อุษาเลือกวันหยุดให้ตัวเองทุกวันศุกร์ ทำงานจันทร์ถึงพุธ 15.00-23.00 น. พฤหัสบดีและเสาร์-อาทิตย์ 7.00-16.00 น. แต่ถ้างานมีปัญหา ต้องพร้อมแก้ปัญหา สามารถทำงานนอกเวลาได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เช้าวันเสาร์กับงานวันแรก อุษามาทำงานก่อนเวลา เพื่อมาคุยงานกับทุกคนที่ฟร้อนท์ ซึ่งเธอจะมีพนักงานใต้บังคับบัญชาอยู่ห้าคน คือ เดเนียล ผู้ช่วยผู้จัดการควบตำแหน่งหัวหน้าพนักงานต้อนรับ นิโคล่า,ไซม่อน,โซเฟีย เป็นพนักงานต้อนรับ เอมี่เป็นพนักงานรับโทรศัพท์
เหลือแค่ไซม่อน ที่เข้างานในช่วงเย็น อุษาจึงไม่ได้เจอตอนนี้ เธอคิดว่าไว้ตอนสี่โมงเย็น ค่อยไปเจอเขา ส่วนโซเฟียที่เข้างานกะดึกมาทั้งคืน พออุษาคุยเรื่องงานจบ ก็ได้เวลาเลิกงานไปพักผ่อน
เมื่อคืนเอมิเลียเทรนงานให้เธอผ่านออนไลน์อย่างละเอียดดีพอสมควร พร้อมกำชับให้จำไว้เสมอว่า
“ลูกค้าอยู่ด้านขวาเสมอ” เท่ากับ “The customer is always right”
เธอเข้าใจดี ว่าต้องเจอกับลูกค้าทุกรูปแบบ ฉะนั้นไม่มีเวลามาอ่อนแอหรือทำไม่ได้
ทุกคนดูยังไม่ค่อยเปิดใจให้อุษา แค่ไม่มีใครพูดจาโต้แย้งอะไรกับเธอ แต่อุษารู้สึกได้ อาจเพราะเธอเป็นคนมาใหม่ ในตำแหน่งหัวหน้าและดันเป็นคนเอเชีย อายุก็แค่ 27 ซึ่งทุกคนอายุพอๆกับเธอ ยกเว้นเดเนียลที่แก่กว่าทุกคน
ตอนนี้มีลูกค้าเดินเข้าออกบ้างแล้ว อุษาเริ่มตรวจดูความสะอาดเรียบร้อยของบริเวณล็อบบี้ เจอกับพนักงานถูพื้นคนหนึ่งเป็นคนผิวสี กำลังขะมักเขม้นทำงานอย่างตั้งใจ
“สวัสดี” อุษาทักพร้อมยิ้มให้
“สวัสดี เอ่อ คุณ..” เธอตะกุกตะกัก หรี่ตาเล็กน้อย ทำหน้าแปลกใจ
“ฉันชื่ออุษา เป็น ฟร้อนท์ออฟฟิศเมเนเจอร์ พึ่งมาทำงานวันแรก ยินดีที่รู้จักนะ“
อุษาทำท่ายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเด็กพึ่งมาโรงเรียนวันแรกแล้วกำลังหาเพื่อนใหม่ ยังไงยังงั้น
“ฉันชื่อแคทเทอรีน ยินดีที่รู้จักคุณเช่นกัน คุณกำลังทำให้คนทั้งฟร้อนท์แปลกใจนะ ปกติไม่มีหัวหน้าคนไหนมาทักพนักงานทำความสะอาดอย่างฉันหรอก คุณทำงานเถอะ ฉันไม่อยากทำให้คุณเดือดร้อน”
แคทเทอรีนยิ้มอย่างหวังดี เธอดูใจดี จนอุษาคิดว่า ทำไมจะทักทายกันไม่ได้
“โอเค คุณทำงานต่อเถอะ แต่..ฉันจะทักทายใครด้วยมิตรภาพ ที่นี่ไม่มีกฎห้ามนะ ฉันอ่านกฏมาอย่างดีแล้ว”
อุษายิ้มกริ่มนิดๆแล้วเดินผละไป แคทเทอรีนยิ้มพร้อมกับทำงานของเธอต่อ อยู่ๆก็เกิดนึกได้ ว่าคุ้นหน้าเธอคนนี้ที่ไหน เมื่อวานช่วงบ่าย ที่แคทเทอรีนเห็นเธอคนนี้ยืนคุยกับลูกชายเจ้าของโรมแรมที่หน้าลิฟท์นี่เอง
“หวังว่าเธอจะเอาตัวรอดที่นี่ได้นะ อย่าได้เหมือนคนก่อนๆเลย”
แคทเทอรีนคิด..
อุษาเดินไปหาเดเนียลซึ่งยืนคุยกับลูกค้าอยู่ ยืนรอห่างๆจนเดเนียลคุยเสร็จ
“คุณเดเนียล ฉันจะอยู่ที่ห้องทำงานชั้น2 ถ้ามีอะไรเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขให้แจ้งทันที ฉันจะไปดูเอกสารพวกค่าใช้จ่ายกับงบประมาณของแผนกเราสักหน่อย ดูๆไปโซนของเราน่าจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง อันไหนที่ดูเก่าหรือต้องซ่อมแซมคงต้องทำ ในฐานะที่ฉันเป็นคนมาใหม่ คุณสามารถออกความเห็นหรือทักท้วงได้ ถ้าสิ่งที่ฉันทำแล้วคุณไม่เห็นด้วย”
เดเนียลยิ้มด้วยความสุภาพ บุคลิกของเดเนียลดูดีมากเลยทีเดียว
“มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องช่วยคุณให้งานเดินไปได้อย่างราบรื่น ที่นี่เราไม่มีระบบใครอายุมากกว่าหรืออยู่มานานกว่า ในเมื่อคุณเป็นหัวหน้า เราต้องเชื่อใจกันและกัน”
อุษากล่าวขอบคุณและยกมือไหว้ แล้วเดินจากไป ยังไงเธอก็เป็นคนไทย อดไม่ได้ต้องยกมือไหว้คนที่อาวุโสกว่า เดเนียลเลิกคิ้วเล็กน้อย กระพริบตาถี่ๆ เพราะตั้งแต่ทำงานมาไม่มีใครนอบน้อมใส่เขาแบบนี้
เดเนียลเดินมาที่ Front desk คุยกับนิโคล่าเรื่องงาน เช้านี้ลูกค้าส่วนมากยังไม่ตื่น บางส่วนที่ตื่นแล้วก็ไปวุ่นวายสาละวนกันที่ห้องอาหารสำหรับมื้อเช้า ที่ฟร้อนท์จึงทำงานแบบสบายๆ เอมี่นั่งทาลิปสติกและเติมแป้งอยู่เงียบๆ
“เดเนียล คุณคิดว่าไง กับหัวหน้าคนใหม่ของพวกเรา เธอล่ะเอมี่”
นิโคล่าถามทุกคนแล้วยิ้มเหยียดๆถึงคนที่เธอพูดถึงอยู่
“เห็นเอมิเลียว่ามาจากประเทศไทยนะ ที่นี่ลูกค้าคนไทยก็มีบ่อยไป ผมไม่ได้คิดอะไรมาก ส่วนมากลูกค้าคนไทยไม่ค่อยมีปัญหา เธอเองก็ดูไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ผมประทับใจที่พวกเค้าชอบยกมือทำความเคารพกันและกัน ผมชอบกิริยาแบบนี้”
“ไม่รู้สิ ฉันว่าเธอดูเป็นคนหัวแข็ง จากสายตาที่เธอมองพวกเรา เป็นคนเอเชียคนเดียวในหมู่พวกเรา แต่ท่าทางเอาเรื่อง”
เอมี่ตอบพลางปัดมาสคาร่าไปด้วย
“อือฮึ เดเนียล คุณอย่าไปหลงเชื่อท่าทางที่ดูเหมือนสงบเสงี่ยมแบบนั้นง่ายๆ แค่เธอทำท่าดูปลอมแบบนั้นก็เชื่อแล้วเหรอ”
นิโคล่าพูดน้ำเสียงจริงจัง แต่เดเนียลยกนิ้วขึ้นปิดปาก ส่ายหน้า ทำนองว่าไม่ให้นิโคล่าพูดเกินเลยไป นิโคล่าคิดว่าพวกเธออยู่เป็นพวกเดียวกัน เธอไม่อยากให้คนเอเชียที่น่าหมั่นไส้คนนี้มาสนิทในก๊วนเดียวกับพวกเธอที่อยู่มาก่อน
“คนที่ทำให้ลูกชายเจ้าของโรงแรมคุยด้วยสายตาแบบนั้นได้คงไม่ธรรมดา”
เอมี่พูดเรียบๆ พร้อมกับมือที่กรีดกรายจัดและเตรียมสมุดโน้ตเผื่อลูกค้าโทรมา
อุษานั่งทำงานในห้อง พ่อก็โทรมาหาเธอ ที่ประเทศไทยเป็นเวลาสี่ทุ่ม คุยกันได้สักพัก มีเสียงเคาะประตู เธอจึงวางสายแล้วรีบเดินไปเปิดประตู แทบผงะที่เห็นคนตรงหน้า
“คุณแพทริค..สวัสดีตอนเช้า เอ่อ.. มีอะไรให้ฉันทำหรือเปล่า”
อุษาตกใจนิดหน่อย แต่ก็ถามหน้าตาเป็นการเป็นงาน
“ยินดีต้อนรับสู่การทำงานวันแรกนะ มิสยูเอสเอ”
กลิ่นน้ำหอมราคาแพง ตัวเขาหอมมากๆ อุษาพึ่งเห็นเขาใกล้ๆ หน้าเรียวเล็ก ผิวหน้าเขาดีจริงๆ ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ไม่มีรูขุมขน ปากแดง และนัยน์ตาสีน้ำทะเล อุษารีบก้มมองพื้นแวบนึง ก่อนเงยหน้าสบตาแพทริค
“ขอบคุณ ฉันตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ให้สมกับที่คุณสมิธ ให้โอกาสฉัน”
“ดีมาก ผมไม่รบกวนคุณล่ะ ถ้ามีอะไรด่วนแต่ติดต่อเอมิเลียไม่ได้ ก็ติดต่อผมได้”
อุษารีบยกมือไหว้แล้วปิดประตู แพทริคปล่อยให้เธอทำงาน แต่เมื่อมาถึงห้องของเขา แพทริคกลับเอาแต่คิดเกี่ยวกับอุษา ปกติสาวๆมักแสดงออกว่าสนใจเขา แต่กับสาวไทยคนนี้ ในสายตาเธอมีแค่ความว่างเปล่า เขาไม่ได้ดูพิเศษอะไรสำหรับเธอ นี่เขากำลังเสียเซลฟ์อยู่สินะ
วันนี้ฟร้อนท์ค่อนข้างวุ่นวาย เพราะมีทั้งลูกค้าที่ลืมของในห้อง ลูกค้าเมาแล้วเสียงดังในห้อง ลูกค้าคืนห้องช้า ซึ่งเดเนียลจัดการทุกอย่างได้เป็นอย่างดีแล้วเขียนรายงานให้อุษาตอนใกล้จะสี่โมงเย็น อุษาอ่านเสร็จ เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย ที่ไม่ได้อยู่ช่วย
“เดเนียล คุณน่าจะโทรเรียกฉันไปด้วย ฉันจะได้ช่วยคุณจัดการปัญหา เราเป็นทีมไม่ใช่เหรอ”
เดเนียลเห็นอุษาคิ้วขมวด แต่เขายิ้มให้เธอ
“วันนี้คุณทำงานวันแรก ไม่อยากให้คุณเจออะไรแบบนี้ อ้อ เดี๋ยวไซม่อนจะเข้างาน ไปเจอเขากันเถอะ เหลือคนเดียวที่ยังไม่เจอหัวหน้าคนใหม่”
เลิกงานแล้ว อุษาดูโทรศัพท์ ข้อความเข้ามาทั้งเอมิเลีย เจนนภัส รวมถึงโรสมาเรีย เธอเลือกโทรหาเอมิเลียก่อน
“วันนี้งานโอเคใช่มั้ย? วันนี้ฉันยุ่งมากกับคุณแพทริค เลยไม่ได้เจอเธอเลย”
เสียงเอมิเลียดูเหนื่อยล้า
“งานไม่มีอะไร เดเนียลเป็นมืออาชีพมาก ช่วยฉันได้เยอะเลย”
“โอเค งั้นไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง”
อุษาแวะไปทักทายโรสมาเรียที่ห้องสปา ตอนนี้โรสมาเรียไม่มีลูกค้า เธอกะจะชวนโรสมาเรียไปซื้อของด้วยกัน แต่อีกสี่ชั่วโมงโรสมาเรียถึงจะเลิกงาน เธอเลยต้องไปคนเดียว
เธอกลับห้อง เพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่ แล้วจะออกไปซื้อของใช้สำหรับทำความสะอาดห้องกับอาหารแห้งที่ Pavilion ซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมนี้แค่เดิน 4-5 นาทีเท่านั้น เผื่อวันไหนที่เธอไม่อยากกินอาหารที่ห้องอาหาร
อุษาใส่ชุดเดรสผ้าฝ้ายสบายๆสีขาวสายเดี่ยวยาวเหนือเข่า ผมยาวสวย รองเท้ารัดส้น สะพายกระเป๋าสานใบโตที่นำมาจากไทย เดินไวๆกำลังจะพ้นทางออกโรงแรม สายตาของแพทริคที่เห็นพอดี เพราะโต๊ะทำงานใกล้หน้าต่างบานใหญ่ จึงเห็นภูมิทัศน์โดยรอบ โดยอัตโนมัติ..แพทริครีบคว้ากุญแจรถและโทรศัพท์ ออกไปจากห้องทันที
เขารีบสตาร์ทรถและขับเลี้ยวออกจากโรงแรม ตามไปทางที่เห็นอุษาเดินออกไป แต่พอเขาขับเข้าไปใกล้ เสียงรถของแพทริค ทำให้อุษาหันมามองก่อนจะทำตาโตเพราะประหลาดใจ แพทริครีบจอดเทียบพร้อมลดกระจก
“จะไปที่ไหน? ผมไปส่งเอามั้ย” แพทริคคิดว่าอุษาเริ่มทำหน้านิ่งอีกแล้ว..
“ฉันแค่จะไปซื้อของที่ Pavilion ใกล้นี่เอง ขอบคุณมากแต่ไม่เป็นไร ฉันถือโอกาสเดินออกกำลังกายด้วย”
ก่อนที่อุษาจะโค้งน้อยๆให้เขาแล้วรีบจ้ำอ้าวเดินไปเลยเฉยๆ ทิ้งให้แพทริคอ้าปากจะพูดแต่ไม่ทัน แพทริครู้สึกเขินและเสียหน้านิดหน่อย เลยคิดจะเอาชนะเธอ เขาขับแซงเธอไป อุษาคิดว่าแพทริคคงไปแล้ว เธอจึงไม่สนใจ แต่หารู้ไม่ว่า เขาขับไปจอดที่ซุปเปอร์มาร์เกตที่ Pavilion แล้วนั่งรอเธออยู่ในรถ
อึดใจเดียว อุษาก็เดินมาถึง เธอเห็นรถของแพทริคทันทีเพราะสีเขียวของรถที่เด่นมาแต่ไกล อุษาเริ่มไม่สบายใจและเดินช้าลงก่อนถึงประตูทางเข้า แพทริคลงจากรถเดินมาหาเธอ อุษามองหน้าเขาแล้วขมวดคิ้ว
“นี่เวลาเลิกงาน เราไม่ใช่เจ้านายลูกน้อง แต่ผมสามารถเทคแคร์คุณได้ ในฐานะเจ้าบ้าน”
อุษาก้มหน้า กระพริบตาถี่ๆ พยายามคิดหาทางปฏิเสธเขาอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรคุณแพทริค ฉันไม่ได้มาเที่ยวแค่มาซื้อของ ฉันมีธุระกับเพื่อนด้วย ไม่รบกวนคุณจะดีกว่า”
แพทริคไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่กลับยิ้มเก๋ๆให้ อุษาเดินไปเอารถเข็น มองหาของที่ต้องการซื้อโดยไม่สนใจเขาอีก
“ว้าว มีเพื่อนเร็วมาก อยู่แค่2-3วัน ผมเนี่ยไปอยู่แค่ต่างเมือง เป็นเดือนกว่าจะมีเพื่อนสักคน”
แพทริคเดินตามอุษาไปติดๆ แล้วถือวิสาสะจับรถเข็นของเธอมาเข็นเอง
“คุณ!..ไม่ต้องหรอก” อุษาอุทานพร้อมกับไม่ยอมปล่อยรถเข็น
“คนมองแล้วเห็นมั้ย ผมเข็นเอง..ว่าแต่เพื่อนคุณที่บอกจะไปทำธุระ เป็นคนที่นี่เหรอ ไว้ใจได้หรือเปล่า?”
นี่ฉันดูโง่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย แถมดื้อด้านถามไม่หยุด....
“เพื่อนสนิทฉันเป็นคนไทยทำงานที่นี่มาสองปีแล้ว”
“อยู่ไกลไหม?”
“ไม่เลย”
“ผมจะไปส่ง” เขาพูดแทรกทันทีเช่นกัน
อะไรกันนักกันหนาเนี่ย…
ตอนนี้เธอเข้าใจอย่างหนึ่งแล้วว่า เขาคงสนใจเธอ แต่จะสนใจในแบบไหน เธอไม่สนใจ ถ้าจะคิดว่าเธอง่าย เธอจะทำให้เค้ารู้ว่าคิดผิด แต่ต้องมีชั้นเชิงเพราะเขาคือลูกชายเจ้าของโรงแรม ถ้าเค้าไม่พอใจเธอแล้วให้คุณสมิธ แม่ของเขาไล่เธอกลับ ทุกอย่างที่เธอวางแพลนไว้จะพังหมด
เมื่อซื้อของเสร็จ เธอซื้อถุงผ้ารีไซเคิลใบใหญ่มาเพื่อใส่ของ เธอรีบกล่าวขอบคุณเขาที่ช่วย
“ถ้าคุณจะไปส่ง ฉันขอไปลงที่โรงแรมได้มั้ย แต่ส่งฉันแค่ก่อนถึงทางเข้าก็พอ ฉันจะเดินไปเอง”
“ไหนบอกจะไปหาเพื่อน?”
