Share

Fifteenth Time

"ฉะนั้นพวกเรามาหารือกันเรื่องนี้จนกว่าจะได้ข้อสรุปกัน ไม่ว่ายังไงข้าจะไม่ยอมให้ลูกชายของข้าต้องไม่มีเนื้อคู่เพราะเจ้าพวกนั้นเด็ดขาด"

"พะยะค่ะ"

พระอาทิตย์สาดส่องเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ของใครหลายคน แต่มันคือเวลานอนของเหล่าแวมไพร์ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ถึงผมจะอยู่ที่นี่มาได้หลายวันแล้วแต่ก็ยังไม่ชินกับการที่ต้องนอนกลางวันตื่นกลางคืนอยู่ดี ถึงตอนนี้จะเริ่มนอนเกือบเช้าแต่ก็ยังหลับๆ ตื่นๆ เช่นวันนี้มาตื่นตอนเที่ยงแบบนี้แล้วจะทำยังไงดี ทุกคนพากันหลับหมดแบบนี้ ถึงจะมีเวรยามอยู่ตลอดยี่สิบชั่วโมงแต่มันก็ค่อนข้างว่างเสียเหลือเกิน

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

"ใครครับ" เสียงหวานตะโกนถามออกไป

"ข้าเอง กระรอกน้อย" เสียงทุ้มต่ำตะโกนกลับมา ช่วงขาที่เรียวยาวถึงได้เดินไปเปิดประตู หากเป็นคนรับใช้เกรงว่าเขายังไม่อยากจะพบใครตอนนี้ อยากใช้ความคิดของตนเองมากกว่า

"เพิ่งทำงานเสร็จหรือพะยะค่ะ" ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง มือขาวเกลี่ยปอยผมที่ลงมาปรกใบหน้าอีกฝ่ายออกให้เห็นชัดเจนมากขึ้น เผลอให้เห็นรอยใต้ตาคล้ำจากการทำงานอย่างหนัก ท่าทีอ่อนล้าที่เผยให้เห็นนั้นช่างน่าเป็นห่วงยิ่งนัก

"ใช่แล้ว ข้าง่วงมากเลย กระรอกน้อย" คงจะจริงอย่างที่พูด สภาพเหมือนจะหลับแลมิหลับแลแบบนี้ ไม่คิดว่าการหอบงานมาทำต่างแดนจะเหนื่อยเหมือนตอนอยู่บ้านของตนเองไม่มีผิดเพี้ยน กว่าจะทำเสร็จหมดก็เที่ยงเสียแล้ว แบบนี้เวลานอนไม่พอแน่นอน

"ข้าขอนอนกอดได้หรือไม่"

"ทำไมไม่กลับที่ห้องล่ะพะยะค่ะ"

"ข้าคิดถึงเจ้าเลยอยากมาหา คงไม่มีแรงกลับห้องแล้วล่ะ"

"ห้องเจ้ากับห้องของข้าไกลกันมากนะ กระรอกน้อย"

รัชทายาทพยายามใช้ท่าทีอ่อนล้าน่าสงสารให้คนตัวเล็กกว่าเห็นใจ เพื่อที่จะได้นอนกอดอีกฝ่ายอย่างที่อยากทำ แค่อยู่ใกล้เนื้อตัวยังส่งกลิ่นหอมขนาดนี้ หากเข้าใกล้มากกว่านี้ต้องหอมเป็นเท่าตัวอย่างแน่นอน ดวงเจ้าเล่ห์นั้นแอบซ่อนเอาไว้จนมิด มีเพียงท่าทีน่าสงสาร ออดอ้อนขอนอนด้วยกันเท่านั้น ริคมีท่าทีอึกอักแต่ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร นับว่าเป็นปฏิกิริยาที่น่ารักไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าต่อรองไม่สำเร็จมีหวังได้หลับตรงนี้แน่นอนเลย ร่างกายของข้าก็ถึงขีดจำกัดแล้ว

"ก็ได้พะยะค่ะ งั้นไปนอนที่เตียงกัน" ในที่สุดแผนหลอกล่อก็สำเร็จก่อนที่สติของเขาจะหมดลงเสียก่อน ร่างสูงโปร่งประคองร่างสูงไปนอนพัก มือขาวหยิบผ้าห่มขึ้นมาให้เท่าอกเพื่อไม่ให้หนาวจนเกินไป จัดแจงท่านอนให้อีกฝ่ายเรียบร้อย

"ท่านพี่ นอนนะพะยะค่ะ"

"ราตรีสวัสดิ์พะยะค่ะ"

หมับ!

