หน้าหลัก / รักโบราณ / ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70) / บทที่ 6 เบื้องหลังของตงเหวินหมิง

แชร์

บทที่ 6 เบื้องหลังของตงเหวินหมิง

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-22 15:01:18

บทที่ 6 เบื้องหลังของตงเหวินหมิง

ไม่นานหญิงสาวก็เดินมาถึง ในครัวนี้เต็มไปด้วยอาหารมากมาย มีทั้งเนื้อสดและเนื้อตากแห้ง ผักผลไม้ เอาเป็นว่าครัวนี้มีครบทุกอย่างสมกับเป็นครัวของตระกูลหยางที่ยิ่งใหญ่

แต่ทว่าในขณะที่กำลังหยิบเนื้อหมูชิ้นโตเตรียมจะทำอะไรกิน กลับได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชายหนุ่มเจ้าของบ้านขึ้นมา

“พี่เหวินหมิง พี่อยู่บ้านหรือไม่”

ซูหว่านตะโกนเรียกตงเหวินหมิงอยู่หน้าบ้าน เพราะเธอได้ยินว่าหัวหน้าคอมมูนให้เขาไปเอาปุ๋ยและของใช้ที่สำนักงานในเมือง เธอเลยตั้งใจว่าจะขอตามไปด้วย ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าเขาแวะมาที่บ้าน เธอเลยรีบตามมา

ด้วยความตกใจเสียงเรียก หยางเหมยจินจึงนึกถึงบ้านตง จากนั้นแสงที่สร้อยก็ปรากฏขึ้นมาชั่วขณะ และเมื่อแสงสว่างดับลง เธอก็พบตัวเองได้กลับมายังบ้านตงอีกครั้ง พร้อมกับเนื้อหมูชิ้นโตที่หยิบติดมือมาด้วย แม้อยากจะตะโกนร้องถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่เพราะไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ หญิงสาวจึงหลบซ่อนอย่างเงียบเชียบเพราะกลัวอีกฝ่ายจะบุกเข้ามา

“สงสัยจะเข้าเมืองไปแล้ว พี่เหวินหมิงนะพี่เหวินหมิง จะรอกันหน่อยก็ไม่ได้” ซูหว่านกระทืบเท้าด้วยความขัดใจที่ตามมาไม่ทันชายหนุ่ม ก่อนจะหมุนตัวกลับไปทำงานของตนเองอีกครั้ง

นี่จึงทำให้หยางเหมยจินถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นจึงก้มมองของในมือตัวเอง “เอ๊ะ! นี่เอาเนื้อหมูออกมาได้ด้วยเหรอ”

เธอร้องถามด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าเมื่อออกมาจะมีเนื้อหมูติดมือมาด้วย หรือว่านี่จะเป็นมิติวิเศษที่ได้ติดตัวมาหลังจากข้ามเวลามาแล้ว

“ถ้าสามารถเอาของในมิติออกมาได้ ก็แสดงว่าข้ารอดตายแล้วใช่หรือไม่” หยางเหมยจินพูดออกมาด้วยความดีใจ ดวงตาของนางเปล่งประกายเจิดจ้า

เมื่อต้องการพิสูจน์บางอย่าง หยางเหมยจินจึงหลับตาแล้วนึกถึงตระกูลหยางอีกครั้ง ก็พบว่าเธอกลับไปที่นั่นได้จริง ๆ และเธอเดินสำรวจด้านในอีกครั้งอยู่พักใหญ่ แต่ไม่นานก็รู้สึกอึดอัดคล้ายจะหายใจไม่ออกจึงคิดถึงบ้านตงเพื่อจะออกมา ก่อนจะออกมาเธอก็หยิบของหลายสิ่งหลายอย่างติดมือมาด้วย เพื่อดูว่าสามารถนำออกมาได้จริงหรือไม่ และผลสรุปว่าเป็นอย่างที่คิดจริงๆ

“ถ้าแค่คิดถึงสถานที่ก็ไปมาได้อย่างสะดวกอย่างนั้นหรือ แต่ทำไมอยู่นานๆ ไม่ได้ล่ะ หรือที่นั่นจะไม่ใช่ที่อยู่ของเราอีกต่อไป”

หยางเหมยจินพูดกับตัวเองเบาๆ เธอรู้สึกว่าไปที่จวนของตระกูลหยางได้ แต่มีบางสิ่งบางอย่างบ่งบอกว่าที่นั่นไม่ใช่ที่อยู่ของเธออีกแล้ว เธอสามารถไปได้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น “แล้วถ้าคิดถึงสิ่งของล่ะ จะสามารถเรียกได้หรือไม่นะ”

เมื่อสงสัยหญิงสาวก็แบมือข้างที่มีสร้อยออกแล้วนึกถึงสิ่งของที่ต้องการ ผลปรากฏว่าไม่ว่าหญิงสาวจะคิดอยากได้สิ่งใดออกมา สิ่งของเหล่านั้นก็จะมากองอยู่ตรงหน้าทันที ไม่ว่าจะเป็นของชนิดใดชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ขนาดไหน ล้วนเรียกออกมาได้เหมือนกันทั้งหมด หากว่าของสิ่งนั้นมีอยู่ในจวนตระกูลหยางหรือสถานที่ที่เธอเคยไปในชาติที่แล้ว เสียดายที่เงินที่ใช้แตกต่างกันมาก จึงไม่สามารถเรียกมาใช้ได้

“ถ้าอย่างนั้นฉันเข้าครัวดีกว่า เมื่อเช้าคล้ายกับว่าอาหารและวัตถุดิบในบ้านหลังนี้น่าจะหมดแล้ว”

คิดได้ดังนั้นเธอจึงเดินเข้าครัวทันที ก่อนจะเรียกวัตถุดิบต่าง ๆ ออกมา ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องปรุง และพวกเนื้อสัตว์ เธอหวังว่าเย็นนี้จะได้เลี้ยงฉลองกับทุกคนด้วยมื้ออาหารที่สุดแสนอร่อยนี้

ส่วนทางด้านตงเหวินหมิง หลังจากไปเอาของที่สำนักงานตามคำสั่งของหัวหน้าคอมมูนเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจึงไปสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งที่แห่งนี้มีกำแพงหนาทึบล้อมรอบอีกทั้งประตูด้านหน้าก็สูงใหญ่ยิ่งนัก

เมื่อมาถึงตงเหวินหมิงจึงเคาะประตูสามครั้ง ไม่นานก็มีคนด้านในออกมาเปิด พอเห็นชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้าจึงได้เอ่ยถามว่ามาหาใคร

“ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนบุคคล ไม่ทราบคุณมาหาใคร”

