แชร์

Fourth Time

หน้าตาที่ตื่นตระหนกและท่าทางสั่นระริกราวกับหวาดกลัวในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ครั้งนี้ไม่ใช่การหวาดกลัวด้วยความน่ากลัวแต่มันคือความตกใจปนหวาดกลัวไปในคราวเดียวกันต่างหาก เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายแล้วจะมาเป็นเนื้อคู่ของอีกฝ่ายได้ยังไงล่ะเล่า!

"ท่านพี่ครับ" จีนเรียกอีกฝ่ายด้วยความสับสน ท่าทางน่ารักเหล่านั้นตกอยู่ในสายตาคนทั้งท้องพระโรง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสน่ห์ของเด็กคนนี้เหลือล้นจริงๆ จนเขาแทบอยากจะไปควักลูกตาของทุกคนออกมาไม่ให้เห็นออร่าของความน่ารักนั้นเลยสักนิดเดียว กระรอกน้อยเปล่งประกายมากเกินไปแล้ว

"อืม" เสียงทุ้มต่ำตอบรับทันที เขาคิดว่าทุกคนน่าจะดูออกหมดแล้วล่ะว่าเขารู้สึกยังไงกับเด็กคนนี้ มันไม่ใช่แค่คำทำนายแต่ความรู้สึกของเขามันแสดงออกนอกหน้าขนาดนี้แล้ว

"ผมเป็นผู้ชายนะครับ"

"เรื่องนั้นสำหรับพวกเราแล้วไม่ใช่ปัญหานะหนูจีน เพราะว่าการครองราชย์ของที่นี่ขึ้นอยู่ที่ความเหมาะสมมากกว่าการมีลูก บุตรของใครมีความเหมาะสมมากกว่ากันถึงจะได้บัลลังค์ไปนะ ไม่ต้องห่วงนะ" จักรพรรดินีบอกด้วยแววตาอ่อนโยน

"ผมว่าแบบนั้นต่างหากครับที่ทำให้บัลลังค์ของพี่คีย์สั่นคลอนเพราะความไม่มั่นคงในการมีทายาท และตำแหน่งจะกลายเป็นว่าใครก็สามารถขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ นอกเสียจากว่าจะเป็นหลังจากสวรรคตของจักรพรรดิถึงจะเป็นอีกกรณีนึงครับ"

"ลูกจีนมีความรู้มากกว่าที่พ่อคิดไว้เสียอีกนะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าคีย์หลงขนาดนี้ แต่ได้ข่าวจากงานเลี้ยงคราวที่แล้วมาว่าคุณชายจากตระกูลมาร์แชลสนใจในตัวลูกจีนไม่น้อยเลยนะ แล้วทีนี้ลูกจะทำยังไงล่ะ" จักรพรรดิถามด้วยท่าทีสนุกสนานไม่น้อย เพราะว่าปกติแล้วเหล่าคุณชายและรัชทายาทจะไม่สนใจคู่ครองเลยสักนิด เนื่องจากอายุขัยที่ยาวนานของแวมไพร์ทำให้การรักษาเผ่าพันธ์ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนขนาดนั้น ยังมีเวลาอีกหลายร้อยหลายพันปีที่จะหาเนื้อคู่ที่เกิดขึ้นมาแล้วมารักกันก็ยังไม่สาย

"ไม่ทำอะไรทั้งนั้นครับ ผมคิดว่าตอนนี้น่าจะอธิบายให้คุณบลัฟเข้าใจสถานการณ์นะครับ ไม่งั้นอาจจะดูเลวร้ายลงไปกว่าเดิมก็ได้ครับ"

"ได้สิ ถ้ามันเป็นความต้องการของกระรอกน้อย"

องค์รักษ์คนหนึ่งในท้องพระโรงได้รับคำสั่งให้ไปเรียกคุณชายจากตระกูลมาร์แชลมาท้องพระโรงอีกครั้ง เขามีเรื่องสงสัยมากมายที่อยากจะถาม แต่ทว่า...คำตอบที่เขาจะได้รับนั้นเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหนกันนะ

"หม่อมฉันอยากจะบอกว่าคุณชายจีนไม่ผิดพะยะค่ะ เพราะว่าช่วยชีวิตของหม่อมฉันเอาไว้ ได้โปรดอย่าลงโทษ" เขารู้ดีว่าโทษของจักรวรรดิแต่ละเรื่องมันหนักแค่ไหน แล้วดูท่าแล้วอีกคนรับไม่ไหวอย่างแน่นอนเลย

"ใจเย็นก่อนนะคุณชายมาร์แชล ที่นี่ไม่มีใครทำอะไรลูกจีนหรอกนะ" จักรพรรดิบอกด้วยท่าทียิ้มแย้มต่างจากที่เขาเข้ามาครั้งแรกเป็นอย่างมาก

"ทำไมถึงเรียกคุณชายจีนว่าลูกจีนเหรอครับ" มาร์แชลงงกับสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างมาก หวังว่าเขาจะไม่ใช่แบบที่เขาคิดหรอกนะ

"ลูกจีนคือคู่หมั้นของรัชทายาทอย่างเป็นทางการ เดือนหน้าจะจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่วังหลวง แต่ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบอกเจ้าก่อนเป็นคนแรกในค่ำคืนนี้" ไม่ทันที่คุณชายมาร์แชลจะคิดต่อ จักรพรรดินีก็ต่อข้อความจากผู้เป็นสามีที่รู้ใจกันมาหลายร้อยปี แบบนี้เรียกว่าเป็นการตัดไม่ให้เขาสานสัมพันธ์กับจีนหรือเปล่านะ

"แล้วถ้าข้าขอคัดค้านล่ะครับ" มาร์แชลถามหยั่งเชิง พลางเหลือบมองรัชทายาทและคนที่เขาสนใจไปด้วยว่าจะมีปฏิกิริยายังไง และมันก็เป็นดั่งที่คาดการณ์เอาไว้ อีกคนมีท่าทีไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ส่วนคนตัวเล็กกว่าก็ตกใจจนตาบ๊องแบ๊วนั้นตาเหมือนไข่หานไปแล้วก็มิปาน

"มีเหตุผลในการคัดค้านไหม คุณชายมาร์แชล" คีย์พยายามอย่างมากที่จะสกัดกั้นอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเองให้เป็นปกติมากที่สุด เขาเป็นถึงรัชทายาทจะมาทำตัวโมโหเหมือนคนปกติไม่ได้ มันไม่ใช่ลักษณะคนของที่จะปกครองคนทั่งอาณาจักรทำกัน

"ถ้าจะให้พูดตรงๆ เลย หม่อมฉันสนใจในตัวคุณชายจีน ท่าทางไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกแต่เข้มแข็งและเฉลียวฉลาดในยามคับขัน เหมือนอ่อนนอกแข็งใน ใจเย็นและแก้ไขสถานการณ์ได้ดี ถ้ามาเป็นดัชเชสตระกูลข้าคงจะดีไม่น้อย ยังไงที่นี่ก็มีเทคโนโลยีที่จะทำให้ผู้ชายท้องได้อยู่แล้ว เรื่องการสืบทายาทคงไม่ยากเท่าไหร่ เผลอๆ ร่างกายของคุณชายจีนอาจจะเปลี่ยนแปลงเพราะก้าวเข้าดินแดนแห่งนี้ก็เป็นได้ เพราะกลิ่นเลือดหอมหวานน่าลิ้มลองนั้นติดจมูกจริงๆ ครับ" มาร์แชลตัดสินใจพูดความในใจทุกอย่างต่อหน้าจักรพรรดิ จักรพรรดินี รัชทายาท รวมถึงคนที่ถูกกล่าวถึงด้วย ต้องนับถือในความกล้าหาญที่กล้าเสี่ยงแบบนี้เลยทีเดียว

"ก็ลองดูนะว่าลูกจีนจะเลือกใคร เพราะว่าถึงแม้จะเป็นคู่หมั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะแต่งงานกับคนนี้เสียหน่อย" จักรพรรดิยอมตอบรับคำสารภาพลูกผู้ชายของตระกูลมาร์แชล เขารู้ดีว่าเลือดของอีกคนมันเป็นยังไง ขนาดอยู่ไกลขนาดนี้ยังได้กลิ่นหอมมากๆ ถ้าได้ลิ้มลองมีหวังได้ติดใจจนไม่อยากให้ได้ไปแน่ๆ

"แบบนี้ก็ดี ข้าจะแต่งตั้งให้ลูกจีนเป็นลูกบุญธรรมของจักรพรรดิองค์ก่อน ซึ่งก็คือพี่ชายของฉันเอง ทีนี้ก็ต้องแข่งกันจีบแล้วล่ะนะว่าลูกจีนจะเลือกใคร" คนที่ถูกพูดถึงได้แต่ส่ายหน้าเป็นพัลวันในการปฏิเสธ

"ผมเองก็ไม่ทราบครับ เอาเป็นว่าให้เวลาเป็นตัวตัดสินดีกว่าครับ" จีนตัดสินใจพูดไปแบบนั้นเพื่อตัดปัญหาการแย่งชิงเขาชั่วคราว ถึงจะไม่ใช่สงครามแวมไพร์แยกกันเหมือนในหนังแต่นี่มันก็สงครามเย็นชัดๆ เลย มองกันตาไม่กระพริบขนาดนี้ ถ้าไม่อยู่ในท้องพระโรงป่านนี้ตีกันไปแล้วมั้ง

"หม่อมฉันจะไปเตรียมอาหารให้ทุกคนพะยะค่ะ" มีเทนบอกพลางโค้งตัวให้กับเหล่าเจ้านายทั้งหลาย

"ผมไปด้วยครับ ผมชอบทำอาหาร" เสียงหวานเอ่ยเรียกพลางเดินตามไปด้วยความเร็วเพื่อที่จะตามอีกคนให้ทัน

"ไม่ได้ขอรับ คุณชายจีนเป็นถึงคุณชายจะมาทำงานแบบนี้ไม่ได้ครับ" มีเทนรีบปฏิเสธในทันที

"ไม่ได้จริงๆ เหรอครับ" ใบหน้าหวานมีแววตาที่เศร้าสร้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนลูกหมาที่กำลังถูกทิ้งไม่มีผิดเลย แต่แล้วก็มีสายตาอันโหดเหี้ยมจากทางด้านหลังเป็นจำนวนมากทำให้อีกฝ่ายต้องรีบตอบรับแทนปฏิเสธ

"กล้าขัดใจลูกจีนได้ยังไงมีเทน"

"ข้าเพิ่งจะแต่งตั้งแบบไม่เป็นทางการไปหมาดๆ ว่าลูกจีนเป็นลูกบุตรธรรมของฝั่งพี่ชายข้า"

"ทำไมถึงพูดกับกระรอกน้อยแบบนั้น มีเทน"

"ทำไมต้องต่อว่าคุณชายจีนด้วย"

แวมไพร์ทั้งสี่ต่อว่าองค์รักษ์ผู้อยู่เหนือองค์รักษ์ทั้งหมดในจักรวรรดิทันที มีเทนขึ้นชื่อว่าหัวแข็งและเคร่งในกฎระเบียบเป็นอย่างมาก เขาจะไม่ยอมโอนอ่อนใดๆ ทั้งสิ้นหากใครละเมิดกฎแม้แต่ข้อเดียว ไม่ว่าจะใครเขาก็ไม่เคยละเว้น และทุกคนก็ทำตามเขาอย่างง่ายดายแต่ทำไมครั้งนี้ถึงพากันคัดค้านขนาดนี้นะ แววตาน่าสงสารนั่นอีก เขายอมแพ้แล้ว

"กระผมยอมแพ้ขอรับ อนุญาตให้คุณชายจีนไปทำอาหารด้วยได้"

"งั้นนำทางผมไปเลยครับ"

"เชิญทางนี้ขอรับ" มีเทนผายมือเชื้อเชิญคุณชายวัยละอ่อนให้เดินตามไปอีกฟากของวังหลวง

ภายในห้องครัวนั้นถือเป็นห้องทำอาหารขนาดใหญ่ที่สามารถทำร่วมกันได้หลายคนเลยทีเดียว การจัดตกแต่งเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้านมาก บ่งบอกถึงความเคร่งครัดและความใส่ใจของพ่อบ้านยิ่งนัก ยิ่งมีฐานะมากเท่าไหร่จะต้องใส่ใจทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อให้ไม่เจ้านายขายหน้าเวลามีแขกมาเยือนที่บ้าน

"วันนี้จะทำอาหารอะไรกันเหรอครับ" ปากเรียวเล็กได้รูปเอ่ยถามทันที

"วันนี้จะมีสเต๊กปลาแซลมอน ไวน์ขาว แล้วก็เค้กวนิลา ส่วนคุณชายพวกข้าจะทำเป็นนมสดให้รับประทานแทนเพราะอายุยังไม่ถึงขอรับ" เมล์แจกแจงรายละเอียดของอาหารในวันนี้

"ผมว่าน่าจะมีซุปข้าวโพดด้วยนะครับ ความหวานจากผักหวานจะทำให้กลิ่นคาวปลาหายไปด้วยครับ"

"คุณชายจีนรู้เรื่องของกินเป็นอย่างดีมากเลยขอรับ เหมาะที่จะเป็นแม่ศรีเรือนมาก" มีเทนชมจากใจเพราะว่าผู้ชายส่วนมากไม่ค่อยจะเข้าครัวเสียเท่าไหร่ด้วย

"ส่วนมากผมชอบทำของที่กินคู่กัน หรือว่าพวกของหวานกับของกินเล่นมากกว่าครับ พวกอาหารจานหลักก็ทำไม่เป็นหรอก เดี๋ยวผมจะทำซุปข้าวโพดกับเค้กวนิลาเอง แล้วก็นมสดเดี๋ยวผมต้มเองครับ นอกนั้นเมล์กับมีเทนทำกันตามสบายเลยครับ ผมไม่ถนัด" สิ่งที่คุณชายจีนถนัดนั้นมันก็มากพอสำหรับผู้ชายสูงศักดิ์แล้วนะ จะทำให้ใครหลายๆ คนประทับใจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย

มือขาวตักสัดส่วนในการทำแป้งอย่างชำนาญ สองมือนวดแป้งอย่างรู้สึกสนุกสนานเพราะว่าที่บ้านของเขาเป็นร้านทำขนมไงล่ะ ทำไมเรื่องแค่นี้เขาจะทำไม่ได้กัน แน่นอนว่าร้านขนมจะต้องทำพวกเครื่องดื่มกินเป็นการล้างคอด้วยไปในตัว ส่วนเรื่องอาหารจานหลักต้องยกให้แม่ของเขามากกว่า เก่งกาจไปเสียทุกเรื่องแบบนั้น เค้กในถาดถูกวางลงในเตาอบอย่างเบามือและจะต้องอบที่ไฟประมาณ 165 องศาเซสเซียส เป็นเวลา 20 นาทีหรือนานกว่านิดหน่อยเพื่อเค้กเย็นตัวลงจนจับกันเป็นก้อนแล้วนั่นเอง

การทำบัตเตอร์ครีมนั้นจะบอกว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก ทั้งนี้อยู่ที่สมาธิของคนทำด้วยว่าเป็นยังไง ท่าทางทำอาหารที่ทะมัดทะแมงเหล่านั้นอยู่ในสายตาของพ่อบ้านทั้งสอง พวกเขาทึ่งในความสามารถของอีกฝ่าย จัดเป็นมนุษย์ที่ทำได้หลากหลายและน่าประทับใจ พวกเขาอาจจะหลงเสน่ห์ตามคุณชายตระกูลมาร์แชลและองค์รัชทายาทในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน

ปกติแล้วทางวังหลวงจะมีพ่อครัวมาช่วยทำอีกสองสามคนเนื่องจากอาหารจะมีหลายอย่างดั่งเช่นวันนี้ แต่ความสามารถของคูรชายจีนทำให้พ่อครัวประจำวังหลวงไม่สามารถทำตามทันและต้องมาเป็นลูกมือช่วยผสมและนำไปจัดเรียงเสียนี้กระไร อาหารและเครื่องเคียงต่างๆ ถูกวางในระดับที่เหมาะสมและการนั่งถูกเรียงตามลำดับยศของแต่ละบุคคล เนื่องจากยศของจีนและมาร์แชลคือคุณชายเหมือนกันแต่ว่าตำแหน่งลูกบุญธรรมทำให้นั่งฝั่งตรงข้ามกับตระกูลมาร์แชลเป็นลำดับถัดมา โดยเรียงจากหัวโต๊ะคือจักรพรรดิ คนที่จะนั่งฝั่งขวาข้างองค์จักรพรรดิคือจักรพรรดินี โดยการนั่งเรียงแบบนี้ฝั่งขวาถือเป็นตำแหน่งคู่บุญบารมีคนที่นั่งหัวโต๊ะ และคนที่นั่งฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งรองลงมาคือรัชทายาท และฝั่งขวาข้างองค์จักรพรรดินีคือคุณชายจีนผู้เป็นบุตรบุญธรรมของตระกูลจักรพรรดิองค์ก่อน และลำดับสุดท้ายคือคุณชายจากตระกูลมาร์แชลนั่นเอง

ทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจกับการจัดลำดับยศของจักรวรรดิเสียเหลือเกิน เพราะมันทำให้เขามองเห็นคุณชายจีนได้ง่ายมากขึ้น ในขณะที่องค์รัชทายาทอยู่ไกลกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจอะไร เนื่องจากกฎของวังหลวงคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงลำดับการนั่งรับประทานอาหารไม่ได้

"อาหารสีเหมือนครีมอันนี้คืออะไรเหรอ ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นมาก่อนเลย" คีย์ถามด้วยความสงสัย เพราะปกติแล้วจะไม่มีอาหารที่้เป็นของว่างมาวางไว้บนโต๊ะอาหารแบบนี้หรอกนะ เมล์กับมีเทนไม่ชอบทำของวางแบบนี้จะเน้นเป็นเค้กเสียมากกว่า

"หรือว่าจะเป็นฝีมือของกระรอกน้อย ก่อนเดินทางมาที่วังก็เห็นทำของกินเล่นแบบนี้รอบนึงแล้ว"

"ครับ ผมเป็นคนทำเอง"

"อันนี้เรียกว่าอะไรเหรอครับคุณชายจีน" มาร์แชลให้ความสนใจและรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายทำของกินน่ารักๆ แบบนี้ได้ด้วย แล้วแบบนี้ใครจะยอมให้ไปเป็นจักรพรรดินีเล่า

"เรียกว่าซุปข้าวโพด มีส่วนผสมของหัวหอมใหญ่ เนยสด ครีมสด น้ำซุป ใบกระวาน แล้วก็เติมเกลือ พริกไทย น้ำตาล เป็นของกินที่เหมาะกับการกินต่อจากสเต๊กปลาครับ แล้วการกินเค้กวานิลลาที่เป็นของหวานละลายในปากจะทำให้ชุ่มคอและนอนหลับสบายด้วยครับ"

"เก่งจังกระรอกน้อย ความสามารถหลากหลายมากเลยนะ"

"ไม่ใช่แค่นั้นขอรับ คุณชายจีนทำซุปข้าวโพด เค้กวนิลา และนมสดที่ต้องดื่มเองเพราะอายุยังไม่ถึงด้วยตัวเองหมดเลยครับ" มีเทนอธิบายเพิ่มเติมเพราะดูจากท่าทางแล้วอาจจะไม่อยากบอกว่าทำอะไรได้เยอะเกินไปหรือเปล่า หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เขาซึ่งเป็นพ่อบ้านขององค์จักรพรรดิควรชี้แจงให้ถูกต้องมากกว่า

"ลูกทำได้ยังไงอะลูก แม่ยังทำไม่เป็นเลย"

"พอดีว่าแม่ผมสอนมาครับ พวกเราเปิดร้านทำขนมแล้วผมเป็นคนทำขนมกับลูกมือช่วยปรุงเครื่องดื่ม แต่อาหารหลักจะเป็นแม่ครับ ผมทำอาหารจานหลักไม่เป็นครับ"

"เท่านี้ก็เก่งมากแล้วครับคุณชายจีน ผู้ชายของจักรวรรดิส่วนใหญ่ทำอาหารไม่เป็นหรอกครับ ยกเว้นพ่อบ้านเท่านั้น" มาร์แชลบอกเนื่องจากพวกเขาถูกสอนมาให้รบเก่งกว่าการทำอาหารแบบนี้

"ครับ ผมว่ารับประทานอาหารกันครับ เดี๋ยวของกินเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะครับ"

บรรยากาศในการรับประทานเงียบสงบกว่าที่เขาคิดไว้มากนัก นึกว่าพี่คีย์กับคุณบลัฟจะพูดจาแดกดันเหมือนที่เขาเคยเห็นเสียอีก แต่เหมือนต่างคนต่างสงวนท่าทีของตนเองไว้แล้วรอดูว่าใครจะเริ่มก่อนมากกว่า ไม่แปลกที่จะถูกเลี้ยงมาอย่างดี แม้แต่ตอนจะสู้กันยังมีชั้นเชิงแบบนี้

"ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ ฝันดีครับท่านพี่"

"ฝันดี กระรอกน้อย"

ในขณะที่ร่างสูงจะกลับไปยังห้องนอนของตนเอง ก็มีเสียงเอ่ยเรียกไว้เสียก่อน

"ข้าขอคุยอะไรกับรัชทายาทสักหน่อยได้ไหมพะยะค่ะ"

"ได้สิ ข้าเองก็อยากจะคุยกับเจ้าอยู่เหมือนกัน" เขาเองก็ปรารถนาเช่นนั้นเหมือนกัน

"ข้าไม่ได้พูดเล่น ข้าชอบคุณชายจีนจริงๆ " อีกฝ่ายเอ่ยความต้องการของตนเองออกมาอย่างเปิดเผย

"ข้าเองก็ชอบกระรอกน้อย แล้วกระรอกน้อยก็คือคนในคำทำนาย ยังไงเจ้าก็ไม่มีทางพรากเนื้อคู่ของข้าให้ไปอยู่กับเจ้าได้หรอกนะ" เพราะว่าเขาถือไพ่เหนือกว่าตั้งแต่แรกแล้วยังไงล่ะ

"ไม่รู้สิ ของยังงี้ต้องให้คุณชายจีนตัดสินใจถึงจะถูก"

"กระรอกน้อยไม่มีทางเลือกเจ้าอยู่แล้ว"

"ดูมั่นใจจังเลย รัชทายาท"

"เพราะว่าข้าเห็นท่าทีของกระรอกน้อยตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งวันนี้ เจ้าไม่มีทางปกป้องเขาได้อยู่แล้ว"

"ข้าอยากทราบว่าทำไมถึงเรียกคุณชายจีนว่ากระรอกน้อยครับ"

"พวกเราเจอกันวันแรก จีนมีท่าทางสั่นเกร็ง แววตาหวาดกลัวทุกสิ่ง แต่ก็ไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากใคร ซึ่งเป็นวิสัยของกระรอก ส่วนคำว่าน้อยนั้นมาจากที่เขายังเด็กกว่านั่นเอง มีอะไรจะถามอีกไหม คุณชายจากตระกูลมาร์แชล"

"เรียกข้าซะเต็มยศแบบนี้ ข้าเขินแย่เลยพะยะค่ะ"

"ข้าชอบกระรอกน้อยตรงไหน เพราะตัวตน ฐานะ หรือว่าเพราะเลือด"

"หมายความว่ายังไง รัชทายาท"

"ข้าชอบกระรอกน้อยคนนี้คนเดียวเท่านั้น ไม่ได้ชอบเพราะกลิ่นเลือด ไม่ได้ชอบเพราะฐานะ หรือเพราะว่าเขาแปลก แต่จะต้องเป็นคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น ข้าจะไม่แต่งงานกับคนอื่นเด็ดขาด"

"ไว้จะกลับไปคิด ว่าข้าชอบคุณชายจีนเพราะอะไรกันแน่ เพราะว่าไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ท่าทางการต่อสู้แบบเอาตัวรอดยิบตาแบบนั้นประทับใจข้ามากจริงๆ ครับ"

"เจ้าชอบกระรอกน้อยที่สามารถเอาตัวรอดได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะกลิ่นเลือด กลับไปนอนคิดมาให้ดีๆ คุณชายตระกูลมาร์แชล" เขาว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะรู้ด้วยซ้ำว่าชอบกระรอกน้อยในฐานะไหน แล้วจะมาดูแลคู่หมั้นของเขาได้ยังไงกัน คนที่จะดูแลได้ต้องเป็นเขาเท่านั้น

"ขอรับ รัชทายาท"

"ฝันดี"

"ฝันดีพะยะค่ะ"

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status