ณ อาคารฮั่นซิน!อาคารสูงสามร้อยเมตรนี้เป็นอาคารที่สูงที่สุดในเมืองฮั่น!ซึ่งสามารถชมวิวมุมสูงของเมืองฮั่นได้จากที่นี่ แม้แต่แม่น้ำฮั่นก็สามารถมองเห็นได้ฮั่นซินกรุ๊ปเป็นเจ้าของอาคารหลังนี้อาคารหลังนี้ รวมถึงฮั่นซินกรุ๊ปเป็นกลุ่มองค์กรที่ก่อตั้ง และลงทุนโดยชายที่ร่ำรวยที่สุดในฉู่โจวในเมืองฮั่น ฮั่นซินกรุ๊ปเป็นกลุ่มองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ และเป็นหนึ่งในห้าร้อยบริษัทชั้นนำของโลกที่ติดหนึ่งในท็อปหนึ่งร้อยอันดับแรกด้วยเบื้องหลังและความแข็งแกร่งที่มั่นคง!ทั้งเมืองฮั่น ไม่มีใครกล้าที่จะเหิมเกริมกับกลุ่มคนพวกนี้ในตอนนี้ ชั้นบนสุดของบริษัทฮันซินกรุ๊ปเป็นสำนักงานของประธานฮั่นซินกรุ๊ป ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณ และยังเป็นสถาปัตยกรรมทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียงทั้งสะพานเล็ก ๆ ที่มีทางน้ำไหล และศาลาที่เป็นหอคอย ทั้งหมดราคาประมาณหนึ่งพันล้านบาท!หลี่โม่ยืนเอามือไขว้หลัง เขายืนอยู่ที่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ ซึ่งมองออกไปจะเห็นวิวครึ่งหนึ่งของเมืองฮั่นในตอนกลางคืน และแสงนีออน เขาหยิบเหรียญทองคำที่มีลายแกะสลักมังกร และทาสีไว้พร้อมกับข้อความที่คลุมเครือ และโยนมันลงบนโต๊ะด้านหน้า ซึ่งมีเฉียนฝูยืนอ
ทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในเมืองฮั่นทั้งเล็ก และใหญ่ต่างเพ่งเล็งไปที่นายน้อยหลี่ผู้ร่ำรวยและลึกลับ!ช่างน่าทึ่งมาก!องค์กรวิจัยยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองด้วยเงินลงทุนสองหมื่นล้าน!ตอนนี้ เรื่องซุบซิบเกี่ยวกับนายน้อยหลี่ผู้ร่ำรวยและลึกลับ ต่างก็ถูกแพร่กระจายไปทั่วทุกถนนและตรอกซอกซอยต่าง ๆ แน่นอนว่า ไม่มีใครรู้ถึงตัวตนและภูมิหลังของนายน้อยหลี่ผู้ลึกลับคนนี้รู้แค่ว่ามาจากที่อื่นบ่ายวันนั้น นายน้อยหลี่ผู้ลึกลับได้ก่อตั้งหยุนจงหลานกรุ๊ป ซึ่งได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการบุคคลระดับสูงในเมืองฮั่นต่างก็ได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วมในพิธีตัดริบบิ้น และเปิดตัวของบริษัทสื่อต่าง ๆ รีบรายงานว่า หยุนจงหลานกรุ๊ปสร้างความฮือฮาให้เมืองไปชั่วขณะหนึ่ง และกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็กำลังคุยกันอย่างเมามันเกี่ยวกับนายน้อยหลี่ผู้ลึกลับ และหยุนจงหลานกรุ๊ป เป็นผลทำให้กลายมาเป็นข่าวดังอีกครั้งทันที!หยุนจงหลานกรุ๊ปได้ซื้อพื้นที่รกร้างในเขตทางใต้ของเมืองฮั่นและได้กำหนดที่ตั้งขององค์กรวิจัยด้านเภสัชกรรม!ทันทีที่มีข่าวออกมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเขตทางใต้ของเมืองฮั่นก็พุ่งสูงขึ้
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่โม ทั้งสามคนก็จ้องมาที่เขาอย่างแปลกใจนี่หลี่โม่บ้าไปแล้วเหรอ?ยังกล้ามาพูดแบบนี้อีก!หวังฟางโกรธทันที เธอเลิกคิ้วพลันลุกขึ้นชี้ไปที่หลี่โม่ แล้วด่าว่า "เซอร์ไพรส์อะไรของแก? ทำไมลูกสาวของฉันถึงต้องฟังแล้วทำตามที่แกบอกด้วย? แกมันก็แค่ขยะไร้ค่า แกจะไปมีความคิดอะไร! ไปให้พ้น อย่ามาขวางหูขวางตาฉัน!"หลี่โม่ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง สีหน้าของเขาดูแย่ลงเล็กน้อยแม่ยายของเขาดูถูกเขาไม่เคยเปลี่ยนเลยตลอดช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ในสายตาของหวังฟาง หลี่โม่เป็นแค่หนูข้างถนนที่ไร้ค่า เป็นคนไร้ประโยชน์ที่ถูกรังแกตอนนี้นายน้อยหลี่ผู้ลึกลับต้องการสร้างองค์กรวิจัยทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮั่น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ในสายตาทุกคนต้องการหากได้เป็นหุ้นส่วนกับหยุนจงหลานกรุ๊ป แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากสูญเสียหรงคังกรุ๊ปไป?คุณท่านกู้จะต้องมองหลานสาวด้วยความชื่นชมอย่างแน่นอน และเมื่อถึงเวลา ครอบครัวของกู้หยุนหลานก็จะสามารถเชิดหน้าชูตาต่อหน้าญาติตระกูลกู้ได้แต่การขอเป็นหุ้นส่วนครั้งนี้ พูดง่ายแต่ทำยากกู้หยุนหลานรู้ว่ามันยากหวังฟางก็รู้ว่ามันยากแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ครา
“เพราะอะไร?” หลี่โม่ถามกลับฟางถิงหัวเราะคิกคัก เธอเอามือกอดอก และพูดอย่างเหยียดหยามว่า “เพราะฉันดูถูกนายไง โอเคไหม? นายมันไร้ค่า แล้วยังอยากจะมาสมัครเป็นรปภ. ที่หรงคังกรุ๊ปอีก ใครให้ความกล้ากับนายมากัน? เหลียงจิ้งหรูเหรอไง?”ใบหน้าของฟางถิงเต็มไปด้วยความร้ายกาจเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีคนสมัครเข้ามาเป็นผู้รักษาความปลอดภัยเยอะแยะมากมายไอ้ขยะไร้ค่าอย่างหลี่โม่ก็สมัครด้วยอย่างนั้นหรือ?ฝันไปเถอะ!หลี่โม่ขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเย็นชาลงเล็กน้อย เขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่น่ารำคาญ และปากไม่ดีอย่างฟางถิงเขาจึงหันหลัง เพื่อจะออกไปแต่สิ่งนี้ทำให้ฟางถิงรำคาญเมื่อเธอเห็นหลี่โม่ทำเมินเฉยใส่ตัวเอง เธอก็กระทืบเท้าและก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดและด่าเขา "หลี่โม่ นายหมายความว่ายังไง? กล้าดีอย่างไรมาเมินใส่ฉัน! ฉันบอกแล้วไง ขยะไร้ประโยชน์อย่างนาย อย่าพยายามที่จะเข้ามาสมัครที่หรงคังกรุ๊ปเลย ฉันไม่รู้หรอกนะว่า ผู้หญิงแบบยัยกู้หยุนหลานคิดอะไรอยู่ถึงได้แต่งงานกับคนอย่างนาย น่าอับอายจริง ๆ ! ฮ่าฮ่า นี่ก็คงจะเป็นกรรมของเธอที่ทำตัวอวดดีสมัยเรียน!”“หืม ฉันเคยได้ยินเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับเธอมานะ ฉันได้
