ตอนที่ 5
กำลังใจที่ไม่แสดง
ครามเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะเขารู้ตัวว่าเขาเป็นคนทำให้ข้าวทิพย์ต้องเป็นแบบนี้
“คุณเป็นสามีของคนไข้ใช่ไหมคะ” พยาบาลเดินออกจากห้องฉุกเฉินมาถามครามทันที เขาเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินนี่นานแล้ว
“เอ่อ... ใช่ครับ” ชายหนุ่มลังเล แต่ในเวลานี้เขาคิดว่ามันต้องมีอะไรไม่ดีแน่ ๆ นางพยาบาลถึงได้ออกมาถามแบบนี้
“เชิญพบคุณหมอด้านในเลยค่ะ” ครามรีบเดินตามนางพยาบาลเข้าไป
คุณหมอสีหน้าเครียด
“ตอนนี้คนไข้ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 12 สัปดาห์ โชคยังดีนะครับที่เด็กไม่เป็นอะไร แต่คืนนี้ หมอคงต้องให้คนไข้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”
ครามเขารู้สึกชาไปทั้งตัว ‘ข้าวทิพย์ท้องหรือนี่’ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาต้องดีใจหรือรู้สึกอะไรไหม เขาทำอะไรไม่ถูกเลย
แต่ด้วยเวลานี้ เธอมีเขาเพียงคนเดียว ชายหนุ่มจึงเดินไปหาเธอที่เตียง
“เป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยถามโดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา
“ปวดท้องค่ะ แต่ค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว”
“ข้าวทิพย์... เธอท้องกับใคร” ครามไม่รู้เหมือนกันว่า ผีป่าตัวไหน มันดลใจให้เขาถามคำถามนี้ออกจากปาก ทั้งที่ตัวเขาเองรู้อยู่แล้วว่าเด็กในท้องคือลูกของเขา
“คุณพยาบาลคะ ช่วยด้วยค่ะ คุณพยาบาล” ข้าวทิพย์ไม่ตอบ แต่เธอกลับตะโกนเรียกพยาบาลเพื่อมาคุยอะไรบางอย่าง
ครามรู้สึกเอ๋อ
“มีอะไรคะคนไข้”
“คือคุณคนนี้ เขาไม่ใช่สามีฉันหรอกค่ะ เขาแค่เจอฉันตกบัน แล้วเขาพาฉันมาส่งโรงพยาบาลเท่านั้นค่ะ และตอนนี้ที่บ้านของเขามีคนป่วยอยู่ที่บ้านคนเดียว ฉันจะขอกลับบ้านได้ไหมคะ หรือไม่ก็นอนโรงพยาบาลแบบไม่มีคนเฝ้าได้ไหมคะ เพราะฉันยังติดต่อญาติไม่ได้จริง ๆ”
“ไม่ได้ค่ะ ถึงอย่างไร คุณก็ต้องนอนรอดูอาการค่ะ เอาเป็นว่าคืนนี้ คุณนอนที่ห้องฉุกเฉินำแก่อน ไม่ต้องมีคนเฝ้าก็ได้ ส่วนพรุ่งนี้ต้องรอดูอีกทีว่า คุณหมอจะว่าอย่างไร”
“ขอบคุณมากค่ะ ฉันรบกวนแค่นี้แหละค่ะ”
พอพยาบาลเดินออกจากข้างเตียงไป น้ำใส ๆ ก้ไหลคลอออกมา หญิงสาวพยายามเก็บกักมันไว้ เธอจะไม่มีทางร้องไห้ให้กับผู้ชายแบบนี้เด็ดขาด
“คุณกลับไปซะเถอะ ฉันอยู่ที่นี่ได้ และสิ่งที่คุณถามฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ผมขอโทษ คือผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะทิพย์”
“ฉันบอกให้คุณกลับไป” เสียงพูดแทบจะกลืนหายไปในลำคอ ครามพยายามขอโทษ พยายามจะอธิบาย แต่ข้าวทิพย์กลับมองเขาด้วยสายตาที่แสนเกลียดชัง
“ฉันขอร้องเถอะ อย่ามายุ่งกับฉันเลย” เธอออกปากไล่เขาให้กลับไป แล้วข้าวทิพย์นอนหลับตา น้ำใส ๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิท
“ผมไปดูคุณพ่อก่อนนะ แล้วผมจะรีบกลับมาแต่เช้าเลย”
ถึงแม้คนฟังจะไม่ลืมตามาโต้ตอบอะไรทั้งนั้น แต่ครามก็รู้ว่าหญิงสาวได้ยินในสิ่งที่เขาพูด
