อุษาจึงเดินตรงไปเลือกตักอาหาร 2-3 อย่าง และน้ำผลไม้ เธอเลือกนั่งใกล้กับผู้หญิงคนหนึ่ง มีผิวสีแทนเข้ม ผมสีดำขลับของเธอ ดูสีเข้มกว่าอุษาไปอีก
“ขอโทษนะ ฉันขอนั่งตรงนี้จะได้ไหม”
“ทำไมจะไม่ได้ คุณนั่งได้ทุกที่ ที่คุณอยากนั่ง โดยไม่ต้องขอ”
สาวผิวเข้มตอบ พลางกินต่อ อุษานั่งทานแบบเงียบๆ…โทรศัพท์ของอุษาก็สั่นขึ้นมา พ่อนั้นเอง…
“ฮัลโหล ป๊า หนูไม่กล้าโทรหาตอนนั้น เห็นมันดึกอยู่ ตอนนี้หนูอยู่ที่โรงแรม กำลังกินข้าวในห้องอาหาร คุยเสียงดังไม่ได้”
“ป๊าพึ่งเห็นข้อความที่ส่งมา เมื่อตอนตื่นนอนนี่เอง ใช้ไลน์โทรได้นี่ดีมากเลย ประหยัดเงิน ป๊าจะได้โทรหาได้บ่อย”
“ค่ะป๊า แล้วแม่ละ”
“แม่เค้าอาบน้ำอยู่ แต่ป๊าบอกละว่าจะโทรหาลูก สัญญาณลูกไม่ค่อยดีเลยนะ”
“ที่นี่ wi-fi อาจไม่ค่อยดีมั้งค่ะป๊า ส่งข้อความเอาก็ได้ถ้ามีอะไร รักป๊ากับแม่นะ บอกแม่ด้วย”
“โอเค ป๊ากับแม่ก็จะไปทำงานแล้วเหมือนกัน”
หลังวางสาย สาวผิวเข้ม ก็พูดกับอุษาว่า
“ห้องอาหารที่นี่ มีเวลากำหนดนะ รีบกินก่อนจะหมดเวลา”
“พอดีฉันพึ่งมาอเมริกาครั้งแรก รู้สึกสับสนนิดหน่อย เหมือนหิวแต่ก็กินได้น้อย”
สาวผิวเข้ม มองอุษาแล้วเริ่มแนะนำตัว
“ฉันชื่อ โรสมาเรีย เป็นคนเม็กซิกัน-อเมริกัน ยินดีที่รู้จัก ฉันทำงานสปาเป็นพนักงานนวด เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อ ฉันเลิกงาน2ทุ่ม แล้วเธอล่ะ”
“ฉันชื่อ อุษา เป็นคนไทย อีก1วัน ฉันจะเริ่มทำงานเป็น FOM ยินดีที่รู้จักเช่นกัน”
โรสมาเรีย เลิกคิ้วและพยักหน้าหงึกๆ
“อ่อ ตำแหน่งนี้เปลี่ยนคนบ่อยมากเชียวแหละ ฉันหวังว่าเธอจะอดทนนะ เธอมาจากที่ไหนนะ..โอ้ว สาวไทยแลนด์เดีย.. ฉันรู้จักประเทศนี้เพราะอาหารเลย แต่ยังไม่มีโอกาสไปเที่ยว”
เธอยิ้มเห็นฟันที่เรียงสวยสีขาว ยังไม่ทันที่อุษาจะพูดอะไรต่อ
“ไว้เจอกัน อ้อ..ที่นี่เราไม่เรียกอเมริกา เราเรียก เดอะ สเตท หรือ เดอะ ยูเอส เดี๋ยวเธอก็ชิน”
พูดจบโรสมาเรียเก็บจานและเดินออกไป
คนที่นี่คิดไว ทำไว ไปไว อุษาคิดติดตลกว่า หรือเธอเองที่ ตะตอนยอน แบบฉบับสาวเชียงใหม่
อุษาเปิดแผนที่ดูพิกัดร้านค้ากับธนาคารและบันทึกไว้ สำหรับไปธุระปะปังในวันพรุ่งนี้ จากนั้นออกจากห้องอาหารและไปเดินเล่นที่ชายหาด…
ลมปะทะร่างกายของอุษา..อบอุ่น ไม่ร้อนไม่เย็นมากไป ผู้คนไม่พลุกพล่าน แต่เธอสังเกตว่าละแวกนี้ มีรถหรูขับผ่านไปหลายคัน ผู้คนแต่งตัวดี ดูสะอาดตา เวลายามเย็นเหมาะแก่การเดินเล่นและดูร้านรวงต่างๆตลอดเวลาที่อยู่กรุงเทพ เธอทุ่มเทให้กับงาน ไม่เที่ยว ไม่สังสรรค์เพราะอยากเก็บเงินเพื่อเปิดร้านตามความฝัน จนไม่มีโอกาสได้ไปไหน แต่ที่นี่ เธอหวังว่าจะสามารถทำงานและเหมือนได้พักผ่อนไปด้วย
อุษาทรุดตัวนั่งริมชายหาด จนกระทั่งนึกได้ว่า เจนนภัสไลน์หาเธอแต่เธอยังไม่ได้อ่าน เธอจึงส่งข้อความตอบกลับไป
“เจน พอดีฉันยุ่งสุดๆอ่ะ โทษที แล้วก็มีเรื่องจะบอกด้วย”
ไม่ถึงห้านาที เจนนภัสก็ตอบกลับมา
“งอลแล้ว เอะอะยุ่ง ทำธุระอะไรกันอ่ะ ที่ทำงานเธอเป็นง่อยเหรอ อูฐ”
“บ้า ฉันหางานทำที่อเมริกาเลยยุ่ง”
“ห๊ะะะ ได้งานละยัง ถ้ายังมาทำที่ร้านฉันสิ ตอนนี้ฉันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการละนะ เธอมาเสิร์ฟที่นี่ก็ได้ ฉันเสนอราฟาเอลให้ทำ work permit ให้ได้นะ อูฐ”
อุษายิ้มๆก่อนจะพิมพ์ตอบ คิดว่าเจนนภัสคงช็อกแน่ๆ
“จะว่าไป ฉันเองก็อยู่ไม่ไกลเธอเท่าไหร่นะ ตอนนี้”
ทันใดนั้น เจนนภัสก็วีดีโอคอลหาอุษาทันที!
“อูฐ อยู่ไหน? บอกมาเดี๋ยวนี้เลย มายังไง มากับใคร งง หมดละ งานล่ะ? ไม่ทำละเหรอ? ที่นั่นที่ไหน? แพลนกล้องให้ดูทีซิ”
อุษาแพลนกล้องไปที่ชายหาดทะเลสีสวยงามโดยรอบแบบพาโนราม่า
“ฉันว่า เธอรู้นะว่านี่อยู่ตรงไหน เจน”
เจนนภัสตอบเสียงสูงทันที
“The Wedding Bowl !!! คนชอบไปจัดงานแต่งงานกันที่ชายหาดนี้”
“ตกลงไหนเล่ามา มายังไง? อะไรยังไง?”
อุษาจึงเล่าให้ฟัง แต่สิ่งที่เธอเคยคิดว่า เจนนภัสจะเซอร์ไพรส์หรือตื่นเต้นดีใจ กลายเป็นการฟังโดยไม่มีคำถามอะไร เมื่ออุษาบอกเล่าจบและเห็นเพื่อนเงียบไป
“เจน ฟังอยู่ใช่มั้ย”
ด้านฝั่งของเจนนภัส เธอกลับรู้สึกผิดคาดที่อุษามาไกลได้ถึงที่นี่ โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำจากเธอเลยแม้แต่น้อย ทั้งตำแหน่งงานที่อุษาได้รับ ทำงานใกล้ละแวกบ้านคนรวย แถมเจ้าของยังซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายทุกอย่างตั้งแต่มาทำงานจนครบสัญญาทำงาน
ในขณะที่ตัวเธอเอง ต้องดิ้นรนทุกอย่างรวมถึงกู้หนี้ยืมสิน เพื่อพาตัวเองมาถึงที่นี่และเพราะเธอเรียนจบบริหารธุรกิจการตลาด ทำให้หางานที่อเมริกายาก ภาษาอังกฤษของเธอเมื่อ 2 ปีก่อน ก็งูๆปลาๆ ได้มาทำงานที่นี่ก็เพราะอยู่ในกลุ่มโซเชี่ยล เฝ้ารอดูโพสที่มีคนรับสมัครทำงานในอเมริกา จนไปเจอคนไทยในนั้นลงรับสมัครเสิร์ฟที่ร้านของราฟาเอล..
“ดีใจกับเธอด้วย ที่ได้งานที่ตั้งใจ ไว้เราค่อยนัดเจอกัน ฉันจะไปทำงานต่อก่อน ลูกค้าเริ่มเยอะละ”
น้ำเสียงเจนนภัสราบเรียบและตัดบท
“โอเค ไว้ว่างค่อยนัดเจอกัน”
อุษาตอบก่อนกดวางสาย รู้สึกได้ว่า เจนนภัสไม่พอใจ อาจจะเพราะช่วงก่อนมาอเมริกา ร่วมเดือนที่เธอยุ่งจนไม่ค่อยสนใจตอบข้อความหรือโทรกลับ อีกอย่างอาจเป็นได้ว่า น้อยใจที่เธอไม่บอกอะไรเลยว่าจะมา
ช่างเถอะ ไม่อยากหาเหตุผล เราเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย..
อุษาลุกขึ้นจากชายหาด จะเดินกลับไปที่โรงแรม ตอนนี้ก็ทุ่มนึงแล้ว ตั้งแต่มาถึงโรงแรมตอนเที่ยง เธอยังไม่ได้จัดของอะไร มาถึงก็นอน ตื่นมาก็กินมื้อเย็นเลย
เดินออกจากชายหาดจะข้ามถนนไปยังโรงแรม เธอเห็นรถหรูสปอร์ตสีเขียวสะท้อนแสงขับมาอย่างเร็ว จึงยืนรอให้ไปก่อน แต่คนขับกลับชะลอรถก่อนจะถึงจุดที่เธอยืนรอ อุษา งง...สรุปจะมีน้ำใจให้เธอข้ามก่อนใช่มั้ย?
อุษาจึงก้าวขาลงถนนเพื่อจะข้าม ปรากฏว่า คนขับกลับเร่งรถผ่านหน้าเธอแล้วเลี้ยวเข้าโรงแรมไปซะงั้น..
“พอเห็นคนจะข้ามรีบเร่งรถ พอยืนรอให้ไปก่อนดันขับช้า อะไรเนี่ย หัวจะปวด”
อุษาเดินเข้าโรงแรม แต่จะลัดไปด้านข้างเพื่อไปตึกห้องพัก เธอเห็นรถสปอร์ตสีเขียวคันที่ตัดหน้าเมื่อกี้ จอดรถด้านข้างใกล้ทางเข้าล็อบบี้ ซึ่งเป็นที่จอดสำหรับบุคลากรตำแหน่งสูงของโรงแรมหรือเจ้าของเท่านั้น ประตูแบบปีกนกถูกเปิด ชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว ผมบรอนด์ทอง ลงจากรถ
เธอเดินต่อไปแต่ก็มองเขาและคิดว่า ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นใครสักคนที่ตำแหน่งสูงหรือคนสำคัญของที่นี่แน่นอน ดูจากรถที่ขับและที่จอดรถ.. จำได้ที่เอมิเลียพูดว่า ที่นี่มี GM เป็นลูกชายของมิสซิส สมิธ อ่อ..เดาว่า คุณ แพทริค สินะ
พอเธอคิดชื่อเขาเท่านั้น เขาซึ่งกำลังจะเข้าล็อบบี้อีกไม่กี่ก้าว และอุษาที่เดินกำลังจะพ้นสายตาเขา ก็มองกันพอดี อุษารีบหันหน้าหนีและรีบเดินอย่างไวจนลับสายตาเขาไปก่อน
บ้าจริง ยังกับอ่านใจคนออกงั้นล่ะ…
เดินมาถึงห้องพัก จัดของต่างๆ ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย เพราะอุษานำของมาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ช่วงที่จัดของ ในสมองของอุษาก็คิดเรื่องต่างๆไปด้วย เธอติดใจคำพูดของคนขับแท็กซี่และโรสมาเรีย แต่สมองของเธอกลับเตือนสติเธอว่า ที่ไหนในโลกก็มีปัญหาเหมือนๆกันทั้งนั้น
ช่างเถอะ..ไม่ใช่ธุระอะไรของเราที่คนจะเข้าจะออก ทำงานของเราให้ดีที่สุดก็พอ
ตอนนี้ที่ไทยประมาณ 11.00 น. เธอเลยส่งข้อความไปให้พ่อ ว่าเธอต้องนอนพักผ่อนแล้ว พร้อมกับส่งข้อความทิ้งไว้ให้เจนนภัส ว่าพรุ่งนี้เธอจะไปข้างนอกเพื่อซื้อของและไปธนาคาร ถ้าว่างอยากนัดเจอกันก็ได้
9.00 น. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
เช้านี้มีแค่ข้อความของพ่อที่ฝากไว้ตอนเธอหลับ ส่วนเจนนภัสอ่านข้อความแต่กลับเงียบ เธอยักไหล่… เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอดูที่พี๊พโพลหรือตาแมวประตูที่คนไทยเรียกกัน เห็นเป็นพนักงานหญิงคนหนึ่ง จึงเปิดประตู
“อรุณสวัสดิ์ คุณยูซ่า ฉันได้รับมอบหมายให้นำยูนิฟอร์มมาให้คุณ ชุดถูกจัดตามไซส์ที่คุณระบุมา จะมีชุดเดรส 3 ชุด เสื้อโปโล 2 ตัว กางเกงสแล็ค 2 ตัว ถ้าวันทำงานตรงกับเสาร์อาทิตย์ ใส่ชุดอะไรก็ได้ที่สุภาพ สีไม่ฉูดฉาด คุณยูซ่า ลองดูว่าไซส์ถูกต้องไหม”
อุษานำชุดทั้งหมดมาวางที่เตียง ก่อนจะแจ้งว่า
“ขอบคุณมาก ฉันคงรบกวนคุณแค่นี้ ถ้ามีอะไรที่ต้องขอความช่วยเหลือ ฉันจะแจ้งเอมิเลียเอง”
อุษายกมือไหว้ขอบคุณที่นำชุดมาส่งให้ พนักงานหญิงแปลกใจ แต่ก็ยิ้มให้ ท่าทางคนมาทำงานใหม่คนนี้ ก็มีความอ่อนน้อมดีเหมือนกัน..
เธอปิดประตู แล้วเริ่มลองชุด ซึ่งพอดีไม่มีปัญหา มีป้ายชื่อและตำแหน่ง ติดไว้ให้ที่บริเวณอกของชุดจั้มสูท เธอจับแล้วมองดู
พรุ่งนี้แล้วสินะ….
อุษารีบอาบน้ำแต่งตัว เธอตรงไปที่ La Plaza La Jolla เพื่อซื้อซิมโทรศัพท์ ชุดเดรสเน้นสีที่สุภาพ 3-4ชุด และไปทานอาหารเช้าที่ร้านกาแฟใกล้ศูนย์การค้า จากนั้นไปเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งทั้งสามแห่ง อยู่ห่างจากที่พักและที่ทำงานของเธอ เดินไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้น
อยู่ๆข้อความของเจนนภัสก็เด้งขึ้นมา
“ฉันเริ่มงานตอนสิบเอ็ดโมง ถ้าเธออยากเข้ามากินมื้อเที่ยง ฉันเลี้ยงเอง มาที่ร้านชื่อ Rafael Bistro นะ”
“ได้ แล้วจะไปหานะเจน ตอนนี้แวะซื้อของที่ร้านเครื่องสำอางนิดหน่อย”
อุษาส่งข้อความตอบกลับไป แล้วเลือกซื้อของต่อ ไม่มีอะไรต้องรีบ
ที่ชั้นสองของโรงแรม La Jolla Sea View ห้องทำงานกว้างขวาง หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา แพทริค นั่งดูกองเอกสารกองใหญ่ที่เอมิเลียรอเขาตรวจสอบและต้องเซ็น
เขาถอนหายใจเบาๆกับเอกสารที่กองตรงหน้า เพราะมัวไปดูแลโรงแรมอีกสาขาหนึ่งอยู่หลายวัน
อยู่ๆ…เขานึกถึงผู้หญิงเอเชียคนหนึ่ง ที่เดินออกไปจากโรงแรมไปตอนสาย เขาเห็นเธอช่วงตอนอยู่ล็อบบี้โรงแรม เขาจำเธอได้ เห็นครั้งแรกเมื่อวานที่เธอรอจะข้ามถนน แล้วสบตาเธอแว็บหนึ่ง ก่อนที่เธอจะเดินหายไปด้านข้างทางไปสระว่ายน้ำ เธอมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เขาหยุดมองเธอได้.. ผิวขาว ตาโต หน้าเรียวเล็ก ผอมเพรียวแต่ดูกระฉับกระเฉง แถมเชิดใส่เขาอีกด้วย ถ้ามีโอกาสเขาคงได้พบเธออีก แพทริคคิดว่าอุษาคือลูกค้าโรงแรมนั่นเอง
เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น…
“ฮัลโหล”
“คุณแพทริค เอกสารของพนักงานใหม่มี 5 ตำแหน่ง กับเอกสารตั้งเบิกจ่ายค่าใช้จ่าย พอดีคุณแม่ของคุณถามฉันว่า คุณตรวจและเซ็นอนุมัติเสร็จหรือยัง ท่านจะได้ให้ฉันนำค่าใช้จ่ายไปให้ท่านเซ็นเช็ค”
“โอเค เอมิเลีย เดี๋ยวผมดูเสร็จและเซ็นอนุมัติแล้ว จะบอกนะ”
แพทริคตรวจดูเอกสารค่าใช้จ่ายจนเสร็จ ตามด้วยเอกสารของพนักงานใหม่ 5 คน หนึ่งในห้าคน ทำให้เขายิ้มออกมา… อุษา ชื่อน่ารักเสียด้วย ไม่ต้องไปตามหาที่ไหนก็คงได้เจอ เขายิ้มกรุ้มกริ่ม
อุษาซื้อของเสร็จ โบกแท็กซี่ไปร้านที่เจนนภัสทำงานอยู่ ร้านนี้อยู่บนถนน Soledad mountain ใกล้สถานที่สำคัญของซานดิเอโก้อย่าง Mount Soledad Memorial Park เมื่อเธอเดินเข้าไป ก็เห็นเจนนภัสกำลังพูดคุยกับลูกค้าที่โต๊ะนึงอยู่ เธอจึงเลือกโต๊ะหนึ่งแล้วนั่ง บริกรคนหนึ่งเข้ามาพร้อมเมนู เธอเลือกสั่งทาโก้ปลา และ ฮัมมิ่งเบิร์ด มาการิต้า
เจนนภัสหันมาเห็นอุษา จีงตรงเข้ามาหาทันทีทักด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ทั้งที่วันก่อนยังเหมือนอารมณ์ไม่ดี
“เป็นไงบ้างอูฐ ปรับตัวพอได้มั้ย ไม่เจอกันสองปี ผอมลงอีกป่ะเนี่ยะ”
“ผอมเหรอ ไม่น่านะ น้ำหนักก็เท่าเดิม” อุษาก้มดูตัวเอง
“มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง เริ่มงานวันไหน”
“พรุ่งนี้ละ เดี๋ยวช่วงบ่าย ฉันต้องเตรียมตัวแล้ว”
“แหม ไฟแรงเนอะ” เจนนภัสแซว
สักพัก มีชายคนหนึ่งเดินมาโอบไหล่เจนนภัส อุษาเห็นเจนนภัสพยายามปัดมือเขาออกจากไหล่ ขยับตัวออกห่างเล็กน้อย ภาษากายนั้นชัดเจน แต่อุษาทำเป็นว่าไม่สนใจ ส่วนราฟาเอลยิ้มแฉ่ง
“นี่เจ้าของร้าน ชื่อ ราฟาเอล นะ เอ่อ.. ราฟ นี่เพื่อนฉันเอง ชื่อ อุษา”
เจนนภัสแนะนำให้อุษารู้จัก อุษาและราฟาเอลจับมือทักทายกัน
“คุณทำงานที่ไหน อุษา”
“โรงแรม ลา ฮอยย่า ซี วิว ฉันเริ่มงานพรุ่งนี้ ไว้จะมาฝากท้องที่นี่บ่อยๆ”
อุษายิ้มให้แบบเป็นมิตร จากนั้นเจนนภัสก็นั่งคุยเป็นเพื่อน จนกินเสร็จ อุษาก็บอกลาและเรียกแท็กซี่กลับโรงแรม
รถหรูสปอร์ตสีเขียวยังจอดอยู่ อุษาตรงไปที่ล็อบบี้ พร้อมกับขอให้ติดต่อเอมิเลีย สักครู่พนักงานจึงแจ้งให้เธอขึ้นไปชั้นสอง หลังออกจากลิฟท์จะเจอเป็นห้องแรก มีป้ายชื่อและตำแหน่งแจ้งที่หน้าประตู เมื่อไปถึงหน้าห้องทำงานของเอมิเลีย เธอสังเกตว่า ห้องตรงกันข้าม มีชื่อและตำแหน่งของลูกชายเจ้าของโรงแรมอยู่ เธอเคาะประตูห้อง เสียงเอมิเลียบอกให้เธอเข้ามาได้
อุษานำหลักฐานการเปิดบัญชีให้เอมิเลีย เพื่อจะสามารถใช้รับเงินเดือนและให้เบอร์โทรศัพท์ที่พึ่งเปิดใหม่ให้เพื่อใช้ติดต่อกันได้ จากนั้นเอมิเลียเริ่มต้นบอกฏกระเบียบ
“เธอมี W******p ไหมอุษา? เปิดแอพนี้ใช้ที่นี่นะ เพราะทุกคนที่นี่นิยมใช้กัน นี่เบอร์ฉันนะ ทักมาละกัน”
“เธอเลือกวันหยุดได้หนึ่งวันต่อสัปดาห์ โดยต้องเลือกเป็นวันธรรมดาเท่านั้น แต่ถ้าต้องการวันหยุดตรงกับเสาร์หรืออาทิตย์ด้วยเรื่องเร่งด่วน ต้องแจ้งฉันล่วงหน้าเท่านั้น ถ้าลาป่วยมีเอกสารรับรอง จะไม่ถูกหักค่าแรง แต่เธอไม่ต้องห่วงเพราะทางเราซื้อประกันสุขภาพให้เธอไว้แล้วหนึ่งปี”
“วันหยุดราชการเราจะไม่ได้หยุด แต่จะสามารถเก็บไว้ใช้เพื่อลาพักร้อนได้ แต่ก็ต้องดูว่าใช้ได้ช่วงไหนและต้องแจ้งล่วงหน้าเช่นกัน”
“เงินเดือนสำหรับเธอ คงรู้ตั้งแต่เมลไปแล้ว เธอพึ่งเข้าทำงาน จะเริ่มที่ 3,600 ดอลลาร์/เดือน ยอดที่โอนให้จะเป็นยอดที่หักภาษี ณ ที่จ่ายแล้วนะ ครบสามเดือนจะพิจารณาการขึ้นให้”
เอมิเลีย หยุดพูด จับไหล่อุษาทั้งสองข้าง
“งานนี้ปัญหามีทุกวัน การเจอคนเยอะๆมันจะมาพร้อมกับปัญหาที่เยอะตาม แถมเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องได้รับการแก้ไขแบบเร่งด่วน ทำตัวให้จุดเดือดต่ำเข้าไว้ ใจเย็นและอดทน งานนี้จะทดสอบว่าเธอมี EQ แค่ไหน ฉันหวังให้เธออยู่กับเราจนครบสัญญานะ อุษา”
อุษาพยักหน้าแล้วกล่าวว่า
“ขอบคุณ ที่แนะนำมาทั้งหมด คุณมีน้ำใจกับฉันมาก”
“อ้อ.. เธอมีห้องทำงานส่วนตัวนะ อยู่ชั้นนี้แต่อยู่อีกด้านของฝั่งนี้ มีป้ายชื่อเธอและตำแหน่งอยู่ ในห้องอาจจะมีของคนเก่าที่ลาออกไปแล้วบ้าง อันไหนไม่ใช้ก็ทิ้งได้นะ”
อุษายิ้มรับ ยกมือไหว้ขอบคุณแล้วขอตัวกลับห้องพัก
เธอเดินไปที่ลิฟท์กำลังจะแตะเพื่อเปิดประตู ก็มีมือใครบางคนมากดปุ่มก่อนเธอจากข้างหล้ง ทำเอาอุษาหดมือ ตกใจขยับตัวหนี
“อุ๊ย”
พอเธอหันไปมอง ก็ตกใจมาก เขาคือคนที่เธอสบตาเมื่อวานตอนกลับจากเดินที่ชายหาด เจ้าของรถสีเขียวประหลาดคันนั้น เขาสูงมากจนอุษาต้องแหงนมองคอแทบหัก
“เชิญคุณก่อน”
เขาผายมือให้อุษาเข้าไปก่อน เธอกล่าวขอบคุณโดยไม่มองหน้า พร้อมกับเดินเข้าไปแบบตัวลีบๆ ก้มหน้ามองพื้น พอประตูปิด เขาพูดขึ้นมาทันที
“ผมเห็นเอกสารของคุณ เหมาะสมแล้วที่มาทำงานที่นี่ มิสยูเอสเอ”
เขาพูดยิ้มๆ หน้าตาดูเป็นคนเจ้าชู้ แต่อุษายิ้มเจื่อนๆ
ขำตายล่ะ มุกฝืดๆ อุษาคิดในใจ พอดีกับที่ลิฟท์เปิดที่ชั้นหนึ่ง อุษารีบเดินออกไปแต่เขาเรียกเธอไว้..
