ริมฝีปากบางฉีกยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ทักทายอาจารย์ตั้งแต่เช้าตรู่ จนบัดนี้ผ่านไปสามสิบกว่าท่าน จนเหงือกเริ่มจะแห้ง แข้งขาที่วิ่งขึ้นวิ่งลงรถบัสคันใหญ่เพื่อแจกป้ายชื่อบ้าง พาอาจารย์ขึ้นไปนั่งรอบนรถบ้าง เริ่มจะล้า
“พี่นิขอป้ายชื่อหน่อยจ้า”
เสียงน้องภีมร้องเรียกแจ้ว ๆ อยู่ด้านล่าง นิญาดาจึงรีบวิ่งลงไปด้วยความรีบร้อน ยังไม่ทันที่เท้าจะก้าวลงจากรถก็สะดุดเท้าตัวเอง
“กรี๊ดดดดดดด”
นิญาดาร้องเสียงหลง ร่างบอบบางคะมำไปข้างหน้า
พรึบ!
เธอกระแทกกับแผงอกกว้างของใครบางคน มือเล็กคว้าคล้องคอชายตรงหน้าไว้โดยอัตโนมัติ มือหนารวบเอวอรชรไว้ได้ทันก่อนจะร่วงลงกระแทกพื้น อกอิ่มนุ่มนิ่มเบียดเสียดกับอกแน่นล่ำสัน เนื้อแกร่งร้อนระอุ ความเร่าร้อนที่แฝงเร้นในกายชายหนุ่มกระตุ้นเลือดในกายสาวให้เดือดพล่าน ใบหน้าคนในอ้อมกอดร้อนผะผ่าวแดงก่ำ ดวงตาคู่งามที่ตื่นตระหนกด้วยความตกใจเมื่อครู่ สบกับดวงตานิ่งล้ำลึกเนิ่นนาน
“เอ่อ อะ แฮ่ม!”
ภีมถลาเข้ามาหาคนทั้งคู่ นิญาดาได้สติรีบคลายมือออก มือใหญ่จึงปล่อยเอวบางเช่นกัน
“สวัสดีคร้า ท่านอาจารย์เตชิน”
ภีมสาวในร่างชายส่งเสียงแหลมปรี๊ดทักทายผู้มาใหม่
“สวัสดีค่ะ อาจารย์เตชิน”
นิญาดายกมือไหว้
“อะ เอ่อ ขอโทษค่ะ”
เสียงตะกุกตะกักของหญิงสาวกล่าวขอโทษกับเหตุการณ์เมื่อครู่ พวงแก้มสาวแดงแจ๋เป็นลูกตำลึงด้วยความเขิน หัวใจของเธอยังวูบวาบกับสัมผัสเมื่อครู่ยังไม่จางหาย
อาจารย์หนุ่มสุดฮอตของใคร ๆ พยักหน้ารับทราบเพียงนิดเดียว เขายังคงรักาท่าทีเย็นชาเหมือนเดิม
“ท่านอาจารย์ คะ คือ ว่า....”
นิญาดาพยายามจะอธิบายว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เขากลับเมินเฉย เดินผ่านหล่อนไปราวกับว่าหญิงสาวเป็นเพียงธาตุอากาศ ไม่แยแส ยิ่งทำให้คนถลาเข้าไปกอดเขารู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ อย่างบอกไม่ถูก
เมื่อร่างสูงหายขึ้นไปบนรถบัส นิญาดากระซิบน้องภีมอย่างกังวลใจ
“ตายแล้วววว เขาจะว่าพี่แกล้งล้มอ่อยเขาไหม”
“โธ่พี่! ก็เราตั้งใจจะอ่อยให้เขาหลงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ก็ดีแล้วที่สวรรค์ช่วยส่งเสริม อิอิ”
ภีมหัวเราะคิกคัก แล้วหันไปรับอาจารย์คนใหม่ต่อ
นิญาดาสะบัดหน้าแรง ๆ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามขับไล่ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ออกไปจากสมอง แม้ว่ามันจะไม่ได้ผล แต่อย่างน้อยอาการหัวใจเต้นรัวของเธอที่แทบจะทรงตัวไม่ไหวก็จางลง
เมื่อผู้เข้าร่วมอบรมมากันครบแล้ว รถก็ออกเดินทางมุ่งสู่ รีสอร์ตเดอะเบสต์ออร์คิด
การอบรมเริ่มต้นเป็นไปอย่างสวยงาม เหล่าอาจารย์ต่างประทับใจวิทยากรเพราะทึ่งกับแนวทางการก้าวสู่ “ตำแหน่งศาสตราจารย์” ที่อายุน้อยที่สุด
ทั้งทีมวิทยากรและผู้เข้าร่วมอบรมต่างชื่นชม “นิญาดา” หัวหน้าโครงการผู้จัดงานในครั้งนี้ สาวสวยยิ้มแก้มปริภูมิใจกับความสำเร็จของงานนี้แม้ว่ามันจะแลกมาด้วยน้ำตาก็ตาม
พักรับประทานอาหารเที่ยง
อาหารท้องถิ่นถูกจัดไว้อย่างงดงามบนขันโตกที่ทำจากไม้ไผ่สานอย่างประณีต มีกลิ่นอายของความเป็นพื้นถิ่นภาคเหนือ ทุกคนดื่มด่ำกับรสชาติอาหารที่แสนอร่อย ห้องอาหารล้อมรอบด้วยกระจกทำให้มองเห็นวิวภูเขาสุดลูกหูลูกตา ยิ่งทวีความสุขล้ำให้กับอาหารมื้อนี้
“เอ่อ พี่ได้ข่าวมานะ”
พี่เกดเริ่มบทสนทนา เมื่อท้องเริ่มอิ่มปากก็เริ่มขยับได้
“อะไรพี่”
ภีมยื่นหน้าขาว ๆ จีบปากจีบคอ ถามในขณะที่ปากยังเคี้ยวแคบหมูน้ำพริกหนุ่มตุ้ย ๆ
“ก็ อาจารย์เตชินนะสิ เขาลือกันว่า ดุ มาก!”
“อุ๊ป ซีด”
ภีมกัดริมฝีปากอย่างมันเขี้ยว เขาชอบชะมัด ผู้ชายดุ ๆ จะได้นอนกัดกันทั้งคืน
“หืม! อีภีม ฉันรู้นะ แกคิดอะไรอยู่”
“ก็ขาวออร่า คิ้วเข้ม ตาคม จมูกโด่ง กล้ามเป็นมัด ๆ ขนาดนั้น! ดุแค่ไหน หนูก็ยอมค่ะ!”
มือสาวใหญ่ฟาดเปรี๊ยะ! ลงที่ไหล่สาวน้อยกลัดมัน อย่างหมั่นไส้
“ทำยังกะอาจารย์เขาจะเอาแกอะ อีภีม”
ภีมส่งสายตาปะหลับปะเหลือกอย่างขัดใจ
“น่า อย่าเพิ่งตีกัน พี่เกดเล่าต่อ ๆ หนูอยากฟัง ดุยังไงคะ”
พี่เกดเคยทำงานที่คณะวิศวกรรมศาสตร์มาก่อน จึงพอจะมีเส้นสายและรู้ตื้นลึกหนาบางของคณะนั้นพอสมควร ดังนั้น หากนิญาดาอยากรู้ข้อมูลเชิงลึกของเป้าหมาย หล่อนก็จะค้นเอาจากพี่เกดนี่แหละ
“นี่นะ ! ก่อนอาจารย์เตชินจะสอนทุกคาบ แกสั่งให้นักศึกษาปิดโทรศัพท์มือถือทุกคนเลยนะ ถ้าใครกล้าดีไม่ยอมปิด แล้วถ้ามีเสียงโทรศัพท์ดังกริ๊งกร๊างขึ้นมาขณะที่แกสอน ล่ะ เธอเอ้ย!”
ผู้รู้ขึ้นเสียงสูง แล้วกลับลดเสียงลงทันทีเพื่อเพิ่มอรรถรสการนินทาระยะเผาขน สาวเทียมสาวแท้ต่างพากันเงี่ยหูฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“มีอันต้องถูกไล่ออกจากห้องเรียน! แล้วหน้าดุ ๆ ก็เอ็ดว่า - นี่มันห้องเรียน เวลาเรียน ไม่ใช่เวลาเล่นโทรศัพท์ ใครไม่อยากเรียนออกไป เชิญ! - ”
ผู้เล่าแกล้งดัดเสียงคมเข้ม ดุ
“ขนาดนั้น เลยเหรอเจ๊!”
ภีมตาเหลือกถาม
“ใช่! ขนาดเจ้าหน้าที่ยังเคยเจอมาแล้ว พิมพ์เอกสารผิดหรือใช้ฟอร์มเอกสารผิด แกถึงขนาดเดินมาด่าที่โต๊ะเลยนะ ด่าชนิดที่ว่าไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดเลยนะ!”
“หือ!!!”
สองสาวอุทานพร้อมกัน คนอะไรจะเจ้าระเบียบและปากจัดขนาดนั้น
นิญาดาอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองคนที่ถูกนินทา แม้อาจารย์หนุ่มจะนั่งในกลุ่มคณาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่ความสูงสง่า โดดเด่น ทำให้มองเห็นรัศมีความหล่อของเขาชัดกว่าใคร ๆ
ทำให้สมองของหญิงสาวพลันนึกขึ้นว่าปากบางชมพูราวกับว่าจะยิ้มน้อย ๆ ทุกครั้งที่มีการเอื้อนเอ่ยเช่นนั้น ไม่น่าจะดุใครได้ หล่อนจึงแก้ต่างให้คนถูกนินทาเสียงเบา
“เขาอาจจะเป็นอาจารย์ ที่มีจิตวิญญาณความเป็นอาจารย์ มีอุดมการณ์ที่ดีก็ได้นะ”
“จ้ะ! พี่เตือนแล้วนะ จะทำอะไรก็ระวังแล้วกัน เดี๋ยวถูกด่า ตายกลับมาแบบไม่มีชิ้นดี พี่ไม่ตามเก็บซากนะจ๊ะ”
พี่เกดพูดเหมือนล้อเล่นแต่เน้นเสียงให้รู้ว่าจริงทุกคำ เมื่อพูดจบเธอตักไอติมลำไยเข้าปาก ของหวานตบท้ายของคาวอาหารมื้อนี้ช่างอิ่มหนำสำราญเสียจริง คิดแล้วก็นึกขอบคุณสาวสวยผู้จัดงาน ที่อุตส่าห์หาทางให้เธอได้ออกมาทำงานข้างนอกมหาวิทยาลัยบ้าง เหมือนได้มาเปิดโลกทัศน์ เติมเต็มพลังในการทำงานอีกรูปแบบหนึ่ง หาไม่เช่นนั้นแล้ว เธอก็คงจะทำงาน กลับบ้าน ดูแลสามี ชีวิตก็วนเวียนอยู่อย่างนั้น
เมื่อของหวานเสิร์ฟจนครบทุกโต๊ะ บางกลุ่มที่จัดการของหวานเรียบร้อยแล้วกำลังลุกออกจากที่นั่ง
แก๊งหนุ่ม ๆ ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ก็กำลังเดินออกจากห้องอาหารเช่นกัน
นิญาดารวบช้อน แล้วรีบกลืนไอติมให้ละลายลงคอ แล้วกรอกตามด้วยน้ำเปล่า“หนูขอตัว ไปดูความเรียบร้อยในห้องประชุมก่อนนะคะ”หล่อนขออนุญาตพี่เกด ก่อนวิ่งตามอาจารย์ออกไปภีมมองตามหญิงสาวที่วิ่งออกไปแล้วหันมาสบตากับสาวใหญ่ยิ้ม ๆ อย่าง “รู้กัน”แผนการขั้นต่อไปของนิญาดา คือ ต้องปรากฏตัวให้เป้าหมายรู้จัก ! นิญาดาแกล้งเดินเฉียดใกล้กลุ่มของอาจารย์เตชินด้วยใจระทึก“เดี๋ยวสิ คุณนิ”หนึ่งในแก๊งหนุ่ม ๆ อาจารย์วิศวกรรมศาสตร์ร้องเรียก‘Yes!!! เป็นไปตามแผน!!’ นิญาดายิ้มน้อย ๆ อย่างลิงโลดในใจก่อนหันไปยังผู้เรียก พร้อมกับแววตาใสซื่อที่สุดเท่าที่เธอเคยกระทำมา“คะ?”“ทำไมถึงได้จัดงานอบรมนี้ขึ้นล่ะครับ?”อาจารย์หนุ่มหนึ่งในกลุ่มนั้นถามขึ้น“คือ อยากจะเติมไฟให้อาจารย์ค่ะ เชิญศาสตราจารย์เก่ง ๆ มาพูดให้ฟัง เผื่อว่าจะได้พลังใจดี ๆ กลับไปค่ะ”แววตาผู้ตอบฉายแววมุ่งมั่น ย้ำว่าสิ่งที่เธอพูดและทำมาจากความตั้งใจจริง ๆ“แล้ว ทำไมถึงได้เชิญพวกผมล่ะครับ?”หล่อนเหลือบมองหัวหน้าภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ตามด้วยรองหัวหน้าภาควิชา ไล่ไปจนถึงอาจารย์ทุกคนของภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มารวมตัวอยู่ที่นี่เกินกว่าครึ่งของภาค
“โต๊ะนี้ คงเป็นโต๊ะที่โชคดีมากนะครับ ที่มีโอกาสได้นั่งทานข้าวกับสาวสวยที่สุดในค่ำคืนนี้”ดร. พงษ์ เลิศปัญญา เพื่อนสนิทของเตชิน เอ่ยทักขึ้นเป็นคนแรก เพราะมีเชื้อจีน ผิวพรรณจึงขาวเนียน บวกกับความมีอารมณ์ขันจึงทำให้ใบหน้าเด็กกว่าวัย แม้ว่าจะล่วงเข้าวัยสามสิบแปดปี“ขอบคุณค่ะอาจารย์พงษ์ ยินดีเช่นกันที่มีโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า”หล่อนยิ้มหวานให้หนุ่มใหญ่ซึ่งเป็นผู้บริหาร และยังไม่ลืมที่จะโปรยรอยยิ้มแสนหวานนั้นมายังอาจารย์เตชินซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ แต่เขากลับเฉย แววตาคมกริบนิ่งลึก ยากที่จะอ่านความรู้สึก“ขอบใจมาก นะจ๊ะน้องภีม”นิญาดา กระซิบภีมพร้อมกับขยิบตาให้เป็นเชิงรู้กันว่า การที่หล่อนได้มานั่งข้าง อาจารย์เตชินไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนการที่ถูกวางไว้อย่างตั้งใจล้วน ๆ “เรื่องแบบนี้ ไว้ใจสุดสวยอย่างภีมได้เลยจ้ะ พี่สาว”ภีมยกแก้วไวน์ชนแก้วกับนิญาดาฉลองให้กับการเริ่มต้นแผนการฉกดวงใจของหัวหน้าที่ส่อแววว่าจะไปได้สวยส่วน “พี่ปัญญ์” คนที่หัวหน้าส่งมาคอยคุมพวกเธอ น้องภีมมอบหมายให้พี่เกดจัดการ หากเหลียวดูโต๊ะข้าง ๆ จะเห็นสาวสูงวัย ผมถูกรวบมวยไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อยต
“อืม ใช่ครับ เรียกได้ว่าเป็นซากุระสุดท้ายที่บานให้เชยชมก่อนที่จะร่วงหมดทั้งประเทศ เหมือนกับ...”เขาหยุดคำพูดแค่นั้น แล้วกระดกเครื่องดื่มในแก้วจนหมด ดูเหมือนมีม่านบางอย่างเกิดขึ้นในแววตาคมกริบคู่นั้นคิ้วเรียวงามของหญิงสาวขมวดเข้าหากันเมื่อเขาหยุดพูดไปเฉย ๆ หล่อนจึงชวนคุยต่อ เพื่อดำเนินการไปตามแผนที่วางเอาไว้“ฉันฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งจะไปเที่ยวญี่ปุ่น อยากเห็นซากุระสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่พอกลับมาทำงานที่บ้านเกิด ก็เหมือนว่าชีวิตจะยุ่งทุกวัน ฮ่า ๆ”“ชอบซากุระ?”คำถามสั้นเช่นเคย แต่คนฟังกลับรู้สึกยินดีที่เขายังโต้ตอบบ้าง“ค่ะ ซากุระ ซูชิ ออนเซ็น ชอบทุก ๆ อย่างที่เป็นญี่ปุ่น ถ้าวันไหนไปญี่ปุ่น จะขอนอนแช่ออนเซ็นดูฟูจิให้หนำใจไปเลย !”ชายหนุ่มมองแววตาเพ้อฝันของคนเล่า ยิ้มลึก“แล้วอาจารย์ล่ะคะ?”“ครับ”หญิงสาวเลิกคิ้วสูง คำว่า “ครับ” คือ ชอบหรือไม่ชอบ ราวกับว่าเขาพยายามรักษาระยะห่างไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งก้าวล่วงเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของเขามากเกินไปความเจ็บแปลบ แล่นสู่หัวใจดวงน้อย นิญาดาต้องเตือนตัวเองอีกครั้ง เขาคือเครื่องมือในการแก้แค้นเท่านั้น! เรื่องส่วนตัวของเขาเราไม่จำเป็
“เออ พี่ลืมบอกพวกเธออีกหนึ่งเรื่อง”“อะไร้ เจ๊!”ภีมหน้าเครียด“มะ เมื่อก่อน อาจารย์เตชิน เคยได้ฉายาว่า คาสโนวาตัวพ่อ!”“อุ๊ปส์”ภีมหน้าเหวอ จะบุกเข้าไปช่วยพี่สาวตอนนี้ ก็กลัวจะได้ดูหนังสด แต่ถ้าไม่ช่วยเขาก็จะรู้สึกผิด เพราะแผนการอ่อยผู้ชายครั้งนี้ เขาเป็นคนวางแผนให้หญิงสาวทั้งหมด“เอาอย่างนี้แล้วกัน เราไปแอบฟังที่ประตูกันเถอะ ถ้าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือค่อยบุก!”“ถ้าไม่”ภีมถามกลับอย่างสยอง“ก็แยกย้ายสิจ๊ะ”แล้วสองร่างก็แนบหูเข้ากับประตูห้องต้นเหตุอือ... อ่า อือ... อะทั้งคู่ได้ยินเสียงครางเล็ดลอดออกมาจากข้างในชัดเจน หน้าของทั้งคู่แดงก่ำแดง ต่างสบตาอย่างรู้กัน แล้วค่อย ๆ ย่องหายกลับห้องใครห้องมัน อย่างรู้สถานการณ์ปัง ! ทันทีที่ประตูปิดลง ชายหนุ่มผลักหญิงสาวในอ้อมกอดดันเข้าชิดผนังห้อง แล้วมือใหญ่ที่แข็งราวคีมเหล็กยึดข้อมือเล็กติดกำแพงปากหนาประกบกลีบปากบางไม่ยอมห่าง จูบรุนแรง ไม่อ้อยอิ่งอย่างคนหิวโหย เรียวลิ้นร้อนของชายหนุ่มซอนไซ้ คลอเคล้าอย่างเร่งร้อน ดูดดื่มจนสาวน้อยในกำแพงกล้ามเนื้ออ่อนแรง หากไม่เพราะเขาตรึงหล่อนไว้กับผนัง ร่างบางคงพับลงพื้นเพราะไฟสว
ปากร้ายร้อนระอุ ขบเม้มปากบาง ลิ้นร้ายซอกไซ้กวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างผู้ช่ำชอง แล้วละออก โลมเล้าไล่เลียเรื่อยลงมาที่พวงแก้วนวล ซุกไซ้คอขาวผ่องอย่างเร่งเร้า ปลายลิ้นสากไล้วนลงมาตรงเนินอกอวบอัด ดูด ขบ เน้นเบา ๆ“... อือ.... อะ.... อา....”เสียงร้องครางเบาหวิว ร่างบางดิ้นทุรนทุรายภายใต้อ้อมกอด เนื้อเนียนนุ่มเสียดสีกล้ามเนื้อหนา ยิ่งเหมือนการเติมเชื้อไฟสวาทเร่งเร้าให้เขาระเบิดเพลิงราคะมากยิ่งขึ้นมือเรียวแกร่งของชายหนุ่มเคล้าคลึงสะโพกบีบเน้นหนั่นเนื้อกลมกลึงอย่างหนักหน่วง มืออีกข้างกระชับเอวคอดแน่น ไฟราคะในกายหนุ่มโหมแรงอย่างต่อเนื่อง ดวงตาคมดุดันวาวโรจน์ เมื่อซุกไซ้ทรวงอกสล้างจนสาแก่ใจเขาจึงตวัดร่างบางอุ้มพาไปที่เตียงเขาปล่อยร่างอ่อนระทวยลงบนเตียงนุ่ม แล้วปลดตะขอกางเกงของตนเอง รูดออกจากตัว พร้อมทั้งกระชากเสื้อออกอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าร่างนวลผ่องนั้นจะหายไปนิญาดารวบรวมสติอันน้อยนิด พลิกขยับตัวคลานหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อป้องกันตัวจากชายหนุ่ม โคมไฟอยู่แค่เอื้อมแต่ด้วยฤทธิ์ของเหล้าบวกกับการเล้าโลมเมื่อครู่จึงทำให้สมองของหล่อนยังคงมึนงง การเคลื่อนไหวช้ากว่าที่ควรจะเป็น มือน้อยเก
“อะ... อา....”ร่างบางแอ่น หยัดสะโพกครวญคราง เมื่อจมูกโด่งคมสันบดลึก ถูกไถกับตุ่มเกสรกุหลาบงาม ปากร้อนผนึกกินดอกไม้ทั้งกลีบ ลิ้นสากซอนไซ้ โลมเลียกลีบกุหลาบอย่างช่ำชอง ความเสียวซ่านแผ่ไปทั้งกายสาวจนน้ำค้างชุ่มฉ่ำเต็มกลีบมือใหญ่ช้อนสะโพกกลมกลึง บีบเน้น ในขณะที่ปากหนาขบเม้มหนักหน่วง ลิ้นสากระอุสอดแทรกโลมเลียตุ่มเกสร กลืนกินกลีบดอกอย่างหิวกระหาย จนร่างบางบิดเร่าแตกสลายกลายเป็นดวงดาวขาวพร่างไปกับปากและลิ้นดุดัน หล่อนก็ยิ่งครางเสียงดัง“...อ๊า.....”ร่างบางที่กำลังถูกไฟสวาทเข้าครอบงำจนหล่อนเองจำเสียงตนไม่ได้ จิตใจเธอวาบหวามไปกับการเคลื่อนไหวของลิ้นร้ายจนไม่ได้ยินอะไร ลมพายุลูกใหญ่กำลังอื้ออึงเต็มสองหู ความเสียวซ่านอันแปลกประหลาดพุ่งกระจายไปทั่วร่างก่อนจะมุ่งหน้าสู่กึ่งกลางกายสร้างความหวานไหวให้หล่อนอ่อนเปลี้ยราวกับร่างกายไร้กระดูก“...หึ... หึ...”ชายหนุ่มคำรามในลำคออย่างเหิมเกริม ยินดีที่เรียกเสียงครางจากคนรั้นได้“แค่นี้... ก็ร้องจนถึงสวรรค์.. ต่อจากนี้...คือ บทเรียนจากคาสโนวา!”มือหนาประคองแก่นกายกำยำร้อนจนแทบจะระเบิด จ่อ... ถู... ไถ ที่กุหลาบงามอันชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวานร่างน้อยบิ
เกิดความเจ็บแปลบที่หว่างขา มือเล็กแตะร่องน้อยกลางกายของตน สัมผัสได้ถึงของเหลวหนืด เมื่อยกปลายนิ้วขึ้นดู หล่อนก็แทบจะกรีดออกมา เลือดสีแดงเข้มติดที่ปลายนิ้ว! ดวงตากลมโตเพ่งพินิจร่างกายตนอย่างละเอียด เนื้อขาวผ่องเต็มไปด้วยรอยจูบที่เขาฝากไว้เป็นจ้ำ ๆหล่อนถูกเลี้ยงมาอย่างประคบประหงม พ่อกับแม่เลี้ยงดูหล่อนอย่างดี แม้แต่รอยขีดข่วนยังแทบจะไม่มี แล้วเขาเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาทำให้หล่อนเจ็บทั้งกายและใจ ดวงตาคู่สวยลุกวาวจ้องร่างแกร่งที่ยังคงหลับสนิทคนที่ทำให้เธอเจ็บ ก็คือ คนที่นอนหลับตาพริ้มนั่น!คนที่พรากพรหมจรรย์ไปจากเธอ ก็คือคนที่นอนนิ่งอย่างสบายบนเตียงนั่น!เขาทำให้หล่อนเจ็บระบมไปทั้งกาย แต่เขากลับหลับสบายบนเตียงของหล่อน!!! ความเสียใจบวกกับความโกรธพุ่งจี๊ดแล่นสู่สมอง กำปั้นน้อยของเจ้าของเตียงพุ่งใส่คนที่ยังหลับตาพริ้ม“อ๊าย!”มือเรียวแกร่งคว้าข้อมือหล่อนได้ทันที่จะชกลงบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ร่างหนาลุกขึ้นแล้วกระชากร่างบางเข้าแนบอก พร้อมกับซุกจมูกโด่งฝังแก้มนวล สูดกลิ่นกายสาวอ่อน ๆ เหมือนดอกซากุระ ที่ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มได้เสมอ“ปล่อย!” ร่างสวยเปล่าเปลือยดิ้นขลุกขลักในอ
หล่อนเริ่มตัวสั่นแล้วอ่อนระทวยไปทั้งร่างกับสัมผัสของมือแกร่ง แต่แสนอบอุ่น เธอต้องเอนกายเบียดชิดกำแพงเพื่อใช้เป็นหลักยึดร่างไว้ไม่ให้ร่างที่อ่อนปวกเปียกไหลไปกองกับพื้น ขนอ่อนในกายสาวลุกซู่จนต้องร้องห้าม“หยุด! ฉันอาบน้ำเองเป็น!”“เงียบ!”เสียงทุ้ม ไม่ได้ตวาดแต่ทรงอำนาจ เขาไม่ใช่เจ้านายหล่อน แต่ทำไมหล่อนต้องกลัว นี่คือคำตอบที่หล่อนเองก็ตอบไม่ได้ และยอมตามใจเขาเสมอมือแกร่งแทรกลึกเข้าหว่างขาเนียน จนถึงกลีบกุหลาบ น้ำอุ่นไหลอาบจากศีรษะผ่านหน้าอกชูชัน ไหลลงมาสู่หว่างขาความอุ่นซ่านเข้าไปพร้อมกับปลายนิ้วแกร่งหากแต่สัมผัสนั้นอ่อนโยนเหนือคณนา ปลายนิ้วอุ่นซ่านค่อย ๆ คลี่กลีบกุหลาบงาม ให้น้ำอุ่นได้ชำระคาบมลทินที่เขากระทำไว้ขาของสาวน้อยเริ่มอ่อนระทวยลงอีกครั้ง จวนเจียนจะยืนไม่ไหวจนต้องจับไหล่กำยำไว้ ใบหน้าสวยแหงนหงายจนหลังแอ่น เมื่อนิ้วแกร่งถูไถเกสรกุหลาบ“ยะ.... อย่า... อา”ความมัวเมา ซ่านกระสันกำลังครอบงำหล่อนอีกครั้ง หล่อนหัวหมุนกับการเคลื่อนไหวของมือแกร่งและนิ้วร้าย กุหลาบงามเป่งด้วยความถวิลหา กลีบกุหลาบกลืนกินนิ้วแกร่งอย่างร้ายกาจ “อื้อ ยะ อย่า คะ อาจารย์ อื้ออออออ”“คุณบอก..