เมื่อถึงบ้าน
“ข้าวทิพย์เป็นอะไรบ้างลูก ทำไมเลือดมันออกมาแบบนั้น”
อเนกนอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงข้าวทิพย์ แต่จะโทร.ไป ก็กลัวทางนั้นจะยุ่งวุ่นวายกันอยู่ ท่านจึงรอฟังข่าวจากปากลูกชายดีกว่า
“หมอบอกว่าเธอท้อง เด็กไม่เป็นอะไรครับ ปลอดภัยดี แต่หมอให้นอนดูอาการคืนนี้ พรุ่งนี้ค่อยดูอาการ แล้วว่ากันอีกทีครับ”
“แล้วลูกกลับมาทำไม ทำไมไม่อยู่กับน้อง” คนเป็นพ่อถามด้วยความไม่เข้าใจ
“เธอไล่ผม เพราะผมถามว่า เธอท้องกับใคร” ครามเล่าตามความเป็นจริงด้วยเสียงเหมือนคนที่กำลังรู้สึกผิด
“ท้องกับหมามั้ง ไอ้หมาตัวที่มันลงไปหาข้าวทิพย์เกือบทุกคืน และยังไม่นับคืนวันนั้นที่แกขืนใจข้าวทิพย์อีก พ่อผิดหวังในตัวลูกมากนะคราม”
“คุณพ่อรู้เหรอครับ” ชายหนุ่มมองบิดาด้วยความตกใจ เพราะเขาไม่เคยรู้เลยว่า พ่อของเขารับรู้เรื่องราวระหว่างเขากับข้าวทิพย์มาโดยตลอด
“ครามบ้านหลังนี้มีกล้องวงจรปิด ลูกลืมไปแล้วหรือ แต่นั่นมันไม่สำคัญเท่าตัวลูกเองที่รู้อยู่แก่ใจ พ่อถามลูกจริง ๆ นะ ลูกรักข้าวทิพย์บ้างไหม และเด็กในท้องเธอ ลูกคิดอย่างไร ไหนบอกพ่อมาเอาตามที่หัวใจลูกคิด” อเนกถามลูกชายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน เหมือนคนที่กำลังรู้สึกผิดหวัง แต่ท่านก็ยังต้องการรู้คำตอบจากปากของลูกชาย
“ผมไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าผมรักเธอไหม แต่ผม...” เขาอ้ำอึ้ง
“ผมแน่ใจว่า เด็กในท้องเธอ คือลูกของผม แต่ผมทำอะไรไม่ถูก ทั้งตกใจ ทั้งตื่นเต้น เลยพูดไปแบบนั้น”
ครามเขาเคยถามตัวเองมาหลายครั้งแล้วว่า เขาคิดอย่างไรกับข้าวทิพย์ แต่มันก็ไม่มีคำตอบ เขารู้แต่ว่าเวลาที่เขาได้อยู่กับเธอเขามีความสุข และเธอก็เป็นคนแรกที่เขาคิดถึงเวลาที่มีเรื่องทุกข์ใจ
“แต่เธอรักลูกนะ”
ครามเงยหน้ามองสบตาบิดาเหมือนต้องการค้นหาคำตอบ
“พ่อ รู้ได้อย่างไรว่า ทิพย์รักผม”
“ลูกสงสัยใช่ไหมว่า เธอบอกพ่อเหรอ แต่เปล่า เพราะพ่อเป็นพ่อ พ่อผ่านโลกนี้มาหลายปี ผู้หญิงที่ยอมให้ผู้ชายย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเธอยอมเป็นคนไม่มีตัวตน คอยช่วยเหลือลูกทุกอย่าง แม้แต่เงินสองล้านที่ลูกเอาไปทำกิจการใหม่ ก็เป็นเงินของข้าวทิพย์ ถ้าข้าวทิพย์ไม่รักแก่ เธอไม่ยอมทำแบบนี้หรอก”
“ทำไมคุณพ่อไม่บอกผมเลย ว่าเงินนั้นเป็นของเธอ” ครามยิ่งได้ฟังทุกคำที่บิดาพูด เขายิ่งรู้สึกผิด
เขาทำอะไรลงไปมากมายกับผู้หญิงที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา
“ข้าวทิพย์ขอพ่อไว้ เพราะรู้ว่า ถ้าลูกรู้ว่าเป็นเงินเธอลูกคงไม่รับ”
คนเป็นพ่อที่มองลูกชายแบบผิดหวัง เอามือที่เริ่มเหี่ยวย่นลูบผมลูกชายเพื่อหวังให้เขาได้คิดอะไรขึ้นมาบ้าง
“คิดให้ดีว่า จะเอาอย่างไรต่อไป แต่ถ้าลูกคิดว่า จะเอาลูกไม่เอาแม่ พ่อว่าลูกก็ควรจะปล่อยข้าวทิพย์เธอไป ให้เธอรู้ไปเลยว่า เธอรักคนผิด ครามตัดสินใจเอานะลูก ครามโตแล้ว เรื่องของความรัก พ่อคงสั่งลูกไม่ได้”
ครามตัดสินใจที่จะกลับไปดูหญิงสาวที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้า เขาโทรศัพท์บอกให้แม่บ้านมาเช้ากว่าปกติ เพราะไม่อยากให้พ่อของเขาอยู่คนเดียว ตอนนี้ตัวของชายหนุ่มนั่งอยู่ในรถ แต่หัวใจของเขาโบยบินไปถึงโรงพยาบาลแล้ว เขายังสับสนในความรู้สึกว่ารักหรือไม่รัก แต่หัวใจเขามันบอกชัดเจนว่า เขาจะไม่ยอมเสียข้าวทิพย์กับลูกในท้องเด็ดขาด
ตอนที่ 6พยายามง้อ ครามกลับมาที่โรงพยาบาล เพื่อมาเฝ้าและดูแลข้าวทิพย์ หญิงสาวถูกพามานอนพักที่ห้องรวม ครามจึงต้องนอนเฝ้าอยู่ใต้เตียง เพราะไม่มีที่นอนให้สำหรับคนเฝ้า “คุณคราม คุณครามคะ” ข้าวทิพย์ตื่นขึ้นมาเห็นว่า ชายหนุ่มนอนหลับอยู่ใต้เตียงเธอ ด้วยสภาพที่น่าสงสาร เขามีเพียงแค่เสื้อคลุมแทนผ้าห่ม และท่านอนทับแขนตัวเองอยู่ เมื่อรู้สึกตัว เพราะได้ยินเสียงหญิงสาวเรียก ครามก็รีบลุกขึ้นมาหาคนบนเตียงทันที“ทิพย์จะเอาอะไร หิวน้ำเหรอ” “คุณกลับบ้านไปเถอะค่ะ เช้าแล้ว เดี๋ยวหมอก็มา เลือดหยุดไหลแล้ว วันนี้ก็คงได้กลับบ้าน คุณไม่ต้องมาลำบากนอนแบบนี้หรอก” “ทิพย์ ผมขอโทษ” ครามไม่รู้จะแก้ตัวด้วยคำไหน คงไม่มีคำใดดีเท่ากับคำว่าขอโทษที่ออกจากหัวใจ “เรื่องอะไรคะ ถ้าหมายถึงที่ คุณถามว่าฉันท้องกับใคร คุณถามถูกแล้วค่ะ เพราะการที่ฉันยอมให้คุณข่มเหงแบบนั้น มันแสดงว่าฉันเป็นคนใจง่าย ก็ไม่แปลกที่คุณจะคิดว่า ฉันก็คงง่ายกับคนอื่นด้วยเหมือนกัน” ข้าวทิพย์พูดจบ ยังไม่ทันที่ครามจะได้ตอบอะไรคุณหมอกับพยาบาลก็เดินมาที่เตียงเพื่อดูอาการทันที คุณหมอตรวจเช
ตอนที่ 7คำสั่งบิดา “ครามปิดประตู แล้วมาคุยกับพ่อหน่อย” อเนกมีเรื่องที่อยากจะคุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว จึงสั่งให้ปิดประตูเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน “ลูกจะเอาอย่างไรกับข้าวทิพย์ และเด็กในท้อง” “ผมจะพาเธอไปฝากท้องพรุ่งนี้ครับพ่อ ผมรู้ว่าเด็กในท้องคือลูกของผมแน่นอน และผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พอรู้ว่ากำลังจะมีลูก ผมก็ทั้งรักทั้งห่วงลูกผม” “แล้วแม่ของลูกล่ะ” อเนกถามกลับทันที เพราะลูกชายของเขาไม่ได้พูดถึงข้าวทิพย์เลย “ผมไม่รู้ครับพ่อ มันสับสนไปหมด” “ลูกจะสับสนอะไรพ่อไม่รู้ แต่ที่พ่อรู้คือ ลูกถึงเวลาต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย ข้าวทิพย์เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเดินไปหาลูกที่ห้อง ลูกด้วยซ้ำที่ขืนใจเธอ ความจริง ครามไม่ควรจะให้พ่อต้องมาย้ำแบบนี้ ลูกควรจะรู้ดีว่าทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หวังว่าลูกจะคิดได้ว่านอกจากดูแลลูกในท้องของข้าวทิพย์ ลูกควรทำอะไรต่อไปกับข้าวทิพย์ด้วย” อเนกไม่อยากบอกลูกชายตรง ๆ เพราะเขาคิดว่าครามโตพอที่รู้ผิดรู้ชอบได้ด้วยตัวเอง ถ้าลูกเขาคิดไม่ได้ เขาคงต้องทำใจว่าเขาเลี้ยงลูกให้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบ
ตอนที่ 8การกลับมาของใครบางคน ปิดเทอมแล้วข้าวทิพย์จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย เธออยู่ดูแลและคอยเป็นเพื่อนอเนกจนตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น เพราะได้กำลังใจดี “อีกกี่เดือน ปู่จะได้เห็นหน้าหลานล่ะ” “อีกสี่เดือนค่ะ คุณปู่คงเดินคล่องทันแน่ ๆ” หลานคนแรกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับคนป่วย เขาเคยหมดหวังตั้งแต่แม่ของครามจากไปแล้วก็มาหมดกำลังใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกทีเมื่อบริษัทเริ่มแย่ลง พนักงานเริ่มพากันลาออกจนในที่สุดความเครียดก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอย่างอเนกต้องกลายเป็นแบบนี้เรื่องราวกำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว แพรรำภากลับมาจากใต้ และเริ่มเข้ามาในชีวิตของคราม&n
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า
ตอนที่ 8การกลับมาของใครบางคน ปิดเทอมแล้วข้าวทิพย์จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย เธออยู่ดูแลและคอยเป็นเพื่อนอเนกจนตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น เพราะได้กำลังใจดี “อีกกี่เดือน ปู่จะได้เห็นหน้าหลานล่ะ” “อีกสี่เดือนค่ะ คุณปู่คงเดินคล่องทันแน่ ๆ” หลานคนแรกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับคนป่วย เขาเคยหมดหวังตั้งแต่แม่ของครามจากไปแล้วก็มาหมดกำลังใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกทีเมื่อบริษัทเริ่มแย่ลง พนักงานเริ่มพากันลาออกจนในที่สุดความเครียดก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอย่างอเนกต้องกลายเป็นแบบนี้เรื่องราวกำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว แพรรำภากลับมาจากใต้ และเริ่มเข้ามาในชีวิตของคราม&n
ตอนที่ 7คำสั่งบิดา “ครามปิดประตู แล้วมาคุยกับพ่อหน่อย” อเนกมีเรื่องที่อยากจะคุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว จึงสั่งให้ปิดประตูเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน “ลูกจะเอาอย่างไรกับข้าวทิพย์ และเด็กในท้อง” “ผมจะพาเธอไปฝากท้องพรุ่งนี้ครับพ่อ ผมรู้ว่าเด็กในท้องคือลูกของผมแน่นอน และผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พอรู้ว่ากำลังจะมีลูก ผมก็ทั้งรักทั้งห่วงลูกผม” “แล้วแม่ของลูกล่ะ” อเนกถามกลับทันที เพราะลูกชายของเขาไม่ได้พูดถึงข้าวทิพย์เลย “ผมไม่รู้ครับพ่อ มันสับสนไปหมด” “ลูกจะสับสนอะไรพ่อไม่รู้ แต่ที่พ่อรู้คือ ลูกถึงเวลาต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย ข้าวทิพย์เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเดินไปหาลูกที่ห้อง ลูกด้วยซ้ำที่ขืนใจเธอ ความจริง ครามไม่ควรจะให้พ่อต้องมาย้ำแบบนี้ ลูกควรจะรู้ดีว่าทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หวังว่าลูกจะคิดได้ว่านอกจากดูแลลูกในท้องของข้าวทิพย์ ลูกควรทำอะไรต่อไปกับข้าวทิพย์ด้วย” อเนกไม่อยากบอกลูกชายตรง ๆ เพราะเขาคิดว่าครามโตพอที่รู้ผิดรู้ชอบได้ด้วยตัวเอง ถ้าลูกเขาคิดไม่ได้ เขาคงต้องทำใจว่าเขาเลี้ยงลูกให้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบ