กระรอกน้อยของเขาจะเนื้อหอมมากเกินไปแล้วนะ ขนาดเป็นผู้ชายยังขนาดนี้แล้วถ้าเป็นผู้หญิงเขาไม่เป็นบ้าตายเหรอ
เทรเลอร์ไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนนอกจากจะหน้าหวานแล้วยังจะยิ้มหวานขนาดนี้ มีฝีมืองานบ้านงานเรือน กิริยาท่าทางไม่ยอมใคร พอเข้าใจแล้วว่าทำไมรัชทายาทถึงหวงนัก จากข่าวที่ได้ยินมามีคุณชายตระกูลขุนนางตกหลุมรักเหมือนกัน แบบจะลงสนามไปด้วยดีไหมนะ
"คุณชายริค"
"ครับ" ซวยแล้วไง! เผลอขานรับแบบมนุษย์ไปแล้ว ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจที่ตนเองพูดผิดออกไป ซึ่งสำหรับจักรวรรดิแล้วคำพูดพวกนี้ถูกใช้กันในหมู่มนุษย์มากกว่าแวมไพร์ ขานรับผิดแบบนี้แปลว่าต้องเคยชินกับการคุยกับใครสักคนและคงหนีไม่พ้นรัชทายาทเป็นแน่
"หึ! คำขานรับน่ารักดีนะ ข้าชักถูกใจเจ้าซะแล้วสิ" เทรเลอร์บอกด้วยสีหน้าพึงพอใจ ปกติเขาไม่สนใจมนุษย์นอกจากเวลาที่ได้ดื่มเลือดที่ได้มาจากการบริจาคของเหล่าบริวารในเขตปกครองของตนเอง นอกนั้นก็มีอายุสั้นไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่นัก แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กคนนี้ถึงจะมีอายุที่สั้นแต่ก็อยากจะดูแลสักครั้ง ลองถนอมใครไว้สักคนก็น่าจะดีไม่น้อย
"พูดแบบนี้เจ้าหมายความว่ายังไง เทรเลอร์" ถึงคีย์จะรู้คำตอบของความหมายนั่นอยู่แล้วแต่ต้องการให้พูดให้กระจ่างมากกว่านี้
"ถูกใจหมายถึงชอบ เป็นเพื่อนกันได้นะครับ" ริคบอกพลางยื่นมือออกไป ถึงจะหยาบคายไปบ้างแต่ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ได้อยู่
"ไม่ได้หรอกคนสวย ข้าไม่ได้อยากเป็นเพื่อนเจ้า"
"อ้าว! แล้วจะเป็นอะไรกันล่ะครับ คนรู้จักเหรอ"
"หึ! เป็นคนรักของเจ้าต่างหากล่ะ" สิ้นสุดคำตอบของเทรเลอร์ ใบหน้าหวานมีสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด ร่างของแวมไพร์หนุ่มเข้ามาใกล้ในระยะประชิดดึงตัวร่างสูงโปร่งที่ไม่ทันระวังตัวให้เข้าใกล้มากกว่าเดิม ริมฝีปากเย็นแตะเบาๆ เข้าที่แก้มนวลทำให้ขึ้นสีมากกว่าเดิม
จุ๊บ!
