“เออ พี่ลืมบอกพวกเธออีกหนึ่งเรื่อง”
“อะไร้ เจ๊!”
ภีมหน้าเครียด
“มะ เมื่อก่อน อาจารย์เตชิน เคยได้ฉายาว่า คาสโนวาตัวพ่อ!”
“อุ๊ปส์”
ภีมหน้าเหวอ จะบุกเข้าไปช่วยพี่สาวตอนนี้ ก็กลัวจะได้ดูหนังสด แต่ถ้าไม่ช่วยเขาก็จะรู้สึกผิด เพราะแผนการอ่อยผู้ชายครั้งนี้ เขาเป็นคนวางแผนให้หญิงสาวทั้งหมด
“เอาอย่างนี้แล้วกัน เราไปแอบฟังที่ประตูกันเถอะ ถ้าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือค่อยบุก!”
“ถ้าไม่”
ภีมถามกลับอย่างสยอง
“ก็แยกย้ายสิจ๊ะ”
แล้วสองร่างก็แนบหูเข้ากับประตูห้องต้นเหตุ
อือ...
อ่า อือ... อะ
ทั้งคู่ได้ยินเสียงครางเล็ดลอดออกมาจากข้างในชัดเจน หน้าของทั้งคู่แดงก่ำแดง ต่างสบตาอย่างรู้กัน แล้วค่อย ๆ ย่องหายกลับห้องใครห้องมัน อย่างรู้สถานการณ์
ปัง !
ทันทีที่ประตูปิดลง ชายหนุ่มผลักหญิงสาวในอ้อมกอดดันเข้าชิดผนังห้อง แล้วมือใหญ่ที่แข็งราวคีมเหล็กยึดข้อมือเล็กติดกำแพง
ปากหนาประกบกลีบปากบางไม่ยอมห่าง จูบรุนแรง ไม่อ้อยอิ่งอย่างคนหิวโหย เรียวลิ้นร้อนของชายหนุ่มซอนไซ้ คลอเคล้าอย่างเร่งร้อน ดูดดื่มจนสาวน้อยในกำแพงกล้ามเนื้ออ่อนแรง หากไม่เพราะเขาตรึงหล่อนไว้กับผนัง ร่างบางคงพับลงพื้นเพราะไฟสวาทที่เขาถ่ายเทผ่านปลายลิ้นเผาหล่อนจนมอดไหม้
“...อือ....”
หล่อนครางเบาหวิว.. กระเส่า...
ลิ้นสากอุ่นไล้ไปตามเรียวปากอิ่ม ขบกัดเบา ๆ ดูดดื่มความหอมหวานที่หล่อนมอบให้ครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับจะไม่มีวันอิ่มกับรสจูบนี้
“...อือ..... อา....”
นิญาดาส่งเสียงครางกระเส่า พร่า ลมหายใจติดขัด
“...หือ... อา..”
ชายหนุ่มหอบหายใจ ชีพจรเต้นรัว เลือดในกายชายเดือดพล่าน เพลิงสวาทที่เขาจุดขึ้น มันแผดเผาทั้งเขาและเธอ
เขาถอนเรียวปากขึ้นจ้องลึกในตาสาวน้อยในกรงแขนด้วยสายตาเร่าร้อน ริมฝีปากของหล่อนยังอุ่นซ่านด้วยจูบเร่าร้อนของเขา
“หึ... หึ...”
ชายหนุ่มแค่นหัวเราะในลำคอ พึงพอใจกับรอยรักที่เขาฝากไว้
นิญาดายังคงอ่อนระทวย สั่นระริกราวกับลูกนกที่พลัดตกจากรัง หอบหายใจถี่ ใบหน้าที่เคยขาวผ่องบัดนี้แดงระเรื่อร้อนผะผ่าว เธอพยายามมองสบตาคม เรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ความรู้สึกวาบหวาม เสียวซ่านไปทั้งตัวเมื่อครู่ ความรู้สึกสุขอย่างประหลาดที่หล่อนเพิ่งเคยรู้จักเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ก็แทบจะขาดใจ คล้ายลมหายใจจะดับสูญไปกับจูบที่เร่าร้อนของเขา
“พอใจหรือยัง?”
คนปากจัดเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ ราวกับจะหยาม แม้เขาจะปล่อยแขนหล่อนให้เป็นอิสระ แต่ยังคงกักขังร่างบางให้อยู่ภายใต้กรงแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่แทบจะชิดหล่อนทุกอณูเนื้อหนัง
“อะไร?”
เสียงสั่นพร่าถามกลับ พลางเอียงหน้าหลบใบหน้าที่ชวนให้หัวใจเต้นแรง เขาโน้มเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นกายชายอวลจมูก
“คัน.. มากสินะ ถึงกระโดดกอดผู้ชายตั้งแต่ยังไม่รู้จัก”
คำดูถูกออกมาจากปากเขา ตรงเข้าสู่หัวใจดวงน้อยจนชาหนึบ! แล้วตีกลับขึ้นสู่สมอง ความโกรธพวยพุ่งลุกโชนฉายออกมาผ่านแววตา
“ไม่ใช่!... ฉันตกรถจริง ๆ”
คนในอ้อมแขนตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด ตาจ้องตาประสานกันอย่างใกล้ชิด
“อ้อ... เหรอ.. “
เขาเหยียดยิ้มที่มุมปาก แววตาแสนเจ้าเล่ห์
นิญาดาผลักหน้าอกคนเจ้าเล่ห์สุดแรง ร่างหนาไม่ขยับแม้แต่น้อย แถมยังหัวเราะอย่างร้ายกาจ เขาโน้มหน้าเข้าใกล้จนหล่อนสัมผัสได้ถึงไออุ่นของลมหายใจเขา ชายหนุ่มรุกร่างบางจนแทบจะแนบเป็นเนื้อเดียวกัน
“...หึ!.. เมื่อตอนหัวค่ำเธอยังโชว์หน้าอกอวบ ๆ ให้ฉัน ไม่ใช่เหรอ?”
มือเรียวแกร่งของคนเจ้าเสน่ห์ลูบไล้จากแก้มเนียนที่บัดนี้ร้อนผะผ่าวจนแทบจะไหม เรื่อยมาจนถึงเนินอกอิ่มที่ทะลักออกมาจากเสื้อลูกไม้ สั่นไหวขึ้นลงตามจังหวะหอบหายใจ
ชายหนุ่มกลั้นหายใจอย่างลืมตัว เขาสะกดกลั้นความเป็นชายที่เต่ง ปวดหนึบตรงหว่างขาจนแทบจะระเบิด หญิงร่านสวาทคนนี้มีอิทธิพลกับเขาเสียจริง !
“มะ .. ไม่ใช่”
หญิงสาวปัดมือชายหนุ่มออก เขากดไหล่เธอติดผนังอย่างผู้เหนือกว่า ปากบางสั่นระริก ปฏิเสธไม่เต็มเสียง เพราะหล่อนตั้งใจให้ท่าเขาจริง ๆ แต่ก็แค่หลอกล่อให้เขามาใกล้ชิดเพื่อที่จะเย้ยหัวหน้าเท่านั้น!!! ไม่ได้คิดจะลงเอยกับเขาที่เตียง !
“เหรอ”
เสียงทุ้มทอดยาว แค่นหัวเราะในลำคอ อย่างดูถูก แล้วคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด
“มารยา!”
อยากได้เขาจนสั่น ออดอ้อนให้เขามาส่งถึงห้องขนาดนี้ ยังกล้าปฏิเสธว่าไม่ได้อ่อย! ผู้หญิงร่าน ร้อยเล่ห์อย่างหล่อน เขาจะต้องสั่งสอนให้สำนึก ! จะได้เลิกยั่วสวาทผู้ชายเล่น ๆ ให้ต้องเจ็บปวด เหมือนกับที่เขาเคยถูกกระทำ !
เขากระชากหล่อนด้วยอารมณ์โกรธ อกนิ่มปะทะอกแกร่ง มือหนาช้อนจับที่คอระหงทำให้หล่อนแหงนหน้าขึ้น ริมฝีปากของเขาบางคล้ายหญิงสาวแต่ทว่าดุดัน มันประกบบดขยี้ปากสาวน้อยที่อุ่นนิ่มอย่างหนักหน่วง จนร่างในอ้อมแขนเสียวซ่านไปทั้งตัว ราวกับจะลงทัณฑ์
“...อือ...”
หล่อนครางเสียงดังประท้วง มือน้อย ๆ ผลักอกเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง เลือดในกายสูบฉีดแรงจนหูอื้อและทำให้หล่อนมึนงง ดวงใจเต้นแรงจนเธอแทบคลั่ง มันคือปฏิกิริยาในร่างกายของสาวผู้ไร้เดียงสาที่สัมผัสกับรสจูบครั้งแรกในชีวิต!!!
อกนิ่มหยัดดันเข้าหาแผงอกแกร่งโดยไม่รู้ตัว มือเรียวแกร่งโลมเล้าบีบเน้นสะโพกกลมกลึงผ่านผ้าบางเบา แรงเสียดสีทำให้หล่อนตัวสั่นแล้วอ่อนระทวยไปทั้งร่างกับการลูบไล้ของมือชายหนุ่ม หล่อนแทบขาดใจในทุกครั้งที่เขาปลุกไฟปรารถนาในร่างบางให้ทวีความรุนแรง
“......อะ...อา...”
ปากบางเผยอรับริมฝีปากร้อน บดจูบด้วยความหิวกระหายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มือน้อยเลื่อนขึ้นเกาะเกี่ยวคอเขาไว้อย่างไร้เรี่ยวแรง
เขาละจูบ กระซิบแนบกลีบปากเล็กที่บวมเจ่อ เสียงสั่นพร่า ด้วยไฟราคะที่อัดแน่นในกาย
“รู้ไหมสาวน้อย.. อย่าล้อเล่นกับคาสโนวา!”
จ้องตาหล่อนด้วยสายตาคมกริบอย่างผู้เหนือกว่า
ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่สาว ๆ หลงใหลกัน บัดนี้ก้มลงแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น
“..หึ... หึ..”
ผู้ลงทัณฑ์หัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจก่อนที่จะบดขยี้เรียวปากหล่อนอีกครั้ง เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นจนร่างบางปวกเปียกไปด้วยความปรารถนา
จูบของเขาได้ทวีความร้อนแรงขึ้นทุกขณะ มือของคนอ่อนระทวยสอดเข้าในเรือนผมดกดำนุ่ม ราวกับวอนขอให้เขามอบสุขให้เธอตราบนานเท่านาน
“...อา..”
ปากร้ายร้อนระอุ ขบเม้มปากบาง ลิ้นร้ายซอกไซ้กวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างผู้ช่ำชอง แล้วละออก โลมเล้าไล่เลียเรื่อยลงมาที่พวงแก้วนวล ซุกไซ้คอขาวผ่องอย่างเร่งเร้า ปลายลิ้นสากไล้วนลงมาตรงเนินอกอวบอัด ดูด ขบ เน้นเบา ๆ“... อือ.... อะ.... อา....”เสียงร้องครางเบาหวิว ร่างบางดิ้นทุรนทุรายภายใต้อ้อมกอด เนื้อเนียนนุ่มเสียดสีกล้ามเนื้อหนา ยิ่งเหมือนการเติมเชื้อไฟสวาทเร่งเร้าให้เขาระเบิดเพลิงราคะมากยิ่งขึ้นมือเรียวแกร่งของชายหนุ่มเคล้าคลึงสะโพกบีบเน้นหนั่นเนื้อกลมกลึงอย่างหนักหน่วง มืออีกข้างกระชับเอวคอดแน่น ไฟราคะในกายหนุ่มโหมแรงอย่างต่อเนื่อง ดวงตาคมดุดันวาวโรจน์ เมื่อซุกไซ้ทรวงอกสล้างจนสาแก่ใจเขาจึงตวัดร่างบางอุ้มพาไปที่เตียงเขาปล่อยร่างอ่อนระทวยลงบนเตียงนุ่ม แล้วปลดตะขอกางเกงของตนเอง รูดออกจากตัว พร้อมทั้งกระชากเสื้อออกอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าร่างนวลผ่องนั้นจะหายไปนิญาดารวบรวมสติอันน้อยนิด พลิกขยับตัวคลานหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อป้องกันตัวจากชายหนุ่ม โคมไฟอยู่แค่เอื้อมแต่ด้วยฤทธิ์ของเหล้าบวกกับการเล้าโลมเมื่อครู่จึงทำให้สมองของหล่อนยังคงมึนงง การเคลื่อนไหวช้ากว่าที่ควรจะเป็น มือน้อยเก
“อะ... อา....”ร่างบางแอ่น หยัดสะโพกครวญคราง เมื่อจมูกโด่งคมสันบดลึก ถูกไถกับตุ่มเกสรกุหลาบงาม ปากร้อนผนึกกินดอกไม้ทั้งกลีบ ลิ้นสากซอนไซ้ โลมเลียกลีบกุหลาบอย่างช่ำชอง ความเสียวซ่านแผ่ไปทั้งกายสาวจนน้ำค้างชุ่มฉ่ำเต็มกลีบมือใหญ่ช้อนสะโพกกลมกลึง บีบเน้น ในขณะที่ปากหนาขบเม้มหนักหน่วง ลิ้นสากระอุสอดแทรกโลมเลียตุ่มเกสร กลืนกินกลีบดอกอย่างหิวกระหาย จนร่างบางบิดเร่าแตกสลายกลายเป็นดวงดาวขาวพร่างไปกับปากและลิ้นดุดัน หล่อนก็ยิ่งครางเสียงดัง“...อ๊า.....”ร่างบางที่กำลังถูกไฟสวาทเข้าครอบงำจนหล่อนเองจำเสียงตนไม่ได้ จิตใจเธอวาบหวามไปกับการเคลื่อนไหวของลิ้นร้ายจนไม่ได้ยินอะไร ลมพายุลูกใหญ่กำลังอื้ออึงเต็มสองหู ความเสียวซ่านอันแปลกประหลาดพุ่งกระจายไปทั่วร่างก่อนจะมุ่งหน้าสู่กึ่งกลางกายสร้างความหวานไหวให้หล่อนอ่อนเปลี้ยราวกับร่างกายไร้กระดูก“...หึ... หึ...”ชายหนุ่มคำรามในลำคออย่างเหิมเกริม ยินดีที่เรียกเสียงครางจากคนรั้นได้“แค่นี้... ก็ร้องจนถึงสวรรค์.. ต่อจากนี้...คือ บทเรียนจากคาสโนวา!”มือหนาประคองแก่นกายกำยำร้อนจนแทบจะระเบิด จ่อ... ถู... ไถ ที่กุหลาบงามอันชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวานร่างน้อยบิ
เกิดความเจ็บแปลบที่หว่างขา มือเล็กแตะร่องน้อยกลางกายของตน สัมผัสได้ถึงของเหลวหนืด เมื่อยกปลายนิ้วขึ้นดู หล่อนก็แทบจะกรีดออกมา เลือดสีแดงเข้มติดที่ปลายนิ้ว! ดวงตากลมโตเพ่งพินิจร่างกายตนอย่างละเอียด เนื้อขาวผ่องเต็มไปด้วยรอยจูบที่เขาฝากไว้เป็นจ้ำ ๆหล่อนถูกเลี้ยงมาอย่างประคบประหงม พ่อกับแม่เลี้ยงดูหล่อนอย่างดี แม้แต่รอยขีดข่วนยังแทบจะไม่มี แล้วเขาเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาทำให้หล่อนเจ็บทั้งกายและใจ ดวงตาคู่สวยลุกวาวจ้องร่างแกร่งที่ยังคงหลับสนิทคนที่ทำให้เธอเจ็บ ก็คือ คนที่นอนหลับตาพริ้มนั่น!คนที่พรากพรหมจรรย์ไปจากเธอ ก็คือคนที่นอนนิ่งอย่างสบายบนเตียงนั่น!เขาทำให้หล่อนเจ็บระบมไปทั้งกาย แต่เขากลับหลับสบายบนเตียงของหล่อน!!! ความเสียใจบวกกับความโกรธพุ่งจี๊ดแล่นสู่สมอง กำปั้นน้อยของเจ้าของเตียงพุ่งใส่คนที่ยังหลับตาพริ้ม“อ๊าย!”มือเรียวแกร่งคว้าข้อมือหล่อนได้ทันที่จะชกลงบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ร่างหนาลุกขึ้นแล้วกระชากร่างบางเข้าแนบอก พร้อมกับซุกจมูกโด่งฝังแก้มนวล สูดกลิ่นกายสาวอ่อน ๆ เหมือนดอกซากุระ ที่ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มได้เสมอ“ปล่อย!” ร่างสวยเปล่าเปลือยดิ้นขลุกขลักในอ
หล่อนเริ่มตัวสั่นแล้วอ่อนระทวยไปทั้งร่างกับสัมผัสของมือแกร่ง แต่แสนอบอุ่น เธอต้องเอนกายเบียดชิดกำแพงเพื่อใช้เป็นหลักยึดร่างไว้ไม่ให้ร่างที่อ่อนปวกเปียกไหลไปกองกับพื้น ขนอ่อนในกายสาวลุกซู่จนต้องร้องห้าม“หยุด! ฉันอาบน้ำเองเป็น!”“เงียบ!”เสียงทุ้ม ไม่ได้ตวาดแต่ทรงอำนาจ เขาไม่ใช่เจ้านายหล่อน แต่ทำไมหล่อนต้องกลัว นี่คือคำตอบที่หล่อนเองก็ตอบไม่ได้ และยอมตามใจเขาเสมอมือแกร่งแทรกลึกเข้าหว่างขาเนียน จนถึงกลีบกุหลาบ น้ำอุ่นไหลอาบจากศีรษะผ่านหน้าอกชูชัน ไหลลงมาสู่หว่างขาความอุ่นซ่านเข้าไปพร้อมกับปลายนิ้วแกร่งหากแต่สัมผัสนั้นอ่อนโยนเหนือคณนา ปลายนิ้วอุ่นซ่านค่อย ๆ คลี่กลีบกุหลาบงาม ให้น้ำอุ่นได้ชำระคาบมลทินที่เขากระทำไว้ขาของสาวน้อยเริ่มอ่อนระทวยลงอีกครั้ง จวนเจียนจะยืนไม่ไหวจนต้องจับไหล่กำยำไว้ ใบหน้าสวยแหงนหงายจนหลังแอ่น เมื่อนิ้วแกร่งถูไถเกสรกุหลาบ“ยะ.... อย่า... อา”ความมัวเมา ซ่านกระสันกำลังครอบงำหล่อนอีกครั้ง หล่อนหัวหมุนกับการเคลื่อนไหวของมือแกร่งและนิ้วร้าย กุหลาบงามเป่งด้วยความถวิลหา กลีบกุหลาบกลืนกินนิ้วแกร่งอย่างร้ายกาจ “อื้อ ยะ อย่า คะ อาจารย์ อื้ออออออ”“คุณบอก..
คนถูกถามกลืนกาแฟอย่างยากเย็นราวกับว่ามันเป็นของแข็ง แล้วเม็ดน้ำตาก็ร่วงแหมะลง เล่นเอาคนถามใจคอไม่ดี“เฮ้ย! พี่นิเป็นอะไร?”มือเรียวบางของภีมเขย่าแขนคนที่น้ำตาร่วง“..เขา... เขา... ฮือ...”นิญาดาพยายามจะตอบ แต่มันช่างยากเย็น คำตอบมันละลายหายไปกับเสียงสะอื้นเบา ๆ พี่เกดโน้มเข้ามากอดคนสะอึกสะอื้นจนตัวโยน มือหนึ่งโอบรอบศีรษะสาวน้อยเข้าแนบอก อีกมือลูบหลังที่สั่นสะท้านปลอบเบา ๆ“ใจเย็น... นิ ใจเย็น... พี่รู้”คนเป็นพี่ใหญ่ปลอบในฐานะผู้ที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน“พี่นิ อย่าบอกนะว่า เมื่อคืนคือครั้งแรกของพี่!”ภีมกระซิบถาม ส่งผลให้ร่างบางสะอื้นหนักยิ่งขึ้น เพราะเสียใจกับความบริสุทธิ์ที่หล่อนอุตส่าห์เฝ้าถนอมไว้ให้เจ้าบ่าวในคืนวันวิวาห์ แต่กลับต้องมาสูญเสียให้ชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักกันง่าย ๆ ภายในคืนเดียว !พี่เกดฟาดมือลงบ่าคนปากมากเต็มแรง อีกฝ่ายจึงหยุดพูด คนถูกตีหน้าเบ้ ผู้มีประสบการณ์ประเมินจากอาการของคนในอ้อมแขนคงพอจะเดาได้ว่า นิญาดาคงจะเสียสาวให้กับอาจารย์หนุ่มครั้งแรกเป็นแน่แท้โชคดีที่กลุ่มของนิญาดานั่งอยู่ด้านในสุดตรงมุมของห้องอาหาร จึงไม่เป็นที่สังเกตของคนอื่น ๆภีมอาสาไปเ
หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ซอยส้นสูงสีแดงสดก้าวฉับ ๆ เข้ามาในสำนักงาน ผมสลวยสีดำเงางามสะบัดไปมาตามจังหวะก้าวเดิน ดวงตากลมโตแต่งเติมด้วยอายแชโดว์เพิ่มความหวานซ่อนเปรี้ยวให้ดวงตาคู่งาม หญิงสาวเหลือบดูนาฬิกาที่แขวนบนผนังห้อง 08.30 น. เวลาตอกบัตรเข้างานพอดิบพอดี ปากบางแต้มด้วยสีแดงกุหลาบกระตุกยิ้มพร้อมมองสบตาสาวใหญ่ที่กำลังมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า“สวัสดีค่ะพี่ณี”นิญาดา สาวสวยประจำสำนักงานทักทายเสียงใสอย่างมีจริตจะก้านพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าแววตาถมึงทึงของหัวหน้าสำนักงานจ้องสาวน้อยที่ทักทายเพียงแวบเดียว แล้วสะบัดหน้าบูดบึ้งนั้นหันไปสนใจกับงานตรงหน้าอีกครั้งหนึ่งสาวสวยยักไหล่ คิดในใจ ‘ก็ช่างปะไรต่างคนต่างอยู่’แล้วขายาวเรียวนวลเนียนภายใต้กระโปรงสีแดงแปร๊ดรัดรูปอย่างสาวออฟฟิศสมัยใหม่ก็ก้าวไปที่โต๊ะประจำตำแหน่งอย่างเคยชิน สายตาคู่งามก็หลุบต่ำลงเมื่อเห็นหนังสือราชการที่ตนอุตส่าห์ตั้งใจทำเมื่อวานกว่ายี่สิบฉบับ ถูกขีดฆ่า แก้ไขด้วยปากกาสีแดงเป็นปื้น ๆเฮ่อ !นิญาดาพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วทิ้งร่างอรชรบอบบางลงบนเก้าอี้แม้จะถูกกลั่นแกล้งจนเคยชิน แต่ก็ยังอดเหนื่
เมื่อเธอได้หัวข้อการอบรมแล้ว กิจกรรมต่าง ๆ หัวข้อบรรยายย่อย ก็พรั่งพรูออกมาอย่างง่ายดาย‘วิทยากร... แน่นอน!!! ต้องเป็นคนที่ทุกคนต้องร้องว้าว!’เมื่อเรียวเริ่มละเลงลงบนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์อีกครั้งเพื่อค้นหารายชื่อและประวัติผู้ทรงคุณวุฒิที่เหมาะสมสำหรับการเป็นวิทยากรที่ดีที่สุดในงานอบรมดวงตาเป็นประกายสดใสของเธอจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่กะพริบ หญิงสาวมีความสุขกับการทำงานที่ท้าทาย แม้จะเจออุปสรรคบ้าง แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของเธอ‘คนนี้เลย! ศ. ดำรง ผู้ที่ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุด ในประเทศไทย !’นิญาดาตาลุกวาวเมื่อค้นเจอชื่อวิทยากรคลิกนิญาดาคลิกปุ่มกดส่งอีเมลเพื่อทาบทามศาสตราจารย์ดำรงค์ทันทีที่ค้นเจอจากนั้นเรื่องที่เธอจะต้องจัดการต่อไป คือ สถานที่จัดอบรม และต้องเป็นที่ที่สวยงามน่าไปมากที่สุด ซึ่งคงหนีไม่พ้น “รีสอร์ตเดอะเบสต์ออร์คิด”รีสอร์ตหรูท่ามกลางธรรมชาติที่แสนจะโรแมนติกนิญาดาหลับตาพริ้มฝันหวานถึงที่นอนนุ่มท่ามกลางป่าเขาริมน้ำตก ในขณะกำลังค้นหาข้อมูลโรงแรมในอินเทอร์เน็ต หล่อนมักมีความสุขกับการทำงานเสมอเช้าวันต่อมานิญาดาเปิดเมล ด้วยใจระทึก-ผมยินดีเป็นวิทยากร
เช้าตรู่ของวันใหม่นิญาดามาถึงสำนักงาน สิ่งแรกที่ทำ คือ รีบโทรศัพท์ ติดต่อขอโอนค่ามัดจำ กับรีสอร์ต ก่อนที่หัวหน้าจะจับได้ ว่ายังไม่ได้โอนมัดจำเมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีปรากฏการโอนเงินเรียบร้อย หล่อนก็ยิ้มอย่างเบาใจ ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยรอแค่ประชาสัมพันธ์โครงการให้อาจารย์สมัครเข้าอบรมจากนั้น นิญาดาก็รีบสะสางงานหลักต่อนิ้วเล็ก ๆ ของนิญาดาพลิ้วไหวบรรเลงลงบนแป้นพิมพ์ อย่างชำนาญ แปดชั่วโมงของการทำงานในช่วงใกล้ปิดงบประมาณ มันช่างน้อยนัก รู้ตัวอีกที ก็หมดเวลาทำงานเพื่อน ๆ ในสำนักงานกลับกันหมดแล้ว “นิญาดา”เสียงหนักแน่น น่าเกรงขามดังขึ้นหล่อนหันขวับไปยังต้นเสียงทันที“.. เข้ามาหาอาจารย์ด้วย...”ต้นเสียงเอ่ยต่อคนที่เรียกชื่อจริงของหล่อน.. มีเพียงคนเดียวเท่านั้น คนนั้นคือ “รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย” ผู้ที่มีอำนาจลงนามสั่งให้คนทั้งมหาวิทยาลัยทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้และเป็นท่านประธานสูงสุดของสำนักงานวิจัยแห่งนี้หญิงสาวผู้ถูกเรียกรีบสาวเท้าเข้าไปในห้องรองอธิการบดี เมื่อพบกับผู้ที่อยู่เบื้องหน้า หล่อนกระพุ่มไหว้อย่างเคารพตามธรรมเนียมผู้น้อยต้องไหว้ผู้ใหญ่“นั่งลงสิ...”เสียงเบาสั่ง แต่ยังคงความน่าเกร