มีเสียงเคาะประตูห้อง อุษาไปเปิดประตู พบว่าเป็นแพทริค เธอถอนหายใจใส่เขา…
“ถอนหายใจใส่ผมเลยนะ ไม่คิดจะเชิญผมเข้าไปหน่อยล่ะ ยืนเมื่อยตั้งนานแล้ว”
“เชิญ คุณแพทริค”
อุษารอให้เขานั่ง แต่เธอยืนสำรวม มือจับประสานกันเรียบร้อยตามสถานะที่เธอเป็นอยู่ ตั้งใจไม่ปิดประตู แต่แพทริคดันประตูให้ปิด
“ตัดผมใหม่คุณดูน่ารักมาก ตอนเที่ยงที่ร้านอาหารไทยกับตอนนี้เป็นคนละสไตล์เลยนะ”
“ค่าอาหารเท่าไหร่คุณแพทริค? ได้โปรดให้ฉันได้คืนให้คุณ มันทำให้ฉันลำบากใจรวมถึงดอกไม้นั่นด้วย”
แพทริคทำหน้าตาเศร้าลงทันที
ทำหน้าแบบนี้อีกละ..ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ....
“ผมไม่อยากได้เงินคุณ ผมก็..ไม่รู้สิ แค่อยากเทคแคร์คุณ เพราะคุณไม่ใช่คนที่นี่ เป็นพนักงานของผมด้วย ผมเองก็จ่ายให้เพื่อนคุณด้วยนะ ไม่ใช่แค่คุณสักหน่อย”
“เพื่อนฉันก็พนักงานของคุณเหมือนกัน”
“แล้วเมื่อเช้าคนมาส่งคุณ เจ้าของสุนัขน่ะ ชื่ออะไรอยู่แถวนี้เหรอ?”
นี่มันอะไรเนี่ย..ได้เวลาที่ต้องทำงาน แต่ต้องมาโดนเจ้านายถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่ไม่เกี่ยวกับงาน
“ครอบครัวควินน์ บ้านของเขาอยู่หัวมุม Pearl Street คนจ้างฉันเค้าชื่อ คุณฮาร์วี่ แต่ฉันไม่ได้ทำให้งานหลักเสียนะ”
“อุษา..นอกเวลางานเรา..เป็นเพื่อนกันได้มั้ย?”
“ฉันต้องขอโทษด้วย ฉันไม่สามารถเป็นเพื่อนกับนายจ้างได้ ยิ่งพึ่งมาทำงาน ได้โปรดปล่อยให้ฉันทำงานได้อย่างราบรื่นด้วย คุณแพทริค ฉันขอไปทำงานเพราะทุกคนรออยู่”
อุษายกมือไหว้เขาพร้อมกับเดินออกไป ด้วยหน้าตาที่ซีเรียส แพทริคมองตามเธอไปโดยไม่ทำอะไร ทั้งที่ในใจเขาอยากคว้าแขนเธอไว้
แค่พึ่งรู้จักไม่กี่วัน ทำไมความรู้สึกถึงรุนแรงขนาดนี้ ความหลง? อยากเอาชนะ? รักแรกพบ?
เธอไม่ขึ้นมาที่ห้องทำงานอีกเลย วนเวียนอยู่ล็อบบี้และฟร้อนท์ ทำให้นิโคล่าและเอมี่อึดอัดที่อุษามาอยู่ใกล้พวกเธอ แต่เมื่อนิโคล่าเลิกงาน ก็เป็นไซม่อนที่มาทำงานต่อ
มีข้อความเด้งขึ้นมาจากโรสมาเรีย
“เธอเจอคุณแพทริคมั้ย? ได้คืนเงินให้เขาหรือยัง? ฉันจะช่วยแชร์ด้วย”
“เจอตอนเอมิเลียกำลังจะบีบคอคุณแพทริคพอดี”
อุษาหยอกเพื่อน แต่โรสมาเรียโทรเข้ามาทันที
“อุษา แล้วเธออยู่ในเหตุการณ์ เป็นไงมั่งนะ เอมิเลียว่าอะไรเธอมั้ย?”
“บ้า ฉันล้อเล่น ฉันเจอแค่ตอนที่เค้ายืนคุยกันแต่ไม่รู้เรื่องอะไร ส่วนเรื่องคืนเงิน ฉันถามคืนให้แต่เค้าเฉไฉไปเรื่องอื่น”
“วันนี้ฉันจะรอเธอเลิกงาน โทรหาฉันนะ ฉันมีเรื่องต้องพูดกับเธอ”
“เลิกงานแล้วฉันจะโทรไปโรส”
อุษาทำงานอยู่แถวล็อบบี้ตลอด จนกระทั่งเธอเห็นแพทริคพาแม่ของเขาไปทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารของโรงแรม โดยที่เขาไม่มองเธอเลย
ก็ดีแล้ว..พูดแรงกับเขาขนาดนั้น เขาคงไม่อยากมองหน้าหรอก เป็นเจ้านายลูกน้องน่ะ ดีที่สุด
จนกระทั่งเวลาสามทุ่มครึ่ง เจนนภัสส่งข้อความว่า อยู่ตรงยามให้ออกมาหาเพราะไม่กล้าเข้าไป อุษาที่นั่งอยู่ล็อบบี้ กำลังดูรายงานการทำงานของช่วงกลางวัน เลยเอาเอกสารพักไว้ไปฝากที่ไซม่อน แล้วเดินออกไป...
แพทริคอยู่ชั้นสองนั่งดื่มบรั่นดี ดูวิวทะเล ท้องถนนยามค่ำคืน พอเห็นอุษาเดินออกไป เค้าถึงกับวางแก้ว แล้วยืนดูว่าเธอออกไปไหนหรือใครมาหาเธอ จนเขาเห็นว่านั่นคือ เจนนภัส ไม่รู้อะไรดลใจให้เค้าลงไปหาพวกเธอ
อุษาพาเจนนกัสมานั่งที่ม้านั่งสวนเล็กๆข้างโรงแรม เพื่อไม่ให้น่าเกลียดเพราะเธอยังอยู่ในเวลางาน
“อ่ะ อูฐ เอาขนมมาให้ จากร้านฉันเลย ราฟาเอลพอรู้ว่าจะมาหาเธอเลยนำเสนอสุดๆ เค้าเรียกว่า ฟลาน เป็นคัสตาร์ดหน้าซอสคาราเมล”
“ขอบใจนะ อยากกินขนมอยู่เลยเนี่ย”
อุษากำลังหยิบขนมในถุงออกมาชื่นชม อยู่ๆเจนนภัสก็ลุกขึ้น “คุณแพทริค”
แพทริคที่กำลังจะเดินไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัยหันกลับมาที่เจนนภัสแล้วยิ้มให้
อุษาถึงกับเลิ่กลั่กเมื่อได้ยินเจนนภัสเรียกชื่อเขา คิดหาวิธีไปให้พ้นจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว เธอได้ยินเสียงเดินใกล้เข้ามา จึงรีบลุกยืนขึ้น เมื่อเสียงเดินมาหยุดตรงที่พวกเธออยู่พอดี
“เอ้อ..ฉันเอาขนมไปเก็บก่อนนะ เธอออกมา กว่าจะถึงนี่ ขนมจะเสียก่อน”
“บ้า ขนมนี่นะจะเสีย พึ่งทำตอนเย็นนี่เอง เอ่อ คุณแพทริคยังไม่เลิกงานเหมือนกันเหรอ?”
“คุยกันไปก่อน เจน ถ้ามีอะไรข้อความมานะ”
อุษารีบหิ้วถุงขนมจะเดินหนีไป โดยไม่มองหน้าเขา แพทริคจับแขนเธอไว้
“เราบอกความจริงให้เพื่อนคุณก็ได้ แต่ไม่ใช่มาทิ้งผมไว้ตรงนี้”
เจนนภัสเลิกตาโต มองทั้งคู่สลับไปมา
“ฉันไม่เกี่ยวด้วยในสิ่งที่คุณพูดไว้กับเพื่อนฉัน ฉันเป็นแค่ผู้ฟัง”
“งั้นคุณก็เป็นผู้ฟังอีกทีคงไม่เป็นไร”
เสียงของเขาไม่ใจดีกับเธออีกแล้ว เจนนภัสก็ยัง งง ที่สองคนนี้พูด ได้แต่มองทั้งคู่ อุษากระตุกแขนออกจากมือของเขา
“จริงๆผมไม่ใช่เพื่อนของอุษา ผมเป็นเจ้านายเธอ เป็นลูกชายเจ้าของที่นี่ ผมพูดจริงที่โสด แต่ผมพูดไม่จริงที่บอกว่า อยากอยู่คนเดียว ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ที่นี่ต้อนรับคุณเสมอเจน คุณมาหาอุษาเพื่อนคุณได้ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องมานั่งหลบตรงนี้ ส่วนอุษา คุณควรดูแลเพื่อนแสนสวยของคุณให้ดีกว่านี้นะ..”
“คุณอยากไปนั่งคุยกันที่ล็อบบี้มั้ย? เจน”
เจนนภัสยิ้มให้แพทริค แต่ในใจนั้นเธอโกรธอุษานิดหน่อยที่พามานั่งหลบตรงนี้ ที่แท้เพื่อไม่ให้เธอเจอแพทริคนี่เอง ถ้าแพทริคไม่ลงมาเห็นเธอ คงคลาดไม่เจอกันสินะ
“เธอทำงานเถอะ อูฐ ฉันไม่กวนเธอแล้ว กินขนมให้อร่อยนะ”
“เชิญทางนี้เจน”
พวกเขาเดินไปแล้ว อุษาจึงนำขนมไปเก็บไว้ที่ห้องพัก เธอไม่โกรธเจนนภัส แต่ก็ยอมรับกับตัวเองว่ารู้สึกแย่หน่อยๆ อีกหนึ่งชั่วโมงนิดๆถึงจะเลิกงาน เธอเดินกลับไปที่ห้องทำงานที่ชั้นสองเพื่อดูว่าต้องซื้ออะไรในวันพรุ่งนี้บ้าง เธอสนใจเรื่องน้ำหอมที่ต้องการเปลี่ยนกลิ่นพอดี
ที่ล็อบบี้ เจนนภัสคุยเจื้อยแจ้วไม่หยุด ถามนั่นถามนี่เรื่องไร้สาระในความคิดของแพทริค เจนนภัสพยายามสัมผัสตัวเขาบ่อยมากเวลาที่พูด ไม่รู้ตั้งใจหรือลืมตัว แต่เขาค่อนข้างที่จะไม่ค่อยชอบเอามากๆ ไซม่อนสังเกตดู เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงเอเชียคนนี้มาก่อน แต่งตัวก็ธรรมดา กิริยามารยาทก็แปลก พูดไปหัวเราะไปทั้งที่มันไม่ขำอะไร แปลกที่มารู้จักคนแบบเจ้านายเขาได้ แต่แล้วไซม่อนก็เลิกสนใจ ไม่ใช่เรื่องของเขา
อุษาไปไหนเนี่ย?..ทำไมไปที่ห้องนานขนาดนี้ ไม่คิดจะทำงานหรือไงนะ?
แพทริคคิดแล้ว จึงขอตัวจากเจนนภัสสักครู่ แล้วตรงไปที่ไซม่อน
“หัวหน้าฟร้อนท์ไปไหนรู้มั้ย”
“คุณแพทริคต้องการอะไร? ผมจะช่วยดูแลให้ เพราะคุณอุษาทำงานที่ชั้นสอง เธอแจ้งผมไว้แบบนั้น”
“โอเค ไม่มีอะไร”
เขาตรงไปหาเจนนภัสพร้อมบอกว่ามีนัดกับเพื่อนกะทันหัน เขาจะเรียกแท็กซี่ให้เธอพร้อมจ่ายค่าแท็กซี่ให้ เจนนภัสก็เข้าใจด้วยดี เธอมีความสุขมาก คิดไม่ผิดที่มาที่โรงแรมในวันนี้
ระหว่างที่แพทริคเดินไปส่งเจนนภัสที่แท็กซี่ เจนนภัสก็อ้อนเขา
“แล้วเราจะได้เจอกันอีกมั้ย?”
“ไว้ผมว่างจะไปที่ร้านคุณ”
“เราแลกเบอร์กันไว้ก็ได้ ถ้าคุณเข้าไปบางทีฉันทำงานอยู่”
“แท็กซี่มาแล้ว รีบกลับเถอะ ดึกแล้ว เพื่อนผมก็รอเหมือนกันตอนนี้”
เขารีบเปิดประตูให้เธอ พร้อมชำระค่าแท็กซี่ให้พร้อมทิป พอแท็กซี่ขับออกไป เขาถอนหายใจอย่างแรง
อุษา เธอคิดจะหนีหน้าฉัน ได้สิ ยิ่งหนีจะยิ่งให้เธอต้องเห็นหน้าฉันบ่อยๆ...
แพทริคไปชั้นสองที่ห้องอุษา เขาเปิดเข้าไปโดยไม่เคาะประตู อุษาตกใจยืนขึ้น ดูว่าใคร เพราะคอมพิวเตอร์บังอยู่ พอเห็นเป็นแพทริค ใจเธอหล่นวูบ นี่มันดึกแล้ว ไม่มีใครที่ชั้นสองเลย มีแค่เธอกับเขา แล้วเขาเข้ามาไม่เคาะประตูด้วย เธอหยิบปากกาด้ามนึงไว้ในมือ กำไว้แน่น
อุษาเม้มปากสนิท ไม่มีคำพูดใดๆ สายตาเธอดูไม่ไว้ใจเขา เธอไม่ออกมาจากโต๊ะแต่จ้องเขาเหมือนระวังตัวเอามากๆ นี่เขาน่ากลัวในสายตาเธอขนาดนี้เลยเหรอ?
“อุษา ทำไมคุณไร้มารยาทกับเพื่อนคุณ เจนมาหาคุณแต่คุณทิ้งเธอไว้กับผม จนผมต้องส่งเธอขึ้นรถกลับไปเอง”
ใจอุษาเต้นแรงมาก เลือดสูบฉีดขึ้นหน้า เธอไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องอยู่กับผุ้ชายที่กำลังไม่พอใจเธอสองต่อสองและกำลังต่อว่าเธออยู่
“ตอนแรกเจนอาจจะอยากมาหาฉัน แต่พอเจอคุณ ฉันก็ไม่จำเป็น คุณอาจจะดูเพื่อนฉันไม่ออก แต่เจนเป็นเพื่อนฉันมานาน ฉันจะยินดีที่คุณและเพื่อนฉันเข้ากันได้ดี ก็เลยอยากให้พวกคุณได้คุยกันเป็นการส่วนตัว”
เขาสังเกตได้ว่าเสียงเธอสั่น แพทริคเดินมาที่หน้าโต๊ะและเห็นเธอกำปากกาไว้แน่นในลักษณะที่แทงเขาได้ทันที เขาเองพอจะรู้เรื่องทางจิตวิทยามาบ้าง คนเราเมื่อความกลัวและความกดดันมาถึงที่สุด จะกล้าทำในสิ่งที่ไม่คิดจะทำมาก่อนเพื่อปกป้องตนเองตามสัญชาตญาณ
“เกลียดผมมากจนถึงขนาดอยากแทงผม?”
อุษาก้มหน้า ค่อยๆเอามือที่กำปากกาซ่อนไว้ข้างหลัง แล้วพูดโดยไม่มองหน้าเขา
“นี่จะห้าทุ่มแล้ว ใกล้เวลาเลิกงาน ฉันขอให้คุณปล่อยฉันไป ถ้ามีอะไรต้องคุยเรื่องงาน ขอเป็นพรุ่งนี้ได้มั้ย?”
“โอเค งั้นขอปากกาให้ผม”
อุษาหน้าแดงมากๆ เธอหายใจแรง แต่ไม่ใช่เพราะเขินเขาแน่นอน เธอกำลังโกรธและกลัว แต่พยายามฝืนเอาไว้ อุษาวางปากกา แล้วเบี่ยงตัววิ่งออกจากโต๊ะเพื่อให้พ้นเขา ตอนนั้นในหัวสมองของเธออยากไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด
แต่เขาคว้าเธอไว้ทันก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องและกอดเธอไว้ เธอดิ้นอยู่ในอ้อมกอดอันแข็งแรง เล็บทุกนิ้วจิกลงบนอกเสื้อ ตัวเธอสูงเท่าคางเขาเท่านั้น ตัวเล็กและหอม น่าทะนุถนอมเอามากๆ แพทริคก้มลงจูบแก้มเธอ แล้วก้มลงไปซุกไซร้ซอกคอเธออีก เสียงอุษาอู้อี้ เขาเองก็หูอื้อ ไม่ได้ยินหรือสนใจเสียงอะไรอีกแล้ว
“ฉันต้องบอกคุณแม่คุณ ฉันจะบอกแน่นอน”
เสียงอุษาดังขึ้นมา เธอหายใจแรงในอ้อมกอดเขาและน้ำตาคลอหน่วย
“ก็บอกสิ ผมอ่านเรซูเม่ของคุณ เหตุผลที่อยากมาทำงานที่นี่ ไม่อยากทำตามความฝันแล้วเหรอ?”
“คุณแม่คุณจะให้ความยุติธรรมกับฉัน แต่ถ้าไม่ ฉันก็แค่กลับบ้าน ปล่อยฉัน”
เธอเริ่มกระฟัดกระเฟียด เป็นแมวน้อยขู่ฟอดๆไปแล้วตอนนี้ ทำให้เขายิ่งเอ็นดูเธอไปอีก ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์อุษาก็ดังขึ้น โรสมาเรียโทรมานั่นเอง
“เพื่อนฉันโทรมา ปล่อยฉันสิ”
อุษาเงยหน้าจ้องตาเขาด้วยความโกรธ เขาถือโอกาสตอนนี้จูบเธออย่างแนบแน่น เธอหนีไม่พ้นเพราะโดนกอดจนขยับตัวไม่ได้ เขาจูบเธอเหมือนกำลังชิมลิ้มรสจูบเธออยู่ และเริ่มเอาลิ้นเข้าไปในปากเธอ จนเธอสะบัดหน้าหนี แล้วร้องไห้เสียงดังเพราะความกลัว แพทริคเลยปล่อยเพราะเขาเองก็ตกใจที่อุษาร้องไห้ เขาคงทำเกินไปจริงๆ เธอคว้าโทรศัพท์แล้ววิ่งออกไป แพทริคยืนตะลึงตั้งสติอยู่ตรงนั้นไม่ได้ตามไป อุษาเลือกลงบันไดทางหนีไฟเพื่อลงไปยังห้องพัก ไม่ต้องการให้ใครเห็นเธอร้องไห้
เธอสับสนเมื่อไปถึงห้อง รีบอาบน้ำ ล็อกประตูอย่างแน่นหนา ทำตัวปกติคุยโทรศัพท์กับพ่อและแม่ เวลาที่ไทยคือ บ่ายสอง พอวางสาย ก็เริ่มตั้งสติ ถ้าปกป้องตัวเองไม่ได้แล้วจะปกป้องความฝันได้ยังไง? แพทริคคือชนชั้นพรีวิลเลจ เขามีอำนาจทุกอย่างที่จะทำร้ายเธอได้ ที่นี่เธอเป็นแค่คนต่างด้าวเท่านั้น อุษาร้องไห้จนหลับไปด้วยควาหวาดระแวงและเหนื่อยอ่อน
เช้ามาเธอรีบตื่นแต่เช้า ส่งข้อความขอโทษโรสมาเรียทิ้งไว้ อ้างว่างานเยอะมากจนนอนสลบ แล้วรีบไปที่บ้านฮาร์วี่เพื่อไปรับสุนัขทั้งสองตัว แม่บ้านมาเปิดประตูให้ เธอส่งข้อความหาฮาร์วี่ว่ามารับเด็กๆไปเดิน ไม่นานนัก เขาก็มาหา แต่ไม่ทันได้พูดอะไรเพราะเห็นหน้าอุษา เธอตาบวม
“อุษา วันนี้คุณไม่สบายหรือเปล่า?”
“ไม่ ฉันสบายดี ฉันจะพาเด็กๆไปเดินและจะกลับมาเวลาเดิม วันนี้ฉันไม่โดนลากลงทะเลอีกแน่นอน”
อุษาพูดแล้วยิ้มเล็กๆแต่ฮาร์วี่รู้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจที่ปิดบัง เขาเรียกแม่บ้านมานำทั้งสองตัวไปที่โซนที่อยู่ของสุนัขตามเดิม
“เอ่อ ฉันทำได้ ทำไมเอาเด็กๆไปเก็บ”
ไม่นะ…เธอไม่อยากเสียงานนี้ วันนี้เธอหวังให้แจสเปอร์และเชสเตอร์ช่วยฮีลใจเธออีกต่างหาก
“ไปนั่งคุยกันที่สวนมั้ย? ผมจะเคลียร์กับเอเจนซี่เอง วันนี้คุณไม่ต้องทำหรอก”
เสียงเขาอ่อนโยนมาก จนเธอน้ำตาจะไหล ฮาร์วี่โอบเธอพาไปนั่ง
“ขอโทษนะอุษา คุณตาบวม ร้องไห้มาเมื่อคืนสินะ? คุณมาทำงานที่นี่ มีอะไรไม่สบายใจระบายให้ฟังได้ ถ้าผมพอช่วยเหลืออะไรคุณได้”
“ฉันพึ่งทำงานนี้ได้วันเดียว ฉันไม่อยากมีปัญหา ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องมาเคลียร์ให้ฉันเลย”
ฮาร์วี่สังเกตว่าเธอตัดผมใหม่ ทำให้เธอดูเด็กลงและน่ารัก
“ใครที่โรงแรมแกล้งคุณ?”
อุษามองสบตาเขาแต่ไม่กล้าพูด เธอจะพูดยังไงดี
“ฉันเข้างานถึงห้าทุ่มอาทิตย์ละสามวัน เมื่อวานวันแรก ฉันรู้สึกกลัวมาก”
“ผู้หญิงทำงานกะดึกๆแล้วมุมอับของโรงแรมมีมากมาย ผมได้รับเคสโดนล่วงละเมิดค่อนข้างเยอะ ส่วนมากเหยื่อจะกลัวหรืออาย จนไม่กล้าเอาเรื่อง เพราะคนล่วงละเมิดมักเป็นคนที่มีฐานะทางสังคมสูง หลายคนเป็นถึงเจ้าของกิจการก็มี”
หลังเขาพูดจบ อุษาหายใจถี่และถอนหายใจยาวแม้จะพยายามเก็บอาการ แต่ฮาร์วี่ที่คลุกคลีกับคดีความมากมายจนเข้าใจอาการแบบนี้ดี เขาเริ่มสงสารเธอขึ้นมา
“คุณกลัวอะไรเมื่อคืนนี้ถึงร้องไห้?”
“ฉันกลัวคน ฉันทำงานชั้นสองคนเดียว เพราะมันห้าทุ่ม มีคนพยายามเข้าหาฉัน ฉันพึ่งมาทำงานได้ไม่กี่วันเท่านั้น”
“ใครที่พยายามเข้าหาคุณ อุษา แล้วเค้าทำอะไรคุณมั้ย”
“เขาไม่ได้ทำ…”
อุษาเริ่มโกหก สมองของเธอเริ่มคิดว่าเธอจะแก้ปัญหานี้ได้ยังไงดี โดยที่ทุกอย่างต้องไม่พังเอาตอนนี้ ชีวิตใหม่พึ่งจะเริ่มแท้ๆ
“จะบอกว่าคุณร้องไห้เพราะความกลัวจนจินตนาการไปเอง?”
“ก็อาจเป็นได้ ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่เห็นมีคนขึ้นมาชั้นสอง ฉันกลัวมากเลยวิ่งลงบันไดหนีไฟไป”
เธอโกหกไม่เก่งจริงๆ ฮาร์วี่คิด เพราะคำพูดกับสีหน้าและแววตาไม่ไปทางเดียวกันเลย
“ถ้าคุณยังไม่ไว้ใจผมและยังไม่พร้อม ไม่เป็นไรนะ ผมเข้าใจ วันนี้คุณกลับไปพักก่อน ผมอยากช่วยคุณโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไรทั้งนั้น ลองไปคิดดู”
อุษาเดินกลับมาที่โรงแรม เธอไม่ไปกินข้าวเช้า เก็บตัวในห้อง โรสมาเรียส่งข้อความมาชวนไปกินข้าว แต่เธอบอกว่าไม่ค่อยสบายปวดหัวนิดหน่อย และพอมีอาหารแห้งที่ซื้อไว้ในห้อง
แพทริคเองนอนไม่ค่อยหลับเพราะเสียงร้องไห้และใบหน้าที่มีน้ำตายังติดตา เสียงร้องไห้ดังของเธอยังอยู่ในสมอง แต่ริมฝีปากที่แสนหวานนั้น เขาเองยังจำรสชาตินั้นได้อยู่ ตอนนี้อุษาจะทำอะไรอยู่นะ?..เขารู้สึกระบม เลยลูบคลำไปที่หน้าอก ที่มีรอยฟกซ้ำและถลอกจากเล็บทั้งสิบนิ้วของเธอที่จิกลงบนเนื้อของเขา ถ้าไม่มีเสื้อ เนื้อเขาของหลุดติดเล็บเธอไปแน่ๆ
แพทริคลงมาที่ฟร้อนท์ตอนสิบโมง แกล้งถามเดเนียลเรื่องทั่วไปจนถามเรื่องอุษา
“หัวหน้าฟร้อนท์เข้างานกี่โมง ทำไมยังไม่มาทำงาน?”
“เธอเข้างานบ่ายสาม ช่วงเวลานี้ผมดูแลอยู่”
อุษาไม่ออกมาจากห้องเลยจนใกล้เวลางาน ส่วนแพทริคดูแลแม่ของเขาให้คนขับรถพาไปทำธุระที่ดาวน์ทาวน์ เขากระวนกระวายอยู่ในห้องทำงานและสั่งไม่ให้ใครรบกวน จนเวลาจะบ่ายสาม อุษามาที่ฟร้อนท์พร้อมกับสั่งงาน และเอาเอกสารไปนั่งดูที่ล็อบบี้แทนที่จะไปชั้นสอง ข้อความเจนนภัสก็เข้ามา
“วันนี้ฉันจะไปที่โรงแรมนะ ว่าจะเอาของกินไปฝากคุณแพทริคด้วย”
“เธอมาได้เลย ติดต่อที่เคาน์เตอร์ให้เค้าโทรหาคุณแพทริคนะ”
“ไม่ต้องทำเสียงเศร้า ฉันไม่โกรธเธอหรอกอูฐ คนเรามันชอบคนๆเดียวกันได้ อยู่ที่เขาจะเลือกใคร เท่านั้นเอง
“ฉันไม่ได้ชอบเขาแบบนั้นเลย ไม่ว่าแบบไหนทั้งนั้น มีแค่เจ้านายกับลูกน้อง อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ ขอร้องเถอะ”
แพทริคลงมาที่ล็อบบี้ เขานัดเพื่อนให้มาหา เจออุษานั่งดูเอกสารมากมายบนโต๊ะ เขาทำใจดีสู้เสือเข้ามาถามเธอ “อุษา..”
แค่เอ่ยชื่อยังไม่ทันพูดอะไร เธอรวบเอกสารทุกอย่าง ยกมือไหว้แล้วขอตัวไป โดยก้มหน้ามองพื้นเท่านั้น แพทริคไม่ได้มองตามเธอ แต่นั่งลงที่เก้าอี้เงียบๆ จริงๆเธอจะบอกแม่เขาก็ได้เช้านี้ แต่กลับไม่ทำ เขาเองก็พร้อมถ้าเธอบอก อยากรับผิดชอบเธออยู่แล้วเหมือนกัน
อุษาขึ้นไปทำงานที่ชั้นสองโดยล็อกประตูตลอดเวลา ตอนนี้สองทุ่ม เธอคิดว่าเวลาเดินช้ามาก ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์จากไซม่อนก็ดังขึ้นมา
“คุณอุษา มีแขกมารอพบคุณ ชื่อ คุณฮาร์วี่”
“หะ..เอ่อ โอเค ฉันกำลังจะลงไป”
อุษาลงไปที่ล็อบบี้ เจอกับแพทริคกับกลุ่มเพื่อน โดยที่ฮาร์วี่นั่งรอเธออยู่ห่างกันไม่เท่าไหร่ อุษาเดินไปหาฮาร์วี่ โดยอยู่ในสายตาของแพทริคที่จ้องมองฮาร์วี่อยู่ด้วยความสงสัย
“สวัสดี คุณฮาร์วี่มีอะไรให้ฉันช่วยเหลือมั้ย?”
“ผมไม่ได้มาหาห้องพัก ผมแค่มาอยู่เป็นเพื่อนคุณ ผมเอาโน้ตบุ๊คมา กะมาทำงานที่นี่ คุณคงไม่ว่า ผมสั่งเครื่องดื่มได้มั้ย? น้ำผลไม้สดอะไรก็ได้ รบกวนคุณเลือกให้ผม คุณเลิกงานห้าทุ่ม เราเอาเด็กๆออกมาเดินเล่นก็ดีนะ เปลี่ยนบรรยากาศ”
เขาจิตใจดีและน่ารักมากเหมือนหน้าตาจริงๆ....
“ผมจ่ายค่าจูงสุนัขไปที่เอเจนซี่ เหมือนว่าคุณมาทำงานตามปกติ แล้วบอกว่าคุณไม่ได้ส่งรายงานให้เพราะเด็กๆของผมลากคุณลงทะเลเลยไม่สบาย”
อุษาพนมมือไหว้เขา แล้วลุกไปเพื่อเอาเครื่องดื่มมาให้
ฮาร์วี่เริ่มเปิดโน้ตบุ๊คและทำงาน ทุกอย่างอยู่ในสายตาของแพทริคที่มองอยู่โดยตลอด จึงเดินไปหาเขาแล้วแกล้งถาม
“สวัสดี เอ่อ คุณมารอเช็คอินหรือเปล่า? มีอะไรให้ทางโรงแรมเราบริการบอกทางฟร้อนท์ได้เลยนะ”
“ผมมารอเพื่อนเฉยๆ พอดีเธอทำงานที่นี่ ผมสั่งเครื่องดื่มไปแล้ว ขอบคุณมาก”
ฮาร์วี่ยิ้มอย่างมีมารยาท แพทริคต้องฝืนยิ้มไปด้วย
“ผมแพทริค สมิธ เป็นเจ้าของที่นี่ ยินดีที่รู้จัก แล้วคุณอยู่แถวนี้เหรอ?”
“ยินดีที่รู้จักเช่นกัน ผมฮาร์วี่ ผมอยู่ไม่ไกล เดินแป๊ปเดียวก็ถึง อยู่ใกล้ Darlington House”
“อ้อ ด้านหลังของ Lamborghini San Diego นี่เอง พอดีผมถอยรถจากตัวแทนที่นี่”
อุษาเดินยกเครื่องดื่มมา เธอรู้สึกไม่ดีอีกครั้งที่เห็นแพทริคนั่งคุยกับฮาร์วี่ แต่ก็กลั้นใจเอาไปวางที่โต๊ะ โดยไม่มองที่แพทริคเลย อุษาฝืนยิ้มให้ฮาร์วี่
“คุณฮาร์วี่ น้ำผักผลไม้รวมปั่น ไม่มีน้ำตาล ฉันขอไปทำงานต่อก่อน ถ้าต้องการอะไรแจ้งพนักงานได้”
ฮาร์วี่ยิ้มให้เธอ เขารู้สึกได้ว่า คนระดับเจ้าของนั่งอยู่ แต่อุษาไม่แม้แต่จะมองหรือพูดคุยอะไร ส่วนแพทริค สายตาที่เขามองเธอ ผู้ชายด้วยกันย่อมดูออก.. จนแพทริคขอตัวกลับไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะ
ฮาร์วี่ชำเลืองมองอุษาเป็นครั้งคราว เวลาที่เธอเดินไปเดินมาทักทายลูกค้าหรือคุยกับไซม่อน เขารู้สึกว่าเธอใส่ชุดทำงานแบบเดรสได้สวย ทรงผมใหม่ทำให้ดูมีเสน่ห์ แล้วเขาก็ก้มทำงานหรือคุยโทรศัพท์บ้าง ตรงกันข้ามกับแพทริค เขาเริ่มไม่มีสมาธิ จนไม่ได้ฟังว่าเพื่อนพูดคุยอะไรกัน
“แพทริค นายเป็นอะไร อยู่ๆก็เงียบ”
“พวกนายอยู่ต่อได้นะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี ปวดหัวหน่อย ขอไปนอนพักสักพัก ถ้าดีขึ้นจะลงมา ถ้าพวกนายยังไม่ไป”
แพทริคเดินไปที่ไซม่อน ฝากดูแลเพื่อนๆที่อยู่ล็อบบี้ เขามองอุษาที่นั่งดูเอกสารอยู่ในเคาน์เตอร์แคชเชียร์ เธอทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน
“อุษา ผมขอคุยด้วยหน่อย”
อุษาเงยหน้าแล้วลุกขึ้นยืน มองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนวาน เธอเงียบรอเขาพูดจนแพทริครู้สึกอึดอัด
“ขอคุยเป็นการส่วนตัว”
“ฉันเกรงว่าจะไม่เหมาะ คุยกันที่นี่ก็ได้ คุณแพทริค”
“ก็ได้” แพทริคถอนหายใจ
“คุณคงอยากให้มีคนอื่นเป็นพยานด้วยสินะ เรื่องของเรา”
อุษาเริ่มอยู่ไม่สุขกับสิ่งที่เขาพูด จ้องเขาเขม็ง
“คุณรู้มั้ยว่า ผู้ชายที่มารอฉันคนนั้นเค้าเป็นทนายความ”
“ผมยินดีรับทุกข้อกล่าวหาเลย”
ไซม่อนถึงกับขอตัวออกไปจากตรงนั้น เขาเริ่มคิดว่ามันน่ากลัวเกินไปที่จะฟังเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย ฮาร์วี่เห็นที่แพทริคยืนคุยกับอุษา เขาเริ่มสนใจมองดู ส่วนอุษาที่รู้แล้วว่าไซม่อนได้ยินแบบนี้อาจคิดไปไกลแล้ว พรุ่งนี้เธอต้องรับมือกับอะไรอีกนะ
“คุณแพทริค จะทำอะไรต้องนึกถึงคุณแม่คุณและชื่อเสียงของตัวคุณเองด้วย”
“แน่สิ คุณมันคนเก่ง ตกผู้ชายอย่างผมได้ แล้วยังตกทนายไฮโซนั่นด้วย โรงแรมผมมันก็แค่ที่นัดพบ”
“ช่วยมีมารยาทกับฉันด้วย คุณแพทริค”
ก่อนที่อะไรจะแย่ไปกว่านี้ อุษามองข้ามไหล่เขา เห็นเจนนภัสเข้ามา นั่นไงตัวช่วยมาพอดี
“สวัสดีคุณแพทริค ไงอุษา?”
“ไปข้างบนกันมั้ย? ผมมีไวน์ดีๆอยากให้คุณชิม”
เขาต้องการประชดอุษา คิดไปเองว่าเผื่อเธอจะหวงเขาบ้าง แต่เธอไม่สนใจ นั่งลงทำงานต่อ เจนนภัสทำท่าดีใจ ไม่สนใจอุษาอีก ถือกล่องขนมแล้วเดินตามเขาไป อุษามองตาม รู้สึกเป็นห่วงเพื่อน แต่ห่วงไปก็เท่านั้น ไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว จนเวลาเลิกงาน เพื่อนของแพทริคกลับไปก่อนหมดแล้ว เจนนภัสและเขาก็ยังไม่ลงมากัน เธอจึงไปหาฮาร์วี่
“คุณฮาร์วี่ รบกวนคุณมากเลย แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว ห้องพักฉันอยู่ข้างหลังนี่เอง ฉันเหนื่อยจริงๆ พรุ่งนี้จะรีบไปรับเด็กๆไปเดินออกกำลังกายตามเดิม”
“ผมเดินไปส่งที่ห้องนะ จะได้รู้ว่าคุณปลอดภัยจริงๆ”
ทั้งคู่เดินไปด้วยกันจนถึงหน้าตึกห้องพัก อุษารู้สึกปลอดภัยเมื่อฮาร์วี่อยู่ด้วยในคืนนี้ เธอกล่าวขอบคุณและมองแผ่นหลังของเขาที่เดินกลับไปจนลับตา
แพทริคอยู่กับเจนนภัสสองต่อสองในห้องพักชั้นบนสุด เขาจูบกับเจนภัสอย่างเร่าร้อน แต่ในใจเขากลับนึกถึงอุษา นึกถึงตอนที่เขาจูบกับเธอ แต่พอนึกถึงตอนเธอร้องไห้ เขาก็ผลักเจนนภัสออก แต่เจนนภัสไม่ยอม เธอรุกเขาทั้งจูบทั้งลูบไล้ตรงนั้นของเขาเพื่อให้เขามีอารมณ์มากขึ้น แต่แพทริคกลับรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่ เขาจับไหล่เธอผลักออกอีกครั้ง
“พอเถอะเจน ผมว่าเราเลยเถิดเกินไปหน่อย”
“แต่คุณก็ต้องการ ร่างกายคุณบอกแบบนั้น”
“คุณไม่อยากไปหาอุษาเพื่อนคุณสักหน่อยหรอ?” แพทริคเริ่มพูดเปลี่ยนเรื่อง
“ฉันรู้สึกไปเองมั้ง ว่าอุษาอาจจะอิจฉาฉันมาตลอด เมื่อวานถึงขนาดไม่อยากให้ฉันเจอคุณ ขนาดถามเรื่องคุณ อุษายังบอกว่าคุณไม่มีรถขับ บ้านก็เช่า จงใจพูดให้ฉันเข้าใจแบบนั้น เห็นฉันมาอเมริกา ก็อยากมาบ้าง ฉันเลือกอยู่เมืองนี้ ก็อยากจะอยู่บ้าง เพราะย่านนี้คนรวยๆเยอะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีสังคม พอเห็นฉันมีเพื่อนเยอะก็เริ่มใช้ของมียี่ห้อ เพื่ออยากให้มีคนคบ”
“หยุดพูดแบบนั้น นั่นเพื่อนคุณนะ ผมไม่ชอบฟังอะไรแบบนี้ ถ้าคุณว่าเธออีกครั้ง คุณจะไม่มีทางได้มาที่นี่อีก”
แพทริคทำเสียงดุใส่เจน จนเจนนภัสตกใจ เมื่อวานเขายังตำหนิอุษาอยู่เลยที่ดูแลเธอไม่ดีให้ไปนั่งข้างนอกโรงแรม เจนนภัสทำหน้าจะร้องไห้และไปเข้าห้องน้ำ
เขาดูเวลา นี่อุษาเลิกงานแล้ว จึงสั่งให้คนขับรถไปส่งเจนนภัสกลับ เธอสับสนและหน้าเสียมากที่เขาชวนมาที่ห้องแต่กลับไล่กลับเสียอย่างนั้น
แพทริคไปถามไซม่อนว่าอุษาออกไปกับใครไหม ไซม่อนตอบแค่ว่าเธอเดินออกไปกับแขกที่นั่งอยู่ล็อบบี้หลายชั่วโมงคนนั้น ทำเอาแพทริคนั่งไม่ติด เขาโทรหาเอมิเลีย
“เอาเบอร์อุษาให้ผมหน่อย”
“คุณจะโทรหาเธอทำไม? นี่มันดึกแล้ว เธอน่าจะเลิกงานแล้ว”
“ผมสั่ง ไม่ต้องถามหรือแสดงความเห็น”
เอมิเลียส่งเบอร์อุษาให้ทางข้อความ หลังจากนั้นเธอยืนเหม่อที่หน้าต่างด้วยสายตาที่เศร้า แพทริคเมื่อได้เบอร์ เขารีบกดโทรทันที อุษากำลังอาบน้ำได้ยินเสียงสายเข้า เธอคิดว่าใครคงมีเรื่องด่วน จึงใส่ผ้าเช็ดตัวออกมา เบอร์ใครนะ?
“ฮัลโหล”
“อุษา คุณอยู่ไหนตอนนี้?”
อุษาตกใจกับเสียงปลายสายนี้ เธอเงียบ
“อยู่ไหนบอกผมมา อยู่กับเค้าคนนั้นใช่มั้ย?”
“ฉันอาบน้ำอยู่ ขอโทษนะ”
อุษาวางสายแล้วไปอาบน้ำต่อ พลางคิดว่าใครเป็นคนเอาเบอร์ให้เขา มีแค่เอมิเลียกับโรสและฮาร์วี่ที่มีเบอร์ฉัน
เมื่อเธออาบน้ำเสร็จ มีสายไม่ได้รับมากกว่า30สาย และโทรเข้ามาอีก จนเธอต้องกดรับ
“คุณแพทริค พอเถอะ ได้โปรด นี่มันเวลาส่วนตัวของฉัน”
“ตอบยากมากหรือไงว่าอยู่ที่ไหน?”
“ฉันอยู่ห้อง จะให้ไปอยู่ที่ไหน?”
“คุณโกหก ไซม่อนบอกคุณออกไปกับคนที่มารอคุณเลิกงาน”
“แล้วคุณจะเอายังไงกับฉัน ฉันเป็นลูกจ้างแต่ไม่ใช่ทาสนะ มันจะเกินไปแล้ว”
“งั้นคุณออกมาจากห้อง ผมจะได้รู้ว่าคุณโกหกมั้ย ผมอยู่หน้าตึก”
นี่มันคุกคามกันชัดๆ ถ้าพนักงานคนอื่นที่นี่เห็นเขามาที่นี่ คงพูดกันไปทั้งโรงแรม
“ฉันจะออกไป แล้วคุณกลับไปได้เลยนะ ตอบมาก่อน”
“ได้ ออกมาสิ”
อุษาเดินออกไป เธออยู่ชั้นสอง แพทริคเห็นเธอใส่ชุดนอนสายเดี่ยวสีขาวผ้าซาติน ทีนี้เขารู้แล้วว่าเธออยู่ห้องไหน
“แค่นี้นะ คุณแพทริค”
เธอพูดในโทรศัพท์ สายตามองที่เขาเหมือนเป็นตัวน่ารำคาญ
“ผมแค่ไม่อยากให้คุณไปกับเขา”
อุษาส่ายหน้า เธอทำหน้าระอาเขาอย่างชัดเจน
นี่มันบ้าไปแล้ว แค่ไม่กี่วันเนี่ยนะ ทำไมเจ้ากี้เจ้าการฉันขนาดนี้ นี่เค้าอายุ 34 จริงหรือเปล่า?
“คุณไปกับใครก็ได้แม้แต่กับเพื่อนฉัน ฉันก็เหมือนกัน คุณแพทริค ราตรีสวัสดิ์”
เธอกดวางสายแล้วเข้าห้องไป แพทริคไม่มีทางเลือกจึงเดินกลับไปที่ห้อง เขากดโทรหาเธออีกแต่เธอปิดโทรศัพท์ อย่างน้อยเขาก็ใจเย็นลงที่รู้ว่าเธออยู่ห้อง ไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้น
เจนนภัสเมื่อกลับไปที่ห้อง เจอราฟาเอลนอนกรนสนั่น
“ฉันจะไม่ทนอยู่สภาพนี้ไปอีกนานนักหรอก ส่วนแพทริคที่ต่อว่าฉันแต่ปกป้องอุษา มันจะไม่จบแค่นี้แน่ อย่าคิดจะมาล้อเล่นกับความรู้สึกกับคนอย่างฉัน”
เช้านี้อุษารีบไปบ้านของฮาร์วี่ แม่บ้านรอเธออยู่แล้ว แจสเปอร์กับเชสเตอร์กระดิกหางดีใจที่เจอเธอเช่นกัน อุษาสวมกอดทั้งสองทีละตัว ก่อนบอกลาแม่บ้าน พร้อมส่งข้อความหาฮาร์วี่ เขาโทรหาเธอทันที อุษาจูงทั้งสองพร้อมคุยโทรศัพท์ไปด้วย“หลับสบายมั้ยเมื่อคืน คุณเลิกงานดึกด้วย มีใครทำให้คุณกลัวอีกไหม?”เสียงทุ้มนุ่ม ทำให้อุษาใจฟู“หลับสบายดี ฉันเลิกกลัวแล้วล่ะ คุณมีพลังงานด้านบวกทำให้คนที่อยู่ใกล้ รู้สึกดีได้ ขอบคุณนะฮาร์วี่”“เดินระมัดระวังรถด้วยนะ ผมจะไปทำคดีให้ลูกค้าก่อน อย่าลืมว่าเราคุยเรื่องที่ประเทศคุณค้างเอาไว้”อุษายิ้ม เขาวางสายไปแล้ว แน่นอน..ฉันอยากคุยเรื่องลิงหรืออะไรก็ได้ เมื่อพาทั้งสองเดินจนเกือบครบตามเวลา เธอแวะซื้อไอศครีมที่ร้าน Baskin-Robbins อยู่ด้านหลังบ้านของฮาร์วี่ ให้พวกเขาทั้งสองด้วย“อร่อยละสิ แทนคำขอโทษที่เมื่อวานฉันอ่อนแอไปหน่อย จนไม่ได้พาพวกเธอมาเดินเที่ยวน่ะนะ”เธอนำทั้งสองไปคืนให้ที่บ้านควินน์ กอดเพื่อนตัวโตทั้งสองของเธอ แล้วเดินกลับไปที่โรงแรมเพื่อไปพักผ่อนสักนิดก่อนจะมื้อเที่ยง เมื่อถึงห้องเธอได้โทรหาโรสมาเรีย“ฮัลโหล อุษา ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย? เมื่อวานฉันอดเป็นห่วงไม่ได้
แพทริคสั่งอาหารมากินที่ห้องของเขา ช่วงบ่ายก็ออกไปที่ห้างสรรพสินค้า เขาเห็นสร้อยคอน่ารักเส้นหนึ่งของ Tiffany&Co เส้นเล็กสวย มีเพชรรูปหัวใจตรงกลาง ราคาประมาณ 1,900 ดอลล่าร์ เขาตรงเข้าไปในร้านแล้วซื้อมันออกมาอุษาเลิกงานสี่โมง เธอรีบกลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัว ชุดไหนดีนะ? ขออย่าให้เขาพาไปร้านแพงๆเลย กลัวทำเขาขายหน้าจัง อุษาส่งข้อความไปหาฮาร์วี่ “ไม่ต้องไปร้านแพงมากก็ได้ ฉันไม่อยากทำคุณอายคนอื่น”“งั้นผมไปรับคุณแล้วให้คุณเป็นคนเลือกร้านเอามั้ย”ฮาร์วี่ตอบกลับมา ทำเอาอุษาค่อยยิ้มออก เขาส่งรูปแจสเปอร์กับเชสเตอร์ให้เธอ ทั้งสองมองดูเหมือนกำลังยิ้มแฉ่งแพทริคกลับมาแล้ว กวาดตามองไปรอบๆฟร้อนท์และล็อบบี้ พลางถามไซม่อน “หัวหน้าฟร้อนท์ล่ะ”“คุณอุษาเลิกงานแล้ว”แพทริคพยักหน้ารับทราบ เขาอยากให้สร้อยคอเธอกับมือ ไม่อยากเอาไปวางไว้เฉยๆเขาขึ้นไปชั้นสอง ไปนั่งดูเอกสารที่เอมิเลียเอาวางไว้ให้ เหลือบตาไปดูกล่องสร้อยคอที่ซื้อให้เธอ อุษาไม่ใส่เครื่องประดับเลยสักชิ้น ทั้งๆที่คอเนียนสวย ผิวขาวละเอียดรถคันนึงเข้ามาจอดในที่จอดรถด้านหน้าของโรงแรม แพทริคคุ้นรถคันนี้ Bentley ของทนายความคนนั้นแน่นอน แพทริคลุก
เอมิเลียให้นิโคล่าที่เลิกงานแล้วมาที่ห้องทำงานของเธอ เพื่อเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นตอนที่เธอไปธนาคาร โดยมีเดเนียลอยู่ฟังด้วย เมื่อนิโคล่าเล่าจบ ก็กลับออกไป“คุณแพทริคไม่เคยแสดงออกต่อหน้าใครเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะคบกับใคร คงมั่นใจในความสัมพันธ์ครั้งนี้มากสินะ”เอมิเลียเสียงแข็ง แต่สายตาของเธอเศร้า จนเดเนียลอยากออกความเห็นให้เธอคิดอะไรได้บ้าง“จริงๆคุณแพทริค เขาเองก็เคยผ่านอดีตที่แย่ๆมา ถ้าต้องมีคนที่รักเขา และเขารักจริงๆ ก็น่ายินดีนะเอมิเลีย”เอมิเลียหลับตา นึกถึงวันแรกที่เห็นเขา เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ทำทุกอย่างในโรงแรมแห่งนี้เพื่อให้ธุรกิจของเขาก้าวหน้า อะไรที่จะทำให้เขาต้องชื่อเสียงหม่นหมอง เธอจะคอยจัดการให้ ไม่ว่าจะต้องเป็นคนร้ายกาจไปบ้าง เพราะอยากให้เห็นว่าเธอจริงใจกับเขาแค่ไหน“คนที่เขารัก อยู่เฉยๆเขาก็รัก เหมือนที่คุณทำอยู่ ไม่ว่าเขาจะทำคุณเสียใจกี่ครั้ง คุณก็ยังไม่เคยหมดรัก”“บางครั้งคุณมองแต่เขา จนลืมไปว่า ข้างๆคุณอาจมีคนที่รักและหวังดีกับคุณเหมือนกัน คุณไม่ได้โดดเดี่ยวหรอกนะ เอมิเลีย”เอมิเลียมองเดเนียลแล้วยิ้มบางๆ “ผมกลับก่อนนะ ดูแลสุขภาพด้วย”อุษาที่เดินกลับจากบ้าน
อุษาทำของอะไรใส่ผู้ชายพวกนี้กัน ถึงได้พูดจาปกป้องเธอนัก เลียนแบบฉันทุกอย่าง แต่ดันได้แต่ผู้ชายขับรถหรู ฐานะ หน้าที่การงานดีอยู่รอบข้างส่วนฉัน..ต้องมาทนกับไอ้เม็กซิกันต่ำต้อยตัวดำ ขนดก….. เจนนภัสยิ่งคิดยิ่งนึกเกลียดอุษามากขึ้นเมื่อไปถึงที่บาร์ คนยังเยอะอยู่ พวกเขาได้โต๊ะหลบมุม ฮาร์วี่สั่งเครื่องดื่มให้ตัวเขาและอุษา แพทริคเห็นก็ไม่พอใจขึ้นมา “เธอต้องทำงาน ดื่มแอลกอฮอล์ตอนกลางคืนไม่น่าจะดีมั้ง ผมขอน้ำผลไม้ เอาเป็นแอปเปิ้ลแล้วกัน”แพทริคบอกบริกร จนอุษารู้สึกว่าบรรยากาศมาคุสุดๆ“เอามาทั้งสองแบบเลย แล้วเธออยากดื่มอันไหนก็ได้”ฮาร์วี่สวนขึ้น เจนนภัสรู้สึกว่าเหมือนส่วนเกิน แต่ก็สั่งของตัวเธอเองไปอุษาอับอายที่แพทริคพูดเรื่องระหว่างเธอกับเขาตอนหัวค่ำ แพทริคก็รู้สึกโกรธที่ฮาร์วี่เอาผู้หญิงของเขาออกมาเที่ยว แถมต้องมาเจอเจนนภัสที่เคยจูบกับเขาอีกเจนนภัสก็กลัวว่าอุษาจะรู้ว่าเธอนินทาอุษาให้แพทริคฟัง บวกกับเจนนภัสโกหกอุษา ที่จริงแล้วเธอคือคนที่อยากมีอะไรกับเขาแล้วโดนเขาไล่กลับกลางดึกอุษาคิดว่าพรุ่งนี้เธอจะขอลางานได้ไหมเธอดื่มเข้าไปพอสมควร บรรยากาศทำเธอเครียด“คุณแพทริค พรุ่งนี้ฉันขอลางานหนึ่งวั
มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา ฮาร์วี่กดรับสาย “ว่าไง เบลล่า สนุกมั้ย?”“สนุกมาก ฉันกำลังจะกลับ อยากแวะไปหาคุณ 2-3 วัน ก่อนไปนิวยอร์ค พอดีมีแฟชั่นวีค ฉันได้รับเชิญไปนั่ง Front row คุณอยากไปด้วยมั้ย? ฉันสามารถแจ้งเพิ่มที่นั่งได้ เพราะคุณเองก็ Top Spenders ของแบรนด์นี้อยู่นะ ช้อปไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ไม่เชิญคุณนี่ ฉันแอบเคืองแทนจริงๆ”“ไม่ละ ช้อปจนเงินจะหมด เลยต้องมานั่งทำงานอยู่ตอนนี้ไง”“ไม่เห็นดีใจที่ฉันจะไปหาเลย น้อยใจจัง”“ก็มาสิ ถ้ามาถึงแล้วบอก ผมจะไปรับ”“คิดถึงคุณมากนะ see yaa! babe”เบลล่า สาวสวยผิวสีแทน ตาโต ปากอวบอิ่ม ผมดำยาวถึงก้น อกเป็นอก เอวเป็นเอว พิมพ์นิยมของอเมริกา สาวเซเลปและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง อายุ 27 ปี มี Follower หลักล้านคน เมื่อ 6 เดือนก่อน เธอมาทำงานที่แอลเอ เจอคนแอบอ้างเป็นเธอไปหลอกเจ้าของผลิตภัณฑ์เอาเงินค่าสปอนเซอร์ เธอจึงให้ผู้จัดการหาทนายความ ผู้จัดการได้ว่าจ้างบริษัททนายความ Henry Law Office ให้มาว่าความให้ ซึ่งพ่อของฮาร์วี่ติดว่าความให้โรงกลั่นน้ำมันรายหนึ่งอยู่ จึงให้ลูกชายของเขาไปทำคดีนี้ เบลล่าชอบเขามาก เขาคือไทป์ของสาวๆที่นี่ สูง ผิวขาวใส ตาและผมสีอ่อน หน้าต
ฮาร์วี่พอได้ยินก็กระอักกระอ่วนทันที เมื่อรถเข้าไปจอด พนักงานยกกระเป๋าก็มาช่วย เขาเดินเข้าไปกับเบลล่า ไซม่อนจำได้ทันที เพราะเขาเคยมารออุษา หัวหน้างานของแผนกนี้ ฮาร์วี่ทำหน้าเรียบเฉย แต่ในใจเขาหดหู่ที่มาที่นี่“พักสองท่านใช่มั้ย รบกวนขอเอกสารประจำตัวของทั้งคู่ด้วย”“พักคนเดียว” ฮาร์วี่รีบชิงตอบ จนเบลล่าหันขวับไปมองเขา แล้วเริ่มกระเง้ากระงอด“เบ็บ..ใจคอจะให้ฉันอยู่คนเดียวเนี่ยนะ”“ที่นี่ให้สุนัขตัวโตสองตัวเข้าพักด้วยได้ไหม?” ฮาร์วี่แกล้งถามไซม่อน“ต้องขออภัยจริงๆ ทางเราไม่สามารถอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้”“เอางี้ คุณพักผ่อน ว่างๆผมก็มานั่งเล่นด้วยบ้าง ถ้าผมขนงานมาทำ คุณจะนอนไม่ได้เปล่าๆ”เบลล่าไม่เข้าใจและเริ่มงอนเขา ทั้งคู่เดินตามพนักงานขนกระเป๋าขึ้นไปชั้น 7 เมื่อไปถึงห้องพักของเบลล่า ฮาร์วี่รู้สึกใจหวิวๆขึ้นมากะทันหัน เพราะเขารู้ว่าอุษาก็อยู่ที่นี่แต่ตอนนี้เธอน่าจะกำลังพักผ่อนที่ห้อง“คุณนอนพักก่อนนะ พรุ่งนี้ผมจะมารับสายๆแล้วเราไปเที่ยวกัน คุณอยากไปไหนบอกได้ ผมจะพาไป”ฮาร์วี่พยายามบ่ายเบี่ยง เขาไม่อยากอยู่ที่นี่“เบ็บบบ อยู่คืนนี้ไม่ได้เหรอ ฉันคิดถึงคุณจะตายเนี่ย”“ผมไม่ได้เอาเ
แพทริคไปนั่งบนเตียงของเธอ เอาศอกทั้งสองข้างวางบนหัวเข่า มือทั้งสองข้างที่กุมขมับ อุษาทรุดนั่งลงกับพื้นตรงกันข้าม เขาพูดทั้งที่ก้มหน้า กุมหัวอยู่แบบนั้น“อดีตผมดูเป็นคนเลวร้ายมากงั้นสินะ? ทั้งๆที่พวกเธอมาทำให้ผมชอบ แล้วพอผมจริงใจด้วยก็แทงข้างหลังด้วยการนอกใจ ผมไม่เคยนอกใจใคร นี่คือสิ่งที่ผมเกลียดที่สุด”“คุณเป็นคนแรกที่ผมตามรักตามห่วง ก็ไม่รู้ทำไม”อุษานั่งอยู่ที่พื้นห้อง เธอร้องไห้เงียบๆ“คุณรักเขาเหรอ? บอกผมมาสิ ไปกับเขาครึ่งวัน ผมควรคิดยังไง ตอบผมหน่อย”แพทริคลุกไปปิดไฟในห้อง จนห้องมืดไปหมด เหมือนหัวใจเธอตอนนี้ ที่ไม่มีทางไป แพทริคคงไม่อยากเห็นหน้าเธอแล้วด้วย แต่ที่เขาปิดไฟเพราะเขาเสียใจมากเสียจนไม่อยากให้เธอเห็นหน้าเขา “เรื่องฉันกับฮาร์วี่ ฉันไม่แน่ใจ…แต่คิดว่า…ฉันชอบเขาเพราะเขาใจดีกับฉันมาก พอเห็นฉันดูเศร้าเลยอาสาพาฉันและเอาสุนัขไปเดินเล่นด้วยกันที่ Sunset Cliffs”แพทริคพูดสวนขึ้นทันที เขาระเบิดทุกอย่างออกมา“ทั้งที่เขามีแฟนแล้วแต่คุณไม่อายที่จะกอดเขาในโรงแรมของผม?”“คิดถึงใจผมบ้างมั้ย?..คงไม่สินะ เขาคงเป็นพระเอกขี่ม้าขาวในสายตาคุณ แต่ผมมันคงเป็นแค่ผู้ร้ายคนนึง แล้วคนร้ายแบบผม ก
ห้อง715 ฝั่งตรงข้ามกันนั้น ฮาร์วี่เมาจนหัวถึงหมอนก็หลับ เบลล่านอนมองดูหน้าตาเขาที่น่ารักมากเวลาหลับ เธอไม่เคยเห็นฮาร์วี่ดื่มหนักแบบนี้มาก่อน “ไปอาบน้ำอีกรอบดีกว่า ทำไมรู้สึกคันจมูกเหมือนมีขนหมาตามมาด้วยนะ”ทางห้องฝั่งตรงข้าม แพทริคไปเข้าห้องน้ำ อุษาจัดการเช็ดทำความสะอาดทั้งตัวเธอและบนเตียง แล้วใส่เสื้อผ้า นั่งรอเขา“อ้าว ไม่นอนล่ะ ใส่ชุดจะไปไหน?”“ฉันจะกลับห้องก่อน ถ้าเอมิเลียรู้ คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่” “ผมจ่ายค่าห้องนี้ไปแล้ว ทางบัญชีจะได้ไม่ต้องมีปัญหา ส่วนตอนนี้เราคงต้องทำข้อตกลงกันหน่อย”เขาไปนั่งข้างเธอ ที่นั่งมองพื้นอยู่ เธอเหนื่อยอ่อน แต่ก็ดูเชื่อฟังอย่างว่าง่ายไม่เหมือนก่อนจะเกิดเรื่อง“ข้อแรก เราควรทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง ผมยังยืนยันจะคุยเรื่องเรากับครอบครัวของเราทั้งคู่ ข้อสอง คุณอยากทำงานต่อหรือไม่ทำ ผมไม่ห้ามและจะไม่ปรับหรือฟ้องคุณ ถ้าคุณตัดสินใจไม่ทำงานต่อ จากข้อที่สอง กรณีคุณอยากทำต่อ พอครบสัญญา เราค่อยมาคุยอีกทีเรื่องเอกสารที่ต้องทำถ้าอยู่ต่อที่นี่ ระหว่างนั้นเราอาจหมั้นกันไว้ก่อน แต่ถ้าไม่อยากทำแล้ว ผมจะให้คุณอยู่ที่บ้านคอยดูแลผม โดยจะรับผิดชอบทุกอย่างและให้เงินดูแลคุณทุก
แพทริคขับมาถึงก่อน พอลงรถเข้ามาในบ้าน แม่เริ่มกังวลที่เห็นว่าที่ลูกเขยจะต้องนอนเปิดพัดลมที่โซฟาห้องรับแขก“ให้เขานอนห้องลูกดีกว่า แล้วลูกไปนอนกับแม่”แม่ชี้ที่ไปเขาและห้องนอนของอุษา แต่เธอทำหน้าเชิงว่าไม่อยากให้มานอนที่ห้องเธอ แพทริคทำท่าว่าเข้าใจที่แม่พูด“บอกแม่คุณว่า ผมนอนที่นี่แหละ คุณจะได้อยู่กับกุหลาบสวยๆทั้งห้องตามลำพัง”พอแปลให้แม่ฟัง ทั้งพ่อและแม่ก็แย้งเธอขึ้นมา“มันน่าเกลียดให้เขามานอนตากยุงตรงนี้ งั้นก็แล้วแต่ลูกแล้วกัน”“แพทริค คุณไปอาบน้ำที่ห้องฉันก็ได้ เดี๋ยวฉันจะรอนาตาเลียกับฮาร์วี่ก่อน ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้านะ ใช้ได้เลย”พ่อแม่และแพทริค แยกย้ายกันไปอาบน้ำและพักผ่อน ไม่นานนักฮาร์วี่ขับรถเข้ามาพอดี อุษาออกมาหาและยิ้มให้นาตาเลียที่ลงรถมาก่อน“อุษา พรุ่งนี้วันอาทิตย์ไปเที่ยวไหนดี?”“เดี๋ยวคืนนี้จะดูว่าไปที่ไหนแล้วจะบอกนะ เอ่อ ฮาร์วี่ ฉันอยากคุยด้วยได้มั้ย?”“งั้นฉันกลับโรงแรมก่อนนะ อยากอาบน้ำหน่อย”นาตาเลียเดินไปแล้ว อุษาชวนฮาร์วี่คุยที่สวนนอกบ้าน เธอเอาสเปรย์ฉีดกันยุงให้ตัวเธอและเขา“ก่อนที่ยุงบ้านฉันจะสูบเลือดคุณจนหมด”จากที่เงียบมาตั้งแต่ไปกินข้าว เขายิ้มบางๆให้เธอ
แพทริคและนาตาเลียขึ้นเครื่องไฟล์ทเช้าตรู่ ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงก็มาถึงในเวลาเจ็ดโมง โดยนัดเจอกับล่ามชื่อ วิน ที่มารอรับพวกเขาที่สนามบินเชียงใหม่ ในขณะที่อุษาบอกพ่อกับแม่ในเช้านี้ว่าต้องการไปที่วัด ฮาร์วี่มารอตั้งแต่เช้า เมื่อเธอออกมา เขาตะลึงเหมือนเห็นนางฟ้าอุษาเกล้าผมมวยสูงหลวมๆ ผ้าฝ้ายเกาะอก ใส่ผ้าซิ่นสีแดง เข็มขัดเงิน มีผ้าคล้องแขนไว้สำหรับคลุมไหล่สีขาว โชว์ผิวเนียนสว่างใสที่หลังและไหล่“ป๊าให้ยืมรถ เผื่อจะไปซื้ออาหารหรือของทำบุญ แถวตลาดมีขาย คุณฝรั่งคงขับได้อยู่ รถมันเก่าหน่อยนะ”เมื่ออุษาบอกฮาร์วี่ เขาพนมมือขอบคุณแบบเกร็งๆ พ่อและแม่ของเธอดูจะเอ็นดูเขาอยู่เหมือนกันที่สนามบิน ล่ามถือกระดาษที่เขียนชื่อแพทริคชูไปมาจนเจอกัน “สวัสดีคุณแพทริค ผมชื่อวิน แต่เพื่อนๆมักเรียกว่า วินนี่ ยินดีที่รู้จัก คนจ้างบอกผมว่า ถ้าแปลดีๆให้แฟนคุณแพทริคหายโกรธ ผมจะได้ทิปพิเศษ ไม่ต้องห่วง ผมจะอวยคุณให้ดีเลยเชียว”นาตาเลียชอบใจล่ามคนนี้มาก ส่วนแพทริคมัวตะลึงกับวินนี่อยู่“ฉันชื่อนาตาเลีย เป็นน้องสาวเขา ถ้าคุณแปลให้เราดีๆ ฉันจะทิปให้ช้อปเคาน์เตอร์แบรนด์ โอเคมั้ย”“โอเค ไปกันเถอะ”วินนี่ออกเดินนำไปที่จอด
แพทริคโทรหาเจนน่า เพื่อจะใช้บริการทนายความของเฮนรี่ ซึ่งเขานัดพบเฮนรี่เพื่อให้รายละเอียดในตอนเย็น “ฉันยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร หลังจากฉันกลับไปแล้ว อุษาถึงต้องหนีไป มีใครไปทำอะไรให้เธอแน่ๆ”นาตาเลียที่นั่งกินมื้อเที่ยงกับแพทริคที่ภัตตาคารของโรงแรมถามขึ้นมา หลังจากเขาวางสายจากเจนน่า“ผมอยากขอให้คุณพยายามติดต่ออุษาให้หน่อยนะ ตอนนี้น่าจะปิดเครื่อง สัก 4-5 ทุ่ม เธออาจจะรอเปลี่ยนเครื่อง”แพทริคไม่ตอบเรื่องไอด้าเพราะมีหลายเรื่องในหัวที่ต้องเรียงลำดับทำอันไหนก่อนหลังหลังจากกินเสร็จ นาตาเลียขอตัวไปทำงานให้เอมิเลียที่ห้องทำงานเก่าของไมเคิล ส่วนแพทริครอทิมโมธีที่ห้องรับรอง “เฮ้ เพื่อน ทำไมหน้าตาแบบนั้น? นอนน้อยหรือไม่ได้นอน แล้วที่เลื่อนนัดคุย เกิดอะไรขึ้น? ฟังจากน้ำเสียงไม่ดีเลยนะ”“ฉันโดนอดีตเล่นงานคู่หมั้นฉัน ไม่น่ารับเข้ามาทำงานจริงๆ ทุกคนบอกให้รับเอาไว้ สุดท้ายงูพิษก็คืองูพิษ อุษาถอดแหวนหมั้นหนีกลับไทย แล้วที่เป็นห่วงเพราะฮาร์วี่พาเธอไป”“ห่ะ อะไรนะ? ฮาร์วี่น่ะเหรอ คืออะไร? ฉันงง”“ฮาร์วี่ชอบอุษามานานแล้ว เวลาเธอมีเรื่องอะไรก็ตาม เขาจะโผล่มาตลอด เฮ้อ..เอาเถอะ เรื่องเรือนำเที่ยวของเรา เอก
แพทริคกับอุษาออกไปยังคอนโดที่ตกแต่งเสร็จแล้ว ขับมาก็เจอรถเฟอร์รารี่สีแดงของฮาร์วี่จอดอยู่ “คุณรู้มั้ยว่าเขาจะมา?”แพทริคถามพลางมองอุษาที่ทำหน้าไม่รู้เรื่อง เธอส่ายหน้า ทั้งคู่ลงจากรถก็มีพนักงานสาวมายืนรอที่หน้าคอนโด ฮาร์วี่ออกจากรถ แล้วเดินมาหาพวกเขา“สวัสดีอุษา ไงแพทริค พอดีผมมาดูความเรียบร้อยให้คอนโดคุณด้วย เพราะนาตาเลียก็ซื้อคอนโดใกล้ๆนี้เหมือนกัน”สายตาของฮาร์วี่มองที่เธอด้วยความคิดถึง เขาขอกับแม่เสนอตัวมา นั่นเพราะอยากเจอเธอเท่านั้น ส่วนอุษาลืมไปว่าพึ่งมองหน้ากันไม่ติด พอได้ยินเรื่องนาตาเลีย ก็สนอกสนใจ“จริงสิ? แล้วเธอจะเข้าพักได้เมื่อไหร่? อาทิตย์หน้าหรือเปล่า?”“ประมาณนั้นนะ เอาล่ะ ห้องของคุณเอกสารอะไรเรียบร้อยหมดแล้ว เอ้านี่ กุญแจ”ฮาร์วี่พูดยิ้มๆแล้วยื่นให้อุษา ตรงกันข้ามกับแพทริคที่ยืนเป็นหัวหลักหัวตออยู่ รีบเอามือไปรับกุญแจแทน จนเธอหดมือ ท่าทางเก้ๆกังๆ“ฉันเป็นคนซื้อที่นี่ให้เธอ นายไม่จำเป็นต้องพยายามมีบท”แพทริคแทบจะแยกเขี้ยวใส่เขาอยู่แล้ว แต่ฮาร์วี่ก็ยังเหมือนไม่สนใจอะไร“อีกหน่อยก็มี เพราะว่าจะย้ายมาอยู่ห้องใกล้ๆนี่เหมือนกัน คิดไปคิดมา ผมก็ควรแยกออกมาเป็นส่วนตัวจากที่
อุษาโทรบอกแพทริคช่วงสาย เกี่ยวกับเรื่องราวตอนเช้า ที่นาตาเลียจะเข้าพักที่โรงแรมเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ก่อนคอนโดจะเสร็จ แล้วเธอกับนาตาเลียจะไปซื้อของด้วยกัน“คุณไม่ค่อยสบาย อยู่ที่ห้องพักผ่อนแล้วกัน ไม่ต้องไป โดนแดดก็จะไม่สบายอีก รถของนาตาเลียทางร้านเอามาส่งจอดอยู่ข้างล่าง แล้วไม่ต้องห่วง ฮาร์วี่ไม่ไปด้วย ฉันจะมาให้ทันมื้อเย็น โอเคนะ”ไม่ทันที่เขาจะตอบ เธอวางสายไปหน้าตาเฉย…แม่ของฮาร์วี่มาหาเขาที่บ้านหลังเล็ก แล้วเคาะประตู ฮาร์วี่เปิดให้ด้วยหน้าตาที่งัวเงีย“เอช นาตาเลียส่งข้อความมา ขอไปอยู่ที่โรงแรมของคุณสมิธที่เธอจะไปฝึกงาน แต่ทำไมกะทันหัน? เห็นบอกแม่ว่าจะไปเริ่มวันจันทร์ ลูกมีปัญหาอะไรกับเธอหรือเปล่า?”“เธอน่าจะมีปัญหากับตัวเธอเองมากกว่า เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ยังกับไบโพล่าร์ ผมขอนอนต่อนะ”“เอ้า” เจนน่าทำหน้า งง ส่วนฮาร์วี่ปิดประตู แล้วล้มตัวลงนอนเหมือนเดิมนาตาเลียและอุษาสนิทสนมกันมากขึ้น อุษาช่วยเธอเลือกชุด เอาใจใส่ว่าเธอจะหิวมั้ย ถ่ายรูปให้ ช่วยถือของ อุษามีท่าทางอากัปกิริยาเหมือนคนมีชาติตระกูลที่ดี ทำให้เธอประทับใจ แม้จะเป็นคนพูดน้อยแต่เป็นผู้รับฟังที่ดีมาก เวลาช่วยออกความเห็น จะได้คำ
แพทริคกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามอุษาที่เดินเร็ว เพื่อตามให้ทันก่อนถึงทางเข้าโรงแรม “อุษา เดี๋ยว..รอผมหน่อย คุณยังโกรธอีกเหรอ? เมินใส่กันแบบนี้ไม่ได้นะ”“คุณเดินช้าเป็นเต่าเอง”เขาเดินจนทันเธอแล้วไปยืนดักหน้าไว้“ผมเชื่อคุณ บอกว่าไม่เคยมีก็คือไม่มี แค่ไม่อยากให้ทำท่าทางห่างเหินแบบนี้”“นาตาเลียฝึกงานที่ไหน?”อุษาเปลี่ยนเรื่องไปเสียเฉยๆ“จะไปที่ Smith Grand เป็นผู้จัดการฝึกหัด เธอจะหาที่พักที่นี่ แล้วขับรถไปกลับเอา ผมเห็นด้วยเพราะว่าผู้หญิงคนเดียวอยู่ที่ดาวน์ทาวน์ไม่น่าจะปลอดภัย”เธอแค่พยักหน้ารับทราบ แล้วเดินตามแพทริคไปขึ้นรถทั้งสองไปถึงที่บาร์ก่อนที่ฮาร์วี่และนาตาเลียจะตามมาสมทบทีหลัง สาวๆคุยกันถูกคอมาก ผิดกับชายหนุ่มสองคนที่ต่างคนต่างจ้องจะแขวะกันตลอด อุษาและนาตาเลียแลกคอนแทคเพื่อไว้ติดต่อกัน“แพทริค..นาตาเลียต้องฝึกงานกับใคร? ไอด้าใช่มั้ย?”อุษาถาม เขาแค่พยักหน้ารับ นาตาเลียกอดแขนอุษา“วันพรุ่งนี้ไปว่ายน้ำกัน หลังจากไปดูรถมือสองสักคัน ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ”“ได้สิ แต่ฉันต้องไปคลินิคก่อนนะตอนเที่ยงเจอกันที่ล็อบบี้โรงแรม โอเคมั้ย”“ผมว่างจะไปส่งพวกคุณเอง”“ผมจะไปช่วยดูรถให้ด้วย พอมีความรู้อย
เอมิเลียมาเคลียร์งานให้แพทริค เมื่อเรียกไอด้ามาถามเรื่องงาน เธอแปลกใจที่แพทริคไม่มาที่นี่ “ฉันนึกว่าวันนี้คุณแพทริคจะมาเสียอีก”เอมิเลียยิ้มสีหน้าเยือกเย็น มองหน้าไอด้าด้วยสายตาที่คมกริบ..“คู่หมั้นป้ายแดงน่ะต้องเข้าใจ อีกอย่าง พึ่งกลับมาถึงก็ทำงานเลย พวกเขาอยู่ด้วยกันสักวันไม่น่าจะเป็นอะไร แล้วเจนเป็นไงบ้าง ทำงานได้มั้ย?”“ก็พอทำได้ไม่มีปัญหาอะไร คุณเอมิเลีย”ไอด้าขอตัวออกไป เธอวิตกกังวลว่า ป่านนี้พวกเขาน่าจะได้ดูกันแล้ว แต่ทำไมเงียบแบบนี้ แอลลี่ก็บอกว่าไม่มีอะไรคืบหน้า แผนสองที่เตรียมไว้คงต้องลองเสี่ยงอีกครั้งฮาร์วี่ที่นั่งทำงานเงียบๆอยู่กับสุนัขทั้งสอง นาตาเลียขอเข้ามาคุยด้วย“ได้สิ มีอะไรล่ะ? แล้วคุณไม่ไปกับแม่ผม ไหนว่ามาหัดทำงาน สนใจอสังหาไม่ใช่เหรอ?”“ก็..ฉันชอบอยู่กับสุนัขมากกว่า แล้วก็เมื่อเช้าที่คุณเล่าทั้งหมด สรุปว่าคุณจะรออุษางั้นสิ? ทำไมถึงคิดว่าเธอจะถอนหมั้น แพทริคบอกเมื่อเช้าว่าเธอจะไม่เลิกกับเขา”“ทำไม? คุณอยากช่วยผมหรือไง?”“ถ้าเธอเสียใจ แสดงว่าเธอรักเขานะ คุณจะแยกเธอกับเขาได้ยังไงกัน”ฮาร์วี่วางเอกสารลง เลิกคิ้วสองข้างมองหน้าเธอแล้วยิ้มมุมปาก เขามีเสน่ห์มากจริงๆสำหร
แพทริคหน้าแดงด้วยความโกรธ และรู้สึกอยากจะร้องไห้“ขอร้องล่ะ ผมไม่รู้ว่าทำผิดอะไรต่อคุณ เราคุยกันดีๆได้มั้ย? ที่รัก ผมทำงานไม่ได้ ถ้าวันนี้เราไม่เคลียร์กันก่อน”“แต่ฉันทำได้ คุณทำไม่ได้ก็ไปนอนพักผ่อน”อุษาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ หลับตาแล้วพยายามทำให้ใจเย็นลง“ในแฟลชไดร์ฟมีอะไร? ถึงโกรธผมขนาดนี้”อุษาลืมตาและถลึงตาใส่ จนเขากลัว แล้วลุกขึ้นเดินตรงมาหาแพทริคที่ยืนตัวแข็งอยู่กลางห้อง“ใครบอกคุณเรื่องแฟลชไดร์ฟ? คุณไม่ได้บอกใครอีกใช่มั้ย? มีใครรู้อีกบ้าง?”“เอมิเลียบอกว่านิโคล่าบอกเธอเรื่องนี้ เมื่อคืนเธอเป็นห่วงคุณมาก เลยมาเปิดห้องดูว่าเป็นอะไร เพราะคุณบอกไม่สบาย”“แล้วคุณบอกใครอีกมั้ย? ทำไมต้องให้ถามซ้ำ” เธอตวาดใส่แบบที่ทำเขาอึ้งไปเลย ก่อนเขาจะตอบเสียงอ่อย “ไม่ได้บอกใคร”อุษาได้ยินแบบนั้นก็ไปนั่งที่เดิม เธอพูดขึ้นมาโดยไม่มองหน้าเขา “คุณไม่เคยเชื่อใจฉันเพราะพฤติกรรมของตัวเอง เลยคิดว่าคนอื่นจะเป็นแบบเดียวกัน แล้วถ้าตอนนี้เราคิดเหมือนกันล่ะ ต่างคนต่างไม่เชื่อใจกันอีกแล้ว..”“ผมไม่เลิกกับคุณ เราจะไม่เลิกกัน คนรักกันมันมีหึงหวงได้ เราพึ่งหมั้น มีแพลนจะไปหาพ่อแม่คุณ พ่อแม่ผมรักคุณนะ บอกมาสิอะไรท
อุษาเดินกลับมาที่โรงแรมแล้วหยุดทักทายโซเฟียกับเอมี่ ก่อนจะขึ้นไปห้องทำงานที่ชั้นสอง แอลลี่ที่นั่งด้านในเคาน์เตอร์สำหรับรับจองห้องพัก ขอให้โซเฟียดูแลให้เธอสักครู่ เพราะต้องการไปห้องน้ำ “ไอด้า เท่าที่เห็นยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรนะ คิดว่าจะได้ผลมั้ย? ตอนนี้ยิ่งหมั้นแล้ว มันอาจไม่มีผลอะไรต่อเธอเลย”“ไม่เป็นไร ขอบคุณมากแอลลี่ รบกวนบอกความคืบหน้าทีนะ ถ้าฉันได้อย่างที่ตั้งใจจะไม่ลืมเธอแน่นอน”อุษาเสียบแฟลชไดร์ฟกับคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานของเธอ มีไฟล์คลิปประมาณ 12 คลิป แค่คลิปแรกเปิดไปได้เพียงสองสามนาทีเท่านั้น อุษาใจเต้นแรง มือไม้สั่น เธอพยายามตั้งสติแล้วโทรหาเอมิเลียว่าไม่ค่อยสบาย ขอลาป่วยช่วงบ่ายนี้เพื่อไปพักที่ห้องของเธอ และเหมือนบางคนจะรับรู้ มีสายโทรเข้ามา…“อุษา ได้ดูหรือยังว่ามันคืออะไร? ผมเกริ่นกับนักสืบเอกชนไว้แล้วตอนคุณกลับออกไป”เขาได้ยินเสียงเธอกระหืดกระหอบ มีเสียงเปิดแล้วปิดประตูอุษากลืนน้ำลายอย่างยากเย็นก่อนจะตอบ“มันแย่มากจริงๆ..สำหรับฉัน ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง คุณยังไม่ต้องติดต่อมา ฉันจะติดต่อคุณไปเอง”ฮาร์วี่วางสาย เขารู้สึกเป็นห่วงและวิตก จนกระทั่งแม่ของเขามาชวนออกไปทานอาหารเย็นท