"ท่านสวิต ท่านจะทำแบบนี้กับข้าไม่ได้" ริครีบขยับตัวหนีอีกฝ่ายทันทีที่รู้สึกตัวด้วยความที่ตัวเล็กกว่าทำให้ขยับหนีได้ไม่ไกลเท่าไหร่นักเพราะความไวมันต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่มือหนามาฉุดให้ไปนั่งตักของตนเองแทนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
"ข้าว่าพวกเรามารับประทานกันเถอะ" เสียงทุ้มต่ำทรงพลังบอกเพื่อหยุดเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมด แตไม่คิดจะถามอีกฝ่ายเลยว่าจะกินอาหารในสภาพที่อยู่บนตักอีกคนได้ไหม ช่างเป็นมื้ออาหารที่อีกคนหวงยังกับอะไรดี กับอีกคนที่ชอบยั่วโมโหเสียทุกครั้งที่เจอกัน
ริคพยายามกินข้าวให้หมดเร็วที่สุดเพื่อที่จะหนีออกจากสถานการณ์ตรงนี้ ช่างดูน่ารักเสียจนคีย์เผลอแกล้งไปจนได้ มือหนาเลยอุ้มให้คนที่เด็กกว่านั่งกินข้าวต่างหากแทน ไม่อย่างนั้นแก้มทั้งสองข้างต้องระเบิดออกมาเพราะความเขินตายอย่างแน่นอน ช่วงระยะเวลาที่มีชีวิตก็น้อยแล้วอย่าเพิ่งรีบเป็นอะไรไปตอนนี้เลย ท่านโหราจารย์บอกว่าเด็กคนนี้ถูกส่งมาเป็นเนื้อคู่ของข้า
แต่ทำไมถึงได้เนื้อหอมกับคนนั้นคนนี้ไปทั่วทั้งที่เป็นผู้ชายกัน ตอนที่ส่งคนไปสอบถามเรื่องนี้มาดันได้ความว่าเป็นเนื้อคู่แน่นอนไม่ผิดคน แต่เรื่องนิสัยใจคอของเด็กคนนี้ไม่เหมือนมนุษย์คนอื่นในจักรวรรดิ ไม่แปลกที่จะเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจของใครหลายคน แถมท่านแม่ยังไปเปิดโอกาสให้คนอื่นอีกถ้าไม่รีบทำคะแนนมีหวังแพ้แน่
"ท่านพี่คิดอะไรอยู่เหรอพะยะค่ะ อาหารไม่อร่อยเหรอ" มือขาวจับใบหน้าคมคายแล้วถามด้วยความสงสัย เรื่องกลุ้มใจแบบไหนกันที่ทำให้คีย์ถึงเป็นแบบนี้ ปกติเขาจะสุขุม รอบคอบกว่านี้ ไม่แสดงท่าทีและเก็บอาการมากกว่านี้
"เดี๋ยวกลับไปคุยกันที่บ้านนะ วันนี้ข้าจะพากระรอกน้อยกลับแล้ว"
"เจ้าเองก็เหมือนกัน อย่ามายุ่งกับว่าที่คู่หมั้นของข้า เทรเลอร์"
"ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว กลับกันเถอะกระรอกน้อย"
"พะยะค่ะ ท่านพี่"
น่าแปลกใจนักที่เจ้านายของเขายอมปล่อยให้องค์รัชทายาทและบุตรบุญธรรมของตระกูลริคจากไปโดยง่าย หมายความว่ายังไงกันแน่ มีแผนอะไรในใจหรือเปล่าถึงได้ทำแบบนี้
"คุณชายเทรเลอร์ขอรับ ทำไมถึงปล่อยสองคนนั้นไปง่ายๆ "
"ไม่ทราบว่ามีแผนอะไรในใจหรือเปล่าขอรับ"
"ข้าไม่มีแผนอะไรในใจเลย ชาร์ที" เพราะว่าแผนมันน่าจะเริ่มต่อจากนี้ไปต่างหากล่ะ พอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงได้เนื้อหอมแบบนี้ ท่าทางแบบนั้นใครก็อยากปราบพยศกันทั้งนั้น แถมท่าทีสดใส อ่อนหวาน ไม่ได้เสแสร้งนั่นอีก อยากจะแกล้งให้ร้องไห้หนักๆ แล้วมาปลอบทีหลังชะมัด
"ข้าอยากเข้าเฝ้าท่านจักรพรรดิ ไปวังหลวงกัน"
"ขอรับ"
