"ทำหน้าแบบนี้แปลว่าตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม ว่าควรทำตัวยังไง"
"มาร์แชล บลัฟเฟอร์" แฝดนรกก็คือแฝดนรกอยู่ดี คำพูดที่หลอกล่อให้คล้อยตามและหลงเชื่อ ไม่ว่าใครจะหนักแน่นหรือมั่นคงในความคิดของตนเองมากแค่ไหน หากโดนคำพูดขององค์ชายคลาสกับองค์ชายครอส ไม่มีทางที่จะหนีพ้น เหมือนเสียงกระซิบของปีศาจที่ต้องยอมทำตามแต่โดยดีอย่างไม่มีเงื่อนไข
"แล้วองค์ชายทั้งสองไม่ติดใจอะไรบ้างเหรอพะยะค่ะ ว่าทำไมมนุษย์อย่างคุณชายจีนถึงได้รับตำแหน่งเป็นคุณชายญาติทางฝั่งพระจักรพรรดินี" มาร์แชลกลั้นใจถามออกไป เขายอมแพ้ที่จะสืบหาความจริงแล้วแต่ไม่มีทางที่ทั้งสองพระองค์จะยอมล่าถอยง่ายๆ แบบนี้ ทุกคนต้องรู้ดีถึงความน่ากลัว การปกครองที่สงบสุขหลายร้อยปีที่ผ่านมาไม่ได้มีเพียงแค่หน้าตา ความสามารถ ความเฉลียวฉลาดถือว่าไม่เป็นรององค์รัชทายาทเลยเพียงแต่เกิดช้ากว่าเท่านั้นเอง
"จริงๆ ข้าก็อยากรู้นะ ท่านพี่ว่าไง"
"ข้าไม่ขอเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ท่านแม่ตัดสินใจเด็ดขาด ความน่ากลัวของท่านแม่มีมากมายนัก อยากมีชีวิตแบบที่แวมไพร์ควรเป็น ยังไม่อยากตายเยี่ยงมนุษย์"
"นี่คือข้อสรุปของพวกเราสองแฝด ไปนอนกัน" รูปร่างสง่างามที่เหมือนกันราวกับแกะทั้งสองเดินจากไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามองอีก มันไม่ใช่คำตอบที่หลอกให้อีกฝ่ายตายใจเพราะคือสิ่งที่คิดจริงทั้งหมด ท่านแม่ขึ้นชื่อในเรื่องบทลงโทษพิสดาร ไม่มีทางยอมเอาชีวิตไปเสี่ยงหรอก
"คุณชายมาร์แชลขอรับ กระผมมารับกลับคฤหาสน์ขอรับ"
"นายมาช้านะ คริส"
ผมถูกพามายังคฤหาสน์ที่รัชทายาทบอกว่าเป็นที่พักส่วนตัวเวลาเดินทางมาถึงที่นี่ ถึงจะไม่ได้ใหญ่โตเท่าวังหลวงแต่มันก็น่าจะทำให้เดินหลงได้หากไม่มีคนนำทางไป ภายในถูกตกแต่งสไตล์ขาวเทาเรียบหรูแลดูน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน ถึงจะไม่มีวิธีการก่อสร้างแบบสมัยใหม่แต่จากรูปลักษณ์แล้วความสามารถของโลกนี้เองก็คงไม่ธรรมดา
ร่างสูงโปร่งเดินตามพ่อบ้านคนสนิทองค์รัชทายาทมาตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงห้องหนึ่งที่น่าจะใช้เป็นห้องอาหารมากกว่าห้องอาบน้ำ กลิ่นหอมชวนให้รู้สึกผ่อนคลายไม่ใช่น้อย ดอกไม้หลากหลายชนิดมีทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก รวมถึงนางในหลายคนที่รอรับใช้ในระหว่างการอาบน้ำ
"กระรอกน้อยอาบน้ำอุ่นได้ใช่ไหม" เสียงทุ้มต่ำถามพลางผสมน้ำไปด้วย
"ได้ครับ" จะบริการกันเกิดไปแล้ว บางทีความใจดีหากมากเกินไปแล้วเคยตัวขึ้นมาจะทำยังไง
