ตอนที่ 3 เจออีกแล้ว
รมย์รวินท์เดินหาซื้อผักผลไม้ที่มีแม่ค้าตั้งแผงขายเรียงรายเต็มตลาดที่ใหญ่ที่สุด ใหญ่ระดับประเทศเลยก็ว่าได้ เดินทั้งวันขาคงได้เปลี้ยจนไม่มีแรง เพราะแค่นี้ก็เริ่มรู้สึกล้าไปทั้งขาแล้ว
“เอาอันนี้ค่ะป้า” มือบางส่งกระหล่ำปลีสีเขียวแซมขาว ขึ้นฉ่ายและแครอทส่งให้แม่ค้า
“หกสิบบาทจ้า”
“นี่ค่ะ” เธอหยิบเงินยื่นให้แม่ค้าแล้วหยิบถุงผักใส่ตะกร้าล้อลากเดินไปยังร้านอื่นต่อ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายใบเล็กสั่นสะท้าน
“เออ ว่าไงตังเม”
“กอบัว แวะตลาดแค่นี้นานจังวะ” ตังเมกรอกเสียงถามมาตามปลายสายเพราะเย็นนี้ตกลงกันว่าจะกินหมูกระทะกันที่คอนโดของเธอ แต่เพื่อนสนิทอย่างกอบัวกลับยังมาไม่ถึงสักทีทั้งที่ใกล้เวลานัดเต็มที
“รีบอยู่”
“ซื้อผักนะจ๊ะ ไม่ใช่ให้ไปส่องพ่อค้า นานเกิ้น”
“โอ้ย พ่อคงพ่อค้าอะไรล่ะ ไม่มีทั้งนั้นแหละ แต่ลูกเจ้าของตลาดก็ว่าไปอย่าง” รมย์รวินท์พูดเย้าเสียงขำก่อนจะหุบปากฉับเมื่อได้ยินเสียงพราวฟ้ารอดมาตามสาย
“แล้วรู้ไหมว่าตลาดที่แกยืนอยู่ตอนนี้เขามีลูกชายหล่อด้วยนะ”
“บ้าน่า พูดเล่นไหมล่ะ”
“แล้วอยากรู้ไหมล่ะว่าเป็นใคร” พราวฟ้าเอ่ยถามอีกครั้ง
รมย์รวินท์เบิกตากว้างก่อนจะรีบหันหลังเมื่อบังเอิญเห็นผู้ชายที่เธอพึ่งตื่นมาในห้องเขา แต่ก็อดชำเลืองมองไม่ได้ว่าเขามากับใครก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะเบิกกว้างเมื่อเห็นหน้าผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินมาด้วยกัน และใครๆในที่นี่ต่างรู้จักเป็นอย่างดี เศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาที่ยังคงความสวยไว้อย่างกับผู้หญิงอายุยี่สิบหมาดๆ
“อย่าบอกนะว่า...” เสียงหวานละเมอถามปลายสาย
“ใช่จ้า พี่เกมส์ลูกชายเพียงคนเดียวของคุณนายเกล้ากะรัต เศรษฐีนีผู้ครอบครองตลาดวัฒนาและธุรกิจในเครือจรรยาวัฒนากุล”
“บ้าไปแล้ว”
“ยังสนใจอีกไหม เดี๋ยวฉันจะบอกพี่ธันย์ให้”
“พอ หยุดเลย แค่พูดเล่นเว้ย”
“แต่เมื่อคืนฉันรู้นะว่าแกหายไปไหนกับใคร แล้วใครไปส่ง แถมยังปล่อยให้ฉันกลับคอนโดคนเดียวอีก” เสียงตังเมแทรกเข้ามาในสายทำให้หน้าสวยยิ่งเห่อร้อน
“พอๆ แค่นี้นะ ซื้อของก่อน จะรีบไป”
เธอรีบวางสายเพื่อนสนิททันที เพราะไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเมื่อคืนอีก จึงรีบเดินซื้อของอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ของครบก็รีบลากรถเข็นตะกร้ามุ่งตรงไปยังลานจอดรถ แต่เพราะมัวอ่านแชทเพื่อนสนิททำให้เธอเดินชนลูกค้าคนอื่น