ตอนแรกเขานึกว่าคีย์เอารถม้าหรือรถค้างคาวมาแต่ปรากฏว่าดันบินมาด้วยปีกของตนเอง ทำให้ขากลับตอนกลับไปโดยที่ถูกอุ้มอยู่แบบนี้จะขยับหนีก็ไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีคีย์พากลับมาก็คงไม่เห็นวิวอะไรที่สวยขนาดนี้ ไม่สามารถมองท้องฟ้าโดยไม่กลัวตกได้แบบนี้ บางทีมีแฟนเป็นแวมไพร์อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ บรรยากาศของจักรวรรดิก็ไม่ใช่ว่าจะโบราณไปซะทีเดียว แต่ว่าตนเองมีพละกำลังเหนือธรรมชาติเลยไม่ได้คิดเรื่องที่มนุษย์ทั่วไปเขาทำกันมากกว่า
"แลดูอารมณ์ดีนะ มีอะไรหรือเปล่า" เสียงทุ้มต่ำถามสวนกระแสลมที่โต้ไปมาระหว่างบินกลับ ซึ่งต้องเปล่งเสียงมากกว่าเดิม
"ไม่เคยมองเห็นอะไรแบบนี้บนท้องฟ้าครับ เพราะมนุษย์ไม่มีปีกแบบนี้"
"งั้นให้บินช้ากว่านี้ไหม"
"ไม่เป็นไรพะยะค่ะ หม่อมฉันหนาว"
"อืม"
ทุกคนรีบต้อนรับกันอย่างว่องไวเนื่องจากคิดว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นเสียอีก จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปเสียแล้ว เมล์ส่งจดหมายแจ้งวังหลวงว่าสามารถเดินทางได้ในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากเหตุโดนลอบทำร้ายโดยที่ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใครแต่คุณชายคนโตของตระกูลสวิตมาช่วยเอาไว้ได้ทัน ทำให้คุณชายตระกูลริคไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก
"กลับถึงวังหลวงเมื่อไหร่ ฉันจะต้องเล่นงานพวกมันแน่"
"ว่าอะไรนะครับ"
"ไม่มีอะไรหรอก กระรอกน้อยคงเหนื่อยแล้ว"
"เดี๋ยวข้าให้คนพาไปอาบน้ำแล้วเข้านอนเลย"
"พะยะค่ะ ฝันดี"
"ฝันดี"
แกร๊ก!
เขารู้ว่าผู้เป็นนายคงไม่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าชีวิตเริ่มไม่ปลอดภัยตั้งแต่เข้ามายังโลกนี้ หมายความว่าจะให้ค่อยๆ เรียนรู้ไปสินะ แต่ยังไงที่นี่ก็ไม่ได้มีไว้ให้คนอ่อนแอแบบนั้น มนุษย์ยังไงก็ต้องไม่ได้รับการยอมรับอยู่ดี องค์รัชทายาทจำเป็นต้องมีแผนรับมือเอาไว้ ฝ่ายคัดค้านมีมากกว่าฝ่ายสนับสนุนอย่างแน่นอน ขนาดองค์ชายแฝดปล่อยข่าวลือออกไป ยังมีจดหมายไม่เห็นด้วยมากมายถูกส่งเข้าวังหลวงไม่ขาดสาย
จะต้องมีวิธีหยุดยั้งและให้ทุกคนเริ่มยอมรับคุณชายริค ก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายแรงไปมากกว่านี้ แถมยังจับไม่ได้เลยว่าใครเป็นตัวการในเรื่องนี้ คนทำจะต้องรู้กำหนดการอยู่แล้วว่าพวกเราจะเข้าวังหลวงวันไหน ถึงได้มาดักรอลอบทำร้ายกันแบบนี้ ไม่รู้บ้างหรือไงว่าการทำแบบนี้เท่ากับก่อกบฏกันชัดๆ วิธีไหนที่จะหยุดยั้งได้กัน ทำแบบไหนได้บ้าง
"นานมากแล้วพะยะค่ะที่รัชทายาทคิดมากแบบนี้ คุณชายริคคงจะมีอิทธิพลมากจริงๆ " นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นเจ้านายของตนเองเป็นแบบนี้ สมัยก่อนจะบอกว่าเพรียมพร้อมไปทุกอย่างก็ไม่แปลกแต่ความเย็นชา เข้าถึงยากนั้นไม่แพ้ใครเลย ตอนนี้ดูเข้าถึงง่ายและเป็นกันเองกว่าแต่ก่อน