ชายคนนี้คล้ายจะเป็นคนมาใหม่ทำให้ไม่รู้จักตงเหวินหมิง ถึงได้ถามออกมาแบบนี้

“แจ้งนายท่านหลู่ว่าเหวินหมิงมาขอพบ” ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างไม่ถือสาที่ถูกถามอย่างนั้น เพราะเขาก็ไม่คุ้นหน้าคนเฝ้าประตูเช่นกัน

“ถ้าเช่นนั้นกรุณารอสักครู่ ผมจะรีบไปแจ้งนายท่านให้ทราบ” พูดจบเขาก็รีบปิดประตูแล้ววิ่งเข้าไปด้านในทันที เพื่อส่งข่าวให้นายท่านรู้ว่าใครมาขอพบ

ไม่ถึงห้านาทีชายคนเดิมก็วิ่งกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับรีบเปิดประตูกว้างและเชิญให้ตงเหวินหมิงเข้าไปด้านใน

“เชิญครับ นายท่านรออยู่” เขากล่าวออกมาอย่างนอบน้อม

“ขอบใจนะ” ตงเหวินเมิงพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปภายในกำแพงและตรงไปที่บ้านหลังใหญ่อย่างคุ้นเคย

“หายหน้าหายตาไปนานเลยนะ” ชายสูงวัยคนหนึ่งเดินออกมารับเขาที่หน้าบ้านด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เขาไม่คิดไม่ฝันว่าคนอย่างตงเหวินหมิงจะมาขอพบ

“สวัสดีครับท่าน วันนี้ผมมีเรื่องจะรบกวนท่านสักหน่อย” ตงเหวินหมิงมีนิสัยไม่ใช่คนช่างพูดอยู่แล้ว เมื่อพบกับคนที่มีอำนาจสูงสุดของที่นี่ ชายหนุ่มจึงไม่คิดที่จะอ้อมค้อมอีก

“รู้ใช่ไหมว่าการมาเยือนที่นี่และเอ่ยขอร้องอย่างนี้ บางครั้งเงินก็ไม่ใช่ข้อแลกเปลี่ยนที่ดีที่ฉันอยากได้ นายเข้าใจสิ่งที่ฉันพูด ใช่หรือไม่เหวินหมิง ว่าแต่นายมาเยือนถึงสถานที่แห่งนี้ นายต้องการอะไรเหรอ”

นายท่านหลู่กล่าวขึ้นมาอย่างยิ้มแย้ม เขาพยายามสร้างทุกอย่างเพื่อตอบแทนใครบางคน แต่ทว่าทายาทของคนคนนั้นกลับไม่สนใจ คิดเพียงอยากจะเป็นชาวบ้านธรรมดา ทั้ง ๆ ที่มีความสามารถมากจนไม่อาจหาใครมาเทียบได้ หากในครั้งนั้นทุกคนไม่ถูกใส่ร้าย ชีวิตคงไม่ต้องเป็นแบบนี้

“เข้าใจครับ ครั้งนี้ผมต้องการเอกสารยืนยันตัวตนของใครคนหนึ่ง ผมจะแจ้งชื่อไว้ก่อนส่วนภาพถ่ายผมจะนำมาให้วันหน้า เรื่องนี้ผมต้องแลกเปลี่ยนด้วยอะไรครับ” ตงเหวินเมิงตอบกลับไปเหมือนเขารับได้ทุกข้อแลกเปลี่ยน ก่อนจะบอกความต้องการของตนเองออกไป

แม้จะหยิบกล่องใส่เงินเก็บของบ้านตงมาด้วย แต่เวลานี้คงไม่ต้องใช้แล้ว ในเมื่อนายท่านหลู่กล่าวออกมาชัดเจนแล้วว่าต้องการสิ่งอื่นเป็นการแลกเปลี่ยน

นายท่านหลู่กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างพึงพอใจกับคำตอบ เขาเชื่อว่าพยัคฆ์ต่อให้ซ่อนตัวอย่างไร ก็ย่อมเป็นพยัคฆ์อยู่ดี อย่างเช่นชายหนุ่มตรงหน้านี้อย่างไรล่ะ ที่พยายามหลบซ่อนตัวเพียงเพราะต้องการปกป้องหลานฝาแฝดที่เป็นทายาทที่เหลือของพี่สาวตนเอง แต่เมื่อจะลงมือทำอะไรก็ไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง

“คนที่นายต้องการให้ทำเอกสารเป็นใครเหรอ สำคัญต่อนายหรือไม่” นายท่านหลู่ยังไม่ตอบข้อแลกเปลี่ยนของตนเอง แต่กลับถามถึงคนที่ชายหนุ่มต้องการให้มีตัวตน ซึ่งคงจะสำคัญกับชายหนุ่มไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคนคนนี้คงไม่มาขอความช่วยเหลือแบบนี้

“เรื่องนั้นผมคิดว่านายท่านไม่ควรมาใส่ใจหรอกครับ บอกข้อแลกเปลี่ยนของท่านมาเถอะ” ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กลับทวงถามคำตอบที่เขาถามออกไป

ตงเหวินหมิงรู้ดีว่าเรื่องการทำเอกสารยังมีที่อื่นให้ติดต่อ แต่เพราะเขาไม่เชื่อในความสามารถของคนอื่น เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาเรื่องมันจะลุกลามใหญ่โตได้ แต่กับทางนายท่านหลู่คนนี้ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ เขาเลยยอมที่จะถามถึงข้อแลกเปลี่ยนในครั้งนี้

“ฉันต้องการเอกสารในห้องลับของนายพลจ๋าย นายทำได้หรือไม่ นอกจากนายจะได้เอกสารยืนยันตัวตนที่นายต้องการแล้ว ฉันยังมีค่าเหนื่อยให้นายอีกส่วนหนึ่ง นายจะได้เก็บเป็นค่าเล่าเรียนให้หลาน…ให้ลูกทั้งสองของนายอย่างไรล่ะ”

เมื่อเจอสายตาชาเย็นชาของตงเหวินหมิง นายท่านหลู่จึงเปลี่ยนคำเรียกของสองแฝดใหม่ เนื่องจากทุกคนรู้เพียงเด็กทั้งสองเป็นลูกของตงเหวินหมิง ไม่ใช่หลานอย่างที่เขารู้

นายท่านหลู่ส่งซองเอกสารบางอย่างให้ตงเหวินหมิง เมื่อชายหนุ่มรับมาจึงเปิดเอกสารด้านในดู เอกสารในซองนี้บอกถึงสิ่งที่นายท่านหลู่ต้องการ เขาเห็นแล้วก็ปิดซองไว้เช่นเดิม

