"มีเรื่องกันหรือเปล่าครับ ผมเป็นห่วง" ท่าทางกังวลถูกฉายชัดผ่านดวงตากลมโต เสื้อคลุมถูกสวมใส่อย่างลวกๆ หยดน้ำไหลเป็นทางตามร่างกายขาว หากผิวขาวซีดจะดูไม่น่าดึงดูดแต่ไวท์ดันขาวอมชมพู ยิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ ดูยั่วยวนโดยธรรมชาติมาก รัชทายาทลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ สามัญสำนึกบอกให้เขาหยุดคิดอะไรที่ไม่ดีไม่งาม
"กระรอกน้อยรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำใช่หรือไม่" เสียงทุ้มต่ำถามพลางสะกดอารมณ์ของตนเองลง
"ครับ ผมได้ยินเสียงเลยรีบคว้าชุดคลุมออกมาเลย" มือหนาคว้าผ้าห่มขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้วพันร่างของไวท์ไว้ทั้งหมดพลางอุ้มพากลับไปห้องอาบน้ำ ไม่รู้ว่าระหว่างทางจะมีใครเห็นบ้าง สายตาพิฆาตถูกส่งไปยันทหารในคฤหาสน์ ทุกคนก้มลงกับพื้นหมดเพราะไม่อาจทนรังสีความหวงของรัชทายาทได้
"แต่งตัวนะ แล้วเช็ดผมให้แห้งนะ"
"ครับ"
"ข้าว่าพวกเรากลับวังกันเถอะ"
"จะดีเหรอครับ"
"กระรอกน้อยช่วยทำฝายชะลอน้ำแล้ว"
"ทุกคนจะต้องไม่เป็นอะไร"
"ที่นี่อากาศเย็นเกินไป ข้าคิดว่าร่างกายของกระรอกน้อยจะรับไม่ไหว"
คนที่รับไม่ไหวและรับมือยากที่สุดมันคือพระองค์ต่างหากล่ะ! รัชทายาท เขาลอบเถียงในใจ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะรู้ทันเสียแล้ว
"จะบอกว่าข้ารับมือยากเหรอ"
"ทำไมถึงรู้ครับ ผมยังไม่ทันพูดเลยนะ"
"แค่เห็นสีหน้าก็รู้แล้วว่าเจ้าแอบเถียงข้าในใจ" ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอีกฝ่ายก็เหมือนจะรู้ความคิดไปเสียหมด ไม่มีทางจะต่อกรแวมไพร์ที่สมบูรณ์แบบได้เลยสักนิด สมแล้วที่ได้รับตำแหน่งรัชทายาท การแต่งตัวและเช็ดผมถูกช่วยโดยเหล่าบรรดาสาวใช้ทั้งหลายที่คัดมาเฉพาะคนที่แต่งงานแล้วเท่านั้น
เรื่องการหึงหวงที่ชัดเจนนี้รู้มาถึงคฤหาสน์ของสองพี่น้องฝาแฝด และมีตำแหน่งเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังค์เป็นลำดับที่ 2 และ 3 ตามอายุตอนเกิด สองแฝดรู้โลกแวมไพร์จะต้องรู้ พวกเขาส่งคนไปกระจายข่าวตามดินแดนต่างๆ เรื่องความหวงคุณชายไวท์ สำหรับที่นี่แล้วการกระจายข่าวไม่ได้ยากนัก ถึงจะไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่การมีปีกบินไปไหนมาไหนได้ก็สะดวกไม่น้อย
"อยากรู้จริงๆ ว่าท่านพี่จะจัดการข่าวลือนี้ว่าอะไร"
"นั่นสิ เพราะว่าคุณชายไวท์ก็ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ทำแบบนี้ไม่มีทางเหมาะสมแน่นอน"
"สาวๆ จะต้องมาวุ่นวายถึงราชสำนักแน่"