"ทำอะไรครับ! ทำไมไม่นอนนิ่งๆ " เสียงหวานส่งเสียงดุทันทีที่คนอายุมากกว่ามากอดจากด้านหลังแบบนี้ ถึงจะไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการสวมกอดแต่มันทำให้ริคนอนไม่หลับน่ะสิ อยู่ใกล้กันขนาดนี้ก็ว่าทำใจข่มตาหลับยากแล้ว ยังจะมาทำแบบนี้อีก

"อืม....ข้าง่วงแล้วกระรอกน้อย ราตรีสวัสดิ์" เสียงทุ้มต่ำบอกพลางกระชับอ้อมกอดให้ใกล้กันกว่าเดิมแล้วผล็อยหลับไปในที่สุด แต่คนที่ยังมีสติดี หัวใจเต้นแรง นอนไม่หลับคือคุณชายริคนั่นเอง แถมเขายังไม่กล้าขยับตัวแรงมากเพราะกลัวว่าคีย์ที่ทำงานมาหนักจะไม่ได้รับการพักผ่อน ดวงตาคมแอบหรี่มองว่าคนที่เขาหลงใหลจะมีท่าทีอย่างไร เห็นท่าทีแบบนี้อยากจะฟัดให้หน่ำใจซึ่งทำได้แค่คิดแล้วหลับนอนต่อ

ตะวันลับขอบฟ้าเป็นสัญญาณวันใหม่ของแวมไพร์ คีย์ตื่นมาด้วยท่าทีแจ่มใสร่าเริง ใบหน้าสดใสไม่อิดโรยเหมือนตอนกลางวัน เมื่อหันไปมองคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาก็มีเสียงหายใจสม่ำเสมอ แสดงว่ากว่าจะข่มตาหลับได้น่าจะนานพอสมควร ร่างสูงไม่ได้ปลุกคนที่อายุน้อยกว่าเพราะหวังจะให้พักผ่อนต่ออีกสักหน่อย อาจจะเป็นข้อดีที่ทำให้คนข้างกายปรับตัวเหมือนแวมไพร์เร็วขึ้นก็ได้ ถึงเผ่าพันธ์จะแตกต่างกันแต่ถ้าได้เข้ามาอยู่ในวัฒนธรรมของอีกฝั่งหนึ่งแล้วก็ย่อมมีการปรับตัวเป็นของธรรมดา

"รัชทายาทพะยะค่ะ ท่านอยู่ที่ไหน" เสียงเหล่าข้ารับใช้เรียกหาตั้งแต่ตะวันตกดิน เพราะปกติแล้วองค์รัชทายาทจะพักผ่อนในห้องหนังสือแต่ทำไมวันนี้ถึงได้หายตัวไป เมล์กลัวว่าจะมีใครมาลอบทำร้ายตอนที่ไม่ทันระวังตัวอีก ถึงจะมีสัญญาณเหมือนสัตว์แต่ถ้าเหนื่อยล้ามากก็คงไม่ไหวที่จะต่อต้านเหมือนกัน

"ข้าอยู่นี่ เกิดอะไรขึ้น"

"หม่อมฉันคิดว่ารัชทายาทถูกลอบทำร้ายเหมือนเมื่อวานพะยะค่ะ เลิกสั่งให้เหล่าคนรับใช้ออกตามหาหากไม่พบจะให้ทหารในวังช่วยตามหาอีกแรง"

"ไม่ใช่หรอก ข้าไปนอนห้องกระรอกน้อยมา"

"ว่าไงนะพะยะค่ะ! "