“อีกสามวันผมจะนำสิ่งที่นายท่านต้องการมาให้ ส่วนนี่คือชื่อของคนที่จะให้ทำหนังสือยืนยันตัวตนครับ” ชายหนุ่มรับข้อเสนอและส่งกระดาษที่มีชื่อหยางเหมยจินที่เขาเตรียมมาให้นายท่านหลู่ พร้อมเอกสารซองนั้นที่เขาไม่ต้องนำไปด้วย ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกมา ใบหน้าของเขายังคงราบเรียบและแฝงไปด้วยความเย็นชาเหมือนเดิม

หลังจากที่ตงเหวินหมิงกลับไปแล้ว คนสนิทของนายท่านหลู่ที่ยืนฟังเงียบๆ ก็อดที่จะเอ่ยขึ้นด้วยความกังวลไม่ได้

“นายท่านทำแบบนี้ทำไมครับ คนของเรามีออกตั้งมากมาย ไม่ควรดึงนายน้อย เอ่อ...คุณตงเหวินหมิงเข้ามาพัวพันกับเรื่องพวกนี้เลยนะครับ หากนายท่านใหญ่ทราบว่านายท่านพยายามทำให้คุณเหวินหมิงกลับมาเดินเส้นทางนี้ นายท่านใหญ่คงลุกขึ้นออกมาจากหลุมเพื่อจัดการนายท่านแน่ครับ”

“ฮ่า ๆ ๆ นายก็ช่างเปรียบเปรยนะอาเค่อ พี่ใหญ่ควรจะดีใจที่ฉันพยายามสร้างเส้นทางนี้เพื่อหลานชายของเราสิ เวลานี้อาหมิงยังคงจมอยู่กับอดีต เขาคิดว่าเพราะวันนั้นตัวเองไม่อยู่และกลับบ้านช้า คนพวกนั้นถึงได้กวาดล้างตระกูลตงแห่งเมืองปักกิ่งจนไม่เหลือ แต่ใครจะคิดกันล่ะว่าตระกูลตงยังเหลือพยัคฆ์ไว้หนึ่งคน พร้อมกับหลานอีกสองคน เวลานี้คนพวกนั้นยังมีอำนาจอยู่ และพวกเรายังทำอะไรไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือการรอเวลาเท่านั้น”

นายท่านหลู่มีแววตาที่อ่อนโยนเมื่อเอ่ยถึงหลานชายอย่างตงเหวินเมิง แต่กลับแข็งกร้าวขึ้นมาเมื่อคิดถึงคนที่ทำลายตระกูลตงจนไม่เหลือ แม้แต่ตัวเขาเองที่เป็นตระกูลตงสายรองก็ยังแทบเอาตัวไม่รอด เขาต้องสูญเสียลูกและภรรยาไปกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น จนต้องหลบหนีและแฝงกายเป็นนายท่านหลู่จนถึงทุกวันนี้

“คุณเหวินหมิงยังคงโทษตัวเองและอยากชดใช้โดยการเลี้ยงดูสองแฝดนั่นอย่างดี อย่างน้อยสองแฝดก็ยังมีเลือดของตระกูลตงอยู่ครึ่งหนึ่ง แล้วนายท่านจะทำอย่างไรต่อจากนี้ครับ” จางเค่อเอ่ยถามเจ้านายของตนเองออกไปอย่างจนปัญญา

“นายลองส่งคนไปสืบเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ดูสักหน่อยสิว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ทำไมอาหมิงถึงออกหน้าทำเอกสารนี้ให้ ฉันไม่อยากให้อาหมิงต้องหลงผิดหากมีใครส่งเธอมา เพราะรู้ถึงตัวตนของอาหมิง”

นายท่านหลู่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาเริ่มเป็นกังวล เมื่อคิดว่าหญิงสาวที่ชื่อหยางเหมยจินอาจจะมาสร้างความเดือดร้อนให้กับหลานชาย และเขาจะพยายามคิดหาทางผลักดันให้ตงเหวินหมินกลับมายืนในที่ของตน ไม่ใช่ไปทนลำบากลำบนเป็นชาวบ้านธรรมดาอยู่แบบนั้น

“ครับนายท่าน” จางเค่อรับคำอย่างแข็งบขัน แต่ภายในใจนั้นกลับกังวลไม่น้อยกับการที่ต้องไปสืบเรื่องราวของบ้านตง

‘นายท่านสั่งอะไรไม่คิดเลย หากนายน้อยเหวินเมิงรู้เรื่องเข้า มีหวัง…'

เมื่อคิดถึงตรงนี้จางเค่อก็ทำหน้าสยองและสะบัดศีรษะไล่ความกังวลออกไป ก่อนจะเดินออกมาสั่งการลูกน้องของตนเองอีกที 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 7บอกเรื่องมิติ

    บทที่ 7บอกเรื่องมิติตงเหวินหมิงเมื่อออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่แล้ว ชายหนุ่มก็มุ่งหน้ากลับเข้าหมู่บ้านทันที โดยไม่ลืมแวะซื้ออาหารติดมือไปด้วย“เรียบร้อยแล้วครับหัวหน้า ผมขอกลับบ้านสักครู่นะครับ จะขอเอาของที่ซื้อมาจากในเมืองไปเก็บก่อนและจะได้ไปกินข้าวเที่ยงด้วย” ชายหนุ่มเข้ามารายงานหัวหน้าคอมมูนและขออนุญาตกลับไปที่บ้าน เพราะจะเอาอาหารไปกินพร้อมหญิงสาว เขากลัวว่าเธอจะหิวเพราะนี่ก็บ่ายมากแล้ว“ขอบใจนะ นายไปเถอะ นี่ก็บ่ายคล้อยแล้วรีบกลับไปกินข้าวเที่ยงก่อนเถอะ วันนี้นายจะหยุดงานช่วงบ่ายไปเลยก็ได้นะเพราะอีกไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เดี๋ยวฉันลงเวลาให้เต็มเอง” หัวหน้าคอมมูนตอบกลับอย่างมีน้ำใจ โดยให้ตงเหวินหมิงหยุดงานในช่วงบ่ายนี้แทน แต่ก็ยังลงเวลาเต็มวันให้“ขอบคุณครับหัวหน้า แต่อย่าดีกว่าครับ ผมไม่อยากให้ใครมองว่าผมเอาเปรียบ ถ้าผมไม่มาก็ไม่ต้องลงเวลาให้หรอกครับ ลงเท่าที่ผมทำงานก็แล้วกัน”ตงเหวินหมิงตอบกลับทันที เขาไม่ต้องการให้ใครมาตำหนิได้ว่าไม่ทำงานแต่ยังได้รับคะแนนเต็มวัน และเขาตั้งใจแล้วว่าช่วงบ่ายวันนี้จะขอลาหยุดพอดี เมื่อหัวหน้าเปิดโอกาสเขาจึงรีบรับทันที“เช่นนั้นก็ตามใจเถอะ รีบกลับไปกิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 8 มาหาถึงบ้าน

    บทที่ 8 มาหาถึงบ้าน“ที่นี่คือ…” ตงเหวินหมิงอดที่จะถามไม่ได้ สายตาคมเข้มประดุจเหยี่ยวสำรวจรอบ ๆ ด้วยความสนใจไม่ใช่เพราะที่นี่คือที่ที่เก็บอาหารและสิ่งของมากมาย แต่ที่นี่กลับทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนต่างหาก“ที่นี่คือจวนตระกูลหยาง ก่อนแต่งงานฉันก็อยู่ที่นี่ล่ะ” หญิงสาวตอบกลับอย่างร่าเริงเมื่อมายังสถานที่ที่คุ้นเคย หยางเหมยจินจึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข พร้อมกับเล่าถึงคนในครอบครัวให้อีกฝ่ายฟัง ซึ่งเขาก็นั่งฟังอย่างใส่ใจ“จริงสิ ฉันได้ยินว่าคุณมักจะขึ้นเขาไปล่าสัตว์อยู่เสมอ ในจวนแห่งนี้มีห้องเก็บอาวุธ คุณลองไปดูธนูไหมเผื่อว่าจะได้ที่ถูกใจ จากนั้นเราค่อยไปเลือกผ้าเอามาตัดชุดให้กับทุกคน ฉันไม่กล้าเลือกเองเพราะไม่รู้ว่ายุคของคุณใส่เสื้อผ้าแบบไหน และใส่สีสดใสได้หรือเปล่า”หยางเหมยจินพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าตงเหวินเมิงต้องไปล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารให้ลูกๆ เธอจึงเสนอให้เขาไปเลือกอาวุธที่มีมากมายในจวนแห่งนี้ ส่วนเรื่องเสื้อผ้านั้น เท่าที่ดูจากการแต่งกายของสามคนพ่อลูกเธอเห็นเพียงเสื้อผ้าธรรมดา แม้จะไม่มีรอยปะแต่ก็ไม่ได้ใหม่นัก อีกทั้งยังไม่มีสีสดใสเลย จึงอยากจะตัดเย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 9 ออกหน้าช่วยเหลือ

    บทที่ 9 ออกหน้าช่วยเหลือ“แล้วเรื่องนี้ผมควรจะทำอย่างไรดี พูดไปชาวบ้านคงไม่เชื่ออย่างที่คุณบอก” ตงเหวินหมิงเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าบอก เนื่องจากเขาเป็นผู้ชายและไม่ค่อยสนใจคำครหาของชาวบ้าน แต่ลืมไปว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจจะกระทบกับลูกทั้งสองคน โดยเฉพาะลูกสาวอย่างตงฟางลี่“เรื่องนี้ฉันจัดการเองถ้าคุณไม่ตำหนิฉันนะ หากไม่เช่นนั้นแล้วผู้หญิงคนนั้นคงไม่หยุดวุ่นวายกับคุณแน่” หยางเหมยจินคล้ายกับจะตัดสินใจบางอย่าง เนื่องจากเธอไม่มีอะไรจะให้เสียหายแล้ว ชื่อเสียงสำหรับเธอเป็นเพียงแค่ของประดับเท่านั้น การที่จะได้ช่วยผู้มีพระคุณทำให้เธอยอมที่จะแลก“อย่าบอกนะว่าคุณจะ...” ตงเหวินหมิงเหมือนจะเดาความคิดของอีกฝ่ายได้ จึงได้มีสีหน้าตกใจ“ใช่ค่ะ เรื่องอื่นปล่อยไว้ก่อน หากทำแบบนี้อย่างน้อยฉันก็สามารถออกมาจากบ้านของคุณและช่วยงานทุกคนได้ แต่คุณไม่ต้องกังวลนะ ถ้าเมื่อไรที่คุณมีหญิงสาวที่ชอบ ฉันจะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอคนนั้นได้รับรู้ด้วยตัวเอง คุณคิดเห็นว่าอย่างไร” หญิงสาวคิดว่าเขารู้แล้วว่าเธอจะทำอะไร จึงบอกเขาไม่ให้กังวลหากเขามีคนรักในภายหลัง“คุณคิดดีแล้วใช่ไหมที่จะทำแบบนี้ แต่คุณจะเส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 10 อย่าคิดว่าร้ายไม่เป็น

    บทที่ 10 อย่าคิดว่าร้ายไม่เป็นเมื่อได้ยินเสียงผู้เฒ่าเอ่ยถาม ตงเหวินหมิงที่มีความสัมพันธ์อันดีกับบ้านหม่าอยู่แล้ว จึงตอบกลับมาตามที่นัดแนะกับหยางเหมยจินไว้ พร้อมกับรู้สึกผิดและขอโทษเธออยู่ในใจที่ทำให้ต้องมาออกหน้าในเรื่องวุ่นวายเช่นนี้“ผู้หญิงคนนี้ชื่อหยางเหมยจินครับปู่หม่า เธอคือคู่หมั้นของผม ส่วนเรื่องที่ผมและอาเหมยหมั้นหมายกันได้อย่างไรและเมื่อไร ผมขอไม่ขยายความนะครับ ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนเรื่องแต่งงาน เรามองกันว่ากลางปีหน้าจะจัดงานอย่างถูกต้องครับ”“ละ แล้ว ทำไมนังคนนี้ถึงได้มาอาศัยในบ้านของพี่ล่ะ เป็นแค่คู่หมั้นไม่ใช่เมียพี่เสียหน่อย” ซูหว่านเอ่ยถามอีกครั้งด้วยอาการที่จ้องจะจับผิดแต่กลายเป็นหยางเหมยจินที่รั้งแขนของตงเหวินหมิงไว้ และตอบคำถามประโยคนี้ด้วยตัวเอง ใครจะมองว่าเธอเป็นหญิงน่ารังเกียจเธอก็ไม่สนใจแล้วในตอนนี้ ขอแค่ช่วยให้ชายหนุ่มหลุดออกจากมือของผู้หญิงคนนี้ก็พอ“การที่หญิงชายอยู่ด้วยกัน แม้ว่ามันจะไม่เหมาะสมหรือไม่คู่ควร ในเมื่อฉันและพี่หมิงเป็นคู่หมั้นกันแล้ว เรื่องในมุ้งของเราสองคนคงไม่ต้องให้ใครมายุ่งวุ่นวาย อีกทั้งเรื่องนี้อาหยวนกับลี่ลี่ก็รับรู้แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 11 พบเจอคนคุ้นเคย

    บทที่ 11 พบเจอคนคุ้นเคยเมื่อเข้ามาในบ้านตง ทั้งสามได้แต่มองหน้ากันไปมา แม้แต่เกาซื่อหลินก็เงียบปากสนิท จนตงเหวินหมิงคิดว่าเรื่องนี้มันซับซ้อนเกินไป และคิดให้หญิงสาวทั้งสองคนพูดคุยกันเลยลุกขึ้นยืนและจะเดินเลี่ยงไปทางหลังบ้าน แต่ทว่าหยางเหมยจินกลับรั้งเขาไว้“คุณไม่ต้องไปไหนหรอกค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณเการู้ได้อย่างไรว่าเราไม่ได้เป็นคู่หมั้นกัน ฉันคิดว่าคุณอยู่ฟังด้วยดีกว่าค่ะ”หยางเหมยจินเวลานี้คิดว่าชายหนุ่มคือคนในครอบครัว อย่างไรเธอคิดว่าเขาควรจะอยู่ด้วยเกาซื่อหลินไม่พูดอะไรเมื่อหยางเหมยจินทำแบบนี้ แต่ทว่าใบหน้างามกำลังอาบไปด้วยน้ำตา ไม่คิดว่าสามวันที่เธออยู่ที่นี่อย่างเดียวดาย สุดท้ายแล้วก็เจอเข้ากับหวางเฟยอีกครั้ง เกาซื่อหลินคุกเข่าตรงหน้าหยางเหมยจิน จนทำให้ทั้งสองคนตกใจ ก่อนที่จะยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อเธอจะคลานเข้าไปกอดขาหญิงสาวเอาไว้ ก่อนจะเรียกเธอเบาๆ ว่า “หวางเฟยของบ่าว”เมื่อพบว่าอีกฝ่ายใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตาและพยายามกลั้นเสียงร้องไห้ไว้ก็ยิ่งตกใจ แม้แต่ตงเหวินหมิงยังแปลกใจกับการกระทำของหญิงสาวจากบ้านเกา“เดี๋ยวก่อนคุณเกานี่คุณกำลังทำอะไร อย่าทำแบบนี้เลย ว่าแต่เมื่อครู่นี้คุณเรี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 12 เกาซื่อหลิน

    บทที่ 12 เกาซื่อหลินเมื่อเห็นว่าทั้งคู่คล้ายกับจะลืมตนเองไป เกาซื่อหลินเลยเอ่ยปากขึ้นมาเรื่องที่พักถาวรของหยางเหมยจิน“เรื่องการค้าฉันว่าค่อยคิดดีหรือไม่ เอาเรื่องที่อยู่ถาวรของพี่สาวเหมยจินก่อนดีกว่า ในเมื่อพี่สาวเหมยจินและพี่ชายตงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน หากจะอยู่ด้วยกันมันจะเหมาะสมหรือ แล้วเท่าที่ฉันพอจะรู้มาสองแฝดลูกของพี่ชายตงนั้นหวงพี่ชายตงไม่น้อย แล้วแบบนี้จะมีปัญหาหรือไม่”เกาซื่อหลินแม้จะต้องการให้นายสาวอยู่ไปกับเธอตลอดไป แต่เพราะเวลานี้ชาวบ้านรับรู้เพียงว่าหยางเหมยจินนั้นเป็นคู่หมั้นของพ่อม่ายตงโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ เธอจึงชักชวนนายสาวไปอยู่ด้วยไม่ได้ เพราะจะเกิดความสงสัยในหมู่ของชาวบ้าน อย่างไรเรื่องนี้ก็ค่อยแก้ปัญหาที่หลังก็ยังไม่สายอีกทั้งร่างที่เธอมาอาศัยอยู่ก็มีเบื้องหลังไม่ธรรมดา เท่าที่ความทรงจำที่มีอยู่เต็มเปี่ยม เกาซื่อหลินคนนี้มีฐานะไม่ต่างจากสายลับ แต่ก็ยังมีอีกฐานะนั่นคือลูกสาวจากภรรยาคนเดิมของนายพลในเมืองเซี่ยงไฮ้ เหตุผลที่ได้เดินทางมาเป็นยุวปัญญาชนที่เมืองนี้ เป็นเพราะแม่เลี้ยงต้องการให้ลูกเลี้ยงตัวเองมาใช้แรงงานนั้นเองแต่ระหว่างเดินทางกลับโดนลอบทำร้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 13 กลิ่นอาหารตลบอบอวลไปทั่วหมู่บ้าน

    บทที่ 13 กลิ่นอาหารตลบอบอวลไปทั่วหมู่บ้านย้อนกลับมาทางซูหว่าน หลังจากที่เสียหน้าจนต้องรีบกลับบ้านตัวเอง ในใจของหญิงสาวนั้นก็มีแต่ความเคียดแค้นอย่างห้ามไม่อยู่ เนื่องจากเธอเฝ้ามองตงเหวินหมิงมานานแล้ว จู่ ๆ กลับมีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาแย่งชิงไปอย่างหน้าด้าน ๆ คิดหรือว่าเธอจะยอมง่าย ๆ“เป็นอะไรไปละนั่น แล้วนี่ไม่คิดจะไปช่วยงานบ้างหรืออย่างไร” นางเหมาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าลูกสาวไม่ได้ไปช่วยพี่สะใภ้ทำงาน“วันนี้แดดร้อน ฉันไม่อยากทำ แม่มีอะไรหรือเปล่า” เพราะหงุดหงิดอยู่แล้วซูหว่านเลยพูดจาไม่ดีกับแม่ของตน“วัน ๆ นี่แกไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือไง มัวแต่บ้าเดินตามพ่อม่ายบ้านตงอยู่นั่นแหละ แกนี่มันไม่ได้ดังใจฉันเลย แม้พ่อม่ายตงจะเป็นคนดีและขยันทำงาน แต่อย่าลืมว่าเขายังมีลูกติดอีกตั้งสองคน ไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับพ่อม่าย แล้วไปเลี้ยงลูกคนอื่นหรอกนะ” นางเหมาพูดอย่างไม่พอใจที่ซูหว่านไปชอบพอพ่อม่ายลูกติดอย่างตงเหวินหมิง“แล้วยังไงล่ะแม่ก็ฉันชอบพี่เหวินหมิงนี่ แม่คอยดูนะ ฉันจะต้องทำให้พี่เหวินหมิงมาสู่ขอฉันให้ได้ ส่วนเด็กสองคนนั้นฉันก็จะเลี้ยงไว้เพื่อให้ทำงานบ้านแทนฉันทุกอย่างอย่างไรล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 14 ส่วนหนึ่งของครอบครัว

    บทที่ 14 ส่วนหนึ่งของครอบครัวกลางดึกคืนนั้นเมื่อเห็นว่าลูกทั้งสองเข้านอนแล้ว ผู้เป็นพ่ออย่างตงเหวินหมิงจึงเปลี่ยนชุดที่ทะมัดทะแมงและสีดำทั้งชุด เพื่อไปจัดการงานที่พิเศษที่จะใช้แลกกับข้อมูลยืนยันตัวตนของหยางเหมยจินก่อนจะออกจากบ้าน ชายหนุ่มไม่ลืมที่จะปิดประตูอย่างแน่นหนา เนื่องจากลูกทั้งสองอายุยังน้อยและอยู่ในบ้านกันเพียงสองคนเท่านั้น แม้จะอยู่ในหมู่บ้านนี้มาเป็นสิบปี แต่เขาก็ไม่วางใจเรื่องความปลอดภัย ยิ่งช่วงนี้ข้าวของยิ่งแพงขึ้น อาหารก็ยิ่งหายาก หากมีใครรู้ว่าคืนนี้เขาไม่อยู่บ้าน ไม่แน่อาจจะมีคนเข้ามาปล้นเอาอาหารไปก็ได้เมื่อรู้ทิศทางและตำแหน่งว่าต้องไปที่ใด ชายหนุ่มจึงไม่รอช้า รีบไปยังที่เป้าหมายทันทีคฤหาสน์ตระกูลจ๋าย ตงเหวินหมิงในชุดสีดำสนิทเดินลัดเลาะข้างกำแพง เมื่อไม่เห็นใครเขาจึงรีบกระโดดข้ามกำแพงด้วยท่าทางคล่องแคล่วไม่เหมือนพ่อม่ายในหมู่บ้านที่เคยพบเห็น ใบหน้าที่เหลือแต่ดวงตามองขึ้นไปยังชั้นบนของคฤหาสน์อย่างครุ่นคิด พร้อมกับคาดคะเนว่าห้องทำงานของนายพลจ๋ายนั้นอยู่ที่ใด ก่อนจะหยิบแผนที่ที่นายท่านหลู่ให้มาและคำนวณดูว่าห้องนั้นอยู่ที่ไหน ซึ่งตงเหวินหมิงก็ไม่เข้าใจเล็กน้อย ในเมื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวง

    ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวงวันเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่สองพี่น้องฝาแฝดอย่างตงจี้หยวนและตงฟางลี่ก็เติบโตขึ้นและแม้ว่าทั้งสองคนจะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ทั้งสองคนก็ยังคงใช้แซ่ตงเหมือนเดิม ส่วนแซ่เดิมของพ่อแม่นั้นจะเอาไว้ให้ลูก ๆ ในอนาคตเป็นผู้สืบทอด ตอนนี้ทั้งสองคนใกล้จะเรียนจบระดับมหาวิทยาลัยแล้ว คนพี่นั้นเริ่มเข้ามาช่วยดูแลงานในบริษัทของพ่อ และสมบัติที่พ่อแม่ที่แท้จริงทิ้งไว้ให้ เลยไม่ค่อยมีเวลาตัวติดกับน้องสาวเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกัน ชายหนุ่มจะต้องเข้าไปดูงานที่บริษัท แต่น้องสาวขอไปดูหนังกับเพื่อน“พี่ใหญ่ วันนี้ฉันขอไปดูหนังได้ไหม” ตงฟางลี่เอ่ยขอพี่ชายอย่างออดอ้อน“พี่น่ะให้ไปได้ ว่าแต่เราโทรขออนุญาตพ่อหรือยัง แล้วจะดูหนังรอบไหนกัน นี่ก็เย็นมากแล้วนะ”ชายหนุ่มตอบกลับน้องสาวอย่างไม่คิดอะไร สำหรับตัวเขานั้นไม่เท่าไร แต่พ่อนี่สิคงไม่ยอมอนุญาตง่ายๆ แน่ เพราะพ่อเป็นคุณพ่อจอมหวงลูกสาวเสียเหลือเกิน ดูอย่างน้องสาวคนเล็กที่อายุแค่ไม่เท่าไรสิ พ่อยังแทบจะไม่ให้ผู้ชายอุ้มแล้ว ความหวงของพ่อที่มีต่อน้องสาวเกินขอบเขตจริง ๆ และนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงอาอี้ข่ายที่เป็นเหมือนกันราวกับถอดแบบกันมาเลยทีเ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดก

    ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดกหลังจากจบเรื่องตระกูลเกา ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติ ซึ่งเกาเทียนอี้และเกาซื่อหลินก็ไม่คิดจะกลับไปเหยียบตระกูลเกาอีกเลย และได้ข่าวว่าเกาเสี่ยวจิงถูกคนตระกูลหุ้ยบอกเลิกการหมั้นหมายและไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์ส่วนสองแม่ลูกแม้จะอยู่ตระกูลเกาต่อ แต่สถานะของทั้งสองก็อยู่ยิ่งกว่าสาวใช้ สาเหตุที่ท่านนายพลไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ก็เพราะไม่ต้องการอับอายคนในสังคม และที่สำคัญเขาได้เอาผู้หญิงที่เลี้ยงไว้นอกบ้านเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์และยกเป็นนายหญิงคนใหม่ เลยทำให้เฟ่ยเจียแค้นใจอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับชะตากรรมที่ตนเองได้ก่อไว้พอเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตงเหวินหมิงคิดจะจัดงานเลี้ยงเปิดตัวเองและภรรยารวมถึงทุกคนให้สังคมได้รับรู้ แต่กลับถูกภรรยาห้ามไว้ เพราะเธอกำลังท้องเลยไม่อยากจัดงานเลี้ยงขึ้นมา โดยได้บอกกับสามีว่าค่อยจัดงานเปิดตัวตอนเธอคลอดลูกแล้วก็ยังไม่สายแต่เมื่อถึงเวลา หยางเหมยจินก็บ่ายเบี่ยงอีก เพราะเธออยากอยู่อย่างสงบกับลูกไม่อยากวุ่นวายกับใคร เพราะการเปิดตัวนั้นคงทำให้มีแต่คนเข้าหาเธอในฐานะนายหญิงตงจนเวลานี้เธอตั้งท้องครั้งที่สามแล้ว เพราะสองท้องที่ผ่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่

    ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น สองแม่ลูกจากตระกูลเกาแทบจะนอนไม่หลับ เพราะกลัวว่าตงเหวินหมิงจะบุกมาพบกับท่านนายพลถึงตระกูลเกา แต่เมื่อเวลาผ่านมาเป็นสัปดาห์ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองคนกลับมาเชิดหน้าเหมือนเดิม“คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า เหมือนว่าสัปดาห์ก่อนคุณจะพูดอะไรเหรอ” นายพลเกาเอ่ยถามภรรยาหลังจากสะสางงานตนเองเสร็จแล้ว ตอนนั้นเขากำลังวุ่นกับงานอยู่ เลยไม่ได้ฟังอะไรเธอมากมายนัก“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ เรื่องไม่สำคัญแล้วล่ะ คุณทำงานของคุณเถอะ จริงสิ ฉันลืมบอกคุณไปว่าต้นเดือนหน้าทางตระกูลหุ้ยจะเข้ามาพูดคุยเรื่องหมั้นหมายระหว่างลูกชายบ้านนั้นกับเสี่ยวจิงของเรานะคะ” เฟ่ยเจียตอบกลับไปอย่างอ่อนหวานและเปลี่ยนเรื่องไปพูดในเรื่องที่เธอมีความยินดีอย่างมากจะว่าไปเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเฟ่ยเจียไม่ใช่เรื่องของตระกูลตงจะเข้ามาที่นี่หรือไม่ แต่เป็นเรื่องการแต่งงานและหมั้นหมายของลูกสาวมากกว่าพอท่านนายพลเกาได้ยินเรื่องการแต่งงานของลูกสาวคนเล็ก ก็อดคิดถึงลูกสาวคนโตที่หายไปจากบ้านหลายปีแล้ว รวมถึงลูกชายที่ไปเป็นทหาร ซึ่งไม่รู้เวลานี้ทั้งสองเป็นอย่างไรบ้างเพราะขา

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัว

    ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัวหลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่ปักกิ่ง เกาซื่อหลินก็ยังคงช่วยงานของหยางเหมยจินเหมือนเดิมพร้อมกับดูแลพี่สาวบุญธรรมไปด้วย วันนี้ทั้งสองออกมาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเพียงลำพัง เพราะสองแฝดไปเรียนหนังสือ ตงเหวินหมิงกับตู้อี้ข่ายก็ไปทำงาน“นี่เสี่ยวหลิน ไม่ต้องคอยระมัดระวังขนาดนั้นก็ได้ พี่แค่ท้องนะไม่ใช่คนป่วยสักหน่อย” หยางเหมยจินพูดพึมพำออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เพราะตั้งแต่เธอตั้งท้อง ทุกคนก็แทบจะไม่ให้เธอทำอะไรเลย เธอแทบจะเป็นง่อยอยู่แล้ว“พี่เหมยจินก็พูดไป ถ้าเกิดพี่เดินไม่ระวังแล้วสะดุดล้มขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ ต่อให้มีคนของพี่เขยติดตามมาด้วย ใช่ว่าจะมีคนกล้าแตะต้องตัวพี่นะ หน้าที่นี้เป็นของฉัน อย่างไรฉันก็ต้องคอยดูไว้ก่อน” เกาซื่อหลินโต้แย้งกลับทันที เพราะเธอต้องระวังความปลอดภัยให้กับพี่สาวคนนี้ เลยทำให้ต้องดูเหมือนทำเกินจริงไปหน่อย แต่ป้องกันไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ“เอาเถอะ แล้วแต่เธอก็แล้วกัน นั่นร้านขายขนมฝรั่งเปิดใหม่หรือเปล่า เราลองเข้าไปดูกันเถอะ” หยางเหมยจินคร้านจะเถียงกับอีกฝ่าย เมื่อเห็นร้านขนมเปิดใหม่จึงชวนอีกฝ่ายไปดู เนื่องจากขนมพวกนี้เธอกินแล้วติด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการ

    บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการสามปีต่อมา... หลังจากวันนั้นวันที่ตงเหวินหมิงกลับมา นั่นจึงทำให้หยางเหมยจินคลายความกังวลและรู้สึกดีใจที่เขาปลอดภัย โดยที่ตงเหวินหมิงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังเธออย่างละเอียด แล้วยังบอกอีกว่าเวลานี้เขาล้างมลทินให้ตระกูลตงเรียบร้อยแล้ว รวมถึงตระกูลของพี่เขยด้วย ก่อนจะบอกความจริงกับเด็กน้อยทั้งสอง ซึ่งแม้ทั้งสองคนจะรับรู้ว่าตนเองนั้นไม่ใช่ลูกแต่เป็นหลาน แต่ทั้งสองก็ยังคงเรียกตงเหวินหมิงว่าพ่อ และเรียกหยางเหมยจินว่าแม่เหมือนเดิมส่วนเรื่องบ้าน ทั้งหมดได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านที่รู้ความจริงว่าตงเหวินหมิงคือนายท่านหยางก็พากันตกใจ บางคนก็เสียดาย ที่ก่อนหน้านี้พวกตนน่าจะทำดีกับบ้านตงไว้ ส่วนซูหว่านแทบจะเสียสติ ที่ชายที่เธอหมายปองนั้นคือคนที่มีอิทธิพลของเมืองนี้ แถมยังร่ำรวยมากอีกด้วยแต่เพราะทางบ้านซูของเธอไม่อยากมีปัญหากับบ้านตงและรู้ว่าซูหว่านคงไม่จบเรื่องบ้านตง บ้านซูจึงตัดสินใจหาสามีที่อยู่ต่างเมืองให้เธอทันทีทำให้สามปีที่ผ่านมาไม่มีใครคอยมาวุ่นวายกับสองสามีภรรยามากนัก ทุกวันนี้ตงเหวินหมิงจึงรู้สึกสบายใจอย่างมาก“ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างที่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 52 จบสิ้นปัญหา

    บทที่ 52 จบสิ้นปัญหาหลายวันต่อมา...ในหมู่บ้านมีคนแปลกหน้าเข้ามาทำงานในคอมมูนไม่น้อยเลย แถมหัวหน้าคอมมูนยังให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างที่พักให้ นี่จึงทำให้ใครหลายคนพากันแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หัวหน้าคอมมูนบอกเองว่าทางการยังไม่ได้ส่งคนเข้ามา แต่ทำไมวันนี้กลายเป็นว่ามีคนมากมายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านล่ะ“พวกเราคิดว่ามันแปลกหรือไม่ ที่จู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านจำนวนไม่น้อยเลย” ชาวบ้านคนหนึ่งถามขึ้น“จะขี้สงสัยไปทำไมกัน คนมาทำงานจะคิดมากไปทำไม หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หัวหน้าหมู่บ้านคงบอกแล้วล่ะ” อีกคนตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจการพูดคุยของกลุ่มชาวบ้านแม้ว่าแปลกใจและสงสัยแต่ก็เลือกที่จะไม่ถาม เพราะรู้ดีว่าทุกคนมีหน้าที่การงานของตนเองซึ่งเรื่องนี้มีแค่หัวหน้าคอมมูนเท่านั้น ที่รู้ว่าเป็นคนของใครที่ถูกส่งเข้ามา เขาไม่คิดว่าคนเคยปลอมเป็นชาวบ้านมางานแต่งของตงเหวินหมิงกับหยางเหมยจินจะเป็นถึงนายท่านหลู่ นายท่านผู้ลึกลับแต่ทรงอิทธิพล และเขาก็ไม่คิดว่าท่านจะส่งคนมาบอกเรื่องที่จะให้ คนมาทำงานในคอมมูน โดยปลอมเป็นชาวบ้านที่มาทำงานในคอมมูนที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อที่จะปกป้องใครบางคน ซึ่งต่อให้ช

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 51 เดินทางไปปักกิ่ง

    บทที่ 51 เดินทางไปปักกิ่งเมื่อมีคนมาจี้ใจดำตัวเอง ซูหว่านจึงมีท่าทีฟึดฟัดขึ้นมา ก่อนจะพูดเสียงดัง “แล้วยังไง ฉันยังหวังและเชื่อว่าฉันจะแต่งเข้าบ้านตงได้แน่นอน รอจังหวะก่อนเถอะ”ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ส่ายหน้าอย่างระอา เพราะเวลานี้ตงเหวินหมิงได้จัดพิธีแต่งงานกับหยางเหมยจินแล้ว ดูแล้วเขายังรักภรรยาคนนี้มากอีกด้วย แล้วแบบนี้คนอย่างซูหว่านจะเข้าไปแทรกกลางได้อย่างไรกัน“พี่ใหญ่ ดูเหมือนพ่อจะมีเรื่องกลุ้มใจนะ พี่คิดว่าอย่างนั้นไหม” ตงฟางลี่พูดขึ้นเพราะรู้ว่าพ่อนั้นทำงานหนัก เพราะต้องทำงานทั้งในตำแหน่งนายท่านหยาง และยังต้องทำงานในคอมมูนเพื่อต้องการปิดบังฐานะที่แท้จริงต่อคนภายนอก เธอเห็นแล้วสงสารพ่อเหลือเกิน“เรื่องนี้พี่เองก็คิดเหมือนกัน พี่เลยต้องตั้งใจเรียนอย่างไรละ เมื่อไรที่พี่โตขึ้น พี่จะทำงานและเลี้ยงพ่อกับแม่เอง รวมถึงลี่ลี่ด้วย” เด็กชายที่อยู่ในช่วงจะเข้าวัยเด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“คุยอะไรกันจ๊ะเด็ก ๆ รีบมากินมื้อเที่ยงได้แล้ว วันนี้แม่ทำบะหมี่เนื้อตุ๋นให้กินนะ มาเร็ว ๆ” หยางเหมยจินโผล่หน้ามาจากครัว ก่อนจะตะโกนเรียกลูกทั้งสองคน ทำให้สองพี่น้องรีบวิ่งมาทันทีเพราะอาหารที่แม่ของ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 50 สถานการณ์คับขัน

    บทที่ 50 สถานการณ์คับขันหลายวันต่อมา...ท่านนายพลกุ้ยเอ่ยขอพบกับนายท่านหยางเพื่อขอซื้ออาหารเพิ่มและต้องการอาวุธที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าในมิติของหยางเหมยจินจะไม่มีอาวุธเหล่านั้น แต่เส้นสายของนายท่านหลู่กลับมี ซึ่งเป็นอาวุธคุณภาพดีจากต่างประเทศ แต่ตงเหวินหมิงยังไม่อยากให้ขาย เพราะไม่แน่ว่าคนของเขาและนายท่านหลู่อาจจะต้องใช้ และถ้าใครรับรู้ว่านายท่านหลู่ค้าอาวุธแบบผิดกฎหมาย คนพวกนั้นอาจจะเอาเรื่องนี้มาเล่นงานกลับก็ได้“เรื่องจัดหาอาหารนั้นผมไม่มีปัญหา แต่เรื่องอาวุธเห็นทีจะไม่ได้ เส้นสายของท่านน่าจะมี ย่อมต้องรู้ว่าผมมีเพียงอาหารเท่านั้น” ตงเหวินหมิงตอบกลับนายพลกุ้ยด้วยแววตาที่จริงจัง เขารู้ดีว่านายพลคนนี้มาหาด้วยเรื่องอะไร การขอซื้ออาวุธอาจจะเป็นแผนลวงก็เป็นได้“ไม่สามารถหาได้เลยอย่างนั้นเหรอ” นายพลกุ้ยถามย้ำอีกครั้ง เพราะคราวนี้เขาได้รับคำสั่งมาเพื่อให้ซื้ออาวุธกับอีกฝ่าย แต่กลายเป็นว่านายท่านหยางคนนี้กลับไม่โอนอ่อนเพื่อที่จะจัดหาอาวุธให้ทางฝ่ายเขาและแบบนี้เขาจะกลับไปตอบนายใหญ่ได้อย่างไร สีหน้าในตอนที่ถามออกมาจึงกังวลไม่น้อย“ครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้นายพลกุ้ยลองไปสอบถามพ่อค้าคนอื่นดูเถอะ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 49 ต่างมอบความรักให้กัน

    บทที่ 49 ต่างมอบความรักให้กันย้อนกลับมาที่หมู่บ้าน เวลานี้ซ่านหลิงเดินทางมาหยางเหมยจินด้วยตนเอง เพราะรู้ดีว่าสามีของน้องสาวคนสนิทนั้นมีความรู้จักมักคุ้นกับนายท่านหยาง เลยตัดสินใจเดินทางมาหาด้วยตนเอง นั่นก็เผื่อว่าน้องสาวคนนี้จะบอกสามีให้แจ้งนายท่านหยางเพื่อที่จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น“อย่างไรฉันจะบอกพี่หมิงให้ก็แล้วกันนะคะพี่ซ่านหลิง เรื่องนี้ใหญ่เกินไปสำหรับผู้หญิงอย่างเรา แล้วอีกอย่างเรื่องนี้อยู่ที่การตัดสินใจของนายท่านหยาง พี่หมิงทำได้เพียงส่งข่าวของพี่ให้นายท่านรู้เท่านั้น”หยางเหมยจินหลบเลี่ยงที่จะตอบตรง ๆ แม้ว่าจะสนิทกันอย่างไร เรื่องที่สามีของเธอคือนายท่านหยางนั้น เธอก็ยังไม่พร้อมที่จะบอกพี่สาวคนนี้ จึงทำเพียงพูดว่าสามีของเธอมีความรู้จักมักคุ้นกับนายท่านหยางเท่านั้น“เรื่องนี้ฉันเข้าใจ เธอรู้ใช่ไหมว่าใครต่อใครต่างก็อยากให้นายท่านหยางเข้าร่วมด้วย”ซ่านหลิงเองก็ไม่อยากบังคับน้องสาวคนสนิท เพราะเรื่องนี้เธอกลัวว่าตงเหวินหมิงที่รู้จักมักคุ้นกับนายท่านหยางจะโดนร่างแหไปด้วยหากเกิดอะไรขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงหยางเหมยจินจะเจอเรื่องเลวร้ายด้วยเหมือนกัน“ฉันเข้าใจ และขอบคุณพี่มากที่มาส่งข่าวเร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status