“ไม่ละ ฉันรู้สึกเหนื่อย ขอกลับที่พักดีกว่า”
อุษาทำท่าเหนื่อยๆ เขาเห็นสีหน้าเธอดูอ่อนล้า อาจเพราะตื่นทำงานแต่เช้าจนถึงตอนนี้ แพทริคจึงไม่ตื้อเธอต่อ เมื่อใกล้ถึงโรงแรม เขาไม่ยอมจอดตรงที่อุษาบอกไว้ แต่ไปจอดที่จอดประจำของเขาเพราะไม่งั้นอุษาต้องเดินหิ้วถุงไกลกว่าจะถึงห้องพัก เธอห้ามแล้วเขาทำเป็นไม่ตอบ
“คุณรู้มั้ยว่า ทำแบบนี้ ทุกคนจะมองคุณไม่ดีนะ”
“ช่างแม่งสิ ปกติผมก็ดูไม่ดีอยู่แล้ว..มั้ง”
แพทริคพูดคำหยาบออกมา อุษาไม่ได้ตกใจแต่เงียบและนั่งนิ่ง
“ขออภัย ที่ผมพูดคำหยาบ ขอบคุณที่เป็นห่วง แทนที่จะห่วงตัวคุณเองก่อน คุณนี่มองโลกในแง่ดีจริงๆ โลกไม่ได้ใจดีกับเราขนาดนั้น”
“ขอบคุณที่มาส่ง”
อุษายกมือไหว้ แพทริคพยักหน้าแล้วยิ้มให้ อุษาทำท่าตลกมากในสายตาเขา เธอเปิดประตูรีบเอาของออกไป มองซ้ายมองขวาว่ามีใครเห็นมั้ย แล้ววิ่งเข้าไปด้านข้างตึกทันที ทำเหมือนไปขโมยของใครเข้า เธอเก็บของที่ห้องแล้วส่งข้อความหาโรสมาเรีย เพื่อนัดเจอกันที่ห้องอาหาร เมื่อโรสมาเรียมาถึงก็นั่งข้างเธอเพื่อทานมื้อเย็นกัน
“โรส เธอทำงานที่นี่มาหลายปี ลูกชายคุณสมิธ ชอบคลุกคลีกับลูกน้องมั้ย”
โรสมาเรีย วางช้อนลงแล้วหันมามองหน้าอุษา
“หือ อะไร ทำหน้าซีเรียส แค่ถามเฉยๆ”
อุษายิ้มเจื่อนๆ ไม่เข้าใจ ทำไมต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้น
“เขาเข้าหาเธอเหรอ?”
“ไม่เชิง แต่ฉันไม่ได้คิดอะไร เขาคือเจ้านาย”
ทีนี้โรสมาเรียนิ่งแล้วพูดเบาๆกับอุษา
“คืนนี้เราค่อยคุยกัน ว่างก็โทรมาหาฉัน”
เมื่อออกจากห้องอาหาร อุษาโทรหาเจนนภัส ซึ่งชวนเธอให้ไปที่บาร์ชื่อ Barbarella อยู่
ใกล้กับ La Jolla Shores Boat Launching Area อุษาตอบตกลง
“เธอมาก่อน3ทุ่มครึ่งก็ได้ ฉันเลิกงาน3ทุ่มจะออกไปเลย มาถึงโทรหาฉันนะ จองโต๊ะไว้แล้ว ไม่ต้องกลัวไม่มีที่ วันนี้คืนวันเสาร์ คนเยอะด้วย”
ไม่เป็นไร แค่ไปสังสรรค์ 1-2 ชั่วโมง ทำงานหกโมงเช้าพอตื่นไหวอยู่ อุษานึกได้ว่าต้องโทรหาโรสมาเรีย แต่เธอน่าจะยังไม่เลิกงาน เมื่อไม่อยากรบกวน จึงส่งข้อความไว้ว่าคืนนี้ต้องไปธุระ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน
“แม่ ผมจะอยู่ที่ ลา ฮอยย่า สักพักนะ แล้วค่อยกลับบ้าน โรงแรมเราที่ดาวน์ทาวน์ ผมจัดการหมดแล้ว”
แพทริคมีห้องหรูระดับเพนท์เฮ้าส์ชั้นบนสุดของโรงแรมทุกแห่ง เพื่อสามารถอยู่ที่ไหนก็ได้เป็นเวลานานๆเวลาบริหารงาน เพราะบ้านของครอบครัวอยู่ เบเวอร์ลี ฮิลส์ ไกลออกไปอีก 2 ชั่วโมง ไม่สะดวกขับรถไปกลับบ่อยๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แพทริควางสายจากแม่ของเขา
“เข้ามา”
เอมิเลียเอาเอกสารและรายงานประจำวันมาวางให้ที่โต๊ะ
“คุณจะอยู่ที่นี่อีกกี่วัน อยากทานอะไรเป็นพิเศษในมื้อไหน บอกฉันได้เลย ห้องพักของคุณและเสื้อผ้า ฉันให้พนักงานทำให้หมดแล้ว”
“ผมคิดว่าจะอยู่หลายวันนะ อ้อ..ผมนัดเพื่อนมาดื่มกันนิดหน่อย อาหารไม่ต้อง ผมยังไม่หิว เครื่องดื่มผมขอ Dry Martiny ของเพื่อนผมเอาบรั่นดี ของกินเล่นเตรียมนิดหน่อยก็พอ ผมอยากได้ที่นั่งที่ล็อบบี้ เห็นวิวทะเล เดี๋ยวทุ่มครึ่งผมจะลงไป”
พอเอมิเลียถ่ายทอดคำสั่งลงไปที่ฟร้อนท์ ให้จัดโต๊ะเตรียมเครื่องดื่มและทุกอย่างไว้พร้อมกับจัดพนักงานเสิร์ฟไว้คอยดูแลแพทริคและเพื่อนของเขา ไม่นานนัก เพื่อนของเขาก็มาถึง ขณะนี้ที่ฟร้อนท์เวลานี้เป็นไซม่อนที่อยู่ดูแลต้อนรับส่วนหน้า มีลูกค้าเข้าออกและโทรเข้ามาเป็นระยะ ไซม่อนเห็นแพทริคออกจากลิฟท์มาและตรงไปที่เพื่อนของเขาที่รออยู่ เอมิเลียเลิกงานไปแล้วแต่ก็มาย้ำให้ไซม่อนว่าถ้ามีอะไรที่นอกเหนือการจัดการของเขาให้รีบโทรหาเธอหรือเดเนียลได้ทันที
“แล้วไม่ต้องบอกอุษาเหรองั้น แปลก”
แพทริคนั่งดื่มและคุยกับเพื่อนอยู่นาน จนกระทั่งเกือบสามทุ่ม เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง จ้องตามเธอ จนเพื่อนเขามองตาม
“แพท? คนรู้จักเหรอ”
“สักครู่นะเพื่อน”
อุษาเดินไปดูโทรศัพท์ไปด้วย เธอเรียก Uber เรียบร้อยแล้ว แค่ออกไปหน้าโรงแรมเพื่อรอรถ อุษาใส่เสื้อเบลาส์สีครีมเงา กางเกงขาสั้นทรงบาร์บี้ คาดเข็มขัดเส้นเล็กๆ รองเท้าผ้าใบสีขาวธรรมดา พร้อมกับกระเป๋าแบรนด์เนมใบเดียวที่เธอมี สำหรับคนรวยมันคงเป็นแค่เศษเงิน แต่สำหรับอุษามันแพงที่สุดในชีวิตที่อุษาเคยซื้อตอนอยู่ไทยเพื่อให้วันเกิดตัวเธอเอง แต่ไม่เคยได้ใช้เพราะเธอไม่ออกไปเที่ยว สังคมที่กรุงเทพตอนนั้นมีแค่ที่ทำงานเท่านั้น
“ไหนว่าคุณเหนื่อยไง”
อุษาตกใจจนตัวโยนเอาโทรศัพท์ทาบอก เธอกำลังใช้ความคิดเพลินๆ คุณพระคุณเจ้า ใจหล่นลงตาตุ่ม!
