ตอนที่ 12
ข่าวดี
ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น
“อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ
“พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู
ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ
หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง
“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง”
หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้ว
ทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น
“ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน
“ลูกปลอดภัยแข็งแรงดีค่ะ คุณท่านตั้งชื่อให้ว่า ไอริน ตอนนี้คุณพ่อได้จ้างคนมาช่วยเลี้ยง เพราะทิพย์จะได้มาดูแลคุณได้”
คนป่วยคว้ามือภรรยาไปจับ น้ำตาลูกผู้ชายไหลหยดลงมาด้วยความรู้สึกผิด
“ผมขอโทษนะ ที่ผมทิ้งให้คุณอุ้มท้องรอผมกลับดึกทุกคืน ผมมันสิ้นคิด มัวแต่คิดจะแก้แค้น จนลืมไปว่าผมควรจะอยู่กับปัจจุบัน และทิ้งอดีตนั้นไปเสีย”
“ทิพย์เข้าใจค่ะ มันผ่านไปแล้ว ตอนนี้คุณแค่ต้องรีบหาย และกลับไปช่วยทิพย์เลี้ยงลูก คุณครามได้เป็นคุณพ่อแล้วนะคะ ห้ามอ่อนแอต้องสู้ค่ะ”
ข้าวทิพย์เธอรู้แล้วว่าความสูญเสียคนที่รักแบบไม่มีวันกลับมามันเป็นอย่างไร เธอไม่อยากที่จะเสียครามไป เธอเลือกที่จะลืมและให้อภัยเขาทุกอย่างที่เคยทำไม่ดีกับเธอไว้
“ผมรักคุณนะข้าวทิพย์ รักมากที่สุดในหัวใจเลย” คำว่ารักที่หลุดออกมาพร้อมกับน้ำตา ครามเพิ่งแน่ใจตัวเองว่า เขารักผู้หญิงที่เขารังแกมาตั้งแต่ต้น ก็เมื่อเขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจากเธอไป
“ทิพย์กับลูกก็รักคุณครามมากนะคะ อดีตเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ เราต้องเดินทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่ออนาคตที่ดี พักผ่อนเยอะ ๆ ทิพย์จะมาหาคุณทุกวันแต่คงอยู่ด้วยแค่ไม่กี่ชั่วโมง เพราะต้องกลับไปให้นมยายหนู แต่ดูแล้วคุณน่าจะได้ออกจาโรงพยาบาลเร็ว ๆ นี้นะคะ”
ข้าวทิพย์ให้กำลังสามี ครามยิ้มทั้งน้ำตา ครามอยากเห็นหน้าลูกใจจะขาด แต่เขาก็ไม่ยอมให้ข้าวทิพย์พาลูกมาด้วย เพราะที่โรงพยาบาลมีแต่คนป่วย และตัวชายหนุ่มเองก็คิดว่าอีกไม่กี่วันเขาก็คงจะได้กลับบ้านแล้วเช่นกัน เขารอคอยเวลานั้นด้วยใจจดจ่อ
อเนกเริ่มเดินได้คล่องขึ้น แต่ยังมีปัญหาเรื่องการกลืนอาหารและการพูด แต่ตอนนี้คุณปู่กำลังใจดีมาก ลูกชายก็กำลังจะได้กลับบ้านวันนี้
หลานสาวก็น่าชัง ชีวิตของชายวัยนี้คงไม่มีอะไรมีความสุขเท่ากับการเห็นครอบครัวของลูกมีความสุขอีกแล้ว
“เอ้า ค่อย ๆ เดินนะลูก มานั่งตรงนี้ก่อน” อเนกเดินไปช่วยลูกชายทั้งที่ตัวเองก็ยังเพิ่งจะเดินได้คล่อง
“คุณพ่อมัวแต่ห่วงผม ระวังตัวเองนั่นแหละจะล้มไป” ครามหันไปแซวบิดา ชายหนุ่มยังต้องเข้าเฝือกอีกหนึ่งเดือน จึงยังเดินได้ลำบาก ส่วนเฝือกที่นิ้วสัปดาห์หน้าคุณหมอก็จะให้เอาออกได้แล้ว
“มองหาลูกสาวใช่ไหม พ่อก็ลืมเลยว่า ตั้งแต่ไอรินคลอดออกมาลูกยังไม่ได้เห็นหน้าเลย ใจเย็นนะ คนเลี้ยงเขาเอาไปอาบน้ำแต่งตัว เพิ่งจะถ่ายไป อารมณ์ดีเชียวหลังจากสบายตัว”
“ข้าวทิพย์ หนูก็ไปหาข้าวหาปลาเตรียมมื้อกลางวันไว้เลย เดี๋ยวทางนี้ฉันดูให้”
ครามรู้สึกตื่นเต้น ลูกสาวของเขาลืมตาดูลูกได้เกือบสัปดาห์กว่าแล้ว เขายังไม่มีโอกาสได้เห็นตัวจริงเลย เห็นแต่ในรูปถ่ายที่ข้าวทิพย์เปิดให้ดูเท่านั้น
“คนน่าเกลียดน่าชังของปู่มาโน้นแล้ว”
ไอรินถูกส่งให้ลงมานั่งบนตักของคราม ชายหนุ่มมองหน้าลูกสาว ที่ถอดแบบมาจากเขาเป๊ะเลย จะมีก็แค่เพียงผิวเท่านั้นที่เอาจากข้าวทิพย์
สัมผัสรักของทั้งคู่ส่งผ่านมือหนาที่ลูบมือเล็กบางอย่างทะนุถนอม ครามเองไม่คิดมาก่อนเลยว่า ความสุขของการที่ได้เป็นพ่อคน มันเป็นแบบไหน จนได้สัมผัสด้วยตัวเองถึงได้เข้าใจ ความรักของพ่อเปรียบกับสิ่งใดในโลกนี้ไม่ได้เลย
อาหารเย็นมื้อนี้ เป็นมื้อที่มีความสุขที่สุด เป็นวันพิเศษที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
ผ่านไปหนึ่งเดือน
ครามกลับมาเดินไปเป็นปกติ ธุรกิจยังคงเดินไปได้มีสะดุดนิดหน่อย แต่เลขาฯ คนเก่งก็สามารถจัดการให้ทุกอย่างผ่านไปได้ดี
แพรรำภาจัดการเรื่องฟ้องหย่าได้สำเร็จ พ่อของเธอถูกดำเนินคดี เธอเหลือเพียงตัวคนเดียว ครบรอบวันตายของแม่ข้าวทิพย์ หญิงสาวเจอเธอมาไหว้ขอขมาที่เก็บกระดูกของแม่
“คงไม่สายไปใช่ไหมที่ฉันจะรู้สึกผิด”
แพรรำภาหันมาพูดกับข้าวทิพย์ที่กำลังตั้งท้องใกล้คลอดและครามที่กำลังจูงมือไอรินที่อายุใกล้จะถึงสองขวบแล้ว
“ไม่หรอกค่ะ ทำใจให้สบายนะคะ ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุขที่สุดดีกว่าค่ะ ครอบครัวของเราเป็นกำลังให้คุณแพรนะคะ”
หญิงสาวที่เคยสวยสง่าหน้าตาดีเดินออกจากวัดไปด้วยความโดดเดี่ยว เธอไม่เหลืออะไร หรือใครแล้ว ทุกอย่างเป็นเพราะเธอที่ใช้ชีวิตอย่างประมาท บทเรียนชีวิตนี้ทำให้แพรรำภาตัดสินใจที่จะบินไปเริ่มต้นใหม่ที่ต่างประเทศ เมื่อตั้งสติได้เธอถึงจะบินกลับมาเยี่ยมบิดาที่ติดคุกในคดีฉ้อโกง
ข้าวทิพย์พาครอบครัวมาหามารดา เธออยากให้แม่รู้ว่าตอนนี้ชีวิตของเธอมีความสุขเพียงใด การมีครอบครัวที่อบอุ่น คือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเธอแล้ว
“ขอบคุณนะคะ ที่คุณรักและดูแลทิพย์กลับลูก” หญิงสาวหันไปมองหน้าสามี เพื่ออยากให้เขารู้ว่าเธอดีใจที่สุดที่ได้เป็นภรรยาเขา
“ผมก็ขอบคุณทิพย์ที่อยู่ข้างผมตลอด คุณทำให้ผมรู้ว่ารักแท้กับความหลงมันต่างกัน นับจากนี้ทุกลมหายใจของผมมีไว้เพื่อคุณกับลูกของเราเท่านั้น” สองสามีภรรยาและเด็กน้อยในอ้อมกอด ต่างกอดกันด้วยความสุขต่อหน้าที่เก็บกระดูกของมารดาข้าวทิพย์ ซึ่งตอนนี้วิญญาณของท่านคงมองความสุขของลูกหลานอยู่ที่ไหนสักแห่งอย่างหมดห่วง
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 1แทบละลายเพราะสายตาบอส “พนักงานคนใหม่ชื่ออะไร” ภูเบศลูกชายท่านประธานบริษัทถามถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอตอนที่มาถึงที่ทำงานในตอนเช้ากับหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอาการแสดงออกถึงความสนใจเป็นพิเศษ “คนไหนคะ” ยุพาถามตามซื่อเพราะเดือนนี้ที่แผนกของเธอมีพนักงานใหม่ถึงสองคน “ก็คนนั้น เอ่อ...คนที่ตัวเล็ก ๆ อวบหน่อยๆ” คนถามทำสีหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าไม่อยากเจาะจงชัดเจนว่าคนที่เขากำลังถามถึงมีลักษณะอย่างไร “ล้านนา ยุพาว่าคนที่คุณภูเบศหมายถึงน่าจะเป็นล้านนาค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลูกน้องสาวถามออกไปเพราะกลัวว่าพนักงงานใหม่จะทำอะไรให้เจ้านายเธอไม่พอใจหรือเปล่าแต่เมื่อมองสบตาคนตรงหน้า ยุพาก็รีบพาตัวเองออกจากห้องท่านรองประธานทันที “ไม่รู้ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่” ภูเบศบ่นพึมพำมือเท้าเอวส่ายหัวไปมาในความช่างซักไซ้ของลูกน้องคนสนิท ภาพของหญิงสาวในชุดพนักงานของบริษัทที่ดูเข้ารูปทำให้เห็นหุ่นอันอวบอิ่มได้อย่างชัดเจนยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเจ้านายหนุ่มที่สุดแสนจะเจ้าชู้เป็นตัวพ่อของสังคมนักธุรกิ
ตอนที่ 2เธอทำให้ฉันรู้สึกสำคัญ ความใกล้ชิดระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเริ่มมีมากขึ้นถึงแม้ว่าต่อหน้าคนอื่น ๆ ภูเบศจะไม่ได้แสดงอะไรออกมาเกินกว่าที่ควรจะเป็น “ฉันซื้อขนมมาฝากอยู่ตรงเครื่องถ่ายเอกสารนะ” ชายหนุ่มพูดลอย ๆ เมื่อล้านนาเดินสวนกับเขาตรงหน้าห้องของแผนกด้วยท่าทางเหมือนว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้พูดกับเธอ ขนม ข้าวหรือแม้แต่กาแฟเขาก็หมั่นซื้อมาฝากลูกน้องคนนี้มาโดยตลอด ล้านนาเองเธอเริ่มรู้สึกกับภูเบศมากเกินกว่าเจ้านายเพราะลึก ๆ หญิงสาวก็แอบคิดว่าเจ้านายของเธอดูแลห่วงใยเธอมากกว่าพนักงานคนอื่น ๆ “ล้านนาแกคิดเข้าข้างตัวเองมากไป ผู้หญิงจน ๆ ไม่สวยอย่างแกใครเขาจะมาสนใจ” สาวน้อยในวัยเป็นสาวบานสะพรั่งพูดกับกล่องขนมในมือของเธอเพื่อเตือนตัวเองไม่ให้คิดไปไกลกว่านี้ “ทุกคนคะพรุ่งนี้ท่านรองประธานจะพาพวกเราไปเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเราทำงานล่วงเวลากันมาหลายวัน มีใครไปไม่ได้ไหมเพราะอาจจะกลับดึกหน่อย” ยุพาเดินออกมาจากห้องของเจ้านาย เธอก็มีข่าวดีมาแจ้งให้ลูกน้องทุกคนในแผนกได้รู้ “หนูไม่ไปนะคะพี่ยุพา ลูกชายไม่ค่อย
ตอนที่ 3บอสขา...ใจเย็น “เธอตรวจบัญชีของเดือนที่แล้วและทำของเดือนนี้ด้วยให้เสร็จภายในวันนี้ พรุ่งนี้พี่ต้องเอาเสนอแผนกการเงิน ส่วนนี่เงินค่าจ้างเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นนะ” ยุพาส่งธนบัตรใบสีเทาให้ลูกน้องใหม่ของเธอเพื่อเป็นค่าจ้างที่เธอให้ล้านนาช่วยทำบัญชีให้ “ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีงานอะไรหรือใครจะจ้างหนูทำงานอื่นพี่ยุพาบอกได้เลยนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยความดีใจนาทีนี้อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ล้านนาพร้อมจะทำหมดเพราะบ้านของเธอกำลังจะพังต้องใช้เงินซ่อมยังโชคดีที่พ่อของเธอพอมีความรู้เรื่องช่างจึงทำเองได้แต่ยังหาเงินซื้ออุปกรณ์ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีเงินเก็บเลยจึงต้องพยายามหารายได้พิเศษ “พี่จะพยายามหาให้แต่งานที่พี่ให้ทำห้ามคนอื่นรู้เด็ดขาดเพราะโทษของการเปิดเผยบัญชีเงินเดือนพนักงานคือไล่ออกสถานเดียว” วันนี้ภูเบศไม่เข้าบริษัทเพราะมีประชุมข้างนอก บริษัทในช่วงหลังเลิกงานจึงเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่ล้านนาจะทำบัญชีให้หัวหน้าเพราะไม่ต้องกลัวใครเห็น งานบัญชีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับล้านนาถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้จบทางนี้มาโดยตรงแต่ก็เคยเรียนมาบ้างและก็ได้ผลการเ
ตอนที่ 4ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อรักคุณ “ถึงแล้ว” ล้านนาเผลอหลับมาตลอดทางเพราะเธอทั้งเหนื่อยจากงานและเพลียจากความรู้สึกผิดมารู้สึกตัวอีกทีก็ถึงที่พักแล้ว “คุณพาฉันมาที่ไหน” “ไม่ต้องถามแค่เธอรู้ว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไรก็พอ” คนตอบดูไม่มีเยื่อใยไม่มีความอบอุ่นแบบเดิมเหมือนที่ล้านนาแอบชอบมาตลอด ภูเบศกลายเป็นคนละคนกับที่หญิงสาวเคยคิดวาดภาพของเขาไว้ “อาบน้ำให้สะอาด ฉันจะไปอาบอีกห้อง” ชายหนุ่มโยนผ้าเช็ดตัวสีขาวให้สาวน้อยที่กำลังยืนงงแบบคนเพิ่งตื่นนอนก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกจากห้อง “เสื้อผ้า ฉันไม่มีชุดใส่” ชายหนุ่มหยุดเดินและหันกลับมาส่งยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ให้ สายตาของเขามันชวนให้คนตรงหน้ารู้สึกได้ถึงศึกหนักที่เธอจะต้องเจอในคืนนี้ “เธอมาที่นี่เพื่อทำให้ฉันพอใจ ดังนั้นเสื้อผ้าก็ไม่จำเป็น” หญิงสาวผู้เลือกชะตาชีวิตที่แสนเศร้าให้กับตัวเองนอนรอการมาของใครบางคนในสภาพที่เรือนร่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กเท่านั้นที่ปกปิดตัวอยู่ ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงเมื่อร่างสูงเดินก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอน ที่
ตอนที่ 2 คนที่ต้องชดใช้ คุณอเนกกลับมาแล้ว ข้าวทิพย์ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดในโรงรถ หัวใจของเธอทั้งกลัว ทั้งเสียใจ เธอกลัวว่า ถ้าคนที่กำลังดูแลส่งเสียเธอทุกอย่างรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนที่เขาจะกลับมา เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี สังคมของไทยมองอย่างไรในเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายเสียหายเสมอ หญิงสาวจึงได้แต่เก็บความเจ็บช้ำอยู่แต่ภายใจและหลับไปกับหยดน้ำตา รุ่งเช้าวันใหม่ “ข้าวทิพย์เรื่องเรียนปรับตัวได้หรือยัง เห็นปีแรกเกรดไม่ค่อยดีเลย” ชายสูงอายุของบ้าน