ตอนที่ 5
ทุกอย่างสำเร็จ
ใบหยกขายหุ้นให้กับสามีในราคาที่ถูกมากและแน่นอน เธอไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ผู้เป็นพ่อฟังเพราะเธอคิดว่าพ่อคงไม่เห็นด้วย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่อยากมีปัญหากับสามี
ตอนนี้รัชพลจัดการเรื่องการแสดงจนครบทุกอย่าง เมนูอาหารในช่วงชมการแสดงก็เป็นเมนูที่มากกว่าของทางนู้นแถมราคาถูกกว่า
ลูกค้าฝรั่งเริ่มออกปากชมจนภูษิตเองก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังชนะโดยที่เขาลืมไปเลยว่าการชนะครั้งนี้คือการชนะภรรยาที่รักเขามากถึงได้ยอมเขาทุกอย่างแบบนี้
“พอเถอะเพื่อน เรื่องที่จะหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ให้บริษัททัวร์ นายก็ตัดสินใจมาเลย ตอนนี้ภาพนายในสายตา ฝ่ายบริหารดีขึ้นมากที่เห็นนายทำการเปลี่ยนแปลงให้กับโรงแรมถึงแม้จะลงทุนค่อนข้างสูง”
“ฉันเก่งอยู่แล้ว”
ภูษิตทำท่าภูมิใจให้กับการพัฒนาโรงแรมที่วันนี้เขาถูก คณะบริหารชมเชยในที่ประชุม
“เก่งกับโกง คิดดูให้ดี ๆ นะและไอ้ที่โกงเขาอยู่ก็ครอบครัวเมียนาย ในเมื่อคุณอนุสรณ์เขามีลูกสาวแค่คนเดียว อย่างไรเสียโรงแรมนั้นก็ต้องเป็นของนายหรือไม่ก็ของลูก”
“แล้วใครบอกว่าฉันจะมีลูก แค่ทุกวันนี้เลิกงานกลับบ้านไม่นอกลู่นอกทางเลยก็อึดอัดใจจะแย่ ที่ถ้าต้องมามีห่วงร่วมกัน ชีวิตฉันคงตายทั้งเป็น เอาเป็นว่านายไปเตรียมแฟ้มบริษัททัวร์ที่เคยทำงานกับเราสมัยคุณพ่อมาให้หน่อย ฉันจะลองคิดข้อเสนอดู ไม่รอมันแล้วแฟ้มจากทางนั้น เอาเท่าที่เราให้ได้ เดี๋ยวลองคิดดูก่อนแล้วค่อยเอาเข้าที่ประชุม”
รัชพลออกไปแล้วภูษิตนั่งคิดตามคำพูดของเพื่อน เขากำลังทำมากไปหรือเปล่า เรื่องอื่นคงไม่สำคัญเท่าเรื่องหุ้น เพราะถ้าวันใดเขาตัดสินใจหย่ากับใบหยกขึ้นมาเขาจะขายหุ้นให้เพื่อนของเขาก่อนเพื่อไม่ให้เป็นสินสมรสก่อนที่จะค่อยซื้อคืน
สองเดือนกว่าแล้วที่ภูษิตหันมาพัฒนาโรงแรมเพื่อแข่งขันกับของใบหยกและมันก็ได้ผลถึงเขาจะดึงบริษัททัวร์มาได้ไม่หมดแต่เขากลับได้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเองเป็นจำนวนมาก
อดุลย์ได้ข่าวว่าโรงแรมของเขาดีขึ้นและก็ได้ข่าวว่าโรงแรมของอนุสรณ์รายได้น้อยลง เขาจึงส่งคนออกไปสืบเรื่องนี้และก็ไม่ใช่ใครก็คือเลขาของเขาที่ทำงานอยู่กับอนุสรณ์ตอนนี้
สุรีย์รับฟังเรื่องราวผ่านสามีเธอไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายของเธอจะพยายามแย่งลูกค้าจากโรงแรมของภรรยาตัวเอง ทั้งที่ความจริงทั้งสองโรงแรมสุดท้ายแล้วก็จะกลายเป็นของภูษิตอยู่แล้ว
“คุณว่าลูกเราตั้งใจทำหรือเป็นเรื่องบังเอิญ”
คนเป็นแม่ยังอดเข้าข้างลูกไม่ได้เพราะภูษิตเป็นคนที่อ้อนมารดาเก่งมากแล้วเขาก็ดูไม่ใช่คนฉลาดเกมโกง เอาจริง ๆ ก็คือทั้งพ่อและแม่ไม่คิดว่าลูกชายจะฉลาดพอจะคิดแผนอะไรที่จะแย่งลูกค้าจากโรงแรมที่อนุสรณ์บริหารได้เลย
“ผมก็ไม่รู้ เราเรียกลูกมาคุยดีกว่าเดี๋ยวผมพูดเองเพราะผมตั้งใจว่าคงไม่ถามตรง ๆ เขาภูษิตคงไม่ยอมรับและเดี๋ยวเลขาเก่าผมจะเดือดร้อนเอา”
หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ขอให้ทุกอย่างมันไม่เป็นอย่างที่เขาคิด อดุลย์กลัวที่สุดคือการที่ลูกชายแต่งงานเพราะต้องการล้วงความลับและทำลายโรงแรมคู่แข่งเพราะมันคงทำให้เขาเสียใจมากที่เลี้ยงลูกมาเป็นคนที่เห็นความรู้สึกคนอื่นสำคัญน้อยกว่าผลประโยชน์
ภูษิตรู้สึกแปลกใจที่วันนี้พ่อของเขาโทรศัพท์มาชวนไปกินข้าวกลางวันโดยที่ห้ามไม่ให้เขาเอาใบหยกไปด้วย ทั้งที่ปกติพ่อกับแม่ของเขาออกจาะเห่อลูกสะใภ้ที่แสนเรียบร้อยเอามาก ๆ
“วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่มีอะไรพิเศษหรือเปล่าครับถึงได้เรียกตัวผมมาหา แถมห้ามเอาลูกสะใภ้มาอีก”
“ต้องมีอะไรด้วยเหรอพ่อกับแม่ถึงจะเรียกลูกมาหาได้ ส่วนลูกสะใภ้พ่อว่าลูกก็ไม่ได้ตัวติดอะไรกับหนูใบหยก รวมทั้งใจก็คงไม่ติดด้วยล่ะมั้ง”
อดุลย์พูดแล้วยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านทำเหมือนไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่พูดออกไป
“คุณพ่อก็พูดเหมือนผมไม่รักเมียผมเลย”
“แล้วรักไหมล่ะ”
อดุลย์พับหนังสือพิมพ์เก็บทันทีเพราะคิดว่าลูกชายคงไม่ยอมรับความจริงง่าย ๆ
“รักสิครับ ถ้าผมไม่รักผมจะตามจีบจนได้แต่งงานกันเหรอครับ คุณพ่อเห็นผมเป็นผู้ชายแบบไหนกัน ถึงจะได้คิดว่าผมไม่รักเมีย”
“นั่นสิ พ่อเห็นลูกของพ่อเป็นแบบไหนกัน ไปกินข้าวกันดีกว่าแม่เขาเตรียมเสร็จแล้ว”
คนเป็นพ่อเปลี่ยนเรื่องพูดเพราะตั้งใจจะไปพูดต่อระหว่างที่กินมื้อกลางวันกัน
“สุรีย์ไม่ว่ากี่ปีคุณก็ทำกับข้าวที่ผมชอบตลอดเลย ไม่เบื่อเหรอ” อดุลย์ถามภรรยา
“ไม่เบื่อหรอกค่ะ คุณเป็นสามีฉันก็ต้องรักเป็นธรรมดา ใช่ไหมลูกไม่รักครอบครัวเราแล้วเราจะรักใคร คนเราถ้าลองได้แต่งงานกันมันก็เหมือนลงเรือลำเดียวกันแล้วถ้าไม่ช่วยกันพายก็ยังไม่แย่เท่าอีกฝ่ายไม่พายแล้วยังคอยเจาะเรือจะให้ล่มอยู่ตลอดเวลาเพราะถือว่าตัวเองแค่ต้องการนั่งเรือมาเฉย ๆ พอได้นั่งก็ทำร้ายคนที่นั่งมาด้วยกันตลอดทาง ”
“แม่เราเขาก็พูดไปเรื่อย สงสัยดูละครมากผัวเมียที่ไหนมันจะเฝ้าทำลายกัน ไม่มีหรอกถ้ามีมันก็ไม่ใช่คนแล้ว กินข้าวกันเถอะ”
ภูษิตนั่งฟังพ่อกับแม่ของเขาคุยกัน ด้วยความรู้สึกที่เหมือนทั้งคู่กำลังหลอกว่าเขาอย่างไรก็ไม่รู้
ก่อนจะกลับอดุลย์ฝากน้ำพริกฝีมือสุรีย์ไปให้กับอนุสรณ์เพราะสุรีย์มีฝีมือเรื่องตำน้ำพริกอร่อยเกือบทุกอย่าง
“พ่อฝากน้ำพริกเอาไปฝากอนุสรณ์ด้วยนะ ฝากบอกด้วยว่าพ่อคิดถึงและดีใจที่เห็นโรงแรมมของเขามีลูกค้ามากมาย ”
ปกติพ่อของภูษิตก็อยู่ในกลุ่มเที่ยวต่างประเทศของอนุสรณ์ด้วยแต่ช่วงหลังสุขภาพของเขาไม่ค่อยดีอดุลย์จึงไม่ค่อยไปไหนไกลเกินเชียงใหม่
“คุณพ่อสนิทกับพ่อของใบหยกมากไหมครับ”
“มากสิ เราเป็นเพื่อนกัน การเป็นเพื่อนเป็นแล้วเป็นเลย ขนาดอนุสรณ์จะเปิดโรงแรมมีแต่คนคิดว่าพ่อคงไม่พอใจ แต่สุดท้ายพ่อไปช่วยดูตั้งแต่สร้างเลย เพื่อนเรากำลังจะเริ่มต้นเราต้องช่วยเหลือ รวยคนเดียวมันเหงา มันต้องมีเพื่อนรวยด้วยกัน ธุรกิจสำหรับคนอื่นสร้างศัตรูแต่สำหรับพ่อมันสร้างมิตรภาพ”
ชายหนุ่มขับรถกลับจากบ้านพ่อกับแม่ เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังพาชีวิตทั้งชีวิตให้ตกต่ำลง โดยการทำเรื่องแย่ ๆ ภูษิตตั้งใจว่าเร็ว ๆ นี้เขาอาจจะตัดสินใจหย่ากับใบหยกเพราะเขาไม่อยากหลอกเธออีกต่อไปแล้ว
ตอนที่ 6รู้สึกผิด “พี่ภูกลับมาแล้ว วันนี้หยกทำกับข้าวเย็นเลยนะคะ คุณพ่อก็ไม่ยอมกินก่อนบอกว่าจะรอพี่ภู อยากกินข้าวพร้อมหน้ากัน” ภูษิตกำลังคิดจะขอหย่ากับภรรยาในขณะที่ครอบครัวของเธอดีกับเขาทุกอย่าง “คุณพ่อครับ คุณแม่ผมฝากน้ำพริกมาให้พอดีวันนี้ผมแวะไปที่บ้านมา” ชายหนุ่มส่งถุงใส่กล่องน้ำพริกให้พ่อตาก่อนที่อนุสรณ์จะส่งให้ลูกสาวเอาไปจัดจาน เมื่ออยู่กันสองคนอนุสรณ์จึงมีบางอย่างอยากพูดกับลูกเขยโดยที่ไม่อยากให้ลูกสาวได้ยิน “ภูตอนนี้ที่โรงแรมมีปัญหามาก พ่อก็เว้นปล่อยให้ใบหยกเธอดูแลมานาน ถ้าจะเข้าไปตอนนี้ก็ลังเธอจะรู้สึกว่าพ่อไม่ไว้วางใจ เอาเป็นว่าพ่อจะบอกหยกว่าพ่
ตอนที่ 7รู้ใจตัวเอง คืนที่สามของการไม่อยู่ของภรรยาทำให้ชายหนุ่มนอนทบทวนทุกเรื่องที่เกิดจากที่คิดว่าตัวเองแต่งงานกับหญิงสาว เพียงเพราะต้องการล้วงความลับและทำเพื่อผลประดยชน์ของโรงแรมตัวเอง แต่ตอนนี่เขาแน่ใจแล้วว่าเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเพียงแต่การหาผลประโยชน์จากเธอมันเป็นผลพลอยได้เท่านั้น ภูษิตเริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังคิดผิด ผลประโยชน์เหล่านั้นไม่มีค่าเท่ากับความรักที่ใบหยกมีให้เขาและไม่มีคุณค่าเท่ากับความไว้ใจที่พ่อตามอบให้เขาเข้าไปดูแลโรงแรม ชายหนุ่มตัดสินใจว่าเย็นนี้เขาจะพูดความจริงทุกเรื่อง ให้อนุสรณ์ฟังและของให้พ่อตาให้อภัยเขา ช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นเมื่อภูษิตเห็นว่าพ่อตากิ
ตอนที่ 1แทบละลายเพราะสายตาบอส “พนักงานคนใหม่ชื่ออะไร” ภูเบศลูกชายท่านประธานบริษัทถามถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอตอนที่มาถึงที่ทำงานในตอนเช้ากับหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอาการแสดงออกถึงความสนใจเป็นพิเศษ “คนไหนคะ” ยุพาถามตามซื่อเพราะเดือนนี้ที่แผนกของเธอมีพนักงานใหม่ถึงสองคน “ก็คนนั้น เอ่อ...คนที่ตัวเล็ก ๆ อวบหน่อยๆ” คนถามทำสีหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าไม่อยากเจาะจงชัดเจนว่าคนที่เขากำลังถามถึงมีลักษณะอย่างไร “ล้านนา ยุพาว่าคนที่คุณภูเบศหมายถึงน่าจะเป็นล้านนาค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลูกน้องสาวถามออกไปเพราะกลัวว่าพนักงงานใหม่จะทำอะไรให้เจ้านายเธอไม่พอใจหรือเปล่าแต่เมื่อมองสบตาคนตรงหน้า ยุพาก็รีบพาตัวเองออกจากห้องท่านรองประธานทันที “ไม่รู้ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่” ภูเบศบ่นพึมพำมือเท้าเอวส่ายหัวไปมาในความช่างซักไซ้ของลูกน้องคนสนิท ภาพของหญิงสาวในชุดพนักงานของบริษัทที่ดูเข้ารูปทำให้เห็นหุ่นอันอวบอิ่มได้อย่างชัดเจนยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเจ้านายหนุ่มที่สุดแสนจะเจ้าชู้เป็นตัวพ่อของสังคมนักธุรกิ
ตอนที่ 2เธอทำให้ฉันรู้สึกสำคัญ ความใกล้ชิดระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเริ่มมีมากขึ้นถึงแม้ว่าต่อหน้าคนอื่น ๆ ภูเบศจะไม่ได้แสดงอะไรออกมาเกินกว่าที่ควรจะเป็น “ฉันซื้อขนมมาฝากอยู่ตรงเครื่องถ่ายเอกสารนะ” ชายหนุ่มพูดลอย ๆ เมื่อล้านนาเดินสวนกับเขาตรงหน้าห้องของแผนกด้วยท่าทางเหมือนว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้พูดกับเธอ ขนม ข้าวหรือแม้แต่กาแฟเขาก็หมั่นซื้อมาฝากลูกน้องคนนี้มาโดยตลอด ล้านนาเองเธอเริ่มรู้สึกกับภูเบศมากเกินกว่าเจ้านายเพราะลึก ๆ หญิงสาวก็แอบคิดว่าเจ้านายของเธอดูแลห่วงใยเธอมากกว่าพนักงานคนอื่น ๆ “ล้านนาแกคิดเข้าข้างตัวเองมากไป ผู้หญิงจน ๆ ไม่สวยอย่างแกใครเขาจะมาสนใจ” สาวน้อยในวัยเป็นสาวบานสะพรั่งพูดกับกล่องขนมในมือของเธอเพื่อเตือนตัวเองไม่ให้คิดไปไกลกว่านี้ “ทุกคนคะพรุ่งนี้ท่านรองประธานจะพาพวกเราไปเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเราทำงานล่วงเวลากันมาหลายวัน มีใครไปไม่ได้ไหมเพราะอาจจะกลับดึกหน่อย” ยุพาเดินออกมาจากห้องของเจ้านาย เธอก็มีข่าวดีมาแจ้งให้ลูกน้องทุกคนในแผนกได้รู้ “หนูไม่ไปนะคะพี่ยุพา ลูกชายไม่ค่อย
ตอนที่ 3บอสขา...ใจเย็น “เธอตรวจบัญชีของเดือนที่แล้วและทำของเดือนนี้ด้วยให้เสร็จภายในวันนี้ พรุ่งนี้พี่ต้องเอาเสนอแผนกการเงิน ส่วนนี่เงินค่าจ้างเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นนะ” ยุพาส่งธนบัตรใบสีเทาให้ลูกน้องใหม่ของเธอเพื่อเป็นค่าจ้างที่เธอให้ล้านนาช่วยทำบัญชีให้ “ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีงานอะไรหรือใครจะจ้างหนูทำงานอื่นพี่ยุพาบอกได้เลยนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยความดีใจนาทีนี้อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ล้านนาพร้อมจะทำหมดเพราะบ้านของเธอกำลังจะพังต้องใช้เงินซ่อมยังโชคดีที่พ่อของเธอพอมีความรู้เรื่องช่างจึงทำเองได้แต่ยังหาเงินซื้ออุปกรณ์ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีเงินเก็บเลยจึงต้องพยายามหารายได้พิเศษ “พี่จะพยายามหาให้แต่งานที่พี่ให้ทำห้ามคนอื่นรู้เด็ดขาดเพราะโทษของการเปิดเผยบัญชีเงินเดือนพนักงานคือไล่ออกสถานเดียว” วันนี้ภูเบศไม่เข้าบริษัทเพราะมีประชุมข้างนอก บริษัทในช่วงหลังเลิกงานจึงเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่ล้านนาจะทำบัญชีให้หัวหน้าเพราะไม่ต้องกลัวใครเห็น งานบัญชีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับล้านนาถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้จบทางนี้มาโดยตรงแต่ก็เคยเรียนมาบ้างและก็ได้ผลการเ
ตอนที่ 4ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อรักคุณ “ถึงแล้ว” ล้านนาเผลอหลับมาตลอดทางเพราะเธอทั้งเหนื่อยจากงานและเพลียจากความรู้สึกผิดมารู้สึกตัวอีกทีก็ถึงที่พักแล้ว “คุณพาฉันมาที่ไหน” “ไม่ต้องถามแค่เธอรู้ว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไรก็พอ” คนตอบดูไม่มีเยื่อใยไม่มีความอบอุ่นแบบเดิมเหมือนที่ล้านนาแอบชอบมาตลอด ภูเบศกลายเป็นคนละคนกับที่หญิงสาวเคยคิดวาดภาพของเขาไว้ “อาบน้ำให้สะอาด ฉันจะไปอาบอีกห้อง” ชายหนุ่มโยนผ้าเช็ดตัวสีขาวให้สาวน้อยที่กำลังยืนงงแบบคนเพิ่งตื่นนอนก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกจากห้อง “เสื้อผ้า ฉันไม่มีชุดใส่” ชายหนุ่มหยุดเดินและหันกลับมาส่งยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ให้ สายตาของเขามันชวนให้คนตรงหน้ารู้สึกได้ถึงศึกหนักที่เธอจะต้องเจอในคืนนี้ “เธอมาที่นี่เพื่อทำให้ฉันพอใจ ดังนั้นเสื้อผ้าก็ไม่จำเป็น” หญิงสาวผู้เลือกชะตาชีวิตที่แสนเศร้าให้กับตัวเองนอนรอการมาของใครบางคนในสภาพที่เรือนร่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กเท่านั้นที่ปกปิดตัวอยู่ ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงเมื่อร่างสูงเดินก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอน ที่
ตอนที่ 2 คนที่ต้องชดใช้ คุณอเนกกลับมาแล้ว ข้าวทิพย์ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดในโรงรถ หัวใจของเธอทั้งกลัว ทั้งเสียใจ เธอกลัวว่า ถ้าคนที่กำลังดูแลส่งเสียเธอทุกอย่างรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนที่เขาจะกลับมา เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี สังคมของไทยมองอย่างไรในเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายเสียหายเสมอ หญิงสาวจึงได้แต่เก็บความเจ็บช้ำอยู่แต่ภายใจและหลับไปกับหยดน้ำตา รุ่งเช้าวันใหม่ “ข้าวทิพย์เรื่องเรียนปรับตัวได้หรือยัง เห็นปีแรกเกรดไม่ค่อยดีเลย” ชายสูงอายุของบ้าน ถามหญิงสาวในการดูแลด้วยความเป็นห่วง เมื่อนั่งพร้อมหน้ากันสามคนบนโต๊ะอาหาร “ดีขึ้นค่ะ เทอมนี้เกรดน่าจะดีขึ้น” คนตอบได้แต่ก้มหน้าอยู่กับจานข้าว เพราะถ้าเธอแค่เพียงเงยหน้า เธอก็ต้องสบตากับคนที่นั่งตรงข้ามเธอ และตอนนี้ เขาก็จ้องมองใบหน้าของเธออยู่ตลอดเวลา “คราม คราม” “ครับคุณพ่อ” ขานรับออกอาการตกใจ ตื่นจากภวังค์ “พ่อเรียกตั้งหลายรอบแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าวันนี้ พ่อเห็นแกนั่งจ้องข้าวทิพย์มันไม่วางตา” อเนกสังเกตตั้งแต่ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว แต่เข
ตอนที่ 3จุดแตกหัก “ครามลูกคิดให้ดีนะ งานแต่งงานที่หนูแพรต้องการ มันใช้เงินถึงสิบล้าน และไหนจะสินสอดอีก เธอรักลูก หรือเธอรักอะไรกันแน่” “เงิน เราก็มีไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม ผมจะทำอย่างที่แฟนผมต้องการไม่ได้ พ่อของแพรมีหน้ามีตา เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี จะให้เธอมาจัดงานเล็ก ๆ ได้อย่างไรครับพ่อ” เสียงสองคนพ่อลูกคุยกันดังจนฟังคล้ายกับกำลังเถียงกันมากกว่า ทำให้ข้าวทิพย์ที่กำลังทำความสะอาดห้องพระอยู่ห้องข้าง ๆ ต้องมาแอบฟังด้วยความเป็นห่วง “เราให้สินสอดเขาสิบล้าน ไหนจะทองอีก เครื่องเพชรก็ไม่ใช่น้อย เรื่องการจัดงานมันควรจะเป็นเรื่องของฝ่ายเจ้าสาว ครามลูกรู้บ้างไหมว่า เงินสินสอดและทรัพย์สินทั้งหมดที่พ่อเตรียมไว้ให้ มันคือเกือบจะทั้งหมดที่เรามีเหลือตอนนี้แล้วนะ” อเนกตั้งใจจะปิดเรื่องที่บริษัทของเขากำลังย่ำแย่เอาไว้ แต่ในเมื่อครามไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย เขาจึงต้องยอมบอกความจริง “แล้วลูกลองคิด ถ้าหนูแพรเธอรู้ว่า เรากำลังแย่ เธอยังอยากแต่งงานกับลูกอยู่ไหม ถ้าอยากรู้ว่า ไอ้ที่คิดมาตลอดว่า ลูกรักเธอ และเธอก็รักลูก มันเป็นความจริงไหม ก็ลองไปบอกหนูแพรนะว่า
ตอนที่ 7รู้ใจตัวเอง คืนที่สามของการไม่อยู่ของภรรยาทำให้ชายหนุ่มนอนทบทวนทุกเรื่องที่เกิดจากที่คิดว่าตัวเองแต่งงานกับหญิงสาว เพียงเพราะต้องการล้วงความลับและทำเพื่อผลประดยชน์ของโรงแรมตัวเอง แต่ตอนนี่เขาแน่ใจแล้วว่าเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเพียงแต่การหาผลประโยชน์จากเธอมันเป็นผลพลอยได้เท่านั้น ภูษิตเริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังคิดผิด ผลประโยชน์เหล่านั้นไม่มีค่าเท่ากับความรักที่ใบหยกมีให้เขาและไม่มีคุณค่าเท่ากับความไว้ใจที่พ่อตามอบให้เขาเข้าไปดูแลโรงแรม ชายหนุ่มตัดสินใจว่าเย็นนี้เขาจะพูดความจริงทุกเรื่อง ให้อนุสรณ์ฟังและของให้พ่อตาให้อภัยเขา ช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นเมื่อภูษิตเห็นว่าพ่อตากิ
ตอนที่ 6รู้สึกผิด “พี่ภูกลับมาแล้ว วันนี้หยกทำกับข้าวเย็นเลยนะคะ คุณพ่อก็ไม่ยอมกินก่อนบอกว่าจะรอพี่ภู อยากกินข้าวพร้อมหน้ากัน” ภูษิตกำลังคิดจะขอหย่ากับภรรยาในขณะที่ครอบครัวของเธอดีกับเขาทุกอย่าง “คุณพ่อครับ คุณแม่ผมฝากน้ำพริกมาให้พอดีวันนี้ผมแวะไปที่บ้านมา” ชายหนุ่มส่งถุงใส่กล่องน้ำพริกให้พ่อตาก่อนที่อนุสรณ์จะส่งให้ลูกสาวเอาไปจัดจาน เมื่ออยู่กันสองคนอนุสรณ์จึงมีบางอย่างอยากพูดกับลูกเขยโดยที่ไม่อยากให้ลูกสาวได้ยิน “ภูตอนนี้ที่โรงแรมมีปัญหามาก พ่อก็เว้นปล่อยให้ใบหยกเธอดูแลมานาน ถ้าจะเข้าไปตอนนี้ก็ลังเธอจะรู้สึกว่าพ่อไม่ไว้วางใจ เอาเป็นว่าพ่อจะบอกหยกว่าพ่
ตอนที่ 5ทุกอย่างสำเร็จ ใบหยกขายหุ้นให้กับสามีในราคาที่ถูกมากและแน่นอน เธอไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ผู้เป็นพ่อฟังเพราะเธอคิดว่าพ่อคงไม่เห็นด้วย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่อยากมีปัญหากับสามี ตอนนี้รัชพลจัดการเรื่องการแสดงจนครบทุกอย่าง เมนูอาหารในช่วงชมการแสดงก็เป็นเมนูที่มากกว่าของทางนู้นแถมราคาถูกกว่า ลูกค้าฝรั่งเริ่มออกปากชมจนภูษิตเองก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังชนะโดยที่เขาลืมไปเลยว่าการชนะครั้งนี้คือการชนะภรรยาที่รักเขามากถึงได้ยอมเขาทุกอย่างแบบนี้ “พอเถอะเพื่อน เรื่องที่จะหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ให้บริษัททัวร์ นายก็ตัดสินใจมาเลย ตอนนี้ภาพนายในสายตา
ตอนที่ 4เข้าทางพ่อตา อนุสรณ์ไม่อยู่หลายวันลูกเขยที่จ้องล้วงข้อมูลก็สามารถเก็บไปได้มากแต่ยังไม่ได้ที่สำคัญและเขาคิดว่าจะต้องหารทางเข้าไปที่ห้องทำงานของพ่อตาให้ได้ ในเมื่อเขารู้แล้ว ว่าแฟ้มรายละเอียดอยู่ตรงไหน แผนแรกที่ภูษิตทำคือการให้รัชพลไปติดต่อชาวพื้นเมืองเพื่องจองคิวล่วงหน้าและให้ค่าจ้างในราคาที่แพงกว่าโรงแรมของ ใบหยกให้ซึ่งก็สำเร็จเพราะโรงแรมของใบหยกทำแค่สัญญาต่อเดือน ทางภูษิตจึงทำสัญญาสามเดือนเลย “มีการแสดงจากแค่ห้าที่ แบบนี้ไม่ได้นะ นายต้องไปหามาเพิ่มถ้ามีแค่นี้ คนที่เขามาพักนานอย่างพวกฝรั่งเบื่อตายเลย เพราะคืนหนึ่งก็ใช้การแสดงจากสองที่แล้ว” ร
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