Share

Ep.2 สถานที่ใหม่ในโลกใบเดิม

อุษาจึงเดินตรงไปเลือกตักอาหาร 2-3 อย่าง และน้ำผลไม้ เธอเลือกนั่งใกล้กับผู้หญิงคนหนึ่ง มีผิวสีแทนเข้ม ผมสีดำขลับของเธอ ดูสีเข้มกว่าอุษาไปอีก 

“ขอโทษนะ ฉันขอนั่งตรงนี้จะได้ไหม”

“ทำไมจะไม่ได้ คุณนั่งได้ทุกที่ ที่คุณอยากนั่ง โดยไม่ต้องขอ” 

สาวผิวเข้มตอบ พลางกินต่อ อุษานั่งทานแบบเงียบๆ…โทรศัพท์ของอุษาก็สั่นขึ้นมา พ่อนั้นเอง…

“ฮัลโหล ป๊า หนูไม่กล้าโทรหาตอนนั้น เห็นมันดึกอยู่ ตอนนี้หนูอยู่ที่โรงแรม กำลังกินข้าวในห้องอาหาร คุยเสียงดังไม่ได้”

“ป๊าพึ่งเห็นข้อความที่ส่งมา เมื่อตอนตื่นนอนนี่เอง ใช้ไลน์โทรได้นี่ดีมากเลย ประหยัดเงิน ป๊าจะได้โทรหาได้บ่อย” 

“ค่ะป๊า แล้วแม่ละ”  

“แม่เค้าอาบน้ำอยู่ แต่ป๊าบอกละว่าจะโทรหาลูก สัญญาณลูกไม่ค่อยดีเลยนะ”

“ที่นี่ wi-fi อาจไม่ค่อยดีมั้งค่ะป๊า ส่งข้อความเอาก็ได้ถ้ามีอะไร รักป๊ากับแม่นะ บอกแม่ด้วย”

“โอเค ป๊ากับแม่ก็จะไปทำงานแล้วเหมือนกัน” 

หลังวางสาย สาวผิวเข้ม ก็พูดกับอุษาว่า

“ห้องอาหารที่นี่ มีเวลากำหนดนะ รีบกินก่อนจะหมดเวลา” 

“พอดีฉันพึ่งมาอเมริกาครั้งแรก รู้สึกสับสนนิดหน่อย เหมือนหิวแต่ก็กินได้น้อย”

สาวผิวเข้ม มองอุษาแล้วเริ่มแนะนำตัว

“ฉันชื่อ โรสมาเรีย เป็นคนเม็กซิกัน-อเมริกัน  ยินดีที่รู้จัก ฉันทำงานสปาเป็นพนักงานนวด เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อ ฉันเลิกงาน2ทุ่ม แล้วเธอล่ะ”

“ฉันชื่อ อุษา เป็นคนไทย อีก1วัน ฉันจะเริ่มทำงานเป็น FOM ยินดีที่รู้จักเช่นกัน” 

โรสมาเรีย เลิกคิ้วและพยักหน้าหงึกๆ

“อ่อ ตำแหน่งนี้เปลี่ยนคนบ่อยมากเชียวแหละ ฉันหวังว่าเธอจะอดทนนะ เธอมาจากที่ไหนนะ..โอ้ว สาวไทยแลนด์เดีย.. ฉันรู้จักประเทศนี้เพราะอาหารเลย แต่ยังไม่มีโอกาสไปเที่ยว”

เธอยิ้มเห็นฟันที่เรียงสวยสีขาว ยังไม่ทันที่อุษาจะพูดอะไรต่อ

“ไว้เจอกัน อ้อ..ที่นี่เราไม่เรียกอเมริกา เราเรียก เดอะ สเตท หรือ เดอะ ยูเอส เดี๋ยวเธอก็ชิน” 

พูดจบโรสมาเรียเก็บจานและเดินออกไป 

คนที่นี่คิดไว ทำไว ไปไว อุษาคิดติดตลกว่า หรือเธอเองที่ ตะตอนยอน แบบฉบับสาวเชียงใหม่ 

อุษาเปิดแผนที่ดูพิกัดร้านค้ากับธนาคารและบันทึกไว้ สำหรับไปธุระปะปังในวันพรุ่งนี้ จากนั้นออกจากห้องอาหารและไปเดินเล่นที่ชายหาด… 

ลมปะทะร่างกายของอุษา..อบอุ่น ไม่ร้อนไม่เย็นมากไป ผู้คนไม่พลุกพล่าน แต่เธอสังเกตว่าละแวกนี้ มีรถหรูขับผ่านไปหลายคัน ผู้คนแต่งตัวดี ดูสะอาดตา เวลายามเย็นเหมาะแก่การเดินเล่นและดูร้านรวงต่างๆตลอดเวลาที่อยู่กรุงเทพ เธอทุ่มเทให้กับงาน ไม่เที่ยว ไม่สังสรรค์เพราะอยากเก็บเงินเพื่อเปิดร้านตามความฝัน จนไม่มีโอกาสได้ไปไหน แต่ที่นี่ เธอหวังว่าจะสามารถทำงานและเหมือนได้พักผ่อนไปด้วย 

อุษาทรุดตัวนั่งริมชายหาด จนกระทั่งนึกได้ว่า เจนนภัสไลน์หาเธอแต่เธอยังไม่ได้อ่าน เธอจึงส่งข้อความตอบกลับไป

“เจน พอดีฉันยุ่งสุดๆอ่ะ โทษที แล้วก็มีเรื่องจะบอกด้วย”

ไม่ถึงห้านาที เจนนภัสก็ตอบกลับมา

“งอลแล้ว เอะอะยุ่ง ทำธุระอะไรกันอ่ะ ที่ทำงานเธอเป็นง่อยเหรอ อูฐ”

“บ้า ฉันหางานทำที่อเมริกาเลยยุ่ง”

“ห๊ะะะ ได้งานละยัง ถ้ายังมาทำที่ร้านฉันสิ ตอนนี้ฉันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการละนะ เธอมาเสิร์ฟที่นี่ก็ได้ ฉันเสนอราฟาเอลให้ทำ work permit ให้ได้นะ อูฐ”

อุษายิ้มๆก่อนจะพิมพ์ตอบ คิดว่าเจนนภัสคงช็อกแน่ๆ

“จะว่าไป ฉันเองก็อยู่ไม่ไกลเธอเท่าไหร่นะ ตอนนี้”

ทันใดนั้น เจนนภัสก็วีดีโอคอลหาอุษาทันที!

“อูฐ อยู่ไหน? บอกมาเดี๋ยวนี้เลย มายังไง มากับใคร งง หมดละ งานล่ะ? ไม่ทำละเหรอ? ที่นั่นที่ไหน? แพลนกล้องให้ดูทีซิ”

อุษาแพลนกล้องไปที่ชายหาดทะเลสีสวยงามโดยรอบแบบพาโนราม่า 

“ฉันว่า เธอรู้นะว่านี่อยู่ตรงไหน เจน”

เจนนภัสตอบเสียงสูงทันที

“The Wedding Bowl !!! คนชอบไปจัดงานแต่งงานกันที่ชายหาดนี้” 

“ตกลงไหนเล่ามา มายังไง? อะไรยังไง?” 

อุษาจึงเล่าให้ฟัง แต่สิ่งที่เธอเคยคิดว่า เจนนภัสจะเซอร์ไพรส์หรือตื่นเต้นดีใจ กลายเป็นการฟังโดยไม่มีคำถามอะไร เมื่ออุษาบอกเล่าจบและเห็นเพื่อนเงียบไป

“เจน ฟังอยู่ใช่มั้ย”

ด้านฝั่งของเจนนภัส เธอกลับรู้สึกผิดคาดที่อุษามาไกลได้ถึงที่นี่ โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำจากเธอเลยแม้แต่น้อย ทั้งตำแหน่งงานที่อุษาได้รับ ทำงานใกล้ละแวกบ้านคนรวย แถมเจ้าของยังซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายทุกอย่างตั้งแต่มาทำงานจนครบสัญญาทำงาน

ในขณะที่ตัวเธอเอง ต้องดิ้นรนทุกอย่างรวมถึงกู้หนี้ยืมสิน เพื่อพาตัวเองมาถึงที่นี่และเพราะเธอเรียนจบบริหารธุรกิจการตลาด ทำให้หางานที่อเมริกายาก ภาษาอังกฤษของเธอเมื่อ 2 ปีก่อน ก็งูๆปลาๆ ได้มาทำงานที่นี่ก็เพราะอยู่ในกลุ่มโซเชี่ยล เฝ้ารอดูโพสที่มีคนรับสมัครทำงานในอเมริกา จนไปเจอคนไทยในนั้นลงรับสมัครเสิร์ฟที่ร้านของราฟาเอล..

“ดีใจกับเธอด้วย ที่ได้งานที่ตั้งใจ ไว้เราค่อยนัดเจอกัน ฉันจะไปทำงานต่อก่อน ลูกค้าเริ่มเยอะละ” 

น้ำเสียงเจนนภัสราบเรียบและตัดบท

“โอเค ไว้ว่างค่อยนัดเจอกัน” 

อุษาตอบก่อนกดวางสาย รู้สึกได้ว่า เจนนภัสไม่พอใจ อาจจะเพราะช่วงก่อนมาอเมริกา ร่วมเดือนที่เธอยุ่งจนไม่ค่อยสนใจตอบข้อความหรือโทรกลับ อีกอย่างอาจเป็นได้ว่า น้อยใจที่เธอไม่บอกอะไรเลยว่าจะมา

ช่างเถอะ ไม่อยากหาเหตุผล เราเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย..

