ตอนที่ 2
คนที่ต้องชดใช้
คุณอเนกกลับมาแล้ว ข้าวทิพย์ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดในโรงรถ หัวใจของเธอทั้งกลัว ทั้งเสียใจ เธอกลัวว่า ถ้าคนที่กำลังดูแลส่งเสียเธอทุกอย่างรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนที่เขาจะกลับมา เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี
สังคมของไทยมองอย่างไรในเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายเสียหายเสมอ หญิงสาวจึงได้แต่เก็บความเจ็บช้ำอยู่แต่ภายใจและหลับไปกับหยดน้ำตา
รุ่งเช้าวันใหม่
“ข้าวทิพย์เรื่องเรียนปรับตัวได้หรือยัง เห็นปีแรกเกรดไม่ค่อยดีเลย” ชายสูงอายุของบ้าน ถามหญิงสาวในการดูแลด้วยความเป็นห่วง เมื่อนั่งพร้อมหน้ากันสามคนบนโต๊ะอาหาร
“ดีขึ้นค่ะ เทอมนี้เกรดน่าจะดีขึ้น” คนตอบได้แต่ก้มหน้าอยู่กับจานข้าว เพราะถ้าเธอแค่เพียงเงยหน้า เธอก็ต้องสบตากับคนที่นั่งตรงข้ามเธอ และตอนนี้ เขาก็จ้องมองใบหน้าของเธออยู่ตลอดเวลา
“คราม คราม”
“ครับคุณพ่อ” ขานรับออกอาการตกใจ ตื่นจากภวังค์
“พ่อเรียกตั้งหลายรอบแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าวันนี้ พ่อเห็นแกนั่งจ้องข้าวทิพย์มันไม่วางตา”
อเนกสังเกตตั้งแต่ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว แต่เขาแค่คิดว่าลูกชายอาจแค่กำลังนั่งเหม่อไม่ได้ตั้งใจจ้องหน้าหญิงสาว
แต่ยิ่งนานยิ่งรู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว จึงตั้งใจจะถามตรง ๆ แต่เรียกอยู่หลายครั้ง กว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวว่าถูกบิดาเรียก
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่กำลังคิดว่า เธอจะเรียนคุ้มกับเงินที่ของครอบครัวเราที่เสียไปกับการเล่าเรียนของเธอไหม” ครามไม่ใช่แค่ใช้คำพูดที่ทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บปวด แต่เขายังจะใช้น้ำเสียง และสายตาดูถูกให้ความรู้สึกของข้าวทิพย์แย่ไปกว่าเดิม
“พ่อว่าอย่างไรก็คุ้ม ถ้าต้องแลกกลับการที่แฟนของลูกต้องไปนอนในคุกแน่ ๆ” คำพูดของคนที่แก่กว่า ย่อมสื่อความหมายได้ชัดเจนและทำให้ครามรีบเปลี่ยนสีหน้าทันที เพราะมันคุ้มกว่าตามที่บิดาของพูดจริง ๆ
“ผมก็ไม่ได้จะว่าอะไร ก็แค่อยากให้ลูกสาวคนใหม่ของคุณพ่อตั้งใจเรียน ไม่ใช่ไปเรียนเพื่อเจอนักศึกษาหนุ่ม ๆ พอพวกนั้นวนเวียนมาขายขนมจีบ ผมกลัวเธอจะหลงไป แล้วลืมว่า ตัวเองมีหน้าที่ทำอะไร” ครามหยุดพูดแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม พร้อมกับเสียงวางช้อนลงไปกระแทกกับจานข้าวของข้าวทิพย์อย่างแรง
การกระทำของเขาทำให้ผู้ร่วมโต๊ะอาหารทั้งสองคน ต่างหันไปมอง
“ขอบคุณคุณครามที่เป็นห่วงทิพย์ค่ะ แต่แม่ของทิพย์ได้สอนไว้เสมอค่ะว่า เราควรรู้จักหน้าที่และรับผิดชอบ ทุกอย่างที่เราทำหรือกำลังจะทำ และแม่ยังเคยสอนอีกว่า ในโลกใบนี้ เรามีโอกาสทำชั่วได้ไม่ยากแต่การทำดีมันก็ยังง่ายกว่า ดังนั้นมันอยู่ที่เราจะเลือกทำค่ะ”
บรรยากาศในโต๊ะเงียบสนิทไป แม้แต่ตัวอเนกเองก็ไม่รู้ว่า ควรจะพูดอะไรดี จึงได้แต่มองหน้าลูกชายตัวเอง หวังว่าจะมีคำพูดอะไรออกมาจากปากของครามที่จะช่วยให้ท่านเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้
“ผมอิ่มแล้วครับพ่อ” ชายหนุ่มรวบช้อนและหันไปบอกบิดา ก่อนที่หันหน้าไปพูดกับข้าวทิพย์แบบไม่สบตา
“กินอิ่มแล้ว ก็ตามไปที่รถแล้วกัน” น้ำเสียงราบเรียบ
ข้าวทิพย์รีบลุกขึ้น ยกมือไหว้คุณอเนก แล้วรีบเดินตามเขาให้ทัน
“คุณครามไปทำงานก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวทิพย์ไปเรียนเองได้ค่ะ”
หญิงสาวพูดกับเขา ครามหยุดเดินทันที แต่สุดท้ายเขาก็เดินต่อไปพร้อมกับอารมณ์ที่โมโหสุดขีดคุณอเนกเดินเข้ามาหาข้าวทิพย์
“ฉันจะไม่ถามนะ ว่าเธอกับเจ้าครามไปขัดใจกันเรื่องอะไรเข้า แต่ถ้ามีอะไรจะให้ฉันช่วยก็บอก และวันนี้ ฉันจะไปส่งหนูเอง”
อเนกอยู่บนโลกใบนี้มาเกือบจะหกสิบปี มีเหรอที่เขาจะมองไม่ออกว่า นี่ไม่ใช่อาการของคนทะเลาะกันธรรมดา เพียงแต่เขาไม่เข้าใจว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แค่เพียงคืนเดียวทำไมคนสองคนถึงเป็นแบบนี้ และด้วยความเป็นผู้ใหญ่กว่า เขาคงไม่ถาม รอให้ทั้งคู่คิดว่า เขาควรรู้ ไม่คนใดก็คนหนึ่ง จะต้องเล่าให้เขาฟังแน่ ๆ
“ข้าวทิพย์ หนูเธอต้องตั้งใจเรียนนะ แม่ของเธอจะได้หมดห่วง และวันหนึ่งที่เธอเรียนจบฉันก็จะได้สบายใจ เพราะตัวฉันเองก็คงไม่มีอะไรจะให้เธอได้ นอกจากความรู้ และมันก็ไม่มีทางที่ใครจะแย่งไปจากเธอได้”
ชายแก่ที่มีอายุมากกว่าแม่ของเธอด้วยซ้ำ เขาไม่สมควรต้องมารับผิดชอบชีวิตเธอเลย เพราะเรื่องนี้คนที่ผิดคือแพรรำภา ข้าวทิพย์ยังแค้นหญิงสาวที่เป็นคู่หมั้นของคราม และเป็นคนที่ขับรถชนแม่เธอจนเสียชีวิตอยู่ในหัวใจไม่เคยจาง เพราะเธอคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำอะไรเพื่อเป็นการชดใช้ความผิดหรือแม้แต่คำขอโทษเธอก็ยังไม่เคยได้ยินจากปากของคนใจดำ
“พระคุณของคุณท่าน ทิพย์จะไม่มีวันลืมเลยค่ะ ข้าวทุกเม็ด เงินทุกบาท ความเมตตาที่ท่านมีให้ บุณคุณชาตินี้ ทิพย์ก็คงตอบแทนไม่หมด ทิพย์สัญญาค่ะ ทิพย์จะตั้งใจเรียน และใช้โอกาสที่คุณท่านมอบให้ ให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ” หญิงสาวสำนึกในบุญคุณของอเนกจากหัวใจ และเธอก็กำลังคิดที่จะหาทางช่วยลดภาระด้วยการหางานพิเศษทำ
“อย่าไปคิดว่าเป็นพระคุณอะไรกันเลย มันเทียบไม่ได้กับชีวิตแม่ของเธอที่ต้องมาเสียไปแบบนี้”
“แต่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้อง ท่านไม่ใช่คนชน คนที่ควรจะต้องรับผิดชอบคือคุณแพรรำภา ไม่ใช่ท่านค่ะ” ข้าวทิพย์เผลอตัว เธอควบคุมตัวเองไม่อยู่ ทุกครั้งที่คิดถึงสาเหตุที่แม่เธอต้องมาจากไป
“เธอยังเด็ก ลองคิดดูให้ดี ที่ฉันยอมรับผิดชอบทุกอย่าง ก็เพราะว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับแพรรำภา คนที่จะแย่ก็คือเจ้าคราม แล้วพ่อของทางนั้น เขาเกิดไม่พอใจที่ฉันไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ลูกชายฉันนั่นแหละที่จะเสียใจ เธอมองฉันในแง่ดีเกินไปแล้วข้าวทิพย์ ความจริงฉันมันก็เป็นแค่ พ่อคนหนึ่งที่ยอมทำทุกอย่างเพราะอยากให้ลูกมีความสุขก็เท่านั้น” บทสนทนาต้องจบเพียงเท่านี้ เพราะใกล้ถึงมหาวิทยาลัยของหญิงสาวแล้ว
“ขอบคุณนะคะ วันต่อไปทิพย์จะขอมาเรียนเองดีกว่าค่ะ จะได้ฝึกดูแลตัวเองให้เก่งด้วย”
อเนกพยักหน้าแทนคำตอบ เพราะเขาไม่รู้จะพูดอะไร ทุกอย่างมันแล้วแต่การตัดสินใจของหญิงสาว เขามีหน้าที่ดูแลเธอเรื่องเรียน และเป็นห่วงอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น
ตอนที่ 3จุดแตกหัก “ครามลูกคิดให้ดีนะ งานแต่งงานที่หนูแพรต้องการ มันใช้เงินถึงสิบล้าน และไหนจะสินสอดอีก เธอรักลูก หรือเธอรักอะไรกันแน่” “เงิน เราก็มีไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม ผมจะทำอย่างที่แฟนผมต้องการไม่ได้ พ่อของแพรมีหน้ามีตา เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี จะให้เธอมาจัดงานเล็ก ๆ ได้อย่างไรครับพ่อ” เสียงสองคนพ่อลูกคุยกันดังจนฟังคล้ายกับกำลังเถียงกันมากกว่า ทำให้ข้าวทิพย์ที่กำลังทำความสะอาดห้องพระอยู่ห้องข้าง ๆ ต้องมาแอบฟังด้วยความเป็นห่วง “เราให้สินสอดเขาสิบล้าน ไหนจะทองอีก เครื่องเพชรก็ไม่ใช่น้อย เรื่องการจัดงานมันควรจะเป็นเรื่องของฝ่ายเจ้าสาว ครามลูกรู้บ้างไหมว่า เงินสินสอดและทรัพย์สินทั้งหมดที่พ่อเตรียมไว้ให้ มันคือเกือบจะทั้งหมดที่เรามีเหลือตอนนี้แล้วนะ” อเนกตั้งใจจะปิดเรื่องที่บริษัทของเขากำลังย่ำแย่เอาไว้ แต่ในเมื่อครามไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย เขาจึงต้องยอมบอกความจริง “แล้วลูกลองคิด ถ้าหนูแพรเธอรู้ว่า เรากำลังแย่ เธอยังอยากแต่งงานกับลูกอยู่ไหม ถ้าอยากรู้ว่า ไอ้ที่คิดมาตลอดว่า ลูกรักเธอ และเธอก็รักลูก มันเป็นความจริงไหม ก็ลองไปบอกหนูแพรนะว่า
ตอนที่ 4ความทุกข์ที่ถาโถม ข้าวทิพย์เธอยอมเขาเอง เธอรักเขา หญิงสาวกลับมานอนที่ห้องและบอกตัวเองซ้ำ ๆ ตลอดเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นเธอรู้อยู่เต็มอกว่า มันไม่ได้เกิดจากความรักของเขา แต่เธอรักเขาไปแล้ว ตอนนี้เขากำลังแย่ หญิงสาวจึงทั้งรัก ทั้งสงสาร โดยที่ลืมสงสารตัวเอง การที่เรารักคนที่เขาไม่ได้รักเรา มันเจ็บปวดแค่ไหน หญิงสาวเข้าใจดี เพราะเธอก็รักคราม โดยที่เขาไม่เคยหันชายตามาสนในเธอ กลับยังมารังแกย่ำยีทั้งหัวใจและร่างกายข้าวทิพย์ก็ยังให้อภัย และไม่มีวันไหนที่เธอจะรู้สึกไม่รักเขาเลย เธอจึงเข้าใจความรู้สึกดีว่า ครามเองก็คงยังรักแพรรำภา ถึงแม้จะรู้ทั้งรู้ ว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักเขาจากหัวใจจริง ๆ ก็ตาม วันเวลาผ่านล่วงเลยไป ครามเริ่มทำใจได้ เขายังคงแอบนึกถึงแพรรำภาบ้าง เวลาที่ต้องอยู่คนเดียวแต่ทุกครั้งที่เขารู้สึกเหงา ข้าวทิพย์คือผู้หญิงที่เขาคิดถึง ห้องนอนของเธอข้างล่างก็ถูกใช้เป็นที่สำหรับทั้งสองคน “ตอนนี้บริษัทเรากำลังแย่มากเลยใช่ไหมครับ” ครามถามผู้เป็นพ่อบนโต๊ะอาหาร เพราะตัวเขาเองมีหน้าที่ดูแลฝ่ายบุคคลเลยไม่ค่อยรู้เรื่องเงินสำรองของบริษัท “ใช่ พ่อมองว
ตอนที่ 5กำลังใจที่ไม่แสดง ครามเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะเขารู้ตัวว่าเขาเป็นคนทำให้ข้าวทิพย์ต้องเป็นแบบนี้ “คุณเป็นสามีของคนไข้ใช่ไหมคะ” พยาบาลเดินออกจากห้องฉุกเฉินมาถามครามทันที เขาเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินนี่นานแล้ว “เอ่อ... ใช่ครับ” ชายหนุ่มลังเล แต่ในเวลานี้เขาคิดว่ามันต้องมีอะไรไม่ดีแน่ ๆ นางพยาบาลถึงได้ออกมาถามแบบนี้ “เชิญพบคุณหมอด้านในเลยค่ะ” ครามรีบเดินตามนางพยาบาลเข้าไป คุณหมอสีหน้าเครียด “ตอนนี้คนไข้ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 12 สัปดาห์ โชคยังดีนะครับที่เด็กไม่เป็นอะไร แต่คืนนี้ หมอคงต้องให้คนไข้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที” ครามเขารู้สึกชาไปทั้งตัว ‘ข้าวทิพย์ท้องหรือนี่’ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาต้องดีใจหรือรู้สึกอะไรไหม เขาทำอะไรไม่ถูกเลยแต่ด้วยเวลานี้ เธอมีเขาเพียงคนเดียว ชายหนุ่มจึงเดินไปหาเธอที่เตียง “เป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยถามโดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา “ปวดท้องค่ะ แต่ค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว” “ข้าวทิพย์... เธอท้องกับใคร” ครามไม่
ตอนที่ 6พยายามง้อ ครามกลับมาที่โรงพยาบาล เพื่อมาเฝ้าและดูแลข้าวทิพย์ หญิงสาวถูกพามานอนพักที่ห้องรวม ครามจึงต้องนอนเฝ้าอยู่ใต้เตียง เพราะไม่มีที่นอนให้สำหรับคนเฝ้า “คุณคราม คุณครามคะ” ข้าวทิพย์ตื่นขึ้นมาเห็นว่า ชายหนุ่มนอนหลับอยู่ใต้เตียงเธอ ด้วยสภาพที่น่าสงสาร เขามีเพียงแค่เสื้อคลุมแทนผ้าห่ม และท่านอนทับแขนตัวเองอยู่ เมื่อรู้สึกตัว เพราะได้ยินเสียงหญิงสาวเรียก ครามก็รีบลุกขึ้นมาหาคนบนเตียงทันที“ทิพย์จะเอาอะไร หิวน้ำเหรอ” “คุณกลับบ้านไปเถอะค่ะ เช้าแล้ว เดี๋ยวหมอก็มา เลือดหยุดไหลแล้ว วันนี้ก็คงได้กลับบ้าน คุณไม่ต้องมาลำบากนอนแบบนี้หรอก” “ทิพย์ ผมขอโทษ” ครามไม่รู้จะแก้ตัวด้วยคำไหน คงไม่มีคำใดดีเท่ากับคำว่าขอโทษที่ออกจากหัวใจ “เรื่องอะไรคะ ถ้าหมายถึงที่ คุณถามว่าฉันท้องกับใคร คุณถามถูกแล้วค่ะ เพราะการที่ฉันยอมให้คุณข่มเหงแบบนั้น มันแสดงว่าฉันเป็นคนใจง่าย ก็ไม่แปลกที่คุณจะคิดว่า ฉันก็คงง่ายกับคนอื่นด้วยเหมือนกัน” ข้าวทิพย์พูดจบ ยังไม่ทันที่ครามจะได้ตอบอะไรคุณหมอกับพยาบาลก็เดินมาที่เตียงเพื่อดูอาการทันที คุณหมอตรวจเช
ตอนที่ 7คำสั่งบิดา “ครามปิดประตู แล้วมาคุยกับพ่อหน่อย” อเนกมีเรื่องที่อยากจะคุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว จึงสั่งให้ปิดประตูเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน “ลูกจะเอาอย่างไรกับข้าวทิพย์ และเด็กในท้อง” “ผมจะพาเธอไปฝากท้องพรุ่งนี้ครับพ่อ ผมรู้ว่าเด็กในท้องคือลูกของผมแน่นอน และผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พอรู้ว่ากำลังจะมีลูก ผมก็ทั้งรักทั้งห่วงลูกผม” “แล้วแม่ของลูกล่ะ” อเนกถามกลับทันที เพราะลูกชายของเขาไม่ได้พูดถึงข้าวทิพย์เลย “ผมไม่รู้ครับพ่อ มันสับสนไปหมด” “ลูกจะสับสนอะไรพ่อไม่รู้ แต่ที่พ่อรู้คือ ลูกถึงเวลาต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย ข้าวทิพย์เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเดินไปหาลูกที่ห้อง ลูกด้วยซ้ำที่ขืนใจเธอ ความจริง ครามไม่ควรจะให้พ่อต้องมาย้ำแบบนี้ ลูกควรจะรู้ดีว่าทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หวังว่าลูกจะคิดได้ว่านอกจากดูแลลูกในท้องของข้าวทิพย์ ลูกควรทำอะไรต่อไปกับข้าวทิพย์ด้วย” อเนกไม่อยากบอกลูกชายตรง ๆ เพราะเขาคิดว่าครามโตพอที่รู้ผิดรู้ชอบได้ด้วยตัวเอง ถ้าลูกเขาคิดไม่ได้ เขาคงต้องทำใจว่าเขาเลี้ยงลูกให้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบ
ตอนที่ 8การกลับมาของใครบางคน ปิดเทอมแล้วข้าวทิพย์จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย เธออยู่ดูแลและคอยเป็นเพื่อนอเนกจนตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น เพราะได้กำลังใจดี “อีกกี่เดือน ปู่จะได้เห็นหน้าหลานล่ะ” “อีกสี่เดือนค่ะ คุณปู่คงเดินคล่องทันแน่ ๆ” หลานคนแรกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับคนป่วย เขาเคยหมดหวังตั้งแต่แม่ของครามจากไปแล้วก็มาหมดกำลังใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกทีเมื่อบริษัทเริ่มแย่ลง พนักงานเริ่มพากันลาออกจนในที่สุดความเครียดก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอย่างอเนกต้องกลายเป็นแบบนี้เรื่องราวกำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว แพรรำภากลับมาจากใต้ และเริ่มเข้ามาในชีวิตของคราม&n
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่ 5ทุกอย่างสำเร็จ ใบหยกขายหุ้นให้กับสามีในราคาที่ถูกมากและแน่นอน เธอไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ผู้เป็นพ่อฟังเพราะเธอคิดว่าพ่อคงไม่เห็นด้วย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่อยากมีปัญหากับสามี ตอนนี้รัชพลจัดการเรื่องการแสดงจนครบทุกอย่าง เมนูอาหารในช่วงชมการแสดงก็เป็นเมนูที่มากกว่าของทางนู้นแถมราคาถูกกว่า ลูกค้าฝรั่งเริ่มออกปากชมจนภูษิตเองก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังชนะโดยที่เขาลืมไปเลยว่าการชนะครั้งนี้คือการชนะภรรยาที่รักเขามากถึงได้ยอมเขาทุกอย่างแบบนี้ “พอเถอะเพื่อน เรื่องที่จะหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ให้บริษัททัวร์ นายก็ตัดสินใจมาเลย ตอนนี้ภาพนายในสายตา
ตอนที่ 4เข้าทางพ่อตา อนุสรณ์ไม่อยู่หลายวันลูกเขยที่จ้องล้วงข้อมูลก็สามารถเก็บไปได้มากแต่ยังไม่ได้ที่สำคัญและเขาคิดว่าจะต้องหารทางเข้าไปที่ห้องทำงานของพ่อตาให้ได้ ในเมื่อเขารู้แล้ว ว่าแฟ้มรายละเอียดอยู่ตรงไหน แผนแรกที่ภูษิตทำคือการให้รัชพลไปติดต่อชาวพื้นเมืองเพื่องจองคิวล่วงหน้าและให้ค่าจ้างในราคาที่แพงกว่าโรงแรมของ ใบหยกให้ซึ่งก็สำเร็จเพราะโรงแรมของใบหยกทำแค่สัญญาต่อเดือน ทางภูษิตจึงทำสัญญาสามเดือนเลย “มีการแสดงจากแค่ห้าที่ แบบนี้ไม่ได้นะ นายต้องไปหามาเพิ่มถ้ามีแค่นี้ คนที่เขามาพักนานอย่างพวกฝรั่งเบื่อตายเลย เพราะคืนหนึ่งก็ใช้การแสดงจากสองที่แล้ว” ร
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า