Share

บทที่ 1 นางหงส์ 100%

ปรัชญามองรถของตัวเองที่นภดลขับออกไป ก่อนจะขึ้นรถของหญิงสาวคู่อริที่ไม่รู้ว่าเคยเป็นศัตรูกันตั้งแต่ชาติปางไหน ที่เจอกันทีไรก็ต้องเขม่นใส่กันทุกที แถมวันนี้ก็ไม่รู้เป็นดวงซวยอะไรของเขาที่ต้องมารับเธอกลับ

ชายหนุ่มขับรถมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของคีรินที่ใช้ชั้นล่างเป็นที่พักอาศัยของเจ้าของบ้านและใช้ชั้นบนเป็นออฟฟิศรับงานด้านออกแบบอาคารและระบบพลังงานทดแทน โดยมีบันไดวนซึ่งอยู่ด้านหน้าฝั่งซ้ายของตัวบ้านขึ้นไปยังออฟฟิศทางฝั่งปีกซ้ายของบ้าน ส่วนฝั่งปีกขวาชั้นบนเป็นส่วนห้องรับรองแขก ซึ่งเขาเคยใช้พื้นที่ตรงนั้นอาศัยก่อนที่จะไปสร้างกระท่อมหลังน้อยแยกไปอยู่ต่างหาก หลังจากที่เจ้าของบ้านแต่งงานไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

“คุณ ๆ ถึงบ้านแล้ว” เขาเขย่าร่างบางที่หลับคอพับคออ่อนอยู่ข้าง ๆ แต่สาวเจ้าเหมือนจะไม่รู้สึกตัว

“คุณ ๆ กุญแจบ้านล่ะ มีหรือเปล่า” เขาถาม เพราะคิดว่าเธอน่าจะมีกุญแจบ้านพี่ชายเก็บไว้บ้าง ถึงได้บอกให้เขาไปรับกลับ เพราะกุญแจที่เขาเคยใช้ก็คืนให้กับคีรินไปแล้ว มีเพียงกุญแจในส่วนของออฟฟิศเท่านั้นที่คีรินให้เขาเก็บไว้

“กุญแจอะรายยย ม่ายยยมี จะนอนนน” ทำเสียงหงุดหงิดพลางปัดมือเขาที่กำลังเขย่าแขนปลุกให้ตื่น

“บ้าจริง นี่ก็จะตีหนึ่งแล้ว ง่วงก็ง่วง พรุ่งนี้นัดลูกค้าเช้าด้วย จะให้นอนในออฟฟิศก็ไม่ได้ เกิดลูกค้าเข้ามาแล้วยังไม่ตื่นทำยังไงล่ะ” ชายหนุ่มลังเลก่อนจะหันไปยังบ้านหลังเล็กที่นภดลอาศัยอยู่ ก็เห็นว่าปิดบ้านเงียบไปแล้ว เพราะนภดลขับรถออกมาก่อน และน่าจะถึงก่อนเขาครู่หนึ่งแล้ว ส่วนเขาขับช้ากว่าเพราะการใช้รถของเธอทำให้เขาค่อนข้างระวังเป็นพิเศษ จะไปเรียกก็กลัวว่าหทัยรัตน์ผู้เป็นมารดาของนภดลจะตื่น จึงตัดสินใจโทร. หาพี่ชายของเธอ

“พี่คี น้องสาวพี่เมามาก ผมปลุกก็ไม่ตื่น กุญแจบ้านพี่คีผมก็ไม่มี ทำไงดี แม็กซ์ก็ปิดบ้านเข้านอนไปแล้ว ผมก็ไม่กล้าไปเรียกเนี่ย”

“นายก็เอาไปนอนที่กระท่อมนายก่อนก็แล้วกัน” ผู้เป็นพี่ชายของเธอตอบมาเสียงเรียบ ๆ เหมือนกับการให้พาน้องสาวเข้าห้องของเขาเป็นเรื่องธรรมดา

“เฮ้ย พี่คี บ้าไปแล้ว จะเอาไปนอนกระท่อมผมได้ยังไง”

“ไม่นอนบ้านนายจะทำยังไงล่ะ ดึกป่านนี้แล้วจะให้พาไปที่ไหนอีก นายก็ต้องพักผ่อน พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นมารับลูกค้าแต่เช้าอีก ฉันเชื่อใจนาย ฝากด้วยแล้วกัน เฮ้อ น้องภานี่ก็นะ ทำแต่เรื่องได้ตลอด” คีรินส่ายหน้าระอาก่อนจะวางสายลง

ด้วยเป็นน้องสาวคนเล็กที่พี่ชายสองคนคอยประคบประหงมมาตั้งแต่เด็กจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจ นึกจะทำอะไรก็ไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังเพราะคิดว่าแค่เอ่ยปากคำเดียวหรืออ้อน ๆ หน่อยพี่ชายก็ใจอ่อน แล้วเขากับพี่ชายคนโตก็ชอบใจอ่อนให้ทุกทีจนกลายเป็นความเคยชิน นภาธรก็เลยมีนิสัยเหมือนเด็กไม่รู้จักโตสักที

ปรัชญามองร่างสวยที่ไม่รู้สติอย่างอ่อนใจ เขาจะทำอย่างไรได้นอกจากจะขับรถกลับไปจอดที่หน้ากระท่อมปีกไม้ของตัวเอง

กระท่อมหนุ่มโสดที่เขาเช่าที่ดินของเธอปลูกสร้าง โดยทำสัญญาผ่านพี่ชายของเธอ ทั้งที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าของกระท่อมหลังนี้ ด้วยคีรินส่งสัญญาในนามของบริษัทไปให้เธอเซ็นที่กรุงเทพฯ เขามั่นใจว่าหากเธอรู้ว่าเขาเป็นผู้เช่า เขาจะไม่มีวันได้อยู่อย่างสุขสงบอีกแน่ ๆ

ชายหนุ่มเปิดประตูรถแล้วเดินไปไขกุญแจบ้าน ก่อนจะเดินกลับมาช้อนร่างสวยที่นอนกอดกระเป๋าสีชมพูแนบอกเข้าไปวางบนเตียงนอน แต่ก่อนที่เขาจะได้วางเธอลงบนที่นอน หญิงสาวก็ผงกหัวขึ้นแล้วทำท่าขย้อนเหมือนจะอาเจียน

“เฮ้ย คุณอย่าอ้วกนะ” เขารีบห้าม แต่คนเมาไม่ได้หยุดอย่างที่คิด อาเจียนใส่จนเต็มอกเสื้อของเขา ชายหนุ่มรีบวางเธอลงบนพื้น

“โอ๊ย ตายจริง อยู่มาได้ตั้งนาน มาอ้วกในห้องนอนเนี่ยนะ โห เปื้อนหมดเลย บ้าฉิบ ทำยังไงวะเนี่ย” เขาทำท่าละล้าละลัง มองแขนและเสื้อสีเข้มของตัวเอง ก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำแล้วถอดเสื้อออกเอาน้ำล้าง แล้วอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อย ก่อนจะมาจัดการคนที่นอนจมกองอาเจียนอยู่ข้างเตียง โดยเอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาจุ่มน้ำแล้วเช็ดหน้าเช็ดตาให้ เช็ดรอยเปื้อนบนเสื้อผ้า

“ดูซิเลอะกระเป๋าเต็มเลย” ว่าแล้วก็ดึงกระเป๋าที่เธอกอดไว้ออกมา เทของออกแล้วเอาไปล้างน้ำให้ด้วยความหวังดี เช็ดพื้นเรียบร้อย ก่อนจะเอาผ้านวมอีกผืนมาปูข้างเตียง เอาหมอนวาง แล้วยกตัวเธอให้นอนบนผ้านวม แล้วเอาอีกผืนมาห่มให้

“ให้นอนแบบนี้แล้วกัน เดี๋ยวเกิดอ้วกบนเตียงจะเป็นเรื่องใหญ่ แล้วพรุ่งนี้ตื่นมาจะเป็นยังไงวะเนี่ย” ว่าพลางยืนมองผลงานของตัวเองแล้วถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน

ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนบนเตียง หยุดคิดเรื่องทุกอย่าง ปล่อยให้เรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้กลายเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขในวันพรุ่งนี้ แล้วหลับลงในเวลาไม่นานนัก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status