อุษาลุกขึ้นจากชายหาด จะเดินกลับไปที่โรงแรม ตอนนี้ก็ทุ่มนึงแล้ว ตั้งแต่มาถึงโรงแรมตอนเที่ยง เธอยังไม่ได้จัดของอะไร มาถึงก็นอน ตื่นมาก็กินมื้อเย็นเลย 

เดินออกจากชายหาดจะข้ามถนนไปยังโรงแรม เธอเห็นรถหรูสปอร์ตสีเขียวสะท้อนแสงขับมาอย่างเร็ว จึงยืนรอให้ไปก่อน แต่คนขับกลับชะลอรถก่อนจะถึงจุดที่เธอยืนรอ อุษา งง...สรุปจะมีน้ำใจให้เธอข้ามก่อนใช่มั้ย?

อุษาจึงก้าวขาลงถนนเพื่อจะข้าม ปรากฏว่า คนขับกลับเร่งรถผ่านหน้าเธอแล้วเลี้ยวเข้าโรงแรมไปซะงั้น..

“พอเห็นคนจะข้ามรีบเร่งรถ พอยืนรอให้ไปก่อนดันขับช้า อะไรเนี่ย หัวจะปวด” 

อุษาเดินเข้าโรงแรม แต่จะลัดไปด้านข้างเพื่อไปตึกห้องพัก เธอเห็นรถสปอร์ตสีเขียวคันที่ตัดหน้าเมื่อกี้ จอดรถด้านข้างใกล้ทางเข้าล็อบบี้ ซึ่งเป็นที่จอดสำหรับบุคลากรตำแหน่งสูงของโรงแรมหรือเจ้าของเท่านั้น ประตูแบบปีกนกถูกเปิด ชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว ผมบรอนด์ทอง ลงจากรถ  

เธอเดินต่อไปแต่ก็มองเขาและคิดว่า ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นใครสักคนที่ตำแหน่งสูงหรือคนสำคัญของที่นี่แน่นอน ดูจากรถที่ขับและที่จอดรถ.. จำได้ที่เอมิเลียพูดว่า ที่นี่มี GM เป็นลูกชายของมิสซิส สมิธ อ่อ..เดาว่า คุณ แพทริค สินะ 

พอเธอคิดชื่อเขาเท่านั้น เขาซึ่งกำลังจะเข้าล็อบบี้อีกไม่กี่ก้าว และอุษาที่เดินกำลังจะพ้นสายตาเขา ก็มองกันพอดี อุษารีบหันหน้าหนีและรีบเดินอย่างไวจนลับสายตาเขาไปก่อน

บ้าจริง ยังกับอ่านใจคนออกงั้นล่ะ…

 เดินมาถึงห้องพัก จัดของต่างๆ ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย เพราะอุษานำของมาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ช่วงที่จัดของ ในสมองของอุษาก็คิดเรื่องต่างๆไปด้วย เธอติดใจคำพูดของคนขับแท็กซี่และโรสมาเรีย แต่สมองของเธอกลับเตือนสติเธอว่า ที่ไหนในโลกก็มีปัญหาเหมือนๆกันทั้งนั้น 

ช่างเถอะ..ไม่ใช่ธุระอะไรของเราที่คนจะเข้าจะออก ทำงานของเราให้ดีที่สุดก็พอ 

ตอนนี้ที่ไทยประมาณ 11.00 น. เธอเลยส่งข้อความไปให้พ่อ ว่าเธอต้องนอนพักผ่อนแล้ว พร้อมกับส่งข้อความทิ้งไว้ให้เจนนภัส ว่าพรุ่งนี้เธอจะไปข้างนอกเพื่อซื้อของและไปธนาคาร ถ้าว่างอยากนัดเจอกันก็ได้

9.00 น. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น

เช้านี้มีแค่ข้อความของพ่อที่ฝากไว้ตอนเธอหลับ ส่วนเจนนภัสอ่านข้อความแต่กลับเงียบ เธอยักไหล่…   เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอดูที่พี๊พโพลหรือตาแมวประตูที่คนไทยเรียกกัน เห็นเป็นพนักงานหญิงคนหนึ่ง จึงเปิดประตู 

“อรุณสวัสดิ์ คุณยูซ่า ฉันได้รับมอบหมายให้นำยูนิฟอร์มมาให้คุณ ชุดถูกจัดตามไซส์ที่คุณระบุมา จะมีชุดเดรส 3 ชุด เสื้อโปโล 2 ตัว กางเกงสแล็ค 2 ตัว ถ้าวันทำงานตรงกับเสาร์อาทิตย์ ใส่ชุดอะไรก็ได้ที่สุภาพ สีไม่ฉูดฉาด คุณยูซ่า ลองดูว่าไซส์ถูกต้องไหม”

อุษานำชุดทั้งหมดมาวางที่เตียง ก่อนจะแจ้งว่า

“ขอบคุณมาก ฉันคงรบกวนคุณแค่นี้ ถ้ามีอะไรที่ต้องขอความช่วยเหลือ ฉันจะแจ้งเอมิเลียเอง”  

อุษายกมือไหว้ขอบคุณที่นำชุดมาส่งให้ พนักงานหญิงแปลกใจ แต่ก็ยิ้มให้ ท่าทางคนมาทำงานใหม่คนนี้ ก็มีความอ่อนน้อมดีเหมือนกัน..