“ฉันพักหลายชั่วโมงแล้ว ก็ต้องหายเหนื่อยสิ ขอตัวก่อนนะ รถมาแล้ว”
อุษารีบเดินไปที่ Uber แต่แพทริคไม่ยอมแพ้ เขารู้สึกว่าอุษาชอบตัดบทแล้วเลี่ยงหนีไป เขาไม่ให้อุษาขึ้นรถ แต่จ่ายเงินให้ Uber แทนมากกว่าค่าโดยสารที่เธอต้องจ่าย
“ขอบคุณมาก ขอโทษที่ทำให้คุณเสียเวลา”
แพทริคยิ้มและโบกมือให้คนขับรถ
“เดี๋ยวคุณ แบบนี้ไม่ได้นะ”
อุษาว่าให้ทั้งแพทริคและคนขับรถ แต่ไม่มีใครฟัง รถขับออกไปแล้ว อุษาหันมายืนจ้องหน้าแพทริค เธอพยายามข่มความไม่พอใจ แล้วหันหลังเดินกลับเข้าโรงแรม แพทริคเดินตาม ยามของโรงแรมที่อยู่ตรงนั้นได้แต่มองด้วยความสงสัย
“ผมทำให้คุณโกรธ ผมจะไถ่โทษไปส่งคุณได้มั้ย”
“ฉันไม่ไปแล้ว”
อุษาตอบพลางกดโทรหาเจนนภัส แต่แพทริคเอาโทรศัพท์มากดสายทิ้ง เธอไม่เข้าใจว่า เขาถือวิสาสะเพราะเป็นเจ้านายเลยจะละเมิดคนอื่นแบบนี้ได้ยังไงกัน เธอเม้มปากรวบรวมสติ พูดเสียงเข้มแต่หนักแน่น
“คุณแพทริค ถ้าฉันพูดตรงๆ คุณอาจจะอยากไล่ฉันออก แต่ฉันรู้ว่าคุณแม่คุณ ท่านเป็นคนมีเหตุผล ฉันมีสัญญา ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดในสัญญาการทำงาน”
น้ำเสียงอุษาเรียบสนิท ไม่แสดงความโกรธ เธอเจอการกดขี่ในตอนที่ทำงานในไทยมามากพอแล้ว และเธอไม่อยากเจอแบบนั้นอีก เธอพอจะรู้มาบ้างเรื่องคนเอเชียโดนบูลลี่กลั่นแกล้ง แต่เธอมาที่นี่ ไม่ได้เพื่อมาเป็น loser
“นอกเวลางาน นี่คือชีวิตของฉัน คุณพูดว่านอกเวลางานไม่มีคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่สิ่งที่คุณทำทั้งหมดในวันนี้ คุณละเมิดความเป็นส่วนตัวของฉันอยู่ ถ้าคุณอาจจะไม่รู้ตัว คุณอาจทำแบบนี้กับพนักงานของคุณที่นี่ แล้วทุกคนอาจจะไม่กล้าบอกว่าพวกเค้ารู้สึกยังไงเพราะกลัวโดนไล่ออก แต่ฉันขอใช้สัญญาการทำงานเป็นตัวตั้ง ไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวนอกเวลางาน ถ้าต้องถูกให้ออกจากงาน”
“โว้วๆๆ ไปกันใหญ่แล้วคุณ ใจเย็นก่อนได้ไหม”
อุษาไม่มองหน้าเขาอีกเลย ยืนนิ่ง เธอถอนหายใจ แพทริคพึ่งโดนอุษาใส่เป็นชุดถึงกับใจเสีย เขาพูดเสียงอ่อนลง
“ผมขอไปส่งคุณแค่ครั้งนี้เพราะทำให้คุณพลาดขึ้นรถ แล้วจะไม่รบกวนคุณอีกแล้ว ได้มั้ย..”
“ดีล” อุษายื่นมือให้เขา แพทริคยื่นมือไปจับมือนุ่มนิ่มของเธอ
“แต่ ไปส่งฉันด้วย Uber นะ ไม่ไปรถคุณ ฉันไม่อยากเป็นจุดเด่น”
เธอตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
Uber ขับมาส่งคนทั้งคู่ อุษากล่าวขอบคุณแพทริค พอเธอจะลงจากรถ ก้าวขาลงได้ข้างเดียว แพทริค รีบพูดขึ้น
“อุษา ขอผมไปทานข้าวในนั้นได้มั้ย”
อุษานึกโมโหหน่อยๆ นี่เธอเลทจนเจนนภัสส่งข้อความมาตามแล้ว แต่พอหันไปเห็นแพทริคทำหน้าสลด
เฮ้อ...อุษาถอนหายใจและกรอกตาบนใส่เขา
“นี่คือที่สาธารณะ คุณไม่ต้องขออนุญาตฉัน”
แพทริคตามอุษาลงจากรถ เจนนภัสมาที่หน้าร้านเพื่อมาพาอุษาไปที่โต๊ะ คนเยอะมากจริงๆ เพราะนี่คือคืนวันเสาร์ เจนนภัสไม่ได้ทันสังเกตว่า แพทริคมากับอุษา
“มาช้ามากก จะสี่ทุ่มแล้วเนี่ย หิวมั้ยน่ะ ป่ะ ไปที่โต๊ะ”
อุษาตามเจนนภัสไปโดยไม่แม้หันไปมองและไม่สนใจแพทริคอีกเลย
ฉันไม่สนหรอก ไม่ใช่เรื่องของฉัน ดื้อรั้นจะมาเอง ช่วยไม่ได้ แถมทำฉันมาสายอีก ยังไงที่นี่มันก็ซานดิเอโก้ถิ่นคุณอยู่แล้วนี่
แพทริคโทรหาเพื่อนของเขาให้กลับก่อนได้เลย
“ตามผู้หญิงจนลืมเพื่อนเลยนะ คาสโนว่า”
เพื่อนของแพทริคหัวเราะเบาๆ แล้วบอกพนักงานเสิร์ฟให้เก็บโต๊ะได้ ก่อนที่เขาจะกลับออกไป
อุษามาถึงมีคนที่โต๊ะอยู่หลายคนรวมถึง ราฟาเอล อุษาจับมือทักทายกับทุกคน แล้วแนะนำตัวกัน อุษาหิวจึงสั่งอาหารให้ตัวเธอเอง ระหว่างรออาหาร เธอจิบค็อกเทลเล็กน้อย
อยู่ๆแพทริคก็ปรากฎตัวขึ้น ทำเอาเธอสำลักน้ำ
“ไม่มีโต๊ะว่างให้ผมนั่งทานข้าวเลย อุษา..”
ทุกคนมองไปที่อุษา ที่ทำหน้าเลิ่กลั่กอยู่ ราฟาเอลที่เห็นแบบนั้น ก็พูดเชิญเขานั่ง
“นั่งเลยๆ เพื่อนอุษานี่เอง เอาเก้าอี้ผมไป เดี๋ยวผมไปบอกพนักงานเอาเก้าอี้มาเพิ่มสักครู่”
บริกรเอาเก้าอี้มาเพิ่มให้ราฟาเอลนั่ง แล้วรับออเดอร์จากแพทริค ทุกคนในโต๊ะดูสนใจเขา เมื่อแพทริคมาร่วมโต๊ะ สาวๆพากันพูดคุยซักถามเขา เรื่องงาน อายุ ความสนใจ เจนนภัสดูร่าเริง เจื้อยแจ้วคุยเก่งกว่าปกติ อุษากินอาหารเงียบๆ ฟังแพทริคโกหกว่า เขาทำงานที่เดียวกับอุษา เป็นแค่ผู้จัดการทั่วไป และไม่มีรถขับ
ทุกคนเริ่มดื่มมากขึ้น โดยเฉพาะราฟาเอล เขาเริ่มจับแขนและโอบไหล่เจนนภัส พยายามพูดข้างหู แต่เจนนภัสพยายามบ่ายเบี่ยง
“เป็นอะไร อายอุษาเหรอ เวลาอุษาอยู่ด้วย เจนนี่ชอบเป็นแบบนี้ทุกที”
ราฟาเอลที่หน้าแดงก่ำ พูดพร้อมกับยิ้มๆ
“ฉันยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนคุณนะ ราฟ คนเรามันต้องดูกันไปก่อน”
“จะให้พูดมั้ยล่ะ ฮ่าๆๆ”
“หุบปากเลย เมาแล้วเลอะเทอะ” เจนนภัสวีนเบาๆจนทุกคนหัวเราะ
อุษายิ้มขำตามน้ำไป อุษารู้จักเพื่อนเธอดี เจนนภัสคงไม่หลงใหลได้ปลื้มกับราฟาเอลจนขนาดจะเอามาเป็นแฟนแน่นอน ราฟาเอลไม่ใช่สเปคของเพื่อนเธอเลยสักนิด เจนนภัสเป็นคนทะเยอทะยาน ชอบคนมีการศึกษาพอกันหรือมากกว่า ต้องมีรสนิยมหรือไลฟ์สไตล์ที่ดูดี แต่ไม่ใช่คนนี้..ราฟาเอลที่ผิวเข้ม มาจากครอบครัวอพยพ แต่เขาเกิดที่นี่จึงได้เป็นพลเมืองอเมริกัน อยู่หน้าเตาและกระทะ มีหนวดเครา ใส่เสื้อสีฉูดฉาดตามสไตล์คนเม็กซิกัน
จะเที่ยงคืนแล้ว อุษาขอตัวกลับเพราะต้องตื่นหกโมงเช้า แพทริคเลยจะขอตัวกลับด้วย แต่อุษากลัวเขากลับกับเธอ จึงบอกให้เขาอยู่ต่อเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องตื่นเช้าแบบเธอ แต่แพทริคก็พูดเหตุผลสารพัดที่จะกลับเหมือนกัน เจนนภัสจึงถือโอกาสเดินมาส่งอุษากับแพทริคที่รอ Uber มารับ“อูฐมานี่ได้แค่สามวันได้เพื่อนใหม่ละ ก็ดีนะ เธอยิ่งไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่”พูดจบก็โอบอุษาพร้อมกับลูบหลัง“ว่าแต่ คุณแพทริคกลับดึกแบบนี้ แฟนไม่ว่าเหรอ”เจนนภัสเจื้อยแจ้ว อุษารู้อยู่แล้วว่า เจนนภัสต้องการอะไร อุษาทำได้แค่ส่ายหน้าขำๆ“ผมโสดนะ เลิกไปหลายคนแล้ว เงินเดือนผมน้อย รถก็ไม่มีขับ บ้านก็เช่า ใครจะมาสนใจ แต่ก็สบายดี อย่างมากก็แค่เหงา”“คุณมีไอจีมั้ย คุณแพทริค”“ไม่มี ผมเป็นพวก introvert”อุษากลั้นขำสุดๆ เนียนจริงๆคนนี้ “ถ้าเหงาไม่มีเพื่อน มาร้านที่ฉันทำงานได้นะ ฉันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านที่ Rafael Bistro คุณเล่น WhatsApp มั้ย?”เป็นไงล่ะ? เจอซะบ้าง โดนต้อนโดนตื้อ จะได้เข้าใจความรู้สึกฉันมั่ง อุษาแอบเยาะเย้ยในใจ“รถมาแล้ว ผมง่วงมากเลยตอนนี้ ลาก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่” แพทริคตัดบทรีบชิ่งขึ้นรถ กวักมือเรียกอุษาให้ไว เธอบอกลาเจนนภัสก
อุษาจูงทั้งสองเดินออกจาก Pearl Street มุ่งไปทางถนน Coast Blvd เส้นเดียวกับทางไปโรงแรม ลา ฮอยย่า ซีวิว เพราะเธออยากให้ทั้งสองได้รับแดดอ่อนๆ และเห็นชายหาดไปด้วย เธอสังเกตว่าสายจูงและปลอกคอเหล่าลูกรักของฮาร์วี่เป็นแบรนด์เนม ด้วยความอยากรู้ เธอจึงหาที่นั่งแล้วออกคำสั่งให้ทั้งสองตัวนั่งลง ซึ่งทำตามคำสั่งได้อย่างเรียบร้อยสมกับที่เข้าโรงเรียนฝึกมาแล้ว“ไหนมาดูหน่อย พวกเธอใช้ยี่ห้ออะไรกันบ้าง?”เธอจัดการถ่ายรูปปลอกคอจากทั้งสองตัวแล้วค้นหาจากรูปถ่ายจาก Google “ว้าว Hermes Rocabar Dog Collar สองหมื่นกว่าบาท! ไหนส่องสายจูงสิ ลายนี้ไม่เคยเห็นแหะ”อุษาอุทานพร้อมพูดกับเจ้าตัวโตทั้งสองตัว ที่มองอุษาด้วยความสงสัย“โอ้ว สายจูงของ Hermes ด้วย 37,000 บาท โอ้วแม่เจ้า พวกเธอนี่คุณภาพชีวิตดีจนฉันอิจฉานะเนี่ย กระเป๋าที่แพงที่สุดของฉันยังราคาไม่เท่าสายจูงพวกเธอเลย”อุษาพูดพร้อมกับขยี้หัวทั้งสองด้วยความเอ็นดู คนที่ผ่านไปผ่านมาพากันมองที่เธอนั่งคุยกับสุนัข นั่นเพราะสุนัขตัวโต ผู้คนเลยสนใจ“เอาล่ะ พร้อมเดินหรือยัง เดินสักสิบห้านาที ฉันจะให้น้ำแล้วก็ถ้าพวกเธออึ ฉันเตรียมถุงมาเก็บแล้ว หวังว่าอย่าอึเลยนะ พลีสส”เ
มีเสียงเคาะประตูห้อง อุษาไปเปิดประตู พบว่าเป็นแพทริค เธอถอนหายใจใส่เขา…“ถอนหายใจใส่ผมเลยนะ ไม่คิดจะเชิญผมเข้าไปหน่อยล่ะ ยืนเมื่อยตั้งนานแล้ว”“เชิญ คุณแพทริค”อุษารอให้เขานั่ง แต่เธอยืนสำรวม มือจับประสานกันเรียบร้อยตามสถานะที่เธอเป็นอยู่ ตั้งใจไม่ปิดประตู แต่แพทริคดันประตูให้ปิด“ตัดผมใหม่คุณดูน่ารักมาก ตอนเที่ยงที่ร้านอาหารไทยกับตอนนี้เป็นคนละสไตล์เลยนะ”“ค่าอาหารเท่าไหร่คุณแพทริค? ได้โปรดให้ฉันได้คืนให้คุณ มันทำให้ฉันลำบากใจรวมถึงดอกไม้นั่นด้วย”แพทริคทำหน้าตาเศร้าลงทันที ทำหน้าแบบนี้อีกละ..ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ.... “ผมไม่อยากได้เงินคุณ ผมก็..ไม่รู้สิ แค่อยากเทคแคร์คุณ เพราะคุณไม่ใช่คนที่นี่ เป็นพนักงานของผมด้วย ผมเองก็จ่ายให้เพื่อนคุณด้วยนะ ไม่ใช่แค่คุณสักหน่อย”“เพื่อนฉันก็พนักงานของคุณเหมือนกัน”“แล้วเมื่อเช้าคนมาส่งคุณ เจ้าของสุนัขน่ะ ชื่ออะไรอยู่แถวนี้เหรอ?”นี่มันอะไรเนี่ย..ได้เวลาที่ต้องทำงาน แต่ต้องมาโดนเจ้านายถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่ไม่เกี่ยวกับงาน“ครอบครัวควินน์ บ้านของเขาอยู่หัวมุม Pearl Street คนจ้างฉันเค้าชื่อ คุณฮาร์วี่ แต่ฉันไม่ได้ทำให้งานหลักเสียนะ”“อุษา..นอกเวลาง
เช้านี้อุษารีบไปบ้านของฮาร์วี่ แม่บ้านรอเธออยู่แล้ว แจสเปอร์กับเชสเตอร์กระดิกหางดีใจที่เจอเธอเช่นกัน อุษาสวมกอดทั้งสองทีละตัว ก่อนบอกลาแม่บ้าน พร้อมส่งข้อความหาฮาร์วี่ เขาโทรหาเธอทันที อุษาจูงทั้งสองพร้อมคุยโทรศัพท์ไปด้วย“หลับสบายมั้ยเมื่อคืน คุณเลิกงานดึกด้วย มีใครทำให้คุณกลัวอีกไหม?”เสียงทุ้มนุ่ม ทำให้อุษาใจฟู“หลับสบายดี ฉันเลิกกลัวแล้วล่ะ คุณมีพลังงานด้านบวกทำให้คนที่อยู่ใกล้ รู้สึกดีได้ ขอบคุณนะฮาร์วี่”“เดินระมัดระวังรถด้วยนะ ผมจะไปทำคดีให้ลูกค้าก่อน อย่าลืมว่าเราคุยเรื่องที่ประเทศคุณค้างเอาไว้”อุษายิ้ม เขาวางสายไปแล้ว แน่นอน..ฉันอยากคุยเรื่องลิงหรืออะไรก็ได้ เมื่อพาทั้งสองเดินจนเกือบครบตามเวลา เธอแวะซื้อไอศครีมที่ร้าน Baskin-Robbins อยู่ด้านหลังบ้านของฮาร์วี่ ให้พวกเขาทั้งสองด้วย“อร่อยละสิ แทนคำขอโทษที่เมื่อวานฉันอ่อนแอไปหน่อย จนไม่ได้พาพวกเธอมาเดินเที่ยวน่ะนะ”เธอนำทั้งสองไปคืนให้ที่บ้านควินน์ กอดเพื่อนตัวโตทั้งสองของเธอ แล้วเดินกลับไปที่โรงแรมเพื่อไปพักผ่อนสักนิดก่อนจะมื้อเที่ยง เมื่อถึงห้องเธอได้โทรหาโรสมาเรีย“ฮัลโหล อุษา ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย? เมื่อวานฉันอดเป็นห่วงไม่ได้
แพทริคสั่งอาหารมากินที่ห้องของเขา ช่วงบ่ายก็ออกไปที่ห้างสรรพสินค้า เขาเห็นสร้อยคอน่ารักเส้นหนึ่งของ Tiffany&Co เส้นเล็กสวย มีเพชรรูปหัวใจตรงกลาง ราคาประมาณ 1,900 ดอลล่าร์ เขาตรงเข้าไปในร้านแล้วซื้อมันออกมาอุษาเลิกงานสี่โมง เธอรีบกลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัว ชุดไหนดีนะ? ขออย่าให้เขาพาไปร้านแพงๆเลย กลัวทำเขาขายหน้าจัง อุษาส่งข้อความไปหาฮาร์วี่ “ไม่ต้องไปร้านแพงมากก็ได้ ฉันไม่อยากทำคุณอายคนอื่น”“งั้นผมไปรับคุณแล้วให้คุณเป็นคนเลือกร้านเอามั้ย”ฮาร์วี่ตอบกลับมา ทำเอาอุษาค่อยยิ้มออก เขาส่งรูปแจสเปอร์กับเชสเตอร์ให้เธอ ทั้งสองมองดูเหมือนกำลังยิ้มแฉ่งแพทริคกลับมาแล้ว กวาดตามองไปรอบๆฟร้อนท์และล็อบบี้ พลางถามไซม่อน “หัวหน้าฟร้อนท์ล่ะ”“คุณอุษาเลิกงานแล้ว”แพทริคพยักหน้ารับทราบ เขาอยากให้สร้อยคอเธอกับมือ ไม่อยากเอาไปวางไว้เฉยๆเขาขึ้นไปชั้นสอง ไปนั่งดูเอกสารที่เอมิเลียเอาวางไว้ให้ เหลือบตาไปดูกล่องสร้อยคอที่ซื้อให้เธอ อุษาไม่ใส่เครื่องประดับเลยสักชิ้น ทั้งๆที่คอเนียนสวย ผิวขาวละเอียดรถคันนึงเข้ามาจอดในที่จอดรถด้านหน้าของโรงแรม แพทริคคุ้นรถคันนี้ Bentley ของทนายความคนนั้นแน่นอน แพทริคลุก
เอมิเลียให้นิโคล่าที่เลิกงานแล้วมาที่ห้องทำงานของเธอ เพื่อเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นตอนที่เธอไปธนาคาร โดยมีเดเนียลอยู่ฟังด้วย เมื่อนิโคล่าเล่าจบ ก็กลับออกไป“คุณแพทริคไม่เคยแสดงออกต่อหน้าใครเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะคบกับใคร คงมั่นใจในความสัมพันธ์ครั้งนี้มากสินะ”เอมิเลียเสียงแข็ง แต่สายตาของเธอเศร้า จนเดเนียลอยากออกความเห็นให้เธอคิดอะไรได้บ้าง“จริงๆคุณแพทริค เขาเองก็เคยผ่านอดีตที่แย่ๆมา ถ้าต้องมีคนที่รักเขา และเขารักจริงๆ ก็น่ายินดีนะเอมิเลีย”เอมิเลียหลับตา นึกถึงวันแรกที่เห็นเขา เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ทำทุกอย่างในโรงแรมแห่งนี้เพื่อให้ธุรกิจของเขาก้าวหน้า อะไรที่จะทำให้เขาต้องชื่อเสียงหม่นหมอง เธอจะคอยจัดการให้ ไม่ว่าจะต้องเป็นคนร้ายกาจไปบ้าง เพราะอยากให้เห็นว่าเธอจริงใจกับเขาแค่ไหน“คนที่เขารัก อยู่เฉยๆเขาก็รัก เหมือนที่คุณทำอยู่ ไม่ว่าเขาจะทำคุณเสียใจกี่ครั้ง คุณก็ยังไม่เคยหมดรัก”“บางครั้งคุณมองแต่เขา จนลืมไปว่า ข้างๆคุณอาจมีคนที่รักและหวังดีกับคุณเหมือนกัน คุณไม่ได้โดดเดี่ยวหรอกนะ เอมิเลีย”เอมิเลียมองเดเนียลแล้วยิ้มบางๆ “ผมกลับก่อนนะ ดูแลสุขภาพด้วย”อุษาที่เดินกลับจากบ้าน
อุษาทำของอะไรใส่ผู้ชายพวกนี้กัน ถึงได้พูดจาปกป้องเธอนัก เลียนแบบฉันทุกอย่าง แต่ดันได้แต่ผู้ชายขับรถหรู ฐานะ หน้าที่การงานดีอยู่รอบข้างส่วนฉัน..ต้องมาทนกับไอ้เม็กซิกันต่ำต้อยตัวดำ ขนดก….. เจนนภัสยิ่งคิดยิ่งนึกเกลียดอุษามากขึ้นเมื่อไปถึงที่บาร์ คนยังเยอะอยู่ พวกเขาได้โต๊ะหลบมุม ฮาร์วี่สั่งเครื่องดื่มให้ตัวเขาและอุษา แพทริคเห็นก็ไม่พอใจขึ้นมา “เธอต้องทำงาน ดื่มแอลกอฮอล์ตอนกลางคืนไม่น่าจะดีมั้ง ผมขอน้ำผลไม้ เอาเป็นแอปเปิ้ลแล้วกัน”แพทริคบอกบริกร จนอุษารู้สึกว่าบรรยากาศมาคุสุดๆ“เอามาทั้งสองแบบเลย แล้วเธออยากดื่มอันไหนก็ได้”ฮาร์วี่สวนขึ้น เจนนภัสรู้สึกว่าเหมือนส่วนเกิน แต่ก็สั่งของตัวเธอเองไปอุษาอับอายที่แพทริคพูดเรื่องระหว่างเธอกับเขาตอนหัวค่ำ แพทริคก็รู้สึกโกรธที่ฮาร์วี่เอาผู้หญิงของเขาออกมาเที่ยว แถมต้องมาเจอเจนนภัสที่เคยจูบกับเขาอีกเจนนภัสก็กลัวว่าอุษาจะรู้ว่าเธอนินทาอุษาให้แพทริคฟัง บวกกับเจนนภัสโกหกอุษา ที่จริงแล้วเธอคือคนที่อยากมีอะไรกับเขาแล้วโดนเขาไล่กลับกลางดึกอุษาคิดว่าพรุ่งนี้เธอจะขอลางานได้ไหมเธอดื่มเข้าไปพอสมควร บรรยากาศทำเธอเครียด“คุณแพทริค พรุ่งนี้ฉันขอลางานหนึ่งวั
มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา ฮาร์วี่กดรับสาย “ว่าไง เบลล่า สนุกมั้ย?”“สนุกมาก ฉันกำลังจะกลับ อยากแวะไปหาคุณ 2-3 วัน ก่อนไปนิวยอร์ค พอดีมีแฟชั่นวีค ฉันได้รับเชิญไปนั่ง Front row คุณอยากไปด้วยมั้ย? ฉันสามารถแจ้งเพิ่มที่นั่งได้ เพราะคุณเองก็ Top Spenders ของแบรนด์นี้อยู่นะ ช้อปไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ไม่เชิญคุณนี่ ฉันแอบเคืองแทนจริงๆ”“ไม่ละ ช้อปจนเงินจะหมด เลยต้องมานั่งทำงานอยู่ตอนนี้ไง”“ไม่เห็นดีใจที่ฉันจะไปหาเลย น้อยใจจัง”“ก็มาสิ ถ้ามาถึงแล้วบอก ผมจะไปรับ”“คิดถึงคุณมากนะ see yaa! babe”เบลล่า สาวสวยผิวสีแทน ตาโต ปากอวบอิ่ม ผมดำยาวถึงก้น อกเป็นอก เอวเป็นเอว พิมพ์นิยมของอเมริกา สาวเซเลปและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง อายุ 27 ปี มี Follower หลักล้านคน เมื่อ 6 เดือนก่อน เธอมาทำงานที่แอลเอ เจอคนแอบอ้างเป็นเธอไปหลอกเจ้าของผลิตภัณฑ์เอาเงินค่าสปอนเซอร์ เธอจึงให้ผู้จัดการหาทนายความ ผู้จัดการได้ว่าจ้างบริษัททนายความ Henry Law Office ให้มาว่าความให้ ซึ่งพ่อของฮาร์วี่ติดว่าความให้โรงกลั่นน้ำมันรายหนึ่งอยู่ จึงให้ลูกชายของเขาไปทำคดีนี้ เบลล่าชอบเขามาก เขาคือไทป์ของสาวๆที่นี่ สูง ผิวขาวใส ตาและผมสีอ่อน หน้าต