ถ้าเมล์ออกปากมาแบบนี้หมายความว่าข้าน่าจะไปเปลี่ยนไปอย่างที่พูดจริงๆ ลองหาวิธีรับมือสถานการณ์ดูก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องอื่นค่อยแก้ปัญหากันทีหลัง
"กำหนดการเดินทางเข้าวังหลวงไปพรุ่งนี้เช้าเลย จะได้ทำอะไรให้มันถูกต้องเสียที"
"ทำให้ถูกต้อง หมายความว่ายังไงขอรับ"
"ประกาศว่ากระรอกน้อยคือลูกชายบุญธรรมของตระกูลริค และจะประกาศว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นของข้า"
การตามใจใครสักคนแล้วยอมลำบากขนาดนี้ หวังว่าจะมีอะไรตอบแทนไม่มากก็น้อยกับความอดทนของข้าในครั้งนี้ณ พระราชวังสวิต (ที่พักอาศัยของคุณชายคนโตของตระกูล)"ขอต้อนรับท่านจักรพรรดินี ไม่ทราบว่าเดินทางมาถึงที่นี่มีเรื่องอันใดกัน" ชาร์ทีออกมาต้อนรับทันทีที่เห็นขบวนเสด็จขององค์จักรพรรดินีเดินทางมาแบบไม่เป็นทางการเช่นนี้ จะต้องเกี่ยวข้องกับเด็กคนนั้นที่ถูกจับตัวมาเมื่อก่อนหน้านี้แน่นอน"ข้าว่าเชิญท่านจักรพรรดินีเข้าไปด้านใน แล้วค่อยหารือกันดีหรือไม่ ชาร์ที" นีน่าบอกเสียงเรียบแต่ท่าทางไม่ได้เรียบตามไปด้วย ลางสังหรณ์ของเขามันร้องเตือนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีที่มีการเดินทางนอกกำหนดการแบบนี้ตระกูลสวิตถือเป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ทั้งสี่ สัญลักษณ์ของตระกูลคือลักษณะแห่งไฟที่เผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องตระกูลของกษัตริย์ให้มั่นคงสืบต่อไป การจะล้มล้างกษัตริยได้จำเป็นต้องเข้าถึงตัวเชื้อพระวงศ์ให้ได้เสียก่อน หากเจ้าแห่งการปกครองสูงสุดของวังหลังออกเดินทางนอกกำหนดการ หมายความมีการทำงานที่ไม่ปกติเกิดขึน อำนาจสูงสุดตกเป็นของจักรพรรดินีและจักรพรรดิไม่มีสิทธิในการตัดสินใจเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว"อรุณสวัสดิ์ยามดึกพ
"ฉะนั้นพวกเรามาหารือกันเรื่องนี้จนกว่าจะได้ข้อสรุปกัน ไม่ว่ายังไงข้าจะไม่ยอมให้ลูกชายของข้าต้องไม่มีเนื้อคู่เพราะเจ้าพวกนั้นเด็ดขาด""พะยะค่ะ"พระอาทิตย์สาดส่องเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ของใครหลายคน แต่มันคือเวลานอนของเหล่าแวมไพร์ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ถึงผมจะอยู่ที่นี่มาได้หลายวันแล้วแต่ก็ยังไม่ชินกับการที่ต้องนอนกลางวันตื่นกลางคืนอยู่ดี ถึงตอนนี้จะเริ่มนอนเกือบเช้าแต่ก็ยังหลับๆ ตื่นๆ เช่นวันนี้มาตื่นตอนเที่ยงแบบนี้แล้วจะทำยังไงดี ทุกคนพากันหลับหมดแบบนี้ ถึงจะมีเวรยามอยู่ตลอดยี่สิบชั่วโมงแต่มันก็ค่อนข้างว่างเสียเหลือเกินก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!"ใครครับ" เสียงหวานตะโกนถามออกไป"ข้าเอง กระรอกน้อย" เสียงทุ้มต่ำตะโกนกลับมา ช่วงขาที่เรียวยาวถึงได้เดินไปเปิดประตู หากเป็นคนรับใช้เกรงว่าเขายังไม่อยากจะพบใครตอนนี้ อยากใช้ความคิดของตนเองมากกว่า"เพิ่งทำงานเสร็จหรือพะยะค่ะ" ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง มือขาวเกลี่ยปอยผมที่ลงมาปรกใบหน้าอีกฝ่ายออกให้เห็นชัดเจนมากขึ้น เผลอให้เห็นรอยใต้ตาคล้ำจากการทำงานอย่างหนัก ท่าทีอ่อนล้าที่เผยให้เห็นนั้นช่างน่าเป็นห่วงยิ่งนัก"ใช่แล้ว ข้าง่วงมากเลย กระรอ
จีนกำลังเดินกลับบ้านด้วยความสบายใจดั่งเช่นทุกวัน ชีวิตวัยม.ปลายที่สนุกสนานกำลังรอเขาอยู่ วันปฐมนิเทศน์วันนี้ก็มีเพื่อนเยอะเสียด้วย นับจากนี้ไปรั้วชีวิตม.ปลายของเขาจะต้องสดใสอย่างแน่นอนเลยล่ะ ดวงตากลมโตมองเห็นร้านเก่าๆ ร้านนึงซึ่งทางเดินเส้นนี้ก็ถูกใช้ในการกลับบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เห็นเลยนะ ลองเข้าไปดูหน่อยก็แล้วกัน มือขาวผลักประตูเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น"สวัสดีครับ มีใครอยู่ไหมครับ" เสียงทุ้มหวานเอ่ยถาม"มีครับ สวัสดีครับหนุ่มน้อย" ผู้อยู่ด้านในเอ่ยสนทนาโต้ตอบกลับไป"หมายถึงผมเหรอครับ" ไม่ถามเปล่ายังคงชี้นิ้วมาทางตนเองอีกด้วย นับว่าเป็นท่าทางว่าน่ารักทีเดียว"ใช่ครับ ไม่ทราบว่าจะมาดูดวงหรือครับหนุ่มน้อย""เปล่าครับ พอดีผมไม่เคยเห็นร้านนี้มาก่อนเลยมาถามดูครับ""งั้นลองมาดูดวงสักหน่อยไหมครับ ไหนๆ ก็แวะเข้ามาในร้านของผมแล้ว" เสียงทุ้มถามพลางสับไพ่ยิปซีในมือรอ"ลองดูก็ได้นะครับ"จีนฟังคำอธิบายจากหมอดูหนุ่มด้วยความตั้งใจ มือขาวทั้งสองแนบอกตนเองพลางอธิฐานด้วยความซื่อสัตย์และหยิบไพ่ใบต่าง ๆ ออกมาจากใจที่ตนเองได้คิดดีและตัดสินใจเอาไว้ทั้งหมดแล้ว สีหน้าของหมอดูหนุ่มมีท่าทีหนัก
ร่างสูงเดินออกมาจากห้องขอจีนอารมณ์ที่แสดงไปเมื่อกี้ก็พลันเปลี่ยนทันทีแววตาขี้เล่นจริงจังขึ้นมาในทันที ยังไม่น่าจะมีใครล่วงรู้ว่าเด็กน้อยที่นอนอยู่ในห้องนั้นเป็นใคร จากคำทำนายที่บอกไว้ว่าเนื้อคู่ของเขาจะไม่ใช่คนในอาณาจักรนี้ดูท่าว่าจะเป็นจริงขึ้นมาเสียแล้ว ตอนแรกที่เขาได้ยินเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะให้เชื่อคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่การบอกรูปร่างหน้าตาที่ชัดเจนแบบนี้ ท่าทางว่าเรื่องนั้นจะไม่ใช่เรื่องหลอกเด็กอีกต่อไปเสียแล้ว"รัชทายาทจะทำยังไงต่อไปพะยะค่ะ" เมล์ คนสนิทขององค์รัชทายาทถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเขารู้ว่าผู้เป็นนายในตอนนี้เชื่อคำทำนายนั่นเสียแล้ว จะไม่ให้เชื่อได้ยังไงล่ะ....ในเมื่อหลักฐานนอนอยู่ในห้องรับรองแบบนั้นน่ะ"รอถามวันพรุ่งนี้แล้วกัน แต่เหมือนว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาถึงที่นี่หลายคนเลยนะ" คีย์บอกด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์พลางมองไปยังผู้ที่ไม่ได้รับเชิญมาด้วยความไม่พอใจ"อะไรกันพี่คีย์ คิดจะเก็บไว้เล่นคนเดียวหรือยังไง" คลาส น้องชายคนแรกของเขานั้นมีนิสัยมองเห็นคนอื่นเป็นของเล่นตลอดเวลา ยิ่งอะไรแปลกใหม่จะชอบมาวุ่นวายเสมอ
"อะไรนะ! เด็กคนนั้นเป็นคู่หมั้นขององค์รัชทายาท""หมายความว่ายังไงกัน""ยังงี้ลูกสาวของฉันก็อดตำแหน่งจักรพรรดินีสินะ""แล้วเป็นลูกตระกูลไหนกันถึงได้ครองหัวใจของรัชทายาทได้นะ"เสียงซุบซิบนินทาต่างๆ นานาถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในงานเลี้ยงภายในวันนี้ แล้วมันเรื่องอะไรกันแน่ดาบจ่อหน้าคู่หมั้นรัชทายาทจักรพรรดินีหรือว่า!"ท่านพี่เป็นลูกขององค์จักรพรรดิใช่ไหมครับ" เสียงหวานถามออกมาด้วยน้ำเสียงก่ำกึ่ง ดวงตากลมโตมีแววสับสนอย่างเห็นได้ชัด"ใช่ แต่ว่ายังไม่มีเวลาเล่าเลยก็เกิดเรื่องซะแล้วสิ" น้ำเสียงของคีย์แลดูไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับเหตุการณ์นี้มากนัก"พี่ชายของข้าถึงกับออกโรงปกป้องแบบนี้ มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นอย่างแน่นอน" คลาสพูดพลางมองร่างของจีนด้วยความสงสัย"นั่นสิ ปกติพี่ชายของพวกข้าไม่มาทำอะไรแบบนี้หรอกนะ" ครอสมีท่าทีเห็นด้วยพลางมองตามพี่ชายฝาแฝดของตนเอง"ท่าทางว่ารัชทายาทจะต้องอธิบายท่านจักรพรรดิและจักรพรรดินีภายในวันพรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้เช้ารบกวนเข้าเฝ้าที่วังหลวงด้วยพะยะค่ะ" มีเทน คนสนิทของจักรพรรดิบอกตามคำสั่งที่ได้รับมา เป็นอันรู้ดีในหมู่ของคนรับใช้ว่าแม้เขาจะเป็นคนรับใช้เหมือนตระกูล
หน้าตาที่ตื่นตระหนกและท่าทางสั่นระริกราวกับหวาดกลัวในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ครั้งนี้ไม่ใช่การหวาดกลัวด้วยความน่ากลัวแต่มันคือความตกใจปนหวาดกลัวไปในคราวเดียวกันต่างหาก เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายแล้วจะมาเป็นเนื้อคู่ของอีกฝ่ายได้ยังไงล่ะเล่า!"ท่านพี่ครับ" จีนเรียกอีกฝ่ายด้วยความสับสน ท่าทางน่ารักเหล่านั้นตกอยู่ในสายตาคนทั้งท้องพระโรง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสน่ห์ของเด็กคนนี้เหลือล้นจริงๆ จนเขาแทบอยากจะไปควักลูกตาของทุกคนออกมาไม่ให้เห็นออร่าของความน่ารักนั้นเลยสักนิดเดียว กระรอกน้อยเปล่งประกายมากเกินไปแล้ว"อืม" เสียงทุ้มต่ำตอบรับทันที เขาคิดว่าทุกคนน่าจะดูออกหมดแล้วล่ะว่าเขารู้สึกยังไงกับเด็กคนนี้ มันไม่ใช่แค่คำทำนายแต่ความรู้สึกของเขามันแสดงออกนอกหน้าขนาดนี้แล้ว"ผมเป็นผู้ชายนะครับ""เรื่องนั้นสำหรับพวกเราแล้วไม่ใช่ปัญหานะหนูจีน เพราะว่าการครองราชย์ของที่นี่ขึ้นอยู่ที่ความเหมาะสมมากกว่าการมีลูก บุตรของใครมีความเหมาะสมมากกว่ากันถึงจะได้บัลลังค์ไปนะ ไม่ต้องห่วงนะ" จักรพรรดินีบอกด้วยแววตาอ่อนโยน"ผมว่าแบบนั้นต่างหากครับที่ทำให้บัลลังค์ของพี่คีย์สั่นคลอนเพราะความไม่มั่นคงในการมีทายาท และตำแหน่งจ