"โอเค งั้นเดี๋ยวข้าทำให้" บางทีสีหน้าความเกรงใจนั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจนจนปิดไม่มิดเลยล่ะ ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้ ยิ่งใบหน้าหวานเริ่มแดงขึ้นทุกคนก็เอ็นดูไปหมดแม้กระทั่งนางในที่อยู่ในห้องด้วยกัน
"ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมเกรงใจ"
"ข้าอยากทำให้คู่หมั้นของตนเอง ไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ" เป็นครับ! เป็นภัยต่อหัวใจของผม
หึ! ทำหน้าแดงขนาดนั้นอีกทีจะสุกแล้ว ทำไมถึงน่ารักแบบนี้ เป็นผู้ชายที่เหมือนได้รับการเลี้ยงดูมาเหมือนผู้หญิงมากกว่า ทำได้แค่คิดขืนพูดออกไปมีหวังไม่พอใจแน่นอน การดูถูกไม่ใช่สิ่งราชวงศ์ควรทำ สู้มาแกล้งเล่นแบบนี้สนุกกว่าตั้งเยอะเลย
"ขัดตัวให้สะอาดนะ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันต้องเข้าพิธี" เสียงทรงพลังออกคำสั่งที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ แต่เมื่อมีเสียงที่เอ่ยถามออกมา บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที
"ท่านพี่ครับ งานอะไรครับ"
"งานแต่งตั้งกระรอกน้อยเป็นคุณชายในตระกูลฝั่งแม่ข้าไง"
"ทำไมรีบกันขนาดนี้ครับ! " มันจะเร็วเกินไปหรือเปล่า มันน่าตกใจเกินไปแล้ว
"กระรอกน้อยต้องไปถามแม่ข้าเองแล้วล่ะ การขัดใจจักรพรรดินีเป็นสิ่งที่รัชทายาทไม่สมควรขัด"
"แต่ว่า..." การลากเสียงของอีกฝ่ายทำให้อีกคนที่มองตามลุ้นระทึกไปด้วย สมองจินตนาการไปต่างๆ นานาถึงบทลงโทษมากมายที่ไม่อาจคาดเดาได้
"ถ้าเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ขอ อาจจะได้รับการประทานอภัยก็ได้" รอยยิ้มที่ส่งมาทำไมมันดูแตกต่างไปจากทุกทีนะ ไม่ขอลองเสี่ยงอะไรที่ทำให้อายุสั้นลงหรอกนะ มันไม่ดี!
การอาบน้ำขัดตัวเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากผมวิ่งหนีตลอดเลย ใครจะอยากให้ผู้หญิงหลายคนมารุมล้อมอาบน้ำให้แบบนี้ มันน่าอายที่สุดในชีวิตถึงแม้ว่ามันจะเป็นความฝันของใครหลายคนก็เถอะ จนสุดท้ายก็ไม่รอดเพราะว่าโดนล้อมจับมานั่งขัดๆ ถูๆ จนได้ ความจริงน่าจะให้ผู้ชายมาขัดตัวให้มากกว่าผู้หญิงนะ ต้องถามหน่อยแล้ว
"ผมมีเรื่องจะถาม"
"เรื่องอะไรคะ คุณชายริค"
"ทำไมเรียกผมแบบนั้นครับ"
"เพราะนามใหม่ของท่านคือ ริค ไวท์ คุณชายบุญธรรมแห่งตระกูลริค ต้นตระกูลจักรพรรดินีค่ะ"
"เอ๋! " พระนามใหม่หมายถึงชื่อใหม่ของผมเหรอ ทำไมไม่มีใครคิดที่จะปรึกษาผมเลยสักคน เอาแต่ใจตัวเองกันชะมัดยาก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"เข้ามา"