แพทริคขับมาถึงก่อน พอลงรถเข้ามาในบ้าน แม่เริ่มกังวลที่เห็นว่าที่ลูกเขยจะต้องนอนเปิดพัดลมที่โซฟาห้องรับแขก“ให้เขานอนห้องลูกดีกว่า แล้วลูกไปนอนกับแม่”แม่ชี้ที่ไปเขาและห้องนอนของอุษา แต่เธอทำหน้าเชิงว่าไม่อยากให้มานอนที่ห้องเธอ แพทริคทำท่าว่าเข้าใจที่แม่พูด“บอกแม่คุณว่า ผมนอนที่นี่แหละ คุณจะได้อยู่กับกุหลาบสวยๆทั้งห้องตามลำพัง”พอแปลให้แม่ฟัง ทั้งพ่อและแม่ก็แย้งเธอขึ้นมา“มันน่าเกลียดให้เขามานอนตากยุงตรงนี้ งั้นก็แล้วแต่ลูกแล้วกัน”“แพทริค คุณไปอาบน้ำที่ห้องฉันก็ได้ เดี๋ยวฉันจะรอนาตาเลียกับฮาร์วี่ก่อน ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้านะ ใช้ได้เลย”พ่อแม่และแพทริค แยกย้ายกันไปอาบน้ำและพักผ่อน ไม่นานนักฮาร์วี่ขับรถเข้ามาพอดี อุษาออกมาหาและยิ้มให้นาตาเลียที่ลงรถมาก่อน“อุษา พรุ่งนี้วันอาทิตย์ไปเที่ยวไหนดี?”“เดี๋ยวคืนนี้จะดูว่าไปที่ไหนแล้วจะบอกนะ เอ่อ ฮาร์วี่ ฉันอยากคุยด้วยได้มั้ย?”“งั้นฉันกลับโรงแรมก่อนนะ อยากอาบน้ำหน่อย”นาตาเลียเดินไปแล้ว อุษาชวนฮาร์วี่คุยที่สวนนอกบ้าน เธอเอาสเปรย์ฉีดกันยุงให้ตัวเธอและเขา“ก่อนที่ยุงบ้านฉันจะสูบเลือดคุณจนหมด”จากที่เงียบมาตั้งแต่ไปกินข้าว เขายิ้มบางๆให้เธอ
แพทริคและนาตาเลียขึ้นเครื่องไฟล์ทเช้าตรู่ ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงก็มาถึงในเวลาเจ็ดโมง โดยนัดเจอกับล่ามชื่อ วิน ที่มารอรับพวกเขาที่สนามบินเชียงใหม่ ในขณะที่อุษาบอกพ่อกับแม่ในเช้านี้ว่าต้องการไปที่วัด ฮาร์วี่มารอตั้งแต่เช้า เมื่อเธอออกมา เขาตะลึงเหมือนเห็นนางฟ้าอุษาเกล้าผมมวยสูงหลวมๆ ผ้าฝ้ายเกาะอก ใส่ผ้าซิ่นสีแดง เข็มขัดเงิน มีผ้าคล้องแขนไว้สำหรับคลุมไหล่สีขาว โชว์ผิวเนียนสว่างใสที่หลังและไหล่“ป๊าให้ยืมรถ เผื่อจะไปซื้ออาหารหรือของทำบุญ แถวตลาดมีขาย คุณฝรั่งคงขับได้อยู่ รถมันเก่าหน่อยนะ”เมื่ออุษาบอกฮาร์วี่ เขาพนมมือขอบคุณแบบเกร็งๆ พ่อและแม่ของเธอดูจะเอ็นดูเขาอยู่เหมือนกันที่สนามบิน ล่ามถือกระดาษที่เขียนชื่อแพทริคชูไปมาจนเจอกัน “สวัสดีคุณแพทริค ผมชื่อวิน แต่เพื่อนๆมักเรียกว่า วินนี่ ยินดีที่รู้จัก คนจ้างบอกผมว่า ถ้าแปลดีๆให้แฟนคุณแพทริคหายโกรธ ผมจะได้ทิปพิเศษ ไม่ต้องห่วง ผมจะอวยคุณให้ดีเลยเชียว”นาตาเลียชอบใจล่ามคนนี้มาก ส่วนแพทริคมัวตะลึงกับวินนี่อยู่“ฉันชื่อนาตาเลีย เป็นน้องสาวเขา ถ้าคุณแปลให้เราดีๆ ฉันจะทิปให้ช้อปเคาน์เตอร์แบรนด์ โอเคมั้ย”“โอเค ไปกันเถอะ”วินนี่ออกเดินนำไปที่จอด
แพทริคโทรหาเจนน่า เพื่อจะใช้บริการทนายความของเฮนรี่ ซึ่งเขานัดพบเฮนรี่เพื่อให้รายละเอียดในตอนเย็น “ฉันยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร หลังจากฉันกลับไปแล้ว อุษาถึงต้องหนีไป มีใครไปทำอะไรให้เธอแน่ๆ”นาตาเลียที่นั่งกินมื้อเที่ยงกับแพทริคที่ภัตตาคารของโรงแรมถามขึ้นมา หลังจากเขาวางสายจากเจนน่า“ผมอยากขอให้คุณพยายามติดต่ออุษาให้หน่อยนะ ตอนนี้น่าจะปิดเครื่อง สัก 4-5 ทุ่ม เธออาจจะรอเปลี่ยนเครื่อง”แพทริคไม่ตอบเรื่องไอด้าเพราะมีหลายเรื่องในหัวที่ต้องเรียงลำดับทำอันไหนก่อนหลังหลังจากกินเสร็จ นาตาเลียขอตัวไปทำงานให้เอมิเลียที่ห้องทำงานเก่าของไมเคิล ส่วนแพทริครอทิมโมธีที่ห้องรับรอง “เฮ้ เพื่อน ทำไมหน้าตาแบบนั้น? นอนน้อยหรือไม่ได้นอน แล้วที่เลื่อนนัดคุย เกิดอะไรขึ้น? ฟังจากน้ำเสียงไม่ดีเลยนะ”“ฉันโดนอดีตเล่นงานคู่หมั้นฉัน ไม่น่ารับเข้ามาทำงานจริงๆ ทุกคนบอกให้รับเอาไว้ สุดท้ายงูพิษก็คืองูพิษ อุษาถอดแหวนหมั้นหนีกลับไทย แล้วที่เป็นห่วงเพราะฮาร์วี่พาเธอไป”“ห่ะ อะไรนะ? ฮาร์วี่น่ะเหรอ คืออะไร? ฉันงง”“ฮาร์วี่ชอบอุษามานานแล้ว เวลาเธอมีเรื่องอะไรก็ตาม เขาจะโผล่มาตลอด เฮ้อ..เอาเถอะ เรื่องเรือนำเที่ยวของเรา เอก
แพทริคกับอุษาออกไปยังคอนโดที่ตกแต่งเสร็จแล้ว ขับมาก็เจอรถเฟอร์รารี่สีแดงของฮาร์วี่จอดอยู่ “คุณรู้มั้ยว่าเขาจะมา?”แพทริคถามพลางมองอุษาที่ทำหน้าไม่รู้เรื่อง เธอส่ายหน้า ทั้งคู่ลงจากรถก็มีพนักงานสาวมายืนรอที่หน้าคอนโด ฮาร์วี่ออกจากรถ แล้วเดินมาหาพวกเขา“สวัสดีอุษา ไงแพทริค พอดีผมมาดูความเรียบร้อยให้คอนโดคุณด้วย เพราะนาตาเลียก็ซื้อคอนโดใกล้ๆนี้เหมือนกัน”สายตาของฮาร์วี่มองที่เธอด้วยความคิดถึง เขาขอกับแม่เสนอตัวมา นั่นเพราะอยากเจอเธอเท่านั้น ส่วนอุษาลืมไปว่าพึ่งมองหน้ากันไม่ติด พอได้ยินเรื่องนาตาเลีย ก็สนอกสนใจ“จริงสิ? แล้วเธอจะเข้าพักได้เมื่อไหร่? อาทิตย์หน้าหรือเปล่า?”“ประมาณนั้นนะ เอาล่ะ ห้องของคุณเอกสารอะไรเรียบร้อยหมดแล้ว เอ้านี่ กุญแจ”ฮาร์วี่พูดยิ้มๆแล้วยื่นให้อุษา ตรงกันข้ามกับแพทริคที่ยืนเป็นหัวหลักหัวตออยู่ รีบเอามือไปรับกุญแจแทน จนเธอหดมือ ท่าทางเก้ๆกังๆ“ฉันเป็นคนซื้อที่นี่ให้เธอ นายไม่จำเป็นต้องพยายามมีบท”แพทริคแทบจะแยกเขี้ยวใส่เขาอยู่แล้ว แต่ฮาร์วี่ก็ยังเหมือนไม่สนใจอะไร“อีกหน่อยก็มี เพราะว่าจะย้ายมาอยู่ห้องใกล้ๆนี่เหมือนกัน คิดไปคิดมา ผมก็ควรแยกออกมาเป็นส่วนตัวจากที่
อุษาโทรบอกแพทริคช่วงสาย เกี่ยวกับเรื่องราวตอนเช้า ที่นาตาเลียจะเข้าพักที่โรงแรมเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ก่อนคอนโดจะเสร็จ แล้วเธอกับนาตาเลียจะไปซื้อของด้วยกัน“คุณไม่ค่อยสบาย อยู่ที่ห้องพักผ่อนแล้วกัน ไม่ต้องไป โดนแดดก็จะไม่สบายอีก รถของนาตาเลียทางร้านเอามาส่งจอดอยู่ข้างล่าง แล้วไม่ต้องห่วง ฮาร์วี่ไม่ไปด้วย ฉันจะมาให้ทันมื้อเย็น โอเคนะ”ไม่ทันที่เขาจะตอบ เธอวางสายไปหน้าตาเฉย…แม่ของฮาร์วี่มาหาเขาที่บ้านหลังเล็ก แล้วเคาะประตู ฮาร์วี่เปิดให้ด้วยหน้าตาที่งัวเงีย“เอช นาตาเลียส่งข้อความมา ขอไปอยู่ที่โรงแรมของคุณสมิธที่เธอจะไปฝึกงาน แต่ทำไมกะทันหัน? เห็นบอกแม่ว่าจะไปเริ่มวันจันทร์ ลูกมีปัญหาอะไรกับเธอหรือเปล่า?”“เธอน่าจะมีปัญหากับตัวเธอเองมากกว่า เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ยังกับไบโพล่าร์ ผมขอนอนต่อนะ”“เอ้า” เจนน่าทำหน้า งง ส่วนฮาร์วี่ปิดประตู แล้วล้มตัวลงนอนเหมือนเดิมนาตาเลียและอุษาสนิทสนมกันมากขึ้น อุษาช่วยเธอเลือกชุด เอาใจใส่ว่าเธอจะหิวมั้ย ถ่ายรูปให้ ช่วยถือของ อุษามีท่าทางอากัปกิริยาเหมือนคนมีชาติตระกูลที่ดี ทำให้เธอประทับใจ แม้จะเป็นคนพูดน้อยแต่เป็นผู้รับฟังที่ดีมาก เวลาช่วยออกความเห็น จะได้คำ
แพทริคกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามอุษาที่เดินเร็ว เพื่อตามให้ทันก่อนถึงทางเข้าโรงแรม “อุษา เดี๋ยว..รอผมหน่อย คุณยังโกรธอีกเหรอ? เมินใส่กันแบบนี้ไม่ได้นะ”“คุณเดินช้าเป็นเต่าเอง”เขาเดินจนทันเธอแล้วไปยืนดักหน้าไว้“ผมเชื่อคุณ บอกว่าไม่เคยมีก็คือไม่มี แค่ไม่อยากให้ทำท่าทางห่างเหินแบบนี้”“นาตาเลียฝึกงานที่ไหน?”อุษาเปลี่ยนเรื่องไปเสียเฉยๆ“จะไปที่ Smith Grand เป็นผู้จัดการฝึกหัด เธอจะหาที่พักที่นี่ แล้วขับรถไปกลับเอา ผมเห็นด้วยเพราะว่าผู้หญิงคนเดียวอยู่ที่ดาวน์ทาวน์ไม่น่าจะปลอดภัย”เธอแค่พยักหน้ารับทราบ แล้วเดินตามแพทริคไปขึ้นรถทั้งสองไปถึงที่บาร์ก่อนที่ฮาร์วี่และนาตาเลียจะตามมาสมทบทีหลัง สาวๆคุยกันถูกคอมาก ผิดกับชายหนุ่มสองคนที่ต่างคนต่างจ้องจะแขวะกันตลอด อุษาและนาตาเลียแลกคอนแทคเพื่อไว้ติดต่อกัน“แพทริค..นาตาเลียต้องฝึกงานกับใคร? ไอด้าใช่มั้ย?”อุษาถาม เขาแค่พยักหน้ารับ นาตาเลียกอดแขนอุษา“วันพรุ่งนี้ไปว่ายน้ำกัน หลังจากไปดูรถมือสองสักคัน ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ”“ได้สิ แต่ฉันต้องไปคลินิคก่อนนะตอนเที่ยงเจอกันที่ล็อบบี้โรงแรม โอเคมั้ย”“ผมว่างจะไปส่งพวกคุณเอง”“ผมจะไปช่วยดูรถให้ด้วย พอมีความรู้อย
เอมิเลียมาเคลียร์งานให้แพทริค เมื่อเรียกไอด้ามาถามเรื่องงาน เธอแปลกใจที่แพทริคไม่มาที่นี่ “ฉันนึกว่าวันนี้คุณแพทริคจะมาเสียอีก”เอมิเลียยิ้มสีหน้าเยือกเย็น มองหน้าไอด้าด้วยสายตาที่คมกริบ..“คู่หมั้นป้ายแดงน่ะต้องเข้าใจ อีกอย่าง พึ่งกลับมาถึงก็ทำงานเลย พวกเขาอยู่ด้วยกันสักวันไม่น่าจะเป็นอะไร แล้วเจนเป็นไงบ้าง ทำงานได้มั้ย?”“ก็พอทำได้ไม่มีปัญหาอะไร คุณเอมิเลีย”ไอด้าขอตัวออกไป เธอวิตกกังวลว่า ป่านนี้พวกเขาน่าจะได้ดูกันแล้ว แต่ทำไมเงียบแบบนี้ แอลลี่ก็บอกว่าไม่มีอะไรคืบหน้า แผนสองที่เตรียมไว้คงต้องลองเสี่ยงอีกครั้งฮาร์วี่ที่นั่งทำงานเงียบๆอยู่กับสุนัขทั้งสอง นาตาเลียขอเข้ามาคุยด้วย“ได้สิ มีอะไรล่ะ? แล้วคุณไม่ไปกับแม่ผม ไหนว่ามาหัดทำงาน สนใจอสังหาไม่ใช่เหรอ?”“ก็..ฉันชอบอยู่กับสุนัขมากกว่า แล้วก็เมื่อเช้าที่คุณเล่าทั้งหมด สรุปว่าคุณจะรออุษางั้นสิ? ทำไมถึงคิดว่าเธอจะถอนหมั้น แพทริคบอกเมื่อเช้าว่าเธอจะไม่เลิกกับเขา”“ทำไม? คุณอยากช่วยผมหรือไง?”“ถ้าเธอเสียใจ แสดงว่าเธอรักเขานะ คุณจะแยกเธอกับเขาได้ยังไงกัน”ฮาร์วี่วางเอกสารลง เลิกคิ้วสองข้างมองหน้าเธอแล้วยิ้มมุมปาก เขามีเสน่ห์มากจริงๆสำหร
แพทริคหน้าแดงด้วยความโกรธ และรู้สึกอยากจะร้องไห้“ขอร้องล่ะ ผมไม่รู้ว่าทำผิดอะไรต่อคุณ เราคุยกันดีๆได้มั้ย? ที่รัก ผมทำงานไม่ได้ ถ้าวันนี้เราไม่เคลียร์กันก่อน”“แต่ฉันทำได้ คุณทำไม่ได้ก็ไปนอนพักผ่อน”อุษาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ หลับตาแล้วพยายามทำให้ใจเย็นลง“ในแฟลชไดร์ฟมีอะไร? ถึงโกรธผมขนาดนี้”อุษาลืมตาและถลึงตาใส่ จนเขากลัว แล้วลุกขึ้นเดินตรงมาหาแพทริคที่ยืนตัวแข็งอยู่กลางห้อง“ใครบอกคุณเรื่องแฟลชไดร์ฟ? คุณไม่ได้บอกใครอีกใช่มั้ย? มีใครรู้อีกบ้าง?”“เอมิเลียบอกว่านิโคล่าบอกเธอเรื่องนี้ เมื่อคืนเธอเป็นห่วงคุณมาก เลยมาเปิดห้องดูว่าเป็นอะไร เพราะคุณบอกไม่สบาย”“แล้วคุณบอกใครอีกมั้ย? ทำไมต้องให้ถามซ้ำ” เธอตวาดใส่แบบที่ทำเขาอึ้งไปเลย ก่อนเขาจะตอบเสียงอ่อย “ไม่ได้บอกใคร”อุษาได้ยินแบบนั้นก็ไปนั่งที่เดิม เธอพูดขึ้นมาโดยไม่มองหน้าเขา “คุณไม่เคยเชื่อใจฉันเพราะพฤติกรรมของตัวเอง เลยคิดว่าคนอื่นจะเป็นแบบเดียวกัน แล้วถ้าตอนนี้เราคิดเหมือนกันล่ะ ต่างคนต่างไม่เชื่อใจกันอีกแล้ว..”“ผมไม่เลิกกับคุณ เราจะไม่เลิกกัน คนรักกันมันมีหึงหวงได้ เราพึ่งหมั้น มีแพลนจะไปหาพ่อแม่คุณ พ่อแม่ผมรักคุณนะ บอกมาสิอะไรท
อุษาเดินกลับมาที่โรงแรมแล้วหยุดทักทายโซเฟียกับเอมี่ ก่อนจะขึ้นไปห้องทำงานที่ชั้นสอง แอลลี่ที่นั่งด้านในเคาน์เตอร์สำหรับรับจองห้องพัก ขอให้โซเฟียดูแลให้เธอสักครู่ เพราะต้องการไปห้องน้ำ “ไอด้า เท่าที่เห็นยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรนะ คิดว่าจะได้ผลมั้ย? ตอนนี้ยิ่งหมั้นแล้ว มันอาจไม่มีผลอะไรต่อเธอเลย”“ไม่เป็นไร ขอบคุณมากแอลลี่ รบกวนบอกความคืบหน้าทีนะ ถ้าฉันได้อย่างที่ตั้งใจจะไม่ลืมเธอแน่นอน”อุษาเสียบแฟลชไดร์ฟกับคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานของเธอ มีไฟล์คลิปประมาณ 12 คลิป แค่คลิปแรกเปิดไปได้เพียงสองสามนาทีเท่านั้น อุษาใจเต้นแรง มือไม้สั่น เธอพยายามตั้งสติแล้วโทรหาเอมิเลียว่าไม่ค่อยสบาย ขอลาป่วยช่วงบ่ายนี้เพื่อไปพักที่ห้องของเธอ และเหมือนบางคนจะรับรู้ มีสายโทรเข้ามา…“อุษา ได้ดูหรือยังว่ามันคืออะไร? ผมเกริ่นกับนักสืบเอกชนไว้แล้วตอนคุณกลับออกไป”เขาได้ยินเสียงเธอกระหืดกระหอบ มีเสียงเปิดแล้วปิดประตูอุษากลืนน้ำลายอย่างยากเย็นก่อนจะตอบ“มันแย่มากจริงๆ..สำหรับฉัน ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง คุณยังไม่ต้องติดต่อมา ฉันจะติดต่อคุณไปเอง”ฮาร์วี่วางสาย เขารู้สึกเป็นห่วงและวิตก จนกระทั่งแม่ของเขามาชวนออกไปทานอาหารเย็นท