จะเที่ยงคืนแล้ว อุษาขอตัวกลับเพราะต้องตื่นหกโมงเช้า แพทริคเลยจะขอตัวกลับด้วย แต่อุษากลัวเขากลับกับเธอ จึงบอกให้เขาอยู่ต่อเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องตื่นเช้าแบบเธอ แต่แพทริคก็พูดเหตุผลสารพัดที่จะกลับเหมือนกัน เจนนภัสจึงถือโอกาสเดินมาส่งอุษากับแพทริคที่รอ Uber มารับ
“อูฐมานี่ได้แค่สามวันได้เพื่อนใหม่ละ ก็ดีนะ เธอยิ่งไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่”
พูดจบก็โอบอุษาพร้อมกับลูบหลัง
“ว่าแต่ คุณแพทริคกลับดึกแบบนี้ แฟนไม่ว่าเหรอ”
เจนนภัสเจื้อยแจ้ว อุษารู้อยู่แล้วว่า เจนนภัสต้องการอะไร อุษาทำได้แค่ส่ายหน้าขำๆ
“ผมโสดนะ เลิกไปหลายคนแล้ว เงินเดือนผมน้อย รถก็ไม่มีขับ บ้านก็เช่า ใครจะมาสนใจ แต่ก็สบายดี อย่างมากก็แค่เหงา”
“คุณมีไอจีมั้ย คุณแพทริค”
“ไม่มี ผมเป็นพวก introvert”
อุษากลั้นขำสุดๆ เนียนจริงๆคนนี้
“ถ้าเหงาไม่มีเพื่อน มาร้านที่ฉันทำงานได้นะ ฉันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านที่ Rafael Bistro คุณเล่น W******p มั้ย?”
เป็นไงล่ะ? เจอซะบ้าง โดนต้อนโดนตื้อ จะได้เข้าใจความรู้สึกฉันมั่ง อุษาแอบเยาะเย้ยในใจ
“รถมาแล้ว ผมง่วงมากเลยตอนนี้ ลาก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่”
แพทริคตัดบทรีบชิ่งขึ้นรถ กวักมือเรียกอุษาให้ไว เธอบอกลาเจนนภัสก่อนขึ้นรถไปแบบงงๆ ไม่ได้บอกว่าจะไปด้วยกันสักหน่อย
“ไว้เจอกันใหม่เจน good night”
บนรถ อุษาเอาแต่หันหน้ามองไปนอกหน้าต่าง
“ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงทำเหมือนพวก stalker ทำตัวไร้มารยาทกับคุณ”
“เราดีลกันแล้วว่าคุณจะไม่รบกวนฉัน แต่เราร่วมงานกันได้ปกติ ฉันเคารพคุณแม่ของคุณและฉันเองก็ต้องเคารพคุณในฐานะหัวหน้างาน แต่รักษาระยะห่างกันดีที่สุด เชื่อฉัน”
ถึงโรงแรม อุษาลงจากรถตรงดิ่งไปที่ห้องโดยไม่หันมามองแพทริค เขาได้แต่มองด้านหลังของเธอเดินลับตาไป
ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ไม่เคยมองตามหลังใครตลอดแบบนี้ คาดหวังอะไร? เธอคงเกลียดเขาแล้ว แต่ที่ยังคุยด้วยเพราะแม่เขารับเธอมาทำงานสินะ จากนี้ต่อไป เธอคงห่างเหินเขามากกว่าเดิมไปอีก…
แพทริคขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนสุด ไซม่อนเลิกงานไปแล้วแต่เป็นโซเฟียที่ทำกะต่อจากเขา เมื่อเธอเห็นแพทริค เธอรีบโทรบอกเอมิเลียทันที ไม่นานนัก เอมิเลียใส่ชุดลำลองพร้อมเสื้อคลุมมาที่ฟร้อนท์
“เห็นมั้ยว่า คุณแพทริคมากับใคร”
“ไม่แน่ใจ เพราะคุณแพทริคไม่ได้ใช้รถ เหมือนมีคนมาส่ง”
เอมิเลียเดินออกไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ทางเข้าโรงแรม
“คุณเห็นคุณแพทริคมากับใครเมื่อกี้?”
“คุณแพทริคมากับผู้หญิงคนหนึ่งโดยแท็กซี่ แต่ตอนออกไปก่อนสามทุ่มก็ไปกับผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน เป็นคนเอเชีย”
เอมิเลียตาวาว ใจเต้นแรง
“ห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครทั้งนั้นในโรงแรม ถ้าเรื่องนี้มีคนเม้าท์กัน ก็ต้องมาจากคุณ”
แพทริคเมื่อถึงห้อง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาแอบถ่ายรูปเธอตอนนั่งรถแท็กซี่ รูปที่เธอนั่งหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างแท็กซี่ อย่างน้อยถึงเธอจะเกลียดเขา แต่ถ้าเขาทำดีกับเธอ เธอคงใจอ่อน มีเวลาปีนึง อย่างน้อยยอมเป็นเพื่อนเขาก็ยังดี
อุษาอาบน้ำจะเข้านอน ข้อความเจนนภัสส่งมา ถามว่าถึงห้องหรือยัง พออุษาพิมพ์ตอบไปว่าถึงแล้ว เจนนภัสโทรมาทันที
“อูฐ คุณแพริคเขาทำงานกี่โมงเหรอ? เขาน่ารักดีเนอะ สูง ตาโต ปากนิดจมูกหน่อย น่ารักอ่ะ”
“แต่ไม่มีรถนะ บ้านก็เช่า” อุษาพูดอำไปอีก
“เขาดูออร่ามากนะ ไม่เหมือนคนแบบ..ไม่มีเงินอ่ะ เขาใส่นาฬิกาแพงนะ ราฟาเอลบอก นั่นนาฬิกาของริชาร์ด มิลล์”
“ไม่รู้สิ ฉันไม่ถนัดเรื่องของแบรนด์ สมัยนี้ของปลอมก็เยอะไป”
“บ้าบอ แต่เธอเชียร์ฉันให้หน่อยสิ น๊า น๊าาาา”
เจนนภัสทำเสียงอ้อน อุษาเงียบ เพราะเธออยากรักษาระยะห่างกับเขาอยู่ แต่เพื่อนดันมาปิ๊งเขาซะงั้น
“อะไร หวงไว้เองเหรอ เงียบ คืออะไรอ่ะ”
“ตลกน่ะเจน เขาเป็นหัวหน้าฉัน ฉันพึ่งมาได้สามวันนะ”
“แล้วทำไมที่ร้าน เขามาหาเธอแล้วบอกไม่มีที่นั่ง นัดกันมาหรือไง ตอนกลับก็กลับ
ด้วยกัน”
“เจน ร้านนั้นใครก็รู้จัก คนเยอะไม่มีที่นั่ง เขาเห็นใครที่พอจะรู้จักก็ขอนั่งด้วย ที่กลับด้วยกันเพราะพักที่โรงแรมที่เดียวกัน นี่ตกลงฉันคือเพื่อนหรือนักโทษ? ฮึ”
“ตกลงไม่เชียร์ฉัน?”
“ถ้าเธออยากเจอเขาก็มานั่งเฝ้าเขาที่โรงแรมนี่ แต่ฉันขอไม่ยุ่งเรื่องนี้ ฉันลำบากใจ
เพราะเค้าเป็นหัวหน้า ไม่อยากไปก้าวล่วงหรือล้ำเส้นเขา ฉันนอนก่อนนะ ต้องตื่นเช้า”
“โอเค๊..good night เพื่อนรัก” เจนนภัสทำน้ำเสียงประชด
เอมิเลียตัดสินใจเคาะประตูห้องของแพทริค แพทริคถามว่าใคร?
“ฉันเอง คุณแพทริค”
แพทริคเปิดประตูห้อง แต่ไม่เชิญเธอเข้าไป เขายืนเปิดประตูค้างไว้แล้วคุยกับเธอ เสียงของเขาเฉยเมย สายตาว่างเปล่า เอมิเลียรู้สึกจุกในใจ
“ดึกแล้วไม่นอนพักเอมิเลีย มีอะไรหรือเปล่า?”
“ฉันแค่หวังดีเลยอยากจะพูดกับคุณ เรื่องผู้หญิงเอเชียคนที่คุณพึ่งไปข้างนอกกับเธอมา”
เอมิเลียรู้ว่าเขาอาจโกรธเธอได้ แล้วก็จริงตามนั้น…
“ทุกคนเคยมีอดีตที่ผิดพลาดนะเอมิเลีย ผมจะไม่ติดอยู่กับอดีตที่แม้แต่ผมก็ยังคาใจว่าผมเลวจริงมั้ย แล้วเป็นผมคนเดียวเหรอที่ผิด? ผมอายุ 34 ไม่ใช่ 14 ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด”
“คนเราผิดพลาดเรื่องเดิมๆถึงสองครั้ง แล้วอาจจะมีครั้งที่สามด้วย คุณว่านี่คือการเรียนรู้มั้ย คุณแพทริค” เอมิเลียย้อนเขาทันที
แพทริคจ้องเธอด้วยสายตาแข็งกระด้าง ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหม่นหมองมากกว่าเดิม เธอกระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้น้ำในตามันไหลย้อนลงไป
“ไปนอนซะ ที่ผมยังให้อภิสิทธิ์คุณอยู่ถึงขนาดมาตำหนิผมถึงห้อง เพราะผมรู้ว่าคุณหวังดีกับผมเสมอมาหรอกนะ”
เขาปิดประตูโดยไม่สนใจว่าเอมิเลียจะพูดอะไรต่อไหม
ใช่สินะ ฉันมันแค่คนที่คอยตามล้างตามเช็ดสิ่งที่คุณทำเอาไว้มาตลอด ไม่มีค่ามากไปกว่านั้น..
อุษามาทำงานก่อนเวลาเข้างาน 10 นาที ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพอดีตัว กางเกงยีนส์เข้ารูป รองเท้าส้นเตี้ย วันอาทิตย์ใส่ชุดอะไรก็ได้ เธอเลยเลือกแนวสบายๆแต่เรียบร้อย อุษาเช็กงานและถามปัญหาของช่วงกลางคืนที่ฟร้อนท์ สั่งให้โซเฟียแจ้งเดเนียลให้รอเธอเพื่อคุยเรื่องสั่งดอกไม้ใหม่ที่ล็อบบี้ทั้งหมด เพราะเริ่มดูเฉาแล้ว รวมถึงให้ใช้น้ำหอมอโรม่าปรับอากาศในบริเวณล็อบบี้และฟร้อนท์ ซึ่งอุษาคิดว่าจะลองหากลิ่นใหม่ดู กลิ่นที่มีอยู่ ดูอบอวลชวนเมาได้เหมือนกัน เธอเดินดู โซฟาและพรมที่ล็อบบี้ แล้วก็เห็นรถสีเขียวจอดอยู่
เอ๊ะ..เขาอยู่ที่นี่เหรอ ช่างเถอะ ขอให้ไม่ต้องเจอก็พอ…
อุษาส่งข้อความไปชวนโรสมาเรีย ให้มาทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหาร ทั้งสองเจอกันและไปตักอาหารด้วยกัน
“สวัสดีตอนเช้าโรส เธอหยุดวันไหน”
“พรุ่งนี้ ฉันหยุดวันจันทร์ เพราะหัวหน้าบอกคนไม่ค่อยเยอะ เลยให้หยุด”
โรสมาเรียชวนอุษาไปนั่งที่ห่างจากคนอื่น
“ฉันได้ยินพวกพนักงานสัมภาระกับแคชเชียร์นั่งเม้าท์กันวันก่อน ที่หน้าห้องพักพนักงาน แล้วยิ่งพอเธอมาถามเรื่องคุณแพทริค ฉันถึงเป็นห่วงเธอ”
“พูดถึงฉันงั้นเหรอ?”
อุษาพูดเสียงปกติพร้อมตักอาหารเข้าปาก โรสมาเรียแปลกใจที่อุษาไม่กะตือรือร้นที่รู้ว่ามีคนนินทา ค่อนข้างเฉยและตั้งอกตั้งใจกินมื้อเช้า
“งั้นฉันไม่พูดอ้อมค้อมนะอุษา เธอต้องระวังเอมิเลียไว้ โดยเฉพาะการอยู่ใกล้หรือสนิทสนมกับคุณแพทริค”
“อ่าฮะ นี่คงเป็นเหตุผลที่เอมิเลียพูดไม่ไว้หน้าฉันเมื่อสองวันก่อนสินะ”
อุษาส่ายหน้าแล้วยิ้ม
“ไม่ต้องห่วงหรอกโรส เพราะทุกอย่างฉันไม่ได้เป็นคนเริ่ม ที่เหลือนั่นก็ตัวใครตัวมันแล้วล่ะ”
“งี้นะอุษา ฉันไม่ได้ต้องการนินทาบอสหรืออะไร แต่หัวหน้าฟร้อนท์สองคนแล้วที่ต้องออกจากงานไป คนลือกันว่าเพราะคุณแพทริคเป็นต้นเหตุ แต่สองคนนั้นที่ออกไปต่างก็มีปัญหากับเอมิเลียด้วย นี่แหละที่ทุกคนไม่อยากคาดเดาอะไร”
โรสมาเรียพูดจบ กวาดสายตา กลัวว่าเอมิเลียจะมา อุษาเลยพูดขึ้นมาหลังเธอรวบช้อนส้อมเพราะทานเสร็จแล้ว
“สรุป เอมิเลียมีซัมติงกับบอส แล้วก่อนนี้บอสอาจจะไปเจ้าชู้ใส่สองคนนั้นเลยโดนเอมิเลียหึงจนต้องออกไปสินะ ไม่ต้องกังวลไปโรส ฉันรู้ตัวเองว่าทำอะไรอยู่ ฉันสนใจแค่งานกับเงินเท่านั้น”
อุษายิ้มให้แล้วลุกออกไปสักพักหนึ่งแล้ว โรสมาเรียยังนั่งกินอยู่คนเดียว ปัดโทรศัพท์ดูนั่นนี่ จนกระทั่งมีใครบางคนมานั่งข้างเธอ
“ได้เพื่อนใหม่แล้วสินะ โรสมาเรีย”
ทันที่ที่โรสมาเรียได้ยิน เธอไม่แสดงอาการอะไร แค่ยิ้มเท่านั้น เอมิเลียยิ้มตอบ
“ฉันหวังให้เพื่อนใหม่ของเธอทำงานที่นี่อย่างมีความสุขไปจนครบสัญญาว่าจ้าง เธอเองก็คงอยากให้เพื่อนใหม่มีความสุขกับที่นี่ใช่มั้ย” เอมิเลียพูดจบพร้อมจิบกาแฟ
“แล้วถ้าเพื่อนใหม่ของฉัน เธอจะมีความสุขกับที่นี่..มากๆ คุณจะยินดีกับเธอมั้ย”
โรสมาเรียถามเสียงเรียบ
“แน่นอนสิ ทำไมต้องไม่ด้วยล่ะ ตราบใดที่ความสุขของเธอ จะไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อน”
พูดเท่านี้ เอมิเลียก็ลุกออกไป..
อุษาไปที่ฟร้อนท์เจอกับนิโคล่า เธอถามหาเดเนียล แต่เดเนียลออกไปข้างนอก เพื่อเลือกดอกไม้โดยไม่ได้รอเธอ
“คุณมีอะไรบอกฉันก็ได้นะ แล้วจะบอกเดเนียลให้”
นิโคล่าพูดแบบไม่เต็มใจนัก
“ฉันคิดว่าจะอัพเกรดกลิ่นน้ำหอมของที่นี่นิดนึง แค่อยากรู้ว่าสั่งบริษัทที่ไหนทำหรือซื้อกลิ่นสำเร็จจากที่ไหน”
เอมี่ที่นั่งอยู่ที่โทรศัพท์ข้างๆนิโคล่า จีบปากจีบคอพูดแทรกขึ้นมา
“ที่นี่โรงแรมหรู เราคงไม่ได้ใช้น้ำหอมตามท้องตลาดหรอก..หัวหน้า”
นิโคล่าถึงกับหันไปหาเอมี่ หัวเราะคิกเบาๆ
อ้อ..สาวๆมีนเกิร์ลสินะ อุษาคิดแล้วยิ้ม พร้อมกับขยับไปยืนหน้าโต๊ะของเอมี่
“บางครั้งในที่ๆดูหรูหรา มันมีบางอย่างที่ฉันรู้สึกว่ามันดูไม่แพง ฉันเลยอยากทำให้ที่นี่รู้สึกดูมีคลาสมากขึ้น ฉันคิดว่ากลิ่นนี้มัน…เลี่ยน แบบหาได้ทั่วไป”
เอมี่อ้าปากค้าง หน้าเสียไปนิดนึง พอดีกับที่โทรศัพท์จากลูกค้าดังขึ้นพอดี เอมี่รับสายลูกค้า อุษาหันไปมองนิโคล่าแล้วยิ้มให้
“เธอว่างั้นมั้ย?”
นิโคล่าหลบตาอุษามองลงที่โต๊ะ
กัดฟันอยู่สิ?..จริงๆถ้าไม่เพราะตำแหน่งของฉัน เธอคงจะกระโดดออกจากเคาน์เตอร์แล้วจิกหัวหยุมผมฉันไปแล้ว แต่ฉันสัญญากับตัวเองว่า ใครทำร้ายฉัน ฉันพร้อมปกป้องตัวเองอยู่แล้ว...
“ขอเบอร์คุณเดเนียลให้ฉันหน่อย นิโคล่า”
นิโคล่าเขียนเบอร์ของเดเนียลยื่นให้โดยไม่สบตาเธอ
ดีแล้วล่ะ..หัดเรียนรู้ที่จะเคารพกัน เพราะถ้าทำงานเข้าตาเอมิเลีย นิโคล่าคงได้เลื่อนตำแหน่งไปนานแล้ว และฉันคงไม่ได้มาทำงานที่นี่
อุษาคิดแค่นั้น ไม่ให้ค่าแล้วยืนหันหลังกดโทรหาเดเนียล
“ฮัลโหลคุณเดเนียล คุณอยู่ที่ไหนตอนนี้..อ้อ คือ ฉันสามารถแชร์ความคิดเห็นหน่อยได้มั้ย อืมม..ฉันอยากได้ ไลเซนทัส ที่คล้ายดอกกุหลาบสีนุ่มนวล จัดช่อใส่แจกันไว้ที่เคาน์เตอร์ Front desk กับตรงโอเปอเรเตอร์ ส่วนที่ล็อบบี้ ฉันอยากได้ Orchid สีขาวทางเข้าล็อบบี้สองฝั่ง ลูกค้าจะเห็นเป็นสิ่งแรกก่อนเข้าสู่ล็อบบี้กับฟร้อนท์ ส่วนคาร์เนชั่นสีส้มอมชมพูกับไฮเดรนเยียสีฟ้าอ่อนอมม่วงนิดๆถ้าหาได้ ฉันอยากให้อยู่กระจายตามโต๊ะกับโซฟาในล็อบบี้ คุณคิดว่าไง คุณเดเนียล?”
“โอเค ขอบคุณมาก คุณเดเนียล”
นิโคล่ากับเอมี่มองหน้ากันแล้วเบะปาก หลังอุษาวางสายจากเดเนียลแล้วเดินออกไป
อุษาเห็นแคทเทอรีน พนักงานทำความสะอาด เธอรีบเดินไปทักทาย แล้วเดินออกไปนอกโรงแรม เพื่อคุยกับพนักงานช่วยยกสัมภาระ วันอาทิตย์ค่อนข้างยุ่งทีเดียว
อุษากลับขึ้นไปห้องทำงาน เพื่อดูงบประมาณของแผนกของเธอในเดือนนี้ว่าเหลือเท่าไหร่ มีอะไรต้องจัดซื้อเพิ่มเติมบ้าง เมื่อเดเนียลกลับมา เขาได้ขึ้นมาหาอุษาที่ห้องทำงานพร้อมบิลที่ต้องชำระค่าดอกไม้ ซึ่งโรงแรมดีลทุกอย่างไว้จะชำระเป็นรายเดือน
จากนั้นอุษาส่งข้อความหาพ่อกับแม่ทิ้งไว้ แล้วเริ่มคิดว่า จันทร์ถึงพุธ เธอเริ่มงานบ่ายสาม มีเวลาว่างเกือบวันนึงเลย เธอลองเข้าเว็บไซต์ดูว่ามีพาร์ทไทม์อะไรให้ทำบ้าง
อุษาเจอบริษัทนายหน้าจัดหาคนทำงานให้กับเจ้าของสุนัข เพื่อหาคนพาสุนัขไปเดินออกกำลังกาย ย่าน ลา ฮอยย่า เดินจูงหมา ชั่วโมงละ 20 ดอลล่าร์ เธอกรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป ระบุวัน เวลา จำนวนชั่วโมงที่เธอทำได้
เสียงโทรศัพท์แจ้งเตือนขึ้น มีข้อความว่าเงินจำนวนก้อนหนึ่งถูกโอนเข้าบัญชีของเธอ เธอจึงออกไปยังห้องของเอมิเลียและเคาะประตู ก่อนจะเข้าไป
“ฉันได้รับเงินค่าใช้จ่ายของฉันทั้งหมดแล้ว ค่อนข้างไวมาก ขอบคุณ..คุณที่เป็นธุระให้และคุณสมิธมากๆ”
“หมายถึงคนไหนล่ะ?”
เอมิเลียยิ้มแบบมีเลศนัย เลิกคิ้วข้างหนึ่ง มือเท้าคาง มองหน้าอุษา แต่เธอไม่แสดงอารมณ์ใดๆอะไรบนสีหน้า ก่อนตอบไปว่า
“คุณสมิธ เธอเป็นคนที่ตัดสินใจให้โอกาสรับฉันเข้าทำงาน ไม่มีเหตุผลที่ฉันจะหมายถึงใครคนอื่น แค่เธอเท่านั้นที่ฉันขอบคุณจากใจ ฉันมาเพื่อแจ้งและขอบคุณ ขอตัวไปทำงานต่อนะ”
แพทริคตื่นสายมาก นี่มันเกือบเที่ยงวัน เขาจึงอาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงไปที่ภัตตาคารของโรงแรม ออกจากลิฟท์ เขาเห็นว่าวันนี้ดอกไม้ที่ล็อบบี้มีสีสันสวยมากแบบที่เค้าไม่ค่อยได้เห็น ทำให้รู้สึกสว่างสดใส สดชื่น เพราะปกติที่นี่มีแต่ดอกไม้สีขาวอย่างเดียวตลอด นิโคล่ากับเอมี่รีบเอ่ยทักทายแพทริคอย่างยิ้มแย้มเป็นพิเศษ พร้อมมองตามเขาไปจนลับตา
ขณะที่บริษัทนายหน้ารับสมัครงานดูแลสุนัข พวกเขามีเจ้าของสุนัขมากมายที่ต้องการ Dog sitter หรือ Dog Walker เมื่อเห็นโปรไฟล์ของอุษาที่ส่งมาสมัครพาร์ทไทม์ ซึ่งอุษาเองอยู่ใกล้กับลูกค้าที่อยู่ย่าน ลา ฮอยย่า วิลเลจ ครอบครัวหนึ่ง บ้านของพวกเขาอยู่ห่างจากโรงแรมที่อุษาทำงานเพียงสองนาที ใกล้กับ Darlington House บนถนน Olivetas Ave พวกเขามี Dog sitter ประจำครอบครัวอยู่แล้วเวลาไม่อยู่บ้าน แต่อยากได้คนจูงสุนัขที่มีอยู่สองตัว ไปออกกำลังกายด้วย
อุษาทำงานอยู่ในห้องทำงาน ก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทนายหน้ามาทางอีเมลว่าสนใจรับงานนี้มั้ย วันละหนึ่งชั่วโมงครึ่ง วันจันทร์ถึงพุธ ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงเก้าโมงครึ่ง ครึ่งชั่วโมงละสิบเหรียญ แต่ทางนายหน้าจะหักค่าหัวคิวจากรายได้ไว้เป็นค่าตอบแทน อุษาเมลตอบตกลงเริ่มงานวันจันทร์ได้ทันที ทางนายหน้าได้ให้เบอร์โทรและชื่อของเจ้าของสุนัขไว้เพื่อ Text Message และรูปถ่ายให้เจ้าของทราบว่าจะพาสุนัขออกไปเดินและกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย รวมถึงต้องส่ง report ให้ทางบริษัทด้วยทุกครั้ง
มีข้อความเข้าที่โทรศัพท์ ครั้งนี้โรสมาเรียส่งข้อความมาก่อน ชวนอุษาไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน เธอตอบตกลงแล้วลุกออกจากห้องไป
แพทริคทานอาหารที่ภัตตาคารในโรงแรม ลูกค้าสาวๆในภัตตาคารต่างสนใจเขา เพราะรูปร่างที่สูงเป็นจุดเด่น ผมบลอนด์ ตาโตสีฟ้าเข้มสวย การแต่งตัวที่ดูมีรสนิยม แต่เขาหิวจึงไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง เมื่อกินเสร็จ เขารู้ว่าอุษาวันนี้ทำงาน แต่เวลานี้เธออาจทานกลางวันหรืออาจจะอยู่ที่ห้องทำงาน
คิดได้แบบนั้น..แพทริคจึงเดินไปที่ล็อบบี้ เดินวนไปวนมาเหมือนหาดูอะไรสักอย่างที่ นิโคล่ารีบกะตือรือร้นเดินมาถามเขาทันที
“คุณแพทริคหาอะไร ทำของอะไรตกหล่นหรือเปล่า? เดี๋ยวฉันช่วยหา”
“ไม่มีอะไร ขอบคุณมาก ผมแค่ดูอะไรนิดหน่อย”
สักพักเขาเหลือบไปเห็นเคาน์เตอร์ที่นิโคล่ากับเอมี่ใช้ทำงาน เขารีบเดินไปแล้วเลือกดอกไลเซนทัสสวยๆหนึ่งดอก แล้วตรงขึ้นลิฟท์ ทั้งนิโคล่ากับเอมี่มองตามเขาแล้วเห็นลิฟท์ค้างที่ชั้นสอง
“อย่าบอกนะว่าเอาไปให้เอมิเลียน่ะ หรือ…คนที่เค้าลือกันอยู่”
นิโคล่าทำหน้าไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเธอเองพูดด้วยซ้ำ เอมี่ส่ายหน้าแล้วยักไหล่
แพทริคตรงไปที่ห้องทำงานของอุษา เคาะประตูอยู่หลายที เลยถือวิสาสะเข้าไป เขาได้กลิ่นน้ำหอมของเธออ่อนๆในห้อง เขาคิดว่าถ้าอุษามาตอนนี้แล้วเห็นเขาอยู่ในห้องทำงานของเธอ จะยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวว่าเขาเป็นพวก stalker ไปจริงๆ จึงวางดอกไลเซนทัสไว้ที่หน้าคอมพิวเตอร์ของเธอ พร้อมกับโน้ตสั้นๆ จากนั้นรีบออกจากห้องไป
เมื่ออุษากลับมาที่ห้องทำงาน เธอเห็นดอกไม้กับโน้ต เซ็นชื่อ แพทริค..
“ขอให้ความหมายของไลเซนทัส แทนคำขอโทษอีกครั้ง จากใจ”
อุษายิ้มเฝื่อนๆ.. ดอกไม้นี้ฉันเลือกและสั่งเอง เอาดอกที่ฉันสั่งมาให้ฉันเนี่ยนะ? จะให้ดอกไม้ผู้หญิงทั้งที ยังไปเอาฟรีที่ฟร้อนท์อีก หัวจะปวดกับเพื่อนไม่พอ หัวจะปวดกับเจ้านายอีก อุษาเอาดอกไม้วางไว้ข้างคอมพิวเตอร์ เพื่อทำงานต่อ จากนั้นเธอลองติดต่อโทรหาเจ้าของสุนัขทั้งสองตัว
“ฮัลโหล”
“สวัสดี นั่นคุณควินน์ใช่มั้ย ฉันติดต่อมาเพื่อจะแจ้งว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปรับสุนัขทั้งสอง ไปเดินออกกำลังกาย หนึ่งชั่วโมงครึ่ง จะเข้าไปเวลาแปดโมง”
“อ่อ เอเจนซี่แจ้งผมว่าคุณรับทราบทั้งหมดแล้ว พรุ่งนี้คุณมาได้เลย แล้วเวลาคุณนำสุนัขไปเดิน ช่วยส่งข้อความและรูปเกี่ยวกับสุนัขให้ผมทาง W******p ด้วยแล้วกันที่เบอร์นี้ ขอบคุณล่วงหน้า พรุ่งนี้เจอกัน”
“ฉันยินดีมาก ขอบคุณ คุณควินน์”
อุษานึกได้ว่าพรุ่งนี้วันหยุดโรสมาเรีย จึงโทรชวนเธอไปทานมื้อเที่ยงกันข้างนอกแล้วอาจเดินเที่ยวสักหน่อย โรสมาเรียตกลง จากนั้นเธอนั่งทำเอกสารทำงานวางแผนงานล่วงหน้า เดเนียลก็เข้ามา เอารายงานการทำงานประจำวันของแผนกให้อุษา เดเนียลสังเกตุเห็นดอกไลเซนทัสที่วางบนโต๊ะของอุษา แต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วเขาก็ออกไป อุษาทำงานจนเวลาเลิกงาน จึงกลับห้องเพื่อไปนอนงีบสักหน่อยก่อนจะตั้งเวลาปลุกตื่นไปทานมื้อเย็น
“เอมิเลีย ผมว่าไม่นานคุณคงมีงานต้องเก็บกวาดอีกเป็นแน่”
เดเนียลส่งข้อความไปหาเอมิเลีย
“มีอะไรที่ฉันควรรู้ ก็บอกละกัน ถ้าเกี่ยวกับคนที่ฉันคิด ใช่มั้ย? แค่นี้ก็เริ่มมีคนลือกันแล้ว นี่มาทำงานแค่ไม่กี่วัน ที่ผ่านมายังไม่เร็วขนาดนี้”
“ผมไปส่งรายงานที่ห้องเธอ เห็นดอกไม้ที่ฟร้อนท์ไปอยู่บนโต๊ะเธอ ผมจะไม่คิดอะไร ถ้านิโคล่ากับเอมี่ไม่บอกผมว่า บอสเอาดอกไม้จากเคาน์เตอร์ฟร้อนท์ไปแล้วขึ้นไปชั้นสอง พวกเธอคิดว่า บอสเอาไปให้คุณ”
เอมิเลียเม้มปาก ใช้ความคิด
“ให้เข้าใจไปแบบนั้น คุณไม่ต้องพูดอะไร ฉันไม่อยากให้คนลืออะไรไปมากกว่านี้”
เอมิเลียกำมือแน่น…พยายามสงบจิตใจ ในใจของเธอช่างปวดร้าว เขาไม่เคยจำความผูกพันใดๆในอดีต มีแต่เธอที่ยังคอยติดตามดูแลเขา แต่เขามองเธอเป็นแค่ที่โกยผง
ทางด้านแพทริค เขาออกจากโรงแรมไปหลังจากออกจากห้องของอุษา นัดเพื่อนๆไปกินดื่ม จากนั้นต่อด้วยปาร์ตี้ตามประสาหนุ่มๆ
“เฮ้ ทิมมี่ ฉันว่า ฉันหยุดคิดถึงคนๆนึงไม่ได้เลยว่ะ”
แพทริคที่หน้าเริ่มแดง เปิดใจพูด
“ใคร ผู้ชาย ผู้หญิง หรือมามี๊ละเพื่อน”
“ผู้หญิง..หยิ่ง ชอบหันหลังให้ หน้าตานิ่งสนิท เหมือนคนไม่สนโลก ทำตัวเหมือนตั้งกำแพงใส่ฉันตลอด”
“รู้จักนานยัง เจอกันได้ไง ที่ไหน?”
“เป็นพนักงานใหม่ของฉันเอง”
“อีกแล้วเรอะเพื่อน ไม่เอาน่า”
“ที่ผ่านมาคืออดีต แค่รู้สึกต่างคนต่างสนุกด้วยกัน แต่ยอมรับว่าฉันมันแย่เอง”
ทิมมี่ตบบ่าแพทริค
“แต่ทุกคนก็เป็นฝ่ายไปจากแกเองนะ ไม่ใช่เหรอ? คิดมากทำไม งี้ฉันเคยมีแฟนมาตั้งแต่ห้าขวบ ถึงตอนนี้สัก..สิบคนได้ ไม่ต้องมานั่งคิดมากถึงอดีตทุกคนงั้นเรอะ”
เขากับทิมมี่หัวเราะด้วยกัน
“แกมันคาสโนว่าทิมมี่ ไม่ใช่ฉัน ฉันมีแฟนครั้งแรกก็ปาไปอายุ 17 นับๆดูก็ไม่เกินสี่คน”
“แล้วว่าที่คนที่ห้านี่จะเอายังไง?”
“พึ่งรู้จักได้สามวัน แต่หยุดนึกถึงไม่ได้”
“จะว่าไปไม่เคยได้ยินแกพูดแบบนี้มาก่อน สงสัยจะรักแรกพบ”
แพทริคส่ายหัว รักแรกพบหรืออยากเอาชนะ เขาเองก็ไม่แน่ใจ..
อุษางัวเงียตื่นมาแต่เปลี่ยนใจ เปิดเอาเครื่องกระป๋องมากินแทน ส่งข้อความให้พ่อกับแม่ แล้วเจนนภัสก็โทรเข้ามา
“อูฐ พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันป่ะ มีบาร์ริมทะเลโคตรสวย ประมาณสามทุ่มฉันเลิกงาน ชวนแพทริคไปด้วยสิ”
“พรุ่งนี้ฉันเลิกงานห้าทุ่ม ขอติดไว้ก่อนนะ”
“งั้น ฉันเลิกงานไปเที่ยวหาเธอได้ป่ะ จะเอาขนมไปฝาก”
“ก็มาสิ พรุ่งนี้ถ้าเจนเลิกงานแล้ว มาถึงก็โทรบอกละกัน”
อุษาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่เธอซื้อมาจากเมืองไทยขึ้นมาชื่อ “สิ่งมีชีวิตในโรงแรม” เป็นหนังสือที่ดีมาก
เธออ่านจบไปตั้งแต่ก่อนมาอเมริกาแล้ว แต่การอ่านบ่อยๆจะได้เตือนสติเธอได้ดี มีทั้งความหฤหรรษ์ มันส์ ฮา ปวดตับ ทั้งความเสื่อมของแขกผู้มีเกียรติหน้ามึนต่างๆ
อุษาอ่านไปได้นิดหน่อยก็รีบเข้านอน การนอนสำหรับอุษาคือสิ่งสำคัญ แทบจะเป็นสิ่งที่เธอชอบที่สุดเวลาอยากหลบเลี่ยงจากเรื่องปวดหัวหรือสิ่งที่ตึงเครียดต่างๆ เพราะเมื่อนอนอิ่ม ตื่นมาสมองจะโล่งแล้วแก้ปัญหาได้ดี ตรงกันข้ามกับคนอื่นที่มีเรื่องอะไรเข้ามาจะเครียดแล้วนอนไม่หลับ
เช้าวันจันทร์แสนสดใสและอากาศดี อุษารีบไปที่บ้านของครอบครัวควินน์ ใกล้กับ Darlington House อยู่หัวมุมถนน Pearl Street บ้านสีขาวหลังใหญ่หันหน้าไปทางทิวทัศน์ของชายหาดและทะเล เธอกดกริ่ง มีแม่บ้านออกมาต้อนรับและเชิญเธอให้เข้าไปที่ห้องรับแขกซึ่งใหญ่โต สวยงาม อลังการ และบ้านหอมสะกดใจจริงๆ ทำเอาอุษานั่งตัวเกร็ง ไม่นานนัก มีผู้ชายแต่งตัวดี เดินมาแล้วทักทายเธอ
“สวัสดีตอนเช้า มิสอุษา ผมชื่อเจสัน คุณฮาร์วี่แจ้งไว้ให้ผมล่วงหน้าว่าเช้านี้แปดโมงตรงจะมีคนที่พาลูกๆที่รักของเขา ออกไปเดินออกกำลังกาย และจะนำทั้งสองกลับมาตามเวลาที่กำหนด”
“สวัสดีคุณเจสัน เอ่อ..แล้วลูกรักทั้งสองของเขาอยู่ที่ไหน?”
“กรุณาตามผมมา มิสอุษา ทางนี้”
เจสันคิดขำในใจที่เธอเลียนคำพูดเขาด้วยหน้าตาใสซื่อ เขารู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจล้อเลียน แต่คงเพราะเกร็งมากกว่า
เจสันท่าทางดูมีสกุลรุนชาติทุกกระเบียดนิ้วเอามากๆ อุษาเดินตามเจสันไปอีกด้านหนึ่งของบ้าน ระหว่างเดินผ่านห้องต่างๆ เธอเห็นแม่บ้านทำความสะอาดอยู่สองสามคน จนออกนอกบ้านไปเจอบ้านหลังเล็กกว่าบ้านที่เธอพึ่งเดินออกมาเล็กน้อย เดินอ้อมตัวบ้านเจอสวนดอกไม้ที่สวยมากมีซุ้มที่นั่งกลางสวนสวย เธอเห็นแต่ไกลว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังให้ขนมแก่สุนัขของเขา แต่…สุนัขสองตัวนั้น ทำให้อุษาตะลึง
“คุณฮาร์วี่ คนที่จะพาแจสเปอร์และเชสเตอร์ไปเดินออกกำลังกายมาแล้ว ผมขอตัวก่อน เชิญมิสอุษา”
เจสันขยับเก้าอี้และผายมือให้เธอนั่ง แล้วเดินจากไป
อุษานั่งลงพร้อมกับตั้งใจดูสุนัขสองตัว ซึ่งทั้งสองตัว มีมารยาทมาก นั่งอยู่กับที่ ทั้งอุษาและลูกรักทั้งสองของเขา ต่างฝ่ายต่างจ้องตากัน จนฮาร์วี่เอ่ยขึ้น น้ำเสียงเขาดูใจดีมาก
“ตัวนี้คือแจสเปอร์ เป็นเซนต์เบอร์นาร์ด ตัวอาจจะใหญ่นิดนึง อายุ 4 ปี ส่วนตัวนี้คือ เชสเตอร์ เป็นอเมริกัน อากิตะ อายุ 3 ปี ทั้งคู่ตัวโตแต่ใจดี เข้าโรงเรียนฝึกมาแล้ว”
“ผมเคยขอให้เจสันเอาทั้งคู่ไปเดินเล่น แต่เจสันไม่ค่อยชอบสุนัขเพราะเขาบอกทำให้บ้านสกปรก เขาติดความสะอาดมาก แต่นอกเหนือจากนั้นเขาเป็นบัตเลอร์ที่ดีเยี่ยมคนหนึ่งเลย”
“ผมอยากให้คุณอุษาพาทั้งสองไปเดินออกกำลังกายเพราะพวกเขาตัวใหญ่ ถ้าไม่เดินออกกำลังกายเลยนอกจากจะผิดกฏหมาย ยังไม่ดีต่อสุขภาพของพวกเขาด้วย”
อุษาฟังเขาจนรู้สึกผ่อนคลายลง เขาดูมีเสน่ห์เวลาที่ก้มลงเล่นและลูบหัวกับลูกๆของเขา ดูเป็นคนอ่อนโยนมาจากข้างใน ผมสีน้ำตาลหม่นเทาๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนใส จมูกโด่งปลายเรียวเล็ก ผิวขาวปานน้ำนม หุ่นดีและขายาว ใส่เสื้อโปโลแบรนด์เนม กางเกงขาสั้นสบายๆ ที่สำคัญ ตัวหอมมากเว่อร์
“ฉันรับทราบคุณควินน์ ฉันจะดูแลลูกๆของคุณให้ดีที่สุด”
“เรียกผมฮาร์วี่ก็ได้ ผมเห็นประวัติคุณ คุณทำงานประจำที่โรงแรมใกล้ๆนี่เอง เอ่อ..ฝากเด็กๆด้วยนะคุณอุษา ถ้านำเด็กๆมาส่งก็กดกริ่งเรียกแม่บ้านผมได้เลยเมื่อกลับมา ถ้าระหว่างทางมีอะไรที่นอกเหนือการควบคุม กรุณาโทรหาผม”
ฮาร์วี่นำเธอไปทางออกของบ้านด้านข้าง อุษาจูงเด็กๆออกไป พวกเขาดูเรียบร้อยและเชื่อฟังเอามากๆ ฮาร์วี่โบกมือพร้อมยิ้มให้แล้วเข้าบ้านไป
นี่สิ คนที่น่าประทับใจ คู่ควรที่สาวๆจะมอง ดีพร้อม มีมารยาท คิดว่าเขาจะเหยียดซะอีกที่เป็นคนเอเชีย ค่อยยังชั่วหน่อย อุษาประทับใจเขามาก
เพราะงั้น ฉันต้องดูแลเด็กตัวโตทั้งสองให้ดี....
อุษาเริ่มต้นจูงทั้งสองออกเดินไปบนถนน Pearl Street….
อุษาจูงทั้งสองเดินออกจาก Pearl Street มุ่งไปทางถนน Coast Blvd เส้นเดียวกับทางไปโรงแรม ลา ฮอยย่า ซีวิว เพราะเธออยากให้ทั้งสองได้รับแดดอ่อนๆ และเห็นชายหาดไปด้วย เธอสังเกตว่าสายจูงและปลอกคอเหล่าลูกรักของฮาร์วี่เป็นแบรนด์เนม ด้วยความอยากรู้ เธอจึงหาที่นั่งแล้วออกคำสั่งให้ทั้งสองตัวนั่งลง ซึ่งทำตามคำสั่งได้อย่างเรียบร้อยสมกับที่เข้าโรงเรียนฝึกมาแล้ว“ไหนมาดูหน่อย พวกเธอใช้ยี่ห้ออะไรกันบ้าง?”เธอจัดการถ่ายรูปปลอกคอจากทั้งสองตัวแล้วค้นหาจากรูปถ่ายจาก Google “ว้าว Hermes Rocabar Dog Collar สองหมื่นกว่าบาท! ไหนส่องสายจูงสิ ลายนี้ไม่เคยเห็นแหะ”อุษาอุทานพร้อมพูดกับเจ้าตัวโตทั้งสองตัว ที่มองอุษาด้วยความสงสัย“โอ้ว สายจูงของ Hermes ด้วย 37,000 บาท โอ้วแม่เจ้า พวกเธอนี่คุณภาพชีวิตดีจนฉันอิจฉานะเนี่ย กระเป๋าที่แพงที่สุดของฉันยังราคาไม่เท่าสายจูงพวกเธอเลย”อุษาพูดพร้อมกับขยี้หัวทั้งสองด้วยความเอ็นดู คนที่ผ่านไปผ่านมาพากันมองที่เธอนั่งคุยกับสุนัข นั่นเพราะสุนัขตัวโต ผู้คนเลยสนใจ“เอาล่ะ พร้อมเดินหรือยัง เดินสักสิบห้านาที ฉันจะให้น้ำแล้วก็ถ้าพวกเธออึ ฉันเตรียมถุงมาเก็บแล้ว หวังว่าอย่าอึเลยนะ พลีสส”เ
มีเสียงเคาะประตูห้อง อุษาไปเปิดประตู พบว่าเป็นแพทริค เธอถอนหายใจใส่เขา…“ถอนหายใจใส่ผมเลยนะ ไม่คิดจะเชิญผมเข้าไปหน่อยล่ะ ยืนเมื่อยตั้งนานแล้ว”“เชิญ คุณแพทริค”อุษารอให้เขานั่ง แต่เธอยืนสำรวม มือจับประสานกันเรียบร้อยตามสถานะที่เธอเป็นอยู่ ตั้งใจไม่ปิดประตู แต่แพทริคดันประตูให้ปิด“ตัดผมใหม่คุณดูน่ารักมาก ตอนเที่ยงที่ร้านอาหารไทยกับตอนนี้เป็นคนละสไตล์เลยนะ”“ค่าอาหารเท่าไหร่คุณแพทริค? ได้โปรดให้ฉันได้คืนให้คุณ มันทำให้ฉันลำบากใจรวมถึงดอกไม้นั่นด้วย”แพทริคทำหน้าตาเศร้าลงทันที ทำหน้าแบบนี้อีกละ..ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ.... “ผมไม่อยากได้เงินคุณ ผมก็..ไม่รู้สิ แค่อยากเทคแคร์คุณ เพราะคุณไม่ใช่คนที่นี่ เป็นพนักงานของผมด้วย ผมเองก็จ่ายให้เพื่อนคุณด้วยนะ ไม่ใช่แค่คุณสักหน่อย”“เพื่อนฉันก็พนักงานของคุณเหมือนกัน”“แล้วเมื่อเช้าคนมาส่งคุณ เจ้าของสุนัขน่ะ ชื่ออะไรอยู่แถวนี้เหรอ?”นี่มันอะไรเนี่ย..ได้เวลาที่ต้องทำงาน แต่ต้องมาโดนเจ้านายถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่ไม่เกี่ยวกับงาน“ครอบครัวควินน์ บ้านของเขาอยู่หัวมุม Pearl Street คนจ้างฉันเค้าชื่อ คุณฮาร์วี่ แต่ฉันไม่ได้ทำให้งานหลักเสียนะ”“อุษา..นอกเวลาง
เช้านี้อุษารีบไปบ้านของฮาร์วี่ แม่บ้านรอเธออยู่แล้ว แจสเปอร์กับเชสเตอร์กระดิกหางดีใจที่เจอเธอเช่นกัน อุษาสวมกอดทั้งสองทีละตัว ก่อนบอกลาแม่บ้าน พร้อมส่งข้อความหาฮาร์วี่ เขาโทรหาเธอทันที อุษาจูงทั้งสองพร้อมคุยโทรศัพท์ไปด้วย“หลับสบายมั้ยเมื่อคืน คุณเลิกงานดึกด้วย มีใครทำให้คุณกลัวอีกไหม?”เสียงทุ้มนุ่ม ทำให้อุษาใจฟู“หลับสบายดี ฉันเลิกกลัวแล้วล่ะ คุณมีพลังงานด้านบวกทำให้คนที่อยู่ใกล้ รู้สึกดีได้ ขอบคุณนะฮาร์วี่”“เดินระมัดระวังรถด้วยนะ ผมจะไปทำคดีให้ลูกค้าก่อน อย่าลืมว่าเราคุยเรื่องที่ประเทศคุณค้างเอาไว้”อุษายิ้ม เขาวางสายไปแล้ว แน่นอน..ฉันอยากคุยเรื่องลิงหรืออะไรก็ได้ เมื่อพาทั้งสองเดินจนเกือบครบตามเวลา เธอแวะซื้อไอศครีมที่ร้าน Baskin-Robbins อยู่ด้านหลังบ้านของฮาร์วี่ ให้พวกเขาทั้งสองด้วย“อร่อยละสิ แทนคำขอโทษที่เมื่อวานฉันอ่อนแอไปหน่อย จนไม่ได้พาพวกเธอมาเดินเที่ยวน่ะนะ”เธอนำทั้งสองไปคืนให้ที่บ้านควินน์ กอดเพื่อนตัวโตทั้งสองของเธอ แล้วเดินกลับไปที่โรงแรมเพื่อไปพักผ่อนสักนิดก่อนจะมื้อเที่ยง เมื่อถึงห้องเธอได้โทรหาโรสมาเรีย“ฮัลโหล อุษา ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย? เมื่อวานฉันอดเป็นห่วงไม่ได้
“เฮ้อ เสร็จสักที” หญิงสาวถอนหายใจ พลางหันไปรอบห้อง ก็เหลือแค่ตัวเองคนเดียว แทบจะเป็นปกติแบบนี้ทุกวัน โดนรับน้องมาตลอดสามปี จนต้องกลับช้ากว่าทุกคนอยู่เสมอ แต่อุษาคิดว่าเธอเป็นพนักงานที่มาทีหลัง จึงต้องเรียนรู้งานมากกว่าคนอยู่มาก่อน จึงไม่คิดอะไรมากนัก เริ่มมืดแล้ว เธอรีบเดินกลับห้องพัก ที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน ทำอาหารง่ายๆกินเอง อาบน้ำอาบท่าแล้วก็นั่งไถโทรศัพท์ ไลน์ที่คุ้นเคยก็เตือนขึ้นมา “อูฐ ทำไรอยู่? ฉันตื่นเช้ามาเดินเล่น ที่นี่อากาศดีสุดๆ”“จะนอนแล้วสิ ชอบทักมาตอนใกล้จะหลับทุกที”“อีกสามชั่วโมง ถึงจะเข้างาน ช่วงนี้ราฟาเอลดีกับฉันมาก เหนื่อยก็ให้พัก ถ้าทิปได้น้อย ก็ยังแอบให้ค่าแรงเพิ่ม ชิลๆได้” ไม่ทันที่อุษาจะพิมพ์ตอบ เจนรีบส่งข้อความต่อทันที“งั้นเธอนอนเถอะ อยากให้เธอมาอยู่ที่นี่กับฉันจริงๆ ฉันเห็นใจเธอนะ โดนเอาเปรียบตลอด ได้ไปเที่ยวไหนบ้างมั้ยเนี่ย”“ไม่มีเวลาหรอกเจน วันหยุดฉันก็อยากพักผ่อนนอนทั้งวัน อากาศข้างนอกก็แย่ ประหยัดเงินด้วย งั้นฉันนอนก่อน สี่ทุ่มกว่าละ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าอูฐสักที”“ฝันดี เลิกงานวันนี้ราฟาเอลชวนฉันไปแฮงค์เอ้าท์หลังเลิกงาน จะเที่ยวเผื่อเธอนะ จุ้บ” อุษาไ
อุษาจึงเดินตรงไปเลือกตักอาหาร 2-3 อย่าง และน้ำผลไม้ เธอเลือกนั่งใกล้กับผู้หญิงคนหนึ่ง มีผิวสีแทนเข้ม ผมสีดำขลับของเธอ ดูสีเข้มกว่าอุษาไปอีก “ขอโทษนะ ฉันขอนั่งตรงนี้จะได้ไหม”“ทำไมจะไม่ได้ คุณนั่งได้ทุกที่ ที่คุณอยากนั่ง โดยไม่ต้องขอ” สาวผิวเข้มตอบ พลางกินต่อ อุษานั่งทานแบบเงียบๆ…โทรศัพท์ของอุษาก็สั่นขึ้นมา พ่อนั้นเอง…“ฮัลโหล ป๊า หนูไม่กล้าโทรหาตอนนั้น เห็นมันดึกอยู่ ตอนนี้หนูอยู่ที่โรงแรม กำลังกินข้าวในห้องอาหาร คุยเสียงดังไม่ได้”“ป๊าพึ่งเห็นข้อความที่ส่งมา เมื่อตอนตื่นนอนนี่เอง ใช้ไลน์โทรได้นี่ดีมากเลย ประหยัดเงิน ป๊าจะได้โทรหาได้บ่อย” “ค่ะป๊า แล้วแม่ละ” “แม่เค้าอาบน้ำอยู่ แต่ป๊าบอกละว่าจะโทรหาลูก สัญญาณลูกไม่ค่อยดีเลยนะ”“ที่นี่ wi-fi อาจไม่ค่อยดีมั้งค่ะป๊า ส่งข้อความเอาก็ได้ถ้ามีอะไร รักป๊ากับแม่นะ บอกแม่ด้วย”“โอเค ป๊ากับแม่ก็จะไปทำงานแล้วเหมือนกัน” หลังวางสาย สาวผิวเข้ม ก็พูดกับอุษาว่า“ห้องอาหารที่นี่ มีเวลากำหนดนะ รีบกินก่อนจะหมดเวลา” “พอดีฉันพึ่งมาอเมริกาครั้งแรก รู้สึกสับสนนิดหน่อย เหมือนหิวแต่ก็กินได้น้อย”สาวผิวเข้ม มองอุษาแล้วเริ่มแนะนำตัว“ฉันชื่อ โรสมาเรีย เป็นค
อุษาเลือกวันหยุดให้ตัวเองทุกวันศุกร์ ทำงานจันทร์ถึงพุธ 15.00-23.00 น. พฤหัสบดีและเสาร์-อาทิตย์ 7.00-16.00 น. แต่ถ้างานมีปัญหา ต้องพร้อมแก้ปัญหา สามารถทำงานนอกเวลาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช้าวันเสาร์กับงานวันแรก อุษามาทำงานก่อนเวลา เพื่อมาคุยงานกับทุกคนที่ฟร้อนท์ ซึ่งเธอจะมีพนักงานใต้บังคับบัญชาอยู่ห้าคน คือ เดเนียล ผู้ช่วยผู้จัดการควบตำแหน่งหัวหน้าพนักงานต้อนรับ นิโคล่า,ไซม่อน,โซเฟีย เป็นพนักงานต้อนรับ เอมี่เป็นพนักงานรับโทรศัพท์เหลือแค่ไซม่อน ที่เข้างานในช่วงเย็น อุษาจึงไม่ได้เจอตอนนี้ เธอคิดว่าไว้ตอนสี่โมงเย็น ค่อยไปเจอเขา ส่วนโซเฟียที่เข้างานกะดึกมาทั้งคืน พออุษาคุยเรื่องงานจบ ก็ได้เวลาเลิกงานไปพักผ่อนเมื่อคืนเอมิเลียเทรนงานให้เธอผ่านออนไลน์อย่างละเอียดดีพอสมควร พร้อมกำชับให้จำไว้เสมอว่า“ลูกค้าอยู่ด้านขวาเสมอ” เท่ากับ “The customer is always right”เธอเข้าใจดี ว่าต้องเจอกับลูกค้าทุกรูปแบบ ฉะนั้นไม่มีเวลามาอ่อนแอหรือทำไม่ได้ทุกคนดูยังไม่ค่อยเปิดใจให้อุษา แค่ไม่มีใครพูดจาโต้แย้งอะไรกับเธอ แต่อุษารู้สึกได้ อาจเพราะเธอเป็นคนมาใหม่ ในตำแหน่งหัวหน้าและดันเป็นคนเอเชีย อายุก็แค่ 27 ซึ่งทุ