ร่างสูงเดินออกมาจากห้องขอจีนอารมณ์ที่แสดงไปเมื่อกี้ก็พลันเปลี่ยนทันทีแววตาขี้เล่นจริงจังขึ้นมาในทันที ยังไม่น่าจะมีใครล่วงรู้ว่าเด็กน้อยที่นอนอยู่ในห้องนั้นเป็นใคร จากคำทำนายที่บอกไว้ว่าเนื้อคู่ของเขาจะไม่ใช่คนในอาณาจักรนี้ดูท่าว่าจะเป็นจริงขึ้นมาเสียแล้ว ตอนแรกที่เขาได้ยินเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะให้เชื่อคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่การบอกรูปร่างหน้าตาที่ชัดเจนแบบนี้ ท่าทางว่าเรื่องนั้นจะไม่ใช่เรื่องหลอกเด็กอีกต่อไปเสียแล้ว
"รัชทายาทจะทำยังไงต่อไปพะยะค่ะ" เมล์ คนสนิทขององค์รัชทายาทถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเขารู้ว่าผู้เป็นนายในตอนนี้เชื่อคำทำนายนั่นเสียแล้ว จะไม่ให้เชื่อได้ยังไงล่ะ....ในเมื่อหลักฐานนอนอยู่ในห้องรับรองแบบนั้นน่ะ
"รอถามวันพรุ่งนี้แล้วกัน แต่เหมือนว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาถึงที่นี่หลายคนเลยนะ" คีย์บอกด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์พลางมองไปยังผู้ที่ไม่ได้รับเชิญมาด้วยความไม่พอใจ
"อะไรกันพี่คีย์ คิดจะเก็บไว้เล่นคนเดียวหรือยังไง" คลาส น้องชายคนแรกของเขานั้นมีนิสัยมองเห็นคนอื่นเป็นของเล่นตลอดเวลา ยิ่งอะไรแปลกใหม่จะชอบมาวุ่นวายเสมอ
"เป็นพี่ชายคนโตที่นิสัยไม่ดีเอาเสียเลย แบบนี้พวกผมก็ไม่ได้สนุกด้วย" ครอส แฝดคนน้องและเป็นน้องชายคนที่สาม นิสัยไม่ได้แตกต่างจากแฝดพี่นักแต่ติดที่ว่าถ้าติดใจแล้วจะรับเลี้ยงเป็นอย่างดี
"กลิ่นเลือดหอมหวานมันดึงดูดขนาดนี้ นี่ข้าใจเย็นไม่บุกเข้าไปในห้องก็ดีเท่าไหร่แล้วครับ" คลาสพูดพลางแยกเขี้ยวไปด้วยแสงนวลจันทร์ตกกระทบนั้นส่งผลให้เขี้ยวดูน่ากลัวและน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน น่าตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
"เขาไม่ใช่เหยื่อของพวกแฝดนรกแบบพวกแกหรอกนะ จากที่เห็นแล้วเขามีอะไรที่พิเศษกว่านั้น ซึ่งข้าเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร" เสียงทุ้มต่ำบอกแฝงความนัยทำให้แฝดทั้งสองหันมามองด้วยความไม่เข้าใจ
"หมายความว่ายังไงครับ / ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่"
"หึ เดี๋ยวก็รู้เอง" เขาตัดสินใจตอบคำตอบด้วยคำถามแทน
แสงแดดยามเช้าตรู่เป็นสัญญาณของวันใหม่ของมนุษย์ทั่วไป แต่ไม่ใช่สำหรับแวมไพร์อย่างคีย์เท่าไหร่นัก เขารู้ว่ากระรอกน้อยจะต้องตื่นกลางวันมากกว่ากลางคืนแน่นอน เลยเลือกที่จะไม่นอนแล้วรออีกฝ่ายตื่นเสียดีกว่า ท่าทางว่าเขาจะเหนื่อยเกินไป ท่าทางจะต้องพักผ่อนเสียหน่อยแล้ว
จีนกระพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับสายตา ดวงตากลมโตมองมายังบุคคลที่หล่อเหลาและความสูงที่น่าจะมากกว่าเขาพอสมควร เพราะเขาสูงร้อยแปดสิบห้าก็ถือว่าสูงมากแล้วนะแต่ยังมีคนสูงกว่านี้อีก ไม่ใช่สูงเกือบสองเมตรกันเหรอนั่น ร่างสูงโปร่งเดินลงมายังชั้นล่างแล้วเดินดูรอบบริเวณว่ามีลักษณะเป็นยังไง ถือว่าโชคยังดีที่เขาเปิดเข้ามาห้องแรกก็เจอห้องครัวเลย ขออนุญาตเจ้าของบ้านในการทำอาหารหน่อยนะครับ
มือขาวหยิบจับของกินที่คิดว่าทำกินได้ง่ายที่สุด ท่าทางทะมัดทะแมงนั่นน่าหลงใหลได้ไม่ยากเลยทีเดียว การจัดจานและการแกะสลักที่ได้รูปบ่งบอกถึงความตั้งใจเรียนในห้องเรียนเป็นอย่างดีว่ามีความสามารถรอบตัวสมกับเป็นกัปตันชมรมคาราเต้