เธอปิดประตู แล้วเริ่มลองชุด ซึ่งพอดีไม่มีปัญหา มีป้ายชื่อและตำแหน่ง ติดไว้ให้ที่บริเวณอกของชุดจั้มสูท เธอจับแล้วมองดู 

พรุ่งนี้แล้วสินะ….

อุษารีบอาบน้ำแต่งตัว เธอตรงไปที่ La Plaza La Jolla เพื่อซื้อซิมโทรศัพท์ ชุดเดรสเน้นสีที่สุภาพ 3-4ชุด และไปทานอาหารเช้าที่ร้านกาแฟใกล้ศูนย์การค้า จากนั้นไปเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งทั้งสามแห่ง อยู่ห่างจากที่พักและที่ทำงานของเธอ เดินไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้น 

อยู่ๆข้อความของเจนนภัสก็เด้งขึ้นมา

“ฉันเริ่มงานตอนสิบเอ็ดโมง ถ้าเธออยากเข้ามากินมื้อเที่ยง ฉันเลี้ยงเอง มาที่ร้านชื่อ Rafael Bistro นะ”

“ได้ แล้วจะไปหานะเจน ตอนนี้แวะซื้อของที่ร้านเครื่องสำอางนิดหน่อย”

อุษาส่งข้อความตอบกลับไป แล้วเลือกซื้อของต่อ ไม่มีอะไรต้องรีบ 

ที่ชั้นสองของโรงแรม La Jolla Sea View ห้องทำงานกว้างขวาง หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา แพทริค นั่งดูกองเอกสารกองใหญ่ที่เอมิเลียรอเขาตรวจสอบและต้องเซ็น

เขาถอนหายใจเบาๆกับเอกสารที่กองตรงหน้า เพราะมัวไปดูแลโรงแรมอีกสาขาหนึ่งอยู่หลายวัน

อยู่ๆ…เขานึกถึงผู้หญิงเอเชียคนหนึ่ง ที่เดินออกไปจากโรงแรมไปตอนสาย เขาเห็นเธอช่วงตอนอยู่ล็อบบี้โรงแรม เขาจำเธอได้ เห็นครั้งแรกเมื่อวานที่เธอรอจะข้ามถนน แล้วสบตาเธอแว็บหนึ่ง ก่อนที่เธอจะเดินหายไปด้านข้างทางไปสระว่ายน้ำ เธอมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เขาหยุดมองเธอได้.. ผิวขาว ตาโต หน้าเรียวเล็ก ผอมเพรียวแต่ดูกระฉับกระเฉง แถมเชิดใส่เขาอีกด้วย ถ้ามีโอกาสเขาคงได้พบเธออีก แพทริคคิดว่าอุษาคือลูกค้าโรงแรมนั่นเอง

เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น…

“ฮัลโหล”

“คุณแพทริค เอกสารของพนักงานใหม่มี 5 ตำแหน่ง กับเอกสารตั้งเบิกจ่ายค่าใช้จ่าย พอดีคุณแม่ของคุณถามฉันว่า คุณตรวจและเซ็นอนุมัติเสร็จหรือยัง ท่านจะได้ให้ฉันนำค่าใช้จ่ายไปให้ท่านเซ็นเช็ค”

“โอเค เอมิเลีย เดี๋ยวผมดูเสร็จและเซ็นอนุมัติแล้ว จะบอกนะ”

แพทริคตรวจดูเอกสารค่าใช้จ่ายจนเสร็จ ตามด้วยเอกสารของพนักงานใหม่ 5 คน หนึ่งในห้าคน ทำให้เขายิ้มออกมา… อุษา ชื่อน่ารักเสียด้วย ไม่ต้องไปตามหาที่ไหนก็คงได้เจอ เขายิ้มกรุ้มกริ่ม

อุษาซื้อของเสร็จ โบกแท็กซี่ไปร้านที่เจนนภัสทำงานอยู่ ร้านนี้อยู่บนถนน Soledad mountain ใกล้สถานที่สำคัญของซานดิเอโก้อย่าง Mount Soledad Memorial Park เมื่อเธอเดินเข้าไป ก็เห็นเจนนภัสกำลังพูดคุยกับลูกค้าที่โต๊ะนึงอยู่ เธอจึงเลือกโต๊ะหนึ่งแล้วนั่ง บริกรคนหนึ่งเข้ามาพร้อมเมนู เธอเลือกสั่งทาโก้ปลา และ ฮัมมิ่งเบิร์ด มาการิต้า 

เจนนภัสหันมาเห็นอุษา จีงตรงเข้ามาหาทันทีทักด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ทั้งที่วันก่อนยังเหมือนอารมณ์ไม่ดี

“เป็นไงบ้างอูฐ ปรับตัวพอได้มั้ย ไม่เจอกันสองปี ผอมลงอีกป่ะเนี่ยะ”

“ผอมเหรอ ไม่น่านะ น้ำหนักก็เท่าเดิม” อุษาก้มดูตัวเอง

“มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง เริ่มงานวันไหน” 

“พรุ่งนี้ละ เดี๋ยวช่วงบ่าย ฉันต้องเตรียมตัวแล้ว” 

“แหม ไฟแรงเนอะ”  เจนนภัสแซว

สักพัก มีชายคนหนึ่งเดินมาโอบไหล่เจนนภัส อุษาเห็นเจนนภัสพยายามปัดมือเขาออกจากไหล่ ขยับตัวออกห่างเล็กน้อย ภาษากายนั้นชัดเจน แต่อุษาทำเป็นว่าไม่สนใจ ส่วนราฟาเอลยิ้มแฉ่ง

“นี่เจ้าของร้าน ชื่อ ราฟาเอล นะ เอ่อ.. ราฟ นี่เพื่อนฉันเอง ชื่อ อุษา” 

เจนนภัสแนะนำให้อุษารู้จัก อุษาและราฟาเอลจับมือทักทายกัน 

“คุณทำงานที่ไหน อุษา”

“โรงแรม ลา ฮอยย่า ซี วิว ฉันเริ่มงานพรุ่งนี้ ไว้จะมาฝากท้องที่นี่บ่อยๆ”

อุษายิ้มให้แบบเป็นมิตร จากนั้นเจนนภัสก็นั่งคุยเป็นเพื่อน จนกินเสร็จ อุษาก็บอกลาและเรียกแท็กซี่กลับโรงแรม

รถหรูสปอร์ตสีเขียวยังจอดอยู่ อุษาตรงไปที่ล็อบบี้ พร้อมกับขอให้ติดต่อเอมิเลีย สักครู่พนักงานจึงแจ้งให้เธอขึ้นไปชั้นสอง หลังออกจากลิฟท์จะเจอเป็นห้องแรก มีป้ายชื่อและตำแหน่งแจ้งที่หน้าประตู  เมื่อไปถึงหน้าห้องทำงานของเอมิเลีย เธอสังเกตว่า ห้องตรงกันข้าม มีชื่อและตำแหน่งของลูกชายเจ้าของโรงแรมอยู่ เธอเคาะประตูห้อง เสียงเอมิเลียบอกให้เธอเข้ามาได้

อุษานำหลักฐานการเปิดบัญชีให้เอมิเลีย เพื่อจะสามารถใช้รับเงินเดือนและให้เบอร์โทรศัพท์ที่พึ่งเปิดใหม่ให้เพื่อใช้ติดต่อกันได้  จากนั้นเอมิเลียเริ่มต้นบอกฏกระเบียบ

“เธอมี W******p ไหมอุษา? เปิดแอพนี้ใช้ที่นี่นะ เพราะทุกคนที่นี่นิยมใช้กัน นี่เบอร์ฉันนะ ทักมาละกัน”

“เธอเลือกวันหยุดได้หนึ่งวันต่อสัปดาห์ โดยต้องเลือกเป็นวันธรรมดาเท่านั้น แต่ถ้าต้องการวันหยุดตรงกับเสาร์หรืออาทิตย์ด้วยเรื่องเร่งด่วน ต้องแจ้งฉันล่วงหน้าเท่านั้น ถ้าลาป่วยมีเอกสารรับรอง จะไม่ถูกหักค่าแรง แต่เธอไม่ต้องห่วงเพราะทางเราซื้อประกันสุขภาพให้เธอไว้แล้วหนึ่งปี”

“วันหยุดราชการเราจะไม่ได้หยุด แต่จะสามารถเก็บไว้ใช้เพื่อลาพักร้อนได้ แต่ก็ต้องดูว่าใช้ได้ช่วงไหนและต้องแจ้งล่วงหน้าเช่นกัน”

“เงินเดือนสำหรับเธอ คงรู้ตั้งแต่เมลไปแล้ว เธอพึ่งเข้าทำงาน จะเริ่มที่ 3,600 ดอลลาร์/เดือน ยอดที่โอนให้จะเป็นยอดที่หักภาษี ณ ที่จ่ายแล้วนะ ครบสามเดือนจะพิจารณาการขึ้นให้”

เอมิเลีย หยุดพูด จับไหล่อุษาทั้งสองข้าง

“งานนี้ปัญหามีทุกวัน การเจอคนเยอะๆมันจะมาพร้อมกับปัญหาที่เยอะตาม แถมเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องได้รับการแก้ไขแบบเร่งด่วน ทำตัวให้จุดเดือดต่ำเข้าไว้ ใจเย็นและอดทน งานนี้จะทดสอบว่าเธอมี EQ แค่ไหน ฉันหวังให้เธออยู่กับเราจนครบสัญญานะ อุษา”

อุษาพยักหน้าแล้วกล่าวว่า 

“ขอบคุณ ที่แนะนำมาทั้งหมด คุณมีน้ำใจกับฉันมาก”

“อ้อ.. เธอมีห้องทำงานส่วนตัวนะ อยู่ชั้นนี้แต่อยู่อีกด้านของฝั่งนี้ มีป้ายชื่อเธอและตำแหน่งอยู่ ในห้องอาจจะมีของคนเก่าที่ลาออกไปแล้วบ้าง อันไหนไม่ใช้ก็ทิ้งได้นะ”

อุษายิ้มรับ ยกมือไหว้ขอบคุณแล้วขอตัวกลับห้องพัก

เธอเดินไปที่ลิฟท์กำลังจะแตะเพื่อเปิดประตู ก็มีมือใครบางคนมากดปุ่มก่อนเธอจากข้างหล้ง ทำเอาอุษาหดมือ ตกใจขยับตัวหนี 

“อุ๊ย” 

พอเธอหันไปมอง ก็ตกใจมาก เขาคือคนที่เธอสบตาเมื่อวานตอนกลับจากเดินที่ชายหาด เจ้าของรถสีเขียวประหลาดคันนั้น เขาสูงมากจนอุษาต้องแหงนมองคอแทบหัก 

“เชิญคุณก่อน” 

เขาผายมือให้อุษาเข้าไปก่อน เธอกล่าวขอบคุณโดยไม่มองหน้า พร้อมกับเดินเข้าไปแบบตัวลีบๆ ก้มหน้ามองพื้น พอประตูปิด เขาพูดขึ้นมาทันที

“ผมเห็นเอกสารของคุณ เหมาะสมแล้วที่มาทำงานที่นี่ มิสยูเอสเอ”

เขาพูดยิ้มๆ หน้าตาดูเป็นคนเจ้าชู้ แต่อุษายิ้มเจื่อนๆ

ขำตายล่ะ มุกฝืดๆ อุษาคิดในใจ พอดีกับที่ลิฟท์เปิดที่ชั้นหนึ่ง อุษารีบเดินออกไปแต่เขาเรียกเธอไว้.. 

“ยูเอสเอ คุณไม่อยากถามผมเหรอว่า ชื่ออะไร แบบว่า.. แนะนำตัวกันแบบคนที่เจริญแล้วเค้าทำกัน ผิดวิสัยคนที่จะทำงานบริการมากนะ”

อุษาดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว…

ตายล่ะ..ลืมว่าเขาคือลูกชายเจ้าของควบตำแหน่ง GM ซึ่งก็คือเจ้านายเธอโดยตรง อุษารีบหันกลับมาอย่างไว กิริยาสำรวม พูดด้วยความจริงจัง

“ฉันต้องขอโทษจริงๆ ฉันพึ่งคุยกับเอมิเลียเรื่องกฏการทำงาน ในหัวสมองฉันคิดอะไรยุ่งเหยิงนิดหน่อย ทำให้ฉันเสียมารยาทกับคุณ”

อุษายกมือไหว้ขอโทษเขา เธอทำหน้าจริงจังแต่ก็ดูสำนึกผิด

“ที่นี่ไม่มีคนเอเชียในตำแหน่งระดับผู้จัดการมาก่อน ในประวัติการทำงานที่คุณส่งมา คุณเองก็ไม่เคยทำงานที่ต่างประเทศ ผมเข้าใจ เราคงต้องปรับตัวกันทั้งคู่ ผม..แพทริค สมิธ ยินดีที่รู้จัก”

น้ำเสียงเขานุ่ม ทุ้ม สำเนียงดูไพเราะกว่าทุกคนที่เธอได้ยินมาตั้งแต่มาที่นี่

“ฉัน ชื่อ อุษา..แต่คุณเรียกผิดว่า ยูเอสเอ ที่นี่คนเรียกชื่อฉันไม่ค่อยถูก”

อุษาพูดโดยไม่สบตาเขา

“ผมอยากเรียกแบบนี้ ตอนนี้โรงแรมของผมมี มิสอเมริกา” 

เขาหัวเราะนิดๆ และคิดว่าสำเนียงเธอช่างน่ารัก เขาไม่เคยได้ยินสำเนียงแบบนี้มาก่อน ภาษาอังกฤษของเธอถึงยังไม่เก่งมากแต่สื่อสารได้ไม่แย่ ถือว่าไม่เลวทีเดียว

ระหว่างนั้น พนักงานที่ผ่านไปผ่านมา ล้วนมองที่ทั้งคู่เป็นตาเดียว หลายคนทักทายแพทริค จนกระทั่งโทรศัพท์ของแพทริคข้อความเข้า เธอเห็นแบบนั้นจึงถือโอกาสขอตัวออกมาเพื่อกลับห้อง 

อุษาอยู่ห้องจนถึงเวลามื้อเย็น เธอส่งข้อความทิ้งไว้ให้พ่อกับแม่แล้ว จึงไปห้องอาหาร พูดคุยทักทายกับคนทำอาหาร แล้วจึงนำอาหารมานั่งที่โต๊ะ รอบนี้มีคนมาถามขอนั่งด้วย โรสมาเรีย นั่นเอง

“ไง อุษา พรุ่งนี้เริ่มงาน กังวลมั้ย ไม่ต้องซีเรียสไปก่อนนะ รีแลกซ์ๆ”

“ใช่ ฉันพร้อม ไม่มีงานอะไรที่ไม่เหนื่อย ที่ๆฉันจากมาก็เหนื่อยเหมือนกัน”

ทั้งคู่คุยกัน เริ่มคุยถูกคอและแลกเบอร์กัน อุษาดูผ่อนคลายมากขึ้น จนกระทั่ง เอมิเลียถืออาหารเข้ามานั่งร่วมด้วย

“ขอนั่งด้วยนะ” 

โรสมาเรียจากที่พูดๆสนุกสนานก็เงียบ ท่าทางอึดอัดเล็กน้อย อุษามองจากหางตา เธอจึงเงียบไปด้วย แล้วยิ้มเล็กๆให้เอมิเลีย สายตาเอมิเลียดูซีเรียส หรืออุษาคิดไปเอง

“ฉันได้ยินพนักงานที่ฟร้อนท์พูดกัน เธอคงเจอกับคุณแพทริคแล้วใช่มั้ย”

“ใช่ ฉันเจอเขาหลังจากออกจากห้องคุณ บังเอิญเขามาลงลิฟท์พร้อมกับฉัน เลยแนะนำตัวกัน เขาค่อนข้างไม่ถือตัว”

เอมิเลียมองหน้าอุษาก่อนจะพยักหน้า ยิ้มมุมปาก

“คุณแพทริคเฟรนด์ลี่แบบนี้แหละ แต่อยากให้เธอโฟกัสกับงาน เพราะคุณแพทริค เรื่องงานเขาจริงจังและเข้มงวดมาก ฉันไว้ใจว่า เธออยากมาทำงานจริงๆ อย่าลืมสิ่งที่ตั้งใจไปกับสิ่งที่ยั่วยุแล้วกัน”

โรสมาเรียลุกขึ้นเก็บจานและแก้วน้ำ แล้วบอกทั้งสองคนว่า ขอตัวไปทำงานก่อน ส่วนอุษา เธอกินเสร็จแล้วเช่นกัน จึงพูดกับเอมิเลียเบาๆแต่หนักแน่น ก่อนจะออกไปจากห้องอาหาร

“ฉันตั้งใจมาทำงานจริงและฉันรู้ว่าใครคือเจ้านาย ใครคือลูกน้อง คุณไว้ใจได้ ฉันจะอยู่ครบตามสัญญางานแน่นอน ฉันขอตัวก่อนนะ”

อุษารีบเดินตามโรสมาเรียจนทัน ก่อนที่เธอจะเลี้ยวไปทางห้องสปา

“โรส โรส ขอคุยด้วยแป๊ปนึงได้ไหม”

“เป็นอะไร อยู่ๆก็ออกมา ทำคิ้วขมวดเชียว เธอมีอะไรกับเอมิเลียหรือเปล่า”

โรสมาเรีย จับแขนเธอไปคุยที่มุมหนึ่งลับตาคนที่ผ่านไปมา

“ฉันแค่อึดอัดกับท่าทางและคำพูดแบบนี้ของเอมิเลีย ช่างไม่ไว้หน้าเธอ เธอพึ่งมาได้แค่สองวัน ยังไม่ได้เริ่มงานเลยนะ”

อุษายิ้มให้พร้อมจับมือของโรสมาเรีย

“ฉันก็มีศักดิ์ศรีของฉัน ถึงฉันจะมาจากประเทศเล็กๆ ไม่ว่าคนจากประเทศฉันบางคนจะมีชื่อเสียงในทางไม่ดีที่ไหนยังไง แต่ฉันเชื่อ ทุกที่มีทั้งคนดีและไม่ดีแหละ ไม่ใช่จะแย่ทุกคน ฉันมาทำงานไม่ได้มาจับผู้ชายรวย ผู้ชายรวยๆที่ประเทศฉันก็มีเยอะแยะ ไม่ต้องถ่อมาถึงที่นี่หรอก ฉันไม่สนใจคนที่อคติกับฉันโดยไม่รู้จักฉันดีพอ ขอบคุณนะ ที่เธอแคร์ความรู้สึกฉัน”

โรสมาเรียบีบมือเธอ 

“ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่มั้ย”

“แน่นอน มีอะไรทัก w******p นะโรส”

โรสมาเรียกลับไปที่ห้องสปาของโรงแรมเพื่อทำงานต่อ เธอคิดว่าสาวไทยคนนี้ไม่ใช่คนโง่เลย  ถึงหน้าตาจะดูนิ่งจนดูเหมือนหยิ่ง แต่พอคุยด้วยจริงๆเป็นคนมีเสน่ห์ เธอรู้สึกได้ว่าอุษาก็มีอีโก้ของตัวเธอเองเหมือนกัน และเธอคงเอาตัวรอดที่นี่ได้ไม่ยาก

เจนนภัสโทรเข้ามาว่าจะมาเที่ยวหาเธอหลังเลิกงาน ระหว่างรอเพื่อนอุษาใช้เวลาว่างคุยกับพ่อแม่ ดูข่าวคราวทางประเทศไทย ฝึกคำศัพท์และสำเนียงบางคำที่ต้องใช้ในเวลางาน 

เมื่อเจนนภัสมาถึงหน้าโรงแรม ส่งข้อความให้อุษาออกมาหาเธอ เพราะไม่กล้าเข้าไป อุษาจึงออกไปพาเจนนภัสมาที่ห้องพักของเธอ

“ดีจัง ที่ทำงานมีห้องพักให้ด้วย แถมห้องกว้างด้วยอ่ะ บรรยากาศก็ดีเว่อร์ โรงแรมก็สวย”

“เธอไม่เคยมาแถวนี้เหรอ?” 

อุษาถามพร้อมกับยื่นน้ำผลไม้ให้เจนนภัส

“ไม่อ่ะ ทำงานละก็กลับห้อง ไปเที่ยวกับพนักงานบ้าง ราฟาเอลพาไปเที่ยวบ้าง แต่ไม่เคยมาแถว ลา ฮอยย่า นี่มันย่านคนรวย”

เจนนภัสพูดพร้อมเบะปาก

“แล้วไง ย่านคนรวย คนปกติมาไม่ได้หรือไง คนทำงานเยอะแยะไป คิดมากไปหรือเปล่า เจนเอ้ย”

 อุษาส่ายหน้า พร้อมกับเลิกคิ้วข้างหนึ่ง

“ก็คนที่ร้านพูดกันว่า เวลามาแถวนี้ รู้สึกเหมือนตัวเล็กลงเรื่อยๆหรือแทบไม่มีตัวตน ยิ่งเป็นคนต่างด้าว ต่างชาติ มาทำงานที่นี่ หลายคนก็มักมองเหยียดๆหรือพูดเหยียดๆ ฉันเลยเลี่ยงดีกว่า”

เจนนภัสเบะปากอีกรอบ 

ตอนคุยกันทุกวัน ก่อนอุษามาอเมริกา เหมือนเจนนภัสเป็นคนมั่นใจในตัวเองมาก พอมาเจอวันนี้ กลับเจอแต่เจนนภัสคนหงอซะงั้น อุษาแอบขำเพื่อนในใจ

นี่สินะ โรสมาเรียถึงโกรธแทนเธอเพราะเอมิเลียเป็นคนขาวและเป็นอเมริกัน ถึงแม้เอมิเลียจะดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่วันนี้เธอรู้สึกได้ถึงการพูดกดให้รู้สถานะตัวเอง แต่อุษาไม่ได้มายด์มาก

เจนนภัสมาหาอุษาประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็เรียก Uber ให้มารับกลับ เธอคิดถึงเรื่องของอุษา ไม่เจอกันสองปี อุษาดูสวยขึ้น ผิวพรรณขาวผ่อง มือเรียวสวย บ่งบอกถึงไม่ได้ทำงานหนัก อาจเพราะอุษาทำงานสบายในออฟฟิศมาตลอด ไม่ได้ออกแดด อุษามีของใช้ส่วนตัวยี่ห้อดีๆ น้ำหอมแบรนด์แพงบนโต๊ะเครื่องแป้ง โทรศัพท์รุ่นใหม่ โน้ตบุ๊คราคาแพง

ก็นะ..ตอนอยู่กรุงเทพคงประหยัด มาเมืองนอกทั้งที คงกลัวคนที่นี่ดูถูก พร้อมกับมองโทรศัพท์ของเธอเองที่รุ่นเก่ากว่า แล้วก็คิดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเธอเองว่า

 “ก็มัวประหยัด เลยไม่มีสังคมแบบนั้นแหละ”

ทางด้านอุษา เอมิเลียส่งข้อความมาให้อุษาสไกป์กับเธอ เพื่อจะได้วีดีโอคอลกัน เตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้…วันแรกของการทำงาน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status