“อืม ใช่ครับ เรียกได้ว่าเป็นซากุระสุดท้ายที่บานให้เชยชมก่อนที่จะร่วงหมดทั้งประเทศ เหมือนกับ...”
เขาหยุดคำพูดแค่นั้น แล้วกระดกเครื่องดื่มในแก้วจนหมด ดูเหมือนมีม่านบางอย่างเกิดขึ้นในแววตาคมกริบคู่นั้น
คิ้วเรียวงามของหญิงสาวขมวดเข้าหากันเมื่อเขาหยุดพูดไปเฉย ๆ หล่อนจึงชวนคุยต่อ เพื่อดำเนินการไปตามแผนที่วางเอาไว้
“ฉันฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งจะไปเที่ยวญี่ปุ่น อยากเห็นซากุระสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่พอกลับมาทำงานที่บ้านเกิด ก็เหมือนว่าชีวิตจะยุ่งทุกวัน ฮ่า ๆ”
“ชอบซากุระ?”
คำถามสั้นเช่นเคย แต่คนฟังกลับรู้สึกยินดีที่เขายังโต้ตอบบ้าง
“ค่ะ ซากุระ ซูชิ ออนเซ็น ชอบทุก ๆ อย่างที่เป็นญี่ปุ่น ถ้าวันไหนไปญี่ปุ่น จะขอนอนแช่ออนเซ็นดูฟูจิให้หนำใจไปเลย !”
ชายหนุ่มมองแววตาเพ้อฝันของคนเล่า ยิ้มลึก
“แล้วอาจารย์ล่ะคะ?”
“ครับ”
หญิงสาวเลิกคิ้วสูง คำว่า “ครับ” คือ ชอบหรือไม่ชอบ
ราวกับว่าเขาพยายามรักษาระยะห่างไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งก้าวล่วงเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของเขามากเกินไป
ความเจ็บแปลบ แล่นสู่หัวใจดวงน้อย นิญาดาต้องเตือนตัวเองอีกครั้ง เขาคือเครื่องมือในการแก้แค้นเท่านั้น! เรื่องส่วนตัวของเขาเราไม่จำเป็นต้องรู้ !
สาวสวยยกไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว แล้วแสร้งหลับตา ยกมือนวดขมับเบา ๆ คล้ายคนมึน ๆ เมา ๆ แล้วแอบขยิบตาให้น้องชายผู้ร่วมแผนการ ส่งสัญญาณให้เริ่มแผนการขั้นต่อไป
“สงสัยจะเมาแล้วค่ะ ต้องขอตัวก่อนนะคะ
นิญาดาลุกขึ้นเดินได้สองก้าว ร่างบางก็โงนเงน ภีมถลาเข้าประคองตามบทที่วางเอาไว้
“อุ้ย! คุณพี่! น้องบอกแล้วใช่ไหมไม่ให้ดื่มเยอะ”
“คิ คิ ม่าย เมา”
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก พยายามเดินให้ตรงโดยมีน้องชายประคองไปตามทาง
เมื่อพ้นระยะสายตาของกลุ่มคน ระหว่างทางกลับห้องพัก คนแกล้งเมากระซิบคนประคอง
“คุณน้องเขาตามมายัง”
เขา อาจารย์เตชิน สุดที่รักของหัวหน้า!!