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“มะ ไม่ค่ะ” รมย์รวินท์รีบยกมือพนมไหว้ขอโทษเมื่อคนที่เดินชนไม่ใช่ลูกค้าแต่กลับเป็นเจ้าของตลาดเสียเอง “ขอโทษนะคะหนูไม่ทันระวัง”
“เอ๊ะ เราเคยเจอกันหรือเปล่านะ” เกล้ากะรัตเอ่ยถามเมื่อเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ที่ไหนสักที่ เมื่อไม่นานมานี้
“คะ คงไม่หรอกค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ” รมย์รวินท์ก้มหัวขอโทษขอโพยก่อนจะรีบก้าวไปยังรถคันหรู
“จ้าๆ ไม่เป็นไร”
เกล้ากะรัตมองตามแผ่นหลังเล็ก จำไม่ผิดแน่ๆผู้หญิงคนนี้คือคนที่เธอพึ่งเจอเมื่อเช้าที่คอนโดลูกชาย
แล้วพอมองไปห้องสำนักงานขายที่อยู่ไม่ไกลมากก็เจอกับเจ้าลูกชายกำลังชะเง้อคอมองตาม ยิ่งย้ำชัดว่าเธอจำไม่ผิด
“ยิ้มอะไรแม่” กรภัคเอ่ยถามเมื่อเห็นผู้เป็นแม่เดินยิ้มกว้างมาแต่ไกลถ้าไม่ใช้เจ้าของตลาดคนที่เดินสวนไปมาคงคิดว่าแม่ผมเป็นบ้าแน่นอน
“เปล่านี้ แล้วเมื่อกี้ลูกมองใคร”
“มองไปเรื่อยครับ ไม่ได้เจาะจง”
“แต่คนเมื่อกี้จะใช่ลูกสะใภ้แม่ไหมหนอ” เกล้ากะรัตถามด้วยน้ำเสียงล้อเลียนเพราะไม่เคยมีใครสักคนที่ลูกชายจะพาขึ้นมานอนคอนโด ถ้าพามาก็คงจะพิเศษกว่าคนอื่นอยู่ไม่น้อย
“น้องที่คณะครับ ลูกสะใภ้อะไรครับแม่ยังไม่มีหรอก”
“ไหนบอกมองไปเรื่อยไง รู้เหรอว่าแม่หมายถึงใคร”
“ผมไม่คุยด้วยแล้ว ผมเคลียร์บัญชีให้นะ” กรภัคพูดตัดบทก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้แล้วหยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน
“แต่แม่เคยเจอเธอนะ”
“ที่ไหนครับ”
“นั่นสิ ที่ไหนนะ”
กรภัคเกิดอาการร้อนๆหนาวๆขึ้นมาเมื่อเห็นสายตาของผู้เป็นแม่ ขอเถอะ อย่าเป็นแบบที่คิดเลย
“อ๋อ นึกออกแล้ว”
“ที่ไหนครับแม่” เสียงทุ้มถามออกไปทันทีด้วยความตื่นกลัวจนผู้เป็นแม่หรี่ตามองอย่างจับผิด เขาจึงแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วก้มหน้าดูงบบัญชีของตลาดต่อ
“เดินสวนกับแม่ที่คอนโด ชั้นที่เราอยู่ด้วยนะ” ซึ่งคือคนเดียวกันกับที่เดินสวนกับเธอตอนเธอขึ้นไปหาลูกชายบนห้องพอดี
“ขึ้นมาผิดเฉยๆหรือเปล่าแม่” กรภัคตอบกลับเสียงร้อนรนเพราะกลัวถูกจับได้ จนกลายเป็นว่าออกตัวแรง
“นั่นสิทั้งชั้นก็มีแค่สองห้อง คือห้องของแม่ที่ไม่ค่อยมาอยู่กับห้องของลูกที่อยู่ประจำ”
กรภัคยกมือกุมขมับก่อนจะช้อนตามองผู้เป็นแม่อีกครั้งแล้วยิ้มแฉ่งจนเห็นฟันครบทุกซี่
“ลูกก็รู้ว่าทั้งชั้นที่เราอยู่เป็นชั้นส่วนตัว คนที่ไม่มีคีย์การ์ดไม่สามารถขึ้นมาได้ แต่สามารถลงไปได้ และเขาจะขึ้นมาไม่ได้ถ้าลูกไม่พาขึ้นมา ยังจะโกหกอะไรแม่อีกไหม”
“ผม เอ่อ...”
“อะไรยังไง หืม พ่อลูกชายตัวดีของแม่”
“น้องเมา ผมก็เลยพากลับห้อง”
“แล้วทำไมไม่ไปส่งที่คอนโดน้องเขา”
“ผมปลุกน้องแล้ว แต่น้องไม่ตื่น”
“แกก็เลยพามาที่ห้องแกว่างั้น” เกล้ากระรัตยกคิ้วขึ้นเชิงถาม
“ครับ” เมื่อจนมุมเขาก็ตอบรับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
“พามาให้แม่รู้จักบ้างสิ”
“เธอไม่ได้เป็นอะไรกับผม ก็แค่น้องร่วมคณะเองครับแม่ ไม่มีอะไรเลยจริงๆ”
“โอเค ไม่มีก็ไม่มี”
กรภัคพ่นลมหายใจออกมาเมื่อแม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ โดยไม่ติดใจอะไร แต่หารู้ไม่ว่าเขาคิดผิด เมื่อเกล้ากระรัตลอบยิ้มมุมปาก คิดว่าเธอจะเชื่อลูกชายจอมกระล่อนที่เลี้ยงมาเองกับมือเหรอ แค่อ้าปากก็รู้ไปถึงความคิดแล้ว ไว้วันหนึ่งเถอะไปตกหลุมรักเขาขึ้นมาจะมาอ้อนวอนให้เธอช่วยทีหลังอย่าฝันว่าจะช่วยเลย ปากแข็งแบบนี้แม่ชอบ
ตอนที่ 4 เด็กขี้เมา “กว่าจะมา” ตังเมเปรยขึ้นเมื่อเปิดประตูให้เพื่อนสาวที่หอบหิ้วของมาเต็มมือ“รถติดน่ะ”“รถติดหรือติดหัวใจลูกเจ้าของตลาดอยู่กันแน่”“โอ้ย ก็พูดไปนั้น ไม่ชอบหรอกคนเจ้าชู้ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้”“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลยกอบัว ไม่ต้องวกมาเรื่องฉัน” พราวฟ้ารีบห้ามเพราะประเด็นร้อนมันไม่ได้อยู่ที่เธอแต่อยู่กับคนที่มาทีหลังต่างหาก“สรุปว่าไง เรื่องเมื่อคืน” ตังเมเอ่ยถามขณะแกะผักออกจากถุงเพื่อล้างน้ำสะอาด“ไม่มีอะไรเลย พี่เขาก็แค่ไปส่งเฉยๆ”“จ้า เชื่อ” พราวฟ้าพยักหน้ารับแต่กลับยกยิ้มล้อเลียนจนกอบัวหน้ามุ่ย“โอ้ย พูดก็ไม่เชื่อ งั้นไม่ตอบแล้ว”“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว” พราวฟ้าเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบมืดหั่นแครอทแล้วหยิบใส่หม้อเพื่อทำน้ำซุป“เอ้อ แล้วทำไมถึงกลับพร้อมพี่เขาได้” ตังเมที่กำลังล้างผักหันมาถามด้วยความสงสัย“เมา แล้วบังเอิญไปเจอพี่เขาพอดี เขาคงสงสารมั้งเลยพาไปส่ง”“กอบัว!!”“อะไรตังเม จะตะโกนทำไมเนี่ย จกใจหมด”“นั่นสิ มีอะไรหน้าตื่นเชียว เจอหนอนในผักเหรอ” พราวฟ้าเอ่ยถาม“แกไปอ่อยพี่เขาหรือเปล่า” ตังเมถามด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าเวลาอีกฝ่ายเมาหนักมากๆจะเป็นอย่างไร“