“ยูเอสเอ คุณไม่อยากถามผมเหรอว่า ชื่ออะไร แบบว่า.. แนะนำตัวกันแบบคนที่เจริญแล้วเค้าทำกัน ผิดวิสัยคนที่จะทำงานบริการมากนะ”
อุษาดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว…
ตายล่ะ..ลืมว่าเขาคือลูกชายเจ้าของควบตำแหน่ง GM ซึ่งก็คือเจ้านายเธอโดยตรง อุษารีบหันกลับมาอย่างไว กิริยาสำรวม พูดด้วยความจริงจัง
“ฉันต้องขอโทษจริงๆ ฉันพึ่งคุยกับเอมิเลียเรื่องกฏการทำงาน ในหัวสมองฉันคิดอะไรยุ่งเหยิงนิดหน่อย ทำให้ฉันเสียมารยาทกับคุณ”
อุษายกมือไหว้ขอโทษเขา เธอทำหน้าจริงจังแต่ก็ดูสำนึกผิด
“ที่นี่ไม่มีคนเอเชียในตำแหน่งระดับผู้จัดการมาก่อน ในประวัติการทำงานที่คุณส่งมา คุณเองก็ไม่เคยทำงานที่ต่างประเทศ ผมเข้าใจ เราคงต้องปรับตัวกันทั้งคู่ ผม..แพทริค สมิธ ยินดีที่รู้จัก”
น้ำเสียงเขานุ่ม ทุ้ม สำเนียงดูไพเราะกว่าทุกคนที่เธอได้ยินมาตั้งแต่มาที่นี่
“ฉัน ชื่อ อุษา..แต่คุณเรียกผิดว่า ยูเอสเอ ที่นี่คนเรียกชื่อฉันไม่ค่อยถูก”
อุษาพูดโดยไม่สบตาเขา
“ผมอยากเรียกแบบนี้ ตอนนี้โรงแรมของผมมี มิสอเมริกา”
เขาหัวเราะนิดๆ และคิดว่าสำเนียงเธอช่างน่ารัก เขาไม่เคยได้ยินสำเนียงแบบนี้มาก่อน ภาษาอังกฤษของเธอถึงยังไม่เก่งมากแต่สื่อสารได้ไม่แย่ ถือว่าไม่เลวทีเดียว
ระหว่างนั้น พนักงานที่ผ่านไปผ่านมา ล้วนมองที่ทั้งคู่เป็นตาเดียว หลายคนทักทายแพทริค จนกระทั่งโทรศัพท์ของแพทริคข้อความเข้า เธอเห็นแบบนั้นจึงถือโอกาสขอตัวออกมาเพื่อกลับห้อง
อุษาอยู่ห้องจนถึงเวลามื้อเย็น เธอส่งข้อความทิ้งไว้ให้พ่อกับแม่แล้ว จึงไปห้องอาหาร พูดคุยทักทายกับคนทำอาหาร แล้วจึงนำอาหารมานั่งที่โต๊ะ รอบนี้มีคนมาถามขอนั่งด้วย โรสมาเรีย นั่นเอง
“ไง อุษา พรุ่งนี้เริ่มงาน กังวลมั้ย ไม่ต้องซีเรียสไปก่อนนะ รีแลกซ์ๆ”
“ใช่ ฉันพร้อม ไม่มีงานอะไรที่ไม่เหนื่อย ที่ๆฉันจากมาก็เหนื่อยเหมือนกัน”
ทั้งคู่คุยกัน เริ่มคุยถูกคอและแลกเบอร์กัน อุษาดูผ่อนคลายมากขึ้น จนกระทั่ง เอมิเลียถืออาหารเข้ามานั่งร่วมด้วย
“ขอนั่งด้วยนะ”
โรสมาเรียจากที่พูดๆสนุกสนานก็เงียบ ท่าทางอึดอัดเล็กน้อย อุษามองจากหางตา เธอจึงเงียบไปด้วย แล้วยิ้มเล็กๆให้เอมิเลีย สายตาเอมิเลียดูซีเรียส หรืออุษาคิดไปเอง
“ฉันได้ยินพนักงานที่ฟร้อนท์พูดกัน เธอคงเจอกับคุณแพทริคแล้วใช่มั้ย”
“ใช่ ฉันเจอเขาหลังจากออกจากห้องคุณ บังเอิญเขามาลงลิฟท์พร้อมกับฉัน เลยแนะนำตัวกัน เขาค่อนข้างไม่ถือตัว”
เอมิเลียมองหน้าอุษาก่อนจะพยักหน้า ยิ้มมุมปาก
“คุณแพทริคเฟรนด์ลี่แบบนี้แหละ แต่อยากให้เธอโฟกัสกับงาน เพราะคุณแพทริค เรื่องงานเขาจริงจังและเข้มงวดมาก ฉันไว้ใจว่า เธออยากมาทำงานจริงๆ อย่าลืมสิ่งที่ตั้งใจไปกับสิ่งที่ยั่วยุแล้วกัน”
โรสมาเรียลุกขึ้นเก็บจานและแก้วน้ำ แล้วบอกทั้งสองคนว่า ขอตัวไปทำงานก่อน ส่วนอุษา เธอกินเสร็จแล้วเช่นกัน จึงพูดกับเอมิเลียเบาๆแต่หนักแน่น ก่อนจะออกไปจากห้องอาหาร
“ฉันตั้งใจมาทำงานจริงและฉันรู้ว่าใครคือเจ้านาย ใครคือลูกน้อง คุณไว้ใจได้ ฉันจะอยู่ครบตามสัญญางานแน่นอน ฉันขอตัวก่อนนะ”
อุษารีบเดินตามโรสมาเรียจนทัน ก่อนที่เธอจะเลี้ยวไปทางห้องสปา
“โรส โรส ขอคุยด้วยแป๊ปนึงได้ไหม”
“เป็นอะไร อยู่ๆก็ออกมา ทำคิ้วขมวดเชียว เธอมีอะไรกับเอมิเลียหรือเปล่า”
โรสมาเรีย จับแขนเธอไปคุยที่มุมหนึ่งลับตาคนที่ผ่านไปมา
“ฉันแค่อึดอัดกับท่าทางและคำพูดแบบนี้ของเอมิเลีย ช่างไม่ไว้หน้าเธอ เธอพึ่งมาได้แค่สองวัน ยังไม่ได้เริ่มงานเลยนะ”
อุษายิ้มให้พร้อมจับมือของโรสมาเรีย
“ฉันก็มีศักดิ์ศรีของฉัน ถึงฉันจะมาจากประเทศเล็กๆ ไม่ว่าคนจากประเทศฉันบางคนจะมีชื่อเสียงในทางไม่ดีที่ไหนยังไง แต่ฉันเชื่อ ทุกที่มีทั้งคนดีและไม่ดีแหละ ไม่ใช่จะแย่ทุกคน ฉันมาทำงานไม่ได้มาจับผู้ชายรวย ผู้ชายรวยๆที่ประเทศฉันก็มีเยอะแยะ ไม่ต้องถ่อมาถึงที่นี่หรอก ฉันไม่สนใจคนที่อคติกับฉันโดยไม่รู้จักฉันดีพอ ขอบคุณนะ ที่เธอแคร์ความรู้สึกฉัน”
โรสมาเรียบีบมือเธอ
“ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่มั้ย”
“แน่นอน มีอะไรทัก w******p นะโรส”
โรสมาเรียกลับไปที่ห้องสปาของโรงแรมเพื่อทำงานต่อ เธอคิดว่าสาวไทยคนนี้ไม่ใช่คนโง่เลย ถึงหน้าตาจะดูนิ่งจนดูเหมือนหยิ่ง แต่พอคุยด้วยจริงๆเป็นคนมีเสน่ห์ เธอรู้สึกได้ว่าอุษาก็มีอีโก้ของตัวเธอเองเหมือนกัน และเธอคงเอาตัวรอดที่นี่ได้ไม่ยาก
เจนนภัสโทรเข้ามาว่าจะมาเที่ยวหาเธอหลังเลิกงาน ระหว่างรอเพื่อนอุษาใช้เวลาว่างคุยกับพ่อแม่ ดูข่าวคราวทางประเทศไทย ฝึกคำศัพท์และสำเนียงบางคำที่ต้องใช้ในเวลางาน
เมื่อเจนนภัสมาถึงหน้าโรงแรม ส่งข้อความให้อุษาออกมาหาเธอ เพราะไม่กล้าเข้าไป อุษาจึงออกไปพาเจนนภัสมาที่ห้องพักของเธอ
“ดีจัง ที่ทำงานมีห้องพักให้ด้วย แถมห้องกว้างด้วยอ่ะ บรรยากาศก็ดีเว่อร์ โรงแรมก็สวย”
“เธอไม่เคยมาแถวนี้เหรอ?”