ถามหญิงสาวในการดูแลด้วยความเป็นห่วง เมื่อนั่งพร้อมหน้ากันสามคนบนโต๊ะอาหาร “ดีขึ้นค่ะ เทอมนี้เกรดน่าจะดีขึ้น” คนตอบได้แต่ก้มหน้าอยู่กับจานข้าว เพราะถ้าเธอแค่เพียงเงยหน้า เธอก็ต้องสบตากับคนที่นั่งตรงข้ามเธอ และตอนนี้ เขาก็จ้องมองใบหน้าของเธออยู่ตลอดเวลา “คราม คราม” “ครับคุณพ่อ” ขานรับออกอาการตกใจ ตื่นจากภวังค์ “พ่อเรียกตั้งหลายรอบแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าวันนี้ พ่อเห็นแกนั่งจ้องข้าวทิพย์มันไม่วางตา” อเนกสังเกตตั้งแต่ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว แต่เข
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า
ตอนที่ 8การกลับมาของใครบางคน ปิดเทอมแล้วข้าวทิพย์จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย เธออยู่ดูแลและคอยเป็นเพื่อนอเนกจนตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น เพราะได้กำลังใจดี “อีกกี่เดือน ปู่จะได้เห็นหน้าหลานล่ะ” “อีกสี่เดือนค่ะ คุณปู่คงเดินคล่องทันแน่ ๆ” หลานคนแรกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับคนป่วย เขาเคยหมดหวังตั้งแต่แม่ของครามจากไปแล้วก็มาหมดกำลังใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกทีเมื่อบริษัทเริ่มแย่ลง พนักงานเริ่มพากันลาออกจนในที่สุดความเครียดก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอย่างอเนกต้องกลายเป็นแบบนี้เรื่องราวกำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว แพรรำภากลับมาจากใต้ และเริ่มเข้ามาในชีวิตของคราม&n
ตอนที่ 7คำสั่งบิดา “ครามปิดประตู แล้วมาคุยกับพ่อหน่อย” อเนกมีเรื่องที่อยากจะคุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว จึงสั่งให้ปิดประตูเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน “ลูกจะเอาอย่างไรกับข้าวทิพย์ และเด็กในท้อง” “ผมจะพาเธอไปฝากท้องพรุ่งนี้ครับพ่อ ผมรู้ว่าเด็กในท้องคือลูกของผมแน่นอน และผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พอรู้ว่ากำลังจะมีลูก ผมก็ทั้งรักทั้งห่วงลูกผม” “แล้วแม่ของลูกล่ะ” อเนกถามกลับทันที เพราะลูกชายของเขาไม่ได้พูดถึงข้าวทิพย์เลย “ผมไม่รู้ครับพ่อ มันสับสนไปหมด” “ลูกจะสับสนอะไรพ่อไม่รู้ แต่ที่พ่อรู้คือ ลูกถึงเวลาต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย ข้าวทิพย์เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเดินไปหาลูกที่ห้อง ลูกด้วยซ้ำที่ขืนใจเธอ ความจริง ครามไม่ควรจะให้พ่อต้องมาย้ำแบบนี้ ลูกควรจะรู้ดีว่าทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หวังว่าลูกจะคิดได้ว่านอกจากดูแลลูกในท้องของข้าวทิพย์ ลูกควรทำอะไรต่อไปกับข้าวทิพย์ด้วย” อเนกไม่อยากบอกลูกชายตรง ๆ เพราะเขาคิดว่าครามโตพอที่รู้ผิดรู้ชอบได้ด้วยตัวเอง ถ้าลูกเขาคิดไม่ได้ เขาคงต้องทำใจว่าเขาเลี้ยงลูกให้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบ