นิญาดารวบช้อน แล้วรีบกลืนไอติมให้ละลายลงคอ แล้วกรอกตามด้วยน้ำเปล่า
“หนูขอตัว ไปดูความเรียบร้อยในห้องประชุมก่อนนะคะ”
หล่อนขออนุญาตพี่เกด ก่อนวิ่งตามอาจารย์ออกไป
ภีมมองตามหญิงสาวที่วิ่งออกไปแล้วหันมาสบตากับสาวใหญ่ยิ้ม ๆ อย่าง “รู้กัน”
แผนการขั้นต่อไปของนิญาดา คือ ต้องปรากฏตัวให้เป้าหมายรู้จัก ! นิญาดาแกล้งเดินเฉียดใกล้กลุ่มของอาจารย์เตชินด้วยใจระทึก
“เดี๋ยวสิ คุณนิ”
หนึ่งในแก๊งหนุ่ม ๆ อาจารย์วิศวกรรมศาสตร์ร้องเรียก
‘Yes!!! เป็นไปตามแผน!!’
นิญาดายิ้มน้อย ๆ อย่างลิงโลดในใจก่อนหันไปยังผู้เรียก พร้อมกับแววตาใสซื่อที่สุดเท่าที่เธอเคยกระทำมา
“คะ?”
“ทำไมถึงได้จัดงานอบรมนี้ขึ้นล่ะครับ?”
อาจารย์หนุ่มหนึ่งในกลุ่มนั้นถามขึ้น
“คือ อยากจะเติมไฟให้อาจารย์ค่ะ เชิญศาสตราจารย์เก่ง ๆ มาพูดให้ฟัง เผื่อว่าจะได้พลังใจดี ๆ กลับไปค่ะ”
แววตาผู้ตอบฉายแววมุ่งมั่น ย้ำว่าสิ่งที่เธอพูดและทำมาจากความตั้งใจจริง ๆ
“แล้ว ทำไมถึงได้เชิญพวกผมล่ะครับ?”
หล่อนเหลือบมองหัวหน้าภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ตามด้วยรองหัวหน้าภาควิชา ไล่ไปจนถึงอาจารย์ทุกคนของภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มารวมตัวอยู่ที่นี่เกินกว่าครึ่งของภาควิชา! เป็นภาพที่หล่อนอยากจะบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเสียจริง !
ภาพตรงหน้าทำให้หญิงสาวยิ้มน้อย ๆ เพราะความจริงที่ว่า “อาจารย์ทุกคนถูกเชิญมาอบรมท่ามกลางป่าเขาแห่งนี้ ก็เพราะอาจารย์เตชินคนเดียว! แต่นั่นเป็นความจริงที่เอ่ยไม่ได้ นิญาดาจึงเลี่ยงตอบว่า
“เพราะหนูเชื่อว่า อาจารย์ทุกท่านจะได้เป็นศาสตราจารย์ในอนาคตค่ะ”
ฮ่า ๆ
อาจารย์ทุกคนหลุดขำกร๊าก กับคำตอบที่มั่นใจสุด ๆ ของนิญาดา เล่นเอาสาวมั่นหน้าเล่อหลาไปชั่วขณะ
อาจารย์เตชินหัวเราะ หึ ๆ ในลำคอ แต่ยังรักษาท่าทีเฉยเมย ใบหน้าของคนขี้เก๊กเย็นชาเหมือนเคย
“น่าจะเชิญศาสตราจารย์ ไปพูดที่มหาวิทยาลัยด้วยนะ”
“ใช่ ให้ไปบรรยายให้ผู้บริหารฟังสักวัน เผื่อได้ไอเดียดี ๆ”
“เห็นด้วย ต้องบอกรองวิจัยฯ แล้วของบจัด”
ในขณะที่เหล่าอาจารย์กำลังสนทนากันอย่างออกรสชาติ
นิญาดาค่อย ๆ ชะลอฝีเท้าเพื่อให้อยู่ในระยะใกล้ ๆ เป้าหมาย ชายหนุ่มผู้เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นหัวหน้า
“ได้ยินมาว่า เขาจะเปลี่ยนรองวิจัยฯ คนใหม่”
เสียงทุ้มของเป้าหมายเอ่ยขึ้นทันทีที่นิญาดาเดินเคียงข้างในระยะใกล้
สาวสวยหันไปสบตาคมล้ำลึก พร้อมกับโปรยรอยยิ้มหวาน ๆ แล้วเอ่ยอย่างมั่นใจในข้อมูลที่ตนมีเต็มเปี่ยมว่า
“ใช่ค่ะ! ท่านรองวิจัยฯ คนเดิมจะเกษียณราชการกันยานี้”
คนขี้เก๊กยังคงนิ่งเฉย เฉยจนคนข้าง ๆ ที่เอาแต่เจื้อยแจ้วเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาฟังที่หล่อนพูดหรือไม่
แววตาซุกซนของหญิงสาว มองเรื่อยมาที่ริมฝีปากบางชมพูได้รูปตัดกับใบหน้าขาว ๆ เรื่อยมาจนถึงแผงอกกว้างที่หล่อนซบกอดเมื่อเช้า เมื่อหวนคิดถึงความใกล้ชิด เนื้อแนบเนื้อ ทำให้ใจมันเริ่มเต้นโครมคราม สมองเริ่มไม่ทำงาน !
อาการแปลก ๆ เริ่มครอบงำหญิงสาวทุกขณะจนทำให้คนที่เคยมั่นใจในตนเองอย่างนิญาดาต้องเฉมองไปข้างหน้า แล้วเอ่ยต่อว่า
“ตอนแรก ได้ยินว่า รองท่านเดิม ทาบทาม อาจารย์จากคณะวิทย์ฯ ขึ้นมาแทน แต่ปรากฏว่า คุณสมบัติยังไม่ผ่าน ก็เลยเป็นอันตกไปค่ะ”
“อืม รองวิจัยคนใหม่ อาจจะเป็นอาจารย์จากคณะวิศวะ ก็ได้นะ”
เสียงทุ้มกล่าวอย่างคนรู้มากกว่า ปากได้รูปยกขึ้นนิด ๆ ราวกับจะยิ้มเยาะ คนรู้จริงมักพูดน้อย คนรู้ไม่มากมักขยายความ เขาคือ คนจริง
“ใครคะ?”
“ไม่บอก ลองสืบดูสิ?”
อาจารย์หนุ่มยิ้มยั่วอย่างผู้เหนือกว่า แล้วเดินจากไป จะเป็นเพราะรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ หรือ เพราะคำพูดที่แสนกำกวมกันแน่นะ!!! ที่ทำให้หัวใจของหล่อนเต้นแรงขนาดนี้!!
นิญาดาสะบัดหัวเพื่อเรียกสติกลับมา
‘ไม่นะ!! เราจะต้องไม่หลงเสน่ห์ ตัวท็อปของวิศวะเด็ดขาด!!!’
การบรรยายในช่วงบ่าย ของ ศาสตราจารย์ดำรงค์ จบลงอย่างงดงาม ภีมสาวน้อยในร่างหนุ่ม ออกไอเดียจัดมื้อเย็นให้เป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำ
ระเบียงลานดอกลั่นทมบนยอดภูเขาสูงถูกเนรมิตให้เป็นโต๊ะดินเนอร์สุดแสนโรแมนติก ทุกโต๊ะประดับด้วยเชิงเทียนและดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนพร้อมกับเสียงเพลงคลอเบา ๆ
เมื่อตรวจตราความเรียบร้อยแล้ว นิญาดาฝากให้พี่เกดและน้องภีมคอยดูแลทีมวิทยากรและอาจารย์ไปก่อน ส่วนตัวเธอจะขอปลีกตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเหงื่อจากการวิ่งหน้าวิ่งหลังประสานงานนั้นท่วมตัว มันเริ่มจะส่งกลิ่นเหม็นเปรี้ยวแล้ว
ค่ำคืนนี้เป็นคืนเดือนแรมไร้หมอกเมฆ ดาวพร่างพรายพราวระยิบระยับทอแสงดาษนภา
ดาวใดฤา จักเปล่งประกาย สู้ผิวนวล
ดาวใดฤา จักงาม สู้อรชรยามเยื้องย่าง
ดาวใดฤา จักหวานหยด สู้เจ้ายามแย้มยิ้ม
ดาวใดฤา จักสะกดใจชาย ให้หลงใหลเมื่อชายตา
ร่างบางระหงในชุดเดรสแขนกุดสีขาว ด้านหลังเว้าลงเกือบถึงกลางหลังโชว์ผิวขาวเนียนละเอียด กระโปรงสั้นเหนือเข่าถูกทาบทับด้วยผ้าขาวโปร่งบางอวดเรียวขาคู่งามให้วาบหวามยามก้าวเดิน สายตาทุกคู่เผลอมองผู้มาใหม่อย่างลืมตัวโดยเฉพาะบรรดาหนุ่ม ๆ
“พี่สาว ทางนี้จ้า”
ร่างบอบบางของหนุ่มน้อยแต่ใจเป็นหญิงลุกขึ้นกวักมือเรียกหญิงสาว
นิญาดาโบกมือกลับเป็นเชิงรับรู้ ระหว่างทางหล่อนเอ่ยทักทายผู้เข้าร่วมอบรมเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งมาถึงโต๊ะที่น้องชายสุดสวยเตรียมไว้ให้เป็นพิเศษสำหรับหล่อนในคืนนี้
“ขออนุญาตนั่งด้วยคนนะคะ”
เสียงหวานหยดย้อยจากหญิงสาวผู้มาใหม่ เอ่ยขณะที่เลื่อนเก้าอี้ข้างอาจารย์หนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม
เขาเหลือบมองหญิงสาวเป็นจังหวะเดียวกับที่หล่อนเอียงตัวลงนั่ง สายตาคมเข้มแลสบอกเนียนกลมกลึงสองลูกรำไร มันเบียดอัดแน่นถูกห่อหุ้มด้วยผ้าลูกไม้สีขาว วางไว้ใต้เดรสขาวของร่างอรชรอย่างลงตัว
แม้เห็นเพียงรำไรแต่ก็ทำเอาเลือดบุรุษสูบฉีดขึ้นหน้าอย่างฉับพลัน สันชาตญาณดิบถูกกระตุ้นให้ตื่น จนเขาต้องรีบถอนสายตาเฉมองไปอีกทาง พลางยกแก้วเบียร์เย็นฉ่ำจรดริมฝีปากกรอกลงท้องเพื่อดับความร้อนรุ่ม
ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่อบุรุษเพศเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงเขาด้วย แม้ว่าจะอยู่ในวัยกลางคนและผ่านประสบการณ์มามากมาย แต่แค่ได้ใกล้ชิดผู้หญิงคนนี้เพียงไม่กี่นาที กลับทำให้เขาสั่นไหวไปทั้งสรรพางค์ ไม่ว่าเขาจะพยายามเฉมองไปทางใดก็ตาม แต่ทุกครั้งสายตาของเขาก็มักจะหยุดที่ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มสว่างไสวนั่นทุกครั้งไป
“โต๊ะนี้ คงเป็นโต๊ะที่โชคดีมากนะครับ ที่มีโอกาสได้นั่งทานข้าวกับสาวสวยที่สุดในค่ำคืนนี้”ดร. พงษ์ เลิศปัญญา เพื่อนสนิทของเตชิน เอ่ยทักขึ้นเป็นคนแรก เพราะมีเชื้อจีน ผิวพรรณจึงขาวเนียน บวกกับความมีอารมณ์ขันจึงทำให้ใบหน้าเด็กกว่าวัย แม้ว่าจะล่วงเข้าวัยสามสิบแปดปี“ขอบคุณค่ะอาจารย์พงษ์ ยินดีเช่นกันที่มีโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า”หล่อนยิ้มหวานให้หนุ่มใหญ่ซึ่งเป็นผู้บริหาร และยังไม่ลืมที่จะโปรยรอยยิ้มแสนหวานนั้นมายังอาจารย์เตชินซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ แต่เขากลับเฉย แววตาคมกริบนิ่งลึก ยากที่จะอ่านความรู้สึก“ขอบใจมาก นะจ๊ะน้องภีม”นิญาดา กระซิบภีมพร้อมกับขยิบตาให้เป็นเชิงรู้กันว่า การที่หล่อนได้มานั่งข้าง อาจารย์เตชินไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนการที่ถูกวางไว้อย่างตั้งใจล้วน ๆ “เรื่องแบบนี้ ไว้ใจสุดสวยอย่างภีมได้เลยจ้ะ พี่สาว”ภีมยกแก้วไวน์ชนแก้วกับนิญาดาฉลองให้กับการเริ่มต้นแผนการฉกดวงใจของหัวหน้าที่ส่อแววว่าจะไปได้สวยส่วน “พี่ปัญญ์” คนที่หัวหน้าส่งมาคอยคุมพวกเธอ น้องภีมมอบหมายให้พี่เกดจัดการ หากเหลียวดูโต๊ะข้าง ๆ จะเห็นสาวสูงวัย ผมถูกรวบมวยไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อยต
“อืม ใช่ครับ เรียกได้ว่าเป็นซากุระสุดท้ายที่บานให้เชยชมก่อนที่จะร่วงหมดทั้งประเทศ เหมือนกับ...”เขาหยุดคำพูดแค่นั้น แล้วกระดกเครื่องดื่มในแก้วจนหมด ดูเหมือนมีม่านบางอย่างเกิดขึ้นในแววตาคมกริบคู่นั้นคิ้วเรียวงามของหญิงสาวขมวดเข้าหากันเมื่อเขาหยุดพูดไปเฉย ๆ หล่อนจึงชวนคุยต่อ เพื่อดำเนินการไปตามแผนที่วางเอาไว้“ฉันฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งจะไปเที่ยวญี่ปุ่น อยากเห็นซากุระสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่พอกลับมาทำงานที่บ้านเกิด ก็เหมือนว่าชีวิตจะยุ่งทุกวัน ฮ่า ๆ”“ชอบซากุระ?”คำถามสั้นเช่นเคย แต่คนฟังกลับรู้สึกยินดีที่เขายังโต้ตอบบ้าง“ค่ะ ซากุระ ซูชิ ออนเซ็น ชอบทุก ๆ อย่างที่เป็นญี่ปุ่น ถ้าวันไหนไปญี่ปุ่น จะขอนอนแช่ออนเซ็นดูฟูจิให้หนำใจไปเลย !”ชายหนุ่มมองแววตาเพ้อฝันของคนเล่า ยิ้มลึก“แล้วอาจารย์ล่ะคะ?”“ครับ”หญิงสาวเลิกคิ้วสูง คำว่า “ครับ” คือ ชอบหรือไม่ชอบ ราวกับว่าเขาพยายามรักษาระยะห่างไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งก้าวล่วงเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของเขามากเกินไปความเจ็บแปลบ แล่นสู่หัวใจดวงน้อย นิญาดาต้องเตือนตัวเองอีกครั้ง เขาคือเครื่องมือในการแก้แค้นเท่านั้น! เรื่องส่วนตัวของเขาเราไม่จำเป็
“เออ พี่ลืมบอกพวกเธออีกหนึ่งเรื่อง”“อะไร้ เจ๊!”ภีมหน้าเครียด“มะ เมื่อก่อน อาจารย์เตชิน เคยได้ฉายาว่า คาสโนวาตัวพ่อ!”“อุ๊ปส์”ภีมหน้าเหวอ จะบุกเข้าไปช่วยพี่สาวตอนนี้ ก็กลัวจะได้ดูหนังสด แต่ถ้าไม่ช่วยเขาก็จะรู้สึกผิด เพราะแผนการอ่อยผู้ชายครั้งนี้ เขาเป็นคนวางแผนให้หญิงสาวทั้งหมด“เอาอย่างนี้แล้วกัน เราไปแอบฟังที่ประตูกันเถอะ ถ้าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือค่อยบุก!”“ถ้าไม่”ภีมถามกลับอย่างสยอง“ก็แยกย้ายสิจ๊ะ”แล้วสองร่างก็แนบหูเข้ากับประตูห้องต้นเหตุอือ... อ่า อือ... อะทั้งคู่ได้ยินเสียงครางเล็ดลอดออกมาจากข้างในชัดเจน หน้าของทั้งคู่แดงก่ำแดง ต่างสบตาอย่างรู้กัน แล้วค่อย ๆ ย่องหายกลับห้องใครห้องมัน อย่างรู้สถานการณ์ปัง ! ทันทีที่ประตูปิดลง ชายหนุ่มผลักหญิงสาวในอ้อมกอดดันเข้าชิดผนังห้อง แล้วมือใหญ่ที่แข็งราวคีมเหล็กยึดข้อมือเล็กติดกำแพงปากหนาประกบกลีบปากบางไม่ยอมห่าง จูบรุนแรง ไม่อ้อยอิ่งอย่างคนหิวโหย เรียวลิ้นร้อนของชายหนุ่มซอนไซ้ คลอเคล้าอย่างเร่งร้อน ดูดดื่มจนสาวน้อยในกำแพงกล้ามเนื้ออ่อนแรง หากไม่เพราะเขาตรึงหล่อนไว้กับผนัง ร่างบางคงพับลงพื้นเพราะไฟสว
ปากร้ายร้อนระอุ ขบเม้มปากบาง ลิ้นร้ายซอกไซ้กวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างผู้ช่ำชอง แล้วละออก โลมเล้าไล่เลียเรื่อยลงมาที่พวงแก้วนวล ซุกไซ้คอขาวผ่องอย่างเร่งเร้า ปลายลิ้นสากไล้วนลงมาตรงเนินอกอวบอัด ดูด ขบ เน้นเบา ๆ“... อือ.... อะ.... อา....”เสียงร้องครางเบาหวิว ร่างบางดิ้นทุรนทุรายภายใต้อ้อมกอด เนื้อเนียนนุ่มเสียดสีกล้ามเนื้อหนา ยิ่งเหมือนการเติมเชื้อไฟสวาทเร่งเร้าให้เขาระเบิดเพลิงราคะมากยิ่งขึ้นมือเรียวแกร่งของชายหนุ่มเคล้าคลึงสะโพกบีบเน้นหนั่นเนื้อกลมกลึงอย่างหนักหน่วง มืออีกข้างกระชับเอวคอดแน่น ไฟราคะในกายหนุ่มโหมแรงอย่างต่อเนื่อง ดวงตาคมดุดันวาวโรจน์ เมื่อซุกไซ้ทรวงอกสล้างจนสาแก่ใจเขาจึงตวัดร่างบางอุ้มพาไปที่เตียงเขาปล่อยร่างอ่อนระทวยลงบนเตียงนุ่ม แล้วปลดตะขอกางเกงของตนเอง รูดออกจากตัว พร้อมทั้งกระชากเสื้อออกอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าร่างนวลผ่องนั้นจะหายไปนิญาดารวบรวมสติอันน้อยนิด พลิกขยับตัวคลานหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อป้องกันตัวจากชายหนุ่ม โคมไฟอยู่แค่เอื้อมแต่ด้วยฤทธิ์ของเหล้าบวกกับการเล้าโลมเมื่อครู่จึงทำให้สมองของหล่อนยังคงมึนงง การเคลื่อนไหวช้ากว่าที่ควรจะเป็น มือน้อยเก
“อะ... อา....”ร่างบางแอ่น หยัดสะโพกครวญคราง เมื่อจมูกโด่งคมสันบดลึก ถูกไถกับตุ่มเกสรกุหลาบงาม ปากร้อนผนึกกินดอกไม้ทั้งกลีบ ลิ้นสากซอนไซ้ โลมเลียกลีบกุหลาบอย่างช่ำชอง ความเสียวซ่านแผ่ไปทั้งกายสาวจนน้ำค้างชุ่มฉ่ำเต็มกลีบมือใหญ่ช้อนสะโพกกลมกลึง บีบเน้น ในขณะที่ปากหนาขบเม้มหนักหน่วง ลิ้นสากระอุสอดแทรกโลมเลียตุ่มเกสร กลืนกินกลีบดอกอย่างหิวกระหาย จนร่างบางบิดเร่าแตกสลายกลายเป็นดวงดาวขาวพร่างไปกับปากและลิ้นดุดัน หล่อนก็ยิ่งครางเสียงดัง“...อ๊า.....”ร่างบางที่กำลังถูกไฟสวาทเข้าครอบงำจนหล่อนเองจำเสียงตนไม่ได้ จิตใจเธอวาบหวามไปกับการเคลื่อนไหวของลิ้นร้ายจนไม่ได้ยินอะไร ลมพายุลูกใหญ่กำลังอื้ออึงเต็มสองหู ความเสียวซ่านอันแปลกประหลาดพุ่งกระจายไปทั่วร่างก่อนจะมุ่งหน้าสู่กึ่งกลางกายสร้างความหวานไหวให้หล่อนอ่อนเปลี้ยราวกับร่างกายไร้กระดูก“...หึ... หึ...”ชายหนุ่มคำรามในลำคออย่างเหิมเกริม ยินดีที่เรียกเสียงครางจากคนรั้นได้“แค่นี้... ก็ร้องจนถึงสวรรค์.. ต่อจากนี้...คือ บทเรียนจากคาสโนวา!”มือหนาประคองแก่นกายกำยำร้อนจนแทบจะระเบิด จ่อ... ถู... ไถ ที่กุหลาบงามอันชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวานร่างน้อยบิ
เกิดความเจ็บแปลบที่หว่างขา มือเล็กแตะร่องน้อยกลางกายของตน สัมผัสได้ถึงของเหลวหนืด เมื่อยกปลายนิ้วขึ้นดู หล่อนก็แทบจะกรีดออกมา เลือดสีแดงเข้มติดที่ปลายนิ้ว! ดวงตากลมโตเพ่งพินิจร่างกายตนอย่างละเอียด เนื้อขาวผ่องเต็มไปด้วยรอยจูบที่เขาฝากไว้เป็นจ้ำ ๆหล่อนถูกเลี้ยงมาอย่างประคบประหงม พ่อกับแม่เลี้ยงดูหล่อนอย่างดี แม้แต่รอยขีดข่วนยังแทบจะไม่มี แล้วเขาเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาทำให้หล่อนเจ็บทั้งกายและใจ ดวงตาคู่สวยลุกวาวจ้องร่างแกร่งที่ยังคงหลับสนิทคนที่ทำให้เธอเจ็บ ก็คือ คนที่นอนหลับตาพริ้มนั่น!คนที่พรากพรหมจรรย์ไปจากเธอ ก็คือคนที่นอนนิ่งอย่างสบายบนเตียงนั่น!เขาทำให้หล่อนเจ็บระบมไปทั้งกาย แต่เขากลับหลับสบายบนเตียงของหล่อน!!! ความเสียใจบวกกับความโกรธพุ่งจี๊ดแล่นสู่สมอง กำปั้นน้อยของเจ้าของเตียงพุ่งใส่คนที่ยังหลับตาพริ้ม“อ๊าย!”มือเรียวแกร่งคว้าข้อมือหล่อนได้ทันที่จะชกลงบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ร่างหนาลุกขึ้นแล้วกระชากร่างบางเข้าแนบอก พร้อมกับซุกจมูกโด่งฝังแก้มนวล สูดกลิ่นกายสาวอ่อน ๆ เหมือนดอกซากุระ ที่ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มได้เสมอ“ปล่อย!” ร่างสวยเปล่าเปลือยดิ้นขลุกขลักในอ
หล่อนเริ่มตัวสั่นแล้วอ่อนระทวยไปทั้งร่างกับสัมผัสของมือแกร่ง แต่แสนอบอุ่น เธอต้องเอนกายเบียดชิดกำแพงเพื่อใช้เป็นหลักยึดร่างไว้ไม่ให้ร่างที่อ่อนปวกเปียกไหลไปกองกับพื้น ขนอ่อนในกายสาวลุกซู่จนต้องร้องห้าม“หยุด! ฉันอาบน้ำเองเป็น!”“เงียบ!”เสียงทุ้ม ไม่ได้ตวาดแต่ทรงอำนาจ เขาไม่ใช่เจ้านายหล่อน แต่ทำไมหล่อนต้องกลัว นี่คือคำตอบที่หล่อนเองก็ตอบไม่ได้ และยอมตามใจเขาเสมอมือแกร่งแทรกลึกเข้าหว่างขาเนียน จนถึงกลีบกุหลาบ น้ำอุ่นไหลอาบจากศีรษะผ่านหน้าอกชูชัน ไหลลงมาสู่หว่างขาความอุ่นซ่านเข้าไปพร้อมกับปลายนิ้วแกร่งหากแต่สัมผัสนั้นอ่อนโยนเหนือคณนา ปลายนิ้วอุ่นซ่านค่อย ๆ คลี่กลีบกุหลาบงาม ให้น้ำอุ่นได้ชำระคาบมลทินที่เขากระทำไว้ขาของสาวน้อยเริ่มอ่อนระทวยลงอีกครั้ง จวนเจียนจะยืนไม่ไหวจนต้องจับไหล่กำยำไว้ ใบหน้าสวยแหงนหงายจนหลังแอ่น เมื่อนิ้วแกร่งถูไถเกสรกุหลาบ“ยะ.... อย่า... อา”ความมัวเมา ซ่านกระสันกำลังครอบงำหล่อนอีกครั้ง หล่อนหัวหมุนกับการเคลื่อนไหวของมือแกร่งและนิ้วร้าย กุหลาบงามเป่งด้วยความถวิลหา กลีบกุหลาบกลืนกินนิ้วแกร่งอย่างร้ายกาจ “อื้อ ยะ อย่า คะ อาจารย์ อื้ออออออ”“คุณบอก..
คนถูกถามกลืนกาแฟอย่างยากเย็นราวกับว่ามันเป็นของแข็ง แล้วเม็ดน้ำตาก็ร่วงแหมะลง เล่นเอาคนถามใจคอไม่ดี“เฮ้ย! พี่นิเป็นอะไร?”มือเรียวบางของภีมเขย่าแขนคนที่น้ำตาร่วง“..เขา... เขา... ฮือ...”นิญาดาพยายามจะตอบ แต่มันช่างยากเย็น คำตอบมันละลายหายไปกับเสียงสะอื้นเบา ๆ พี่เกดโน้มเข้ามากอดคนสะอึกสะอื้นจนตัวโยน มือหนึ่งโอบรอบศีรษะสาวน้อยเข้าแนบอก อีกมือลูบหลังที่สั่นสะท้านปลอบเบา ๆ“ใจเย็น... นิ ใจเย็น... พี่รู้”คนเป็นพี่ใหญ่ปลอบในฐานะผู้ที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน“พี่นิ อย่าบอกนะว่า เมื่อคืนคือครั้งแรกของพี่!”ภีมกระซิบถาม ส่งผลให้ร่างบางสะอื้นหนักยิ่งขึ้น เพราะเสียใจกับความบริสุทธิ์ที่หล่อนอุตส่าห์เฝ้าถนอมไว้ให้เจ้าบ่าวในคืนวันวิวาห์ แต่กลับต้องมาสูญเสียให้ชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักกันง่าย ๆ ภายในคืนเดียว !พี่เกดฟาดมือลงบ่าคนปากมากเต็มแรง อีกฝ่ายจึงหยุดพูด คนถูกตีหน้าเบ้ ผู้มีประสบการณ์ประเมินจากอาการของคนในอ้อมแขนคงพอจะเดาได้ว่า นิญาดาคงจะเสียสาวให้กับอาจารย์หนุ่มครั้งแรกเป็นแน่แท้โชคดีที่กลุ่มของนิญาดานั่งอยู่ด้านในสุดตรงมุมของห้องอาหาร จึงไม่เป็นที่สังเกตของคนอื่น ๆภีมอาสาไปเ