แชร์

Five Time

เปลือกตาสวยกลมโตกระพริบตาสองสามครั้งเมื่อสายแดดส่องมายังห้องนอนของเขา เวลานี้ถือเป็นเวลากลางวันซึ่งไม่ใช่วิสัยของแวมไพร์ที่จะตื่น ทั้งวังก็คงจะเงียบน่าดูเลยทีเดียวเชียว ร่างบางลุกขึ้นมาอาบน้ำชำระร่างกายตามพฤติกรรมของมนุษย์ทั่วไป ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในจักรวรรดิก็เถอะ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีจะคล้อยตามนอนกลางวันแล้วตื่นในเวลากลางคืนแบบนั้น

แกร๊ก!

"อรุณสวัสดิ์ กระรอกน้อยของพี่" คีย์เอ่ยทักด้วยรอยยิ้มเหมือนเคยแต่ติดตรงที่ว่าทำไมถึงได้ตื่นเช้าแบบนี้กันนะ มันไม่ใช่เวลาของแวมไพร์ไม่ใช่เหรอ

"อรุณสวัสดิ์ คุณชายจีน" มาร์แชลเอ่ยทักทายยามเช้าอีกคน ยิ่งทำให้น่าสงสัยกันเข้าไปใหญ่เลยว่าคนใหญ่คนโตของที่นี่เขาไม่รู้จักทำงานทำการกันหรือยังไงนะ

"ตื่นเช้าดีนะครับ มาทำอะไรกันหน้าห้องผมแต่เช้าเลย" เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัย ดวงตากลมโตฉายแววฉงนอย่างเห็นได้ชัด คอที่เอียงไปมานั้นบ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็นเป็นเท่าตัว การกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาของรัชทายาทแห่งบีเลอและคุณชายแห่งมาร์แชล ถ้าไม่ได้มีร่างกายที่ดูออกจะแข็งแรงเหมือนคนออกกำลังกายรวมถึงส่วนสูงและสรีระที่เหมือนผู้ชายแต่ก็ไม่ใช่ผู้ชายซะทีเดียว

เรียกว่าเป็นหุ่นที่ไม่ได้ฟิตเพื่อความสวยงาม แต่มันถูกดูแลมาให้ใช้ในการออกกำลังกายเสียมากกว่า และความทะมัดทะแมงนั่นแล้วเป็นของจริงอย่างแน่นอน พวกเขายังจับเหตุการณ์งานเลี้ยงเมื่อวันก่อนได้เป็นอย่างดีว่า ความสามารถในการต่อสู้ถือว่าสมบูรณ์แบบมาก

"ข้ามาชวนไปข้างนอก ไปกับข้าไหมกระรอกน้อย"

"ไปอ่านหนังสือกับข้าไหม คุณชายจีน"

"ท่านพี่ครับ คุณบลัฟครับ พวกคุณเป็นแวมไพร์ต้องนอนในเวลากลางวันแล้วตื่นกลางคืน แล้วดูท่าเมื่อวานพวกคุณจะนอนตามผมก็จริง แต่ไม่มีทางที่จะนอนหลับได้หรอกครับ การจะเปลี่ยนแปลงอะไรโดยใช้เวลาสั้นๆ มันไม่ได้หรอกครับ ไปนอนกันทั้งคู่เลยครับ" จีนบอกเสียงเรียบแต่ดูทรงพลัง เขาไม่ได้บังคับแต่เขาจงใจให้ทำตามโดยการคิดเสียมากกว่า

"กระรอกน้อย ข้านอนพร้อมกระรอกน้อยนะ เพราะว่าเมื่อวานก็เหนื่อยมากเลยหลับตามแล้วก็นอนได้ไม่กี่ชั่วโมงข้าก็ตื่นก่อนนิดหน่อยเอง" เสียงทุ้มต่ำตอบพลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเหมือนเป็นเชิงยอมแพ้เขา ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้ผิดอะไรเสียหน่อย

"ข้าเองก็นอนพร้อมคุณชายจีนเหมือนกัน แต่ว่าก็ตื่นเร็วเหมือนรัชทายาท มันไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่กับการนอนไวแต่พอนอนได้ครับ" มาร์แชลเองก็รีบแก้ตัวแล้วยกมือขึ้นทั้งสองข้างไม่ต่างจากคีย์สักเท่าไหร่

"พวกคุณนี่มันจริงๆ เลยนะครับ แล้วบรรยากาศในวังเงียบแบบนี้ผมว่าหลับกันหมดแน่นอน หิวอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมทำอาหารง่ายๆ ที่พอจะทำได้ครับ คือจะสั่งแบบหรูหราไม่ได้นะครับ ผมทำเป็นแต่ขนมกับของกินเล่นนิดหน่อย ส่วนอาหารหลักได้ไม่กี่อย่าง" เขาบอกพลางทำท่าห้ามไว้ก่อนที่ใครจะสั่งอะไรที่มันยากเกินความสามารถของเขา

"กระรอกน้อยทำอะไรมา ข้ากินได้หมดเพราะว่ามันอร่อยทุกอย่าง" คีย์ตอบด้วยสีหน้าปกติเพราะว่าเขายังจับรสชาติขนมที่อีกฝ่ายทำได้เป็นอย่างดี มันทั้งนุ่มและหอมหวานมากๆ ร้านที่เปิดขายอีกโลกหนึ่งจะต้องขายดีอย่างแน่นอน ในเมื่อมีปาร์ชิเย่ทำขนมเก่งขนาดนี้

"ข้าจะรอนะ" มาร์แชลเองก็ขานรับและไม่ยอมแพ้อีกฝ่ายเหมือนกันถึงแม้ว่าจะเป็นรัชทายาทก็ตาม

ร่างสูงโปร่งไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดต่อ เขาเดินไปยังห้องทำอาหารภายในวังทันทีและเป็นห้องเพียงไม่กี่ห้องที่เขาจำได้ในตอนนี้ ถ้าจะให้ดีอยากให้มีป้ายติดไว้หน้าห้องว่าเป็นห้องอะไรมันจะเป็นการดีมาก เพราะมันกว้างขนาดนี้ใครจะไปจำได้ว่าห้องไหนเป็นห้องไหน มือขาวล้างน้ำสะอาดเตรียมทำอาหารให้กับบุคคลที่ไม่น่าจะตื่นทั้งสองและตนเองเป็นมื้อเช้าทันที

"อาหารมาแล้วครับ ลองชิมกันได้เลย" จีนเดินออกมาพลางวางของกินลงทีละคน แล้ววางอุปกรณ์ในการกินของกินแต่ละอย่างได้อย่างรวดเร็ว

"ข้าว่าน่าจะจ้างกระรอกน้อยเป็นพ่อบ้านแทนเมล์นะ ทำงานได้คล่องแคล่วมากเลย" คีย์เอ่ยชมพลางชิมอาหารทันที

"แต่ข้าคิดว่าน่าจะมาเป็นภรรยาของข้ามากกว่า ทำอาหารเก่ง ต่อสู้ได้ ฉลาดหลักแหลมแบบนี้" ดูท่าว่าครั้งนี้คีย์จะเสียเปรียบในการชมและทำให้ร่างสูงโปร่งเขินเพราะถูกมาร์แชลนำหน้าไปเสียแล้ว

"อาหารในวันนี้คือ Wiener Schnitzel เป็นต้นกำเนิดอาหารของประเทศออสเตรเลียในโลกของผม ไก่ชุปแป้งทอดเนื้อนุ่ม แฟรน์ฟรายทอดกรอบนอกนุ่มใน มะเขือเทศสดสองสามลูก มะนาวสไลด์บางๆ และซอสมะเขือเทศพอเหมาะ คู่กับน้ำสตอรเบอร์รี่ผสมเบอร์รี่ที่หวานซ่อนเปรี้ยว ขนมในวันนี้ผมทำเป็นชิฟฟ่อนเค้กนมสดที่หวานกว่าปกติเพื่อที่กินคู่กับน้ำผลไม้แล้วจะไม่รู้สึกเปรี้ยวเกินไปหรือหวานเกินไป พูดง่ายๆ ว่าของกินทั้งหมดผมทำมาให้กินแล้วไม่เลี่ยนต่อกันครับ"

"เป็นอย่างที่กระรอกน้อยบอกจริงๆ ข้าลองชิมทุกอย่างแล้ว มันดูเข้ากันได้ดีไปหมดเลย ทำเก่งขนาดนี้ให้ข้าเปิดร้านทำขนมให้ไหม ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นโลกของแวมไพร์แต่พวกเราก็กินอาหารปกติได้เหมือนกันนะ" คีย์เอ่ยถามทันทีเพราะว่าฝีมือแบบนี้ถือว่าหาได้ยากมาในโลกของเขา ส่วนใหญ่จะหนักไปทางอาหารและเครื่องดื่มก็จะเป็นเลือดมนุษย์เสียมากกว่า ได้กินอะไรแบบนี้นานๆ ทีก็อร่อยไม่น้อยเลยทีเดียว

"หรือว่าจะทำงานในส่วนห้องเครื่องของทางพระราชวังหลวงดีไหมคุณชายจีน รับหน้าที่ดูแลเครื่องเคียงที่เหมาะสมสำหรับอาหารในแต่ละมื้อ และจัดให้เป็นอาหารหลวงในราชพิธีแบบนี้ดูเป็นยังไง" มาร์แชลถามเหมือนกันแต่เป็นหน้าที่คนละอย่างกัน เพราะว่าถ้าให้จีนออกไปข้างนอกก็เกรงว่าจะมีคนมาหลงรักเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมน่ะสิ แค่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะสู้ได้ไหมเลย

"ตอนนี้ผมว่ารับประทานอาหารกันก่อนดีกว่าครับ เรื่องอื่นผมยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร เพราะว่าถ้าเทียบเรื่องอายุแล้ว ผมเองก็เพิ่งจะขึ้นม.ปลายเองครับ ยังเรียนไม่จบเลยด้วยซ้ำ" เขาพูดพลางคิดไปด้วยว่าที่เขามาถึงที่นี่มันเพราะเหตุบังเอิญ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกลับบ้านยังไง แต่ในเมื่อมาอยู่แล้วก็มีแต่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับที่นี่เท่านั้นล่ะนะ

เสียงนกสื่อสารบินเข้าวังหลวงมายังห้องอาหารที่ทุกคนกำลังรับประทานกันอยู่ ขาทั้งสองข้างหย่อนจดหมายลงที่ตักของมาร์แชลอย่างพอดิบพอดี มือหนาเปิดอ่านจดหมายด้วยท่าทีปกติแต่เนื้อหาความในจดหมายนั้นทำให้เขาถึงกับต้องกุมขมับเพราะเนื้อหาของมันไม่สู้ดีนัก

"คุณชายจีน ข้าว่าข้าคงต้องรีบกลับแล้วล่ะ" มาร์แชลบอกด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดแตกต่างจากท่าทีที่เล่นของเจ้าตัวในตอนแรกมากนัก

"มีอะไรหรือเปล่ามาร์แชล" คีย์ถามด้วยความสงสัย

"มีอะไรหรือเปล่าครับคุณบลัฟ ยังกินไปนิดเดียวเองนะครับ" เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ยังไงบลัฟเฟอร์ก็ถือว่าเป็นแวมไพร์ที่ไว้ใจได้ในความคิดของเขา

"หมู่บ้านบนเขาทางใต้ที่ผมดูแลอยู่น้ำจะท่วมครับ และท่วมเป็นวงกว้างด้วย" มาร์แชลพยายามสกัดกั้นอารมณ์ไม่ให้ใจร้อนเพราะความเป็นห่วงประชาชนของเขา

"รีบเดินทางเลยไหม เดี๋ยวข้าเรียกเมล์ให้เลย" คีย์ถามเพราะว่ามาร์แชลจำเป็นต้องมีคนช่วยในการเดินทาง

"ข้าคิดว่าข้าจะรีบเดินทางตอนนี้เลย"

"ถึงแวมไพร์จะบินได้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปทั้งที่ไม่ได้เตรียมการอะไรแบบนี้ โรงเรียนไม่ได้สอนให้เจ้ารู้จักควบคุมสติหรอกเหรอ ได้ข่าวว่าเป็นนักเรียนดีเด่นของรุ่นนะ อย่าลืมสิ่งที่เรียนมา หรือว่าเจ้าเรียนจบมานานเกินไปจนลืมมัน" คีย์เริ่มเตือนทันทีเพราะเหมือนว่าคุณชายแห่งมาร์แชลจะลืมสิ่งสำคัญไปเสียแล้ว

"เดี๋ยวผมไปด้วยครับ รอเก็บของแล้วเดี๋ยวจะห่อให้เลย" พูดไม่ทันขาดคำ มือขาวรวบของกินทั้งหมดใส่รถเข็นแล้วกระตุกผ้าปูเพื่อให้อุปกรณ์การกินทั้งหมดไหลลงมาทางเดียวกันเพื่อง่ายต่อการเก็บ พลางเอี้ยวตัวไปรับแจกันที่ลอยขึ้นฟ้าแล้ววางที่โต๊ะเหมือนว่าเคยทำอยู่แล้ว เท้าข้างหนึ่งยกขึ้นบนรถเข็นอาหาร อีกข้างหนึ่งยันที่พื้นแล้วออกแรงถีบเพื่อให้ถึงห้องครัวให้เร็วที่สุด ทั้งคีย์และมาร์แชลตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสามารถทำอะไรรวดเร็วแบบนี้ได้

"เมื่อกี้รัชทายาทเห็นเหมือนที่ข้าเห็นไหม" มาร์แชลถามเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับสายตาของตนเองอีกครั้ง

"เห็นสิ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ถือว่าโชคดีมากที่มีอายุยืนยาวแบบนี้" คีย์ตอบพลางมองตามด้วยรอยยิ้ม ดูจากพฤติกรรมของกระรอกน้อยแล้วน่าจะคล่องตัวในการเก็บของอย่างเร็วเหมือนที่เคยทำตามกิจการของที่บ้านอย่างแน่นอน ชักจะสงสารเสียแล้วที่ไม่ได้พบกับครอบครัวอีก

"แต่ว่าเมื่อกี้เหมือนคุณชายจีนพูดว่าจะไปด้วยเลยนี่ รัชทายาทยอมเหรอ"

"ข้าก็แค่ตามไปด้วย ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน"

"ดูจากสายตาแล้วเหมือนจะมีอะไรให้คิดนะ"

"ไม่รีบแล้วเหรอ ไปเก็บของดีกว่าไหม"

"นั่นสิ ข้าไปก่อนนะ"

ทั้งสามคนต่างแยกย้ายไปเก็บของตนเองรวมถึงคีย์ก็ไปปลุกเมล์ให้รีบตามไปกับเขาด้วย ยังไงไปสองคนดีกว่าคนเดียว เผื่อมีเหตุการณ์อะไรไม่น่าไว้ใจจะได้ช่วยเหลือกันทัน เพราะว่ากลิ่นเลือดของกระรอกน้อยไม่ได้หอมธรรมดา แต่มันหวานเสียจนใครอยู่ใกล้ๆ ก็อยากฝังคมเขี้ยวกันทั้งนั้น ขนาดเขาที่ว่าอดทนเก่งยังอยากจะกัดคอสักครั้งเลย

ของกินที่ถูกห่อเป็นอย่างดีถูกแจกจ่ายให้กับคนที่อยู่ภายในรถม้าทั้งหมด แม้แต่เมล์เองร่างบางก็ไม่ลืมที่จะทำอะไรง่ายๆ ให้กินรองท้องไประหว่างด้วย

"คุณชายจีนเก่งมากเลย สามารถทำของกินระหว่างการเดินทางได้ด้วย" เมล์เอ่ยชมทันทีพลางชิมของกินที่ได้มาด้วย

"ผมว่าปกตินะครับ ที่บ้านผมก็ทำแบบนี้" จีนบอกด้วยรอยยิ้มที่หวานจนคนข้างๆ ไอเสียงดังแล้วมือขาวรีบหยิบน้ำให้ดื่มตามประสาเด็กซื่อที่คิดว่าคนอายุมากกว่าสำลักจริงๆ

"อยากจะแกล้งไอเพื่อให้คนมาเป็นคนห่วงจังเลย" มาร์แชลแอบเหน็บพลางมองตามด้วยความอิจฉา เขาไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของรัชทายาท

"แกล้งอะไรเหรอครับ คุณบลัฟหิวน้ำเหรอ เดี๋ยวผมหยิบให้"

"ขอบคุณ"

"งานนี้ใครดีใครได้ล่ะนะ มาร์แชล"

"เหมือนว่าคุณชายจีนจะอยู่ท่ามกลางสงครามประสาทยังไงชอบกล"

"ผมว่าสนใจเรื่องเหตุการณ์น้ำดีกว่าไหมครับ รีบกินแล้วรีบดูกันดีกว่าว่าควรแก้ปัญหายังไงดี"

มือขาวไม่พูดเปล่าพลางหยิบจดหมายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมาอ่านด้วย ดวงตากลมโตค่อยๆ ทำความใจกับเนื้อหาและอ่านอย่างตั้งใจ แต่ก็มีคนขัดขึ้นมาเสียก่อน

"คุณชายจีน นั่นมันภาษาปีศาจ คุณชายอ่านไม่ได้หรอก" เมล์รีบแย้งพลางจะแย่งจดหมายของมาร์แชลกลับมา

"ช่วยเงียบก่อนได้ไหมครับ" เสียงหวานเอ่ยขัดออกมายังไม่สบอารมณ์ เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งคุณชายและรัชทายาทเป็นอย่างดี สำหรับมาร์แชลแล้วคงไม่ได้แปลกใจเพราะคิดว่าน่าจะเป็นลูกขุนนางหรือลูกบุญธรรมของทางฝั่งแม่เขา แต่สำหรับเขาแล้วที่เคยเป็นเพื่อนกับปู่ของเด็กคนนี้ เขาคิดว่ามันคือความสามารถทางสายเลือดที่ติดตัวเด็กคนนี้มา

"ดูจากที่เขียนมาแล้วคนน่าจะเดือดร้อนกันเยอะเลยนะครับ" จีนเริ่มพูดถึงเหตุการณ์น้ำท่วมบนเขา

"ใช่ ข้าจะรีบไปดูให้เร็วที่สุด"

"นี่ก็ใช้ค้างคาวเหาะมาแล้ว จะมีอะไรไว้ไปกว่านี้อีกล่ะ"

"พอใกล้ถึงสถานที่แล้วข้าจะบินไปดูบนภูเขาทันที เป็นห่วงประชาชนเพราะเขตนั้นเป็นเขตแดนของมนุษย์ในจักรวรรดิ"

"ท่านพี่ครับ พาผมลงไปด้วยไหมครับ" จีนพูดพลางหันมามองด้วยสีหน้าออดอ้อน มือขาวยกมากุมมือหนาเอาไว้แล้วยกขึ้นมาให้อยู่ในระดับอกของเขา ใจของคีย์เต้นไม่เป็นจังหวะและไม่เคยตื่นเต้นกับอะไรมาก่อน เด็กคนนี้มันน่ารักน่าฟัดจริงๆ

"นะครับ" เมื่อไม่ได้รับคำตอบ ใบหน้าหวานวางลงบนมือหนาพลางมองด้วยสายตาเป็นประกาย คีย์เพิ่งจะเข้าใจวันนี้เองสิ่งมีชีวิตที่ 'น่ารัก' เป็นแบบนี้นี่เอง

"ได้ ข้าจะพากระรอกน้อยลงไปนะ" เขารีบตอบตกลงก่อนที่อีกฝ่ายจะอ้อนอะไรไปมากกว่านี้ แค่นี้เขาก็จะไม่ไหวแล้ว อย่าเพิ่งน่ารักไปมากกว่านี้เลยนะ

มาร์แชลเป็นคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความท้อแท้ นี่เขากำลังจะอกหักสินะ ดูจากการกระทำของจีนแล้วเหมือนเขาจะเข้าไปในใจของอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะสามารถให้เขาพาลงไปก็ได้แต่เลือกที่จะอ้อนรัชทายาทแทนแบบนี้ มันบ่งบอกแล้วว่าเด็กคนนี้เลือกใคร

"รัชทายาท"

"ว่าไง"

"ข้าคิดว่าแพ้รัชทายาทแล้วล่ะครับ เห็นแบบนี้แล้วไม่น่าจะเข้าไปแทรกตรงไหนได้เลย"

"หึ! อันนี้ข้าไม่ได้สอนนะ"

"อืม ข้ารู้"

"ใกล้ถึงสถานที่เกิดเหตุแล้วพะยะค่ะ" เมล์เอ่ยขัดทั้งสองก่อนเพราะว่ามองดูจากข้างล่างคือใกล้ถึงแล้ว

"ถ้างั้นข้าลงไปก่อนนะ ยังไงก็ตามลงมานะคุณชายจีน"

"ครับ คุณบลัฟ"

แกร๊ก!

เสียงเปิดประตูเหนือท้องฟ้านั้นทำให้ลมด้านบนที่พัดแรงเข้ามาภายในรถ ร่างกายกำยำของมาร์แชลกระโดดลงไปอย่างไม่ต้องคิด เพราะว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางร่วงลงสู่พื้นดินง่ายๆ อยู่แล้ว ปีกสีดำขนาดใหญ่สยายออกทันที

"เจ้าเอารถไปบ้านครอสแล้วกัน ข้าจะพากระรอกน้อยไปดูสถานการณ์ข้างล่าง"

"พะยะค่ะ รัชทายาท"

"พร้อมนะ ข้าขออุ้มหน่อยนะ" ว่าแล้วมือหนาก็รวบร่างสูงโปร่งมาไว้กับตัวแล้วกระโดดตามมาร์แชลลงไปทันที เขารอให้ได้ความสูงที่พอเหมาะแล้วสยายปีกของตนเองออกมาความยาวของปีกบ่งบอกถึงพละกำลังได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

"สนุกจังเลยครับ ฮู้! " ดูเหมือนว่ากระรอกน้อยของเขาจะสนุกมากกว่ากลัวเสียอีกนะ หมั่นเขี้ยวเสียจริง

จุ๊บ!

ริมฝีปากหนาก้มลงมาหอมแก้มนวลด้วยความหมั่นเขี้ยว ส่งผลให้อีกคนถึงกับผงะเหมือนจะถอยหลังแต่ว่าตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนอยู่บนฟ้าไม่ใช่พื้นดินทำให้จีนหนีไปไหนไม่ไกลเกินอ้อมกอดของเขาแถมยังยกมือขึ้นมาปิดแก้มตนเองอีกด้วย สายตาคมมองดูก็รู้ว่าคนที่อยู่ในอกเขาตอนนี้เขินมากแค่ไหน

สีหน้าของจีนตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อไม่รู้ว่ามาจากลมที่แรงหรือว่าเพราะความเขินกันแน่ แต่เขารู้ว่าทั้งหมดนั้นมันมีสาเหตุมาจากคนที่กำลังอุ้มเขาลงไปข้างล่างต่างหาก ทำไมถึงได้มาหอมกันแบบนี้ เขาเป็นผู้ชายนะ ผู้ชายต้องชอบผู้หญิงสิ จะมาชอบเขามันไม่ได้นะ คีย์ทำไม่ถูกต้อง แต่เหมือนว่าเขาจะยังไม่มีเวลาคิดอะไรมากนัก เพราะว่าทั้งคู่ลงมาสู่พื้นดินหรือยอดเขาที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"ไหนข้าขอดูหน้าหน่อยสิ ไม่สบายหรือเปล่า หื้ม" มือหนาประคองใบหน้าหวานขึ้นมาราวกับจะตรวจดูว่าไม่สบาย หรือเจ็บปวดตรงไหนไหม หรือจะเพราะว่าลมบนฟ้ามันแรงจนเกินไปนะ เขาบินมาตลอดเลยไม่ค่อยรู้เสียด้วยสิ

"ผมปกติดีครับ แต่ผมจะไม่ปกติเพราะว่าท่านพี่จับหน้าผมอยู่แบบนี้ครับ" จีนพยายามประคองเสียงไม่ให้สั่นเพราะความเขินหนักกว่าเดิม เขายังไม่หายเขินจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี่เลย

"อ้าว ทำไมล่ะ ข้าเป็นห่วงกระรอกน้อยมากนะ" คีย์เริ่มมีสีหน้าที่หม่นลงอย่างเห็นได้ชัด ทำไมกระรอกน้อยต้องทำเหมือนรังเกียจเขาแบบนี้ด้วย เขาเป็นห่วงคนตรงหน้ามากๆ นะ ยิ่งเผ่าพันธ์ต่างกัน ความแข็งแรงจะแตกต่างออกไปด้วย

"ผมขอโทษครับ คือว่าผม..."

"ผม..." คีย์พยายามพูดตามเพื่ออยากรู้ว่าคนตรงหน้ารังเกียจเขาหรือเปล่า

"ผมรู้สึกแปลกๆ ครับ"

"แปลกยังไงครับ บอกอาการมาหน่อยได้ไหม"

"ใจผมเต้นแรงมาก ผมเหมือนคนที่หอบเพราะออกกำลังกายมาอย่างหนักเลยครับ"

"แล้วจะเป็นตอนไหน"

"เป็นตอนอยู่กับท่านพี่ ตอนที่เข้ามาใกล้ๆ แล้วหน้าผมจะแดงมากกว่าเดิมครับ"

"งั้นข้าคิดว่าข้ารู้สาเหตุของกระรอกน้อยแล้วนะ"

"จริงเหรอครับ! ผมเป็นอะไรเหรอครับท่านพี่ บอกผมมาเถอะนะครับ ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ก็สองสามวันแล้ว ผมไม่สบายใจเลยครับ หรือว่าผมจะป่วยหนัก หรือผมจะต้องหาหมอ หรือผมจะต้องนอนโรงพยาบาลด้วยครับ..." เสียงหวานรัวคำถามมากมายออกมาไม่หยุด เขาทั้งกังวลและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แล้วถ้าต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วใช้สิทธิอะไรในการรักษาล่ะ เขาไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวเลยนะ

"ฟังข้านะ กระรอกน้อย" ดวงตากลมโตมองหน้าร่างสูงด้วยความตั้งใจเหมือนเด็กที่กำลังฟังผู้ใหญ่อธิบายยังไงยังงั้น

"ครับ"

"กระรอกน้อยไม่ได้ป่วย ไม่ได้เป็นอะไรเลย"

"..."

"กระรอกน้อยก็แค่...เขิน"

"..."

"แล้วข้าก็จะขอคิดเข้าข้างตัวเองว่ากระรอกน้อยกำลังสารภาพรักกับข้า โดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิด"

"..."

"ซึ่งการทำแบบนี้ ข้าชอบ"

"..."

"และข้าก็ชอบกระรอกน้อยเหมือนกัน"

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status