อุษาจูงทั้งสองเดินออกจาก Pearl Street มุ่งไปทางถนน Coast Blvd เส้นเดียวกับทางไปโรงแรม ลา ฮอยย่า ซีวิว เพราะเธออยากให้ทั้งสองได้รับแดดอ่อนๆ และเห็นชายหาดไปด้วย เธอสังเกตว่าสายจูงและปลอกคอเหล่าลูกรักของฮาร์วี่เป็นแบรนด์เนม ด้วยความอยากรู้ เธอจึงหาที่นั่งแล้วออกคำสั่งให้ทั้งสองตัวนั่งลง ซึ่งทำตามคำสั่งได้อย่างเรียบร้อยสมกับที่เข้าโรงเรียนฝึกมาแล้ว
“ไหนมาดูหน่อย พวกเธอใช้ยี่ห้ออะไรกันบ้าง?”
เธอจัดการถ่ายรูปปลอกคอจากทั้งสองตัวแล้วค้นหาจากรูปถ่ายจาก G****e
“ว้าว Hermes Rocabar Dog Collar สองหมื่นกว่าบาท! ไหนส่องสายจูงสิ ลายนี้ไม่เคยเห็นแหะ”
อุษาอุทานพร้อมพูดกับเจ้าตัวโตทั้งสองตัว ที่มองอุษาด้วยความสงสัย
“โอ้ว สายจูงของ Hermes ด้วย 37,000 บาท โอ้วแม่เจ้า พวกเธอนี่คุณภาพชีวิตดีจนฉันอิจฉานะเนี่ย กระเป๋าที่แพงที่สุดของฉันยังราคาไม่เท่าสายจูงพวกเธอเลย”
อุษาพูดพร้อมกับขยี้หัวทั้งสองด้วยความเอ็นดู คนที่ผ่านไปผ่านมาพากันมองที่เธอนั่งคุยกับสุนัข นั่นเพราะสุนัขตัวโต ผู้คนเลยสนใจ
“เอาล่ะ พร้อมเดินหรือยัง เดินสักสิบห้านาที ฉันจะให้น้ำแล้วก็ถ้าพวกเธออึ ฉันเตรียมถุงมาเก็บแล้ว หวังว่าอย่าอึเลยนะ พลีสส”
เธอทำหน้าอ้อนวอน เสียงสองเสียงสาม แจสเปอร์และเชสเตอร์ส่ายหางตอบรับอุษาอย่างว่าง่าย
เฮ้อ..อยู่กับสุนัขมันช่างดีจัง รู้สึกสบายใจยังไงไม่รู้ ถึงแม้ฉันจะต้องพูดคนเดียวเป็นชั่วโมงก็เหอะ
ทั้งสามเดินไปจนถึงถนนที่เธอเคยมานั่งชายหาดนี้ แล้วข้ามถนนจนเจอแพทริคครั้งแรกที่ขับรถตัดหน้าเธอ รปภ ทางเข้าโรงแรมยิ้มให้อุษา
“สวัสดีตอนเช้า”
อุษาตะโกนทักพร้อมโบกมือให้ เขายกหมวกขึ้นแล้วยิ้มตอบรับคำทักทาย
เธอเดินจูงทั้งสอง แล้วหยุดพักทุกสิบห้านาที เพื่อให้น้ำดื่ม พูดคุยหยอกล้อกันบ้าง นั่งลงกอดขนฟูๆของพวกเขาบ้าง เหมือนเธอคือเจ้าของเจ้าสองตัวนี้ยังไงยังงั้น ระหว่างเดิน เธอสำรวจร้านต่างๆใกล้โรงแรม เจอทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านตัดผม ร้านทำเล็บมากมายตามถนน อุษาหมายตาไว้ว่าเธอจะมาทำผมและทำเล็บบ้าง
“โอ๊ะ ถ่ายรูปพวกเธอส่งให้คุณพ่อขายาวหน่อยดีกว่า แจสเปอร์ เชสเตอร์ มามะ”
อุษาใช้กล้องหน้าถ่ายรูปที่มีตัวเธอเองด้วยส่งไป เพื่อให้เขาเห็นว่าเธอเข้ากับลูกรักเขาได้อย่างดี เธอถ่ายรูปมากมายในเวลาชั่วโมงครึ่ง มีทั้งอิริยบทตลกๆขบขัน รูปเดิน วิ่ง ทักทายเพื่อนสุนัขตัวอื่น เดินเล่นบนชายหาด จนกระทั่ง สุนัขทั้งสองต่างวิ่งลากเธอลงไปที่ริมทะเล อุษาสู้แรงทั้งสองไม่ไหว จึงหน้าคะมำหัวทิ่มลงที่ชายหาด ทรายเต็มหน้าและผม ชุดเปียกไปด้วย ส่วนเชสเตอร์และแจสเปอร์เล่นกันจนขนเปียกเต็มไปด้วยทรายอย่างสนุกสนาน
ตายแน่เลย..คุณเจสันบ่นฉันเละแน่ คิดได้แบบนี้ เธอจึงส่งข้อความหาฮาร์วี่ อย่างน้อยสารภาพก่อนตกงานก็ยังดี
“คุณฮาร์วี่ ฉันมีอะไรจะสารภาพ คุณและคุณเจสันต้องโกรธแน่ๆ ฉันขอโทษจริงๆ”
ฮาร์วี่ตกใจ เขาพึ่งเห็นอุษาส่งรูปมายังดูสนุกสนานกันอยู่เลย เขารีบกดโทรหาอุษาทันที
“เป็นอะไรอุษา อยู่ที่ไหน?” น้ำเสียงเขาดูเป็นห่วง
“เอ่อ ฉันส่งรูปให้ก่อน ขอวางสายสักครู่”
พอวางสาย อุษาส่งรูปให้ฮาร์วี่ เขาเปิดดูแล้วขำแทบแย่ จึงโทรกลับไปหาอุษา
“ผมไม่เคยเห็นลูกๆผม มอมแมมขนาดนี้มาก่อน ผมคิดว่าคุณคงไม่ต่างกัน กลับมาเถอะ เปียกกันไปหมดแล้ว มารอที่ทางเข้าบ้านด้านข้างที่ออกไปเมื่อเช้านะ”
อุษามาถึงแล้วโทรหาฮาร์วี่ เขาออกมารับเธอพร้อมกับแม่บ้านสองคน ที่เตรียมผ้าเช็ดตัวมาให้สุนัขทั้งสอง ส่วนฮาร์วี่ยื่นผ้าขนหนูให้อุษา
“เอาละคุณเอาทั้งสองให้แม่บ้าน รับผ้าขนหนูไปเช็ดเสื้อแล้วห่มก่อนนะ ไปนั่งตากแดดอ่อนๆที่สวน ผมให้เตรียมโกโกร้อนไว้ให้คุณ”
อุษาเดินตามเขาไปที่สวน
“คุณจะรีพอร์ตฉันให้เอเจนซี่มั้ย?” อุษาถามเสียงอ่อย
“รายงานเรื่องอะไร ไม่ได้มีปัญหาอะไร คุณทำเกินหน้าที่ด้วยซ้ำ เชิญนั่งก่อน ดื่มโกโก้นะ มีครัวซองท์ร้อนๆด้วย ทานมื้อเช้าเถอะ เดินเล่นกันจนเหนื่อยทั้งคนทั้งเด็กๆ”
ฮาร์วี่ยิ้มอารมณ์ดี ไม่มีทีท่าจะโกรธเธอ อุษาค่อยยิ้มเจื่อนๆได้หน่อย ก่อนฮาร์วี่จะพูดเสนอขึ้นมา
“เดี๋ยวผมไปส่งคุณ เพราะเสื้อผ้าคุณเปียกเพราะเล่นกับเด็กๆ ไม่ควรเดินไปทั้งแบบนี้ ผมคงเป็นผู้ชายที่แย่มาก ถ้าให้คุณกลับไปสภาพนี้”
“ไม่เลย ไม่เป็นไรเลย ฉันทำวันแรกพัง ทำให้ทุกคนต้องเหนื่อยอีก เพราะสุนัขของคุณและของแบรนด์เนมบนตัวเด็กๆเปียกและเปื้อนทรายไปหมด”
ฮาร์วี่ยิ้มไม่พูดต่อ แต่ผายมือให้เธอทานมื้อเช้าที่เขาสั่งให้แม่บ้านตรียมไว้ให้เธอ ส่วนเขาจิบกาแฟดำกลิ่นหอมฟุ้ง ขนาดเธอไม่ดื่มกาแฟยังรู้สึกว่า กาแฟนี้กลิ่นละมุนมาก เจสันเดินมาในสวน พอเห็นอุษา เขาทำหน้าตกใจบวกกลั้นขำ แต่เก็กหน้าสุดๆ
“เอ่อ คุณอุษาไปโดนสุนัขตัวอื่นไล่มารึไง? ทำไมสภาพแบบนี้ ผมมีทรายเต็มไปหมด แล้วแจสกับเชสอยู่ที่ไหน?”
อุษาก้มหน้าเงียบกริบ อายแทบมุดแผ่นดินหนี เดินหมาวันแรกก็งานงอกเลย
“ไม่ต้องห่วงเจสัน ดูนี่”
ฮาร์วี่ส่งรูปล่าสุดในโทรศัพท์ให้เจสันดู พวกเขามองหน้ากันแล้วหัวเราะ
“อะแฮ่ม เอ่อ..ผมหัวเราะพวกเขาไม่ได้หัวเราะคุณนะคุณอุษา ปกติเจ้าสองตัวนั้นสะอาดตลอดเวลา ผมละชอบใจที่พวกเขาดูมอมแมมแบบนั้นซะบ้าง”
“แต่คุณเจสันไม่ชอบอะไรที่สกปรก ฉันขอโทษจริงๆ”
“ผมไม่ชอบความสกปรก แต่ไม่ได้เกลียดพวกเขา พอดีผมเคยโดนหมากัดเมื่อตอนเด็กเลยฝังใจ ดีที่คุณฮาร์วี่เข้าใจ ผมขอตัวไปเตรียมเอกสารให้คุณเฮนรี่ก่อน”
เจสันพูดจบก็รีบเดินเข้าบ้านหลังใหญ่ไป
“คุณพ่อผมเอง ชื่อ เฮนรี่ เอาล่ะ ผมจะไปส่งคุณที่โรงแรม”
“ผ้าขนหนูจะเอาไปซักให้ ฉันจะคืนพรุ่งนี้”
ฮาร์วี่เดินนำเธอไปที่โรงเก็บรถ มีรถหรูหลายคันในนั้น อุษาตาโต ไม่เคยเห็นรถสวยๆแบบนี้หลายๆคันจอดรวมกันมาก่อน คนขับรถเดินมาถามจะให้ขับไปส่งที่ไหน แต่ฮาร์วี่ปฏิเสธ เขาเลือกรถและขอกุญแจเพื่อจะขับเอง
Bentley Flying Spur Hybrid ถูกเขาเลือก อุษาถึงกับขาสั่น เธอรีบปัดทรายที่ติดตามเสื้อ กางเกง และสะบัดผมไปมา เพราะกลัวรถเขาจะสกปรก ฮาร์วี่เห็นแบบนั้นก็ขำพร้อมเปิดกระจกถาม
“ไม่ต้องกังวล รถเอาไปทำสปาตลอด ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น ขึ้นมาเถอะ”
อุษานั่งตัวลีบ ข้างในรถสวยมาก กี่ชาติเธอถึงจะซื้อได้ ไม่มีทางเลย นอกจากได้สามีเป็นเจ้าของบ่อน้ำมันสินะ
“คุณเป็นคนไทย แต่ชื่อคุณอ่านได้ทั้ง อุษาและUSA”
“คุณฮาร์วี่เคยไปประเทศไทยหรือเคยกินอาหารไทยมั้ย”
“ไม่เคยไปเลย ไม่เคยกินอาหารไทย แต่ผมได้ยินมาบ้างเรื่องเกี่ยวกับประเทศไทย”
“เรื่องแบบไหน?”
อุษาคิดว่าเรื่องที่ทำให้เขารู้จักประเทศไทยจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกันนะ?..
“จริงมั้ยที่คนไทยใช้แรงงานลิงเก็บมะพร้าวน่ะ”
ห่ะ..เรื่องลิง? ฉันนึกว่าจะพูดเรื่องพัทยาซะอีก อุษากรอกตาพลางคิดคำตอบให้กับเรื่องนี้
“ฉันรู้ว่ามันคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับคนที่รักสัตว์แบบคุณ ฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัวแทนชาวบ้าน แต่วิถีชีวิตของพวกเขา อยู่ด้วยกันแบบครอบครัว ลิงพวกนี้ทำให้พวกเขามีทุกอย่าง ส่งลูกเรียนจนจบได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี ลิงเหล่านี้ได้รับการดูแลเสมือนสมาชิก คนหนึ่งในครอบครัว เมื่อลิงอายุมาก ก็ปลดเกษียณแล้วดูแลอย่างดีจนหมดอายุขัย”
ฮาร์วี่ขับเข้าไปในโรงแรมจอดหน้าทางเข้าล็อบบี้ อุษาลืมบอกว่าไม่ต้องจอดตรงนี้ แต่เพราะมัวอธิบายเรื่องลิงจนลืมดูทาง
“ไว้เราค่อยคุยกันเรื่องลิงนั่นอีกทีก็ได้ ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ อุษา”
เขาพูดพร้อมหันมายิ้มให้ หน้าตาเขาที่หล่ออยู่แล้วยิ่งดูดีไปอีก
“ขอบคุณที่มาส่ง คุณฮาร์วี่”
อุษายกมือไหว้เขาแล้วก้าวลงจากรถ ทุกคนมองเธอเป็นตาเดียวตั้งแต่ยามที่ทางเข้า เบลบอย เดเนียล แน่นอนรวมถึง นิโคล่ากับเอมี่ด้วย อุษารีบเดินไปทางด้านข้างโรงแรมเพื่อไปห้องพัก
“เดเนียล เห็นหรือยัง? แค่ทำงานไม่กี่วัน มีคนขับรถหรูมาส่งแล้ว ไปไหนกันมานะเมื่อคืน ถึงกับมาส่งกันแต่เช้า” นิโคล่าแสดงออกว่าอิจฉาแบบโต้งๆ
“ถ้าเค้ามีรถ แสดงว่าเขาเป็นคนที่นี่ แล้วแถวนี้คือย่านคนรวย คงเป็นใครสักคนที่มีฐานะมากๆคนหนึ่ง ทางที่ดี ไม่ต้องพูดทุกสิ่งที่คิดจะดีกว่า นิโคล่า”
เดเนียลพูดเรียบๆแล้วเดินไปพูดคุยกับลูกค้าต่อ
“ท่าทางยัยคนนี้ไม่ธรรมดานะ ไม่ทันไรรู้จักหาคอนเนคชั่นซะละ”
เอมี่พูดพร้อมกับตะไบเล็บไปด้วย นิโคล่าได้แต่เบะปาก
แพทริคลืมตาตื่นจากแสงที่ส่องเข้าตา เขาพยายามจะดูนาฬิกาที่ข้อมือแต่ไม่มี ขณะที่ควานหาโทรศัพท์บนที่นอน หางตาเขาเห็นมีใครคนหนึ่งอยู่ในห้อง
“เอมิเลีย..ผมจำได้ว่าผมไม่ได้ให้คุณมาในห้องส่วนตัวผม ถ้าผมไม่อนุญาต”
“คุณแม่คุณจะเข้ามาเที่ยงนี้ ฉันเลยต้องเข้ามาจัดการเสื้อผ้าให้ แล้วจะปลุกคุณพอดี ถ้าท่านมาเห็นคุณยังไม่ตื่น กลิ่นเหล้าหึ่ง ไม่น่าจะดีแน่”
“วันหลัง เคาะประตูหรือให้เดเนียลมาดูแลผมก็ได้ แต่สำหรับวันนี้ ขอบคุณมาก”
แพทริคไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาแม่ของเขา ซึ่งจะเข้ามาใกล้เที่ยง นี่มันจะสิบเอ็ดโมงแล้ว เขารีบไปเตรียมตัวทันที
ทำเป็นหวงตัวกับฉันงั้นเหรอ..ฉันเคยเห็นทุกอณูของคุณมาหมดแล้วแพทริค เอมิเลียวางเสื้อผ้าแล้วหันหลังออกห้องไป
ทางด้านอุษาแต่งตัวเสร็จแล้ว จึงไปรอโรสมาเรียที่หน้าห้องพัก เธอค้นหาร้านอาหารไทย อยู่ห่างจากที่นี่ 3.2 ไมล์ ใกล้กับร้านที่เจนนภัสทำงานอีกด้วย เมื่อเธอออกมาจากห้อง อุษาถึงกับแซว
“นี่แค่ไปกินข้าวกับฉันนะ ถ้าไปเดทนี่จะขนาดไหน”
วันนี้โรสมาเรีย ปล่อยผมที่ดำสวย หยักศกนิดๆ แต่งหน้าเป๊ะมาก เหมือนดาราคนหนึ่งเลยทีเดียว
“แหม ก็จะไปเดทกับสาวไทยนี่ไงล่ะ ว่าแต่คนชวนจะพาไปกินที่ไหน?”
“ร้านอาหารไทยชื่อ Tamarind Thai Garden อยู่ใกล้ร้านเพื่อนฉันด้วยนะ เคยกินอาหารไทยไหมโรส?”
“รู้น้อยไปสิ ฉันเคยไปตลาดนัดกลางคืนสตรีทฟู้ดไทยที่ลอสแองเจลิส เสียดายห่างจากที่นี่ 2 ชั่วโมงครึ่งแน่ะ ตอนนั้นฉันลงทุนไปวันหยุดเลยนะ”
“หู้ย อยากไปบ้าง ไว้เราไปกันวันหยุด แต่วันหยุดเราไม่ตรงกันเลยแหะ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะหยุดตรงกับวันที่เธอหยุดเอง โอเค๊”
อุษายิ้มกว้างพร้อมยกนิ้วโป้งให้ ควงแขนโรสเดินออกไป พร้อมคุยจ้อถึงสุนัขตัวโตสองตัวที่เธอไปรับจ็อบจูงเดินออกกำลังกาย จนกระทั่งจะพ้นจากทางเข้า รถยนตร์คันโตของมิสซิสสมิธ ก็ขับย้อนเข้ามา กระจกรถใสจนเห็นคนนั่งข้างในด้านหลัง พวกเธอจึงหยุดเดินแล้วยิ้มให้มิสซิสสมิธ ซึ่งมิสซิสสมิธก็ยิ้มตอบ พลางบอกให้คนขับหยุดรถ และลดกระจกลง แล้วทักทายทั้งคู่
“ฉันจำเธอได้ อุษา สาวไทยที่ฉันสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง เอ่อ แล้วเธอละ ขอโทษทีที่ฉันความจำไม่ค่อยดีนัก”
“ฉันชื่อโรสมาเรีย ทำงานนวดอยู่ห้องสปา”
โรสมาเรียไม่ได้น้อยใจอะไรที่เจ้าของโรงแรมจะจำเธอไม่ได้ เธอเอาแต่อยู่ห้องสปา ไม่ได้มาเจอใครเท่าไหร่นัก
“แล้วจะไปไหนกัน? ดูท่าวันหยุดกันสินะ ไปเถอะ ฉันไม่รบกวนพวกเธอแล้วล่ะ”
ทั้งสองจึงเดินออกไปขึ้น Uber ที่มารอรับ ส่วนมิสซิสสมิธโทรหาลูกชายให้ลงมา เธอจะรอที่ล็อบบี้ เมื่อแพทริคลงมาเจอก็กอดและจูบแก้มเธอเหมือนเมื่อเขายังเด็ก สำหรับเธอ เขายังเป็นเด็กตัวโตในสายตาเธอเสมอ
“ไงลูก ดีนะแม่แจ้งเอมิเลียไว้ว่าจะมา ไม่งั้นลูกคงตื่นสาย เห็นว่าลูกไปสังสรรค์กับเพื่อนมาเมื่อคืน”
“แม่หิวหรือยัง ไปหาอะไรกินข้างนอกไหม?”
“ลูกชวนแม่ แปลว่าเลี้ยงมื้อนี้แม่นะ”
“งั้นให้แม่เลือกเลย ผมขับพาไปได้ทุกที่”
“แม่เจอพนักงานของเราคนไทยเมื่อกี้ นึกถึงอาหารไทยขึ้นมา งั้นแม่เลือกอาหารไทยดีกว่า แม่เคยกิน ร้านอะไรนะ อ้อ Blue Elephant ตอนไปฮันนีมูนที่มอลต้ากับพ่อ แม่ชอบมาก”
“แม่เจอเธอที่ไหน?”
แพทริคจากหน้าตาเฉยๆก็ทำหน้าตื่นเต้นขึ้นมา จนแม่ของเขา เหล่ตาดูด้วยความสงสัย
“รู้จักเธอแล้วเหรอ? ที่ชื่ออุษา เห็นเดินออกไปกับพนักงานของเราอีกคน”
แพทริครีบเก็บอาการและเปลี่ยนเรื่องพูดทันที
“งั้นเดี๋ยวผมดูร้านอาหารไทยว่าอยู่ตรงไหน เราไปที่รถกันเถอะ”
“ถ้าให้แม่นั่งรถสีเขียวประหลาดนั่น ไม่เอานะ ปวดหลังจริงๆ เสียงก็ดัง แถมสีมันตลกด้วยน่ะ”
“แม่…นั่นมันแลมโบกินี่เลยนะ โธ่”
“จะอะไรก็ช่าง เอารถแม่ไป”
ทั้งคู่ออกไปแล้ว นิโคล่าโทรบอกเอมิเลียทันที
“คุณเอมิเลีย พวกเขาออกไปแล้วค่ะ แล้วฉันมีเรื่องจะบอกคุณด้วย”
“ว่ามา”
“วันนี้ตอนสายประมาณสิบโมงนิดๆ มีรถหรูมาส่งอุษาที่นี่ จอดตรงหน้าล็อบบี้เลย ทำเหมือนจงใจให้เราเห็น คนที่นี่เห็นกันทุกคน คลุมผ้าเช็ดตัว ผมเปียกมาด้วย”
“ดีมาก ถ้ามีอะไรก็แจ้งฉัน ฉันไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก”
มาที่นี่แค่ไม่กี่วัน..นี่คงเป็นขยะชิ้นโตไม่ใช่เล่น และคงกำจัดไม่ง่ายนักถ้าเกิดปัญหา ตอนนี้อาจจะยัง แต่ก็ทำให้เอมิเลียไม่สบายใจอยู่เหมือนกัน
โรสมาเรียและอุษามาถึงร้านอาหารไทย เสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งน่ารัก ทำให้บริกรรู้ว่ามีลูกค้าเข้ามา ทั้งสองสั่งอาหารที่อยากกินกันเต็มที่ อุษารู้สึกดีเอามากๆเพราะในร้านมีคนไทยอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ทุกคนพอเห็นเธอและเพื่อนเข้ามาก็ยิ้ม เดินผ่านบางโต๊ะที่เป็นคนไทยก็บอกสวัสดีให้เธอกับเพื่อนด้วย เธอรู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาในทันที
“เธอคงดีใจสิอุษา ได้เจอคนไทยที่นี่เยอะ คิดถึงบ้านสินะ แรกๆที่มาทำงานฉันก็ Homesick เหมือนกัน”
“ฉันคุยกับพ่อแม่ทุกวัน แต่ส่งข้อความกันซะส่วนใหญ่ ก็คิดถึงแหละแต่ต้องอดทน เก็บเงินได้จะไปเปิดร้านที่บ้าน”
ก่อนที่บรรยากาศจะพาเศร้า โรสมาเรียเลยชวนคุยเรื่องอื่นแทน ขณะเดียวกัน เสียงกระดิ่งที่ประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ทั้งอุษาและโรสมาเรียไม่ได้สนใจ ยังคงคุยกันอย่างออกรส แพทริคและแม่เข้ามาในร้านอาหารไทย มองหาโต๊ะที่พอจะเป็นส่วนตัว บริกรเข้ามาถามเพื่ออำนวยความสะดวกพร้อมมองหาโต๊ะที่นั่งได้สองคนให้
ทันใดนั้นแพทริคเห็นอุษาและเพื่อน เขารีบบอกบริกรให้รอสักครู่และพูดกับแม่ทันที
“แม่..จะเป็นอะไรมั้ย ถ้าเราจะมีเพื่อนนั่งด้วยสักคนสองคน”
“เพื่อนลูกเหรอ ได้สิ”
“เอ่อ..ไม่เชิง ในเวลางานพวกเธอเป็นพนักงานของเรา แต่นอกเวลางานคงไม่เป็นไรใช่มั้ย”
มิสซิสสมิธกวาดตาจนเห็นโต๊ะของอุษาที่กำลังคุยกับโรสมาเรียอย่างสนุกสนาน โดยทั้งสองคนยังไม่เห็นพวกเขา
“อย่าดีกว่าแพท แม่ไม่ได้อะไรนะ แต่มันดูรบกวนพวกเธอ นั่นมันเวลาที่พวกเธอใช้พักผ่อน การมีเจ้านายไปนั่งด้วย ไม่คิดหรือว่าพวกเธอจะอึดอัด ลูกควรมีขอบเขตและไม่ล้ำเส้นใคร ไม่ใช่เราเป็นเจ้านายจะทำอะไรก็ได้”
แม่พูดถูก…เขาจึงให้บริกรจัดโต๊ะให้ ซึ่งเขาได้โต๊ะไม่ไกลจากอุษามากนัก แต่พอมองเห็นกันได้ เขาเลือกนั่งด้านที่มองเห็นหน้าเธอได้
“ที่นี่คนเอเชียเยอะจังเลยนะ พวกเขาทานอาหารแล้วคงหายคิดถึงบ้าน ได้เจอคนที่พูดภาษาเดียวกันได้ด้วย สมัยแม่ไปเรียนต่างประเทศ ร้องไห้ทุกวันจนคุณยายต้องบินมาเยี่ยมทุกอาทิตย์”
แพทริคยิ้มก่อนพูดหยอกแม่ของเขา
“ตอนผมไปเรียน ผมไม่เคยร้องไห้เลย มีแต่แม่ร้องไห้หาผม”
“ไว้มีลูกของตัวเองจะเข้าใจ ตอนนี้ 34 แล้ว เมื่อไหร่จะหาภรรยาที่ดีสักคน มีหลานให้แม่”
แพทริคมองไปที่อุษา ที่กำลังดูโทรศัพท์กับโรสมาเรียแล้วหัวเราะกันอยู่
“ภรรยาที่ดีงั้นเหรอ..คำว่าดีของทุกคนไม่เหมือนกันนะ แม่ชอบแบบไหน เดี๋ยวผมลองไปหาดูคืนนี้ที่ไหนสักแห่ง”
“แม่รู้ว่าลูกจะเลือกได้ดี ไม่ต้องถามแม่หรอก แม่ไว้ใจลูกเสมอ”
อาหารมาถึงโต๊ะของอุษา เธอเลิกดูโทรศัพท์กัน แล้วเริ่มลงมือทานพร้อมกับคุยกันไปด้วย เธอต้องการเครื่องปรุงเพิ่มจึงมองหาบริกรอีกครั้ง ไปเจอสายตาที่มองเธออยู่ เธอรีบหลบตาก้มมองอาหาร แล้วขมวดคิ้ว
..อีกแล้ว..แถวนี้ร้านตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมต้องมาเจอกัน แล้วมาจ้องฉัน โดยที่ฉันไม่รู้ตัวอีก
เธอเหลือบตาไปดูอีกครั้ง เขายังจ้องเธออยู่พร้อมกับยิ้ม..เขามากับแม่นี่เอง เธอมองไปที่โรสมาเรียที่ไม่รุ้เรื่องอะไรกำลังกินข้าวซอยอย่างเอร็ดอร่อย
ช่างเถอะ..ร้านนี้ใครจะมาก็ได้ ไม่ใช่ความผิดเขาและไม่ใช่เรื่องของฉัน
แพทริคเดินออกจากโต๊ะไป บอกแม่ของเขาว่าขอตัวไปห้องน้ำ แต่จริงๆแล้ว เขาไปบอกบริกรที่เคาน์เตอร์ว่าต้องการน้ำผลไม้แบบเดียวกับที่อุษาดื่มให้แม่ของเขา แล้วแจ้งให้แคชเชียร์ว่า ค่าอาหารของอุษาและเพื่อนให้มาลงบิลโต๊ะเขา พร้อมทั้งเขียนโน้ตไว้ให้
เมื่อบริกรน้ำผลไม้มาเสิร์ฟให้แม่ของเขา คือ อัญชันมะนาว มีสีน้ำเงินอมม่วง แม่ของแพทริคแปลกใจ เพราะเธอไม่ได้สั่ง
“ผมสั่งให้แม่นะ ดีต่อสุขภาพ”
มิสซิสสมิธลองชิมแล้วชอบมาก แพทริคยิ้มกริ่ม
“ผมดีใจที่แม่ชอบ”
เมื่อถึงเวลาเช็คบิล ไม่มีบิลค่าอาหาร แต่มีโน้ตให้เธอว่า….
..ผมชอบดูคุณมีความสุข..จาก แพท
เธอถอนหายใจ แต่บริกรยิ้มให้แล้วบอกว่า มีผู้ชายที่น่ารักมาก ชำระบิลทั้งหมดให้เธอ เรียบร้อยแล้ว โรสมาเรียถึงกับร้องว้าว “ใครกันน๊า”
โรสมาเรียกวาดสายตามอง จนไปเจอแพทริคที่มองมาทางที่พวกเธออยู่ โรสมาเรียถึงกับเงียบไป แล้วหันไปมองอุษา ทั้งคู่สบตากัน
“กลับกันเถอะ โรส ไว้ฉันค่อยขอบคุณเขาทีหลัง ดูท่าทางแม่ของเขาจะไม่ได้รู้อะไรด้วย”
อุษาพูดพลางเก็บกระเป๋าแล้วพาโรสมาเรียออกไป
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมเขาต้องจ่ายให้เรา ทำไมต้องจ้องเธอแบบนั้น จะทำตัวเป็นพ่อบุญทุ่มงั้นสิ”
โรสมาเรียดูกังวลระคนความไม่พอใจ
“ฉันจะคืนเงินให้เขาทีหลัง ตอนนี้ฉันอยากไปร้านทำผม ให้ตัวเองรู้สึกสดชื่นหน่อย เธอไปมั้ย?”
“ได้สิ ไปตัดผมหน่อย นี่ก็ผมยาวไวมาก”
ทั้งสองไปที่ร้านตัดผมที่ชื่อ Le Eve Salon อยู่บนถนน La Jolla Blvd ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม แต่ใกล้บ้านของฮาร์วี่แค่ข้ามถนนเท่านั้น ช่างให้เธอทั้งสองเลือกทรงผม อุษาเลือกทำทรง Curtain Bangs ที่ดูชิคๆสบายๆ ส่วนโรสมาเรียเนื่องจากผมของเธอเป็นลอนมาม่าสวยอยู่แล้ว แค่ตัดให้สั้นลงเท่านั้น อุษากะไว้ว่าทันเวลาเข้างานตอนบ่ายสามพอดี
แพทริคกับแม่กลับมาที่โรงแรม โดยแม่ของเขาจะพักที่นี่สองวัน เมื่อแม่ของเขาไปพักผ่อนที่ห้องส่วนตัวชั้นบนสุด เขาจึงตรงไปที่ห้องทำงาน แต่พอออกลิฟท์หันไปมองห้องของอุษา เขาจึงเปิดเข้าไปเพราะรู้ว่าเธอยังไม่มาทำงานแน่นอน
เขาไปนั่งที่เก้าอี้ที่เธอทำงาน เห็นดอกไลเซนทัสยังอยู่แต่เหี่ยวลงแล้ว โดยที่อุษาไม่ได้ทิ้ง เขาคิดอะไรอยู่พักหนึ่งแล้วออกจากห้อง เจอเอมิเลียกำลังออกจากห้องทำงานของเธอพอดี
“เอกสารรายงานต่างๆอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว คุณแพทริค”
“โอเค ขอบคุณมาก”
แพทริคตอบสั้นๆแล้วจะเดินไปที่ห้องทำงานของเขาเอง แต่เอมิเลียชิงพูดขึ้นก่อน
“คุณแพทริคชอบดอกไม้ที่ล็อบบี้มั้ย? หัวหน้าฟร้อนท์คนใหม่ของเราเลือกดอกไม้สีสันสดใสดี แต่กลัวจะไม่เข้ากับภาพลักษณ์โรงแรมเท่าไหร่ คุณคิดว่ายังไง?”
“ผมชอบนะ ทำให้รู้สึกสดชื่น ลูกค้าที่มาพักเค้าคงไม่อยากเห็นแต่สีขาวโพลนเหมือนงานศพหรอกมั้ง แถมลูกค้าที่มาพักส่วนใหญ่เป็นคู่รัก ดอกพวกนั้นความหมายก็ดีด้วย”
“จริงด้วยสินะ เธอคงจะชอบมากขนาดเอาดอกไม้ไปไว้ในห้องทำงานด้วย”
เอมิเลียพูดเสียงเรียบเฉย ยิ้มเล็กน้อย แพทริคหันมามองเอมิเลียด้วยสายตาแข็งกระด้าง ในใจเค้ารู้ดีว่าเธอคิดอะไร
“ทำไมคุณถึงชอบยุ่มย่ามห้องส่วนตัวของคนอื่น เมื่อเช้าก็เข้ามาในห้องนอนผม นี่ยังไม่มีมารยาทไปห้องทำงานคนที่เค้าพึ่งมาทำงานไม่กี่วัน”
“คุณไม่คิดว่าอาจจะแม่บ้านหรือใครที่เข้าไปหาเธอที่ห้องทำงาน เห็นแล้วเอาไปพูดกันให้ทั่วหรอกหรอ ใจร้ายจังนะ คุณแพทริค”
อุษาออกลิฟท์มาเพื่อไปที่ห้องทำงานของเธอ ถึงกับชะงักเท้าเมื่อเห็นเอมิเลียกับแพทริคยืนอยู่ด้วยกัน เมื่อใช้สายตาดูอย่างรวดเร็ว ก็เห็นเอมิเลียหน้าตาดูเครียด แต่แพทริคคือ หน้าแดงเหมือนโมโหอะไรบางอย่าง
“สวัสดีตอนบ่าย คุณแพทริค คุณเอมิเลีย”
อุษากล่าวแค่นั้นแล้วจะรีบเดินไปที่ห้องทำงาน แต่เอมิเลียเรียกเธอไว้
“เอ้อ..อุษา ทำงานไหวใช่มั้ย?”
เอมิเลียพยายามฝืนยิ้มให้อุษา แพทริคยังยืนอยู่ที่เดิม แล้วมองหน้าเอมิเลียว่าต้องการอะไรอีกกันแน่
“ฉันโอเคเอมิเลีย คุณมีอะไรหรือเปล่า?” อุษา งง ที่เอมิเลียถามแปลกๆ
“เมื่อเช้าเห็นทุกคนเค้าเป็นห่วงเธอกัน ว่าเธอไปไหนมาทั้งคืนหรือเปล่า เห็นว่าเธอกลับมาตอนเช้าสายๆ ตัวเปียกหัวเปียก ห่มผ้าเช็ดตัวมา แล้วมากับรถหรูเชียว นึกกลัวเธอจะไม่สบายไปก่อน ถ้าไม่ไหวก็บอกนะ”
เอมิเลียยิ้มพยายามแบบที่ดูใจดีที่สุด แพทริคหันมามองอุษาด้วยความสงสัยว่าเธอไปกับใคร?
อ้อ..เข้าใจละ งั้นฉันคงต้องชิ่งก่อน นี่มันสงครามของเอมิเลียกับแพทริค…
“จริงๆแล้ว เพราะฉันตื่นเช้าไปจูงสุนัขสองตัวแล้วโดนสุนัขวิ่งเล่นลากลงทะเลที่ชายหาด ส่วนคนที่มาส่งก็เจ้าของสุนัข เพราะฉันรับจ็อบจูงสุนัข อ้อ…คุณแพทริค ค่าอาหารที่คุณกรุณาจ่ายให้มื้อเที่ยงวันนี้ ฉันและเพื่อนขอบคุณมาก ฉันหวังว่าคุณสมิธแม่ของคุณจะชอบ อัญชันมะนาวนะ”
เอมิเลียหน้าแดงมองที่แพทริค ส่วนแพทริคเองที่กลับยิ้ม ตรงกันข้ามกับตอนแรก
“ฉันขอตัวไปทำงานก่อน”
อุษายิ้มให้ทั้งสอง แล้วเข้าห้องทำงานโดยไม่สนใจคนทั้งสองอีก พออุษาปิดประตูเท่านั้น สีหน้าแพทริคเปลี่ยนไปทันที
“ไปทำหน้าที่ของคุณเอมิเลีย พอได้แล้ว เลิกทำนิสัยแบบนี้ซะ ก่อนที่ผมจะไม่ทนอะไรอีก”
“แล้วปัญหาทุกครั้งที่เกิด ใครที่อยู่ข้างคุณมาตลอด? ไม่ใช่ฉันหรอกเหรอ”
แพทริคจ้องหน้า เอมิเลียจึงเก็บความเสียใจของเธอกลับไปที่ห้องทำงาน
มีเสียงเคาะประตูห้อง อุษาไปเปิดประตู พบว่าเป็นแพทริค เธอถอนหายใจใส่เขา…“ถอนหายใจใส่ผมเลยนะ ไม่คิดจะเชิญผมเข้าไปหน่อยล่ะ ยืนเมื่อยตั้งนานแล้ว”“เชิญ คุณแพทริค”อุษารอให้เขานั่ง แต่เธอยืนสำรวม มือจับประสานกันเรียบร้อยตามสถานะที่เธอเป็นอยู่ ตั้งใจไม่ปิดประตู แต่แพทริคดันประตูให้ปิด“ตัดผมใหม่คุณดูน่ารักมาก ตอนเที่ยงที่ร้านอาหารไทยกับตอนนี้เป็นคนละสไตล์เลยนะ”“ค่าอาหารเท่าไหร่คุณแพทริค? ได้โปรดให้ฉันได้คืนให้คุณ มันทำให้ฉันลำบากใจรวมถึงดอกไม้นั่นด้วย”แพทริคทำหน้าตาเศร้าลงทันที ทำหน้าแบบนี้อีกละ..ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ.... “ผมไม่อยากได้เงินคุณ ผมก็..ไม่รู้สิ แค่อยากเทคแคร์คุณ เพราะคุณไม่ใช่คนที่นี่ เป็นพนักงานของผมด้วย ผมเองก็จ่ายให้เพื่อนคุณด้วยนะ ไม่ใช่แค่คุณสักหน่อย”“เพื่อนฉันก็พนักงานของคุณเหมือนกัน”“แล้วเมื่อเช้าคนมาส่งคุณ เจ้าของสุนัขน่ะ ชื่ออะไรอยู่แถวนี้เหรอ?”นี่มันอะไรเนี่ย..ได้เวลาที่ต้องทำงาน แต่ต้องมาโดนเจ้านายถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่ไม่เกี่ยวกับงาน“ครอบครัวควินน์ บ้านของเขาอยู่หัวมุม Pearl Street คนจ้างฉันเค้าชื่อ คุณฮาร์วี่ แต่ฉันไม่ได้ทำให้งานหลักเสียนะ”“อุษา..นอกเวลาง
เช้านี้อุษารีบไปบ้านของฮาร์วี่ แม่บ้านรอเธออยู่แล้ว แจสเปอร์กับเชสเตอร์กระดิกหางดีใจที่เจอเธอเช่นกัน อุษาสวมกอดทั้งสองทีละตัว ก่อนบอกลาแม่บ้าน พร้อมส่งข้อความหาฮาร์วี่ เขาโทรหาเธอทันที อุษาจูงทั้งสองพร้อมคุยโทรศัพท์ไปด้วย“หลับสบายมั้ยเมื่อคืน คุณเลิกงานดึกด้วย มีใครทำให้คุณกลัวอีกไหม?”เสียงทุ้มนุ่ม ทำให้อุษาใจฟู“หลับสบายดี ฉันเลิกกลัวแล้วล่ะ คุณมีพลังงานด้านบวกทำให้คนที่อยู่ใกล้ รู้สึกดีได้ ขอบคุณนะฮาร์วี่”“เดินระมัดระวังรถด้วยนะ ผมจะไปทำคดีให้ลูกค้าก่อน อย่าลืมว่าเราคุยเรื่องที่ประเทศคุณค้างเอาไว้”อุษายิ้ม เขาวางสายไปแล้ว แน่นอน..ฉันอยากคุยเรื่องลิงหรืออะไรก็ได้ เมื่อพาทั้งสองเดินจนเกือบครบตามเวลา เธอแวะซื้อไอศครีมที่ร้าน Baskin-Robbins อยู่ด้านหลังบ้านของฮาร์วี่ ให้พวกเขาทั้งสองด้วย“อร่อยละสิ แทนคำขอโทษที่เมื่อวานฉันอ่อนแอไปหน่อย จนไม่ได้พาพวกเธอมาเดินเที่ยวน่ะนะ”เธอนำทั้งสองไปคืนให้ที่บ้านควินน์ กอดเพื่อนตัวโตทั้งสองของเธอ แล้วเดินกลับไปที่โรงแรมเพื่อไปพักผ่อนสักนิดก่อนจะมื้อเที่ยง เมื่อถึงห้องเธอได้โทรหาโรสมาเรีย“ฮัลโหล อุษา ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย? เมื่อวานฉันอดเป็นห่วงไม่ได้
“เฮ้อ เสร็จสักที” หญิงสาวถอนหายใจ พลางหันไปรอบห้อง ก็เหลือแค่ตัวเองคนเดียว แทบจะเป็นปกติแบบนี้ทุกวัน โดนรับน้องมาตลอดสามปี จนต้องกลับช้ากว่าทุกคนอยู่เสมอ แต่อุษาคิดว่าเธอเป็นพนักงานที่มาทีหลัง จึงต้องเรียนรู้งานมากกว่าคนอยู่มาก่อน จึงไม่คิดอะไรมากนัก เริ่มมืดแล้ว เธอรีบเดินกลับห้องพัก ที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน ทำอาหารง่ายๆกินเอง อาบน้ำอาบท่าแล้วก็นั่งไถโทรศัพท์ ไลน์ที่คุ้นเคยก็เตือนขึ้นมา “อูฐ ทำไรอยู่? ฉันตื่นเช้ามาเดินเล่น ที่นี่อากาศดีสุดๆ”“จะนอนแล้วสิ ชอบทักมาตอนใกล้จะหลับทุกที”“อีกสามชั่วโมง ถึงจะเข้างาน ช่วงนี้ราฟาเอลดีกับฉันมาก เหนื่อยก็ให้พัก ถ้าทิปได้น้อย ก็ยังแอบให้ค่าแรงเพิ่ม ชิลๆได้” ไม่ทันที่อุษาจะพิมพ์ตอบ เจนรีบส่งข้อความต่อทันที“งั้นเธอนอนเถอะ อยากให้เธอมาอยู่ที่นี่กับฉันจริงๆ ฉันเห็นใจเธอนะ โดนเอาเปรียบตลอด ได้ไปเที่ยวไหนบ้างมั้ยเนี่ย”“ไม่มีเวลาหรอกเจน วันหยุดฉันก็อยากพักผ่อนนอนทั้งวัน อากาศข้างนอกก็แย่ ประหยัดเงินด้วย งั้นฉันนอนก่อน สี่ทุ่มกว่าละ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าอูฐสักที”“ฝันดี เลิกงานวันนี้ราฟาเอลชวนฉันไปแฮงค์เอ้าท์หลังเลิกงาน จะเที่ยวเผื่อเธอนะ จุ้บ” อุษาไ
อุษาจึงเดินตรงไปเลือกตักอาหาร 2-3 อย่าง และน้ำผลไม้ เธอเลือกนั่งใกล้กับผู้หญิงคนหนึ่ง มีผิวสีแทนเข้ม ผมสีดำขลับของเธอ ดูสีเข้มกว่าอุษาไปอีก “ขอโทษนะ ฉันขอนั่งตรงนี้จะได้ไหม”“ทำไมจะไม่ได้ คุณนั่งได้ทุกที่ ที่คุณอยากนั่ง โดยไม่ต้องขอ” สาวผิวเข้มตอบ พลางกินต่อ อุษานั่งทานแบบเงียบๆ…โทรศัพท์ของอุษาก็สั่นขึ้นมา พ่อนั้นเอง…“ฮัลโหล ป๊า หนูไม่กล้าโทรหาตอนนั้น เห็นมันดึกอยู่ ตอนนี้หนูอยู่ที่โรงแรม กำลังกินข้าวในห้องอาหาร คุยเสียงดังไม่ได้”“ป๊าพึ่งเห็นข้อความที่ส่งมา เมื่อตอนตื่นนอนนี่เอง ใช้ไลน์โทรได้นี่ดีมากเลย ประหยัดเงิน ป๊าจะได้โทรหาได้บ่อย” “ค่ะป๊า แล้วแม่ละ” “แม่เค้าอาบน้ำอยู่ แต่ป๊าบอกละว่าจะโทรหาลูก สัญญาณลูกไม่ค่อยดีเลยนะ”“ที่นี่ wi-fi อาจไม่ค่อยดีมั้งค่ะป๊า ส่งข้อความเอาก็ได้ถ้ามีอะไร รักป๊ากับแม่นะ บอกแม่ด้วย”“โอเค ป๊ากับแม่ก็จะไปทำงานแล้วเหมือนกัน” หลังวางสาย สาวผิวเข้ม ก็พูดกับอุษาว่า“ห้องอาหารที่นี่ มีเวลากำหนดนะ รีบกินก่อนจะหมดเวลา” “พอดีฉันพึ่งมาอเมริกาครั้งแรก รู้สึกสับสนนิดหน่อย เหมือนหิวแต่ก็กินได้น้อย”สาวผิวเข้ม มองอุษาแล้วเริ่มแนะนำตัว“ฉันชื่อ โรสมาเรีย เป็นค
อุษาเลือกวันหยุดให้ตัวเองทุกวันศุกร์ ทำงานจันทร์ถึงพุธ 15.00-23.00 น. พฤหัสบดีและเสาร์-อาทิตย์ 7.00-16.00 น. แต่ถ้างานมีปัญหา ต้องพร้อมแก้ปัญหา สามารถทำงานนอกเวลาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช้าวันเสาร์กับงานวันแรก อุษามาทำงานก่อนเวลา เพื่อมาคุยงานกับทุกคนที่ฟร้อนท์ ซึ่งเธอจะมีพนักงานใต้บังคับบัญชาอยู่ห้าคน คือ เดเนียล ผู้ช่วยผู้จัดการควบตำแหน่งหัวหน้าพนักงานต้อนรับ นิโคล่า,ไซม่อน,โซเฟีย เป็นพนักงานต้อนรับ เอมี่เป็นพนักงานรับโทรศัพท์เหลือแค่ไซม่อน ที่เข้างานในช่วงเย็น อุษาจึงไม่ได้เจอตอนนี้ เธอคิดว่าไว้ตอนสี่โมงเย็น ค่อยไปเจอเขา ส่วนโซเฟียที่เข้างานกะดึกมาทั้งคืน พออุษาคุยเรื่องงานจบ ก็ได้เวลาเลิกงานไปพักผ่อนเมื่อคืนเอมิเลียเทรนงานให้เธอผ่านออนไลน์อย่างละเอียดดีพอสมควร พร้อมกำชับให้จำไว้เสมอว่า“ลูกค้าอยู่ด้านขวาเสมอ” เท่ากับ “The customer is always right”เธอเข้าใจดี ว่าต้องเจอกับลูกค้าทุกรูปแบบ ฉะนั้นไม่มีเวลามาอ่อนแอหรือทำไม่ได้ทุกคนดูยังไม่ค่อยเปิดใจให้อุษา แค่ไม่มีใครพูดจาโต้แย้งอะไรกับเธอ แต่อุษารู้สึกได้ อาจเพราะเธอเป็นคนมาใหม่ ในตำแหน่งหัวหน้าและดันเป็นคนเอเชีย อายุก็แค่ 27 ซึ่งทุ
จะเที่ยงคืนแล้ว อุษาขอตัวกลับเพราะต้องตื่นหกโมงเช้า แพทริคเลยจะขอตัวกลับด้วย แต่อุษากลัวเขากลับกับเธอ จึงบอกให้เขาอยู่ต่อเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องตื่นเช้าแบบเธอ แต่แพทริคก็พูดเหตุผลสารพัดที่จะกลับเหมือนกัน เจนนภัสจึงถือโอกาสเดินมาส่งอุษากับแพทริคที่รอ Uber มารับ“อูฐมานี่ได้แค่สามวันได้เพื่อนใหม่ละ ก็ดีนะ เธอยิ่งไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่”พูดจบก็โอบอุษาพร้อมกับลูบหลัง“ว่าแต่ คุณแพทริคกลับดึกแบบนี้ แฟนไม่ว่าเหรอ”เจนนภัสเจื้อยแจ้ว อุษารู้อยู่แล้วว่า เจนนภัสต้องการอะไร อุษาทำได้แค่ส่ายหน้าขำๆ“ผมโสดนะ เลิกไปหลายคนแล้ว เงินเดือนผมน้อย รถก็ไม่มีขับ บ้านก็เช่า ใครจะมาสนใจ แต่ก็สบายดี อย่างมากก็แค่เหงา”“คุณมีไอจีมั้ย คุณแพทริค”“ไม่มี ผมเป็นพวก introvert”อุษากลั้นขำสุดๆ เนียนจริงๆคนนี้ “ถ้าเหงาไม่มีเพื่อน มาร้านที่ฉันทำงานได้นะ ฉันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านที่ Rafael Bistro คุณเล่น WhatsApp มั้ย?”เป็นไงล่ะ? เจอซะบ้าง โดนต้อนโดนตื้อ จะได้เข้าใจความรู้สึกฉันมั่ง อุษาแอบเยาะเย้ยในใจ“รถมาแล้ว ผมง่วงมากเลยตอนนี้ ลาก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่” แพทริคตัดบทรีบชิ่งขึ้นรถ กวักมือเรียกอุษาให้ไว เธอบอกลาเจนนภัสก