ตอนที่ 7
คำสั่งบิดา
“ครามปิดประตู แล้วมาคุยกับพ่อหน่อย”
อเนกมีเรื่องที่อยากจะคุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว จึงสั่งให้ปิดประตูเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน
“ลูกจะเอาอย่างไรกับข้าวทิพย์ และเด็กในท้อง”
“ผมจะพาเธอไปฝากท้องพรุ่งนี้ครับพ่อ ผมรู้ว่าเด็กในท้องคือลูกของผมแน่นอน และผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พอรู้ว่ากำลังจะมีลูก ผมก็ทั้งรักทั้งห่วงลูกผม”
“แล้วแม่ของลูกล่ะ” อเนกถามกลับทันที เพราะลูกชายของเขาไม่ได้พูดถึงข้าวทิพย์เลย
“ผมไม่รู้ครับพ่อ มันสับสนไปหมด”
“ลูกจะสับสนอะไรพ่อไม่รู้ แต่ที่พ่อรู้คือ ลูกถึงเวลาต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย ข้าวทิพย์เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเดินไปหาลูกที่ห้อง ลูกด้วยซ้ำที่ขืนใจเธอ ความจริง ครามไม่ควรจะให้พ่อต้องมาย้ำแบบนี้ ลูกควรจะรู้ดีว่าทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หวังว่าลูกจะคิดได้ว่านอกจากดูแลลูกในท้องของข้าวทิพย์ ลูกควรทำอะไรต่อไปกับข้าวทิพย์ด้วย”
อเนกไม่อยากบอกลูกชายตรง ๆ เพราะเขาคิดว่าครามโตพอที่รู้ผิดรู้ชอบได้ด้วยตัวเอง ถ้าลูกเขาคิดไม่ได้ เขาคงต้องทำใจว่าเขาเลี้ยงลูกให้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบ
หญิงสาวกลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง เตียงนอนที่เธอกำลังนั่งทับมันอยู่ มันคือที่ที่เธอกับเขาสร้างตัวน้อยในท้องขึ้นมา คำพูดของเขาที่โรงพยาบาลมันทำให้เธอเสียใจ แต่มันไม่ทำให้เธอคลายรักในตัวเขาได้เลย หญิงสาวรู้สึกโกรธตัวเอง ที่ยอมให้อภัยเขาเสมอ แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นค่าในตัวเธอเลย
ข้าวทิพย์สอบอีกสองวันก็จะหมดเทอมนี้แล้ว เหลืออีกแค่ปีเดียวเธอก็จะเรียนจบ เธอตัดสินใจจะเอาเรื่องที่เธอท้องไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อหาทางออก เพราะบางทีเธออาจจะไม่ต้องหยุดเรียนจะได้จบพร้อมเพื่อน ๆ
ด้วยความอ่อนเพลีย หญิงสาวเผลอหลับไปจนมาสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเคาะประตูห้องนอน
“ข้าวทิพย์ ทำอะไร กินข้าวเย็นได้แล้ว”
เสียงเรียกที่แสนจะคุ้นเคย คือเสียงของครามนั่นเอง เขามาเรียกเธอเพราะคงเห็นว่าใกล้จะมืดและเธอก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย
“ขอโทษทีค่ะ เผลอหลับยาวเลย”
“ไปกินข้าวกัน ผมออกไปซื้อราดหน้าร้านอร่อยมาให้คุณ คุณพ่อรออยู่ที่โต๊ะแล้ว”
ทั้งสองเดินมาที่โต๊ะอาหาร
“คุณท่านลงมากินข้างล่างเหรอคะ” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ป่วยอเนกจะกินข้าวที่ห้องนอนตลอด
“ทำไมล่ะ ตกใจอะไรขนาดนั้น ก็ฉันบอกแล้ว ว่าดีขึ้น ใจคอจะให้นั่งกินนอนกินอยู่แต่บนบ้านกันเหรอ”
คนป่วยได้ยินข้าวทิพย์พูดเหมือนตกใจ เขาเลยพูดติดตลกให้หญิงสาวรู้ว่าเขาหายดีแล้ว
“ทิพย์แค่กลัวคุณท่านจะล้มไปค่ะ”
“จะให้ฉันมามัวแต่นอนป่วยอยู่ไม่ได้ หลานก็จะมีแล้ว ถ้าปู่มัวแต่ป่วยใครจะเล่นด้วย”
อเนกดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่เหมือนเดิม กว่าที่เขาจะลงบันไดลงมาถึงชั้นล่างใช้เวลาเกือบสิบห้านาที เรื่องการพูดฟังดูรู้เรื่องแต่ยังมีน้ำลายไหล ข้าง ๆ เวลาที่พูดประโยคยาว ๆ
“ไม่ค่อยเห่อเลยนะครับคุณปู่ สงสัยผมต้องเตรียมทำห้องไว้ให้ลูกผมแล้ว เพราะผมมีข่าวดีอีกเรื่องที่จะบอกทุกคน ตอนนี้บริษัทของเราได้หันไปหาลูกค้าต่างชาติ สินค้าของเราส่งออกไป ขายได้มากกว่าการขายในไทยถึงสองเท่า และตอนนี้ค่าเงินบาทของเราอ่อนตัวลง ยิ่งทำให้กำไรของบริษัทมากขึ้นด้วย” ชายหนุ่มพูดจบก็ยื่นซองสีน้ำตาลให้กับข้าวทิพย์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา
“อะไรคะ” หญิงสาวถามด้วยใบหน้าสงสัย
“เงินที่คุณให้ผมยืม ทำให้บริษัทมีเงินไปใช้หมุนเวียนและได้กำไรอย่างงามกลับมา ผมคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยเล็ก ๆ น้อย ๆ”
หญิงสาวทำท่าจะไม่รับ แต่อเนกจับมือของเธอให้รับซองนั้นไว้ ทำให้ข้าวทิพย์ไม่กล้าขัดใจ
“ครามทำให้พ่อภูมิใจในตัวลูกมากนะ”
ครามกับข้าวทิพย์หันมาสบตากัน นานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นผู้ใหญ่ของบ้านเพียงคนเดียวยิ้มอย่างมีความสุขแบบนี้
นอกจากบริษัทของอเนกที่ครามเข้าไปบริหารจะดีขึ้นแล้ว ธุรกิจเล็กที่ชายหนุ่มหุ่นกับเพื่อนเปิดก็กำลังไปได้สวย ตอนนี้เขาก็กำลังเริ่มต้นเก็บเงินทุน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและมองหาตลาดเพิ่ม เพื่อทำให้บริษัทของพ่อกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
ครามไปรับหญิงสาวที่มหาวิทยาลัย หลังจากที่เธอสอบเสร็จเพียงครึ่งวัน
“คุณจะพาทิพย์ไปไหนกันคะ”
“เดี๋ยวคุณก็รู้ ผมจะพาคุณไปทำในสิ่งที่ผมควรทำมาตั้งนานแล้ว” คำตอบของครามทำให้ข้าวทิพย์ไม่อยากคาดคั้นเอาคำตอบ เพราะเธอก็อยากลุ้นเอาเหมือนกัน ว่าเขาจะพาเธอไปไหน
เมื่อถึง ครามเปิดประตูรถและกำลังจะก้าวขาลงแต่ถูกมือเล็กจับแขนของเขาเอาไว้ก่อน
“คุณพาทิพย์มาที่เขตทำไมคะ”
“ก็มาจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผมอย่างไรล่ะ”
“คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะคะ ทิพย์ว่ามันมากไป คุณไม่ต้องกลัว อย่างไรทิพย์ก็ไม่พาลูกคุณไปไหนแน่ ๆ และทิพย์ก็รู้ว่าตัวเองเป็นได้แค่ไหน”
“แล้วเป็นได้แค่ไหนล่ะ ที่คุณหมายถึง”
ครามปิดประตูรถและกลับมานั่งที่เดิม ใช้มือทั้งสองข้างของเขาจับมือหญิงสาวไว้ พร้อมกับรอฟังคำตอบ
“ทิพย์ก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งของคุณ สักวันคุณครามได้เจอผู้หญิงที่เหมาะกับคุณมากกว่าทิพย์ เมื่อวันนั้นมาถึงทิพย์ก็จะอยู่ในที่ของตัวเอง กลับบ้านกันเถอะค่ะ”
“พูดจบแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องบอกคุณว่า วันนี้ผมเจอผู้หญิงที่เหมาะสมกับผมแล้ว ลงไปจดทะเบียนกัน”
คราวนี้ชายหนุ่มลงจากรถและเดินไปเปิดประตูให้แม่ของลูกเขาเดินลงจากรถอย่างระมัดระวัง
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการจดทะเบียนสมรส ครามพาข้าวทิพย์ไปฝากท้อง เพื่อจะได้ตรวจอย่างละเอียดกับสูตินารีแพทย์โดยตรง จะได้รู้วิธีการดูแลตัวเอง และพัฒนาการของทารกในครรภ์
ตอนที่ 8การกลับมาของใครบางคน ปิดเทอมแล้วข้าวทิพย์จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย เธออยู่ดูแลและคอยเป็นเพื่อนอเนกจนตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น เพราะได้กำลังใจดี “อีกกี่เดือน ปู่จะได้เห็นหน้าหลานล่ะ” “อีกสี่เดือนค่ะ คุณปู่คงเดินคล่องทันแน่ ๆ” หลานคนแรกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับคนป่วย เขาเคยหมดหวังตั้งแต่แม่ของครามจากไปแล้วก็มาหมดกำลังใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกทีเมื่อบริษัทเริ่มแย่ลง พนักงานเริ่มพากันลาออกจนในที่สุดความเครียดก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอย่างอเนกต้องกลายเป็นแบบนี้เรื่องราวกำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว แพรรำภากลับมาจากใต้ และเริ่มเข้ามาในชีวิตของคราม&n
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 3ทำให้ตายใจ เกือบสองเดือนแล้วที่ภูษิตเข้าไปอยู่ในบ้านของใบหยก เขาเข้าออกโรงแรมของหญิงสาวได้อย่างสะดวกแต่ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร “ภูนายแต่งงานกับคุณใบหยกเธอมาจะสองเดือนแล้ว ตกลงรักเธอแล้วใช่ไหมล่ะ” รัชพลพูดแซวเพื่อนที่เป็นหัวหน้าของเขาด้วย เพราะไม่เห็นชายหนุ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปทำลายธุรกิจของอีกฝ่าย ซึ่งรัชพลก็อยากให้เจ้านายของเขาเลิกคิดแผนไม่ดีเหมือนกัน “ไม่ได้ไม่คิดแต่ยังคิดไม่ออกและตอนนี้ก็อยากให้ทางนั้นเขาไว้ใจก่อน ฉันแต่งงานแค่สองเดือนเองนะจะให้จู่โจมเข้าไปยุ่งกับโรงแรมเธอ เจ้าสาวฉันเขาคงรู้ตัวเสียก่อน”&n
ตอนที่ 2แต่งงาน ภูษิตใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับใบหยกที่สนามกีฬาแค่เพียงเดือนเดียว ตอนนี้หญิงสาวก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วและทั้งคู่จะพากันไปคุยกับผู้ใหญ่หลังจากที่ใบหยกขอดูใจฝ่ายชายต่ออีกสักสองเดือน “ใบหยกที่โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ท่าทางลูกค้าจะเข้าพักเยอะทุกวัน คุณพ่อหยกท่านเป็นคนเก่ง ผมยังอยากเก่งให้ได้ครึ่งของท่านเลย” ภูษิตทำปากหวานและเริ่มถามไถ่เรื่องงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดถึงเลย “ขอบคุณค่ะพี่ภู แต่คุณพ่อกลับบอกหยกว่าคุณอดุลย์ คุณพ่อของพี่เป็นคนที่เก่งและมีน้ำใจมาก ตอนโรงแรมของหยกเพิ่งเริ่มสร้าง คุณพ่อของพี่มาช่วยดูหน้างานอยู่บ่อย ๆ และให้คำปรึกษาคุณพ่อของหยกอยู่ตลอด จนโรงแรมอยู่ได
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า
ตอนที่ 8การกลับมาของใครบางคน ปิดเทอมแล้วข้าวทิพย์จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย เธออยู่ดูแลและคอยเป็นเพื่อนอเนกจนตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น เพราะได้กำลังใจดี “อีกกี่เดือน ปู่จะได้เห็นหน้าหลานล่ะ” “อีกสี่เดือนค่ะ คุณปู่คงเดินคล่องทันแน่ ๆ” หลานคนแรกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับคนป่วย เขาเคยหมดหวังตั้งแต่แม่ของครามจากไปแล้วก็มาหมดกำลังใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกทีเมื่อบริษัทเริ่มแย่ลง พนักงานเริ่มพากันลาออกจนในที่สุดความเครียดก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอย่างอเนกต้องกลายเป็นแบบนี้เรื่องราวกำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว แพรรำภากลับมาจากใต้ และเริ่มเข้ามาในชีวิตของคราม&n
ตอนที่ 7คำสั่งบิดา “ครามปิดประตู แล้วมาคุยกับพ่อหน่อย” อเนกมีเรื่องที่อยากจะคุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว จึงสั่งให้ปิดประตูเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน “ลูกจะเอาอย่างไรกับข้าวทิพย์ และเด็กในท้อง” “ผมจะพาเธอไปฝากท้องพรุ่งนี้ครับพ่อ ผมรู้ว่าเด็กในท้องคือลูกของผมแน่นอน และผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พอรู้ว่ากำลังจะมีลูก ผมก็ทั้งรักทั้งห่วงลูกผม” “แล้วแม่ของลูกล่ะ” อเนกถามกลับทันที เพราะลูกชายของเขาไม่ได้พูดถึงข้าวทิพย์เลย “ผมไม่รู้ครับพ่อ มันสับสนไปหมด” “ลูกจะสับสนอะไรพ่อไม่รู้ แต่ที่พ่อรู้คือ ลูกถึงเวลาต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย ข้าวทิพย์เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเดินไปหาลูกที่ห้อง ลูกด้วยซ้ำที่ขืนใจเธอ ความจริง ครามไม่ควรจะให้พ่อต้องมาย้ำแบบนี้ ลูกควรจะรู้ดีว่าทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หวังว่าลูกจะคิดได้ว่านอกจากดูแลลูกในท้องของข้าวทิพย์ ลูกควรทำอะไรต่อไปกับข้าวทิพย์ด้วย” อเนกไม่อยากบอกลูกชายตรง ๆ เพราะเขาคิดว่าครามโตพอที่รู้ผิดรู้ชอบได้ด้วยตัวเอง ถ้าลูกเขาคิดไม่ได้ เขาคงต้องทำใจว่าเขาเลี้ยงลูกให้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบ