Share

บทที่ 2 เช้าอันวุ่นวาย 100%

“ของแพงขนาดนั้นมันต้องทนกว่าของราคาถูก ๆ สิ จะพังง่าย ๆ ได้ยังไงใช่มั้ย ใจเย็น ๆ น่า ไม่ต้องร้อง เดี๋ยวผมไปเอามาให้ดู” เขาว่าแล้วก็เดินไปหยิบ

“เนี่ย มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย ดูสิ” เขาว่าพลางยื่นกระเป๋าให้

นภาธรยื่นมือสั่นเทาไปรับกระเป๋าแสนรัก เธอสัมผัสมันอย่างแผ่วเบาราวกับว่าหากรุนแรงกว่านี้มันจะบุบสลายไปกับมือ

“ผมก็แค่เอาน้ำฉีด ๆ ตรงที่เปื้อนเท่านั้นเอง แล้วผมก็ไม่มีวิธีไหนที่จะทำความสะอาดกระเป๋าเปื้อนอ้วกให้ดีกว่านี้แล้วด้วย นอกจากเอาน้ำล้าง มันเปียกผมก็เอามาตาก แล้วมันจะอะไรนักหนา” ว่าเสียงหงุดหงิด อีกคนมีท่าทีอ่อนลง เอ่ยเบา ๆ ว่า

“นายก็ไม่ต้องเอามาตากแดดก็ได้นี่ มันบอบบางมาก เดี๋ยวสีซีด เอาวางตากลมก็ได้ เดี๋ยวก็แห้งเอง นี่ดีนะ ฮือ ๆ ที่น้องกระเป๋าไม่เป็นอะไรมาก”

พูดเสียงอุบอิบ ก่อนจะเอากระเป๋ามากอดแนบอกอย่างถนอม ปรัชญามองแล้วได้แต่ส่ายหน้าไปมาเอ่ยว่า

“อือ ไม่เป็นอะไรมากก็ดี ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว หน้าตาดูไม่ได้เลยอย่างกับหมีแพนด้า ขี้มูกขี้ตาเกรอะกรัง กลิ่นละมุดหึ่งไปทั้งตัว ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ขี้เมาหยำเป ใครได้ไปเป็นเมียเนี่ยซวยตายเลย ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนนั่นแหละ เดี๋ยวให้ซ้อเอาเสื้อผ้ามาให้” ว่าแล้วก็ก้าวฉับ ๆ จากไป ปล่อยคนขี้มูกขี้ตาเกรอะกรังนั่งกอดกระเป๋าอยู่ที่ระเบียง

นภาธรมองตามร่างสูงของผู้ชายคนเดียวที่ชอบด่าว่าเธอแบบไม่มีกลัวเกรงอย่างขุ่นเคืองใจ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้ชายคนไหน พูดจาแย่แบบนี้กับเธอมาก่อนเลย แต่ตอนนี้เธอหมดแรงเลยโต้เถียงอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้เขาด่าว่าแล้วเดินจากไป

ครู่หนึ่งเธอก็เห็นเพียงฤดีเดินเข้ามาหาพร้อมกับถุงกระดาษในมือ ก่อนจะเข้ามายืนจ้องหน้าเธอเขม็ง

“แกจ้องหน้าฉันทำไมอ่ะฤดี” เงยหน้าขึ้นไปถามทำตาปริบ ๆ

“ก็ดูสภาพแกตอนนี้สิ ทำไมเป็นแบบนี้ ขอบตาดำปี๋เลย แกร้องไห้ใช่ไหมเนี่ย แล้วเนี่ย ทำไมมานั่งตรงนี้ ลุกขึ้นมาแล้วไปอาบน้ำก่อน เห็นคุณเป้บอกว่าให้อาบในห้องน้ำที่นี่ก็ได้ ฉันเลยเอาเสื้อผ้ามาให้นี่แหละ”

“อือ ฉันร้องไห้สิ ก็ไอ้หน้าวอกนั่นมันทำให้ฉันตกใจนี่ ฮือ ๆ ฉันก็นึกว่าโดนข่มขืนแล้วโดนขโมยกระเป๋าไปขาย แต่ไม่ใช่ นายนั่นเอากระเป๋าฉันไปล้างน้ำอ่ะแก แถมยังเอาไปตากแดดเปรี้ยง ๆ อีก ฉันก็ร้องไห้อีกสิ นึกว่ากระเป๋าจะพังไปแล้ว แถมยังด่าเอา ๆ ฉันพูดอะไรนิดเดียวมันก็ด่า ๆ จนฉันเถียงไม่ทันเลย” นภาธรตอบเพื่อนเสียงสะอึกสะอื้น

“เฮ้อ แกนี่ก็นะ เมื่อไหร่จะเลิกจองเวรกับเขาสักที แล้วเรียกเขาว่าไอ้หน้าวอกเนี่ยนะ ฟังแล้วไม่โอเคเลย แกก็พูดกับเขาดี ๆ หน่อยสิ”

“แล้วจะให้ฉันเรียกว่าอะไรล่ะ หน้าขาวปากแดงอย่างกับตูดลิงงั้นน่ะ ฉันเรียกไอ้หน้าวอกก็ดีแค่ไหนแล้ว เป็นผู้ชายแบบไหนด่าผู้หญิงไฟแลบได้ขนาดนั้น แล้วแกดูสิ เขาเป็นสุภาพบุรุษขนาดไหนให้ฉันนอนบนพื้น ตัวเองนอนบนเตียง ฉันเกิดมาไม่เคยเห็นพระเอกละครที่ไหนทำแบบนี้สักคน”

“แล้วแกทำตัวเหมือนนางเอกละครหรือไง เขาถึงจะได้เป็นสุภาพบุรุษเหมือนพระเอกละครน่ะ เมาแอ๋อ้วกแตกอ้วกแตนขนาดนี้ใครเขาจะให้นอนเตียงล่ะ เป็นฉันก็ปล่อยให้นอนข้างเตียงนั่นแหละ” เพียงฤดีว่า

“นี่ฤดี ฉันอุตส่าห์ช่วยแกตั้งหลายอย่าง แต่ทำไมแกไม่เข้าข้างฉัน”

“ไม่ใช่ไม่เข้าข้าง ก็แค่ฉันรักแก อยากให้แกทำตัวน่ารัก ๆ จะได้มีแต่คนรักไง ไปเถอะ เข้าไปอาบน้ำก่อน เอาเสื้อผ้านี่ไปเปลี่ยน ทุกอย่างใหม่เอี่ยมยังไม่เคยถูกใช้งานมาก่อนแน่นอน พี่ชายแกน่ะซื้อเสื้อผ้ามาให้ฉันเต็มไปหมดจนฉันใส่ไม่ทัน แกก็แบ่งไปใส่บ้างแล้วกัน” เพียงฤดีว่าแล้วยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ส่งให้

“แกนั่งรออยู่ที่นี่นะอย่าไปไหน” นภาธรรับถุงไปแล้วสั่งกำชับ

“อือ เข้าไปเถอะ ฉันไม่ไปไหนหรอก” เพียงฤดีว่าแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ในห้องโถงของกระท่อมขนาดไม่ใหญ่มากนัก เธอกวาดตามองภายในกระท่อมที่เป็นระเบียบเรียบร้อย แม้ว่าจะเป็นกระท่อมปีกไม้แต่ภายในก็ตกแต่งได้น่าอยู่ ไม่ได้มีของรุงรังแต่อย่างใด นภาธรเข้าไปอาบน้ำครู่หนึ่งก็ออกมาในชุดใหม่ เป็นชุดเดรสผ้าชีฟองลายดอกสีเขียวอ่อนยาวครึ่งน่อง ในมือถือถุงกระดาษเดินออกมา

“แล้วนี่บ้านนายนั่นอยู่ใกล้บ้านแกเหรอ ทำไมแป๊บเดียวแกก็มาถึงแล้วล่ะ” ถามอย่างสงสัย เพราะเธอเพิ่งตื่นก็ยังงง ๆ หลงทิศ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน

“อ้าว แกไม่รู้เหรอ ว่านี่เป็นกระท่อมที่คุณเป้เขาเช่าที่ดินแกสร้างน่ะ แล้วบ้านฉันก็อยู่ติดกับบ้านแก แล้วโน่นน่ะบ้านสวย ๆ ที่เพิ่งสร้างเสร็จนั่นน่ะที่พี่คีรินทำไว้ให้แก” เพียงฤดีบอกแล้วชี้ให้ดู นภาธรหันมองรอบ ๆ แล้วส่งเสียงร้องลั่น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status