ตอนที่ 5 ตามที่ใจปรารถนารถอาวดี้คันหรูแล่นไปตามท้องถนนเมืองหลวงที่ค่อนข้างโล่งกว่าทุกวันจนกระทั่งมาจอดสนิทที่หน้าคอนโดหรู“พี่เกมส์ ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนูที่คอนโดคะ” ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองตึกสูงข้างหน้าไม่ว่ามุมไหน ก็ไม่ใช่คอนโดเธอ“ก็พี่ถามเราแล้วว่าเราอยู่ที่ไหน แต่เราไม่ตอบพี่”“ถามตอนไหน หนูไม่เห็นได้ยินเลย”กรภัคเกาหัวแล้วเสยผมขึ้นแรงๆอยากจะเอาหัวตัวเองทุ่มใส่พวงมาลัยสักทีสองที เพราะก่อนหน้านี้เธอหลับมาตลอดทาง เขาทั้งเรียก ทั้งสะกิดถาม แต่สิ่งที่ได้มาคือความเงียบ“ไหนๆก็มาถึงแล้วนอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับ”“ให้หนูนอนกับพี่ หนูไม่ปลอดภัยแน่นอน ไม่เอาหนูจะกลับห้อง”“อย่าดื้อได้ไหม แล้วตอนนี้พี่ก็ง่วงแล้วด้วย”“แล้วถ้าหนูปล้ำพี่จะทำไงล่ะ”“เออ เดี๋ยวพี่ขัดขืนเอง ลงมาก่อน”“อื้อ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับ แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ เดินเซไปมาจนคนที่แอบมองอยู่ด้านหลังช้อนตัวขึ้นอุ้ม“พี่เกมส์”“ง่วงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นไปเอง”“อือ”ดวงตาคู่สวยปิดสนิทอีกครั้งแล้วหันหน้าซุกอยู่กับอกแกร่งกำยำ ปกติเธอค่อนข้างเป็นคนนอนหลับยากมาก ต่อให้กินเหล้าเมามากขนาดไหนก็ไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง
ตอนที่ 6 ข้อตกลงร่างบางพลิกกายขยับไปมาเมื่อรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวก่อนที่เธอจะสะดุ้งตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มผืนใหญ่ร่วงลงมา เรื่องราวทุกอย่างเมื่อคืนเริ่มแจ่มชัดเข้ามาในโสตประสาทของเธอ“ตื่นมาก็จะอ่อยพี่ต่อเลยหรือไงเด็กขี้เมา”“พี่เกมส์” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเห็นร่างสูงใส่กางเกงนอนขายาวเปลือยท่อนอกพิงขอบประตูในมือถือแก้วกาแฟยกยิ้มมุมปาก เธอจึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยจูบ นั่งกอดเข่าขยับตัวถอยจนชิดหัวเตียงเมื่อเขาก้าวเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น“จะหนีไปไหน เมื่อคืนเรายังสนุกด้วยกันทั้งคืนเลยจำไม่ได้เหรอ”“พี่ฉวยโอกาสกับคนเมาเหรอคะ”“พูดดีๆนะกอบัว พี่ไม่ได้ข่มขื่นเรานะ มีแต่เรานั่นแหละที่...”“พอแล้วค่ะพี่เกมส์ หนูไม่อยากฟัง” ร่างบางยกมือขึ้นห้ามก่อนจะยกขึ้นมาอุดหูแล้วก้มหน้าเพื่อหลบสายตาคม ทำอะไรลงไปวะเนี่ย! กอบัว“พี่ก็ต้องอธิบายสิ เพราะพี่ไม่อยากเป็นคนที่ถูกตราหน้าว่าข่มขื่นเรา”“กอบัวเชื่อแล้วค่ะว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ” เพราะคนที่เริ่มคือเธอเองทุกอย่างนี้แหละ พอกันที่เหล้า เบียร์ อย่าได้เจอกันอีกเลย ลาขาดตลอดกาล“แล้วเสื้อผ้าหนูล่ะ” เธอเอ่ยถามพร้อมกับมองไปรอบ
ตอนที่ 7 ความลับ‘แต่’‘แต่อะไรอีก หืม’‘ต้องไม่มีคนรู้เรื่องนี้’‘ตกลง จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ของเรา’ เมื่อกลับมาถึงคอนโดตัวเอง ร่างบางทิ้งตัวนอนอย่างหมดแรงยกมือขึ้นเกยหน้าผากพยายามคิดทบทวนสิ่งที่เธอพึ่งตกลงกับเขาไป เพราะความเมาอย่างเดียวที่พาเธอมาถึงจุดนี้ได้ บางครั้งก็นึกแปลกใจตัวเองว่ายอมทำไม “โอ้ย จะบ้าตาย”ครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ที่สั่นสะท้านอยู่ข้างตัวทำให้เธอต้องหยิบขึ้นมารับอย่างเลี่ยงไม่ได้“ค่ะแม่”“แกอยู่ไหนกอบัว เมื่อคืนฉันก็ติดต่อไม่ได้ จนเกือบจะจองตั๋วบินไปหาแกที่กรุงเทพแล้วเนี่ย”เสียงหวานดังแว่วเข้ามาทำให้เธอเผลอยิ้มออกมา ไม่ใช่ใครหรอกนอกจากคุณแม่สุดที่รัก เจ๊กอหญ้าเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดจันทบุรี&ldqu
ตอนที่ 8 พิษไข้ร่างบางเดินขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอเขาอาบน้ำ จนกระทั่งเขาเดินออกมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทำให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวยมีหยดน้ำเกาะพราวตามผิวขาวเนียน ปลายยอดยังเป็นสีชมพูสวย จนเผลอมองอยู่นาน“หิวพี่เหรอ”“พูดจาบ้าๆ”“ก็เห็นมองตามตาเป็นประกายเชียว”“ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาล่ะคะ”“พี่ลืมเอาชุดเข้าไปน่ะ”กรภัคเอ่ยบอกก่อนจะหยิบกางเกงนอนเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเดินขึ้นมานอนบนเตียงกว้าง“พี่เกมส์ไม่กลับไปนอนที่ห้องล่ะคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”“พี่เป็นห่วง”“ไว้ใจได้ป่ะเนี่ย”“คำถามนี้พี่น่าจะถามเรามากกว่ามั้ง” กรภัคว่าเสียงขำจนร่างบางเบ้ปากกลอกตามองบนใส่ ผมจึงยื่นมือไปหยิกแก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว“พี่เกมส์ เจ็บนะ”“หมั่นเขี้ยว นอนได้แล้ว พี่ไม่ทำอะไรหรอก
ตอนที่ 9 เวลาของเรา เมื่อจัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยฉันก็รับยาลดไข้จากเขามาใส่ปากแล้วตามด้วยน้ำเปล่า “อื้อ พี่เกมส์จะทำอะไร” เสียงหวานร้องท้วงเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ “พี่ขอวัดไข้หน่อย” กรภัคยกมือขึ้นทาบหน้าผากพอเห็นว่าอุณหภูมิปกติก็ค่อยเบาใจ “หายดีแล้ว”“ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนู”“พี่ขอโทษนะที่รุนแรงไปหน่อย”“ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ” รมย์รวินท์พูดเสียงแผ่วก้มหน้างุดหลบสายตาคมที่มองมาราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำน้อยๆ “แล้วนี่เราจะไปไหนไหม พี่จะพาไป”“ปกติวันหยุดหนูจะไปซื้อของใส่ตู้เย็น”
ตอนที่ 10 บรรยากาศพาไป “เป็นอะไรหรือเปล่าตั้งแต่ออกจากห้าง พี่เห็นเรานั่งเงียบมาตลอดทางเลย”“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร”“ไข้ขึ้นหรือเปล่า” กรภัคยกฝ่ามือทาบหน้าผากได้รูปแต่คนตัวเล็กกลับเบี่ยงตัวหนี“ไม่ค่ะ สบายดี”“แล้วทำไมหน้าดูซึมๆ แบบนี้ล่ะ”“เอ่อ...หนูคอแห้งเฉยๆ กินเบียร์กันไหมคะพี่เกมส์”“ยัยเด็กขี้เมา” กรภัคว่าขึ้น เขาก็อุตส่าห์เป็นห่วงที่ไหนได้ร่างกายต้องการแอลกอฮอล์นี่เอง“สรุปกินไหมคะ”“พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“มีค่ะแต่แค่กระป๋องเดียว ไม่เมาหรอก”“โอเค”ผมหยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมาสองกระป๋องก่อนจะเดินมาหาร่างบางที่นั่งอยู่ริมระเบียงที่ไม่ได้กว้างมาก มีเพียงเก้าอี้ในสวนและรอบๆยังปลูกดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงาม“อื้อ รับไ
ตอนที่ 11 แค่คนรู้จักเช้าวันต่อมารถเบนซ์ c-class สีขาวแล่นเข้ามาในรั้วมหาลัยตามกฎหมายกำหนดก่อนจะจอดสนิทที่ลานจอดรถตึกคณะวิศวกรรมที่ค่อนข้างโล่งครืด ครืด ครืดขณะที่มือบางเก็บหนังสือและไอแพดใส่กระเป๋าผ้าแบรนด์ดัง แต่ยังไม่ทันไรโทรศัพท์ในมือก็สั่นสะท้านเมื่อมีสายเรียกเข้า“เออว่าไงพราว”“อยู่ไหน”“กำลังจอดรถ”“อยู่โรงอาหารนะกับตังเม”“โอเคๆ เดี๋ยวตามไป”เท้าเรียวบนรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวเดินตรงไปยังโรงอาหารพร้อมกับชะเง้อคอมองหา จนเจอสองสาวที่นั่งกินข้าวอยู่โต๊ะริมกระจก“กว่าจะมาได้”“เออ รถติด ตื่นสายด้วยนิดหน่อย”พราวฟ้าที่กำลังเคี้ยวข้าวชะเง้อคอมองตามเพื่อนสนิทอย่างรมย์รวินท์ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “แล้วแกมองหาอะไร”“เปล่า”“พักหลังๆนี่พิรุธเยอะนะแก หรือว่าแกไปแอบปิ๊งหนุ่มที่ไหนมา”“พูดไปเรื่อยอ่าตังเม”“เอ้า ก็ท่าทีแกแปลกๆ”“แค่สงสัยว่าพี่ธันย์บอดี้การ์ดส่วนตัวพ่วงตำแหน่ง
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้
ตอนที่ 37 ทะเลเดือด“เดี๋ยวเราไปเที่ยวที่นี่กันก่อนนะคะ ไปหาข้าวเที่ยงกินที่นี่ด้วย”“ตามใจไกด์เลยครับ” กรภัคบอกเสียงอ่อนโยนพร้อมกับกุมมือนุ่มไว้ตลอดทางจนกระทั่งถึงที่หมาย“เดี๋ยวหนูพาพี่เที่ยวที่โซนนี้ก่อนนะเวลามีน้อย คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะพาเที่ยวให้ครบแปดโซนเลยค่ะ”“โอเคครับ”“งั้นไปกันค่ะ”รมย์รวินท์เช่าจักรยานสมาสองคัน เธอกับเขาปั่นเลียบไปตามริมน้ำชมอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลที่ตั้งเด่นสง่า ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ที่มียอดแหลมตรงปลายโบสถ์ทั้งสองข้าง