"หอมจังเลย กระรอกน้อยทำอาหารเป็นด้วยรึ" เสียงทุ้มต่ำถามด้วยความหลงใหลอย่างปิดไม่มิด ดวงตาคมจ้องมองมาด้วยความประทับใจที่ปิดไม่มิดส่งผลให้คนถูกถามรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยทีเดียว
"ครับ ผมเป็นกัปตันชมรมคาราเต้เลยต้องทำอาหารให้คนในสมาชิกกันครับ" เสียงหวานเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนครองโลกได้ทั้งใบ
"ชมรม? กัปตัน? กระรอกน้อยหมายถึงอะไรรึ"
"ขอโทษนะครับ ที่นี่ที่ไหนเหรอครับ" ดวงตากลมโตสั่นระริกด้วยความกลัวแตกต่างจากตอนทำอาหารเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง เหมือนคีย์จะมาผิดเวลาหรือเปล่านะ
"เดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟังเองนะ กระรอกน้อยกินข้าวก่อนนะ" มือหนาลูบกลุ่มผมนิ่มเป็นการปลอบโยนไม่ให้กลัวและสงบใจลงกว่านี้ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย
สายตาคมมองคนตัวเล็กกว่ากินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นคนกินไปยิ้มไปก็วันนี้แหละ รอยยิ้มดูเหมือนจะทำให้โลกทั้งใบสดใส ซึ่งเขาเองก็ปรารถนาจะให้จีนได้รับการปกป้องและถนอมไว้อย่างดีที่สุด
"ผมอิ่มแล้วครับ ผมขอแนะนำตัว ผมชื่อ จิรายุ ไพศาล ชื่อเล่นชื่อจีนครับ"
"ทีนี้จะเล่าเรื่องที่คุณจะบอกให้ผมฟังได้หรือยังครับ"
"ได้สิ กระรอกน้อย"
"ผมขอถามหน่อยนะครับ"
"ว่ายังไงครับ" รัชทายาทลองพูดตามอีกฝ่าย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวัฒนธรรมทางนั้น
"ใครคือกระรอกน้อยครับ"
"เจ้าไง กระรอกน้อย" ใบหน้าหวานขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
"ตอนเจอกันครั้งแรกนายตัวสั่นเกร็ง แววตาสั่นระริกเหมือนกระรอก ข้าเลยบอกว่าเจ้าเหมือนกระรอกน้อย" เหตุผลที่ว่ามานั้นไม่รู้ว่าจะดูสมเหตุสมผลหรือเปล่าแต่อีกฝ่ายก็เหมือนจะเข้าใจมากขึ้นแล้ว
"ข้าเจอเจ้าที่แม่น้ำตอนจะกลับบ้าน จู่ๆ เจ้าก็ตกลงมาจากท้องฟ้าแล้วร่วงลงมาที่แม่น้ำ ก็เลยพากลับมาที่บ้านแล้วให้คนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยจนกระทั่งตื่นขึ้นมาแล้วข้าบอกว่าให้เจ้านอนต่อแล้วตื่นมาเช้าวันใหม่อีกรอบนี่ล่ะครับ" คีย์พยายามเล่าให้ฟังแม้ว่าเขาอยากจะนอนมากก็ตามที วิสัยของแวมไพร์ตื่นตอนกลางวันที่ไหนกันล่ะ! แล้วเล่นถามแบบนี้จะไม่ตอบก็คงจะไม่ได้สินะ
"ผมตกลงมาจากท้องฟ้าเหรอครับ" จีนทวนคำตอบพลางชี้นิ้วมาที่ตัวเองแล้วคีย์ก็พยักหน้ารับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มันทำให้เขาหวนนึกถึงคำทำนายของหมอดูคนนั้นขึ้นมาเลย
'ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงหยิบสัญลักษณ์เหล่านี้ขึ้นมา แต่ความหมายโดยรวมแปลว่าเธอจะต้องเดินทางไกลแสนไกล เดินทางไปในดินแดนที่ไม่มีใครรู้จักเธอและเธอก็ไม่รู้จักเขา ที่นั่นจะเต็มไปด้วยภยันอันตรายต่าง ๆ รออยู่มากมาย แต่จะมีคนมาคอยช่วยให้เธอปลอดภัยและเป็นคนสูงศักดิ์ นอกนั้นผมไม่สามารถทำนายให้ได้อีกแล้ว ถือว่าเป็นดวงที่ประหลาดมากจริงๆ ครับ'
"มีอะไรหรือเปล่ากระรอกน้อย" เสียงทุ้มต่ำถามด้วยความเป็นห่วง เพราะว่าใบหน้าหวานได้รูปของอีกฝ่ายดูมีอาการสับสนอย่างเห็นได้ชัด
เดินทางมาไกลแสนไกล...
เดินทางไปในดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก...
เต็มไปด้วยอันตราย...
เป็นคนสูงศักดิ์...
ไม่สามารถทำนายได้อีกแล้ว...
"หรือว่า! "
"หรือว่าอะไรเหรอ กระรอกน้อย"
"ผมเดินทางข้ามเวลามาจริงๆ อย่างที่หมอดูคนนั้นบอก" มือขาวทึ้งหัวตนเองด้วยความสับสนแต่มันก็มีแต่ให้คิดแบบนี้แล้วล่ะนะ ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วล่ะ
"คุณชายพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไงครับ" เมล์ถามเสียงเข้มทันที
"อย่าพูดจาแบบนั้นกับกระรอกน้อยนะเมล์" คีย์เตือนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำกว่าปกติ
"ขอโทษพะยะค่ะ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ" เมล์รีบขอโทษขอโพยอีกฝ่ายทันที
"ข้าจะพากระรอกน้อยงานเลี้ยงคืนนี้นะ ไปกับข้าไหม" มือหนากุมมือขาวเอาไว้แล้วรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
"ค... ครับ" จีนไม่อาจทนสายตาออดอ้อนแบบนั้นได้เลยตอบตกลงไปแบบอย่างเสียไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาทำท่าทางแบบนี้กับเขาเลยสักคนนะ แต่ทำไมอีกคนถึงแบบนี้กันนะ
"คุณยังไม่ได้บอกชื่อผมเลยนะครับ"
"ขอโทษนะกระรอกน้อย ข้า บีเลอ คีย์ จะเรียกว่าคีย์ก็ได้นะ"
บรรยากาศงานเลี้ยงถูกจัดแบบสมัยยุโรปตอนกลางชวนให้พิศวงยิ่งนัก แถมงานเลี้ยงยังเป็นตอนกลางคืนอีก ทำให้รู้เลยว่าเขาข้ามเวลามาที่โลกคู่ขนานอีกจริงๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ข้ามเวลาแต่มันคือที่ไหนมากกว่าต่างหากล่ะ
"ที่นี่สามารถกินอาหารทุกอย่างได้ตามที่ต้องการเลยนะ กระรอกน้อยไม่ต้องกังวลไป"
"ครับ คุณคีย์"
"จุ๊ๆๆ ไหนลองเรียกท่านพี่สิ" มีใครเคยบอกเขาไหมว่าทำท่าทางแบบนั้นโคตรจะเซ็กซี่เลย ใจมันเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย หน้าเขาจะต้องแดงมากแน่ๆ
"ท... ท่าน... ท่านพี่" เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความยากลำบาก ดวงตาทั้งสองข้างปิดแน่นด้วยความเขินอาย เขาแทบอยากจะหนีหายไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
"เก่งมาก ลืมตาขึ้นสิ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก" เสียงทุ้มต่ำกระซิบใกล้ใบหูจนจีนเขยิบหนีด้วยความตกใจ
"เดี๋ยวข้าจะไปคุยธุระ กระรอกน้อยอยู่แถวนี้ไปก่อนนะ"
"ครับ"
อาหารและของคาวหวานมากมายถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงาม สวยจนดวงตากลมโตละสายตาไปไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ร่างสูงโปร่งเดินชมความงามในการจัดเรียงอาหารเอาไว้และคิดว่าถ้ามีเวลาก็จะลองทำอาหารและจัดแบบนี้ดูบ้างก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว
"ไม่ทราบว่าคุณชายมาจากตระกูลไหนเหรอครับ ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้าเลย" เสียงทุ้มหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัย ใบหน้าหล่อเหลาราวกับอัญมณีชั้นดี รูปร่างสูงใหญ่รวมทั้งท่าทางสง่างามเช่นนี้ น่าจะเป็นคนสูงศักดิ์ไม่น้อยเลยทีเดียว
"ค... คือว่า..." ใบหน้าหวานมีท่าทีอึกอัก เขาไม่รู้จะตอบคนตรงหน้าว่าอย่างไรดี เพราะว่าตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ในฐานะอะไร แล้วอยู่ที่ไหน
"ขอโทษที่เสียมารยาท ข้ามาร์แชล บลัฟเฟอร์ เรียกว่าบลัฟก็ได้"
"ครับ ผม จิรายุ ไพศาล ชื่อเล่นจีนครับ เรียกจีนก็ได้ครับ" ใบหน้าหวานยิ้มตอบด้วยความสดใส เจ้าตัวไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มของตนเองเหมือนมนต์สะกดให้ใครต่อใครหลงรักได้ไม่ยากเลย
"ชื่อแปลกดีนะครับ น่าหลงใหลมาก" เสียงทุ้มหวานเอ่ยชมไม่ขาดปาก ดวงตาจับจ้องอย่างชื่นชมอย่างปิดไม่มิด สูทสีขาวนั้นขับผิวของจีนให้ดูอมชมพูน่าสัมผัสมากกว่าเดิมและน่าปกป้องเพิ่มมากขึ้นไปอีก
"ถือว่าเป็นคำชมใช่ไหมครับ" จีนถามพลางหัวเราะไปด้วย จู่ๆ ร่างกายของมาร์แชลก็เหมือนโดนยึดให้ตกอยู่ในห้วงรอยยิ้มไม่สามารถหนีจากไปไหนได้ ทั้งที่เป็นผู้ชายแต่ทำไมกลับน่าหลงใหลแบบนี้กันนะ
พรึ่บ!
จู่ๆ ไฟในงานเลี้ยงก็ดับลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ วันนี้เป็นคืนที่พระจันทร์ส่องแสงมากเป็นพิเศษทำให้ดวงตากลมโตมองเห็นบางอย่างที่กำลังเข้าใกล้มาร์แชลโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว ดาบขนาดใหญ่กำลังจะฟันเข้าที่ร่างของคนตัวสูงกว่า มือขาวออกหมัดสวนกลับไปทันทีเพื่อโต้ตอบคนร้าย ทั้งสองฝ่ายต่างสู้กันในความมืดไม่มีใครยอมใคร แต่แล้วไฟในงานก็เกิดสว่างขึ้นมาเหมือนเป็นใจยังไงยังงั้น มือขาวดึงเนคไทออกมาแล้วเอาห่วงของเนคไทคล้องแขนคนร้ายแล้วกระตุกปมจนสุด ส่งผลให้ดาบร่วงหล่นสู่พื้นทันที
เคร้ง!
"เจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงมีวิชาการต่อสู้ที่ไม่ต้องใช้อายุก็สามารถสู้ได้อยู่ด้วย" นายทหารคนหนึ่งถามออกมาด้วยเสียงมีอำนาจแล้วชักดาบออกมาระยะประชิดใบหน้าหวานทันที
"ข้าถามไม่ได้ยินเหรอหนุ่มน้อย"
นี่มันอะไรกัน.....
เขาช่วยมาร์แชลไว้แท้ๆ แต่ทำไมถึงกลับโดนกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้ายแบบนี้ล่ะ
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
รอบนี้อาจจะไม่รอดแล้วก็ได้นะ
หมับ!
ร่างสูงโปร่งสะดุ้งเฮือกด้วยความกลัว เมื่อมีมือปริศนามาจับไหล่ทั้งสองข้างเอาไว้แล้วพยุงให้เขาลุกขึ้น สายตาคมมองนายทหารคนนั้นราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเข้าไปทั้งตัวแล้ว
"ขอความกรุณาอย่าเอาดาบมาจ่อที่คู่หมั้นของข้าจะได้ไหม สารวัตรเรเวล"
"นี่เจ้าชายหรือจะเรียกว่าองค์รัชทายาทจะมาขวางการจับกลุ่มครั้งนี้ของข้ารึ"
"จากที่ข้าดูคือเด็กคนนี้ช่วยจับคนร้ายไว้แต่ทำไมถึงทำเหมือนถูกกล่าวหาแทนแบบนี้ กรุณาอย่ามองคู่หมั้นของข้าด้วยสายตาแบบนั้นอีก" จากน้ำเสียงของคีย์แล้วไม่ใช่การบอกด้วยความกรุณาแต่เป็นคำสั่งจากผู้เป็นนายมากกว่า
"ค... คู่หมั้น... ของท่านพี่..." เสียงหวานเอ่ยทวนคำของอีกฝ่ายด้วยความเคอะเขิน เขาทำตัวไม่ถูกที่คีย์เรียกแบบนี้ หมายความอย่างที่พูดจริงๆ เหรอ
"ใช่ คู่หมั้นของข้า" มือหนาจับแก้มอมพูระเรื่อทั้งสองด้วยความเอ็นดู
"ไม่ได้เหรอ กระรอกน้อย"
"แต่สำหรับข้าแล้ว ข้าคิดว่าได้นะ กระรอกน้อยของข้า"
"อะไรนะ! เด็กคนนั้นเป็นคู่หมั้นขององค์รัชทายาท""หมายความว่ายังไงกัน""ยังงี้ลูกสาวของฉันก็อดตำแหน่งจักรพรรดินีสินะ""แล้วเป็นลูกตระกูลไหนกันถึงได้ครองหัวใจของรัชทายาทได้นะ"เสียงซุบซิบนินทาต่างๆ นานาถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในงานเลี้ยงภายในวันนี้ แล้วมันเรื่องอะไรกันแน่ดาบจ่อหน้าคู่หมั้นรัชทายาทจักรพรรดินีหรือว่า!"ท่านพี่เป็นลูกขององค์จักรพรรดิใช่ไหมครับ" เสียงหวานถามออกมาด้วยน้ำเสียงก่ำกึ่ง ดวงตากลมโตมีแววสับสนอย่างเห็นได้ชัด"ใช่ แต่ว่ายังไม่มีเวลาเล่าเลยก็เกิดเรื่องซะแล้วสิ" น้ำเสียงของคีย์แลดูไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับเหตุการณ์นี้มากนัก"พี่ชายของข้าถึงกับออกโรงปกป้องแบบนี้ มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นอย่างแน่นอน" คลาสพูดพลางมองร่างของจีนด้วยความสงสัย"นั่นสิ ปกติพี่ชายของพวกข้าไม่มาทำอะไรแบบนี้หรอกนะ" ครอสมีท่าทีเห็นด้วยพลางมองตามพี่ชายฝาแฝดของตนเอง"ท่าทางว่ารัชทายาทจะต้องอธิบายท่านจักรพรรดิและจักรพรรดินีภายในวันพรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้เช้ารบกวนเข้าเฝ้าที่วังหลวงด้วยพะยะค่ะ" มีเทน คนสนิทของจักรพรรดิบอกตามคำสั่งที่ได้รับมา เป็นอันรู้ดีในหมู่ของคนรับใช้ว่าแม้เขาจะเป็นคนรับใช้เหมือนตระกูล
หน้าตาที่ตื่นตระหนกและท่าทางสั่นระริกราวกับหวาดกลัวในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ครั้งนี้ไม่ใช่การหวาดกลัวด้วยความน่ากลัวแต่มันคือความตกใจปนหวาดกลัวไปในคราวเดียวกันต่างหาก เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายแล้วจะมาเป็นเนื้อคู่ของอีกฝ่ายได้ยังไงล่ะเล่า!"ท่านพี่ครับ" จีนเรียกอีกฝ่ายด้วยความสับสน ท่าทางน่ารักเหล่านั้นตกอยู่ในสายตาคนทั้งท้องพระโรง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสน่ห์ของเด็กคนนี้เหลือล้นจริงๆ จนเขาแทบอยากจะไปควักลูกตาของทุกคนออกมาไม่ให้เห็นออร่าของความน่ารักนั้นเลยสักนิดเดียว กระรอกน้อยเปล่งประกายมากเกินไปแล้ว"อืม" เสียงทุ้มต่ำตอบรับทันที เขาคิดว่าทุกคนน่าจะดูออกหมดแล้วล่ะว่าเขารู้สึกยังไงกับเด็กคนนี้ มันไม่ใช่แค่คำทำนายแต่ความรู้สึกของเขามันแสดงออกนอกหน้าขนาดนี้แล้ว"ผมเป็นผู้ชายนะครับ""เรื่องนั้นสำหรับพวกเราแล้วไม่ใช่ปัญหานะหนูจีน เพราะว่าการครองราชย์ของที่นี่ขึ้นอยู่ที่ความเหมาะสมมากกว่าการมีลูก บุตรของใครมีความเหมาะสมมากกว่ากันถึงจะได้บัลลังค์ไปนะ ไม่ต้องห่วงนะ" จักรพรรดินีบอกด้วยแววตาอ่อนโยน"ผมว่าแบบนั้นต่างหากครับที่ทำให้บัลลังค์ของพี่คีย์สั่นคลอนเพราะความไม่มั่นคงในการมีทายาท และตำแหน่งจ
เปลือกตาสวยกลมโตกระพริบตาสองสามครั้งเมื่อสายแดดส่องมายังห้องนอนของเขา เวลานี้ถือเป็นเวลากลางวันซึ่งไม่ใช่วิสัยของแวมไพร์ที่จะตื่น ทั้งวังก็คงจะเงียบน่าดูเลยทีเดียวเชียว ร่างบางลุกขึ้นมาอาบน้ำชำระร่างกายตามพฤติกรรมของมนุษย์ทั่วไป ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในจักรวรรดิก็เถอะ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีจะคล้อยตามนอนกลางวันแล้วตื่นในเวลากลางคืนแบบนั้นแกร๊ก!"อรุณสวัสดิ์ กระรอกน้อยของพี่" คีย์เอ่ยทักด้วยรอยยิ้มเหมือนเคยแต่ติดตรงที่ว่าทำไมถึงได้ตื่นเช้าแบบนี้กันนะ มันไม่ใช่เวลาของแวมไพร์ไม่ใช่เหรอ"อรุณสวัสดิ์ คุณชายจีน" มาร์แชลเอ่ยทักทายยามเช้าอีกคน ยิ่งทำให้น่าสงสัยกันเข้าไปใหญ่เลยว่าคนใหญ่คนโตของที่นี่เขาไม่รู้จักทำงานทำการกันหรือยังไงนะ"ตื่นเช้าดีนะครับ มาทำอะไรกันหน้าห้องผมแต่เช้าเลย" เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัย ดวงตากลมโตฉายแววฉงนอย่างเห็นได้ชัด คอที่เอียงไปมานั้นบ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็นเป็นเท่าตัว การกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาของรัชทายาทแห่งบีเลอและคุณชายแห่งมาร์แชล ถ้าไม่ได้มีร่างกายที่ดูออกจะแข็งแรงเหมือนคนออกกำลังกายรวมถึงส่วนสูงและสรีระที่เหมือนผู้ชายแต่ก็ไม่ใช่ผู้ชายซะทีเดียวเรียก
เขารู้ตัวดีว่ากำลังหลบหน้าใครบางคน จะกล้าสู้หน้าได้ยังไงล่ะ! พูดซะขนาดนั้นแล้วนี่นา สงบใจไม่ได้เลยสักนิดเดียว"คุณชายจีนขอรับ เรียนเชิญทางนี้ขอรับ" เมล์บอกพลางผายมือไปทางโรงอาหาร"ขอบคุณครับ""เป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ หน้าตาดูแดงตลอดเวลาเลย" เมล์ถามด้วยความเป็นห่วง หากคนโปรดของรัชทายาทไม่สบายจะต้องโดนดุอย่างแน่นอนเลย"ไม่เป็นไรครับ สบายดีครับ" ใครจะกล้าบอกว่าเขินพี่คีย์จนไม่กล้าสู้หน้ากันล่ะปึก!"ระวังหน่อยครับคุณชายจีน ถ้าข้าคว้าไม่ทันคือล้มแล้วนะ" มาร์แชลบอกพลางจับร่างบางมานั่งเก้าอี้แล้วช่วยปัดเศษฝุ่นออก"ขอบคุณครับ ผมไม่ระวังตัวเอง""ทำไมไม่ระวังตัวเลยนะ""แต่ว่า...""ซุ่มซ่ามแบบนี้ก็น่ารักดีนะ" เสียงทุ้มต่ำบอกด้วยรอยยิ้ม"ผ... ผม... ผมไม่คุยกับพวกคุณแล้ว ไปทางไหนมีแต่คนพูดจาแปลกๆ กันทั้งนั้นเลย" ช่วงขาเรียวยาวเดินหนีไปอีกทางทันที โดยที่ไม่ได้รับรู้ถึงสายตาเอ็นดูจากคนด้านหลังเลยสักนิดเดียวที่นี่มันคือโลกแบบไหนกันแน่นะ รู้ตัวว่าข้ามเวลามาอีกโลกหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะแปลกประหลาดกันขนาดนี้ เหมือนเวลาจิรายุไปใกล้ใครคนนั้นก็จะพากันหลงรักไปเสียหมด เขาเป็นผู้ชายนะ! ทุกคนอย่าลืมสิ ทำไมถึงมีแ
เสียงหัวใจเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกจากอก คนข้างกายจะรู้ไหมว่าเขาแสดงท่าทีแบบไหน ให้ตายเถอะ! เขามีอิทธิพลกับหัวใจมากจริงๆ"ผมว่าพวกเรารีบไปกินข้าวกันเถอะครับ ผมหิวแล้ว" ร่างสูงโปร่งรีบเดินหนีจากสถานการณ์ตรงหน้าเพราะจนปัญญาที่จะรับมือไหว ใบหน้าริ้วแดงนั้นสร้างความหลงใหลให้กับผู้ที่พบเห็นไม่น้อยเลยทีเดียว ช่างน่ารักน่ากินไปทั้งตัวยังไม่รวมกลิ่นเลือดหอมหวานนั่นอีก"พอเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่คีย์ถึงหวงนัก""นั่นสิ เป็นใครเจอแบบนี้ก็หวงกันหมด"ฉายาแฝดนรกของจักรวรรดิไม่ได้มีเพียงชื่อเท่านั้น ความแสบสันและการพูดจาก็ร้ายกาจไม่แพ้กัน บุคคลที่คลาสและครอสกลัวที่สุดคือพี่ชายคนโตหรือรัชทายาทนั่นเอง ส่วนสาเหตุนั้นไม่มีใครอาจตอบได้เพราะแม้แต่จักรพรรดิยังเอาไม่อยู่"ยังไงข้าก็ไม่ยอมแพ้แน่ คุณชายจีนจะต้องมาเป็นดัชเชสของมาร์แชล" มาร์แชลบอกด้วยความมั่นใจและไม่ยอมแพ้ ในเมื่อเจ้าตัวยังไม่ได้ตัดสินใจ ทุกคนก็มีโอกาสจะเข้าหาทั้งหมด"อย่าเพิ่งเถียงกันเลย รีบตามกระรอกน้อยไปเถอะ"ความสดใส น่ารัก ไร้เดียงสาที่แผ่ออกมารอบตัวจิรายุ ตกอยู่ในสายตาเหล่าแวมไพร์น้อยใหญ่ทั้งหมด ไม่มีมนุษย์คนไหนมาเยือนโลกนี้นานแล้ว ด้วยความท
"ทำหน้าแบบนี้แปลว่าตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม ว่าควรทำตัวยังไง""มาร์แชล บลัฟเฟอร์" แฝดนรกก็คือแฝดนรกอยู่ดี คำพูดที่หลอกล่อให้คล้อยตามและหลงเชื่อ ไม่ว่าใครจะหนักแน่นหรือมั่นคงในความคิดของตนเองมากแค่ไหน หากโดนคำพูดขององค์ชายคลาสกับองค์ชายครอส ไม่มีทางที่จะหนีพ้น เหมือนเสียงกระซิบของปีศาจที่ต้องยอมทำตามแต่โดยดีอย่างไม่มีเงื่อนไข"แล้วองค์ชายทั้งสองไม่ติดใจอะไรบ้างเหรอพะยะค่ะ ว่าทำไมมนุษย์อย่างคุณชายจีนถึงได้รับตำแหน่งเป็นคุณชายญาติทางฝั่งพระจักรพรรดินี" มาร์แชลกลั้นใจถามออกไป เขายอมแพ้ที่จะสืบหาความจริงแล้วแต่ไม่มีทางที่ทั้งสองพระองค์จะยอมล่าถอยง่ายๆ แบบนี้ ทุกคนต้องรู้ดีถึงความน่ากลัว การปกครองที่สงบสุขหลายร้อยปีที่ผ่านมาไม่ได้มีเพียงแค่หน้าตา ความสามารถ ความเฉลียวฉลาดถือว่าไม่เป็นรององค์รัชทายาทเลยเพียงแต่เกิดช้ากว่าเท่านั้นเอง"จริงๆ ข้าก็อยากรู้นะ ท่านพี่ว่าไง""ข้าไม่ขอเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ท่านแม่ตัดสินใจเด็ดขาด ความน่ากลัวของท่านแม่มีมากมายนัก อยากมีชีวิตแบบที่แวมไพร์ควรเป็น ยังไม่อยากตายเยี่ยงมนุษย์""นี่คือข้อสรุปของพวกเราสองแฝด ไปนอนกัน" รูปร่างสง่างามที่เหมือนกันราวกับแกะทั้งสองเดิน
"มีเรื่องกันหรือเปล่าครับ ผมเป็นห่วง" ท่าทางกังวลถูกฉายชัดผ่านดวงตากลมโต เสื้อคลุมถูกสวมใส่อย่างลวกๆ หยดน้ำไหลเป็นทางตามร่างกายขาว หากผิวขาวซีดจะดูไม่น่าดึงดูดแต่ไวท์ดันขาวอมชมพู ยิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ ดูยั่วยวนโดยธรรมชาติมาก รัชทายาทลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ สามัญสำนึกบอกให้เขาหยุดคิดอะไรที่ไม่ดีไม่งาม"กระรอกน้อยรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำใช่หรือไม่" เสียงทุ้มต่ำถามพลางสะกดอารมณ์ของตนเองลง"ครับ ผมได้ยินเสียงเลยรีบคว้าชุดคลุมออกมาเลย" มือหนาคว้าผ้าห่มขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้วพันร่างของไวท์ไว้ทั้งหมดพลางอุ้มพากลับไปห้องอาบน้ำ ไม่รู้ว่าระหว่างทางจะมีใครเห็นบ้าง สายตาพิฆาตถูกส่งไปยันทหารในคฤหาสน์ ทุกคนก้มลงกับพื้นหมดเพราะไม่อาจทนรังสีความหวงของรัชทายาทได้"แต่งตัวนะ แล้วเช็ดผมให้แห้งนะ""ครับ""ข้าว่าพวกเรากลับวังกันเถอะ""จะดีเหรอครับ""กระรอกน้อยช่วยทำฝายชะลอน้ำแล้ว""ทุกคนจะต้องไม่เป็นอะไร""ที่นี่อากาศเย็นเกินไป ข้าคิดว่าร่างกายของกระรอกน้อยจะรับไม่ไหว"คนที่รับไม่ไหวและรับมือยากที่สุดมันคือพระองค์ต่างหากล่ะ! รัชทายาท เขาลอบเถียงในใจ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะรู้ทันเสียแล้ว"จะบอกว่าข้ารับมือยากเหรอ""ทำไมถึ
ณ วังหลวง"จักรพรรดินีเพคะ องค์รัชทายาทแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับมาวังหลวง" นีน่ารายงานตามเอกสารที่ได้รับมาทันที เพราะสถานการณ์ตอนนี้ถึงจะดีขึ้นแล้วแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก ยังมีเหล่าขุนนางจำนวนมากที่อยากเห็นหน้าว่าที่คู่หมั้น"ดีแล้วล่ะ ขออย่าให้เกิดเรื่องก่อนมาถึงก็พอ""ทำไมคิดเช่นนั้นเพคะ""มีหลายคนที่ไม่พอใจเรื่องนี้เยอะ มันจะต้องมีการลอบสังหารเกิดขึ้นแน่" ที่นี่ไม่ใช่เมืองมนุษย์ฉะนั้นกฎทุกอย่างมีไว้แหก ไม่ได้มีไว้ทำตามดั่งที่ควรจะเป็น"แล้วพระองค์จะทำเช่นไรเพคะ""ไม่รู้เหมือนกัน ของแบบนี้ต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง"ขุนนางบางส่วนที่หวังพึ่งอำนาจจากเจ้าชายฝาแฝดมากกว่ารัชทายาทคนปัจจุบัน เนื่องจากไม่ชอบความคิดที่รู้ไปทุกเรื่องโดยไม่ฟังคำจากผู้ใหญ่ หากมีเรื่องมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องแล้วหมายความจุดอ่อนคือสิ่งนี้ เมื่อรู้จุดอ่อนของศัตรูเป็นธรรมดาที่จะต้องกำจัดทิ้ง"กระผมจ้างทหารรับจ้างให้ไปลอบสังหารรัชทายาทแล้วขอรับ""ทำดีมาก ชาร์ที""ข้าอยากจะรู้นักว่ารัชทายาทจะปกป้องคนรักได้หรือไม่""ขอรับ"การเดินทางกลับวังหลวงนั้นจำเป็นต้องใช้รถม้าเนื่องจากเป็นการเดินทางที่เป็นทางการ ไม่สามารถใช้แบบรถค้างคาวไป