"ชู่ว! อย่าส่งเสียงดังสิ ทำแตกตื่นไปได้" แววตาเจ้าเล่ห์ที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้บ่อยนักปรากฎขึ้นในดวงตาของคีย์ เขารู้สึกสนุกที่ทำให้คนอื่นคิดไปไกลทั้งที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยถึงแม้ว่าใจจริงอยากจะทำมากกว่านั้นก็ตาม

"รีบไปบอกให้หยุดตามหาข้าได้แล้ว ไปเตรียมน้ำอาบให้ด้วย" เมล์รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีกับคำพูดของผู้เป็นนายแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ถึงรัชทายาทจะเป็นคนสุขุม เงียบขรึมแต่นิสัยเสียที่ชอบทำคือชอบแกล้งคนอื่นและพูดจาให้คิดไปไกล เขาอยู่มานานไม่มีทางหลงกลเด็ดขาด

"พะยะค่ะ" หลังจากคำสั่งของคีย์ถูกถ่ายทอดออกไป เหล่าข้ารับใช้ก็พากันไปทำหน้าที่ของตนเองตามเดิมรวมถึงเข้าใจว่าเจ้านายของตนตื่นก่อนเวลา ไม่ได้ถูกลอบทำร้ายอย่างที่ข้ารับใช้สูงสุดพูดถึง

ร่างสูงโปร่งบิดขี้เกียจไปมาสองสามครั้งก่อนตื่นนอน ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นคีย์อยู่ข้างกายตนเองแล้ว แปลว่าต้องออกไปทำงานตามปกติอย่างแน่นอน หลังจากใช้ชีวิตอยู่มาได้ไม่กี่วันสิ่งที่เห็นคือที่นี่แตกต่างที่คิดเอาไว้มากนัก มันสงบสุขและร่มรื่นกว่าที่คิดไว้มากนัก ถึงจะมีสงครามเย็นบ้างก็มีเพียงบางครั้งบางคราว

สิ่งที่น่าตกใจคือเหมือนเขาจะเนื้อหอมในหมู่ผู้ชายทั้งที่ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน มือขาวจับหน้าของตนเองพลิกไปมาเพื่อตรวจดูความผิดปกติว่ามีส่วนไหนที่เหมือนผู้หญิงหรือไม่ ก็ไม่มีส่วนใดเหมือนผู้หญิงหากใดจึงมีแต่คนมาสนใจ มีแต่คนอยากเข้าหาขนาดนี้ หน้าตาสวยขนาดนั้นเลย คิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เตรียมตัวไปอาบน้ำดีกว่า ป่านนี้น่าจะมีคนเตรียมน้ำไว้ให้อาบเหมือนเดิม

"กระรอกน้อย อยู่ที่นี่แล้วรู้สึกยังไงบ้าง" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

"ไม่เท่าไหร่นะครับ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด"

"เจ้าคิดอย่างไรกับที่นี่งั้นรึ" รัชทายาทเกิดสงสัยในความคิดของอีกฝ่ายขึ้นมาทันที

"เหมือนการทำสงครามเย็นครับเพราะว่าไม่ได้เงียบสงบมากนัก ยังคงมีการรบราในเรื่องการสืบทอดทายาท ราชบัลลังค์ การแย่งชิงอำนาจ เพียงแค่ไม่ได้ป่าเถื่อนอย่างที่ข้าคิดเอาไว้" มาอยู่ที่นี่ไม่นานก็เหมือนคนตรงหน้าจะเริ่มรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไรสินะ

"ข้ามีเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกเจ้าและเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ข้าอนุญาต กระรอกน้อยจะฟังคำขอได้ไหม" ใบหน้าหล่อเหลาพูดพลางสบตาไปด้วยเหมือนต้องการให้รับรู้ว่านี่ไม่ใช่คำสั่งแต่อยากให้อ้อนวอนให้ทำได้ไหม ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อไปตามแก้มนวล ไม่สามารถปฏิเสธหน้าตาอันทรงเสน่ห์นั้นได้จริงๆ

"คำที่พวกมนุษย์ชอบเรียกกันเจ้าสามารถใช้กับข้าได้อย่างเปิดเผย ถึงมันจะดูขัดหูขัดตาคนอื่นแต่ไม่ว่าจะเผลอพูดหรือตั้งใจข้าไม่เคยถือสาเลย"

