ตอนที่ 1
ล้มเหลว
ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก
คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่
อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้
“ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ”
รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่
“แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แบบนี้ลูกค้าน่าจะชอบ”
ภูษิตตอบแบบไม่จริงจัง เขาคิดว่าไม่นานรัชพลกับเลขาเก่าของพ่อเขาก็จะช่วยกันหาทางออกได้
กำไรของโรงแรมเริ่มลดต่ำลงและที่ทำเอาชายหนุ่มถึงกลับหัวร้อนคือการยื่นใบลาออกของเลขาเก่าคุณพ่อด้วยเหตุผลว่าเขาไม่สามารถทำงานคนเดียวแบบไร้หัวหน้าในการช่วยตัดสินใจได้
“พลแกลองอ่านดู อยากรู้จังว่าออกจากที่นี่แล้วมันจะไปทำงานที่ไหน”
ภูษิตรู้สึกหัวเสียมากและที่สำคัญคือเขากลัวว่าถ้าอดุลย์รู้ถึงสาเหตุที่คนสนิทของเขาลาออกอาการของพ่อก็จะทรุดลงไปอีก
“คุณชวาลเขาออกไปทำงานกับโรงแรมที่ใหญ่ไม่แพ้เราที่เป็นของคุณอนุสรณ์ และตอนนี้โรงแรมนั้นคนเต็มแทบทุกวัน เพราะเขามีการแสดงและอาหารเช้าที่ใคร ๆ ก็พากันร่ำลือว่าแสนจะพิเศษ”
ภูษิตนั่งเงียบพร้อมกับพยายามคิดหาวิธีการที่จะแย่งลูกค้าจากอีกโรงแรมด้วยวิธีที่ไม่ใช่การตลาดแบบที่ผู้บริหารทั่วไปคิดแต่สำหรับเขา มันต้องไม่ธรรมดา
“รัชพลนายไปหาขอมูลของคุณอนุสรณ์และครอบครัวของเขามาให้หน่อย ขอแบบเร็วที่สุดเลยนะ สงสัยต้องหาอะไรสนุก ๆ ทำเสียหน่อย”
เลขาที่เป็นมากกว่าเลขาได้ยินเพื่อนพูดแบบนี้เขารู้เสียววาบไปทั่วท้อง แต่ละอย่างที่เพื่อนของคิดว่าสนุกล้วนแต่ไม่เคยเป็นสิ่งที่ดีเลย
รัชพลใช้เวลาหาข้อมูลแค่เพียงสองวัน เขารู้ได้ทันทีว่าถ้าเขาเอาข้อมูลที่เกี่ยวกับลูกสาวของอนุสรณ์ให้ภูษิต ขั้นตอนต่อไปเพื่อนของเขาจะทำอย่างไรต่อ
“สวยมาก น่ารักโคตร ๆ ไปอยู่ที่ไหนมาทำไมฉันไม่เคยเห็นเลยวะ”
ภูษิตนั่งมองรูปของลูกสาวคู่แข่งที่เธอมีทั้งความสวยและความน่ารักในตัว
“เธอไม่ได้ไปแอบอยู่ที่ไหนหรอกแต่วัน ๆ นายไม่มองผู้หญิงที่อยู่ระดับเดียวกันเลยเอาเวลาไปเลี้ยงแต่นักศึกษาถึงได้ไม่เคยเจอเธอทั้งที่อยู่ในวงการเดียวกัน”
“เผลอไม่ได้ เผลอเป็นหลอกด่า เอาเป็นว่าแกไม่คิดจะบอกชื่อแม่คนสวยให้รู้จักหน่อยเหรอ”
รัชพลถอนหายใจเพราะรู้ได้เลยว่าหลังจากรู้ชื่อคำถามต่อไปคืออะไร
“เธอชื่อใบหยก ถ้าอยากเจอเธอไปเจอได้ที่สนามกีฬาจังหวัดและก็โรงเรียนสอนภาษาในมหาวิทยาลัยช่วงค่ำเธอเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ที่นั่น”
ภูษิตปรบมือให้กับความรู้งานของเพื่อนที่รายงานทุกอย่างได้ครบจนเขาไม่ต้องถามต่อ
“วันนี้ประชุมเสร็จฉันคงออกจาโรงแรมเลย จะไปหาซื้อรองเท้าวิ่งเสียหน่อยและไหนจะต้องไปสมัครเรียนภาษาญี่ปุ่นอีก”
เสร็จจากประชุมภูษิตก็ตรงไปยังสนามกีฬาจังหวัดทันที แต่เมื่อไปถึงสนามกีฬากว้างมากเขารู้แค่เพียงว่าใบหยกมาวิ่ง เขาไม่รู้ว่าวันนี้วิ่งไปวิ่งมาจะได้เจอกันไหม
ชายหนุ่มตัดสินใจวิ่งสักหน่อยเพราะอย่างไรก็เสียเวลามาแล้ว ถือว่ามีโอกาสได้ดูแลสุขภาพไปด้วย พอรู้สึกเหนื่อย เก้าอี้ใต้ต้นไม้ที่มีอยู่เกือบตลอดทาง จึงเป็นที่พักเหนื่อยของมือใหม่เพิ่งหัดออกกำลังกาย
เชือกรองเท้าที่หลุดทำให้ภูษิตต้องก้มลงไปผูกเพราะคิดว่าจะกลับแล้วเดี๋ยวจะเดินสะดุดเอา แต่พอเขาเงยหน้าขึ้นมา ฟ้าก็ส่งหญิงสาวที่เขาตามหาให้วิ่งผ่านหน้าเขาไป
ภูษิตลุกวิ่งต่อทันที เขาค่อย ๆ วิ่งตามใบหยกไปแต่ยังไม่กล้าเข้าไปทักทายเพราะอยากแน่ในว่าเธอมาคนเดียวไม่ใช่มีใครแอบมาด้วย เพราะผู้หญิงสมัยนี้แอบมีแฟนกันลับ ๆ แบบผู้ใหญ่ไม่รับรู้เยอะแยะไป
ชายหนุ่มได้โอกาสเมื่อหญิงสาววิ่งช้าลงและตอนนี้เปลี่ยนเป็นเดินเร็วแทน
“ขอโทษนะครับ ใช่คุณใบหยกลูกสาวคุณอนุสรณ์หรือเปล่าครับนี่ ผมรู้สึกคุ้น ๆ ”
หญิงสาวยังคงเดินต่อหันมาส่งยิ้มแบบสงสัยโดยที่เธอไม่ยอมตอบอะไร
“ผมชื่อภูษิตเป็นลูกชายคุณอดุลย์เจ้าของโรงแรมที่อยู่ใกล้กับโรงแรมของคุณ”
ใบหยกหยุดเดินและหันมายกมือสวัสดี ด้วยสีหน้าที่ดูสดใสแม้ไร้เครื่องสำอางมีแต่เหงื่อที่ไหลอยู่เต็มใบหน้าแต่เธอก็ยังดูสวยเพราะผิวของเธอละเอียดมาก
“หยกจำได้แล้วค่ะ แต่ตอนนั้นที่เราเจอกันพี่ภูรีบไปไหนสักอย่างเลยไม่ได้อยู่ประชุมกับทางจังหวัด ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ว่าแต่พี่มาวิ่งที่นี่บ่อยไหมคะ ทำไมใบหยกไม่เคยเจอเลย หรือเรามากันคนละเวลา”
หญิงสาวพูดเก่งกว่าที่ชายหนุ่มคิด ตอนแรกเธอคิดว่าจากความสวยบนใบหน้าเธอคงหยิ่งน่าดูแต่พอเจอตัวจริงคนอะไรน่ารักไปหมดทุกอย่าง
“พี่เพิ่งมาวันแรก ช่วงนี้มีแต่คนว่าอ้วนขึ้นเลยอยาก ออกกำลังกาย อายุมากขึ้นด้วยระบบเผาผลาญคงไม่ดีแล้ว นี่วันนั้นพี่แค่เดินผ่านร้านขนมยังไม่ทันกินกลับถึงบ้านน้ำหนักขึ้นเลย นี่แค่ได้กลิ่นนะ”
ใบหยกหัวเราะให้กับพูดตลกของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งรู้จัก ทั้งคู่เดินคุยยืดเส้นยืดสายกันได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหญิงสาวก็ขอตัวกลับก่อน
“พรุงนี้ใบหยกมาไหม” ชายหนุ่มไม่อยากมาเก้อ
“มาค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
หญิงสาวตะโกนตอบก่อนที่จะวิ่งข้ามถนนไปยังรถยนต์ คันหรูที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ภูษิตรีบแอบดูทะเบียนรถทันทีเผื่อจะมีประโยชน์ในอนาคตข้างหน้า
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 1แทบละลายเพราะสายตาบอส “พนักงานคนใหม่ชื่ออะไร” ภูเบศลูกชายท่านประธานบริษัทถามถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอตอนที่มาถึงที่ทำงานในตอนเช้ากับหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอาการแสดงออกถึงความสนใจเป็นพิเศษ “คนไหนคะ” ยุพาถามตามซื่อเพราะเดือนนี้ที่แผนกของเธอมีพนักงานใหม่ถึงสองคน “ก็คนนั้น เอ่อ...คนที่ตัวเล็ก ๆ อวบหน่อยๆ” คนถามทำสีหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าไม่อยากเจาะจงชัดเจนว่าคนที่เขากำลังถามถึงมีลักษณะอย่างไร “ล้านนา ยุพาว่าคนที่คุณภูเบศหมายถึงน่าจะเป็นล้านนาค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลูกน้องสาวถามออกไปเพราะกลัวว่าพนักงงานใหม่จะทำอะไรให้เจ้านายเธอไม่พอใจหรือเปล่าแต่เมื่อมองสบตาคนตรงหน้า ยุพาก็รีบพาตัวเองออกจากห้องท่านรองประธานทันที “ไม่รู้ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่” ภูเบศบ่นพึมพำมือเท้าเอวส่ายหัวไปมาในความช่างซักไซ้ของลูกน้องคนสนิท ภาพของหญิงสาวในชุดพนักงานของบริษัทที่ดูเข้ารูปทำให้เห็นหุ่นอันอวบอิ่มได้อย่างชัดเจนยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเจ้านายหนุ่มที่สุดแสนจะเจ้าชู้เป็นตัวพ่อของสังคมนักธุรกิ
ตอนที่ 2เธอทำให้ฉันรู้สึกสำคัญ ความใกล้ชิดระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเริ่มมีมากขึ้นถึงแม้ว่าต่อหน้าคนอื่น ๆ ภูเบศจะไม่ได้แสดงอะไรออกมาเกินกว่าที่ควรจะเป็น “ฉันซื้อขนมมาฝากอยู่ตรงเครื่องถ่ายเอกสารนะ” ชายหนุ่มพูดลอย ๆ เมื่อล้านนาเดินสวนกับเขาตรงหน้าห้องของแผนกด้วยท่าทางเหมือนว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้พูดกับเธอ ขนม ข้าวหรือแม้แต่กาแฟเขาก็หมั่นซื้อมาฝากลูกน้องคนนี้มาโดยตลอด ล้านนาเองเธอเริ่มรู้สึกกับภูเบศมากเกินกว่าเจ้านายเพราะลึก ๆ หญิงสาวก็แอบคิดว่าเจ้านายของเธอดูแลห่วงใยเธอมากกว่าพนักงานคนอื่น ๆ “ล้านนาแกคิดเข้าข้างตัวเองมากไป ผู้หญิงจน ๆ ไม่สวยอย่างแกใครเขาจะมาสนใจ” สาวน้อยในวัยเป็นสาวบานสะพรั่งพูดกับกล่องขนมในมือของเธอเพื่อเตือนตัวเองไม่ให้คิดไปไกลกว่านี้ “ทุกคนคะพรุ่งนี้ท่านรองประธานจะพาพวกเราไปเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเราทำงานล่วงเวลากันมาหลายวัน มีใครไปไม่ได้ไหมเพราะอาจจะกลับดึกหน่อย” ยุพาเดินออกมาจากห้องของเจ้านาย เธอก็มีข่าวดีมาแจ้งให้ลูกน้องทุกคนในแผนกได้รู้ “หนูไม่ไปนะคะพี่ยุพา ลูกชายไม่ค่อย
ตอนที่ 3บอสขา...ใจเย็น “เธอตรวจบัญชีของเดือนที่แล้วและทำของเดือนนี้ด้วยให้เสร็จภายในวันนี้ พรุ่งนี้พี่ต้องเอาเสนอแผนกการเงิน ส่วนนี่เงินค่าจ้างเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นนะ” ยุพาส่งธนบัตรใบสีเทาให้ลูกน้องใหม่ของเธอเพื่อเป็นค่าจ้างที่เธอให้ล้านนาช่วยทำบัญชีให้ “ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีงานอะไรหรือใครจะจ้างหนูทำงานอื่นพี่ยุพาบอกได้เลยนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยความดีใจนาทีนี้อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ล้านนาพร้อมจะทำหมดเพราะบ้านของเธอกำลังจะพังต้องใช้เงินซ่อมยังโชคดีที่พ่อของเธอพอมีความรู้เรื่องช่างจึงทำเองได้แต่ยังหาเงินซื้ออุปกรณ์ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีเงินเก็บเลยจึงต้องพยายามหารายได้พิเศษ “พี่จะพยายามหาให้แต่งานที่พี่ให้ทำห้ามคนอื่นรู้เด็ดขาดเพราะโทษของการเปิดเผยบัญชีเงินเดือนพนักงานคือไล่ออกสถานเดียว” วันนี้ภูเบศไม่เข้าบริษัทเพราะมีประชุมข้างนอก บริษัทในช่วงหลังเลิกงานจึงเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่ล้านนาจะทำบัญชีให้หัวหน้าเพราะไม่ต้องกลัวใครเห็น งานบัญชีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับล้านนาถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้จบทางนี้มาโดยตรงแต่ก็เคยเรียนมาบ้างและก็ได้ผลการเ
ตอนที่ 4ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อรักคุณ “ถึงแล้ว” ล้านนาเผลอหลับมาตลอดทางเพราะเธอทั้งเหนื่อยจากงานและเพลียจากความรู้สึกผิดมารู้สึกตัวอีกทีก็ถึงที่พักแล้ว “คุณพาฉันมาที่ไหน” “ไม่ต้องถามแค่เธอรู้ว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไรก็พอ” คนตอบดูไม่มีเยื่อใยไม่มีความอบอุ่นแบบเดิมเหมือนที่ล้านนาแอบชอบมาตลอด ภูเบศกลายเป็นคนละคนกับที่หญิงสาวเคยคิดวาดภาพของเขาไว้ “อาบน้ำให้สะอาด ฉันจะไปอาบอีกห้อง” ชายหนุ่มโยนผ้าเช็ดตัวสีขาวให้สาวน้อยที่กำลังยืนงงแบบคนเพิ่งตื่นนอนก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกจากห้อง “เสื้อผ้า ฉันไม่มีชุดใส่” ชายหนุ่มหยุดเดินและหันกลับมาส่งยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ให้ สายตาของเขามันชวนให้คนตรงหน้ารู้สึกได้ถึงศึกหนักที่เธอจะต้องเจอในคืนนี้ “เธอมาที่นี่เพื่อทำให้ฉันพอใจ ดังนั้นเสื้อผ้าก็ไม่จำเป็น” หญิงสาวผู้เลือกชะตาชีวิตที่แสนเศร้าให้กับตัวเองนอนรอการมาของใครบางคนในสภาพที่เรือนร่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กเท่านั้นที่ปกปิดตัวอยู่ ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงเมื่อร่างสูงเดินก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอน ที่
ตอนที่ 2 คนที่ต้องชดใช้ คุณอเนกกลับมาแล้ว ข้าวทิพย์ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดในโรงรถ หัวใจของเธอทั้งกลัว ทั้งเสียใจ เธอกลัวว่า ถ้าคนที่กำลังดูแลส่งเสียเธอทุกอย่างรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนที่เขาจะกลับมา เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี สังคมของไทยมองอย่างไรในเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายเสียหายเสมอ หญิงสาวจึงได้แต่เก็บความเจ็บช้ำอยู่แต่ภายใจและหลับไปกับหยดน้ำตา รุ่งเช้าวันใหม่ “ข้าวทิพย์เรื่องเรียนปรับตัวได้หรือยัง เห็นปีแรกเกรดไม่ค่อยดีเลย” ชายสูงอายุของบ้าน ถามหญิงสาวในการดูแลด้วยความเป็นห่วง เมื่อนั่งพร้อมหน้ากันสามคนบนโต๊ะอาหาร “ดีขึ้นค่ะ เทอมนี้เกรดน่าจะดีขึ้น” คนตอบได้แต่ก้มหน้าอยู่กับจานข้าว เพราะถ้าเธอแค่เพียงเงยหน้า เธอก็ต้องสบตากับคนที่นั่งตรงข้ามเธอ และตอนนี้ เขาก็จ้องมองใบหน้าของเธออยู่ตลอดเวลา “คราม คราม” “ครับคุณพ่อ” ขานรับออกอาการตกใจ ตื่นจากภวังค์ “พ่อเรียกตั้งหลายรอบแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าวันนี้ พ่อเห็นแกนั่งจ้องข้าวทิพย์มันไม่วางตา” อเนกสังเกตตั้งแต่ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว แต่เข
ตอนที่ 3จุดแตกหัก “ครามลูกคิดให้ดีนะ งานแต่งงานที่หนูแพรต้องการ มันใช้เงินถึงสิบล้าน และไหนจะสินสอดอีก เธอรักลูก หรือเธอรักอะไรกันแน่” “เงิน เราก็มีไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม ผมจะทำอย่างที่แฟนผมต้องการไม่ได้ พ่อของแพรมีหน้ามีตา เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี จะให้เธอมาจัดงานเล็ก ๆ ได้อย่างไรครับพ่อ” เสียงสองคนพ่อลูกคุยกันดังจนฟังคล้ายกับกำลังเถียงกันมากกว่า ทำให้ข้าวทิพย์ที่กำลังทำความสะอาดห้องพระอยู่ห้องข้าง ๆ ต้องมาแอบฟังด้วยความเป็นห่วง “เราให้สินสอดเขาสิบล้าน ไหนจะทองอีก เครื่องเพชรก็ไม่ใช่น้อย เรื่องการจัดงานมันควรจะเป็นเรื่องของฝ่ายเจ้าสาว ครามลูกรู้บ้างไหมว่า เงินสินสอดและทรัพย์สินทั้งหมดที่พ่อเตรียมไว้ให้ มันคือเกือบจะทั้งหมดที่เรามีเหลือตอนนี้แล้วนะ” อเนกตั้งใจจะปิดเรื่องที่บริษัทของเขากำลังย่ำแย่เอาไว้ แต่ในเมื่อครามไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย เขาจึงต้องยอมบอกความจริง “แล้วลูกลองคิด ถ้าหนูแพรเธอรู้ว่า เรากำลังแย่ เธอยังอยากแต่งงานกับลูกอยู่ไหม ถ้าอยากรู้ว่า ไอ้ที่คิดมาตลอดว่า ลูกรักเธอ และเธอก็รักลูก มันเป็นความจริงไหม ก็ลองไปบอกหนูแพรนะว่า
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า
ตอนที่ 8การกลับมาของใครบางคน ปิดเทอมแล้วข้าวทิพย์จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย เธออยู่ดูแลและคอยเป็นเพื่อนอเนกจนตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น เพราะได้กำลังใจดี “อีกกี่เดือน ปู่จะได้เห็นหน้าหลานล่ะ” “อีกสี่เดือนค่ะ คุณปู่คงเดินคล่องทันแน่ ๆ” หลานคนแรกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับคนป่วย เขาเคยหมดหวังตั้งแต่แม่ของครามจากไปแล้วก็มาหมดกำลังใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกทีเมื่อบริษัทเริ่มแย่ลง พนักงานเริ่มพากันลาออกจนในที่สุดความเครียดก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอย่างอเนกต้องกลายเป็นแบบนี้เรื่องราวกำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว แพรรำภากลับมาจากใต้ และเริ่มเข้ามาในชีวิตของคราม&n
ตอนที่ 7คำสั่งบิดา “ครามปิดประตู แล้วมาคุยกับพ่อหน่อย” อเนกมีเรื่องที่อยากจะคุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว จึงสั่งให้ปิดประตูเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน “ลูกจะเอาอย่างไรกับข้าวทิพย์ และเด็กในท้อง” “ผมจะพาเธอไปฝากท้องพรุ่งนี้ครับพ่อ ผมรู้ว่าเด็กในท้องคือลูกของผมแน่นอน และผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พอรู้ว่ากำลังจะมีลูก ผมก็ทั้งรักทั้งห่วงลูกผม” “แล้วแม่ของลูกล่ะ” อเนกถามกลับทันที เพราะลูกชายของเขาไม่ได้พูดถึงข้าวทิพย์เลย “ผมไม่รู้ครับพ่อ มันสับสนไปหมด” “ลูกจะสับสนอะไรพ่อไม่รู้ แต่ที่พ่อรู้คือ ลูกถึงเวลาต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย ข้าวทิพย์เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเดินไปหาลูกที่ห้อง ลูกด้วยซ้ำที่ขืนใจเธอ ความจริง ครามไม่ควรจะให้พ่อต้องมาย้ำแบบนี้ ลูกควรจะรู้ดีว่าทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หวังว่าลูกจะคิดได้ว่านอกจากดูแลลูกในท้องของข้าวทิพย์ ลูกควรทำอะไรต่อไปกับข้าวทิพย์ด้วย” อเนกไม่อยากบอกลูกชายตรง ๆ เพราะเขาคิดว่าครามโตพอที่รู้ผิดรู้ชอบได้ด้วยตัวเอง ถ้าลูกเขาคิดไม่ได้ เขาคงต้องทำใจว่าเขาเลี้ยงลูกให้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบ