แชร์

ตอนที่8. เป็นอย่างไรบ้าง 

“โต๊ะนี้ คงเป็นโต๊ะที่โชคดีมากนะครับ ที่มีโอกาสได้นั่งทานข้าวกับสาวสวยที่สุดในค่ำคืนนี้”

ดร. พงษ์  เลิศปัญญา เพื่อนสนิทของเตชิน เอ่ยทักขึ้นเป็นคนแรก เพราะมีเชื้อจีน ผิวพรรณจึงขาวเนียน บวกกับความมีอารมณ์ขันจึงทำให้ใบหน้าเด็กกว่าวัย แม้ว่าจะล่วงเข้าวัยสามสิบแปดปี

“ขอบคุณค่ะอาจารย์พงษ์ ยินดีเช่นกันที่มีโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า”

หล่อนยิ้มหวานให้หนุ่มใหญ่ซึ่งเป็นผู้บริหาร และยังไม่ลืมที่จะโปรยรอยยิ้มแสนหวานนั้นมายังอาจารย์เตชินซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ แต่เขากลับเฉย  แววตาคมกริบนิ่งลึก ยากที่จะอ่านความรู้สึก

“ขอบใจมาก นะจ๊ะน้องภีม”

นิญาดา กระซิบภีมพร้อมกับขยิบตาให้เป็นเชิงรู้กันว่า การที่หล่อนได้มานั่งข้าง อาจารย์เตชินไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนการที่ถูกวางไว้อย่างตั้งใจล้วน ๆ 

“เรื่องแบบนี้ ไว้ใจสุดสวยอย่างภีมได้เลยจ้ะ พี่สาว”

ภีมยกแก้วไวน์ชนแก้วกับนิญาดาฉลองให้กับการเริ่มต้นแผนการฉกดวงใจของหัวหน้าที่ส่อแววว่าจะไปได้สวย

ส่วน “พี่ปัญญ์”  คนที่หัวหน้าส่งมาคอยคุมพวกเธอ  น้องภีมมอบหมายให้พี่เกดจัดการ   หากเหลียวดูโต๊ะข้าง ๆ จะเห็นสาวสูงวัย ผมถูกรวบมวยไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อยตลอดเวลา  หล่อนกำลังดื่มด่ำกับรสชาติแปลกใหม่ของเหล้าปั่นเพิ่มชอต หรือก็คือการเพิ่มปริมาณแอลกอฮอล์ดี ๆ นี่เอง ซึ่งพี่เกดบรรจงคัดสรรมาให้โดยเฉพาะ  และคาดว่าอีกไม่นานพี่ปัญญ์คงจะเมาแล้วถูกพี่เกดลากเข้าไปเก็บไว้ให้ไกลจากนั้นแผนการที่วางเอาไว้ก็ไร้ขวากหนามอย่างสิ้นเชิง

“อาหารเป็นอย่างไรบ้างคะ ท่านศาสตราจารย์ดำรงค์ อาหารอร่อยไหมคะ”

นิญาดาวางแก้วลงแล้วพูดคุยกับวิทยากรคนเก่ง อย่างเป็นกันเอง

“อร่อยทุกอย่างเลยครับ นาน ๆ ทีออกมาต่างจังหวัด ได้สูดอากาศดี ๆ รู้สึกว่าอายุยืนขึ้นเยอะเลย”

ศาสตราจารย์ดำรงผู้ที่เคยได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดเมื่อยี่สิบปีก่อน แม้จะล่วงเข้าวัยห้าสิบปี แต่ยังกระฉับกระเฉง ผมแสกข้างหวีเรียบไปด้านหนึ่ง บ่งบอกถึงความสุภาพ  ดวงตาภายใต้กรอบแว่นเสริมให้ดูฉลาดยิ่งขึ้น 

นิญาดายิ้มรับก่อนหันไปที่ชายหนุ่มอีกคน

“ได้ยินว่า อ. เตชิน ได้ทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่น จนจบปริญญาเอก”

เสียงกังวานใสของหล่อนดึงให้เขาหันมาสบตาดวงกลมโต เป็นอีกครั้งที่เขาไม่สามารถหักห้ามใจให้หลงไปกับมนต์เสน่ห์ของเธอได้ จนเขาต้องเผลอยิ้มรับโดยไม่รู้ตัว

“อ้าว เหรอ?! ผมก็จบจากญี่ปุ่น”

ศาสตราจารย์ดำรงค์ อุทานอย่างดีใจที่ได้พบศิษย์ร่วมสถาบันเดียวกัน ทั้งจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจากประเทศญี่ปุ่น

“ครับ”

อาจารย์เตชิน ยิ้มอย่างนอบน้อมตามรูปแบบวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่ต้องให้ความเคารพผู้อาวุโสเป็นอันดับแรก

“บ้านผม พี่สาวเป็นหมอ ผมก็เลยอยากจะฉีกแนวดูบ้าง จึงลงเอยที่วิศวะ

พอเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยได้สองสามปี ก็ได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ประเทศญี่ปุ่นครับ”

เสียงทุ้มเล่าเรียบ ๆ 

“อาจารย์เป็นรองศาสตราจารย์หรือยังครับ”

ผู้อาวุโสชวนคุยเรื่องความก้าวหน้าในหน้าที่การงานต่อ

“ตอนนี้ ผมยื่นเรื่องขอตำแหน่ง  รองศาสตราจารย์  ไว้แล้วครับ”

“งั้นผมขอแสดงความยินดีล่วงหน้าแล้วกันนะ”

ศาสตราจารย์ดำรงค์ ยิ้มยินดีอย่างจริงใจ  

ในขณะที่นิญาดานั่งฟังเงียบ ๆ พร้อมกับบันทึกข้อมูลที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อแผนการฉกดวงใจหัวหน้าไว้ในหัว

“ขอบคุณครับ”

ว่าที่รองศาสตราจารย์ กล่าวขอบคุณศาสตราจารย์

“ยินดีด้วยเช่นกันค่ะ  แบบนี้ต้องฉลองให้ท่านอาจารย์ล่วงหน้านะคะ”

มือเรียวบางแต่งแต้มด้วยเล็บสีแดงกุหลาบของสาวสวยวาดประคองแก้วไวน์ชูขึ้นอย่างผู้ชำนาญงานสังสรรค์ในสังคมชั้นสูง  แววตาพราวเสน่ห์ร้อนแรงของหล่อนสะกดให้ชายหนุ่มยกแก้วบรรจุน้ำอมฤตสีเหลืองนวลชนกับแก้วของหญิงสาวราวกับต้องมนต์  ดวงตาคู่งาม แลสบสายตาคมกริบ

แค่แก้วสองใบกระทบกันเพียงเบา ๆ กระแสไฟฟ้าที่มองไม่เห็นแล่นเข้าสู่ในใจของทั้งคู่ ชายหนุ่มกระดกของเหลวหมดในคราเดียวคล้ายจะดับความเร่าร้อนที่พลันพุ่งขึ้นในกาย หัวใจของเขาเริ่มจะทรยศผู้เป็นนาย

นิญาดาวางแก้วเบา ๆ แล้วเอื้อมมือไปทาบทับกับมือใหญ่ที่จับมือแก้วที่เหลือเพียงน้ำแข็ง เจ้าของมือตาวาว เขม่นมองคล้ายจะดุแม่สาวตัวดี  แต่คนตัวดีกลับไม่มีทีท่าเคอะเขินหรือมีทีท่าที่แสดงว่าตั้งใจจะให้ท่าเขาแม้แต่นิดเดียว กิริยาท่าทางนั้น ดูเป็นธรรมชาติ การแตะมือก็เพียงแค่เป็นเรื่องบังเอิญ

 “เดี๋ยวเติมให้นะคะ”

“ครับ”

เสียงตอบรับของชายหนุ่มเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งที่หล่อนบรรจงหยิบลงแก้วเสียอีกผิดกับชายหนุ่มอีกคนโพล่งขึ้นอย่างออดอ้อน

 “คุณนิครับ แก้วผมก็หมดแล้วครับ เติมให้ผมด้วยสิครับ”

นิญาดายิ้มหวานแต่ยังไม่ทันจะได้เอื้อนเอ่ยคำใด เสียงแจ้ว ๆ ของภีมก็แทรกขึ้นว่า

“สำหรับ ดร. พงษ์  สุดหล่อของเรา เดี๋ยวภีมบริการให้เต็มที่เลยคร่า”

ไม่พูดเปล่า ภีมลุกขึ้นมาหยิบแก้ว ดร. พงษ์ ไปทันที  สาวน้อยในร่างชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูหวานยิ่งทำให้ร่างชายอรชรอ้อนแอ้นยิ่งขึ้น ภีมเติมโซดา เหล้า ตามด้วยน้ำแข็งอย่างคนเชี่ยวชาญ

เสียงเพลง  เสียงหัวเราะพูดคุยค่อย ๆ เบาลงเพราะผู้เข้าร่วมอบรมแต่ละโต๊ะต่างทยอยกันกลับไปยังห้องพัก  เหลือเพียงโต๊ะของนิญาดาเท่านั้นที่ยังคงมีเสียงหัวเราะอยู่เนือง ๆ 

เมื่อศาสตราจารย์ดำรงค์ขอตัวกลับแล้ว ภีมจึงค่อย ๆ ขยับมานั่งข้าง ดร. พงษ์  ไม่ว่าภีมจะเล่าเรื่องอะไร ดูเหมือนว่าจะทำให้ ดร. หนุ่มขำได้ทุกเรื่อง  ยกเว้น อาจารย์เตชิน  ยังคงรักษาใบหน้าที่สงบเรียบเฉยเช่นเดิม

“อาจารย์เตชินคะ ถ้าเราไปญี่ปุ่นช่วงเดือนพฤษภาคม เราควรไปที่ภาคไหนของญี่ปุ่นคะ ถึงจะเจอซากุระ”

นิญาดาชวนคุย

“คุณจะไปเที่ยวเหรอ?”

“ค่ะ”

“ถ้าผมบอก ต้องมีของฝากเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยบอกนะ”

แม้เสียงจะราบเรียบ แต่แววตาของชายหนุ่มกลับฉายแววเจ้าเล่ห์  นี่อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์น้ำเมาหรือเปล่านะ? จึงทำให้ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมเอ่ยวาจาหยอกเย้าเช่นนั้นออกมา

ปากสีแดงราวกับกลีบกุหลาบของหญิงสาวแย้มยิ้ม พร้อมกับเสียงหัวเราะอันสดใส

“ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า  เอาอะไรดีคะ?”

“หึ ๆ  ผมล้อเล่นนะครับ”

ปากเรียวได้รูปยกขึ้นนิด ๆ หัวเราะในลำคออย่างเหนือกว่า

“อ๋อ ค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ใบหน้าละมุน แก้มแดงสุกเปล่งด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์  หัวเราะกลบเกลื่อนอย่างโล่งใจ

“ถ้าเราอยากเห็นซากุระในเดือนห้าให้ไปที่ฮอกไกโด”

“ว้าว  ดีจังเลยนะคะ  ที่จะได้เห็นซากุระในเดือนห้าด้วย  ฉันนึกว่าจะไม่ได้เห็นเสียแล้ว เพราะซากุระบานปลายเดือนสามพอล่วงเข้าเดือนสี่ก็ร่วงหมดแล้ว”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status