เมื่อได้ยินแบบนั้น หลี่โม่ก็ไม่พอใจอย่างมากรปภ. คนนี้เป็นสนุัขเฝ้าประตู แล้วยังจะกล้าดูถูกคนอื่นอีกดูเหมือนว่า หรงคังกรุ๊ปจะคัดเลือกแต่คนที่ไม่มีคุณภาพ!เมื่อเห็นหลี่โม่ขมวดคิ้วแสดงความไม่พอใจ ฟางถิงก็ตะโกนอย่างโกรธเคืองทันที "ยืนทำอะไรกันล่ะ ไปไล่เขาออกไปสิ จะรอให้เขามาทำลายภาพลักษณ์ของหรงคังกรุ๊ปหรือไง!"“ได้ครับ ๆ ผู้จัดการฟาง!”จ้าวกังยืนทำความเคารพอย่างรวดเร็ว“และอีกอย่าง คนอย่างเขาจะไม่มีวันถูกจ้างจากบริษัทของเรา และไม่สามารถสมัครเป็นรปภ. ได้!”ฟางถิงอยากจะฆ่าเขาให้ตาย เพราะคิดว่าหลี่โม่มาสมัครเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเมื่อจ้าวกังหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ประจบเหมือนสุนัขทันที “ผู้จัดการฟางไม่ต้องกังวลครับ ทีมรักษาความปลอดภัยของเราไม่ต้องการคนแบบเขาแน่นอน!”มันจบแล้วจ้าวกังหันไปมองหลี่โม่อย่างจองหอง และพูดว่า "แก ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ อย่าให้พวกฉันต้องไล่แกไปเอง!"หลี่โม่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ รปภ. พวกนี้ไม่ว่าพวกเขาจะรักษาความปลอดภัยอยู่ที่ไหนก็ล้วนเป็นอันธพาลเหมือนกันหมด“ไล่ฉันออกไปเหรอ? ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่าวันนี้ใครจะกล้าไล่ฉัน
ด้วยท่าทีการสูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชาแบบนี้ทำให้ฟางถิงรู้สึกกลัวมากจนหายใจไม่ออก ขาของเธออ่อนจนเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น เธอไม่กล้าสบตาของหลี่โม่เลยคำพูดของประธานหรง ยังต้องสงสัยอีกเหรอ?ความจริงแล้ว เขาคือนายน้อยหลี่ผู้ลึกลับที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วเมืองฮั่น!นี่… มันเป็นไปได้อย่างไร?“หลี่ พี่หลี่… ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว”ฟางถิงกัดริมฝีปากสีแดงพร้อมเดินไปหาหลี่โม่และก้มตัวลงเก้าสิบองศา“พี่หลี่ ฉันขอโทษได้โปรดให้อภัยฉันด้วย”หลี่โม่เยาะเย้ยและพูดว่า "เธอเป็นผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ของหรงคังกรุ๊ป แล้วฉันเป็นใครกัน ก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้ที่มาสมัครเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไงล่ะ"ฟางถิงรู้ว่าหลี่โม่กำลังล้อเลียนความโง่เขลาของตนเธออับอายมาก เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วโค้งคำนับอีกครั้งเพื่อขอโทษ “พี่หลี่ ฉันผิดเอง ฉันทำผิดพลาดร้ายแรงที่สุด ฉันมีตาแต่หามีแววไม่และเป็นคนต่ำต้อย แต่ขอร้อง เห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันกับกู้หยุนหลานในอดีตเถอะนะ ได้โปรดอย่าไล่ฉันออกเลย"ฟางถิงกลัวมาก เพราะในที่สุดเธอจะได้งานที่มีหน้าตาและเงินเดือนสูงอย่างหรงคังกรุ๊ป ถ้าหากสูญเสียมันไป เธอ
