ตอนที่ 7
รู้ใจตัวเอง
คืนที่สามของการไม่อยู่ของภรรยาทำให้ชายหนุ่มนอนทบทวนทุกเรื่องที่เกิดจากที่คิดว่าตัวเองแต่งงานกับหญิงสาว เพียงเพราะต้องการล้วงความลับและทำเพื่อผลประดยชน์ของโรงแรมตัวเอง แต่ตอนนี่เขาแน่ใจแล้วว่าเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเพียงแต่การหาผลประโยชน์จากเธอมันเป็นผลพลอยได้เท่านั้น
ภูษิตเริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังคิดผิด ผลประโยชน์เหล่านั้นไม่มีค่าเท่ากับความรักที่ใบหยกมีให้เขาและไม่มีคุณค่าเท่ากับความไว้ใจที่พ่อตามอบให้เขาเข้าไปดูแลโรงแรม
ชายหนุ่มตัดสินใจว่าเย็นนี้เขาจะพูดความจริงทุกเรื่อง ให้อนุสรณ์ฟังและของให้พ่อตาให้อภัยเขา
ช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นเมื่อภูษิตเห็นว่าพ่อตากินอิ่มแล้ว เขาจึงเริ่่มพูดเข้าเรื่อง
ชายหนุ่มสารภาพผิดตั้งแต่ต้นจนจบเขาคิดว่าพ่อตาคงโกรธหรือไม่ก็ผิดหวังที่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบนี้แต่ทุกอย่างกลับตรงข้าม คนฟังยังคงนั่งกอดอกฟังอย่างอมยิ้ม
ลูกเขยที่รู้สึกผิดเดินไปหาพ่อต่อคุกข่าลงและกราบไปที่ตักของคนที่อายุคราวพ่อด้วยความรู้สึกผิดและอายในสิ่งที่ตัวเองทำ
“ผมขอโทษกับทุกสิ่งที่ผมทำไปนะครับ ส่วนคุณพ่อจะให้อภัยไหมผมคงแล้วแต่ว่าคุณพ่อจะเมตตาคนที่ทำผิดอย่างลูกเขยคนนี้แค่ไหน”
อนุสรณ์ประคองไหล่ลูกเขยให้ลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ เขา ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแทนที่จะแสดงความโกรธ
“พ่อรู้ทุกเรื่อง เพียงแต่พ่อคิดว่าความเป็นนักธุรกิจมันย่อมมีการแข่งขันแต่พ่ออยากให้ภูได้มีเวลาได้คิดว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับกับความเป็นครอบครัวสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน”
ชายหนุ่มมองพ่อตาด้วยความตกใจ ที่เขาคิดว่าเขาทำ ทุกอย่างเนียนที่สุดแล้วทำไมอนุสรร์ถึงยังรู้ทุกเรื่อง
“สงสัยใช่ไหมว่าพ่อรู้ได้อย่างไร ทุกวงการมีทั้งคนดีและคนที่เห็นแต่ผลประโยชน์ บริษัททัวร์กับคณะการแสดงที่ภูไปติดต่อ เขามาบอกพ่อว่าภูเสนอราคาตัดหน้าโรงแรมของพ่อ พวกเขาจะไม่ไปแต่พ่อเองที่บอกให้พวกเขาไปเถอะจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น”
อนุสรณ์ทำท่านิ่งไปก่อนที่จะถอนหายใจและใช้มือหนาที่เหี่ยวย่นจับบ่าลูกเขย
“เรื่องหุ้นถึงแม้ลูกสาวพ่อจะไม่บอกพ่อสักคำ แต่จำไว้เรื่องแบบนี้มันไม่มีทางเป็นความลับได้ ถ้าภูอยากได้ทำไมไม่บอกพ่อ ตรง ๆ ในเมื่อโรงแรมนี้อย่างไรก็เป็นของใบหยกซึ่งมันก็คือของภูด้วย ”
ภูษิตคิดว่าตัวเองฉลาดมาตลอดหนึ่งปีที่เขาเข้ามาเป็นเขยที่นี่แต่สุดท้ายเขาคือนักธุรกิจที่เด็กมากและทำอะไรแบบโง่ ๆ ลงไปดีที่พ่อตาเข้าใจและให้อภัยเขา
“ผมขอคุณพ่อได้ไหมครับ ผมไม่อยากให้หยกรู้เรื่องนี้ แล้วเรื่องหุ้นผมจะคืนให้ทั้งหมด หยกไม่มีทางเข้าใจและให้อภัยเหมือนที่คุณพ่อให้อภัยผมแน่ ๆ ”
พ่อตาพยักหน้าเข้าใจลูกเขย ความเป็นสามีภรรยามันย่อมผิดหวังแน่นอนถ้ามารู้เรื่องแบบนี้ที่หลัง
คืนนี้คนทำผิดได้นอนหลับเต็มตาเพราะอย่างน้อยเขาก็ได้สารภาพผิดกับพ่อตาไปแล้วก็ได้แต่หวังว่าเรื่องนี้ภรรยาของเขาจะไม่รู้เรื่อง
บ่ายนี้เพื่อนเก่าที่แสนสนิทและเป็นต้นแผนการโดยไม่ได้ตั้งใจเรื่องการจีบใบหยกเธอกลับมาจากต่างประเทศเพราะไปทำงานอยู่ที่นั่นเมื่อกลับมาถึงจึงรีบมาหาภูษิตทันที เพราะอยากจะมาคุยและขอให้เพื่อนยกเลิกแผนการทั้งหมดเพราะนาเดียร์รู้สึกสงสารผู้หญิงด้วยกัน
นาเดียร์มาถึงที่หน้าโรงแรมชายหนุ่มจึงเดินออกมารับเพื่อน วันนี้รัชพลลาไม่อย่างนั้นเขาคงมาร่วมคุยด้วย
ภาพสามีมีหญิงสาวเดินเกาะแขนอย่างสนิทสนมเข้าโรงแรมไปอยู่ในสายตาของใบหยกที่ตั้งใจกลับมาก่อนกำหนดเพื่อทำให้สามีของเธอแปลกใจและเธอก็มีข่าวดีมาบอกเขาแต่กลับเป็นเธอเองที่แปลกใจกับภาพที่เห็นมากกว่า
นาเดียร์กับภูษิตนั่งคุยกันที่ห้องอาหารของโรงแรมไม่ใช่ที่มิดชิดอะไรจึงทำให้ใบหยกใส่หมวกใส่แว่นตาไปนั่งหันหลังชนกับสามีเพื่อฟังว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน
พนักงานเดินมาถามว่าใบหยกจะสั่งอะไร เธอรู้ได้ทันทีว่าพนักงานจำเธอได้ หญิงสาวใช้นิ้วเรียวปิดปากเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าห้ามทักเธอเด็ดขาด ก่อนที่ใบหยกจะตั้งใจฟังว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน
“ภูเราไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะทำอย่างที่เราบอก เราก็แค่พูดเล่น ๆ ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายจะได้มางานแต่ง นายกับลูกสาวเจ้าของโรงแรมที่เป็นคู่แข่ง”
ประโยคแรกที่ใบหยกได้ยินก็ทำเอาเธอหัวใจเต้นแรงจนแทบจะอดใจฟังข้อความต่อไปไม่ไหว
“เราคนจริง เห็นไหมในที่สุดเราก็ทำจนเธอยอมแต่งงานกับเราได้ โดยที่ไม่สงสัยเลย แถมยังทั้งไว้ใจและเอาใจเราทุกอย่าง”
เสียงที่แสนคุ้นเคยกำลังพูดทุกอย่างเพื่อแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โง่มาก ใบหยกกำมือแน่นพยายามรวบรวมสติ
“แล้วนี่อย่าบอกนะ ว่านาย....”
เสียงของหญิงสาวอีกคน ลากเสียงแสดงความตกใจกับสิ่งที่เธอกำลังถาม
“เรียบร้อย เธอโอนหุ้นในโรงแรมให้เราแล้วบางส่วนและตอนนี้เราก็แย่งลูกค้าจากโรงแรมของพ่อตามาได้สำเร็จ”
ใบหยกไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป เธอจึงลุกจากที่นั่งออกไปเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของคนทั้งคู่
ใบหยกออกไปแล้วแต่ทั้งคู่ยังคงคุยกันต่อและจริง ๆ มันเป็นบทสนทนาที่หญิงสาวควรจะได้ฟัง
“แล้วสุดท้ายนายจะทำอย่างไรต่อไปได้ทุกอย่างตามที่ต้องการแล้วนายจะหย่าเลยไหมเพราะถ้านานไปขืนมีลูกคราวนี้บาปหนักแน่”
นาเดียร์ส่ายหัวให้กับเพื่อนชาย เธอไม่คิดเลยว่า ความปากพล่อยของเธอจะทำให้ชายหนุมเชื่อและไปทำจริง ๆ จนเหตุการณ์มาไกลถึงขั้นนี้
“ตอนแรกเราก็คิดแบบนั้นเดียร์แต่ตอนนี้ไม่แล้วว่ะ ตอนนี้หยกเธอไปจีน เราไม่ได้เจอเธอแค่สามวันเท่านั้น นอนไม่หลับคิดถึงอย่างไรก็ไม่รู้ ก็เลยมานั่งคิดทบทวนดูเลยรู้หัวใจตัวเอง”
คนพูดทำท่ายิ้มด้วยความภูมิใจว่าในที่สุดเขาก็ไม่ได้เลวจนถึงตอนจบ
“แล้วแกจะทำอย่างไรต่อไป”
“เมื่อวานเราบอกความจริงทุกเรื่องกับพ่อตาแล้ว และผลที่ได้คือ เขารู้ทุกเรื่องแต่ที่ไม่แสดงอะไรเพราะรอให้เราคิดได้เอง เราดูโง่ไปเลยจากที่คิดว่าฝ่ายนั้นโง่ให้เราหลอก แต่ก็ขอพ่อตาไว้ว่าอย่าให้หยกรู้เรื่อง เพราะแกเป็นผู้หญิงแกก็คงรู้ว่าถ้าหยกเขารู้เรื่อง เขาคงไม่เข้าใจง่ายเหมือยพ่อตาเราแน่ ๆ ”
หญิงสาวยกนิ้วโป้งให้เพื่อนชายเพื่อชมเชยในความกล้ายอมรับผิด
“ดีแล้วภูเราได้ยินแบบนี้สบายใจขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องมานั่งรู้สึกผิดไปตลอดว่าทำให้นายทำแบบนี้ กลับไปบ้านทำดีกับใบหยกเธอให้มาก ๆ มีตัวเล็กไว ๆ ปีกว่าแล้วยังเงียบอยู่เลยระวังโดนล้อว่าไม่มีน้ำยานะ”
สองเพื่อนคุยกันต่อได้อีกสักพักนาเดียร์ก็ขอตัวกลับบ้านเพราะตั้งแต่ลงจากเครื่องมาก็มาหาเพื่อนก่อนเลย ยังไม่ได้กลับไปบ้าน
“เรากลับมาคราวหน้าต้องมีหลานให้ดูแล้วนะ แต่คราวนี้เราหยุดยาวสองเดือนรีบทำตอนนี้เลยจะได้รู้ว่ามีน้ำยาเหมือนกัน”
“บอกให้คนอื่นมีลูก ตัวเองแต่งงานก่อนเถอะ”
ทั้งสองคนโบกมือลากันอย่างมีความสุขทั้งคู่ นาเดียร์เองก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป ส่วนภูษิตก็ได้ระบายความรู้สึกให้เพื่อนฟัง
เพื่อนกลับไปแล้วชายหนุ่มจึงโทรศัพท์ไปหาภรรยาแล้วเธอไม่รับสายเขาโทรอยู่หลายครั้งจนตัดสินใจที่จะให้อนุสรณ์ช่วยโทร เขาจึงได้รู้ว่าตอนนี้ใบหยกกำลังนอนอยู่บนห้องนอนที่บ้านแล้ว เธอยอมกลับก่อนกำหนด
ตอนที่ 1แทบละลายเพราะสายตาบอส “พนักงานคนใหม่ชื่ออะไร” ภูเบศลูกชายท่านประธานบริษัทถามถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอตอนที่มาถึงที่ทำงานในตอนเช้ากับหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอาการแสดงออกถึงความสนใจเป็นพิเศษ “คนไหนคะ” ยุพาถามตามซื่อเพราะเดือนนี้ที่แผนกของเธอมีพนักงานใหม่ถึงสองคน “ก็คนนั้น เอ่อ...คนที่ตัวเล็ก ๆ อวบหน่อยๆ” คนถามทำสีหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าไม่อยากเจาะจงชัดเจนว่าคนที่เขากำลังถามถึงมีลักษณะอย่างไร “ล้านนา ยุพาว่าคนที่คุณภูเบศหมายถึงน่าจะเป็นล้านนาค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลูกน้องสาวถามออกไปเพราะกลัวว่าพนักงงานใหม่จะทำอะไรให้เจ้านายเธอไม่พอใจหรือเปล่าแต่เมื่อมองสบตาคนตรงหน้า ยุพาก็รีบพาตัวเองออกจากห้องท่านรองประธานทันที “ไม่รู้ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่” ภูเบศบ่นพึมพำมือเท้าเอวส่ายหัวไปมาในความช่างซักไซ้ของลูกน้องคนสนิท ภาพของหญิงสาวในชุดพนักงานของบริษัทที่ดูเข้ารูปทำให้เห็นหุ่นอันอวบอิ่มได้อย่างชัดเจนยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเจ้านายหนุ่มที่สุดแสนจะเจ้าชู้เป็นตัวพ่อของสังคมนักธุรกิ
ตอนที่ 2เธอทำให้ฉันรู้สึกสำคัญ ความใกล้ชิดระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเริ่มมีมากขึ้นถึงแม้ว่าต่อหน้าคนอื่น ๆ ภูเบศจะไม่ได้แสดงอะไรออกมาเกินกว่าที่ควรจะเป็น “ฉันซื้อขนมมาฝากอยู่ตรงเครื่องถ่ายเอกสารนะ” ชายหนุ่มพูดลอย ๆ เมื่อล้านนาเดินสวนกับเขาตรงหน้าห้องของแผนกด้วยท่าทางเหมือนว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้พูดกับเธอ ขนม ข้าวหรือแม้แต่กาแฟเขาก็หมั่นซื้อมาฝากลูกน้องคนนี้มาโดยตลอด ล้านนาเองเธอเริ่มรู้สึกกับภูเบศมากเกินกว่าเจ้านายเพราะลึก ๆ หญิงสาวก็แอบคิดว่าเจ้านายของเธอดูแลห่วงใยเธอมากกว่าพนักงานคนอื่น ๆ “ล้านนาแกคิดเข้าข้างตัวเองมากไป ผู้หญิงจน ๆ ไม่สวยอย่างแกใครเขาจะมาสนใจ” สาวน้อยในวัยเป็นสาวบานสะพรั่งพูดกับกล่องขนมในมือของเธอเพื่อเตือนตัวเองไม่ให้คิดไปไกลกว่านี้ “ทุกคนคะพรุ่งนี้ท่านรองประธานจะพาพวกเราไปเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเราทำงานล่วงเวลากันมาหลายวัน มีใครไปไม่ได้ไหมเพราะอาจจะกลับดึกหน่อย” ยุพาเดินออกมาจากห้องของเจ้านาย เธอก็มีข่าวดีมาแจ้งให้ลูกน้องทุกคนในแผนกได้รู้ “หนูไม่ไปนะคะพี่ยุพา ลูกชายไม่ค่อย
ตอนที่ 3บอสขา...ใจเย็น “เธอตรวจบัญชีของเดือนที่แล้วและทำของเดือนนี้ด้วยให้เสร็จภายในวันนี้ พรุ่งนี้พี่ต้องเอาเสนอแผนกการเงิน ส่วนนี่เงินค่าจ้างเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นนะ” ยุพาส่งธนบัตรใบสีเทาให้ลูกน้องใหม่ของเธอเพื่อเป็นค่าจ้างที่เธอให้ล้านนาช่วยทำบัญชีให้ “ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีงานอะไรหรือใครจะจ้างหนูทำงานอื่นพี่ยุพาบอกได้เลยนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยความดีใจนาทีนี้อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ล้านนาพร้อมจะทำหมดเพราะบ้านของเธอกำลังจะพังต้องใช้เงินซ่อมยังโชคดีที่พ่อของเธอพอมีความรู้เรื่องช่างจึงทำเองได้แต่ยังหาเงินซื้ออุปกรณ์ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีเงินเก็บเลยจึงต้องพยายามหารายได้พิเศษ “พี่จะพยายามหาให้แต่งานที่พี่ให้ทำห้ามคนอื่นรู้เด็ดขาดเพราะโทษของการเปิดเผยบัญชีเงินเดือนพนักงานคือไล่ออกสถานเดียว” วันนี้ภูเบศไม่เข้าบริษัทเพราะมีประชุมข้างนอก บริษัทในช่วงหลังเลิกงานจึงเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่ล้านนาจะทำบัญชีให้หัวหน้าเพราะไม่ต้องกลัวใครเห็น งานบัญชีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับล้านนาถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้จบทางนี้มาโดยตรงแต่ก็เคยเรียนมาบ้างและก็ได้ผลการเ
ตอนที่ 4ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อรักคุณ “ถึงแล้ว” ล้านนาเผลอหลับมาตลอดทางเพราะเธอทั้งเหนื่อยจากงานและเพลียจากความรู้สึกผิดมารู้สึกตัวอีกทีก็ถึงที่พักแล้ว “คุณพาฉันมาที่ไหน” “ไม่ต้องถามแค่เธอรู้ว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไรก็พอ” คนตอบดูไม่มีเยื่อใยไม่มีความอบอุ่นแบบเดิมเหมือนที่ล้านนาแอบชอบมาตลอด ภูเบศกลายเป็นคนละคนกับที่หญิงสาวเคยคิดวาดภาพของเขาไว้ “อาบน้ำให้สะอาด ฉันจะไปอาบอีกห้อง” ชายหนุ่มโยนผ้าเช็ดตัวสีขาวให้สาวน้อยที่กำลังยืนงงแบบคนเพิ่งตื่นนอนก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกจากห้อง “เสื้อผ้า ฉันไม่มีชุดใส่” ชายหนุ่มหยุดเดินและหันกลับมาส่งยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ให้ สายตาของเขามันชวนให้คนตรงหน้ารู้สึกได้ถึงศึกหนักที่เธอจะต้องเจอในคืนนี้ “เธอมาที่นี่เพื่อทำให้ฉันพอใจ ดังนั้นเสื้อผ้าก็ไม่จำเป็น” หญิงสาวผู้เลือกชะตาชีวิตที่แสนเศร้าให้กับตัวเองนอนรอการมาของใครบางคนในสภาพที่เรือนร่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กเท่านั้นที่ปกปิดตัวอยู่ ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงเมื่อร่างสูงเดินก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอน ที่
ตอนที่ 2 คนที่ต้องชดใช้ คุณอเนกกลับมาแล้ว ข้าวทิพย์ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดในโรงรถ หัวใจของเธอทั้งกลัว ทั้งเสียใจ เธอกลัวว่า ถ้าคนที่กำลังดูแลส่งเสียเธอทุกอย่างรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนที่เขาจะกลับมา เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี สังคมของไทยมองอย่างไรในเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายเสียหายเสมอ หญิงสาวจึงได้แต่เก็บความเจ็บช้ำอยู่แต่ภายใจและหลับไปกับหยดน้ำตา รุ่งเช้าวันใหม่ “ข้าวทิพย์เรื่องเรียนปรับตัวได้หรือยัง เห็นปีแรกเกรดไม่ค่อยดีเลย” ชายสูงอายุของบ้าน ถามหญิงสาวในการดูแลด้วยความเป็นห่วง เมื่อนั่งพร้อมหน้ากันสามคนบนโต๊ะอาหาร “ดีขึ้นค่ะ เทอมนี้เกรดน่าจะดีขึ้น” คนตอบได้แต่ก้มหน้าอยู่กับจานข้าว เพราะถ้าเธอแค่เพียงเงยหน้า เธอก็ต้องสบตากับคนที่นั่งตรงข้ามเธอ และตอนนี้ เขาก็จ้องมองใบหน้าของเธออยู่ตลอดเวลา “คราม คราม” “ครับคุณพ่อ” ขานรับออกอาการตกใจ ตื่นจากภวังค์ “พ่อเรียกตั้งหลายรอบแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าวันนี้ พ่อเห็นแกนั่งจ้องข้าวทิพย์มันไม่วางตา” อเนกสังเกตตั้งแต่ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว แต่เข
ตอนที่ 3จุดแตกหัก “ครามลูกคิดให้ดีนะ งานแต่งงานที่หนูแพรต้องการ มันใช้เงินถึงสิบล้าน และไหนจะสินสอดอีก เธอรักลูก หรือเธอรักอะไรกันแน่” “เงิน เราก็มีไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม ผมจะทำอย่างที่แฟนผมต้องการไม่ได้ พ่อของแพรมีหน้ามีตา เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี จะให้เธอมาจัดงานเล็ก ๆ ได้อย่างไรครับพ่อ” เสียงสองคนพ่อลูกคุยกันดังจนฟังคล้ายกับกำลังเถียงกันมากกว่า ทำให้ข้าวทิพย์ที่กำลังทำความสะอาดห้องพระอยู่ห้องข้าง ๆ ต้องมาแอบฟังด้วยความเป็นห่วง “เราให้สินสอดเขาสิบล้าน ไหนจะทองอีก เครื่องเพชรก็ไม่ใช่น้อย เรื่องการจัดงานมันควรจะเป็นเรื่องของฝ่ายเจ้าสาว ครามลูกรู้บ้างไหมว่า เงินสินสอดและทรัพย์สินทั้งหมดที่พ่อเตรียมไว้ให้ มันคือเกือบจะทั้งหมดที่เรามีเหลือตอนนี้แล้วนะ” อเนกตั้งใจจะปิดเรื่องที่บริษัทของเขากำลังย่ำแย่เอาไว้ แต่ในเมื่อครามไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย เขาจึงต้องยอมบอกความจริง “แล้วลูกลองคิด ถ้าหนูแพรเธอรู้ว่า เรากำลังแย่ เธอยังอยากแต่งงานกับลูกอยู่ไหม ถ้าอยากรู้ว่า ไอ้ที่คิดมาตลอดว่า ลูกรักเธอ และเธอก็รักลูก มันเป็นความจริงไหม ก็ลองไปบอกหนูแพรนะว่า
ตอนที่ 4ความทุกข์ที่ถาโถม ข้าวทิพย์เธอยอมเขาเอง เธอรักเขา หญิงสาวกลับมานอนที่ห้องและบอกตัวเองซ้ำ ๆ ตลอดเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นเธอรู้อยู่เต็มอกว่า มันไม่ได้เกิดจากความรักของเขา แต่เธอรักเขาไปแล้ว ตอนนี้เขากำลังแย่ หญิงสาวจึงทั้งรัก ทั้งสงสาร โดยที่ลืมสงสารตัวเอง การที่เรารักคนที่เขาไม่ได้รักเรา มันเจ็บปวดแค่ไหน หญิงสาวเข้าใจดี เพราะเธอก็รักคราม โดยที่เขาไม่เคยหันชายตามาสนในเธอ กลับยังมารังแกย่ำยีทั้งหัวใจและร่างกายข้าวทิพย์ก็ยังให้อภัย และไม่มีวันไหนที่เธอจะรู้สึกไม่รักเขาเลย เธอจึงเข้าใจความรู้สึกดีว่า ครามเองก็คงยังรักแพรรำภา ถึงแม้จะรู้ทั้งรู้ ว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักเขาจากหัวใจจริง ๆ ก็ตาม วันเวลาผ่านล่วงเลยไป ครามเริ่มทำใจได้ เขายังคงแอบนึกถึงแพรรำภาบ้าง เวลาที่ต้องอยู่คนเดียวแต่ทุกครั้งที่เขารู้สึกเหงา ข้าวทิพย์คือผู้หญิงที่เขาคิดถึง ห้องนอนของเธอข้างล่างก็ถูกใช้เป็นที่สำหรับทั้งสองคน “ตอนนี้บริษัทเรากำลังแย่มากเลยใช่ไหมครับ” ครามถามผู้เป็นพ่อบนโต๊ะอาหาร เพราะตัวเขาเองมีหน้าที่ดูแลฝ่ายบุคคลเลยไม่ค่อยรู้เรื่องเงินสำรองของบริษัท “ใช่ พ่อมองว
ตอนที่ 5กำลังใจที่ไม่แสดง ครามเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะเขารู้ตัวว่าเขาเป็นคนทำให้ข้าวทิพย์ต้องเป็นแบบนี้ “คุณเป็นสามีของคนไข้ใช่ไหมคะ” พยาบาลเดินออกจากห้องฉุกเฉินมาถามครามทันที เขาเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินนี่นานแล้ว “เอ่อ... ใช่ครับ” ชายหนุ่มลังเล แต่ในเวลานี้เขาคิดว่ามันต้องมีอะไรไม่ดีแน่ ๆ นางพยาบาลถึงได้ออกมาถามแบบนี้ “เชิญพบคุณหมอด้านในเลยค่ะ” ครามรีบเดินตามนางพยาบาลเข้าไป คุณหมอสีหน้าเครียด “ตอนนี้คนไข้ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 12 สัปดาห์ โชคยังดีนะครับที่เด็กไม่เป็นอะไร แต่คืนนี้ หมอคงต้องให้คนไข้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที” ครามเขารู้สึกชาไปทั้งตัว ‘ข้าวทิพย์ท้องหรือนี่’ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาต้องดีใจหรือรู้สึกอะไรไหม เขาทำอะไรไม่ถูกเลยแต่ด้วยเวลานี้ เธอมีเขาเพียงคนเดียว ชายหนุ่มจึงเดินไปหาเธอที่เตียง “เป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยถามโดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา “ปวดท้องค่ะ แต่ค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว” “ข้าวทิพย์... เธอท้องกับใคร” ครามไม่
