แชร์

Twelve Time

คิดถูกแล้วที่ตัดสินใจส่งจดหมายก่อนที่คุณชายริคจะเดินทางมาถึง เพราะว่าเวลาไม่นานร่างสูงปีกสีดำขนาดใหญ่ก็บินมาถึงบ้านของเขาเสียแล้ว แสดงว่าร้อนใจจะไม่สามารถนั่งรถม้าหรือรถค้างคาวมารับได้เลยสินะ เด็กคนนี้ต้องมีดีอะไรพอสมควรเลย

ปึง!

"กระรอกน้อย! ไม่เป็นอะไรใช่ไหม! ใครทำอะไรหรือเปล่า! " คียร้อนใจจนไม่สามารถบังคับตนเองได้แล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับแก้วตาดวงใจแล้วล่ะก็...คฤหาสน์หลังนี้พังไม่เป็นท่าแน่ๆ

"ทำไมต้องโวยวายเสียงดังด้วยพะยะค่ะ ใจเย็นลงก่อน" เทรเลอร์ตอบกลับอย่างใจเย็น ไม่บ่อยนักที่จะเห็นอาการแบบนี้ออกมา ปกติเป็นคนสุขุม รอบคอบ ใจเย็น ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยซะแล้วสิ

"จะให้เย็นได้ยังไง ความต่างของเผ่าพันธ์มันเยอะขนาดนี้"

"แถมกลิ่นเลือดยังหอมหวานชวนให้ดื่มตลอดเวลา ข้าไม่ไหวใจเจ้า! สวิต เทรเลอร์"

"รัชทายาท ใจเย็นลงก่อนพะยะค่ะ" เมล์ห้ามปรามเจ้านายของตนทันที ไม่มีความจำเป็นต้องไปเดินตามเกมส์ของคนตระกูลสวิต

"ต่อให้ท่านจะฆ่าเขาเสียตรงนี้ ก็ไม่มีโอกาสได้รู้ว่าคุณชายริคอยู่ที่ไหน" ท่าทีของคีย์โอนอ่อนลงทันที คนรับใช้ตระกูลโฟลช์ถูกขัดเกลามาให้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้ความช่วยเหลือ และห้ามปรามกษัตริย์มารุ่นต่อรุ่นรวมถึงครั้งนี้ก็ได้ผลเช่นกัน ไม่อยากจะยอมรับแต่ตระกูลนี้มีอำนาจเหนือทุกตระกูล มีอำนาจล้นเหลือจักรวรรดิแต่อยู่ใต้ฝ่าเท้าเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

"ยังทำงานดีเหมือนเดิมเลยนะ คนของตระกูลโฟลช์" ชาร์ทีเริ่มทำสงครามน้ำลายต่อจากผู้เป็นนายทันที

"ไม่เหมือนคนตระกูลคอสหรอก รู้ทั้งรู้ว่าไม่สมควรสอดเรื่องเจ้านายก็ยังทำ"

"ท่าทางจะไม่ได้รับการอบรมที่มากพอ ทำยังไงก็ไม่มีทางขึ้นมารับใช้วรรณะกษัตริย์ได้หรอก"

"เมล์! เจ้า! " ชาร์ทีถึงกับเลือดขึ้นหน้าทันทีที่พูดถึงตระกูลของตนเอง ถึงจะไม่อยากยอมรับนักแต่อบรมสั่งสอนมันช่างแตกต่างกันจนน่าโมโห

"ก่อนจะกล่าวหาว่าร้ายผู้อื่น เจ้าไม่ลองมองย้อนดูตัวเองบ้างรึ"

แกร๊ก!

"ของว่างมาแล้ว ท่านพี่มาได้ยังไงครับ" ใบหน้าหวานมีสีหน้างงงวยพลางเกาหัวของตนเองไปด้วย เขาไปเข้าห้องน้ำแล้วดันเกิดหลงทางไปเจอห้องครัวของที่นี่เข้า ดันอยู่ทำของว่างจนเพลินว่าแต่ตอนนี้มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ทำไมบรรยากาศมาคุเช่นนี้แต่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศเมื่อกี้ไปจนหมดแล้ว

"เจ้าใช้ครัวของข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตนะ กล้าดียังไง" เทรเลอร์หาเรื่องคนอายุน้อยกว่าทันที ถึงแม้ว่าหน้าตาของมันจะน่ารับประทานมากทีเดียว ปกติแล้วผู้ชายมักจะทำอาหารไม่เป็นแต่มนุษย์ผู้นี้ทำเป็นที่ว่าน่าสนใจไม่น้อย

"ขอโทษครับพอดีมันพลั้งมือ เห็นห้องครัวแล้วมันเลยเผลอทำไปโดยไม่รู้ตัว" ท่าทางของริคสลดลงในทันที ความชื่นชอบในการทำขนม ของหวาน เค้กมันอยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่เด็กจะให้เปลี่ยนแปลงอะไรตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้หรอก

มือหนาหยิบขนมดังกล่าวที่ตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไรเข้าปาก เพราะเขามั่นใจในรสชาติว่ามันต้องอร่อย และจะต้องเป็นวิชาที่เรียนมาจากอีกโลกหนึ่งอย่างแน่นอน สีหน้าของริคสดชื่นขึ้นเยอะที่เห็นว่ารัชทายาทมาช่วยตนเองไว้ มือหนาโอบไหล่ด้วยความหวงแหนพลางเอ่ยถ้อยคำที่คนทำอาหารหรือขนมอยากฟังมากที่สุดออกมา

"อร่อยมากเลยกระรอกน้อย ตอนกลับวังอย่าลืมให้ข้ากินด้วยนะ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยชมเพื่อไม่ให้คนที่เขารักต้องมีท่าทีสลดแบบนี้ การที่พวกเขาทะเลาะกันไม่เกี่ยวกับเด็กคนนี้ เขาไม่ควรมารองรับอารมณ์อะไรทั้งนั้น

"จะกินได้เเน่เหรอ วางยาพิษหรือเปล่าก็ไม่รู้" เทรเลอร์ยังคงต่อว่าริคไม่ยอมหยุด

"คุณชายริคคือผู้ชายจำนวนน้อยที่สามารถทำของหวานได้น่ารับประทาน อีกทั้งรสชาติยังอร่อยจนท่านจักรพรรดิและท่านจักรพรรดินีก็ออกปากชม คุณชายสวิตไม่ควรพูดจาดูถูกทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้แม้แต่จะลิ้มลองรสชาติของมันเลยขอรับ ทำแบบนั้นมันงามสำหรับแวมไพร์ที่เป็นถึงคุณชายสูงส่งที่มีเชื้อพระวงศ์ด้วยรึ" เมล์เป็นฝ่ายตอกกลับบ้างในเมื่อมันเหมือนจะไม่จบง่ายๆ

ร่างสูงโปร่งเดินเข้าหาคุณชายหัวรั้นอย่างเทรเลอร์โดยไม่เกรงกลัวอะไร หยิบขนมในจานใส่ปากอย่างเบามือ ในเมื่อไม่รู้ว่ารสชาติเป็นยังไงก็ต้องชิมเสียก่อน ไม่ใช่มาตัดสินจากคนทำว่าเป็นเผ่าพันธ์ใด ชนชาติไหน มาจากตระกูลไหน

"ทุกคนไม่ต้องเถียงกันขอรับ ข้าว่าลองชิมก็สิ้นเรื่อง"

"แล้วค่อยมาพูดว่ากินได้หรือไม่ได้กันแน่ มาตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกจะได้อะไร"

"ทีนี้รู้หรือยังขอรับ ว่าอร่อยหรือไม่" เสียงหวานถามด้วยรอยยิ้มเหมือนโลกทั้งใบสดใสไปเสียทุกอย่าง เสียงขบเคี้ยวยังคงดังอยู่ในหัวของเทรเลอร์และรสชาติคือไม่หวานไม่ขมเกินไป ขนมที่เด็กคนนี้ทำอร่อยอย่างที่เมล์ชมจริงๆ

"อร่อยอย่างที่เจ้านั่นบอก" ถึงเทรเลอร์จะเอ่ยปากชมแต่ก็ไม่ได้มีสีหน้ายินดีอะไรมากมาย ส่วนหนึ่งอาจจะกลัวเสียหน้าที่ว่าร้ายไว้เยอะแต่เจ้าตัวดันทำอร่อยขึ้นมา

"ดีแล้วขอรับ ถ้างั้นพวกเรากลับกันเลยท่านพี่"

"ข้าว่าอาหารว่างที่ทำเผื่อไว้น่าจะพอกินรองท้องถึงวัง" ผมพยายามเร่งให้กลับวังเดิมดีกว่าต้องมาทนทำสงครามประสาทที่นี่ ไม่งั้นรอบนี้ไม่รู้จะมาไม้ไหนอีก

"คิดว่าจะหนีไปได้ง่ายๆ เหรอ ช่วยทำอาหารให้ข้ากินหน่อยสิ" เทรเลอร์สั่งแกมบังคับเพราะเขาอยากรู้ว่ามนุษย์คนนี้ทำอาหารอย่างอื่นอร่อยเหมือนกันหรือไม่

"ขอโทษด้วยขอรับ ข้าทำเป็นแต่ของว่าง ขนม ขนมเค้ก อาหารหลักทำไม่เป็น" ปล่อยให้กลับเถอะ ไม่อยากจะอยู่กับพวกนี้นานไปมากกว่านี้แล้ว

"งั้นกระรอกน้อยก็ทำเมนูแบบที่เคยทำให้ข้ากินกับมาร์แชลดีไหม หรือมีเมนูอื่นที่ทำได้" คีย์นึกขึ้นได้ว่ามีบางเมนูที่คนอายุน้อยกว่าพอทำได้

"มันก็ยังไม่ใช่อาหารจานหลักพะยะค่ะ เอาเป็นว่าจะทำชิฟฟอนเค้กรสช็อกโกแลตชิฟ แล้วทางท่านก็ทำอาหารจานหลักเหมือนเดิม แบบนี้ดีไหมครับ" ริคตัดสินใจใช้ข้อสรุปในที่สุดแล้วเดินตรงไปยังห้องครัวทันที ทิ้งไว้ให้เหล่าแวมไพร์ทำสงครามกันต่อไป

"เจ้ามีแผนอะไรในใจ เทรเลอร์" คีย์ไม่รอช้าเปิดประเด็นทันที

"ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ข้าก็แค่เริ่มสนใจมนุษย์ผู้นั้นเท่านั้นเอง" เทรเลอร์โต้ตอบอย่างที่ตนเองต้องการทันที

"เจ้าเกลียดมนุษย์ขนาดนี้ แม้แต่ในส่วนที่เจ้าปกครองยังไม่เคยไปเยี่ยมประชาชนที่เป็นมนุษย์"

"แล้วจะมาสนใจมนุษย์อะไรตอนนี้"

"ความถือดีนั้นมันทำให้ข้าอยากครอบครองเขา" เทรเลอร์บอกพลางฉายแววตาสีแดงฉานของสัญชาติญาณดิบทันที ไม่เคยมีใครขัดขืนเขาแม้แต่วินาทีสุดท้ายของชีวิตนอกจากเด็กคนนี้ ไหนจะกลิ่นเลือดที่หอมหวานชวนติดลิ้นอีก

"กระรอกน้อยเป็นของข้า เจ้าไม่มีสิทธิมาแตะต้อง"

"ข่าววงในบอกมาว่าคุณชายริคยังไม่ได้ตอบตกลงหมั้นกับใคร ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน"

"เจ้า! "

ผัวะ!

"โอ๊ย! นี่เจ้ามาตบหัวข้าทำไมเนี่ยเมล์" คีย์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ไม่รู้ตกลงใครเป็นนายใครเป็นบ่าวกันแน่ บางทีเขาเองก็สับสนเหมือนกัน

"หม่อมฉันบอกแล้วว่ารัชทายาทจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ทำตัวขาดสติเวลาคุณชายริคไม่อยู่แบบนี้ แล้วต่อไปจะเป็นสามีที่ดีได้อย่างไรกัน"

"หึ! นี่สินะ สิ่งที่ตระกูลรับใช้อื่นไม่มี" เทรเลอร์บอกพลางยิ้มมุมปาก สิ่งที่ตระกูลโฟลช์มีแต่ตระกูลอื่นไม่มีก็คือความกล้าหาญที่จะตักเตือนผู้เป็นนายของตนเองโดยไม่เกรงกลัวว่าจะถูกลงโทษหากสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมของจักรวรรดิ

ห้องครัวของทุกตระกูลไม่ได้มีความแตกต่างกันมากมายนัก ทั้งขนาดและอุปกรณ์ในการทำอาหารมีมากพอที่จะทำให้พ่อครัวเกินสิบคนทำแล้วไม่ต้องยืมอุปกรณ์กันเลยสักนิดเดียว ช่วงขาเรียวเดินหาวัตถุดิบต่างๆ ที่ต้องใช้ด้วยตนเองโดยไม่ได้ถามใครเลยสักคนจนชาร์ทีแปลกใจว่ามนุษย์ของจักรวรรดิไม่ได้รับอนุญาตให้อ่านภาษาของปีศาจแบบพวกเราแล้วทำไมเด็กคนนี้ถึงอ่านออก

ไม่ได้อ่านออกธรรมดาดูเหมือนจะคล่องตัวมากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก ทั้งท่วงท่าในการทำ วิธีการหยิบจับ มันเหมือนคนที่เคยทำมาตั้งแต่เด็กจนเคยชิน ไม่ใช่ฝีมือของพวกสมัครเล่นชัดๆ องค์รัชทายาทไปเจอเด็กคนนี้มาที่ไหนกันแน่ เรื่องราวมันชักจะน่าสงสัยเข้าไปทุกที่ ตอนที่ให้คนไปตามสืบมาก็ไปจบที่องค์จักรพรรดินี ซึ่งแน่นอนว่าข้อมูลตันไม่ได้อะไรเพิ่มเติม

ไม่มีใครกล้าเอาชีวิตของตนเองไปเสี่ยงเด็ดขาด หากเรื่องนี้องค์จักรพรรดินีมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้วล่ะก็...จะต้องเป็นคนที่ถูกใจไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว แต่มันก็แปลได้หลายความหมายทั้งในทางที่ดีที่อยากปกป้อง ในทางตรงกันข้ามคือเก็บไว้เล่นงานคนเดียวและจะไม่มีใครช่วยได้เลยแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ตาม

"ชิฟฟอนเค้กช็อกโกแลตชิฟมาแล้ว ข้าทำเผื่อทุกคนด้วย หยิบกินในครัวได้เลยนะ" เสียงหวานบอกพลางส่งยิ้มหวานให้กับทุกคนในห้องอาหาร ความเป็นกันเองนี้ทำให้ทุกคนตกหลุมรักโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยสักนิด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status