ภีมชำเลืองมองด้านหลัง เห็นเงาผู้ชายสองคน เคลื่อนไหวด้านหลังคาดว่าต้องเป็นเป้าหมาย
“มาแล้วคุณพี่ พร้อมนะจ๊ะ”
สิ้นเสียงพูดของน้องชาย นิญาดาเอนตัวมากขึ้นจนคนประคองแทบจะทรุดลงพื้น
“คุณพี่ ยืนตรง ๆ สิคะ”
คนประคองเริ่มโวยวายเสียงดังลั่น สักพักเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง
“ว่าไงเจ๊! พูดให้มันรู้เรื่องหน่อยสิเจ๊! เออ ๆ เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวกลับไปรับ”
ภีมจงใจพูดโทรศัพท์ให้ดังกว่าปกติ และเมื่อหางตาเหลือบเห็นสองหนุ่มที่ใกล้เข้ามาจวนเจียนจะถึงที่พวกเขายืนอยู่ เขาจึงรีบแสดงละครฉากตอไปทันที
“ตายแล้ว! คนนึงก็เดินเองไม่ได้ ส่วนอีกคนก็ฟุบที่โต๊ะ โอ๊ย! ชะนีทั้งหลาย ลำบากสาวสวยอย่างฉัน จริง ๆ เลย”
ภีมเพิ่มระดับความดังของเสียงขึ้นไปอีก
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับคุณภีม”
เสียงสวรรค์ของ ดร. พงษ์ ดังขึ้น
“อุ้ย! ขอบคุณที่สุดค่ะ คือ พี่เกดเมาฟุบที่โต๊ะหนูต้องไปเก็บพี่เกด แต่พี่นิก็เมาจนเดินกลับห้องเองไม่ได้ หนูเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียว ตอนนี้ไม่รู้จะไปซ้ายหรือไปขวาดีแล้วค่ะ ช่วยทีเถอะค่ะ”
ภีมส่งสายตาเว้าวอนเรียกร้องขอความช่วยเหลือจาก ดร. พงษ์ ที่ดูจะเป็นมิตรมากกว่าอีกคนที่ยังเฉย อาจารย์เตชินยืนนิ่ง นิ่งจนน่ากลัว กลัวว่าเขาจะจับได้
“งั้นเดี๋ยวผมพาคุณนิไปส่งที่ห้องแล้วกันนะครับ”
ดร. พงษ์ เสนอทางออก
“โอ๊ย! ไม่ได้ค่ะ พี่นิน่ะตัวนิดเดียว แต่พี่เกดน่ะตัวเบ้อเริ่มเลย อาจารย์พงษ์มาช่วยภีมลากเจ๊เกดดีกว่าค่ะ ส่วนพี่นิ รบกวนฝากให้อาจารย์เตชิน ไปส่งที่ห้องด้วยนะคะ เพราะห้องพี่นิอยู่ติดกับห้องอาจารย์ ค่ะ”
คนแสดงละครไม่เปิดโอกาสให้คุณชายน้ำแข็งปฏิเสธ ผลักร่างบางของนิญาดาเอนซบไหล่กว้างของคนยืนนิ่งทันทีแล้วฉุดมืออีกคนให้เดินกลับไปลานเลี้ยงรับรองร่างบาง โซเซออกห่างคนตัวโต
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉะ ฉันเดินไหว”
นิญาดาตั้งใจแกล้งให้เหมือนคนเมาอย่างไร้สติที่สุด ทางเดินที่ทอดสู่อาคารพัก ปูด้วยหินภูเขาที่ถูกวางไว้เพียงหยาบ ๆ เท้าที่แกล้งเดินโงนเงนกลับสะดุดหินจริง ๆ
ว้ายยยยย !
คนสะดุดหิน คะมำไปข้างหน้า ดีที่มือใหญ่คว้าไว้ได้ทัน ร่างบางจึงปะทะอกกว้าง แทนก้อนหินเบื้องล่าง
ตาคมกริบ วาวโรจน์ ในเงามืด ร่างบางในอ้อมแขนแกร่งสั่นน้อย ๆ หัวใจหญิงสาวหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม ดวงหน้าละมุน หลบสายตาคมกริบ มือเล็กดันอกแกร่งให้ห่างออก
“ปล่อยค่ะ เดินเองได้”
หญิงสาวเผลอขึ้นเสียง ลืมสนิทว่าตนเองต้องแกล้งเมา อาจารย์หนุ่ม มองคนออกคำสั่งให้ปล่อย เขายิ้มเย็นก่อนจะตวัดมือหนาช้อนร่างบางให้ลอยขึ้นจากพื้น
อ๊ายยยยยย !