"ฉะนั้นโปรดช่วยพูดบ่อยๆ จะได้หรือไม่ จีน" เป็นครั้งแรกที่คีย์เรียกชื่อเล่นของอีกฝ่ายที่มาจากโลกคู่ขนานไม่ใช่ชื่อใหม่ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นในจักรวรรดิทำให้มีอิทธิพลต่อคำขอมากขึ้นไปอีก บนโต๊ะอาหารไม่มีของสิ่งใดเลยที่เป็นของร้อนแต่ใบหน้าหวานกับแดงเหมือนน้ำร้อนที่กำลังต้มจนสุก

เมื่อไม่มีคำตอบออกมาจากริมฝีปากบางนั่น ร่างสูงก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปถามในระยะประชิดซึ่งริคกำลังอยู่ในภวังค์ไม่ทันได้สังเกตดว่ารัชทายาทเข้ามาใกล้เพียงแค่หนึ่งนิ้วก็จะประชิดตัวได้ มือหนาลูบไล้ปากบางนุ่มนิ่มอย่างเชื่องช้าแล้วกระซิบถามอีกครั้งเพื่อรอฟังคำตอบอย่างใจเย็น ตั้งแต่เกิดมาหลายร้อยปีเขาไม่เคยแสดงกิริยาเช่นนี้กับใครเลยนอกจากคนตรงหน้า ความร้อนรุ่มที่อยู่ในจิตใจมีมากเหลือเกิน อยากจะจับกินให้ไม่เหลือกลิ่นเลือดแห่งความบริสุทธิอีกต่อไป อยากผูกมัดจิตใจให้ตกเป็นของเขาชั่วนิรันดร์

"ช่วยพูดบ่อยๆ ให้ข้าฟังหรือไม่ จิรายุ" จากชื่อเล่นเปลี่ยนมาเป็นชื่อจริง

"ได้ครับ ท่านพี่"

"เก่งมาก เด็กดี" มือหนาลูบกลุ่มผมนิ่มอย่างเอ็นดู ท่าทีขัดเขินและไม่ประสีประสาในเรื่องความรักช่างน่ารักเสียจริง ก่อนที่เขาจะเข้ามาใกล้กระรอกน้อยก็ได้ส่งสายตาอำมหิตไปยังเหล่าคนรับใช้ในห้องอาหารให้ออกไปให้หมด คีย์ไม่ต้องการให้ใครมาพบเห็นท่าทางน่ารักเช่นนี้ จะต้องมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะได้เห็นมัน

"ช่วงนี้ข้ายุ่งมากเลยกระรอกน้อย สนใจจะไปเดินเล่นในสวนกับข้าไหม"

"ครับ ท่านพี่"

ยามที่ทั้งสองเดินเคียงข้างในสวนดอกกุหลาบสีขาวสะอาดตาส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่นับวันเพิ่มความหอมมากขึ้นทุกวันนั่นก็คือกลิ่นเลือดในตัวของริค สำหรับคนอื่นได้กลิ่นมากน้อยแค่ไหนเขาไม่รู้หรอกแต่สำหรับคนที่เป็นเนื้อคู่กันแล้วมันช่างได้ผลอย่างร้ายกาจ ตอนเรียนในชั่วโมงเรียนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าแวมไพร์จะมีมุมที่กระหายเลือดจนไม่สามารถหักห้ามใจได้ ซึ่งคีย์ต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการอยู่ใกล้แล้วไม่แตะต้องอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว

พระราชวังส่วนตัวของรัชทายาททางด้านใต้นั้นถือเป็นวังพักร้อนในช่วงหน้าร้านที่มีการหยุดระยะยาวหลายสัปดาห์ แต่ครั้งนี้ถูกนำมาใช้ทำงานหลากหลายรูปแบบนั้นค่อนข้างเป็นข้อดีเลยทีเดียว ดีกว่าปล่อยให้รกร้างมีเพียงการทำความสะอาดแต่มันยังถูกใช้สอยอีกด้วย ตอนกลับเข้าวังหลวงไปทำเรื่องซ่อมบำรุงเสียหน่อย

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status