปิดปากท่าทางตกใจ ส่วนปิงปิงนั้นตกใจมากกว่า ไม่คิดว่าพ่อกับพี่จะกลับมาเร็วขนาดนี้ คิดจะให้แม่ช่วยพูด กลายเป็นว่ามาเห็นตอนที่เธอกำลังยื่นเงินให้แม่พอดี...หลิวชวนตั้งสติได้เป็นคนแรก เขารีบปิดประตูห้องทันทีพร้อมกับหันไปมองหน้าภรรยา เหมือนกับกำลังกังวลกับเงินจำนวนนี้"ปิงปิง เงินใคร" หลิวชวนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทุกคนรับรู้ได้ทันทีเพราะปกติพ่อจะเรียกปิงปิงว่าตัวแสบมากกว่าเรียกชื่อ นอกจากเวลาที่ต้องคุยจริงจังเท่านั้นที่จะเรียกชื่อนี้"เงินที่ปิงปิงจะให้พ่อกับแม่ค่ะ... เงินนี้ปิงปิงได้มาเพราะ... " ปิงปิง อ้ำอึ้งเพราะเหมือนทุกคนจ้องจับผิดเธอ มันเลยทำให้เธอประหม่าที่จะพูดออกไป"ปิงปิงเห็นป้าใหญ่ลับ ๆ ล่อ ๆ ที่สวนหลังบ้านบ่อย ๆ ... พอไม่มีใครอยู่ ปิงปิงเลยไปดูตรงนั้นก็เจอเข้ากับเงินจำนวนนี้ค่ะ"ปิงปิงตัดสินใจบอกไปแบบนั้น ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะเธอยังไม่แน่ใจว่าความสามารถพิเศษที่เธอมีมันใช้ได้ตลอดไหม เพราะบางทีก็มองเห็น บางทีก็มองไม่เห็น ถ้าบอกไปแล้วมันไม่เป็นแบบที่พูดล่ะ... เธอเลยคิดว่าบอกแบบนี้แหละดีที่สุดแล้
บทที่ 15เช้านี้ปิงปิงตื่นมาด้วยอาการเหมือนคนนอนไม่พอ นั่งกินข้าวไปก็อ้าปากหาวไปด้วย ตอนนี้เธออยากกินน้ำคาเฟยที่คนโตชอบกินเพื่อไม่ให้ง่วงนอน แต่พ่อของเธอเคยบอกว่าเด็กกินไม่ดี เธอเลยไม่เคยได้ลิ้มลองคาเฟยสักที...สภาพเดินไปเรียนก็เหมือนศพเดินได้จนพี่สาวต้องคอยจูงมือไป เธอมีหน้าที่แค่หลับตาแล้วเดินตาม ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเธอหลับฝัน แต่ทำไมพอตื่นขึ้นมามันเหมือนคนไม่ได้นอนเลยแม้แต่นิดเดียว "ปิงปิง พี่ว่าเธอไม่น่าจะไหว... เมื่อคืนนอนดึกใช่ไหม! " อิงอิงเห็นสภาพน้องสาวแล้วว่าไม่ไหว เมื่อคืนก็เข้านอนพร้อมกัน แต่ทำไมน้องสาวถึงมีสภาพแบบนี้"เรานอนพร้อมกันนะพี่อิงอิง... แต่ทำไมมันง่วงแบบนี้" ปิงปิงก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"เด็กอ้วน... " เสียงดังมาจากทางด้านหลังปิงปิงไม่สนใจเสียงนั้น ตอนนี้เธอจะหลับให้ได้เลย หรือว่าเธอหลุดเข้าไปในห้องหนังสือนั่นทั้งตัวจริง ๆ ไม่ใช่แค่หลับฝันไปอย่างที่เธอเข้าใจ"ลุกขึ้น ปิงปิง! " เฉินเฉินมาช่วยลากน้องสาวให้ยืนขึ้นจากการนั่งยองๆ หลับตาอยู่บนถนน"เกิดอะไรขึ้น" คนมาใหม่ถามขึ้นทันทีที่เห็น"ง่วงจะหลับ" เฉินเฉินเป็นคนตอบคำถามนี้"อิงอิง... กินนี่ก่อน" เสียงผู้ชายอีกคนที่ฟัง
บทที่ 16หลังจากที่ทั้งคู่กลับมาห้องเรียนก็ถูกลงโทษตามระเบียบ แต่ครั้งนี้ครูตีพวกเธอทั้งสองคนจนน่องขาว ๆ กลายเป็นรอยแดงจากการถูกไม้เรียวฟาด หลังจากถูกทำโทษแล้ว ทั้งสองต้องรีบทำงานเพื่อที่จะได้ส่งให้ทันเวลา สองสาวหัวชนกัน ช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งจนกระทั่ง..."ปิงปิง... มีรุ่นพี่มาหา" เพื่อนคนหนึ่งตะโกนบอกเธอแล้วรีบวิ่งหนีออกจากห้องไปทันที"เธอไปก่อเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า" เล่อเล่อรีบถามเพื่อนทันทีพร้อมกับชะเง้อมองไปทางระเบียงหน้าต่างเพื่อเตรียมพร้อม"ไม่... เป็นเธอเองหรือเปล่า" ปิงปิงรีบปฏิเสธทันที ไม่รู้ว่าเธอก่อเรื่องหรือเปล่า แต่บอกปัดไปก่อนดีที่สุด"นั่นสิ... เราก่อเรื่องอะไรไหม" เล่อเล่อเกาหัวแกรก ๆ พร้อมเดินไปที่ระเบียง"เดี๋ยวฉันไปดูเอง... ถ้าสถานการณ์ไม่ดีเตรียมโดดหนีได้เลย" ปิงปิงบอกเพื่อนทันที ชั้นเรียนของเธออยู่แค่ชั้นสองโดดได้อยู่แล้ว สูงกว่ากำแพงนิดเดียวเอง"บ้าหรือไง! ไปด้วยกันนั่นแหละ ท่าไม่ดีก็แค่วิ่ง" เล่อเล่อเอาสมุดเคาะหัวเพื่อนทันทีทั้งสองยังไม่ทันได้ออกไปนอกห้องเรียน... ก็มีคนเดินเข้ามาหาเธอทั้งสองคนเสียก่อน พอรู้ว่าเป็นใครมาหาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะไม่ต้องอ
บทที่ 17ตอนนี้ที่บ้านเธอกำลังต้อนรับแขกที่ไม่น่าต้อนรับ เพราะคนที่มาคือเถ้าแก่โรงไม้ เธอนึกว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเพราะเธอถามพ่อกับแม่แล้ว ทั้งสองตอบว่าได้ปฏิเสธเถ้าแก่โรงไม้ไปแล้ว และบอกกับคนที่บ้านแล้วว่าไม่ยอมให้พี่สาวเธอแต่งกับเถ้าแก่โรงไม้เด็ดขาด ปิงปิงมองไปที่พี่สาวที่ตอนนี้กำลังยืนหน้าซีดและพี่ชายที่ดูยังไงก็รู้ว่ากำลังโมโหกับเรื่องนี้ "อิงอิง... อยู่ก่อน ส่วนคนอื่นออกไปได้แล้ว" ย่าหลิ่งเป็นคนสั่งปิงปิงมองหาพ่อกับแม่ของเธอ ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ไหนจึงได้แต่มองหน้าพี่ชายที่ไม่ยอมขยับไปไหนพร้อมกับเอาตัวมายืนบังพี่สาวที่เหมือนกำลังจะร้องไห้ ปิงปิงภาวนาให้ความสามารถของเธอใช้ได้ในครั้งนี้ ปิงปิงเอามือไปแตะลุงใหญ่ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ และได้เห็นเหตุการณ์ที่ลุงใหญ่บอกอะไรบางอย่างกับพ่อแม่ของเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะออกจากบ้านไป ปิงปิงมองหน้าลุงใหญ่ทันที ไม่ใช่ว่าเขาหลอกให้พ่อแม่เธอออกไปข้างนอก แล้วให้ผู้ใหญ่ทางนี้ตกลงกันเองโดยที่ไม่รอพ่อแม่ของเธอ แล้วเอาปู่ย่ามาอ้างหรอกนะ... พอคิดได้ดังนั้น ปิงปิงก็วิ่งออกไปข้างนอกทันทีปิงปิงวิ่งไปตามทางที่เธอเห็นว่าพ่อแม่เดินไป สายตาก็สอดส่องมองหาพ่อกับแม่
ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า
บทที่ 46ปิงปิงเตรียมไขกุญแจเข้าห้องอย่าทุลักทุเล... แต่ที่น่าตกใจคือประตูเปิดออกเอง ทั้งที่เธอยังไม่ได้เสียบกุญแจเลยด้วยซ้ำ ปิงปิงเลยจุดคบเพลิงตามที่ปู่ทวดบอกแล้วถือเดินตามทางเดินเข้าไป ภายในห้องกว้างมีกลิ่นดอกไม้หอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ปิงปิงเดินไปจนถึงที่จุดคบเพลิงที่ติดอยู่กับผนัง เธอจึงจุดเพิ่มเพื่อที่จะได้มองเห็นรอบ ๆ แสงสว่างค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละนิด พอทั้งห้องเริ่มสว่างก็เกิดเสียงดัง ปัง!! พร้อมกับประตูทางเข้าปิดสนิท เหมือนว่าตอนนี้เธอถูกขังอยู่ในห้องนี้แล้ว...ชั่วขณะที่ปิงปิงสำรวจ ห้องนี้ที่มีขนาดกว้างพอสมควร แต่พอสำรวจจนทั่วก็ทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ เพราะว่าห้องนี้เหมือนกับลานกว้างในฝันของเธอนั่นเอง ลานกว้างที่มีแท่นบูชา... ถ้าให้เดาคงเป็นสถานที่ที่เทพธิดาอักษรจบชีวิตลงแน่นอน ปิงปิงเดินเข้าไปที่แท่นบูชาที่มีดอกเหมยกุยสีแดงขึ้นอยู่เต็มและกำลังเบ่งบานชูช่อสวยงาม เธอค่อย ๆ เอามือลูบไล้ตามพื้นของแท่น สัมผัสดูเรื่อย ๆ สายตาก็สำรวจสิ่งของที่วางบนแท่นบูชา มีตะเกียงแก้ววางอยู่... ถัดมาเป็นหนังสือเล่มสีแดง... สิ่งสุดท้ายคือกริชโบราณแบบที่แทงเข้าไปในหัวใจของธิดาอักษร แบบเดียวกันกับท
บทที่ 45หลังจากได้รับคำตอบรับจากผู้อาวุโสตระกูลจ้าวแล้ว จ้าวหลิวหยางเลยพาทุกคนมาที่ตระกูลหลัก ปิงปิงเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับทุกคน ส่วนคนติดตามหรือคนสนิทต้องรออยู่นอกบ้านเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ตอนแรกเธอไม่ได้มีอาการกลัวแต่อย่างใด แต่พอมาอยู่ท่ามกลางสายตาของคนตระกูลจ้าวหลายสิบคน จึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งอยู่บ้างปิงปิงทำความเคารพผู้อาวุโสทุกท่านตามที่พ่อจ้าวแนะนำจนครบทุกคน ตอนนี้มีคนตระกูลจ้าวหลายคนที่สนใจรอดูผลทดสอบว่าจะออกมาเป็นแบบไหนยังไงบ้าง... ปู่ทวดเรียกเธอให้เข้าไปยืนบริเวณตรงกลางซึ่งมีผู้อาวุโสนั่งล้อมรอบเป็นวงกลม"จ้าวปิงปิง... มันคือพิธีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไรเลย""ปู่ทวดคะ... ให้ทุกคนอยู่ด้วยได้ไหมคะ" ปิงปิงอยากให้พ่อ พี่ชายหาน และเล่อเล่ออยู่ด้วย มันจะทำให้เธออุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว"ตอนนี้อยู่ได้... แต่ถ้าผ่านการทดสอบ ต้องเข้าไปในห้องลับนั้นเพียงคนเดียว... มันคือความเชื่อและคำทำนายที่ส่งต่อให้แก่ผู้นำตระกูล""ปู่ทวดเล่าให้ฟังได้ไหมคะ""เดี๋ยวก็รู้... ลูกหลานตระกูลจ้าวล้วนเชื่อและทำตามมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้""ปู่ขอถามปิงปิงหน่อยได
บทที่ 44ปิงปิงได้อ่านหนังสือเล่มแดงของพี่ชายหานแล้ว เธอคิดว่ามันต้องมีหนังสืออีกเล่มหรือสองเล่มแน่ ๆ เพราะมันเหมือนยังไม่จบ ปิงปิงได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอให้พี่ชายหานได้ฟังทั้งหมด ไม่มีปิดบังสักเรื่อง ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่พี่ชายหานก็เชื่อเธอ เพราะเขาก็ได้เข้าไปที่ห้องหนังสือเช่นเดียวกันกับเธอ...หนังสือเล่มนั้นมันเหมือนเป็นเรื่องราวบันทึกคล้าย ๆ เล่มของเธอ หนังสือบอกไว้ว่า... ก่อนที่ธิดาอักษรจะยอมเป็นเครื่องสังเวยให้จอมมาร เธอได้แบ่งดวงจิตออกเป็นร้อย ๆ ดวงเพื่อส่งไปจุติตามโลกหนังสือต่าง ๆ ที่ธิดาอักษรสร้างขึ้น หนังสือต่าง ๆ ที่ว่านี้ก็เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง มิติหนึ่งที่ต่างเวลาและต่างสถานที่... เพื่อที่จะไม่ได้ดวงจิตถูกทำลายไปทั้งหมด... เหลือไว้เพียงดวงจิตเดียวในโลกนี้ซึ่งต้องใช้สังเวยให้กับจอมมาร... แต่เรื่องที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ เหมือนธิดาอักษรจะมีคนคอยช่วย นั่นคือ ธิดาบุปผา ที่มาช่วยก่อนที่ดวงจิตจะแตกสลายจากการสละญาณบารมีทั้งหมด โดยได้เก็บเศษเสี้ยวดวงจิตใส่ตะเกียงแก้วและส่งให้กับตระกูลที่เทพมังกรจะถือกำเนิด พร้อมกับบอกว่า... ธิดาอักษรจะหวนคืน..."คิดออก