“เคียร่า… วันนี้เจ้าก็ยังคงงดงามเช่นเคย ข้าอยากจะป่าวประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าหญิงที่งดงามดุจเทพธิดาเป็นของข้าเพียงผู้เดียว”
“องค์ชายอาร์มิสเพคะ ทำไมพระองค์ถึงดีกับข้าเช่นนี้ ข้าไม่อาจคู่ควรยืนข้างกายท่านเลยด้วยซ้ำ ถ้าเลดี้แอมเบอร์ได้ยินที่ท่านพูด เลดี้คงเสียใจเป็นอย่างมาก”
ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ในสวนหลังพระราชวัง ลมเย็นพัดผ่านเป็นระลอกทำให้ใบไม้ไหวไปมา เรือนผมสีเงินของเคียร่าพริ้วไสว เผยให้เห็นประกายตาสีแดงมรกตที่แฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน ราวกับดึงดูดทุกสายตาที่จ้องมอง
อาร์มิสช้อนคางเรียวของเธอขึ้น ใบหน้าคมสันยิ้มละไมก่อนโน้มเข้ามาใกล้ ดวงตาสีอำพันที่เต็มไปด้วยความหลงใหลจับจ้องลึกลงไปในดวงตาของเธอ
“เพราะว่าข้ารักเจ้าไง เคียร่า…”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะสัมผัสเบาๆ กับริมฝีปากแดงระเรื่อของเธอ
แต่เพียงชั่วขณะเดียว เสียงเรียบนิ่งกลับดังขึ้นขัดจังหวะของทั้งคู่
“ถ้าใครมาเห็นเข้า เรื่องซุบซิบนินทาของข้ารับใช้คงเลยเถิดและเสียภาพลักษณ์ขององค์รัชทายาทแน่เลยเพคะ...”
อาร์มิสผละออกจากเคียร่าอย่างรวดเร็วแล้วหันไปยังต้นเสียงที่คุ้นเคย ภายใต้แสงแดดอ่อนยามเย็น เขาเห็นหญิงสาวในชุดเดรสสีแดงดำเข้มเรืองรอง
เธอคือเลดี้แอมเบอร์ ผู้มีเรือนผมสีแดงสดที่เปล่งประกาย ใบหน้ายิ้มแย้มของเธอกลับทำให้บรรยากาศรอบข้างเย็นยะเยือก
“เลดี้แอมเบอร์…เจ้าควรแจ้งก่อนที่จะมาเข้าพบข้าสิ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอก พลางจับแขนชู้รักให้มาหลบหลังของตน
“หม่อมฉันมาพบจักรพรรดินีเพคะ และหม่อมฉันก็แค่มาเดินเล่นสวนหลังพระราชวังเพียงเท่านั้น แต่กลับมาพบเจอคู่หมั้นกำลังจูบกับหญิงคนอื่น เลดี้เคียร่าช่างไม่รู้อะไรเลยหรือว่าการกระทำนี้มันไม่เหมาะสมควร” น้ำเสียงนุ่มแต่แฝงไปด้วยความเหยียดหยาม
เคียร่าก้มหน้า น้ำเสียงแหบสั่นเอ่ยขอโทษ
“ขะ ข้า..ขอโทษค่ะเลดี้แอมเบอร์.. องค์ชายอาร์มิสเพคะ ข้าคงต้องขอตัวกลับก่อน ”
เคียร่าหันหลังเตรียมจะเดินจากไปแต่กลับถูกมือของอาร์มิสรั้งแขนไว้
“เจ้าไม่ได้ผิด ข้าเป็นคนผิดเอง เพราะฉะนั้นข้าจะรับผิดชอบเจ้าเอง” อาร์มิสเอ่ยอย่างมั่นใจ ดวงตาสีอำพันแสดงความแน่วแน่
เขาหันไปทางแอมเบอร์และเอ่ยประโยคชวนให้เธอหัวเสีย
“เลดี้แอมเบอร์ ข้าต้องการจะถอนหมั้นกับเจ้า ตั้งแต่ยังวัยเยาว์จนถึงตอนนี้ข้าไม่ได้มีความรู้สึกรักเจ้าเลยคิดกับเจ้าเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น”
มือเล็กขยุ้มเข้าหากันเพื่อกดอารมณ์ความขุ่นเคือง
“หม่อมฉันคงถอนหมั้นกับองค์ชายไม่ได้หรอกเพคะ ถ้าพระองค์ต้องการเช่นนั้นคงต้องไปทูลองค์จักรพรรดินีแล้วเพคะ...” ดวงตาคู่สวยปรายตามองไปยังชู้รักของคู่หมั้นที่ยืนตัวสั่นระริก
“ข้าจะบอกอะไรให้อีกอย่างถ้าองค์ชายอาร์มิสยังคงทำเช่นนี้ เลดี้เคียร่าอาจจะมีชีวิตสั้นลง” น้ำเสียงเรียบนิ่งระบายยิ้มยียวนต่อทั้งสองคนก่อนจะม้วนหลังกลับด้วยท่วงท่าสง่างามดั่งขุนนางชนชั้นสูง
แอมเบอร์ไม่ได้รู้สึกหึงหวง ทว่าไม่ชอบใจที่อาร์มิสจะถอนหมั้นกับเธอเพียงเพราะไปติดหญิงสาวหน้าตาสะสวย เธอไม่ต้องการให้ตำแหน่งเจ้าหญิงพระชายาของเธอต้องสั่นคลอน ถ้าหล่อนคนนั้นก้าวก่ายเกินหน้าเกินตา แอมเบอร์ผู้นี้ก็พร้อมที่จะกำจัดทิ้งซะ!
