Share

ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก
ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก
ผู้แต่ง: มู่อวิ๋นเฉิง

บทที่ 1

จวนหย่งชางป๋อเป็นตระกูลขุนนางตกอับ แต่เมิ่งจิ่นเหยาผู้เป็นบุตรีคนโตของภรรยาเอกกลับได้ตบแต่งเข้าจวนฉางซินโหวที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ เป็นฮูหยินของซื่อจื่อ[1] ใครบ้างจะไม่บอกว่าเมิ่งจิ่นเหยาโชคดี?

อย่างไรก็ตาม เมิ่งจิ่นเหยากลับไม่คิดเช่นนั้น หากนางโชคดีจริง เหตุใดคู่หมั้นจึงไม่มารับตัวเจ้าสาวด้วยตนเองในวันวิวาห์? แต่ให้คุณชายรองของจวนฉางซินโหวอุ้มไก่ตัวผู้มาที่จวนหย่งชางป๋อเพื่อรับตัวเจ้าสาวแทนเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าไม่สบาย จึงไม่อาจมารับด้วยตนเอง

ทั้ง ๆ ที่หลายวันก่อนนางเห็นกู้ซิวหมิงผู้เป็นซื่อจื่อดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงดี เหตุใดจู่ ๆ ก็ล้มป่วยจนลุกจากเตียงไม่ขึ้น มารับตัวเจ้าสาวไม่ได้กันเล่า?

พูดตามตรงคือจวนฉางซินโหวไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานครั้งนี้ ดังนั้นถึงได้ดูแคลนนางเช่นนี้ หากท่านปู่ของนางยังอยู่ ต่อให้ล้มป่วยจริง ตราบใดที่ไม่ถึงขั้นลุกจากเตียงไม่ไหว ก็คงจะมารับตัวเจ้าสาวด้วยตนเอง

การแต่งงานกระชั้นชิดแล้ว แม่เลี้ยงกับบิดาอยากเชื่อมสัมพันธ์กับจวนฉางซินโหว ไฉนเลยจะละทิ้งการแต่งงานดี ๆ ที่กำหนดไว้เมื่อสิบปีก่อนนี้?

ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าจะทำให้นางไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ก็ยังยัดนางเข้าไปในเกี้ยวเจ้าสาว ส่วนนางนอกจากขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว ก็ไม่มีทางให้ถอยอีก

“ถึงฤกษ์งามยามดีแล้ว...”

ในเวลานี้เอง หนิงตงรีบร้อนวิ่งเข้ามา เอ่ยกับเมิ่งจิ่นเหยาว่า “คุณหนูเจ้าคะ ซื่อจื่อไม่ได้ล้มป่วย เขาหนีการแต่งงานไปกับสตรีนางอื่นแล้วเจ้าค่ะ!”

เมื่อคำพูดนี้ออกมาก็ทำให้ทุกคนตกตะลึง

บรรดาแขกเหรื่อต่างก็นึกว่าซื่อจื่อล้มป่วย คิดไม่ถึงว่าจะหนีการแต่งงานไปกับผู้อื่นแล้ว?

คนของจวนฉางซินโหวหน้าแข็งทื่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ใดปากพล่อยเปิดเผยข่าว

เมิ่งจิ่นเหยาได้ยินคำกล่าวนี้ก็ตัวแข็งทื่อไปหมด นางเองก็นึกว่าบางทีว่าที่เจ้าบ่าวอาจจะล้มป่วย คิดไม่ถึงว่าจะหนีไปกับผู้อื่น เรื่องล้มป่วยไม่อาจมารับตัวเจ้าสาวและกราบไหว้ฟ้าดินด้วยตนเอง นางกัดฟันทนได้ แต่เรื่องหนีไปกับผู้อื่น ขออภัยด้วยที่นางทนไม่ได้

นางยื่นมือไปเลิกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงออกทันที เผยให้เห็นดวงหน้าโฉมสะคราญล่มชาติบ้านเมือง ดวงหน้าเล็กบึ้งตึง มองไปยังคนของจวนฉางซินโหวด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว ก่อนจะเอ่ยถามว่า “หนีการแต่งงานอย่างไร้ความรับผิดชอบในวันวิวาห์เช่นนี้ นี่ก็คือการอบรมสั่งสอนซื่อจื่อของจวนฉางซินโหวของพวกท่านหรือ?”

นางจางผู้เป็นภรรยาเอกของทายาทสายหลักที่เกิดจากอนุภรรยารีบกล่าวว่า “หลานสะใภ้ เจ้าวางใจได้ พวกเราส่งคนไปตามหาแล้ว เจ้ายังคงเป็นฮูหยินของซื่อจื่อที่ตบแต่งเข้าตระกูลกู้ของพวกเราอย่างถูกต้องตามประเพณี ส่วนสตรีนางอื่น หากเจ้าพอใจก็รับนางเข้ามา สุดท้ายก็เป็นได้เพียงอนุที่ไม่มีหน้ามีตาเท่านั้น”

เมิ่งจิ่นเหยารู้สึกเสียหน้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นางโกรธจนตาแดงก่ำ มือที่อยู่ในแขนเสื้อสั่นเทาเล็กน้อย แต่นางยังคงยืนตัวตรง รักษาความเยือกเย็นอย่างสุดความสามารถแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเขาหนีไปกับผู้อื่น ทอดทิ้งไม่ไยดีข้าในวันมงคล เช่นนั้นข้ายังต้องแต่งงานกับเขาต่อไป เป็นฮูหยินของซื่อจื่อแค่ในนามไปทำไม?”

นางจางมึนงงเล็กน้อย ถามตามคำพูดของนางว่า “เช่นนั้นความหมายของเจ้าคือ?”

เมิ่งจิ่นเหยาใคร่ครวญอย่างรวดเร็วและถามอีกว่า “บุตรีคนโตของภรรยาเอกตระกูลเมิ่งมีสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลกู้ การแต่งงานนี้กำหนดขึ้นในสมัยของท่านปู่ แต่ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าต้องตบแต่งให้คุณชายท่านใดของตระกูลกู้ ฮูหยินใหญ่ว่าใช่หรือไม่?”

นางจางพยักหน้า “เป็นเช่นนี้จริง ๆ”

แต่ในบรรดาเด็กรุ่นหลังที่เหมาะสมจะแต่งงาน ผู้ที่สูงศักดิ์ที่สุดก็คือซื่อจื่อของจวนโหว และยังเป็นการแต่งงานที่กำหนดโดยท่านโหวผู้เฒ่า ดังนั้นทุกคนจึงยอมรับโดยปริยายว่าเป็นซื่อจื่อ แต่งงานกับซื่อจื่อ และเป็นตระกูลเมิ่งพวกเขาที่อาจเอื้อมผู้ที่มีฐานะสูงส่งกว่า วันข้างหน้าซื่อจื่อจะเป็นผู้ที่ได้สืบทอดบรรดาศักดิ์

เมิ่งจิ่นเหยาสูดลมหายใจลึก ราวกับใช้ความกล้าทั้งชีวิต เอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เป็นตระกูลกู้ของพวกท่านที่ทำผิดกับข้าก่อน ในเมื่อข้านั่งเกี้ยวแปดคนหามเข้ามา ย่อมไม่มีเหตุผลให้ข้าเดินกลับไป ถ้าเช่นนั้นก็เปลี่ยนคนมากราบไหว้ฟ้าดินกับข้า เรียกบุรุษที่ยังไม่ได้แต่งงานในตระกูลกู้ของพวกท่านออกมา ให้ข้าเลือกคนที่เจริญตา”

_________________________________

[1] ซื่อจื่อ คือผู้สืบทอดตำแหน่งยศของบิดา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status