ตอนที่ 7รู้ใจตัวเอง คืนที่สามของการไม่อยู่ของภรรยาทำให้ชายหนุ่มนอนทบทวนทุกเรื่องที่เกิดจากที่คิดว่าตัวเองแต่งงานกับหญิงสาว เพียงเพราะต้องการล้วงความลับและทำเพื่อผลประดยชน์ของโรงแรมตัวเอง แต่ตอนนี่เขาแน่ใจแล้วว่าเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเพียงแต่การหาผลประโยชน์จากเธอมันเป็นผลพลอยได้เท่านั้น ภูษิตเริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังคิดผิด ผลประโยชน์เหล่านั้นไม่มีค่าเท่ากับความรักที่ใบหยกมีให้เขาและไม่มีคุณค่าเท่ากับความไว้ใจที่พ่อตามอบให้เขาเข้าไปดูแลโรงแรม ชายหนุ่มตัดสินใจว่าเย็นนี้เขาจะพูดความจริงทุกเรื่อง ให้อนุสรณ์ฟังและของให้พ่อตาให้อภัยเขา ช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นเมื่อภูษิตเห็นว่าพ่อตากิ
ตอนที่ 6รู้สึกผิด “พี่ภูกลับมาแล้ว วันนี้หยกทำกับข้าวเย็นเลยนะคะ คุณพ่อก็ไม่ยอมกินก่อนบอกว่าจะรอพี่ภู อยากกินข้าวพร้อมหน้ากัน” ภูษิตกำลังคิดจะขอหย่ากับภรรยาในขณะที่ครอบครัวของเธอดีกับเขาทุกอย่าง “คุณพ่อครับ คุณแม่ผมฝากน้ำพริกมาให้พอดีวันนี้ผมแวะไปที่บ้านมา” ชายหนุ่มส่งถุงใส่กล่องน้ำพริกให้พ่อตาก่อนที่อนุสรณ์จะส่งให้ลูกสาวเอาไปจัดจาน เมื่ออยู่กันสองคนอนุสรณ์จึงมีบางอย่างอยากพูดกับลูกเขยโดยที่ไม่อยากให้ลูกสาวได้ยิน “ภูตอนนี้ที่โรงแรมมีปัญหามาก พ่อก็เว้นปล่อยให้ใบหยกเธอดูแลมานาน ถ้าจะเข้าไปตอนนี้ก็ลังเธอจะรู้สึกว่าพ่อไม่ไว้วางใจ เอาเป็นว่าพ่อจะบอกหยกว่าพ่
ตอนที่ 5ทุกอย่างสำเร็จ ใบหยกขายหุ้นให้กับสามีในราคาที่ถูกมากและแน่นอน เธอไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ผู้เป็นพ่อฟังเพราะเธอคิดว่าพ่อคงไม่เห็นด้วย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่อยากมีปัญหากับสามี ตอนนี้รัชพลจัดการเรื่องการแสดงจนครบทุกอย่าง เมนูอาหารในช่วงชมการแสดงก็เป็นเมนูที่มากกว่าของทางนู้นแถมราคาถูกกว่า ลูกค้าฝรั่งเริ่มออกปากชมจนภูษิตเองก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังชนะโดยที่เขาลืมไปเลยว่าการชนะครั้งนี้คือการชนะภรรยาที่รักเขามากถึงได้ยอมเขาทุกอย่างแบบนี้ “พอเถอะเพื่อน เรื่องที่จะหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ให้บริษัททัวร์ นายก็ตัดสินใจมาเลย ตอนนี้ภาพนายในสายตา
ตอนที่ 4เข้าทางพ่อตา อนุสรณ์ไม่อยู่หลายวันลูกเขยที่จ้องล้วงข้อมูลก็สามารถเก็บไปได้มากแต่ยังไม่ได้ที่สำคัญและเขาคิดว่าจะต้องหารทางเข้าไปที่ห้องทำงานของพ่อตาให้ได้ ในเมื่อเขารู้แล้ว ว่าแฟ้มรายละเอียดอยู่ตรงไหน แผนแรกที่ภูษิตทำคือการให้รัชพลไปติดต่อชาวพื้นเมืองเพื่องจองคิวล่วงหน้าและให้ค่าจ้างในราคาที่แพงกว่าโรงแรมของ ใบหยกให้ซึ่งก็สำเร็จเพราะโรงแรมของใบหยกทำแค่สัญญาต่อเดือน ทางภูษิตจึงทำสัญญาสามเดือนเลย “มีการแสดงจากแค่ห้าที่ แบบนี้ไม่ได้นะ นายต้องไปหามาเพิ่มถ้ามีแค่นี้ คนที่เขามาพักนานอย่างพวกฝรั่งเบื่อตายเลย เพราะคืนหนึ่งก็ใช้การแสดงจากสองที่แล้ว” ร
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