“นี่เจ้า!!” เสียงทุ้มตะโกนไล่หลังแอมเบอร์
“องค์ชายอาร์มิส พระองค์ตามเลดี้แอมเบอร์ไปก่อนเถิดเพคะ ข้าได้เวลาต้องกลับแล้ว”
“เดี๋ยวข้าจะเรียกหาเจ้าอีก รอก่อนนะเคียร่าของข้า” อาร์มิสโน้มกอดเคียร่าก่อนจะเดินตามหญิงคู่หมั้นไป
เคียร่าเดินไปตามทางของสวนกุหลาบด้วยใจเหม่อลอย สาวเท้าเดินเรื่อยเปื่อยจนไปถึงศาลากลางน้ำอย่างเหนื่อยล้า ร่างอรชรยืนอยู่ข้างบ่อน้ำ ทอดสายตาเหม่อมองพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า เป็นช่วงเวลาที่ต้องรีบกลับคฤหาสน์ทว่าช่วงขาไม่อยากขยับเดินไปยังรถม้าเสียเลย หัวใจที่ปวดร้าวบีบคั้นน้ำตาให้ไหลรินอาบพวงแก้มแดงระเรื่อ
ชั่ววินาทีไม่ทันตั้งตัว ทันใดนั้น มีมือปริศนาผลักแผ่นหลังเธออย่างแรงจนร่างบางตกลงไปในบ่อน้ำ
ตู้ม!!
บ่อน้ำลึกเย็นเยียบ ร่างของเคียร่าจมลงไปเรื่อยๆ เธอพยายามตะเกียกตะกาย แต่มือและขาไม่มีแรงเหลือแล้ว ความรู้สึกแน่นหน้าอกเริ่มก่อตัวขึ้น ท่ามกลางความมืดและความเงียบ สติของเธอค่อยๆ จางหายไป
ในช่วงสุดท้ายของการหายใจ แสงสีทองอร่ามส่องสว่างขึ้นจากใต้น้ำ มันหอบหุ้มร่างของเธออย่างอบอุ่น พาเธอลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำและวางลงบนพื้นหญ้าอย่างนุ่มนวล
“แค่ก ๆ” เคียร่าสำลักน้ำที่กลืนลงไปจำนวนมาก ร่างบางค่อยๆ คลานหาคนช่วยเหลือ ดวงตาพร่ามัวมองเห็นเงาร่างของชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขาไม่แม้แต่จะขยับตัวมาประคองช่วยเหลือหญิงสาวเลยด้วยซ้ำ
ก่อนจะเริ่มหมดสติลงใบหน้าสวยชุ่มน้ำเงยหน้ามองคนตรงหน้า แสงแดดยามพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนเรือนผมสีน้ำเงินเข้มจนเป็นประกายแวววาว
“ชะ ช่วยด้วย…”
มือเล็กเอื้อมแตะปลายรองเท้าหนัง ก่อนที่สติจะดับวูบลง...
คุณหนูผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและผลการเรียน เติบโตขึ้นในตระกูลที่ร่ำรวย ทว่ากลับถูกกดขี่ให้อยู่ภายใต้กรอบที่พ่อแม่สร้าง ทุกสิ่งต้องสมบูรณ์แบบ ห้ามมีข้อผิดพลาด ต้องทำตามแผนที่พ่อแม่กำหนด ไม่อาจเล่นสนุกได้เหมือนเด็กทั่วไปได้ กิจวัตรประจำวันของเธอคือการอ่านหนังสือ หากวันใดดื้อรั้นไม่ยอมอ่านหนังสือ เธอจะถูกขังในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ไร้หน้าต่างและแสงสว่าง การลงโทษนี้ยิ่งตอกย้ำความอึดอัดที่ต้องเผชิญ ทุกการกระทำถูกควบคุมอย่างเคร่งครัด แม้แต่ความป่วยทางจิตใจที่เกิดขึ้นจากความกดดันนั้น พ่อแม่ก็ยังเพิกเฉยไม่ยอมพาไปรักษาเพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียงที่ลูกสาวคนเดียว เป็นบ้าเมื่ออายุครบ 20 ปี เธอทำตามความต้องการของพ่อแม่จนสำเร็จทุกอย่าง จนผู้คนต่างเรียกว่าอัจฉริยะเป็นเพียงสิ่งที่พ่อแม่สร้างขึ้นเพื่อประดับบารมีของตระกูล หญิงสาวปรารถนาจะหลุดพ้นจากกรงทองที่กักขังเธอไว้ เมื่อถึงที่สุด เธอเลือกปลดปล่อยตัวเองจากความทุกข์ด้วยการกระโดดตึกเพื่อคืนอิสรภาพให้ตัวเองเด็กสาวคนนั้นคืออดีตชาติที่แล้วของเคียร่า หลังจากตกลงไปในบ่อน้ำก็ตระหนักได้ว่าพลังของนักบุญหญิงตื่นขึ้น และค่อย ๆ ระลึกอดีตชาติได้ถึงจะเป็นภ
จักรวรรดิคอสมอสไซรัส ปกครองโดยจักรพรรดิ อีเมอร์สัน และจักรพรรดินีแคโรลีน ทั้งสองมีพระโอรสด้วยกันหนึ่งพระองค์ คือองค์ชายอาร์มิส ส่วนองค์ชายเฮลิออสเป็นบุตรนอกสมรสของอีเมอร์สันก่อนได้ขึ้นครองราชย์พบรักกับยูเรียนที่เสียชีวิตไปแล้ว องค์ชายเฮลิออสจึงไม่ได้รับความนิยมจากเหล่าขุนนางสักเท่าไหร่เนื่องด้วยเขาถูกส่งตัวไปออกรบทำสงครามอยู่ตลอด ทว่าก็ไม่ได้รับความชื่นชอบอยู่ดี เพราะตระกูลขุนนางส่วนมากจะอยู่ฝ่ายจักรพรรดินี สนับสนุนองค์ชายอาร์มิสเป็นมกุฎราชกุมาร ตระกูลขุนนางหลักมี 6 ตระกูลด้วยกัน ปกครองตามแคว้นต่างๆ และมีอำนาจรองลงมาจากราชวงศ์ เหล่าชนชั้นสูงจะมีเวทมนตร์ประจำตระกูล ได้แก่ เวทแห่งแสง เวทแห่งความมืด เวทไฟ เวทน้ำ เวทลม และเวทดิน อีกทั้งยังมีพลังศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่นับถือในพระเจ้า หรือพลังของนักบุญซึ่งได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์มาตั้งแต่กำเนิด “ถ้าจะดึงองค์ชายเฮลิออสที่หวังจะปองร้ายข้าอยู่แล้ว คงต้องเดินตามเส้นทางเนื้อเรื่องเสียหน่อย” ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์องค์ชายอาร์มิสส่งจดหมายเรียกพบเคียร่าไปที่วัง ร่างกายที่แทบจะไม่มีแรงเดินเพราะขาดสาร
ร่างกายแสนบอบบางฟุบนอนบนเตียง พลางหวนนึกถึงช่วงเวลาที่เจอชายหนุ่มผมสีน้ำเงิน แม้ว่าตอนแรกจะจำไม่ได้ แต่พอเขาลืมตาจ้องมองด้วยแววตาดุร้ายบวกกับสีตาอันเป็นเอกลักษณ์ เขาคือ องค์ชายเฮลิออส ไซรัส ผู้มีใบหน้าหล่อร้าย ฉลาดเป็นกรด แถมจิตใจอำหิต ถ้าตามอนาคตในนิยาย เฮลิออสเป็นคนลอบทำร้ายองค์ชายอาร์มิส เธอต้องการเบี่ยงเบนความสนใจ และหวังว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เธอได้วางเหยื่อล่อไว้แล้วโครก โครก เสียงท้องร้องดังกังวาน ความหิวจากการไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนทำให้ร่างกายเริ่มทรมานและหมดแรง เป็นเวลาหลายวันที่ดัชเชสสั่งสาวใช้ไม่ให้ยกอาหารมาเสิร์ฟในตอนเย็นเพื่อต้องการให้เธอมีหุ่นผอมเพรียวเป็นกุลสตรี หรือกลั่นแกล้งกันแน่ก็ไม่อาจเข้าใจได้ตระกูลคราเรนซ์สืบเชื้อสายมาจากนักเวทรักษาผู้มีพลังคล้ายกับพลังศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระสันตะปาปาจะมอบพรเศษเสี้ยวพลังของพระเจ้าให้ แต่ว่าเวทแสงยังด้อยกว่ามากและอยู่รั้งท้ายของตระกูลอื่น ๆ คนในตระกูลคราเรนซ์เหล่าเครือญาติข้าราชบริพารส่วนมากจึงหันไปเอาดีทางด้านนักบวช อัศวิน ตำแหน่งต่าง ๆ ในวิหารศักดิ์สิทธิ์ส่วนฟานาตอนนี้เป็นนักบุญฝึกหัดอยู่ที่วิหาร และอัลเบิร์ตเป็นอัศวินศักดิ์สิท
“เข้ามา” เสียงทุ้มหนักแน่นเอ่ยกับข้ารับใช้ ประตูบานใหญ่เปิดออกให้หญิงสาวผมสีเงินเข้ามาภายในห้องทำงานของดยุกคราเรนซ์“สวัสดีค่ะ ท่านดยุก เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาอันมีค่าของท่าน ข้ามีเรื่องแจ้งให้ทราบค่ะ”เคียร่าย่อตัวทำความเคารพกับชายวัยกลางคนผู้มีเรือนผมสีบลอนด์เข้มเหมือนกับอัลเบิร์ตและฟานา“ข้าอยากได้หญิงรับใช้ส่วนตัวค่ะ ข้าเป็นถึงเลดี้ ของตระกูลคราเรนซ์และเป็นคนรักขององค์รัชทายาทแต่กลับไม่มีหญิงรับใช้ส่วนตัว ข้าคิดว่ามันเสียเกียรติของชนชั้นสูงค่ะ ”ดยุกขมวดคิ้ว พลางครุ่นคิดกับคำพูดของเคียร่า แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเธอขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าเพื่อตำแหน่งและอำนาจที่มากขึ้น เขาต้องให้เธอเป็นพระชายาให้ได้เพื่อจะทำให้เธอเป็นหุ่นเชิดให้เขาอยู่ในจุดสูงสุดและเป็นผู้ที่มีอิทธิมากกว่าตระกูลอื่นๆ“ข้าจะบอกหัวหน้าแม่บ้านหาให้แล้วกัน”“ข้าต้องการเลือกเองค่ะ ข้าอยากหาคนที่เด็กกว่าข้าค่ะ ”“งั้นเจ้าก็ไปเลือกเอง จบเรื่องแล้วก็ออกไป”“ขอบคุณค่ะท่านดยุก” เคียร่าย่อตัวเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องไปไม่กี่วันต่อมาหัวหน้าแม่บ้านก็เรียกเคียร่าให้ไปคัดเลือกหญิงรับใช้ ตาคู่สวยกวาดตามองเด็กสาวที่ยืนเรียงกันเป็นแถว พลั
“อึก.. นี่เจ้า!จะรักษาข้าหรือทำให้ข้าตายกันแน่ ! ” เฮลิออสเปล่งเสียงดังกังวานด้วยความโมโห เขาผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมกระชากแขนของเคียร่าอย่างแรง“ใจเย็นก่อนค่ะ ข้าจะอธิบายเกี่ยวกับโรคของท่านให้ฟังค่ะ” น้ำเสียงหนักแน่นของหญิงสาวทำให้เฮลิออส ค่อย ๆ ปล่อยแขนเล็กลง“ถ้าเจ้าปลด ข้าจะฆ่าเจ้าแน่”“ที่ท่านเป็นอยู่คือโรคจากสภาวะจิตใจบอบช้ำจากอดีตค่ะ มันคือความเครียด วิตกจริต การรักษามี3วิธีค่ะ วิธีแรก ให้ข้าใช้พลังช่วยท่านให้นอนหลับสบายในทุกคืนที่ท่านต้องการนอนแต่จะไม่หายขาด 1ครั้ง ต่อ1คืน วิธีที่ 2 ดื่มยาที่ข้าทำขึ้นมาเฉพาะ มันจะช่วยให้พลังของข้าที่ใช้กับท่านมีผลยาวนานถึง1อาทิตย์ ทว่ามันก็จะมีผลข้างเคียงตามมา และวิธีสุดท้าย การรักษาสภาวะจิตใจให้กลับมาเป็นปกติ ก็คือการเอาชนะเหตุการณ์ในอดีตที่ฝังใจ วิธีนี้ท่านจะหายขาด”“เฮอะ ข้าน่ะไม่ได้บอบช้ำอะไรแบบนั้นสักหน่อย แต่ทำไมถึงต้องดื่มยาด้วย ข้าไม่ยักรู้ว่านักบุญสามารถทำยาได้ ยาที่มีผลข้างเคียงเนี่ยนะ ไม่ใช่ยาพิษหรอกหรือ”“ไม่ใช่ยาพิษแน่นอนค่ะ ข้าจะทำให้ท่านเชื่อเอง ส่วนผลข้างเคียงก็แค่รุ่มร้อนตอนดื่มเฉยๆ”เคียร่าหยิบขวดออกจากกระเป๋าพร้อมเปิดฝาออกยกดื่ม
เปลือกตายับย่นค่อยๆ หรี่ขึ้น ร่างกายขยับไม่ได้ดั่งใจนึกเพราะถูกมัดมือไขว้หลัง เธอกวาดตามองรอบห้องนอนทรุดโทรม บรรยากาศภายในห้องมืดครึ้มจนแทบเห็นหน้าชายที่ยืนอยู่ตรงปลายเตียงได้ไม่ค่อยชัด“ตื่นเร็วเหมือนกันนิ” เสียงทุ้มเอ่ยพลางเดินมานั่งบนเตียง“จะ จับข้ามาทำไม..” น้ำเสียงใสสั่นเครือ เธอแสดงสีหน้าหวาดกลัวต่อชายลึกลับ ทว่าในใจของหญิงสาวกลับตื่นเต้นว่าโจรลักพาตัวจะทำอะไรกันแน่ ถ้าตามในนิยายแล้วแผนลักพาตัวจะไม่สำเร็จเพราะว่าเธอหนีพวกโจรได้อย่างฉิวเฉียดเคียร่ารู้อยู่แล้วว่าแผนการนี้เป็นขององค์ชายเฮลิออสเธอเลยยอมโดนจับแต่โดยดี“ข้าอยากจะรู้นัก ว่าคนรักของน้องชายข้าเป็นยังไง”“ทะ ท่านที่ช่วยข้าครานั้น คือองค์ชายเฮลิออสหรือเพคะ... ท่านจับข้าแบบนี้เพื่ออะไรกันคะ...”“อืม... ข้าคิดอยู่ว่าจะแกล้งน้องชายตนเองนิดหน่อยน่ะ ถ้าหญิงคนรักตกเป็นของผู้อื่น เจ้านั่นจะแสดงสีหน้าแบบไหนกันนะ”องค์ชายอยากได้ตัวข้าเพื่อให้อาร์มิสทรมานใจเนี่ยนะ?เธอไม่คิดเลยว่าแผนของเขามันจะเรียบง่ายแบบนี้ แต่ก็เข้าทางเธอพอดีร่างกำยำขยับตัวเข้าใกล้เธอมากขึ้น เคียร่าจึงต้องสวมบทบาทเป็นหญิงสาวไร้เดียงสาต่อ“จะทำอะไรเพคะ! อย่ามา
รถม้าคันหรูประทับตราลวดลายพระอาทิตย์สีทองอร่ามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ราชวงศ์ หญิงสาวสวมผ้าคลุมลงมาจากรถม้าพร้อมชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินท่วงท่าภูมิฐานข้ารับใช้ในตระกูลที่เห็นรถม้าตราพระราชวังต่างตื่นตระหนกตกใจรีบวิ่งไปแจ้งดัชเชสคราเรนซ์โดยเร็ว“องค์ชายอาร์มิสมางั้นรึ!” หญิงสาววัยกลางคนดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาตัวหรู“ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ เรือนผมของท่านผู้น้ำเป็นสีน้ำเงินเข้มซึ่งไม่เหมือนองค์ชายอาร์มิสเลยค่ะ” หญิงรับใช้กล่าวดัชเชสเดินออกจากประตูห้องนั่งเล่นพร้อมเหล่าข้ารับใช้จำนวนหนึ่งทันทีที่เคียร่าและเฮลิออสเข้ามาในคฤหาสน์ โรสที่ได้เห็นเจ้านายของตนอยู่ในสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยี่อีกทั้งยังขาดวิ่น วิ่งกรูเข้ามาด้วยสีหน้าเป็นห่วงดัชเชสเหลือบตามองชายสูงโปร่งหน้าถมึงทึงที่ยืนข้างหญิงสาวอ้อนแอ้น มือไม้เริ่มสั่นไหวต่อความน่าเกรงขามเมื่อนัยน์ตาอเมทิสต์จ้องมองดุดันอย่างผู้เหนือกว่าและแผ่ออร่ากดดันมหาศาลใส่เธอดัชเชสย่อตัวทำความเคารพ เธอยังคงพยายามฝืนสีหน้าให้ปกติเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา“มะ หม่อมฉันดัชเชสคราเรนซ์ทำความเคารพแด่องค์ชายเฮลิออสเพคะ... นึกไม่ถึงเลยว่าพระองค์จะกลับมาจากแดนเหนือเร็วกว่ากำหนด ไม่ทราบ
ระเบียงห้องนอนเริ่มถูกประดับไปด้วยกระถางดอกลิลลี่สีขาวมองกันเผิน ๆ ก็คงเหมาะกับเคียร่าเพราะมันดูบริสุทธิ์และส่งกลิ่นหอมเย้ายวน ทว่ารากของมันกลับมีพิษร้ายแรงเมื่อเผลอกินก็อาจถึงตายได้โต๊ะน้ำชาซึ่งตั้งอยู่ตรงระเบียงเคียร่าและโรสกำลังนั่งพูดคุยกันถึงตระกูลบารอนด์วาเลีย“คิดไม่ถึงเลยนะคะว่าเลดี้โมอา ส่งบัตรเชิญชวนไปร่วมฉลองงานวันเกิด”โรสขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่คิดเลยว่าจะมีจดหมายเชิญคุณหนูไปร่วมออกงานสังคม เพราะตลอด1เดือนไม่มีจดหมายฉบับอื่นส่งมาหาเลยนอกจากขององค์ชายอาร์มิสถ้าไปก็คงมีเรื่องสนุกๆ เป็นแน่ โรสเคยเจอเลดี้โมอาไหม”“ไม่เคยเจอเลยค่ะ ตอนนั้นที่ข้านำโพชั่นไปขายเจอเพียงแต่บารอนด์วาเลียค่ะ”“ถ้างั้นเราไปตามบัตรเชิญเสียหน่อย เผื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้าง คราวนี้โรสต้องออกโรงแล้ว”โรสยิ้มดีใจพร้อมพยักหน้าตอบรับ“คุณหนูต้องระวังตัวด้วยนะคะ”“ไม่ต้องห่วงไปหรอก โรสน่ะต้องเสี่ยงไปสืบถึงรังศัตรูเลยเชียวนะ แต่ก่อนที่เราจะเล่นงานบารอนด์วาเลียได้คืนนี้คงต้องไปพบชายผู้นั้นเสียก่อน”“ใครเหรอคะ?”“ก็คนที่ข้าทำสัญญาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ไง เตรียมยาไว้ด้วยเล่า คืนนี้คงต้องใช้ยาของโรสช่วยอีกแรง”“
ตำหนักองค์ชายอาร์มิสพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า หญิงสาวชุดเดรสสีครีมเรียบง่ายทอดน่องเดินเข้ามาในตำหนักรอง หวังว่าการมาตำหนักนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายเคียร่ามาถึงหน้าห้องขององค์ชายอาร์ส องครักษ์ที่เฝ้าอยู่ข้างหน้าเปิดประตูให้เธอเข้าไปอย่างง่ายดาย เหมือนว่าได้รับคำสั่งตรงจากองค์ชายว่าให้ต้อนรับหญิงสาวผู้นี้ภายในห้องนอนขนาดใหญ่มีเพียงแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องให้ความสว่างอยู่น้อยนิด ชายหนุ่มผมสีบลอนด์ยังคงกระดกแก้วเหล้าไม่มีทีท่าว่าจะวางแก้วลงเขาเหลือบมองเธอและละทิ้งสายตาไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ“จริงๆ ข้าไม่อยากให้เจ้ามาเลย...สภาพตอนนี้ของข้าคงดูไม่ได้” อาร์มิสหยิบขวดเหล้าเพื่อจะเติมลงแก้วใบหรูทว่าเคียร่ากลับกระชากขวดเหล้ามาไว้ในมือตัวเอง“พอได้แล้วเพคะ องค์ชายไม่ควรดื่มหนักขนาดนี้นะคะ”เคียร่ามองใบหน้าแดงจัดของอาร์มิส เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นเอามาก พอเห็นสภาพนี้ก็เกิดรู้สึกผิดเล็กน้อย“เจ้าอยากให้เราเลิกกับจริงๆ เหรอ...” นัยน์ตาสีอำพันมองมาที่หญิงสาว ขอบตาแดงก่ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะกำลังอดกลั้นไม่ให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมา“ใช่แล้วเพคะ หม่อมฉันหวังว่าองค์ชายจะลืมหม่อมฉันได
ตอนที่13ใช่พระเอกในนิยายจริงๆ เหรอตำหนักองค์ชายอาร์มิสพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า หญิงสาวชุดเดรสสีครีมเรียบง่ายทอดน่องเดินเข้ามาในตำหนักรอง หวังว่าการมาตำหนักนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายเคียร่ามาถึงหน้าห้องขององค์ชายอาร์ส องครักษ์ที่เฝ้าอยู่ข้างหน้าเปิดประตูให้เธอเข้าไปอย่างง่ายดาย เหมือนว่าได้รับคำสั่งตรงจากองค์ชายว่าให้ต้อนรับหญิงสาวผู้นี้ภายในห้องนอนขนาดใหญ่มีเพียงแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องให้ความสว่างอยู่น้อยนิด ชายหนุ่มผมสีบลอนด์ยังคงกระดกแก้วเหล้าไม่มีทีท่าว่าจะวางแก้วลงเขาเหลือบมองเธอและละทิ้งสายตาไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ“จริงๆ ข้าไม่อยากให้เจ้ามาเลย...สภาพตอนนี้ของข้าคงดูไม่ได้” อาร์มิสหยิบขวดเหล้าเพื่อจะเติมลงแก้วใบหรูทว่าเคียร่ากลับกระชากขวดเหล้ามาไว้ในมือตัวเอง“พอได้แล้วเพคะ องค์ชายไม่ควรดื่มหนักขนาดนี้นะคะ”เคียร่ามองใบหน้าแดงจัดของอาร์มิส เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นเอามาก พอเห็นสภาพนี้ก็เกิดรู้สึกผิดเล็กน้อย“เจ้าอยากให้เราเลิกกับจริงๆ เหรอ...” นัยน์ตาสีอำพันมองมาที่หญิงสาว ขอบตาแดงก่ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะกำลังอดกลั้นไม่ให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมา“ใช่แล้วเพคะ ห
“องค์ชายเฮลิออสมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”จักรพรรดิอีเมอร์สันชายวัยกลางอายุราว50ปีผู้มีเรือนผมสีบลอนด์สว่างไสวเหมือนกับอาร์มิสและมีนัยน์ตาสีอเมทิสต์เหมือนกับเฮลิออส ใบหน้านิ่งขรึมไร้อารมณ์ถึงแม้ว่าจะทำงานเอกสารกองเท่าภูเขาอยู่แต่ก็ไม่แสดงถึงความเหน็ดเหนื่อยออกมาเลยแม้แต่น้อยอีเมอร์สันวางปากกาพร้อมกวาดตามองต่อคนที่มาเยือน“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท...”“ได้ข่าวว่าเจ้ามาถึงเมืองหลวงแรมเดือน ทำไมถึงพึ่งจะมาเข้าเฝ้าเรา” อีเมอร์สันเอ่ยเสียงเรียบนิ่งนัยน์ตาสีอเมทิสต์จ้องมองราวกับตานกอินทรี ทั้งดุดัน และน่าเกรงขาม“กระหม่อมเหนื่อยล้ากับการเดินทาง เลยต้องการพักผ่อนให้ร่างกายแข็งแรงดี อีกอย่างกระหม่อมอยากเที่ยวชมเมืองหลวงที่ไม่ได้กลับมาแสนนานด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“เราเข้าใจได้ ขอบใจที่เจ้าชนะสงครามแดนเหนือและกลับมาที่เมืองหลวง ผลงานที่เจ้าสร้างไว้เพื่อจักรวรรดิเราจะตอบแทนให้สมกับที่เจ้าทำไว้”เฮลิออสยกยิ้มราวกับว่าคำพูดของอีเมอร์สันเป็นอย่างที่เขาคาดหวังไว้“กระหม่อมไม่ได้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ แค่อยากกลับมาอยู่ในที่ที่เคยอยู่ก็เพียงพอแล้ว...”อีเมอร์สันรู้ความต้องการของเฮลิออสลูกชายของตนเป็นอย่างดี การมาเยือนขอ
ทหารนายหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นตระหนกเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของบารอนด์วาเลียอย่างรีบร้อนปัง!“ท่านบารอนด์! มีคนบุกรุกโกดังชั้นใต้ดินมันเผาโกดังมอดไหม้ไปทั่วแล้วขอรับ!! พวกทาสหนีออกหายไปหมดไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเลยครับ!”เสียงประตูดังขึ้นทำให้บารอนด์ตื่นจากภวังค์ เขารีบลุกออกจากเตียงนอนเปิดหน้าต่างเพื่อตรวจสอบสิ่งที่ทหารพูด พื้นที่โกดังซึ่งมองเห็นได้ชัดเกิดไฟไหม้ควันฟุ้งลอยเหนือชั้นบรรยากาศ“ใครกันมันกล้ามาหยามข้าขนาดนี้! ดูแลประสาอะไรวะ! รีบไปจับตัวคนบุกรุกมาให้ข้า!!” เสียงโวยวายของชายวัยกลางคนด่ากราดด้วยความโกรธเกรี้ยว“คือว่า...ผู้บุกรุกได้ทำร้ายทหารของเราจนแน่นิ่งไปหมดแล้วครับ...” ทหารตัวใหญ่แสดงความหวาดเกรงมือไม้สั่นปากสั่นเทา“อะไรกัน! มันมีกันเยอะงั้นเหรอ!”“มีผู้ชาย 2 คน คะ ครับ.. มันลอบทำร้ายทหารของเราทีละคน ก่อนจะรู้ตัวพวกทหารก็สลบกันไปหมดแล้วครับ!”ปัก!!! เสียงถีบหลังบารอนด์จากคนชุดดำที่ลอยตัวเข้ามาจากทางหน้าต่าง ตัวบารอนด์ได้กระเด็นตามแรงถีบนอนกลิ้งส่งเสียงโอดครวญอยู่บนพื้นพรมผืนหรู“จะ เจ็บ..” บารอนด์หันไปมองหาความช่วยเหลือจากทหาร ทว่าทหารคนนั้นก็ได้สลบไปแล้ว คนชุดดำสองคนที่บุ
โถงงานเลี้ยงในคฤหาสน์เต็มไปด้วยแขกมากหน้าหลายตาของเหล่าลูกหลานขุนนางชนชั้นสูง ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่หญิงสาวชุดเดรสรัดรูปสีขาวกำลังถูกเจ้าของงานเลี้ยงวันเกิดพูดจาเหน็บแนม“ข้านึกว่าเลดี้เคียร่าจะออกจากงานไปเสียแล้ว มางานวันเกิดแต่ไม่คิดว่ามีของขวัญให้เจ้าภาพงาน หรือว่าที่เลดี้มาคือจงใจอยากจะเป็นที่หมายตาของบุรุษหรือคะ”โมอามองต่ำแสดงสายตาดูถูกดูแคลนใส่หญิงสาวใบหน้ายิ้มแย้ม“นั้นสิคะ อย่างน้อยก็ขึ้นชื่อเป็นคนในตระกูลคราเรนซ์ แต่ดูเหมือนว่าไม่มีมารยาทเอาเสียเลย”ลูกสมุนของโมอาช่วยเสริมเติมแต่งหวังว่าจะทำให้เคียร่าหน้าเสียอีกครั้ง“ของขวัญสำหรับเลดี้โมอามีแน่นอนค่ะ ไหน ๆ แล้วข้าอยากจะมอบความสุนทรีย์บรรเลงเปียโนให้กับทุกคนในงานเลี้ยงได้ฟังกันนะคะ”“คนอย่างเลดี้เล่นเปียโนก็คงเป็นเพลงเพี้ยน ๆ เหมือนคราก่อน ข้าก็ไม่หวังกับเลดี้เคียร่าหรอกค่ะ”โมอาแสยะยิ้ม เธอคิดไม่ถึงว่าเคียร่าจะกล้าเล่นดนตรีอีกครั้ง เพราะว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน ในงานออกสังคมครั้งแรกที่เคียร่าไป เธอได้บรรเลงเพลงให้ผู้คนมากมายได้ฟัง จนทั้งงานได้แต่ขนานนามหัวเราะถึงการเล่นดนตรียอดแย่ของเธอมือเรียวสวยวางมือลงบนเปียโน หลับตาลงนึก
“คุณหนู! ทำไมกลับมาเสียเช้า รู้ไหมข้าเป็นกังวลแทบบ้า!” หญิงสาวแต่งตัวใส่ชุดนอนของผู้เป็นนายดีดตัวลงออกจากเตียงและบ่นกับเคียร่าที่พึ่งกลับมาถึงตอนรุ่งเช้า“เกิดเหตุนิดหน่อยน่ะ ขอบใจนะที่แสดงเป็นข้า”เคียร่ายิ้มหวานพลันลูบหัวโรสอย่างเอ็นดู“ใจข้าว้าวุ่นขนาดไหน...นึกว่าคุณหนูจะไม่กลับมาเสียแล้ว” โรสขมวดคิ้วพร้อมแสดงหน้าน้อยใจ ถ้าเจ้านายไม่กลับมาเธอคงต้องออกตามหาผู้เป็นนายอย่างบ้าคลั่งเป็นแน่“เอาน่า วันนี้เรามีนัดสำคัญข้าจะพลาดไปได้ไง และข้าก็ได้เอกสารหลักฐานมาครบแล้ว คืนนี้เราจะเอาคืนตระกูลวาเลียกัน”ใบหน้าสวยเจ้าเล่ห์แสยะยิ้ม ทำเอาโรสถึงกับใจเต้นแรง เธอรู้สึกชอบบุคลิกนี้ของเจ้านายที่สุด โดยปกติเมื่อคุณหนูอยู่ต่อหน้าคนอื่นการแสดงสีหน้าและท่าทางจะกลายเป็นคนละคนกับตอนนี้เคียร่าต้องแสดงเป็นหญิงสาวใสซื่อ อ่อนแอไม่สู้คนอยู่ตลอด แต่พอได้พ้นสายตาผู้อื่นไป ก็จะแสดงอีกตัวตนหนึ่งออกมาจนตอนนี้โรสเริ่มชินและเข้าใจเจ้านายของตัวเองมากขึ้นแล้วเฮลิออสหยิบโน้ตบนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาอ่านและคลี่ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ถ้าเธอรู้ว่าเขาทำอะไรลงไปคงโดนตราหน้าว่าเป็นพวกโรคจิตเป็นแน่ร่างสูงจัดแจงใส่เสื้อผ้าให้เร
ระเบียงห้องนอนเริ่มถูกประดับไปด้วยกระถางดอกลิลลี่สีขาวมองกันเผิน ๆ ก็คงเหมาะกับเคียร่าเพราะมันดูบริสุทธิ์และส่งกลิ่นหอมเย้ายวน ทว่ารากของมันกลับมีพิษร้ายแรงเมื่อเผลอกินก็อาจถึงตายได้โต๊ะน้ำชาซึ่งตั้งอยู่ตรงระเบียงเคียร่าและโรสกำลังนั่งพูดคุยกันถึงตระกูลบารอนด์วาเลีย“คิดไม่ถึงเลยนะคะว่าเลดี้โมอา ส่งบัตรเชิญชวนไปร่วมฉลองงานวันเกิด”โรสขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่คิดเลยว่าจะมีจดหมายเชิญคุณหนูไปร่วมออกงานสังคม เพราะตลอด1เดือนไม่มีจดหมายฉบับอื่นส่งมาหาเลยนอกจากขององค์ชายอาร์มิสถ้าไปก็คงมีเรื่องสนุกๆ เป็นแน่ โรสเคยเจอเลดี้โมอาไหม”“ไม่เคยเจอเลยค่ะ ตอนนั้นที่ข้านำโพชั่นไปขายเจอเพียงแต่บารอนด์วาเลียค่ะ”“ถ้างั้นเราไปตามบัตรเชิญเสียหน่อย เผื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้าง คราวนี้โรสต้องออกโรงแล้ว”โรสยิ้มดีใจพร้อมพยักหน้าตอบรับ“คุณหนูต้องระวังตัวด้วยนะคะ”“ไม่ต้องห่วงไปหรอก โรสน่ะต้องเสี่ยงไปสืบถึงรังศัตรูเลยเชียวนะ แต่ก่อนที่เราจะเล่นงานบารอนด์วาเลียได้คืนนี้คงต้องไปพบชายผู้นั้นเสียก่อน”“ใครเหรอคะ?”“ก็คนที่ข้าทำสัญญาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ไง เตรียมยาไว้ด้วยเล่า คืนนี้คงต้องใช้ยาของโรสช่วยอีกแรง”“
รถม้าคันหรูประทับตราลวดลายพระอาทิตย์สีทองอร่ามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ราชวงศ์ หญิงสาวสวมผ้าคลุมลงมาจากรถม้าพร้อมชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินท่วงท่าภูมิฐานข้ารับใช้ในตระกูลที่เห็นรถม้าตราพระราชวังต่างตื่นตระหนกตกใจรีบวิ่งไปแจ้งดัชเชสคราเรนซ์โดยเร็ว“องค์ชายอาร์มิสมางั้นรึ!” หญิงสาววัยกลางคนดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาตัวหรู“ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ เรือนผมของท่านผู้น้ำเป็นสีน้ำเงินเข้มซึ่งไม่เหมือนองค์ชายอาร์มิสเลยค่ะ” หญิงรับใช้กล่าวดัชเชสเดินออกจากประตูห้องนั่งเล่นพร้อมเหล่าข้ารับใช้จำนวนหนึ่งทันทีที่เคียร่าและเฮลิออสเข้ามาในคฤหาสน์ โรสที่ได้เห็นเจ้านายของตนอยู่ในสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยี่อีกทั้งยังขาดวิ่น วิ่งกรูเข้ามาด้วยสีหน้าเป็นห่วงดัชเชสเหลือบตามองชายสูงโปร่งหน้าถมึงทึงที่ยืนข้างหญิงสาวอ้อนแอ้น มือไม้เริ่มสั่นไหวต่อความน่าเกรงขามเมื่อนัยน์ตาอเมทิสต์จ้องมองดุดันอย่างผู้เหนือกว่าและแผ่ออร่ากดดันมหาศาลใส่เธอดัชเชสย่อตัวทำความเคารพ เธอยังคงพยายามฝืนสีหน้าให้ปกติเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา“มะ หม่อมฉันดัชเชสคราเรนซ์ทำความเคารพแด่องค์ชายเฮลิออสเพคะ... นึกไม่ถึงเลยว่าพระองค์จะกลับมาจากแดนเหนือเร็วกว่ากำหนด ไม่ทราบ
เปลือกตายับย่นค่อยๆ หรี่ขึ้น ร่างกายขยับไม่ได้ดั่งใจนึกเพราะถูกมัดมือไขว้หลัง เธอกวาดตามองรอบห้องนอนทรุดโทรม บรรยากาศภายในห้องมืดครึ้มจนแทบเห็นหน้าชายที่ยืนอยู่ตรงปลายเตียงได้ไม่ค่อยชัด“ตื่นเร็วเหมือนกันนิ” เสียงทุ้มเอ่ยพลางเดินมานั่งบนเตียง“จะ จับข้ามาทำไม..” น้ำเสียงใสสั่นเครือ เธอแสดงสีหน้าหวาดกลัวต่อชายลึกลับ ทว่าในใจของหญิงสาวกลับตื่นเต้นว่าโจรลักพาตัวจะทำอะไรกันแน่ ถ้าตามในนิยายแล้วแผนลักพาตัวจะไม่สำเร็จเพราะว่าเธอหนีพวกโจรได้อย่างฉิวเฉียดเคียร่ารู้อยู่แล้วว่าแผนการนี้เป็นขององค์ชายเฮลิออสเธอเลยยอมโดนจับแต่โดยดี“ข้าอยากจะรู้นัก ว่าคนรักของน้องชายข้าเป็นยังไง”“ทะ ท่านที่ช่วยข้าครานั้น คือองค์ชายเฮลิออสหรือเพคะ... ท่านจับข้าแบบนี้เพื่ออะไรกันคะ...”“อืม... ข้าคิดอยู่ว่าจะแกล้งน้องชายตนเองนิดหน่อยน่ะ ถ้าหญิงคนรักตกเป็นของผู้อื่น เจ้านั่นจะแสดงสีหน้าแบบไหนกันนะ”องค์ชายอยากได้ตัวข้าเพื่อให้อาร์มิสทรมานใจเนี่ยนะ?เธอไม่คิดเลยว่าแผนของเขามันจะเรียบง่ายแบบนี้ แต่ก็เข้าทางเธอพอดีร่างกำยำขยับตัวเข้าใกล้เธอมากขึ้น เคียร่าจึงต้องสวมบทบาทเป็นหญิงสาวไร้เดียงสาต่อ“จะทำอะไรเพคะ! อย่ามา