คนถูกช้อนให้ลอยขึ้นจากพื้นคว้าคอคนอุ้มยึดไว้ไม่ให้ตก หน้าน้อย ๆ ซบอกแกร่งจนได้กลิ่นอายของบุรุษ หล่อนใจเต้นตึกตัก ใบหน้าร้อนผ่าว
ยิ่งเขาไม่พูดหล่อนก็ยิ่งกลัว หัวใจเริ่มเต้นถี่ขึ้น กลัวจนไม่กล้าสบตาคม ๆ นั่นเพราะคนที่หล่อนเล่นด้วยคนนี้ไม่ใช่หมูอย่างที่คิด แต่เป็นราชสีห์ หล่อนควรจะแกล้งเมาแล้วดำเนินไปตามแผนหรือจะยอมแพ้
กว่าจะรู้ตัว ร่างสูงสง่าก็อุ้มหล่อนมาจนถึงหน้าห้องพัก แผนที่วางเอาไว้ใกล้จบแล้ว
นิญาดาลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเขาบรรจงวางร่างเธออย่างอ่อนโยนที่หน้าห้อง
“ขอบคุณค่ะ”
เจ้าของห้องกล่าวขอบคุณ พลางชำเลืองมองที่พุ่มไม้หน้าห้อง หวังว่าภีมกับพี่เกดคงจะทำตามแผนที่วางเอาไว้เรียบร้อยเช่นกัน
นิญาดาแปะคีย์การ์ดลงบนประตู
คลิก!
เสียงกลไกคลายล็อก มือบางจับลูกบิดประตู มือหนาโอบจากด้านหลังทาบทับลงอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวหันขวับไป ก่อนที่จะเอื้อนเอ่ยคำใด ปากบางถูกประทับด้วยปากร้อนระอุของชายหนุ่ม หญิงสาวตาลุกวาวด้วยความตกใจกับจูบครั้งแรกในชีวิต
ในขณะที่นิญาดาทำอะไรไม่ถูก มือหนาของเขาก็กระชากเอวกลมแนบชิดท่อนกายกำยำ ส่วนมืออีกข้างจับหมุนลูกบิดประตูเปิดออกแล้วผลักร่างในอ้อมกอดเข้าไปในห้องพร้อมกับจูบที่ร้อนแรงและหนักหน่วงยิ่งขึ้น
เมื่อประตูปิดลง สองร่างที่ซ่อนในพุ่มไม้หน้าห้องรีบกระโจนออกมา ทั้งคู่พยายามกัดปากตัวเองไม่ให้ส่งเสียงกรี๊ดกับภาพที่เห็นเมื่อครู่
“เจ๊! ทำไงดี พี่สาวโดนอาจารย์เตชินเขมือบแน่ ๆ โอ๊ย ตายแล้ว! เตชินผู้เยือกเย็น กลายเป็นปีศาจร้อนรักไปได้ไงเนี่ย ตาย! ตาย! ตาย!”
ภีมร้อนใจไม่คิดว่าแผนการเล่น ๆ แค่ต้องการถ่ายภาพชอตเด็ดไปเย้ยหัวหน้าจะบานปลายจนถึงขั้นเป็นเรื่องบนเตียง
“เออ พี่ลืมบอกพวกเธออีกหนึ่งเรื่อง”“อะไร้ เจ๊!”ภีมหน้าเครียด“มะ เมื่อก่อน อาจารย์เตชิน เคยได้ฉายาว่า คาสโนวาตัวพ่อ!”“อุ๊ปส์”ภีมหน้าเหวอ จะบุกเข้าไปช่วยพี่สาวตอนนี้ ก็กลัวจะได้ดูหนังสด แต่ถ้าไม่ช่วยเขาก็จะรู้สึกผิด เพราะแผนการอ่อยผู้ชายครั้งนี้ เขาเป็นคนวางแผนให้หญิงสาวทั้งหมด“เอาอย่างนี้แล้วกัน เราไปแอบฟังที่ประตูกันเถอะ ถ้าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือค่อยบุก!”“ถ้าไม่”ภีมถามกลับอย่างสยอง“ก็แยกย้ายสิจ๊ะ”แล้วสองร่างก็แนบหูเข้ากับประตูห้องต้นเหตุอือ... อ่า อือ... อะทั้งคู่ได้ยินเสียงครางเล็ดลอดออกมาจากข้างในชัดเจน หน้าของทั้งคู่แดงก่ำแดง ต่างสบตาอย่างรู้กัน แล้วค่อย ๆ ย่องหายกลับห้องใครห้องมัน อย่างรู้สถานการณ์ปัง ! ทันทีที่ประตูปิดลง ชายหนุ่มผลักหญิงสาวในอ้อมกอดดันเข้าชิดผนังห้อง แล้วมือใหญ่ที่แข็งราวคีมเหล็กยึดข้อมือเล็กติดกำแพงปากหนาประกบกลีบปากบางไม่ยอมห่าง จูบรุนแรง ไม่อ้อยอิ่งอย่างคนหิวโหย เรียวลิ้นร้อนของชายหนุ่มซอนไซ้ คลอเคล้าอย่างเร่งร้อน ดูดดื่มจนสาวน้อยในกำแพงกล้ามเนื้ออ่อนแรง หากไม่เพราะเขาตรึงหล่อนไว้กับผนัง ร่างบางคงพับลงพื้นเพราะไฟสว
ปากร้ายร้อนระอุ ขบเม้มปากบาง ลิ้นร้ายซอกไซ้กวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างผู้ช่ำชอง แล้วละออก โลมเล้าไล่เลียเรื่อยลงมาที่พวงแก้วนวล ซุกไซ้คอขาวผ่องอย่างเร่งเร้า ปลายลิ้นสากไล้วนลงมาตรงเนินอกอวบอัด ดูด ขบ เน้นเบา ๆ“... อือ.... อะ.... อา....”เสียงร้องครางเบาหวิว ร่างบางดิ้นทุรนทุรายภายใต้อ้อมกอด เนื้อเนียนนุ่มเสียดสีกล้ามเนื้อหนา ยิ่งเหมือนการเติมเชื้อไฟสวาทเร่งเร้าให้เขาระเบิดเพลิงราคะมากยิ่งขึ้นมือเรียวแกร่งของชายหนุ่มเคล้าคลึงสะโพกบีบเน้นหนั่นเนื้อกลมกลึงอย่างหนักหน่วง มืออีกข้างกระชับเอวคอดแน่น ไฟราคะในกายหนุ่มโหมแรงอย่างต่อเนื่อง ดวงตาคมดุดันวาวโรจน์ เมื่อซุกไซ้ทรวงอกสล้างจนสาแก่ใจเขาจึงตวัดร่างบางอุ้มพาไปที่เตียงเขาปล่อยร่างอ่อนระทวยลงบนเตียงนุ่ม แล้วปลดตะขอกางเกงของตนเอง รูดออกจากตัว พร้อมทั้งกระชากเสื้อออกอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าร่างนวลผ่องนั้นจะหายไปนิญาดารวบรวมสติอันน้อยนิด พลิกขยับตัวคลานหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อป้องกันตัวจากชายหนุ่ม โคมไฟอยู่แค่เอื้อมแต่ด้วยฤทธิ์ของเหล้าบวกกับการเล้าโลมเมื่อครู่จึงทำให้สมองของหล่อนยังคงมึนงง การเคลื่อนไหวช้ากว่าที่ควรจะเป็น มือน้อยเก
“อะ... อา....”ร่างบางแอ่น หยัดสะโพกครวญคราง เมื่อจมูกโด่งคมสันบดลึก ถูกไถกับตุ่มเกสรกุหลาบงาม ปากร้อนผนึกกินดอกไม้ทั้งกลีบ ลิ้นสากซอนไซ้ โลมเลียกลีบกุหลาบอย่างช่ำชอง ความเสียวซ่านแผ่ไปทั้งกายสาวจนน้ำค้างชุ่มฉ่ำเต็มกลีบมือใหญ่ช้อนสะโพกกลมกลึง บีบเน้น ในขณะที่ปากหนาขบเม้มหนักหน่วง ลิ้นสากระอุสอดแทรกโลมเลียตุ่มเกสร กลืนกินกลีบดอกอย่างหิวกระหาย จนร่างบางบิดเร่าแตกสลายกลายเป็นดวงดาวขาวพร่างไปกับปากและลิ้นดุดัน หล่อนก็ยิ่งครางเสียงดัง“...อ๊า.....”ร่างบางที่กำลังถูกไฟสวาทเข้าครอบงำจนหล่อนเองจำเสียงตนไม่ได้ จิตใจเธอวาบหวามไปกับการเคลื่อนไหวของลิ้นร้ายจนไม่ได้ยินอะไร ลมพายุลูกใหญ่กำลังอื้ออึงเต็มสองหู ความเสียวซ่านอันแปลกประหลาดพุ่งกระจายไปทั่วร่างก่อนจะมุ่งหน้าสู่กึ่งกลางกายสร้างความหวานไหวให้หล่อนอ่อนเปลี้ยราวกับร่างกายไร้กระดูก“...หึ... หึ...”ชายหนุ่มคำรามในลำคออย่างเหิมเกริม ยินดีที่เรียกเสียงครางจากคนรั้นได้“แค่นี้... ก็ร้องจนถึงสวรรค์.. ต่อจากนี้...คือ บทเรียนจากคาสโนวา!”มือหนาประคองแก่นกายกำยำร้อนจนแทบจะระเบิด จ่อ... ถู... ไถ ที่กุหลาบงามอันชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวานร่างน้อยบิ
เกิดความเจ็บแปลบที่หว่างขา มือเล็กแตะร่องน้อยกลางกายของตน สัมผัสได้ถึงของเหลวหนืด เมื่อยกปลายนิ้วขึ้นดู หล่อนก็แทบจะกรีดออกมา เลือดสีแดงเข้มติดที่ปลายนิ้ว! ดวงตากลมโตเพ่งพินิจร่างกายตนอย่างละเอียด เนื้อขาวผ่องเต็มไปด้วยรอยจูบที่เขาฝากไว้เป็นจ้ำ ๆหล่อนถูกเลี้ยงมาอย่างประคบประหงม พ่อกับแม่เลี้ยงดูหล่อนอย่างดี แม้แต่รอยขีดข่วนยังแทบจะไม่มี แล้วเขาเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาทำให้หล่อนเจ็บทั้งกายและใจ ดวงตาคู่สวยลุกวาวจ้องร่างแกร่งที่ยังคงหลับสนิทคนที่ทำให้เธอเจ็บ ก็คือ คนที่นอนหลับตาพริ้มนั่น!คนที่พรากพรหมจรรย์ไปจากเธอ ก็คือคนที่นอนนิ่งอย่างสบายบนเตียงนั่น!เขาทำให้หล่อนเจ็บระบมไปทั้งกาย แต่เขากลับหลับสบายบนเตียงของหล่อน!!! ความเสียใจบวกกับความโกรธพุ่งจี๊ดแล่นสู่สมอง กำปั้นน้อยของเจ้าของเตียงพุ่งใส่คนที่ยังหลับตาพริ้ม“อ๊าย!”มือเรียวแกร่งคว้าข้อมือหล่อนได้ทันที่จะชกลงบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ร่างหนาลุกขึ้นแล้วกระชากร่างบางเข้าแนบอก พร้อมกับซุกจมูกโด่งฝังแก้มนวล สูดกลิ่นกายสาวอ่อน ๆ เหมือนดอกซากุระ ที่ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มได้เสมอ“ปล่อย!” ร่างสวยเปล่าเปลือยดิ้นขลุกขลักในอ
หล่อนเริ่มตัวสั่นแล้วอ่อนระทวยไปทั้งร่างกับสัมผัสของมือแกร่ง แต่แสนอบอุ่น เธอต้องเอนกายเบียดชิดกำแพงเพื่อใช้เป็นหลักยึดร่างไว้ไม่ให้ร่างที่อ่อนปวกเปียกไหลไปกองกับพื้น ขนอ่อนในกายสาวลุกซู่จนต้องร้องห้าม“หยุด! ฉันอาบน้ำเองเป็น!”“เงียบ!”เสียงทุ้ม ไม่ได้ตวาดแต่ทรงอำนาจ เขาไม่ใช่เจ้านายหล่อน แต่ทำไมหล่อนต้องกลัว นี่คือคำตอบที่หล่อนเองก็ตอบไม่ได้ และยอมตามใจเขาเสมอมือแกร่งแทรกลึกเข้าหว่างขาเนียน จนถึงกลีบกุหลาบ น้ำอุ่นไหลอาบจากศีรษะผ่านหน้าอกชูชัน ไหลลงมาสู่หว่างขาความอุ่นซ่านเข้าไปพร้อมกับปลายนิ้วแกร่งหากแต่สัมผัสนั้นอ่อนโยนเหนือคณนา ปลายนิ้วอุ่นซ่านค่อย ๆ คลี่กลีบกุหลาบงาม ให้น้ำอุ่นได้ชำระคาบมลทินที่เขากระทำไว้ขาของสาวน้อยเริ่มอ่อนระทวยลงอีกครั้ง จวนเจียนจะยืนไม่ไหวจนต้องจับไหล่กำยำไว้ ใบหน้าสวยแหงนหงายจนหลังแอ่น เมื่อนิ้วแกร่งถูไถเกสรกุหลาบ“ยะ.... อย่า... อา”ความมัวเมา ซ่านกระสันกำลังครอบงำหล่อนอีกครั้ง หล่อนหัวหมุนกับการเคลื่อนไหวของมือแกร่งและนิ้วร้าย กุหลาบงามเป่งด้วยความถวิลหา กลีบกุหลาบกลืนกินนิ้วแกร่งอย่างร้ายกาจ “อื้อ ยะ อย่า คะ อาจารย์ อื้ออออออ”“คุณบอก..
คนถูกถามกลืนกาแฟอย่างยากเย็นราวกับว่ามันเป็นของแข็ง แล้วเม็ดน้ำตาก็ร่วงแหมะลง เล่นเอาคนถามใจคอไม่ดี“เฮ้ย! พี่นิเป็นอะไร?”มือเรียวบางของภีมเขย่าแขนคนที่น้ำตาร่วง“..เขา... เขา... ฮือ...”นิญาดาพยายามจะตอบ แต่มันช่างยากเย็น คำตอบมันละลายหายไปกับเสียงสะอื้นเบา ๆ พี่เกดโน้มเข้ามากอดคนสะอึกสะอื้นจนตัวโยน มือหนึ่งโอบรอบศีรษะสาวน้อยเข้าแนบอก อีกมือลูบหลังที่สั่นสะท้านปลอบเบา ๆ“ใจเย็น... นิ ใจเย็น... พี่รู้”คนเป็นพี่ใหญ่ปลอบในฐานะผู้ที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน“พี่นิ อย่าบอกนะว่า เมื่อคืนคือครั้งแรกของพี่!”ภีมกระซิบถาม ส่งผลให้ร่างบางสะอื้นหนักยิ่งขึ้น เพราะเสียใจกับความบริสุทธิ์ที่หล่อนอุตส่าห์เฝ้าถนอมไว้ให้เจ้าบ่าวในคืนวันวิวาห์ แต่กลับต้องมาสูญเสียให้ชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักกันง่าย ๆ ภายในคืนเดียว !พี่เกดฟาดมือลงบ่าคนปากมากเต็มแรง อีกฝ่ายจึงหยุดพูด คนถูกตีหน้าเบ้ ผู้มีประสบการณ์ประเมินจากอาการของคนในอ้อมแขนคงพอจะเดาได้ว่า นิญาดาคงจะเสียสาวให้กับอาจารย์หนุ่มครั้งแรกเป็นแน่แท้โชคดีที่กลุ่มของนิญาดานั่งอยู่ด้านในสุดตรงมุมของห้องอาหาร จึงไม่เป็นที่สังเกตของคนอื่น ๆภีมอาสาไปเ
หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ซอยส้นสูงสีแดงสดก้าวฉับ ๆ เข้ามาในสำนักงาน ผมสลวยสีดำเงางามสะบัดไปมาตามจังหวะก้าวเดิน ดวงตากลมโตแต่งเติมด้วยอายแชโดว์เพิ่มความหวานซ่อนเปรี้ยวให้ดวงตาคู่งาม หญิงสาวเหลือบดูนาฬิกาที่แขวนบนผนังห้อง 08.30 น. เวลาตอกบัตรเข้างานพอดิบพอดี ปากบางแต้มด้วยสีแดงกุหลาบกระตุกยิ้มพร้อมมองสบตาสาวใหญ่ที่กำลังมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า“สวัสดีค่ะพี่ณี”นิญาดา สาวสวยประจำสำนักงานทักทายเสียงใสอย่างมีจริตจะก้านพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าแววตาถมึงทึงของหัวหน้าสำนักงานจ้องสาวน้อยที่ทักทายเพียงแวบเดียว แล้วสะบัดหน้าบูดบึ้งนั้นหันไปสนใจกับงานตรงหน้าอีกครั้งหนึ่งสาวสวยยักไหล่ คิดในใจ ‘ก็ช่างปะไรต่างคนต่างอยู่’แล้วขายาวเรียวนวลเนียนภายใต้กระโปรงสีแดงแปร๊ดรัดรูปอย่างสาวออฟฟิศสมัยใหม่ก็ก้าวไปที่โต๊ะประจำตำแหน่งอย่างเคยชิน สายตาคู่งามก็หลุบต่ำลงเมื่อเห็นหนังสือราชการที่ตนอุตส่าห์ตั้งใจทำเมื่อวานกว่ายี่สิบฉบับ ถูกขีดฆ่า แก้ไขด้วยปากกาสีแดงเป็นปื้น ๆเฮ่อ !นิญาดาพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วทิ้งร่างอรชรบอบบางลงบนเก้าอี้แม้จะถูกกลั่นแกล้งจนเคยชิน แต่ก็ยังอดเหนื่
เมื่อเธอได้หัวข้อการอบรมแล้ว กิจกรรมต่าง ๆ หัวข้อบรรยายย่อย ก็พรั่งพรูออกมาอย่างง่ายดาย‘วิทยากร... แน่นอน!!! ต้องเป็นคนที่ทุกคนต้องร้องว้าว!’เมื่อเรียวเริ่มละเลงลงบนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์อีกครั้งเพื่อค้นหารายชื่อและประวัติผู้ทรงคุณวุฒิที่เหมาะสมสำหรับการเป็นวิทยากรที่ดีที่สุดในงานอบรมดวงตาเป็นประกายสดใสของเธอจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่กะพริบ หญิงสาวมีความสุขกับการทำงานที่ท้าทาย แม้จะเจออุปสรรคบ้าง แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของเธอ‘คนนี้เลย! ศ. ดำรง ผู้ที่ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุด ในประเทศไทย !’นิญาดาตาลุกวาวเมื่อค้นเจอชื่อวิทยากรคลิกนิญาดาคลิกปุ่มกดส่งอีเมลเพื่อทาบทามศาสตราจารย์ดำรงค์ทันทีที่ค้นเจอจากนั้นเรื่องที่เธอจะต้องจัดการต่อไป คือ สถานที่จัดอบรม และต้องเป็นที่ที่สวยงามน่าไปมากที่สุด ซึ่งคงหนีไม่พ้น “รีสอร์ตเดอะเบสต์ออร์คิด”รีสอร์ตหรูท่ามกลางธรรมชาติที่แสนจะโรแมนติกนิญาดาหลับตาพริ้มฝันหวานถึงที่นอนนุ่มท่ามกลางป่าเขาริมน้ำตก ในขณะกำลังค้นหาข้อมูลโรงแรมในอินเทอร์เน็ต หล่อนมักมีความสุขกับการทำงานเสมอเช้าวันต่อมานิญาดาเปิดเมล ด้วยใจระทึก-ผมยินดีเป็นวิทยากร