เมื่อข่าวลือเรื่องว่าที่คู่หมั้นขององค์รัชทายาทถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เหล่าหญิงสาวน้อยใหญ่เกิดความสงสัยใคร่รู้ว่าบุคคลที่ถูกกล่าวถึงเป็นใคร มีที่มาอย่างไร อยู่ตระกูลไหน จดหมายหมายถึงถูกส่งถึงราชสำนักเป็นจำนวนมาก สร้างความโกลาหลในการทำงานภายในวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากจดหมายของหญิงสาวมาปะปนกับราชกิจของเชื้อพระวงศ์
"ที่รัก เจ้าคิดว่าเป็นฝีมือใคร" จักรพรรดิเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นานแล้วที่ไม่ได้มีเรื่องวุ่นวายแบบนี้ ทำให้การจัดการเรื่องนี้บกพร่องหลายแห่ง
"ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นฝีมือของพวกแฝด ลำพังรัชทายาทไม่มีทางทำแบบนั้นให้เกิดความวุ่นวายในวังหลวงหรอก"
"อยากเป็นผู้สืบทอดบัลลังค์มากถึงขนาดจะพี่ชายของตนเองเดือดร้อนเลยรึ" เขาไม่คิดเลยว่าลูกชายที่คลานตามกันมาจะกล้าทำถึงขนาดนี้
"ข้ารู้นิสัยของลูกดีว่าทำเพื่อความสนุก พวกแฝดป่วนจักรวรรดิมาตั้งกี่สิบปีแล้ว...ตั้งใจจะแกล้งพี่ชายเพียงแค่รอบนี้หนักข้อไปหน่อย"
"ข้าว่าไม่หน่อยแล้ว มีแต่คนถามว่าว่าที่คู่หมั้นคือใคร"
"พวกเราจะทำยังไงกันดี ที่รัก"
"ส่งจดหมายตอบกลับไปให้หมดว่า เป็นคุณชายจากตระกูลริค จะมีการเปิดตัวหลังจากนี้ภายใน 1 เดือน"
"ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพวกแฝดนรก จะสามารถแผลงฤทธิ์ได้สมชื่อหรือไม่" แววตาของจักรพรรดินีในเวลานี้มีแต่ความอยากรู้อยากลอง ซึ่งจักรพรรดิเองก็เกรงกลัวไม่แพ้คนอื่นๆ ลองให้เธอได้เป็นผู้ตัดสินใจแล้ว แปลว่างานนี้มีสงครามเย็นเกิดขึ้นในครอบครัวอย่างแน่นอน เป็นอันรู้กันว่าว่าที่ลูกสะใภ้ทรงเป็นที่โปรดปรานมาแค่ไหน
ความโกลาหลนี้ถูกส่งมายังคฤหาสน์ที่รัชทายาทอาศัยอยู่ ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดีว่าเป็นฝีมือของใคร ด้วยความเป็นแม่ลูกกันถึงได้ตอบกลับจดหมายในลักษณะเดียวกัน เพื่อหยั่งเชิงว่าแฝดนรกจะมีท่าทีอย่างไรต่อไป จะเลือกบัลลังค์หรือว่าครอบครัวกันแน่ มือหนาตวัดปลายพู่กันอย่างเชี่ยวชาญด้วยความใจเย็น เขาเชื่อมั่นว่าจะต้องมีคนอยากรู้เพิ่มขึ้นว่าเป็นใครอย่างแน่นอน แต่คนจำนวนไม่น้อยที่รู้อยู่แล้วว่าคนที่คีย์พึงพอใจเป็นใคร มีหน้าตาเป็นอย่างไร
"พวกเราเตรียมกันเสร็จแล้วนะพะยะค่ะ โครงการฝ่ายชะลอน้ำลุล่วงไปด้วยดี" เสียงหวานค่อยประตูเรียกอีกฝ่ายที่ยังทำงานอยู่ในห้อง
"รอข้าก่อนนะ ขอตอบจดหมายก่อน"
"ได้ครับ ผมไปรอที่รถม้านะ"
ดูท่าที่วังหลวงจะยุ่งกันมากถึงได้ส่งจดหมายมาหารัชทายาททั้งวันทั้งคืนขนาดนี้ แต่พอผมถามว่าเป็นเรื่องอะไรก็ไม่มีใครยอมบอกสักคน แม้กระทั่งสาวใช้ที่ถูกส่งมาให้ดูแลยังปิดปากสนิท เรื่องต้องใหญ่แค่ไหนทำไมมีแค่เขาเท่านั้นที่รู้ไม่ได้ หรือว่าที่จริงแล้ว.....
"ไปกันกระรอกน้อย ท่านแม่รออยู่นะ" ร่างสูงโปร่งถูกรวบตัวเข้าไปกอด นี่สินะ! ที่เขาเรียกว่าการสัมผัสกันช่วยให้ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายช่วยรู้สึกปลอดภัยมันเป็นแบบนี้นี่เอง
"ท่านพี่ ผมหายใจไม่ออก" ร่างหนายอมคลายอ้อมกอดลงนิดเดียว ขอเน้นว่านิดเดียวเท่านั้น!!!!!
"ที่ไม่มีใครยอมตอบคำถามของผม เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผมใช่ไหมครับ" ไม่มีเสียงตอบกลับจากคีย์นอกจากเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอเท่านั้น รัชทายาทคงจะทำงานหนักจนไม่ได้พักผ่อนหลายวันแน่นอน ไม่งั้นคงไม่เผลอหลับแบบนี้แน่ แต่หารู้ไม่ว่านี่เป็นแผนการหลีกเลี่ยงตอบคำถามเท่านั้น จากแผนการกลายเป็นหลับจริงเสียนี่
"รัชทายาทอ่อนเพลียมาก ตลอดระยะเวลาสองสามวันที่ผ่านมาพระองค์ทำงานอย่างหนัก กระผมว่าคุณชายอย่าเพิ่งซักถามอะไรเลยดีกว่าขอรับ รอถึงวังหลวงแล้วค่อยว่ากัน" ใจจริงเมล์ไม่ได้อยากพูดจาเป็นทางการแบบนี้ แต่เห็นเจ้านายของตนส่งสายตามาหาหลายต่อหลายครั้งเลยพูดเพื่อหยุดสถานการณ์ตรงหน้า ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจมากว่ากล้าหลับในที่อันตรายแบบนี้ แปลว่าคงไว้ใจอีกฝ่ายพอสมควร
ปึง!
"ที่วังหลวงเกิดความวุ่นวายในครั้งนี้ เป็นฝีมือของทั้งสองพระองค์ใช่หรือไม่ แล้วทำไมถึงดึงคุณชายจีนเข้าไปเกี่ยวด้วย" สิ่งที่มาร์แชลพูดไม่ใช่คำถามแต่เป็นการเค้นเอาคำตอบเสียมากกว่า
"ข้าจงใจทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น" คลาสทำหน้าตาไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ตนเองทำลงไป
"ใช่ วังหลวงเงียบมานานมันน่าเบื่อ พวกเราเลยหาอะไรสนุกๆ ให้ทำ" ครอสเห็นด้วยกับความคิดของพี่ชายฝาแฝด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การเล่นสนุกของเหล่าแฝดนรกส่งผลกระทบกับผู้คนหมู่มาก มีคนรู้ว่าเป็นฝีมือของใครแต่ไม่มีหลักฐานในการเอาผิดจึงได้ปล่อยผ่านไปเป็นเวลานาน
ภายในระยะเวลาไม่กี่วันท่านแม่และท่านพี่ก็สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง แถมยังระบุวันงานเปิดตัวคุณชายไวท์ออกมาเป็นที่เรียบร้อยอีกต่างหาก การป่วนของพวกเขานั้นไม่ได้ต้องการทำให้ราชสำนักเสียหาย แต่เป็นการเร่งมือให้พี่ชายของเขารีบประกาศตัวว่าใครเป็นคู่หมั้นและหยุดยั้งการหวังลมๆ แล้งๆ ของใครหลายคนที่จ้องจะจีบว่าที่คู่หมั้นของพี่ชายตนเอง