"รัชทายาทพะยะค่ะ กว่าจะอาบน้ำคุณชายได้ถือว่ายากมาก" เมล์คนสนิทของผู้เป็นนายถึงกับกุมขมับ ไม่คิดว่าความแตกต่างของโลกคู่ขนานจะมีผลมากขนาดนี้
"หึ! มนุษย์ทั่วไปไม่มีใครมาคอยปรนนิบัติไม่แปลกที่จะตกใจ แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหม"
"คุณชายริคถามว่าทำไมถึงไม่ให้ผู้ชายมาช่วยอาบน้ำ แทนที่จะเป็นผู้หญิง"
"หึ! ไม่รู้ตัวเลยรึว่าตัวเองน่ากินขนาดไหน ขืนให้ผู้ชายไปช่วยอาบน้ำมีหวังโดนจับกินไปแล้ว" คิดได้ยังไงกันนะกระรอกน้อยที่จะให้ผู้ชายไปช่วยอาบน้ำ นี่เขาคัดคนไปช่วยอาบน้ำนานมากนะ แน่นอนว่าผู้หญิงพวกนั้นไม่มีรสนิยมชอบผู้ชายหน้าหวานและชอบคนที่มาดแมนกว่านี้ นอกนั้นคือไม่ผ่านสักคนเดียว ร่างสูงไม่ได้รู้ตัวเลยว่ารังสีอำมหิตมันกำลังแผ่กระจายออกมาทั่วทั้งร่าง ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี พายุเริ่มโหมกระหน่ำโดยไม่ทราบสาเหตุ
"รัชทายาทพะยะค่ะอย่าโกรธไปเลย บ้านเมืองจะพังหมดแล้วนะ" เมล์พยายามเอ่ยเตือนเจ้านายของตน ถือว่าแปลกมากที่จะแสดงความพิโรธออกมา พิษรักแรงหึงสินะ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ข้างนอกจะสงบลงแต่บรรยากาศรอบตัวยังคงมาคุต่อไป
ปึง!
"ท่านพี่ครับ มีอะไรกันหรือเปล่า ทำไมจู่ๆ เหตุการณ์ข้างนอกยังกับจะเกิดภัยพิบัติแบบนั้น" ร่างกายไม่ถึงกับบอบบางแต่แข็งแรงเหมือนคนออกกำลังกายวิ่งหน้าตาตื่นเข้าห้องมา สำหรับโลกมนุษย์แล้วคงจะแปลกไม่น้อยที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่สำหรับที่นี่แล้วมันจะเกิดเฉพาะคนที่มีพลังระดับสูงพิเศษเท่านั้น แวมไพร์ทั่วไปไม่สามารถทำได้
"เหตุการณ์เมื่อกี้เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของแวมไพร์ชั้นสูงขอรับ หากจิตใจไม่มั่นคงจะทำให้บรรยากาศรอบข้างน่ากลัวไปด้วย"
"ว่าไงนะ!!! "
"มีเรื่องกันหรือเปล่าครับ ผมเป็นห่วง" ท่าทางกังวลถูกฉายชัดผ่านดวงตากลมโต เสื้อคลุมถูกสวมใส่อย่างลวกๆ หยดน้ำไหลเป็นทางตามร่างกายขาว หากผิวขาวซีดจะดูไม่น่าดึงดูดแต่ไวท์ดันขาวอมชมพู ยิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ ดูยั่วยวนโดยธรรมชาติมาก รัชทายาทลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ สามัญสำนึกบอกให้เขาหยุดคิดอะไรที่ไม่ดีไม่งาม"กระรอกน้อยรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำใช่หรือไม่" เสียงทุ้มต่ำถามพลางสะกดอารมณ์ของตนเองลง"ครับ ผมได้ยินเสียงเลยรีบคว้าชุดคลุมออกมาเลย" มือหนาคว้าผ้าห่มขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้วพันร่างของไวท์ไว้ทั้งหมดพลางอุ้มพากลับไปห้องอาบน้ำ ไม่รู้ว่าระหว่างทางจะมีใครเห็นบ้าง สายตาพิฆาตถูกส่งไปยันทหารในคฤหาสน์ ทุกคนก้มลงกับพื้นหมดเพราะไม่อาจทนรังสีความหวงของรัชทายาทได้"แต่งตัวนะ แล้วเช็ดผมให้แห้งนะ""ครับ""ข้าว่าพวกเรากลับวังกันเถอะ""จะดีเหรอครับ""กระรอกน้อยช่วยทำฝายชะลอน้ำแล้ว""ทุกคนจะต้องไม่เป็นอะไร""ที่นี่อากาศเย็นเกินไป ข้าคิดว่าร่างกายของกระรอกน้อยจะรับไม่ไหว"คนที่รับไม่ไหวและรับมือยากที่สุดมันคือพระองค์ต่างหากล่ะ! รัชทายาท เขาลอบเถียงในใจ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะรู้ทันเสียแล้ว"จะบอกว่าข้ารับมือยากเหรอ""ทำไมถึ
ณ วังหลวง"จักรพรรดินีเพคะ องค์รัชทายาทแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับมาวังหลวง" นีน่ารายงานตามเอกสารที่ได้รับมาทันที เพราะสถานการณ์ตอนนี้ถึงจะดีขึ้นแล้วแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก ยังมีเหล่าขุนนางจำนวนมากที่อยากเห็นหน้าว่าที่คู่หมั้น"ดีแล้วล่ะ ขออย่าให้เกิดเรื่องก่อนมาถึงก็พอ""ทำไมคิดเช่นนั้นเพคะ""มีหลายคนที่ไม่พอใจเรื่องนี้เยอะ มันจะต้องมีการลอบสังหารเกิดขึ้นแน่" ที่นี่ไม่ใช่เมืองมนุษย์ฉะนั้นกฎทุกอย่างมีไว้แหก ไม่ได้มีไว้ทำตามดั่งที่ควรจะเป็น"แล้วพระองค์จะทำเช่นไรเพคะ""ไม่รู้เหมือนกัน ของแบบนี้ต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง"ขุนนางบางส่วนที่หวังพึ่งอำนาจจากเจ้าชายฝาแฝดมากกว่ารัชทายาทคนปัจจุบัน เนื่องจากไม่ชอบความคิดที่รู้ไปทุกเรื่องโดยไม่ฟังคำจากผู้ใหญ่ หากมีเรื่องมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องแล้วหมายความจุดอ่อนคือสิ่งนี้ เมื่อรู้จุดอ่อนของศัตรูเป็นธรรมดาที่จะต้องกำจัดทิ้ง"กระผมจ้างทหารรับจ้างให้ไปลอบสังหารรัชทายาทแล้วขอรับ""ทำดีมาก ชาร์ที""ข้าอยากจะรู้นักว่ารัชทายาทจะปกป้องคนรักได้หรือไม่""ขอรับ"การเดินทางกลับวังหลวงนั้นจำเป็นต้องใช้รถม้าเนื่องจากเป็นการเดินทางที่เป็นทางการ ไม่สามารถใช้แบบรถค้างคาวไป
ทำไมรัชทายาทไปนานเหลือเกิน มีเสียงต่อสู้กันอย่างหนักแล้วทำไมเงียบลงแบบนี้ ไวท์ไม่รู้ตัวเลยว่ารถม้ากำลังเคลื่อนตัวไปทางอื่นเนื่องจากโดยภาพมายาหลอกว่ายังอยู่ที่เดิม แผนการนี้ตอนแรกจงใจจะทำลายความน่าเชื่อถือของเชื้อพระวงศ์แต่ขุนนางอย่างเขาก็คิดได้ว่ายังมีมนุษย์ที่เป็นตัวแปรสำคัญในครั้งนี้อยู่กลิ่นหวานชวนกลืนกินนั้นยังคงติดตราติดตรึงใจตั้งแต่ครั้งที่เจอในงานเลี้ยงเมื่อไม่กี่วันก่อน อยากลองเห็นหน้าชัดๆ สักครั้งว่ามีดีแค่ไหนกัน ทำไมใครต่อใครถึงได้ออกโรงปกป้องกันนัก ทั้งจักรพรรดิ จักรพรรดินี รัชทายาท องค์ชายแฝด แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้ว จะสืบออกนอกหน้าก็ไม่ได้ เส้นสายของจักรพรรดินีมีทั่วอาณาจักร"คนที่คุณชายอยากพบ เดินทางมาถึงแล้วขอรับ" ชาร์ทีบอกพลางผายมือไปทางรถม้าที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าคฤหาสน์ตระกูลสวิต ถือเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่เป็นเชื้อพระวงศ์ วิธีการที่ใช้เลือกผู้นำแต่ละสมัยจะไม่เหมือนกัน สมัยขององค์จักรพรรดิจะเลือกจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นผู้นำ โดยผ่านการต่อสู้มาอย่างหนักหลากหลายรูปแบบเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งทุกหนึ่งร้อยปีจะมีการจัดการแข่งขันเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งของจักรวรรดิ แวมไ
คิดถูกแล้วที่ตัดสินใจส่งจดหมายก่อนที่คุณชายริคจะเดินทางมาถึง เพราะว่าเวลาไม่นานร่างสูงปีกสีดำขนาดใหญ่ก็บินมาถึงบ้านของเขาเสียแล้ว แสดงว่าร้อนใจจะไม่สามารถนั่งรถม้าหรือรถค้างคาวมารับได้เลยสินะ เด็กคนนี้ต้องมีดีอะไรพอสมควรเลยปึง!"กระรอกน้อย! ไม่เป็นอะไรใช่ไหม! ใครทำอะไรหรือเปล่า! " คียร้อนใจจนไม่สามารถบังคับตนเองได้แล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับแก้วตาดวงใจแล้วล่ะก็...คฤหาสน์หลังนี้พังไม่เป็นท่าแน่ๆ"ทำไมต้องโวยวายเสียงดังด้วยพะยะค่ะ ใจเย็นลงก่อน" เทรเลอร์ตอบกลับอย่างใจเย็น ไม่บ่อยนักที่จะเห็นอาการแบบนี้ออกมา ปกติเป็นคนสุขุม รอบคอบ ใจเย็น ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยซะแล้วสิ"จะให้เย็นได้ยังไง ความต่างของเผ่าพันธ์มันเยอะขนาดนี้""แถมกลิ่นเลือดยังหอมหวานชวนให้ดื่มตลอดเวลา ข้าไม่ไหวใจเจ้า! สวิต เทรเลอร์""รัชทายาท ใจเย็นลงก่อนพะยะค่ะ" เมล์ห้ามปรามเจ้านายของตนทันที ไม่มีความจำเป็นต้องไปเดินตามเกมส์ของคนตระกูลสวิต"ต่อให้ท่านจะฆ่าเขาเสียตรงนี้ ก็ไม่มีโอกาสได้รู้ว่าคุณชายริคอยู่ที่ไหน" ท่าทีของคีย์โอนอ่อนลงทันที คนรับใช้ตระกูลโฟลช์ถูกขัดเกลามาให้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้ความช่วยเหลือ และห้ามปรามกษัตริย
กระรอกน้อยของเขาจะเนื้อหอมมากเกินไปแล้วนะ ขนาดเป็นผู้ชายยังขนาดนี้แล้วถ้าเป็นผู้หญิงเขาไม่เป็นบ้าตายเหรอเทรเลอร์ไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนนอกจากจะหน้าหวานแล้วยังจะยิ้มหวานขนาดนี้ มีฝีมืองานบ้านงานเรือน กิริยาท่าทางไม่ยอมใคร พอเข้าใจแล้วว่าทำไมรัชทายาทถึงหวงนัก จากข่าวที่ได้ยินมามีคุณชายตระกูลขุนนางตกหลุมรักเหมือนกัน แบบจะลงสนามไปด้วยดีไหมนะ"คุณชายริค""ครับ" ซวยแล้วไง! เผลอขานรับแบบมนุษย์ไปแล้ว ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจที่ตนเองพูดผิดออกไป ซึ่งสำหรับจักรวรรดิแล้วคำพูดพวกนี้ถูกใช้กันในหมู่มนุษย์มากกว่าแวมไพร์ ขานรับผิดแบบนี้แปลว่าต้องเคยชินกับการคุยกับใครสักคนและคงหนีไม่พ้นรัชทายาทเป็นแน่"หึ! คำขานรับน่ารักดีนะ ข้าชักถูกใจเจ้าซะแล้วสิ" เทรเลอร์บอกด้วยสีหน้าพึงพอใจ ปกติเขาไม่สนใจมนุษย์นอกจากเวลาที่ได้ดื่มเลือดที่ได้มาจากการบริจาคของเหล่าบริวารในเขตปกครองของตนเอง นอกนั้นก็มีอายุสั้นไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่นัก แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กคนนี้ถึงจะมีอายุที่สั้นแต่ก็อยากจะดูแลสักครั้ง ลองถนอมใครไว้สักคนก็น่าจะดีไม่น้อย"พูดแบบนี้เจ้าหมายความว่ายังไง เทรเลอร์" ถึงคีย์จะรู้คำตอบของความหมายนั่นอยู่แล้
การตามใจใครสักคนแล้วยอมลำบากขนาดนี้ หวังว่าจะมีอะไรตอบแทนไม่มากก็น้อยกับความอดทนของข้าในครั้งนี้ณ พระราชวังสวิต (ที่พักอาศัยของคุณชายคนโตของตระกูล)"ขอต้อนรับท่านจักรพรรดินี ไม่ทราบว่าเดินทางมาถึงที่นี่มีเรื่องอันใดกัน" ชาร์ทีออกมาต้อนรับทันทีที่เห็นขบวนเสด็จขององค์จักรพรรดินีเดินทางมาแบบไม่เป็นทางการเช่นนี้ จะต้องเกี่ยวข้องกับเด็กคนนั้นที่ถูกจับตัวมาเมื่อก่อนหน้านี้แน่นอน"ข้าว่าเชิญท่านจักรพรรดินีเข้าไปด้านใน แล้วค่อยหารือกันดีหรือไม่ ชาร์ที" นีน่าบอกเสียงเรียบแต่ท่าทางไม่ได้เรียบตามไปด้วย ลางสังหรณ์ของเขามันร้องเตือนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีที่มีการเดินทางนอกกำหนดการแบบนี้ตระกูลสวิตถือเป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ทั้งสี่ สัญลักษณ์ของตระกูลคือลักษณะแห่งไฟที่เผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องตระกูลของกษัตริย์ให้มั่นคงสืบต่อไป การจะล้มล้างกษัตริยได้จำเป็นต้องเข้าถึงตัวเชื้อพระวงศ์ให้ได้เสียก่อน หากเจ้าแห่งการปกครองสูงสุดของวังหลังออกเดินทางนอกกำหนดการ หมายความมีการทำงานที่ไม่ปกติเกิดขึน อำนาจสูงสุดตกเป็นของจักรพรรดินีและจักรพรรดิไม่มีสิทธิในการตัดสินใจเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว"อรุณสวัสดิ์ยามดึกพ
"ฉะนั้นพวกเรามาหารือกันเรื่องนี้จนกว่าจะได้ข้อสรุปกัน ไม่ว่ายังไงข้าจะไม่ยอมให้ลูกชายของข้าต้องไม่มีเนื้อคู่เพราะเจ้าพวกนั้นเด็ดขาด""พะยะค่ะ"พระอาทิตย์สาดส่องเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ของใครหลายคน แต่มันคือเวลานอนของเหล่าแวมไพร์ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ถึงผมจะอยู่ที่นี่มาได้หลายวันแล้วแต่ก็ยังไม่ชินกับการที่ต้องนอนกลางวันตื่นกลางคืนอยู่ดี ถึงตอนนี้จะเริ่มนอนเกือบเช้าแต่ก็ยังหลับๆ ตื่นๆ เช่นวันนี้มาตื่นตอนเที่ยงแบบนี้แล้วจะทำยังไงดี ทุกคนพากันหลับหมดแบบนี้ ถึงจะมีเวรยามอยู่ตลอดยี่สิบชั่วโมงแต่มันก็ค่อนข้างว่างเสียเหลือเกินก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!"ใครครับ" เสียงหวานตะโกนถามออกไป"ข้าเอง กระรอกน้อย" เสียงทุ้มต่ำตะโกนกลับมา ช่วงขาที่เรียวยาวถึงได้เดินไปเปิดประตู หากเป็นคนรับใช้เกรงว่าเขายังไม่อยากจะพบใครตอนนี้ อยากใช้ความคิดของตนเองมากกว่า"เพิ่งทำงานเสร็จหรือพะยะค่ะ" ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง มือขาวเกลี่ยปอยผมที่ลงมาปรกใบหน้าอีกฝ่ายออกให้เห็นชัดเจนมากขึ้น เผลอให้เห็นรอยใต้ตาคล้ำจากการทำงานอย่างหนัก ท่าทีอ่อนล้าที่เผยให้เห็นนั้นช่างน่าเป็นห่วงยิ่งนัก"ใช่แล้ว ข้าง่วงมากเลย กระรอ
จีนกำลังเดินกลับบ้านด้วยความสบายใจดั่งเช่นทุกวัน ชีวิตวัยม.ปลายที่สนุกสนานกำลังรอเขาอยู่ วันปฐมนิเทศน์วันนี้ก็มีเพื่อนเยอะเสียด้วย นับจากนี้ไปรั้วชีวิตม.ปลายของเขาจะต้องสดใสอย่างแน่นอนเลยล่ะ ดวงตากลมโตมองเห็นร้านเก่าๆ ร้านนึงซึ่งทางเดินเส้นนี้ก็ถูกใช้ในการกลับบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เห็นเลยนะ ลองเข้าไปดูหน่อยก็แล้วกัน มือขาวผลักประตูเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น"สวัสดีครับ มีใครอยู่ไหมครับ" เสียงทุ้มหวานเอ่ยถาม"มีครับ สวัสดีครับหนุ่มน้อย" ผู้อยู่ด้านในเอ่ยสนทนาโต้ตอบกลับไป"หมายถึงผมเหรอครับ" ไม่ถามเปล่ายังคงชี้นิ้วมาทางตนเองอีกด้วย นับว่าเป็นท่าทางว่าน่ารักทีเดียว"ใช่ครับ ไม่ทราบว่าจะมาดูดวงหรือครับหนุ่มน้อย""เปล่าครับ พอดีผมไม่เคยเห็นร้านนี้มาก่อนเลยมาถามดูครับ""งั้นลองมาดูดวงสักหน่อยไหมครับ ไหนๆ ก็แวะเข้ามาในร้านของผมแล้ว" เสียงทุ้มถามพลางสับไพ่ยิปซีในมือรอ"ลองดูก็ได้นะครับ"จีนฟังคำอธิบายจากหมอดูหนุ่มด้วยความตั้งใจ มือขาวทั้งสองแนบอกตนเองพลางอธิฐานด้วยความซื่อสัตย์และหยิบไพ่ใบต่าง ๆ ออกมาจากใจที่ตนเองได้คิดดีและตัดสินใจเอาไว้ทั้งหมดแล้ว สีหน้าของหมอดูหนุ่มมีท่าทีหนัก