อุษาถามพร้อมกับยื่นน้ำผลไม้ให้เจนนภัส
“ไม่อ่ะ ทำงานละก็กลับห้อง ไปเที่ยวกับพนักงานบ้าง ราฟาเอลพาไปเที่ยวบ้าง แต่ไม่เคยมาแถว ลา ฮอยย่า นี่มันย่านคนรวย”
เจนนภัสพูดพร้อมเบะปาก
“แล้วไง ย่านคนรวย คนปกติมาไม่ได้หรือไง คนทำงานเยอะแยะไป คิดมากไปหรือเปล่า เจนเอ้ย”
อุษาส่ายหน้า พร้อมกับเลิกคิ้วข้างหนึ่ง
“ก็คนที่ร้านพูดกันว่า เวลามาแถวนี้ รู้สึกเหมือนตัวเล็กลงเรื่อยๆหรือแทบไม่มีตัวตน ยิ่งเป็นคนต่างด้าว ต่างชาติ มาทำงานที่นี่ หลายคนก็มักมองเหยียดๆหรือพูดเหยียดๆ ฉันเลยเลี่ยงดีกว่า”
เจนนภัสเบะปากอีกรอบ
ตอนคุยกันทุกวัน ก่อนอุษามาอเมริกา เหมือนเจนนภัสเป็นคนมั่นใจในตัวเองมาก พอมาเจอวันนี้ กลับเจอแต่เจนนภัสคนหงอซะงั้น อุษาแอบขำเพื่อนในใจ
นี่สินะ โรสมาเรียถึงโกรธแทนเธอเพราะเอมิเลียเป็นคนขาวและเป็นอเมริกัน ถึงแม้เอมิเลียจะดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่วันนี้เธอรู้สึกได้ถึงการพูดกดให้รู้สถานะตัวเอง แต่อุษาไม่ได้มายด์มาก
เจนนภัสมาหาอุษาประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็เรียก Uber ให้มารับกลับ เธอคิดถึงเรื่องของอุษา ไม่เจอกันสองปี อุษาดูสวยขึ้น ผิวพรรณขาวผ่อง มือเรียวสวย บ่งบอกถึงไม่ได้ทำงานหนัก อาจเพราะอุษาทำงานสบายในออฟฟิศมาตลอด ไม่ได้ออกแดด อุษามีของใช้ส่วนตัวยี่ห้อดีๆ น้ำหอมแบรนด์แพงบนโต๊ะเครื่องแป้ง โทรศัพท์รุ่นใหม่ โน้ตบุ๊คราคาแพง
ก็นะ..ตอนอยู่กรุงเทพคงประหยัด มาเมืองนอกทั้งที คงกลัวคนที่นี่ดูถูก พร้อมกับมองโทรศัพท์ของเธอเองที่รุ่นเก่ากว่า แล้วก็คิดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเธอเองว่า
“ก็มัวประหยัด เลยไม่มีสังคมแบบนั้นแหละ”
ทางด้านอุษา เอมิเลียส่งข้อความมาให้อุษาสไกป์กับเธอ เพื่อจะได้วีดีโอคอลกัน เตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้…วันแรกของการทำงาน
อุษาเลือกวันหยุดให้ตัวเองทุกวันศุกร์ ทำงานจันทร์ถึงพุธ 15.00-23.00 น. พฤหัสบดีและเสาร์-อาทิตย์ 7.00-16.00 น. แต่ถ้างานมีปัญหา ต้องพร้อมแก้ปัญหา สามารถทำงานนอกเวลาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช้าวันเสาร์กับงานวันแรก อุษามาทำงานก่อนเวลา เพื่อมาคุยงานกับทุกคนที่ฟร้อนท์ ซึ่งเธอจะมีพนักงานใต้บังคับบัญชาอยู่ห้าคน คือ เดเนียล ผู้ช่วยผู้จัดการควบตำแหน่งหัวหน้าพนักงานต้อนรับ นิโคล่า,ไซม่อน,โซเฟีย เป็นพนักงานต้อนรับ เอมี่เป็นพนักงานรับโทรศัพท์เหลือแค่ไซม่อน ที่เข้างานในช่วงเย็น อุษาจึงไม่ได้เจอตอนนี้ เธอคิดว่าไว้ตอนสี่โมงเย็น ค่อยไปเจอเขา ส่วนโซเฟียที่เข้างานกะดึกมาทั้งคืน พออุษาคุยเรื่องงานจบ ก็ได้เวลาเลิกงานไปพักผ่อนเมื่อคืนเอมิเลียเทรนงานให้เธอผ่านออนไลน์อย่างละเอียดดีพอสมควร พร้อมกำชับให้จำไว้เสมอว่า“ลูกค้าอยู่ด้านขวาเสมอ” เท่ากับ “The customer is always right”เธอเข้าใจดี ว่าต้องเจอกับลูกค้าทุกรูปแบบ ฉะนั้นไม่มีเวลามาอ่อนแอหรือทำไม่ได้ทุกคนดูยังไม่ค่อยเปิดใจให้อุษา แค่ไม่มีใครพูดจาโต้แย้งอะไรกับเธอ แต่อุษารู้สึกได้ อาจเพราะเธอเป็นคนมาใหม่ ในตำแหน่งหัวหน้าและดันเป็นคนเอเชีย อายุก็แค่ 27 ซึ่งทุ
จะเที่ยงคืนแล้ว อุษาขอตัวกลับเพราะต้องตื่นหกโมงเช้า แพทริคเลยจะขอตัวกลับด้วย แต่อุษากลัวเขากลับกับเธอ จึงบอกให้เขาอยู่ต่อเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องตื่นเช้าแบบเธอ แต่แพทริคก็พูดเหตุผลสารพัดที่จะกลับเหมือนกัน เจนนภัสจึงถือโอกาสเดินมาส่งอุษากับแพทริคที่รอ Uber มารับ“อูฐมานี่ได้แค่สามวันได้เพื่อนใหม่ละ ก็ดีนะ เธอยิ่งไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่”พูดจบก็โอบอุษาพร้อมกับลูบหลัง“ว่าแต่ คุณแพทริคกลับดึกแบบนี้ แฟนไม่ว่าเหรอ”เจนนภัสเจื้อยแจ้ว อุษารู้อยู่แล้วว่า เจนนภัสต้องการอะไร อุษาทำได้แค่ส่ายหน้าขำๆ“ผมโสดนะ เลิกไปหลายคนแล้ว เงินเดือนผมน้อย รถก็ไม่มีขับ บ้านก็เช่า ใครจะมาสนใจ แต่ก็สบายดี อย่างมากก็แค่เหงา”“คุณมีไอจีมั้ย คุณแพทริค”“ไม่มี ผมเป็นพวก introvert”อุษากลั้นขำสุดๆ เนียนจริงๆคนนี้ “ถ้าเหงาไม่มีเพื่อน มาร้านที่ฉันทำงานได้นะ ฉันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านที่ Rafael Bistro คุณเล่น WhatsApp มั้ย?”เป็นไงล่ะ? เจอซะบ้าง โดนต้อนโดนตื้อ จะได้เข้าใจความรู้สึกฉันมั่ง อุษาแอบเยาะเย้ยในใจ“รถมาแล้ว ผมง่วงมากเลยตอนนี้ ลาก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่” แพทริคตัดบทรีบชิ่งขึ้นรถ กวักมือเรียกอุษาให้ไว เธอบอกลาเจนนภัสก
อุษาจูงทั้งสองเดินออกจาก Pearl Street มุ่งไปทางถนน Coast Blvd เส้นเดียวกับทางไปโรงแรม ลา ฮอยย่า ซีวิว เพราะเธออยากให้ทั้งสองได้รับแดดอ่อนๆ และเห็นชายหาดไปด้วย เธอสังเกตว่าสายจูงและปลอกคอเหล่าลูกรักของฮาร์วี่เป็นแบรนด์เนม ด้วยความอยากรู้ เธอจึงหาที่นั่งแล้วออกคำสั่งให้ทั้งสองตัวนั่งลง ซึ่งทำตามคำสั่งได้อย่างเรียบร้อยสมกับที่เข้าโรงเรียนฝึกมาแล้ว“ไหนมาดูหน่อย พวกเธอใช้ยี่ห้ออะไรกันบ้าง?”เธอจัดการถ่ายรูปปลอกคอจากทั้งสองตัวแล้วค้นหาจากรูปถ่ายจาก Google “ว้าว Hermes Rocabar Dog Collar สองหมื่นกว่าบาท! ไหนส่องสายจูงสิ ลายนี้ไม่เคยเห็นแหะ”อุษาอุทานพร้อมพูดกับเจ้าตัวโตทั้งสองตัว ที่มองอุษาด้วยความสงสัย“โอ้ว สายจูงของ Hermes ด้วย 37,000 บาท โอ้วแม่เจ้า พวกเธอนี่คุณภาพชีวิตดีจนฉันอิจฉานะเนี่ย กระเป๋าที่แพงที่สุดของฉันยังราคาไม่เท่าสายจูงพวกเธอเลย”อุษาพูดพร้อมกับขยี้หัวทั้งสองด้วยความเอ็นดู คนที่ผ่านไปผ่านมาพากันมองที่เธอนั่งคุยกับสุนัข นั่นเพราะสุนัขตัวโต ผู้คนเลยสนใจ“เอาล่ะ พร้อมเดินหรือยัง เดินสักสิบห้านาที ฉันจะให้น้ำแล้วก็ถ้าพวกเธออึ ฉันเตรียมถุงมาเก็บแล้ว หวังว่าอย่าอึเลยนะ พลีสส”เ
มีเสียงเคาะประตูห้อง อุษาไปเปิดประตู พบว่าเป็นแพทริค เธอถอนหายใจใส่เขา…“ถอนหายใจใส่ผมเลยนะ ไม่คิดจะเชิญผมเข้าไปหน่อยล่ะ ยืนเมื่อยตั้งนานแล้ว”“เชิญ คุณแพทริค”อุษารอให้เขานั่ง แต่เธอยืนสำรวม มือจับประสานกันเรียบร้อยตามสถานะที่เธอเป็นอยู่ ตั้งใจไม่ปิดประตู แต่แพทริคดันประตูให้ปิด“ตัดผมใหม่คุณดูน่ารักมาก ตอนเที่ยงที่ร้านอาหารไทยกับตอนนี้เป็นคนละสไตล์เลยนะ”“ค่าอาหารเท่าไหร่คุณแพทริค? ได้โปรดให้ฉันได้คืนให้คุณ มันทำให้ฉันลำบากใจรวมถึงดอกไม้นั่นด้วย”แพทริคทำหน้าตาเศร้าลงทันที ทำหน้าแบบนี้อีกละ..ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ.... “ผมไม่อยากได้เงินคุณ ผมก็..ไม่รู้สิ แค่อยากเทคแคร์คุณ เพราะคุณไม่ใช่คนที่นี่ เป็นพนักงานของผมด้วย ผมเองก็จ่ายให้เพื่อนคุณด้วยนะ ไม่ใช่แค่คุณสักหน่อย”“เพื่อนฉันก็พนักงานของคุณเหมือนกัน”“แล้วเมื่อเช้าคนมาส่งคุณ เจ้าของสุนัขน่ะ ชื่ออะไรอยู่แถวนี้เหรอ?”นี่มันอะไรเนี่ย..ได้เวลาที่ต้องทำงาน แต่ต้องมาโดนเจ้านายถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่ไม่เกี่ยวกับงาน“ครอบครัวควินน์ บ้านของเขาอยู่หัวมุม Pearl Street คนจ้างฉันเค้าชื่อ คุณฮาร์วี่ แต่ฉันไม่ได้ทำให้งานหลักเสียนะ”“อุษา..นอกเวลาง
เช้านี้อุษารีบไปบ้านของฮาร์วี่ แม่บ้านรอเธออยู่แล้ว แจสเปอร์กับเชสเตอร์กระดิกหางดีใจที่เจอเธอเช่นกัน อุษาสวมกอดทั้งสองทีละตัว ก่อนบอกลาแม่บ้าน พร้อมส่งข้อความหาฮาร์วี่ เขาโทรหาเธอทันที อุษาจูงทั้งสองพร้อมคุยโทรศัพท์ไปด้วย“หลับสบายมั้ยเมื่อคืน คุณเลิกงานดึกด้วย มีใครทำให้คุณกลัวอีกไหม?”เสียงทุ้มนุ่ม ทำให้อุษาใจฟู“หลับสบายดี ฉันเลิกกลัวแล้วล่ะ คุณมีพลังงานด้านบวกทำให้คนที่อยู่ใกล้ รู้สึกดีได้ ขอบคุณนะฮาร์วี่”“เดินระมัดระวังรถด้วยนะ ผมจะไปทำคดีให้ลูกค้าก่อน อย่าลืมว่าเราคุยเรื่องที่ประเทศคุณค้างเอาไว้”อุษายิ้ม เขาวางสายไปแล้ว แน่นอน..ฉันอยากคุยเรื่องลิงหรืออะไรก็ได้ เมื่อพาทั้งสองเดินจนเกือบครบตามเวลา เธอแวะซื้อไอศครีมที่ร้าน Baskin-Robbins อยู่ด้านหลังบ้านของฮาร์วี่ ให้พวกเขาทั้งสองด้วย“อร่อยละสิ แทนคำขอโทษที่เมื่อวานฉันอ่อนแอไปหน่อย จนไม่ได้พาพวกเธอมาเดินเที่ยวน่ะนะ”เธอนำทั้งสองไปคืนให้ที่บ้านควินน์ กอดเพื่อนตัวโตทั้งสองของเธอ แล้วเดินกลับไปที่โรงแรมเพื่อไปพักผ่อนสักนิดก่อนจะมื้อเที่ยง เมื่อถึงห้องเธอได้โทรหาโรสมาเรีย“ฮัลโหล อุษา ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย? เมื่อวานฉันอดเป็นห่วงไม่ได้
แพทริคสั่งอาหารมากินที่ห้องของเขา ช่วงบ่ายก็ออกไปที่ห้างสรรพสินค้า เขาเห็นสร้อยคอน่ารักเส้นหนึ่งของ Tiffany&Co เส้นเล็กสวย มีเพชรรูปหัวใจตรงกลาง ราคาประมาณ 1,900 ดอลล่าร์ เขาตรงเข้าไปในร้านแล้วซื้อมันออกมาอุษาเลิกงานสี่โมง เธอรีบกลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัว ชุดไหนดีนะ? ขออย่าให้เขาพาไปร้านแพงๆเลย กลัวทำเขาขายหน้าจัง อุษาส่งข้อความไปหาฮาร์วี่ “ไม่ต้องไปร้านแพงมากก็ได้ ฉันไม่อยากทำคุณอายคนอื่น”“งั้นผมไปรับคุณแล้วให้คุณเป็นคนเลือกร้านเอามั้ย”ฮาร์วี่ตอบกลับมา ทำเอาอุษาค่อยยิ้มออก เขาส่งรูปแจสเปอร์กับเชสเตอร์ให้เธอ ทั้งสองมองดูเหมือนกำลังยิ้มแฉ่งแพทริคกลับมาแล้ว กวาดตามองไปรอบๆฟร้อนท์และล็อบบี้ พลางถามไซม่อน “หัวหน้าฟร้อนท์ล่ะ”“คุณอุษาเลิกงานแล้ว”แพทริคพยักหน้ารับทราบ เขาอยากให้สร้อยคอเธอกับมือ ไม่อยากเอาไปวางไว้เฉยๆเขาขึ้นไปชั้นสอง ไปนั่งดูเอกสารที่เอมิเลียเอาวางไว้ให้ เหลือบตาไปดูกล่องสร้อยคอที่ซื้อให้เธอ อุษาไม่ใส่เครื่องประดับเลยสักชิ้น ทั้งๆที่คอเนียนสวย ผิวขาวละเอียดรถคันนึงเข้ามาจอดในที่จอดรถด้านหน้าของโรงแรม แพทริคคุ้นรถคันนี้ Bentley ของทนายความคนนั้นแน่นอน แพทริคลุก
เอมิเลียให้นิโคล่าที่เลิกงานแล้วมาที่ห้องทำงานของเธอ เพื่อเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นตอนที่เธอไปธนาคาร โดยมีเดเนียลอยู่ฟังด้วย เมื่อนิโคล่าเล่าจบ ก็กลับออกไป“คุณแพทริคไม่เคยแสดงออกต่อหน้าใครเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะคบกับใคร คงมั่นใจในความสัมพันธ์ครั้งนี้มากสินะ”เอมิเลียเสียงแข็ง แต่สายตาของเธอเศร้า จนเดเนียลอยากออกความเห็นให้เธอคิดอะไรได้บ้าง“จริงๆคุณแพทริค เขาเองก็เคยผ่านอดีตที่แย่ๆมา ถ้าต้องมีคนที่รักเขา และเขารักจริงๆ ก็น่ายินดีนะเอมิเลีย”เอมิเลียหลับตา นึกถึงวันแรกที่เห็นเขา เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ทำทุกอย่างในโรงแรมแห่งนี้เพื่อให้ธุรกิจของเขาก้าวหน้า อะไรที่จะทำให้เขาต้องชื่อเสียงหม่นหมอง เธอจะคอยจัดการให้ ไม่ว่าจะต้องเป็นคนร้ายกาจไปบ้าง เพราะอยากให้เห็นว่าเธอจริงใจกับเขาแค่ไหน“คนที่เขารัก อยู่เฉยๆเขาก็รัก เหมือนที่คุณทำอยู่ ไม่ว่าเขาจะทำคุณเสียใจกี่ครั้ง คุณก็ยังไม่เคยหมดรัก”“บางครั้งคุณมองแต่เขา จนลืมไปว่า ข้างๆคุณอาจมีคนที่รักและหวังดีกับคุณเหมือนกัน คุณไม่ได้โดดเดี่ยวหรอกนะ เอมิเลีย”เอมิเลียมองเดเนียลแล้วยิ้มบางๆ “ผมกลับก่อนนะ ดูแลสุขภาพด้วย”อุษาที่เดินกลับจากบ้าน
อุษาทำของอะไรใส่ผู้ชายพวกนี้กัน ถึงได้พูดจาปกป้องเธอนัก เลียนแบบฉันทุกอย่าง แต่ดันได้แต่ผู้ชายขับรถหรู ฐานะ หน้าที่การงานดีอยู่รอบข้างส่วนฉัน..ต้องมาทนกับไอ้เม็กซิกันต่ำต้อยตัวดำ ขนดก….. เจนนภัสยิ่งคิดยิ่งนึกเกลียดอุษามากขึ้นเมื่อไปถึงที่บาร์ คนยังเยอะอยู่ พวกเขาได้โต๊ะหลบมุม ฮาร์วี่สั่งเครื่องดื่มให้ตัวเขาและอุษา แพทริคเห็นก็ไม่พอใจขึ้นมา “เธอต้องทำงาน ดื่มแอลกอฮอล์ตอนกลางคืนไม่น่าจะดีมั้ง ผมขอน้ำผลไม้ เอาเป็นแอปเปิ้ลแล้วกัน”แพทริคบอกบริกร จนอุษารู้สึกว่าบรรยากาศมาคุสุดๆ“เอามาทั้งสองแบบเลย แล้วเธออยากดื่มอันไหนก็ได้”ฮาร์วี่สวนขึ้น เจนนภัสรู้สึกว่าเหมือนส่วนเกิน แต่ก็สั่งของตัวเธอเองไปอุษาอับอายที่แพทริคพูดเรื่องระหว่างเธอกับเขาตอนหัวค่ำ แพทริคก็รู้สึกโกรธที่ฮาร์วี่เอาผู้หญิงของเขาออกมาเที่ยว แถมต้องมาเจอเจนนภัสที่เคยจูบกับเขาอีกเจนนภัสก็กลัวว่าอุษาจะรู้ว่าเธอนินทาอุษาให้แพทริคฟัง บวกกับเจนนภัสโกหกอุษา ที่จริงแล้วเธอคือคนที่อยากมีอะไรกับเขาแล้วโดนเขาไล่กลับกลางดึกอุษาคิดว่าพรุ่งนี้เธอจะขอลางานได้ไหมเธอดื่มเข้าไปพอสมควร บรรยากาศทำเธอเครียด“คุณแพทริค พรุ่งนี้ฉันขอลางานหนึ่งวั
แพทริคขับมาถึงก่อน พอลงรถเข้ามาในบ้าน แม่เริ่มกังวลที่เห็นว่าที่ลูกเขยจะต้องนอนเปิดพัดลมที่โซฟาห้องรับแขก“ให้เขานอนห้องลูกดีกว่า แล้วลูกไปนอนกับแม่”แม่ชี้ที่ไปเขาและห้องนอนของอุษา แต่เธอทำหน้าเชิงว่าไม่อยากให้มานอนที่ห้องเธอ แพทริคทำท่าว่าเข้าใจที่แม่พูด“บอกแม่คุณว่า ผมนอนที่นี่แหละ คุณจะได้อยู่กับกุหลาบสวยๆทั้งห้องตามลำพัง”พอแปลให้แม่ฟัง ทั้งพ่อและแม่ก็แย้งเธอขึ้นมา“มันน่าเกลียดให้เขามานอนตากยุงตรงนี้ งั้นก็แล้วแต่ลูกแล้วกัน”“แพทริค คุณไปอาบน้ำที่ห้องฉันก็ได้ เดี๋ยวฉันจะรอนาตาเลียกับฮาร์วี่ก่อน ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้านะ ใช้ได้เลย”พ่อแม่และแพทริค แยกย้ายกันไปอาบน้ำและพักผ่อน ไม่นานนักฮาร์วี่ขับรถเข้ามาพอดี อุษาออกมาหาและยิ้มให้นาตาเลียที่ลงรถมาก่อน“อุษา พรุ่งนี้วันอาทิตย์ไปเที่ยวไหนดี?”“เดี๋ยวคืนนี้จะดูว่าไปที่ไหนแล้วจะบอกนะ เอ่อ ฮาร์วี่ ฉันอยากคุยด้วยได้มั้ย?”“งั้นฉันกลับโรงแรมก่อนนะ อยากอาบน้ำหน่อย”นาตาเลียเดินไปแล้ว อุษาชวนฮาร์วี่คุยที่สวนนอกบ้าน เธอเอาสเปรย์ฉีดกันยุงให้ตัวเธอและเขา“ก่อนที่ยุงบ้านฉันจะสูบเลือดคุณจนหมด”จากที่เงียบมาตั้งแต่ไปกินข้าว เขายิ้มบางๆให้เธอ
แพทริคและนาตาเลียขึ้นเครื่องไฟล์ทเช้าตรู่ ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงก็มาถึงในเวลาเจ็ดโมง โดยนัดเจอกับล่ามชื่อ วิน ที่มารอรับพวกเขาที่สนามบินเชียงใหม่ ในขณะที่อุษาบอกพ่อกับแม่ในเช้านี้ว่าต้องการไปที่วัด ฮาร์วี่มารอตั้งแต่เช้า เมื่อเธอออกมา เขาตะลึงเหมือนเห็นนางฟ้าอุษาเกล้าผมมวยสูงหลวมๆ ผ้าฝ้ายเกาะอก ใส่ผ้าซิ่นสีแดง เข็มขัดเงิน มีผ้าคล้องแขนไว้สำหรับคลุมไหล่สีขาว โชว์ผิวเนียนสว่างใสที่หลังและไหล่“ป๊าให้ยืมรถ เผื่อจะไปซื้ออาหารหรือของทำบุญ แถวตลาดมีขาย คุณฝรั่งคงขับได้อยู่ รถมันเก่าหน่อยนะ”เมื่ออุษาบอกฮาร์วี่ เขาพนมมือขอบคุณแบบเกร็งๆ พ่อและแม่ของเธอดูจะเอ็นดูเขาอยู่เหมือนกันที่สนามบิน ล่ามถือกระดาษที่เขียนชื่อแพทริคชูไปมาจนเจอกัน “สวัสดีคุณแพทริค ผมชื่อวิน แต่เพื่อนๆมักเรียกว่า วินนี่ ยินดีที่รู้จัก คนจ้างบอกผมว่า ถ้าแปลดีๆให้แฟนคุณแพทริคหายโกรธ ผมจะได้ทิปพิเศษ ไม่ต้องห่วง ผมจะอวยคุณให้ดีเลยเชียว”นาตาเลียชอบใจล่ามคนนี้มาก ส่วนแพทริคมัวตะลึงกับวินนี่อยู่“ฉันชื่อนาตาเลีย เป็นน้องสาวเขา ถ้าคุณแปลให้เราดีๆ ฉันจะทิปให้ช้อปเคาน์เตอร์แบรนด์ โอเคมั้ย”“โอเค ไปกันเถอะ”วินนี่ออกเดินนำไปที่จอด
แพทริคโทรหาเจนน่า เพื่อจะใช้บริการทนายความของเฮนรี่ ซึ่งเขานัดพบเฮนรี่เพื่อให้รายละเอียดในตอนเย็น “ฉันยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร หลังจากฉันกลับไปแล้ว อุษาถึงต้องหนีไป มีใครไปทำอะไรให้เธอแน่ๆ”นาตาเลียที่นั่งกินมื้อเที่ยงกับแพทริคที่ภัตตาคารของโรงแรมถามขึ้นมา หลังจากเขาวางสายจากเจนน่า“ผมอยากขอให้คุณพยายามติดต่ออุษาให้หน่อยนะ ตอนนี้น่าจะปิดเครื่อง สัก 4-5 ทุ่ม เธออาจจะรอเปลี่ยนเครื่อง”แพทริคไม่ตอบเรื่องไอด้าเพราะมีหลายเรื่องในหัวที่ต้องเรียงลำดับทำอันไหนก่อนหลังหลังจากกินเสร็จ นาตาเลียขอตัวไปทำงานให้เอมิเลียที่ห้องทำงานเก่าของไมเคิล ส่วนแพทริครอทิมโมธีที่ห้องรับรอง “เฮ้ เพื่อน ทำไมหน้าตาแบบนั้น? นอนน้อยหรือไม่ได้นอน แล้วที่เลื่อนนัดคุย เกิดอะไรขึ้น? ฟังจากน้ำเสียงไม่ดีเลยนะ”“ฉันโดนอดีตเล่นงานคู่หมั้นฉัน ไม่น่ารับเข้ามาทำงานจริงๆ ทุกคนบอกให้รับเอาไว้ สุดท้ายงูพิษก็คืองูพิษ อุษาถอดแหวนหมั้นหนีกลับไทย แล้วที่เป็นห่วงเพราะฮาร์วี่พาเธอไป”“ห่ะ อะไรนะ? ฮาร์วี่น่ะเหรอ คืออะไร? ฉันงง”“ฮาร์วี่ชอบอุษามานานแล้ว เวลาเธอมีเรื่องอะไรก็ตาม เขาจะโผล่มาตลอด เฮ้อ..เอาเถอะ เรื่องเรือนำเที่ยวของเรา เอก
แพทริคกับอุษาออกไปยังคอนโดที่ตกแต่งเสร็จแล้ว ขับมาก็เจอรถเฟอร์รารี่สีแดงของฮาร์วี่จอดอยู่ “คุณรู้มั้ยว่าเขาจะมา?”แพทริคถามพลางมองอุษาที่ทำหน้าไม่รู้เรื่อง เธอส่ายหน้า ทั้งคู่ลงจากรถก็มีพนักงานสาวมายืนรอที่หน้าคอนโด ฮาร์วี่ออกจากรถ แล้วเดินมาหาพวกเขา“สวัสดีอุษา ไงแพทริค พอดีผมมาดูความเรียบร้อยให้คอนโดคุณด้วย เพราะนาตาเลียก็ซื้อคอนโดใกล้ๆนี้เหมือนกัน”สายตาของฮาร์วี่มองที่เธอด้วยความคิดถึง เขาขอกับแม่เสนอตัวมา นั่นเพราะอยากเจอเธอเท่านั้น ส่วนอุษาลืมไปว่าพึ่งมองหน้ากันไม่ติด พอได้ยินเรื่องนาตาเลีย ก็สนอกสนใจ“จริงสิ? แล้วเธอจะเข้าพักได้เมื่อไหร่? อาทิตย์หน้าหรือเปล่า?”“ประมาณนั้นนะ เอาล่ะ ห้องของคุณเอกสารอะไรเรียบร้อยหมดแล้ว เอ้านี่ กุญแจ”ฮาร์วี่พูดยิ้มๆแล้วยื่นให้อุษา ตรงกันข้ามกับแพทริคที่ยืนเป็นหัวหลักหัวตออยู่ รีบเอามือไปรับกุญแจแทน จนเธอหดมือ ท่าทางเก้ๆกังๆ“ฉันเป็นคนซื้อที่นี่ให้เธอ นายไม่จำเป็นต้องพยายามมีบท”แพทริคแทบจะแยกเขี้ยวใส่เขาอยู่แล้ว แต่ฮาร์วี่ก็ยังเหมือนไม่สนใจอะไร“อีกหน่อยก็มี เพราะว่าจะย้ายมาอยู่ห้องใกล้ๆนี่เหมือนกัน คิดไปคิดมา ผมก็ควรแยกออกมาเป็นส่วนตัวจากที่
อุษาโทรบอกแพทริคช่วงสาย เกี่ยวกับเรื่องราวตอนเช้า ที่นาตาเลียจะเข้าพักที่โรงแรมเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ก่อนคอนโดจะเสร็จ แล้วเธอกับนาตาเลียจะไปซื้อของด้วยกัน“คุณไม่ค่อยสบาย อยู่ที่ห้องพักผ่อนแล้วกัน ไม่ต้องไป โดนแดดก็จะไม่สบายอีก รถของนาตาเลียทางร้านเอามาส่งจอดอยู่ข้างล่าง แล้วไม่ต้องห่วง ฮาร์วี่ไม่ไปด้วย ฉันจะมาให้ทันมื้อเย็น โอเคนะ”ไม่ทันที่เขาจะตอบ เธอวางสายไปหน้าตาเฉย…แม่ของฮาร์วี่มาหาเขาที่บ้านหลังเล็ก แล้วเคาะประตู ฮาร์วี่เปิดให้ด้วยหน้าตาที่งัวเงีย“เอช นาตาเลียส่งข้อความมา ขอไปอยู่ที่โรงแรมของคุณสมิธที่เธอจะไปฝึกงาน แต่ทำไมกะทันหัน? เห็นบอกแม่ว่าจะไปเริ่มวันจันทร์ ลูกมีปัญหาอะไรกับเธอหรือเปล่า?”“เธอน่าจะมีปัญหากับตัวเธอเองมากกว่า เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ยังกับไบโพล่าร์ ผมขอนอนต่อนะ”“เอ้า” เจนน่าทำหน้า งง ส่วนฮาร์วี่ปิดประตู แล้วล้มตัวลงนอนเหมือนเดิมนาตาเลียและอุษาสนิทสนมกันมากขึ้น อุษาช่วยเธอเลือกชุด เอาใจใส่ว่าเธอจะหิวมั้ย ถ่ายรูปให้ ช่วยถือของ อุษามีท่าทางอากัปกิริยาเหมือนคนมีชาติตระกูลที่ดี ทำให้เธอประทับใจ แม้จะเป็นคนพูดน้อยแต่เป็นผู้รับฟังที่ดีมาก เวลาช่วยออกความเห็น จะได้คำ
แพทริคกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามอุษาที่เดินเร็ว เพื่อตามให้ทันก่อนถึงทางเข้าโรงแรม “อุษา เดี๋ยว..รอผมหน่อย คุณยังโกรธอีกเหรอ? เมินใส่กันแบบนี้ไม่ได้นะ”“คุณเดินช้าเป็นเต่าเอง”เขาเดินจนทันเธอแล้วไปยืนดักหน้าไว้“ผมเชื่อคุณ บอกว่าไม่เคยมีก็คือไม่มี แค่ไม่อยากให้ทำท่าทางห่างเหินแบบนี้”“นาตาเลียฝึกงานที่ไหน?”อุษาเปลี่ยนเรื่องไปเสียเฉยๆ“จะไปที่ Smith Grand เป็นผู้จัดการฝึกหัด เธอจะหาที่พักที่นี่ แล้วขับรถไปกลับเอา ผมเห็นด้วยเพราะว่าผู้หญิงคนเดียวอยู่ที่ดาวน์ทาวน์ไม่น่าจะปลอดภัย”เธอแค่พยักหน้ารับทราบ แล้วเดินตามแพทริคไปขึ้นรถทั้งสองไปถึงที่บาร์ก่อนที่ฮาร์วี่และนาตาเลียจะตามมาสมทบทีหลัง สาวๆคุยกันถูกคอมาก ผิดกับชายหนุ่มสองคนที่ต่างคนต่างจ้องจะแขวะกันตลอด อุษาและนาตาเลียแลกคอนแทคเพื่อไว้ติดต่อกัน“แพทริค..นาตาเลียต้องฝึกงานกับใคร? ไอด้าใช่มั้ย?”อุษาถาม เขาแค่พยักหน้ารับ นาตาเลียกอดแขนอุษา“วันพรุ่งนี้ไปว่ายน้ำกัน หลังจากไปดูรถมือสองสักคัน ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ”“ได้สิ แต่ฉันต้องไปคลินิคก่อนนะตอนเที่ยงเจอกันที่ล็อบบี้โรงแรม โอเคมั้ย”“ผมว่างจะไปส่งพวกคุณเอง”“ผมจะไปช่วยดูรถให้ด้วย พอมีความรู้อย
เอมิเลียมาเคลียร์งานให้แพทริค เมื่อเรียกไอด้ามาถามเรื่องงาน เธอแปลกใจที่แพทริคไม่มาที่นี่ “ฉันนึกว่าวันนี้คุณแพทริคจะมาเสียอีก”เอมิเลียยิ้มสีหน้าเยือกเย็น มองหน้าไอด้าด้วยสายตาที่คมกริบ..“คู่หมั้นป้ายแดงน่ะต้องเข้าใจ อีกอย่าง พึ่งกลับมาถึงก็ทำงานเลย พวกเขาอยู่ด้วยกันสักวันไม่น่าจะเป็นอะไร แล้วเจนเป็นไงบ้าง ทำงานได้มั้ย?”“ก็พอทำได้ไม่มีปัญหาอะไร คุณเอมิเลีย”ไอด้าขอตัวออกไป เธอวิตกกังวลว่า ป่านนี้พวกเขาน่าจะได้ดูกันแล้ว แต่ทำไมเงียบแบบนี้ แอลลี่ก็บอกว่าไม่มีอะไรคืบหน้า แผนสองที่เตรียมไว้คงต้องลองเสี่ยงอีกครั้งฮาร์วี่ที่นั่งทำงานเงียบๆอยู่กับสุนัขทั้งสอง นาตาเลียขอเข้ามาคุยด้วย“ได้สิ มีอะไรล่ะ? แล้วคุณไม่ไปกับแม่ผม ไหนว่ามาหัดทำงาน สนใจอสังหาไม่ใช่เหรอ?”“ก็..ฉันชอบอยู่กับสุนัขมากกว่า แล้วก็เมื่อเช้าที่คุณเล่าทั้งหมด สรุปว่าคุณจะรออุษางั้นสิ? ทำไมถึงคิดว่าเธอจะถอนหมั้น แพทริคบอกเมื่อเช้าว่าเธอจะไม่เลิกกับเขา”“ทำไม? คุณอยากช่วยผมหรือไง?”“ถ้าเธอเสียใจ แสดงว่าเธอรักเขานะ คุณจะแยกเธอกับเขาได้ยังไงกัน”ฮาร์วี่วางเอกสารลง เลิกคิ้วสองข้างมองหน้าเธอแล้วยิ้มมุมปาก เขามีเสน่ห์มากจริงๆสำหร
แพทริคหน้าแดงด้วยความโกรธ และรู้สึกอยากจะร้องไห้“ขอร้องล่ะ ผมไม่รู้ว่าทำผิดอะไรต่อคุณ เราคุยกันดีๆได้มั้ย? ที่รัก ผมทำงานไม่ได้ ถ้าวันนี้เราไม่เคลียร์กันก่อน”“แต่ฉันทำได้ คุณทำไม่ได้ก็ไปนอนพักผ่อน”อุษาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ หลับตาแล้วพยายามทำให้ใจเย็นลง“ในแฟลชไดร์ฟมีอะไร? ถึงโกรธผมขนาดนี้”อุษาลืมตาและถลึงตาใส่ จนเขากลัว แล้วลุกขึ้นเดินตรงมาหาแพทริคที่ยืนตัวแข็งอยู่กลางห้อง“ใครบอกคุณเรื่องแฟลชไดร์ฟ? คุณไม่ได้บอกใครอีกใช่มั้ย? มีใครรู้อีกบ้าง?”“เอมิเลียบอกว่านิโคล่าบอกเธอเรื่องนี้ เมื่อคืนเธอเป็นห่วงคุณมาก เลยมาเปิดห้องดูว่าเป็นอะไร เพราะคุณบอกไม่สบาย”“แล้วคุณบอกใครอีกมั้ย? ทำไมต้องให้ถามซ้ำ” เธอตวาดใส่แบบที่ทำเขาอึ้งไปเลย ก่อนเขาจะตอบเสียงอ่อย “ไม่ได้บอกใคร”อุษาได้ยินแบบนั้นก็ไปนั่งที่เดิม เธอพูดขึ้นมาโดยไม่มองหน้าเขา “คุณไม่เคยเชื่อใจฉันเพราะพฤติกรรมของตัวเอง เลยคิดว่าคนอื่นจะเป็นแบบเดียวกัน แล้วถ้าตอนนี้เราคิดเหมือนกันล่ะ ต่างคนต่างไม่เชื่อใจกันอีกแล้ว..”“ผมไม่เลิกกับคุณ เราจะไม่เลิกกัน คนรักกันมันมีหึงหวงได้ เราพึ่งหมั้น มีแพลนจะไปหาพ่อแม่คุณ พ่อแม่ผมรักคุณนะ บอกมาสิอะไรท
อุษาเดินกลับมาที่โรงแรมแล้วหยุดทักทายโซเฟียกับเอมี่ ก่อนจะขึ้นไปห้องทำงานที่ชั้นสอง แอลลี่ที่นั่งด้านในเคาน์เตอร์สำหรับรับจองห้องพัก ขอให้โซเฟียดูแลให้เธอสักครู่ เพราะต้องการไปห้องน้ำ “ไอด้า เท่าที่เห็นยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรนะ คิดว่าจะได้ผลมั้ย? ตอนนี้ยิ่งหมั้นแล้ว มันอาจไม่มีผลอะไรต่อเธอเลย”“ไม่เป็นไร ขอบคุณมากแอลลี่ รบกวนบอกความคืบหน้าทีนะ ถ้าฉันได้อย่างที่ตั้งใจจะไม่ลืมเธอแน่นอน”อุษาเสียบแฟลชไดร์ฟกับคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานของเธอ มีไฟล์คลิปประมาณ 12 คลิป แค่คลิปแรกเปิดไปได้เพียงสองสามนาทีเท่านั้น อุษาใจเต้นแรง มือไม้สั่น เธอพยายามตั้งสติแล้วโทรหาเอมิเลียว่าไม่ค่อยสบาย ขอลาป่วยช่วงบ่ายนี้เพื่อไปพักที่ห้องของเธอ และเหมือนบางคนจะรับรู้ มีสายโทรเข้ามา…“อุษา ได้ดูหรือยังว่ามันคืออะไร? ผมเกริ่นกับนักสืบเอกชนไว้แล้วตอนคุณกลับออกไป”เขาได้ยินเสียงเธอกระหืดกระหอบ มีเสียงเปิดแล้วปิดประตูอุษากลืนน้ำลายอย่างยากเย็นก่อนจะตอบ“มันแย่มากจริงๆ..สำหรับฉัน ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง คุณยังไม่ต้องติดต่อมา ฉันจะติดต่อคุณไปเอง”ฮาร์วี่วางสาย เขารู้สึกเป็นห่วงและวิตก จนกระทั่งแม่ของเขามาชวนออกไปทานอาหารเย็นท