แชร์

Second Time

ร่างสูงเดินออกมาจากห้องขอจีนอารมณ์ที่แสดงไปเมื่อกี้ก็พลันเปลี่ยนทันทีแววตาขี้เล่นจริงจังขึ้นมาในทันที ยังไม่น่าจะมีใครล่วงรู้ว่าเด็กน้อยที่นอนอยู่ในห้องนั้นเป็นใคร จากคำทำนายที่บอกไว้ว่าเนื้อคู่ของเขาจะไม่ใช่คนในอาณาจักรนี้ดูท่าว่าจะเป็นจริงขึ้นมาเสียแล้ว ตอนแรกที่เขาได้ยินเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะให้เชื่อคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่การบอกรูปร่างหน้าตาที่ชัดเจนแบบนี้ ท่าทางว่าเรื่องนั้นจะไม่ใช่เรื่องหลอกเด็กอีกต่อไปเสียแล้ว

"รัชทายาทจะทำยังไงต่อไปพะยะค่ะ" เมล์ คนสนิทขององค์รัชทายาทถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเขารู้ว่าผู้เป็นนายในตอนนี้เชื่อคำทำนายนั่นเสียแล้ว จะไม่ให้เชื่อได้ยังไงล่ะ....ในเมื่อหลักฐานนอนอยู่ในห้องรับรองแบบนั้นน่ะ

"รอถามวันพรุ่งนี้แล้วกัน แต่เหมือนว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาถึงที่นี่หลายคนเลยนะ" คีย์บอกด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์พลางมองไปยังผู้ที่ไม่ได้รับเชิญมาด้วยความไม่พอใจ

"อะไรกันพี่คีย์ คิดจะเก็บไว้เล่นคนเดียวหรือยังไง" คลาส น้องชายคนแรกของเขานั้นมีนิสัยมองเห็นคนอื่นเป็นของเล่นตลอดเวลา ยิ่งอะไรแปลกใหม่จะชอบมาวุ่นวายเสมอ

"เป็นพี่ชายคนโตที่นิสัยไม่ดีเอาเสียเลย แบบนี้พวกผมก็ไม่ได้สนุกด้วย" ครอส แฝดคนน้องและเป็นน้องชายคนที่สาม นิสัยไม่ได้แตกต่างจากแฝดพี่นักแต่ติดที่ว่าถ้าติดใจแล้วจะรับเลี้ยงเป็นอย่างดี

"กลิ่นเลือดหอมหวานมันดึงดูดขนาดนี้ นี่ข้าใจเย็นไม่บุกเข้าไปในห้องก็ดีเท่าไหร่แล้วครับ" คลาสพูดพลางแยกเขี้ยวไปด้วยแสงนวลจันทร์ตกกระทบนั้นส่งผลให้เขี้ยวดูน่ากลัวและน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน น่าตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

"เขาไม่ใช่เหยื่อของพวกแฝดนรกแบบพวกแกหรอกนะ จากที่เห็นแล้วเขามีอะไรที่พิเศษกว่านั้น ซึ่งข้าเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร" เสียงทุ้มต่ำบอกแฝงความนัยทำให้แฝดทั้งสองหันมามองด้วยความไม่เข้าใจ

"หมายความว่ายังไงครับ / ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่"

"หึ เดี๋ยวก็รู้เอง" เขาตัดสินใจตอบคำตอบด้วยคำถามแทน

แสงแดดยามเช้าตรู่เป็นสัญญาณของวันใหม่ของมนุษย์ทั่วไป แต่ไม่ใช่สำหรับแวมไพร์อย่างคีย์เท่าไหร่นัก เขารู้ว่ากระรอกน้อยจะต้องตื่นกลางวันมากกว่ากลางคืนแน่นอน เลยเลือกที่จะไม่นอนแล้วรออีกฝ่ายตื่นเสียดีกว่า ท่าทางว่าเขาจะเหนื่อยเกินไป ท่าทางจะต้องพักผ่อนเสียหน่อยแล้ว

จีนกระพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับสายตา ดวงตากลมโตมองมายังบุคคลที่หล่อเหลาและความสูงที่น่าจะมากกว่าเขาพอสมควร เพราะเขาสูงร้อยแปดสิบห้าก็ถือว่าสูงมากแล้วนะแต่ยังมีคนสูงกว่านี้อีก ไม่ใช่สูงเกือบสองเมตรกันเหรอนั่น ร่างสูงโปร่งเดินลงมายังชั้นล่างแล้วเดินดูรอบบริเวณว่ามีลักษณะเป็นยังไง ถือว่าโชคยังดีที่เขาเปิดเข้ามาห้องแรกก็เจอห้องครัวเลย ขออนุญาตเจ้าของบ้านในการทำอาหารหน่อยนะครับ

มือขาวหยิบจับของกินที่คิดว่าทำกินได้ง่ายที่สุด ท่าทางทะมัดทะแมงนั่นน่าหลงใหลได้ไม่ยากเลยทีเดียว การจัดจานและการแกะสลักที่ได้รูปบ่งบอกถึงความตั้งใจเรียนในห้องเรียนเป็นอย่างดีว่ามีความสามารถรอบตัวสมกับเป็นกัปตันชมรมคาราเต้

"หอมจังเลย กระรอกน้อยทำอาหารเป็นด้วยรึ" เสียงทุ้มต่ำถามด้วยความหลงใหลอย่างปิดไม่มิด ดวงตาคมจ้องมองมาด้วยความประทับใจที่ปิดไม่มิดส่งผลให้คนถูกถามรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยทีเดียว

"ครับ ผมเป็นกัปตันชมรมคาราเต้เลยต้องทำอาหารให้คนในสมาชิกกันครับ" เสียงหวานเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนครองโลกได้ทั้งใบ

"ชมรม? กัปตัน? กระรอกน้อยหมายถึงอะไรรึ"

"ขอโทษนะครับ ที่นี่ที่ไหนเหรอครับ" ดวงตากลมโตสั่นระริกด้วยความกลัวแตกต่างจากตอนทำอาหารเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง เหมือนคีย์จะมาผิดเวลาหรือเปล่านะ

"เดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟังเองนะ กระรอกน้อยกินข้าวก่อนนะ" มือหนาลูบกลุ่มผมนิ่มเป็นการปลอบโยนไม่ให้กลัวและสงบใจลงกว่านี้ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย

สายตาคมมองคนตัวเล็กกว่ากินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นคนกินไปยิ้มไปก็วันนี้แหละ รอยยิ้มดูเหมือนจะทำให้โลกทั้งใบสดใส ซึ่งเขาเองก็ปรารถนาจะให้จีนได้รับการปกป้องและถนอมไว้อย่างดีที่สุด

"ผมอิ่มแล้วครับ ผมขอแนะนำตัว ผมชื่อ จิรายุ ไพศาล ชื่อเล่นชื่อจีนครับ"

"ทีนี้จะเล่าเรื่องที่คุณจะบอกให้ผมฟังได้หรือยังครับ"

"ได้สิ กระรอกน้อย"

"ผมขอถามหน่อยนะครับ"

"ว่ายังไงครับ" รัชทายาทลองพูดตามอีกฝ่าย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวัฒนธรรมทางนั้น

"ใครคือกระรอกน้อยครับ"

"เจ้าไง กระรอกน้อย" ใบหน้าหวานขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ

"ตอนเจอกันครั้งแรกนายตัวสั่นเกร็ง แววตาสั่นระริกเหมือนกระรอก ข้าเลยบอกว่าเจ้าเหมือนกระรอกน้อย" เหตุผลที่ว่ามานั้นไม่รู้ว่าจะดูสมเหตุสมผลหรือเปล่าแต่อีกฝ่ายก็เหมือนจะเข้าใจมากขึ้นแล้ว

"ข้าเจอเจ้าที่แม่น้ำตอนจะกลับบ้าน จู่ๆ เจ้าก็ตกลงมาจากท้องฟ้าแล้วร่วงลงมาที่แม่น้ำ ก็เลยพากลับมาที่บ้านแล้วให้คนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยจนกระทั่งตื่นขึ้นมาแล้วข้าบอกว่าให้เจ้านอนต่อแล้วตื่นมาเช้าวันใหม่อีกรอบนี่ล่ะครับ" คีย์พยายามเล่าให้ฟังแม้ว่าเขาอยากจะนอนมากก็ตามที วิสัยของแวมไพร์ตื่นตอนกลางวันที่ไหนกันล่ะ! แล้วเล่นถามแบบนี้จะไม่ตอบก็คงจะไม่ได้สินะ

"ผมตกลงมาจากท้องฟ้าเหรอครับ" จีนทวนคำตอบพลางชี้นิ้วมาที่ตัวเองแล้วคีย์ก็พยักหน้ารับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มันทำให้เขาหวนนึกถึงคำทำนายของหมอดูคนนั้นขึ้นมาเลย

'ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงหยิบสัญลักษณ์เหล่านี้ขึ้นมา แต่ความหมายโดยรวมแปลว่าเธอจะต้องเดินทางไกลแสนไกล เดินทางไปในดินแดนที่ไม่มีใครรู้จักเธอและเธอก็ไม่รู้จักเขา ที่นั่นจะเต็มไปด้วยภยันอันตรายต่าง ๆ รออยู่มากมาย แต่จะมีคนมาคอยช่วยให้เธอปลอดภัยและเป็นคนสูงศักดิ์ นอกนั้นผมไม่สามารถทำนายให้ได้อีกแล้ว ถือว่าเป็นดวงที่ประหลาดมากจริงๆ ครับ'

"มีอะไรหรือเปล่ากระรอกน้อย" เสียงทุ้มต่ำถามด้วยความเป็นห่วง เพราะว่าใบหน้าหวานได้รูปของอีกฝ่ายดูมีอาการสับสนอย่างเห็นได้ชัด

เดินทางมาไกลแสนไกล...

เดินทางไปในดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก...

เต็มไปด้วยอันตราย...

เป็นคนสูงศักดิ์...

ไม่สามารถทำนายได้อีกแล้ว...

"หรือว่า! "

"หรือว่าอะไรเหรอ กระรอกน้อย"

"ผมเดินทางข้ามเวลามาจริงๆ อย่างที่หมอดูคนนั้นบอก" มือขาวทึ้งหัวตนเองด้วยความสับสนแต่มันก็มีแต่ให้คิดแบบนี้แล้วล่ะนะ ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วล่ะ

"คุณชายพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไงครับ" เมล์ถามเสียงเข้มทันที

"อย่าพูดจาแบบนั้นกับกระรอกน้อยนะเมล์" คีย์เตือนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำกว่าปกติ

"ขอโทษพะยะค่ะ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ" เมล์รีบขอโทษขอโพยอีกฝ่ายทันที

"ข้าจะพากระรอกน้อยงานเลี้ยงคืนนี้นะ ไปกับข้าไหม" มือหนากุมมือขาวเอาไว้แล้วรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

"ค... ครับ" จีนไม่อาจทนสายตาออดอ้อนแบบนั้นได้เลยตอบตกลงไปแบบอย่างเสียไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาทำท่าทางแบบนี้กับเขาเลยสักคนนะ แต่ทำไมอีกคนถึงแบบนี้กันนะ

"คุณยังไม่ได้บอกชื่อผมเลยนะครับ"

"ขอโทษนะกระรอกน้อย ข้า บีเลอ คีย์ จะเรียกว่าคีย์ก็ได้นะ"

บรรยากาศงานเลี้ยงถูกจัดแบบสมัยยุโรปตอนกลางชวนให้พิศวงยิ่งนัก แถมงานเลี้ยงยังเป็นตอนกลางคืนอีก ทำให้รู้เลยว่าเขาข้ามเวลามาที่โลกคู่ขนานอีกจริงๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ข้ามเวลาแต่มันคือที่ไหนมากกว่าต่างหากล่ะ

"ที่นี่สามารถกินอาหารทุกอย่างได้ตามที่ต้องการเลยนะ กระรอกน้อยไม่ต้องกังวลไป"

"ครับ คุณคีย์"

"จุ๊ๆๆ ไหนลองเรียกท่านพี่สิ" มีใครเคยบอกเขาไหมว่าทำท่าทางแบบนั้นโคตรจะเซ็กซี่เลย ใจมันเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย หน้าเขาจะต้องแดงมากแน่ๆ

"ท... ท่าน... ท่านพี่" เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความยากลำบาก ดวงตาทั้งสองข้างปิดแน่นด้วยความเขินอาย เขาแทบอยากจะหนีหายไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด

"เก่งมาก ลืมตาขึ้นสิ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก" เสียงทุ้มต่ำกระซิบใกล้ใบหูจนจีนเขยิบหนีด้วยความตกใจ

"เดี๋ยวข้าจะไปคุยธุระ กระรอกน้อยอยู่แถวนี้ไปก่อนนะ"

"ครับ"

อาหารและของคาวหวานมากมายถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงาม สวยจนดวงตากลมโตละสายตาไปไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ร่างสูงโปร่งเดินชมความงามในการจัดเรียงอาหารเอาไว้และคิดว่าถ้ามีเวลาก็จะลองทำอาหารและจัดแบบนี้ดูบ้างก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว

"ไม่ทราบว่าคุณชายมาจากตระกูลไหนเหรอครับ ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้าเลย" เสียงทุ้มหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัย ใบหน้าหล่อเหลาราวกับอัญมณีชั้นดี รูปร่างสูงใหญ่รวมทั้งท่าทางสง่างามเช่นนี้ น่าจะเป็นคนสูงศักดิ์ไม่น้อยเลยทีเดียว

"ค... คือว่า..." ใบหน้าหวานมีท่าทีอึกอัก เขาไม่รู้จะตอบคนตรงหน้าว่าอย่างไรดี เพราะว่าตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ในฐานะอะไร แล้วอยู่ที่ไหน

"ขอโทษที่เสียมารยาท ข้ามาร์แชล บลัฟเฟอร์ เรียกว่าบลัฟก็ได้"

"ครับ ผม จิรายุ ไพศาล ชื่อเล่นจีนครับ เรียกจีนก็ได้ครับ" ใบหน้าหวานยิ้มตอบด้วยความสดใส เจ้าตัวไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มของตนเองเหมือนมนต์สะกดให้ใครต่อใครหลงรักได้ไม่ยากเลย

"ชื่อแปลกดีนะครับ น่าหลงใหลมาก" เสียงทุ้มหวานเอ่ยชมไม่ขาดปาก ดวงตาจับจ้องอย่างชื่นชมอย่างปิดไม่มิด สูทสีขาวนั้นขับผิวของจีนให้ดูอมชมพูน่าสัมผัสมากกว่าเดิมและน่าปกป้องเพิ่มมากขึ้นไปอีก

"ถือว่าเป็นคำชมใช่ไหมครับ" จีนถามพลางหัวเราะไปด้วย จู่ๆ ร่างกายของมาร์แชลก็เหมือนโดนยึดให้ตกอยู่ในห้วงรอยยิ้มไม่สามารถหนีจากไปไหนได้ ทั้งที่เป็นผู้ชายแต่ทำไมกลับน่าหลงใหลแบบนี้กันนะ

พรึ่บ!

จู่ๆ ไฟในงานเลี้ยงก็ดับลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ วันนี้เป็นคืนที่พระจันทร์ส่องแสงมากเป็นพิเศษทำให้ดวงตากลมโตมองเห็นบางอย่างที่กำลังเข้าใกล้มาร์แชลโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว ดาบขนาดใหญ่กำลังจะฟันเข้าที่ร่างของคนตัวสูงกว่า มือขาวออกหมัดสวนกลับไปทันทีเพื่อโต้ตอบคนร้าย ทั้งสองฝ่ายต่างสู้กันในความมืดไม่มีใครยอมใคร แต่แล้วไฟในงานก็เกิดสว่างขึ้นมาเหมือนเป็นใจยังไงยังงั้น มือขาวดึงเนคไทออกมาแล้วเอาห่วงของเนคไทคล้องแขนคนร้ายแล้วกระตุกปมจนสุด ส่งผลให้ดาบร่วงหล่นสู่พื้นทันที

เคร้ง!

"เจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงมีวิชาการต่อสู้ที่ไม่ต้องใช้อายุก็สามารถสู้ได้อยู่ด้วย" นายทหารคนหนึ่งถามออกมาด้วยเสียงมีอำนาจแล้วชักดาบออกมาระยะประชิดใบหน้าหวานทันที

"ข้าถามไม่ได้ยินเหรอหนุ่มน้อย"

นี่มันอะไรกัน.....

เขาช่วยมาร์แชลไว้แท้ๆ แต่ทำไมถึงกลับโดนกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้ายแบบนี้ล่ะ

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

รอบนี้อาจจะไม่รอดแล้วก็ได้นะ

หมับ!

ร่างสูงโปร่งสะดุ้งเฮือกด้วยความกลัว เมื่อมีมือปริศนามาจับไหล่ทั้งสองข้างเอาไว้แล้วพยุงให้เขาลุกขึ้น สายตาคมมองนายทหารคนนั้นราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเข้าไปทั้งตัวแล้ว

"ขอความกรุณาอย่าเอาดาบมาจ่อที่คู่หมั้นของข้าจะได้ไหม สารวัตรเรเวล"

"นี่เจ้าชายหรือจะเรียกว่าองค์รัชทายาทจะมาขวางการจับกลุ่มครั้งนี้ของข้ารึ"

"จากที่ข้าดูคือเด็กคนนี้ช่วยจับคนร้ายไว้แต่ทำไมถึงทำเหมือนถูกกล่าวหาแทนแบบนี้ กรุณาอย่ามองคู่หมั้นของข้าด้วยสายตาแบบนั้นอีก" จากน้ำเสียงของคีย์แล้วไม่ใช่การบอกด้วยความกรุณาแต่เป็นคำสั่งจากผู้เป็นนายมากกว่า

"ค... คู่หมั้น... ของท่านพี่..." เสียงหวานเอ่ยทวนคำของอีกฝ่ายด้วยความเคอะเขิน เขาทำตัวไม่ถูกที่คีย์เรียกแบบนี้ หมายความอย่างที่พูดจริงๆ เหรอ

"ใช่ คู่หมั้นของข้า" มือหนาจับแก้มอมพูระเรื่อทั้งสองด้วยความเอ็นดู

"ไม่ได้เหรอ กระรอกน้อย"

"แต่สำหรับข้าแล้ว ข้าคิดว่าได้นะ กระรอกน้อยของข้า"

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status