เปลือกตาสวยกลมโตกระพริบตาสองสามครั้งเมื่อสายแดดส่องมายังห้องนอนของเขา เวลานี้ถือเป็นเวลากลางวันซึ่งไม่ใช่วิสัยของแวมไพร์ที่จะตื่น ทั้งวังก็คงจะเงียบน่าดูเลยทีเดียวเชียว ร่างบางลุกขึ้นมาอาบน้ำชำระร่างกายตามพฤติกรรมของมนุษย์ทั่วไป ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในจักรวรรดิก็เถอะ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีจะคล้อยตามนอนกลางวันแล้วตื่นในเวลากลางคืนแบบนั้นแกร๊ก!"อรุณสวัสดิ์ กระรอกน้อยของพี่" คีย์เอ่ยทักด้วยรอยยิ้มเหมือนเคยแต่ติดตรงที่ว่าทำไมถึงได้ตื่นเช้าแบบนี้กันนะ มันไม่ใช่เวลาของแวมไพร์ไม่ใช่เหรอ"อรุณสวัสดิ์ คุณชายจีน" มาร์แชลเอ่ยทักทายยามเช้าอีกคน ยิ่งทำให้น่าสงสัยกันเข้าไปใหญ่เลยว่าคนใหญ่คนโตของที่นี่เขาไม่รู้จักทำงานทำการกันหรือยังไงนะ"ตื่นเช้าดีนะครับ มาทำอะไรกันหน้าห้องผมแต่เช้าเลย" เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัย ดวงตากลมโตฉายแววฉงนอย่างเห็นได้ชัด คอที่เอียงไปมานั้นบ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็นเป็นเท่าตัว การกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาของรัชทายาทแห่งบีเลอและคุณชายแห่งมาร์แชล ถ้าไม่ได้มีร่างกายที่ดูออกจะแข็งแรงเหมือนคนออกกำลังกายรวมถึงส่วนสูงและสรีระที่เหมือนผู้ชายแต่ก็ไม่ใช่ผู้ชายซะทีเดียวเรียก
เขารู้ตัวดีว่ากำลังหลบหน้าใครบางคน จะกล้าสู้หน้าได้ยังไงล่ะ! พูดซะขนาดนั้นแล้วนี่นา สงบใจไม่ได้เลยสักนิดเดียว"คุณชายจีนขอรับ เรียนเชิญทางนี้ขอรับ" เมล์บอกพลางผายมือไปทางโรงอาหาร"ขอบคุณครับ""เป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ หน้าตาดูแดงตลอดเวลาเลย" เมล์ถามด้วยความเป็นห่วง หากคนโปรดของรัชทายาทไม่สบายจะต้องโดนดุอย่างแน่นอนเลย"ไม่เป็นไรครับ สบายดีครับ" ใครจะกล้าบอกว่าเขินพี่คีย์จนไม่กล้าสู้หน้ากันล่ะปึก!"ระวังหน่อยครับคุณชายจีน ถ้าข้าคว้าไม่ทันคือล้มแล้วนะ" มาร์แชลบอกพลางจับร่างบางมานั่งเก้าอี้แล้วช่วยปัดเศษฝุ่นออก"ขอบคุณครับ ผมไม่ระวังตัวเอง""ทำไมไม่ระวังตัวเลยนะ""แต่ว่า...""ซุ่มซ่ามแบบนี้ก็น่ารักดีนะ" เสียงทุ้มต่ำบอกด้วยรอยยิ้ม"ผ... ผม... ผมไม่คุยกับพวกคุณแล้ว ไปทางไหนมีแต่คนพูดจาแปลกๆ กันทั้งนั้นเลย" ช่วงขาเรียวยาวเดินหนีไปอีกทางทันที โดยที่ไม่ได้รับรู้ถึงสายตาเอ็นดูจากคนด้านหลังเลยสักนิดเดียวที่นี่มันคือโลกแบบไหนกันแน่นะ รู้ตัวว่าข้ามเวลามาอีกโลกหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะแปลกประหลาดกันขนาดนี้ เหมือนเวลาจิรายุไปใกล้ใครคนนั้นก็จะพากันหลงรักไปเสียหมด เขาเป็นผู้ชายนะ! ทุกคนอย่าลืมสิ ทำไมถึงมีแ