ณ วังหลวง"จักรพรรดินีเพคะ องค์รัชทายาทแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับมาวังหลวง" นีน่ารายงานตามเอกสารที่ได้รับมาทันที เพราะสถานการณ์ตอนนี้ถึงจะดีขึ้นแล้วแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก ยังมีเหล่าขุนนางจำนวนมากที่อยากเห็นหน้าว่าที่คู่หมั้น"ดีแล้วล่ะ ขออย่าให้เกิดเรื่องก่อนมาถึงก็พอ""ทำไมคิดเช่นนั้นเพคะ""มีหลายคนที่ไม่พอใจเรื่องนี้เยอะ มันจะต้องมีการลอบสังหารเกิดขึ้นแน่" ที่นี่ไม่ใช่เมืองมนุษย์ฉะนั้นกฎทุกอย่างมีไว้แหก ไม่ได้มีไว้ทำตามดั่งที่ควรจะเป็น"แล้วพระองค์จะทำเช่นไรเพคะ""ไม่รู้เหมือนกัน ของแบบนี้ต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง"ขุนนางบางส่วนที่หวังพึ่งอำนาจจากเจ้าชายฝาแฝดมากกว่ารัชทายาทคนปัจจุบัน เนื่องจากไม่ชอบความคิดที่รู้ไปทุกเรื่องโดยไม่ฟังคำจากผู้ใหญ่ หากมีเรื่องมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องแล้วหมายความจุดอ่อนคือสิ่งนี้ เมื่อรู้จุดอ่อนของศัตรูเป็นธรรมดาที่จะต้องกำจัดทิ้ง"กระผมจ้างทหารรับจ้างให้ไปลอบสังหารรัชทายาทแล้วขอรับ""ทำดีมาก ชาร์ที""ข้าอยากจะรู้นักว่ารัชทายาทจะปกป้องคนรักได้หรือไม่""ขอรับ"การเดินทางกลับวังหลวงนั้นจำเป็นต้องใช้รถม้าเนื่องจากเป็นการเดินทางที่เป็นทางการ ไม่สามารถใช้แบบรถค้างคาวไป
ทำไมรัชทายาทไปนานเหลือเกิน มีเสียงต่อสู้กันอย่างหนักแล้วทำไมเงียบลงแบบนี้ ไวท์ไม่รู้ตัวเลยว่ารถม้ากำลังเคลื่อนตัวไปทางอื่นเนื่องจากโดยภาพมายาหลอกว่ายังอยู่ที่เดิม แผนการนี้ตอนแรกจงใจจะทำลายความน่าเชื่อถือของเชื้อพระวงศ์แต่ขุนนางอย่างเขาก็คิดได้ว่ายังมีมนุษย์ที่เป็นตัวแปรสำคัญในครั้งนี้อยู่กลิ่นหวานชวนกลืนกินนั้นยังคงติดตราติดตรึงใจตั้งแต่ครั้งที่เจอในงานเลี้ยงเมื่อไม่กี่วันก่อน อยากลองเห็นหน้าชัดๆ สักครั้งว่ามีดีแค่ไหนกัน ทำไมใครต่อใครถึงได้ออกโรงปกป้องกันนัก ทั้งจักรพรรดิ จักรพรรดินี รัชทายาท องค์ชายแฝด แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้ว จะสืบออกนอกหน้าก็ไม่ได้ เส้นสายของจักรพรรดินีมีทั่วอาณาจักร"คนที่คุณชายอยากพบ เดินทางมาถึงแล้วขอรับ" ชาร์ทีบอกพลางผายมือไปทางรถม้าที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าคฤหาสน์ตระกูลสวิต ถือเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่เป็นเชื้อพระวงศ์ วิธีการที่ใช้เลือกผู้นำแต่ละสมัยจะไม่เหมือนกัน สมัยขององค์จักรพรรดิจะเลือกจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นผู้นำ โดยผ่านการต่อสู้มาอย่างหนักหลากหลายรูปแบบเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งทุกหนึ่งร้อยปีจะมีการจัดการแข่งขันเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งของจักรวรรดิ แวมไ
คิดถูกแล้วที่ตัดสินใจส่งจดหมายก่อนที่คุณชายริคจะเดินทางมาถึง เพราะว่าเวลาไม่นานร่างสูงปีกสีดำขนาดใหญ่ก็บินมาถึงบ้านของเขาเสียแล้ว แสดงว่าร้อนใจจะไม่สามารถนั่งรถม้าหรือรถค้างคาวมารับได้เลยสินะ เด็กคนนี้ต้องมีดีอะไรพอสมควรเลยปึง!"กระรอกน้อย! ไม่เป็นอะไรใช่ไหม! ใครทำอะไรหรือเปล่า! " คียร้อนใจจนไม่สามารถบังคับตนเองได้แล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับแก้วตาดวงใจแล้วล่ะก็...คฤหาสน์หลังนี้พังไม่เป็นท่าแน่ๆ"ทำไมต้องโวยวายเสียงดังด้วยพะยะค่ะ ใจเย็นลงก่อน" เทรเลอร์ตอบกลับอย่างใจเย็น ไม่บ่อยนักที่จะเห็นอาการแบบนี้ออกมา ปกติเป็นคนสุขุม รอบคอบ ใจเย็น ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยซะแล้วสิ"จะให้เย็นได้ยังไง ความต่างของเผ่าพันธ์มันเยอะขนาดนี้""แถมกลิ่นเลือดยังหอมหวานชวนให้ดื่มตลอดเวลา ข้าไม่ไหวใจเจ้า! สวิต เทรเลอร์""รัชทายาท ใจเย็นลงก่อนพะยะค่ะ" เมล์ห้ามปรามเจ้านายของตนทันที ไม่มีความจำเป็นต้องไปเดินตามเกมส์ของคนตระกูลสวิต"ต่อให้ท่านจะฆ่าเขาเสียตรงนี้ ก็ไม่มีโอกาสได้รู้ว่าคุณชายริคอยู่ที่ไหน" ท่าทีของคีย์โอนอ่อนลงทันที คนรับใช้ตระกูลโฟลช์ถูกขัดเกลามาให้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้ความช่วยเหลือ และห้ามปรามกษัตริย
กระรอกน้อยของเขาจะเนื้อหอมมากเกินไปแล้วนะ ขนาดเป็นผู้ชายยังขนาดนี้แล้วถ้าเป็นผู้หญิงเขาไม่เป็นบ้าตายเหรอเทรเลอร์ไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนนอกจากจะหน้าหวานแล้วยังจะยิ้มหวานขนาดนี้ มีฝีมืองานบ้านงานเรือน กิริยาท่าทางไม่ยอมใคร พอเข้าใจแล้วว่าทำไมรัชทายาทถึงหวงนัก จากข่าวที่ได้ยินมามีคุณชายตระกูลขุนนางตกหลุมรักเหมือนกัน แบบจะลงสนามไปด้วยดีไหมนะ"คุณชายริค""ครับ" ซวยแล้วไง! เผลอขานรับแบบมนุษย์ไปแล้ว ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจที่ตนเองพูดผิดออกไป ซึ่งสำหรับจักรวรรดิแล้วคำพูดพวกนี้ถูกใช้กันในหมู่มนุษย์มากกว่าแวมไพร์ ขานรับผิดแบบนี้แปลว่าต้องเคยชินกับการคุยกับใครสักคนและคงหนีไม่พ้นรัชทายาทเป็นแน่"หึ! คำขานรับน่ารักดีนะ ข้าชักถูกใจเจ้าซะแล้วสิ" เทรเลอร์บอกด้วยสีหน้าพึงพอใจ ปกติเขาไม่สนใจมนุษย์นอกจากเวลาที่ได้ดื่มเลือดที่ได้มาจากการบริจาคของเหล่าบริวารในเขตปกครองของตนเอง นอกนั้นก็มีอายุสั้นไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่นัก แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กคนนี้ถึงจะมีอายุที่สั้นแต่ก็อยากจะดูแลสักครั้ง ลองถนอมใครไว้สักคนก็น่าจะดีไม่น้อย"พูดแบบนี้เจ้าหมายความว่ายังไง เทรเลอร์" ถึงคีย์จะรู้คำตอบของความหมายนั่นอยู่แล้
การตามใจใครสักคนแล้วยอมลำบากขนาดนี้ หวังว่าจะมีอะไรตอบแทนไม่มากก็น้อยกับความอดทนของข้าในครั้งนี้ณ พระราชวังสวิต (ที่พักอาศัยของคุณชายคนโตของตระกูล)"ขอต้อนรับท่านจักรพรรดินี ไม่ทราบว่าเดินทางมาถึงที่นี่มีเรื่องอันใดกัน" ชาร์ทีออกมาต้อนรับทันทีที่เห็นขบวนเสด็จขององค์จักรพรรดินีเดินทางมาแบบไม่เป็นทางการเช่นนี้ จะต้องเกี่ยวข้องกับเด็กคนนั้นที่ถูกจับตัวมาเมื่อก่อนหน้านี้แน่นอน"ข้าว่าเชิญท่านจักรพรรดินีเข้าไปด้านใน แล้วค่อยหารือกันดีหรือไม่ ชาร์ที" นีน่าบอกเสียงเรียบแต่ท่าทางไม่ได้เรียบตามไปด้วย ลางสังหรณ์ของเขามันร้องเตือนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีที่มีการเดินทางนอกกำหนดการแบบนี้ตระกูลสวิตถือเป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ทั้งสี่ สัญลักษณ์ของตระกูลคือลักษณะแห่งไฟที่เผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องตระกูลของกษัตริย์ให้มั่นคงสืบต่อไป การจะล้มล้างกษัตริยได้จำเป็นต้องเข้าถึงตัวเชื้อพระวงศ์ให้ได้เสียก่อน หากเจ้าแห่งการปกครองสูงสุดของวังหลังออกเดินทางนอกกำหนดการ หมายความมีการทำงานที่ไม่ปกติเกิดขึน อำนาจสูงสุดตกเป็นของจักรพรรดินีและจักรพรรดิไม่มีสิทธิในการตัดสินใจเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว"อรุณสวัสดิ์ยามดึกพ
"ฉะนั้นพวกเรามาหารือกันเรื่องนี้จนกว่าจะได้ข้อสรุปกัน ไม่ว่ายังไงข้าจะไม่ยอมให้ลูกชายของข้าต้องไม่มีเนื้อคู่เพราะเจ้าพวกนั้นเด็ดขาด""พะยะค่ะ"พระอาทิตย์สาดส่องเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ของใครหลายคน แต่มันคือเวลานอนของเหล่าแวมไพร์ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ถึงผมจะอยู่ที่นี่มาได้หลายวันแล้วแต่ก็ยังไม่ชินกับการที่ต้องนอนกลางวันตื่นกลางคืนอยู่ดี ถึงตอนนี้จะเริ่มนอนเกือบเช้าแต่ก็ยังหลับๆ ตื่นๆ เช่นวันนี้มาตื่นตอนเที่ยงแบบนี้แล้วจะทำยังไงดี ทุกคนพากันหลับหมดแบบนี้ ถึงจะมีเวรยามอยู่ตลอดยี่สิบชั่วโมงแต่มันก็ค่อนข้างว่างเสียเหลือเกินก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!"ใครครับ" เสียงหวานตะโกนถามออกไป"ข้าเอง กระรอกน้อย" เสียงทุ้มต่ำตะโกนกลับมา ช่วงขาที่เรียวยาวถึงได้เดินไปเปิดประตู หากเป็นคนรับใช้เกรงว่าเขายังไม่อยากจะพบใครตอนนี้ อยากใช้ความคิดของตนเองมากกว่า"เพิ่งทำงานเสร็จหรือพะยะค่ะ" ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง มือขาวเกลี่ยปอยผมที่ลงมาปรกใบหน้าอีกฝ่ายออกให้เห็นชัดเจนมากขึ้น เผลอให้เห็นรอยใต้ตาคล้ำจากการทำงานอย่างหนัก ท่าทีอ่อนล้าที่เผยให้เห็นนั้นช่างน่าเป็นห่วงยิ่งนัก"ใช่แล้ว ข้าง่วงมากเลย กระรอ
จีนกำลังเดินกลับบ้านด้วยความสบายใจดั่งเช่นทุกวัน ชีวิตวัยม.ปลายที่สนุกสนานกำลังรอเขาอยู่ วันปฐมนิเทศน์วันนี้ก็มีเพื่อนเยอะเสียด้วย นับจากนี้ไปรั้วชีวิตม.ปลายของเขาจะต้องสดใสอย่างแน่นอนเลยล่ะ ดวงตากลมโตมองเห็นร้านเก่าๆ ร้านนึงซึ่งทางเดินเส้นนี้ก็ถูกใช้ในการกลับบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เห็นเลยนะ ลองเข้าไปดูหน่อยก็แล้วกัน มือขาวผลักประตูเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น"สวัสดีครับ มีใครอยู่ไหมครับ" เสียงทุ้มหวานเอ่ยถาม"มีครับ สวัสดีครับหนุ่มน้อย" ผู้อยู่ด้านในเอ่ยสนทนาโต้ตอบกลับไป"หมายถึงผมเหรอครับ" ไม่ถามเปล่ายังคงชี้นิ้วมาทางตนเองอีกด้วย นับว่าเป็นท่าทางว่าน่ารักทีเดียว"ใช่ครับ ไม่ทราบว่าจะมาดูดวงหรือครับหนุ่มน้อย""เปล่าครับ พอดีผมไม่เคยเห็นร้านนี้มาก่อนเลยมาถามดูครับ""งั้นลองมาดูดวงสักหน่อยไหมครับ ไหนๆ ก็แวะเข้ามาในร้านของผมแล้ว" เสียงทุ้มถามพลางสับไพ่ยิปซีในมือรอ"ลองดูก็ได้นะครับ"จีนฟังคำอธิบายจากหมอดูหนุ่มด้วยความตั้งใจ มือขาวทั้งสองแนบอกตนเองพลางอธิฐานด้วยความซื่อสัตย์และหยิบไพ่ใบต่าง ๆ ออกมาจากใจที่ตนเองได้คิดดีและตัดสินใจเอาไว้ทั้งหมดแล้ว สีหน้าของหมอดูหนุ่มมีท่าทีหนัก
ร่างสูงเดินออกมาจากห้องขอจีนอารมณ์ที่แสดงไปเมื่อกี้ก็พลันเปลี่ยนทันทีแววตาขี้เล่นจริงจังขึ้นมาในทันที ยังไม่น่าจะมีใครล่วงรู้ว่าเด็กน้อยที่นอนอยู่ในห้องนั้นเป็นใคร จากคำทำนายที่บอกไว้ว่าเนื้อคู่ของเขาจะไม่ใช่คนในอาณาจักรนี้ดูท่าว่าจะเป็นจริงขึ้นมาเสียแล้ว ตอนแรกที่เขาได้ยินเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะให้เชื่อคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่การบอกรูปร่างหน้าตาที่ชัดเจนแบบนี้ ท่าทางว่าเรื่องนั้นจะไม่ใช่เรื่องหลอกเด็กอีกต่อไปเสียแล้ว"รัชทายาทจะทำยังไงต่อไปพะยะค่ะ" เมล์ คนสนิทขององค์รัชทายาทถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเขารู้ว่าผู้เป็นนายในตอนนี้เชื่อคำทำนายนั่นเสียแล้ว จะไม่ให้เชื่อได้ยังไงล่ะ....ในเมื่อหลักฐานนอนอยู่ในห้องรับรองแบบนั้นน่ะ"รอถามวันพรุ่งนี้แล้วกัน แต่เหมือนว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาถึงที่นี่หลายคนเลยนะ" คีย์บอกด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์พลางมองไปยังผู้ที่ไม่ได้รับเชิญมาด้วยความไม่พอใจ"อะไรกันพี่คีย์ คิดจะเก็บไว้เล่นคนเดียวหรือยังไง" คลาส น้องชายคนแรกของเขานั้นมีนิสัยมองเห็นคนอื่นเป็นของเล่นตลอดเวลา ยิ่งอะไรแปลกใหม่จะชอบมาวุ่นวายเสมอ