หลี่โม่ยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ย แล้วพูดว่า "ให้เขาขึ้นมา ผมจะรอดู แล้วให้คุณจัดการกับเขา"“ได้ครับ คุณชายหลี่” หรงปินพูดไม่กี่นาทีต่อมา กู้ซิ่งเหว่ยก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขายื่นมือออกมาและพูดอย่างประจบประแจง "โอ้ ท่านประธานหรง ในที่สุดผมก็ได้พบคุณแล้ว ผมรู้สึกประทับใจ และตื่นเต้นเป็นอย่างมากครับ"หรงปินยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า "ผู้จัดการกู้ คุณสุภาพมากนะ"เมื่อกู้ซิ่งเหว่ยเห็นหรงปินจับมือกับเขา เขาก็ยิ้มทันที ดูเหมือนว่า วันนี้หรงคังกรุ๊ปอาจจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบแล้ว‘แน่นอน ฉันกู้ซิ่งเหว่ย คือมังกรในหมู่มนุษย์และเป็นอนาคตของตระกูลกู้’อย่างไรก็ตาม เมื่อมองเข้าไปข้างใน สายตาของเขาก็เห็นว่ามีคนอื่นอยู่ในสำนักงาน และพวกเขากำลังนั่งดื่มชากันอย่างสง่าผ่าเผยบนโซฟา“หลี่โม่? ไอ้ขยะ แกมาทำอะไรที่นี่?” สีหน้าของกู้ซิ่งเหว่ยเปลี่ยนไป เขาดูไม่สบอารมณ์อย่างมาก สายตาของเขาเย็นชาขึ้น และเต็มไปด้วยการดูถูกทำไมไอ้ขยะถึงมาอยู่ที่นี่?แถมยังนั่งจิบชาบนโซฟาอย่างสบายใจเฉิบ!ไอ้หมอนี่ มันไม่รู้หรือไงว่าที่นี่คือที่ไหน?นี่คือห้องทำงานของประธานหรงคังกรุ๊ป!หลี่โม่ยิ้ม เขายก
ก่อนที่กู้ซิ่งเหว่ยจะพูดจบ หรงปินก็พูดขัดจังหวะเขาขึ้นมาว่า "ผมคิดว่า การเซ็นสัญญาขอความร่วมมือของเราอาจจะช้าลง เพราะตระกูลกู้ไม่มีความจริงใจ ผู้จัดการกู้ ผมขอเตือนคุณไว้นะ ไม่ได้มีแค่บริษัทคุณเท่านั้นที่ต้องการขอความร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ป แล้วอีกอย่างตระกูลกู้ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่ในเมืองฮั่นด้วย"หลังจากพูดจบ หรงปินก็พูดอย่างเย็นชา “ส่งแขก”ฮึ!กู้ซิ่งเหว่ยทั้งตระหนก และหวาดกลัวเขาคิดว่าหรงปินคงจะยอมรับและเห็นด้วยในด้วยเรื่องนี้ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่า อีกฝ่ายจะยอมรับเพียงแค่ยัยกู้หยุนหลานเท่านั้น!บ้าจริง!หรือว่าคนที่กู้หยุนหลานนอกใจไปจะไม่ใช่หรงชางเวย แต่เป็นหรงปิน…ตอนนี้กู้ซิ่งเหว่ยรู้สึกว่าชาที่หัว และหนักใจ เพราะคำพูดสุดท้ายของหรงปิน มันเหมือนเป็นการเตือนเขาว่า ตระกูลกู้ไม่ใช่ทางเลือกเดียวของหรงคังกรุ๊ปจะทำอย่างไรดี?หากการขอความร่วมมือครั้งนี้ถูกทำลายด้วยมือของเขาเอง คุณปู่จะต้องไม่ให้อภัยเขาแน่!กู้ซิ่งเหว่ยกังวลมาก หรือเขาควรจะไปเชิญยัยกู้หยุนหลานให้มาที่นี่ดี?ในขณะนี้ หลี่โม่ลุกขึ้น และเดินออกจากห้องทำงานไปกู้ซิ่งเหว่ยอยู่ต่อก็คงจะไม่ใช่ความคิดที่ดี เขาหัวเ