ภายในงดงามด้วยการประดับกระจกสี“สวยมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะ”“เป็นแลนมาร์คของจังหวัดเลยค่ะ ป่ะนี่ก็ใกล้เที่ยวแล้วเดี๋ยวหนูพาไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงกับเส้นจันท์ผัดปูนิ่มที่ร้านริมน้ำบอกเลยว่าอร่อยมาก เอ๊ะหรือส้มตำทุเรียนดี”“โอ้โห่ ทุเรียนพี่ว่าพอก่อนดีกว่า เมื่อเช้าแม่เราก็จัดให้พี่เต็มที่เลย แล้วเรายังแกล้งพี่ไว้แสบมากอีกนะ”“ก็เลือกที่จะไม่กินก็ได้นี่คะ เหมือนที่พี่ไม่ไปช่วยงานแม่พี่ที่ตลาดช่วงหน้าทุเรียนไงคะ
ตอนที่ 36 ดูดาวกันนะ หลังจากที่ทานข้าวอิ่มเรียบร้อยกอหญ้าก็ขอตัวไปนอนเพราะต้องลงสวนแต่เช้า กรภัคจึงรีบเดินไปรั้งเอวบางที่กำลังจะเดินเข้าห้องมากอดไว้แนบอก“พี่เกมส์ทำอะไรคะเนี่ย ปล่อยเลย”“พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะ”“ก็บอกดีๆสิคะ มากอดทำไม เดี๋ยวแม่มาเห็นเข้า”“พี่กลัวเราหนีพี่อีก” กรภัคพาร่างบางเดินมานั่งหน้าบ้านที่มุมนั่งเล่นตรงระเบียงซึ่งมีศาลาขนาดเล็กตัวไม้ระแนงมีผู้ผ้าพริ้วสีขาวตามเสาบ้าน รอบๆปลูกไม้ประดับจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว“มีอะไรก็พูดมาสิคะ”“มานอนดูดาวกันนะ”รมย์รวินท์นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆแต่กลับถูกเขาดึงไปนั่งบนตักสองแขนกำยำกอดรอบเอวบางแล้ววางคางเกยบนไหล่เล็ก“พี่คิดถึงเรามากเลยนะรู้ไหม”“....”เมื่อเธอไม่ตอบแต่การที่เธอเอียงศีรษะซบอกก็ทำให้ผมยิ้มออกมา ซึ่งยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่เปรี่ยมไปด้วยความสุข“พี่รักเรานะ ขอโทษที่พี่ไม่ได้ดีพอจนสุดท้ายทำให้เราต้องเสียใจ
ตอนที่ 35 คนเดียวสักพัก“เฮ้อ” รมย์รวินท์ถอนหายใจเฮือก ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านก่อนจะพูดคุยกับผู้เป็นแม่ ถ้าเจออะไรอย่าตกใจ อย่าใช้อารมณ์ อย่าใช้สมองให้ใช้หัวใจตัดสิน ที่แม่พูดมาทั้งหมดคงหมายถึงเขาสินะครืด ครืด ครืด“โทรมาได้จังหวะพอดีเลย” รมย์รวินท์รีบรับสายเมื่อเห็นชื่อเพื่อนสนิทโทรเข้ามา “กำลังจะโทรหาพอดีตังเม”“แกเจอพี่เกมส์แล้วใช่ไหม”“เจอแล้ว แกรู้อยู่แล้วหรอว่าเขามาที่นี่”“อือ”“แล้วแกไม่บอกฉันก่อน”“แหม่ๆ ทำอย่างกับรับสายงั้นแหละ ฉันกับพราวโทรหาแกจนสายเกือบไหม้แล้วมั้ง ข้อความที่ส่งไปเปิดอ่านบ้างหรือเปล่าเถอะ”“โทษทีจะเพื่อนรัก แต่หยุดบ่นก่อน ช่วยคิดหน่อย”“จะให้ช่วยคิดยังไง เรื่องนี้แกต้องตัดสินใจเอง หัวใจแก แกก็น่าจะรู้ดีที่สุดแล้วนะกอบัว มาถามฉันก็จะช่วยอะไรได้นอกจากโทรมาฟังแกระบาย”“เรื่องจริงใช่ไหม”“อือ วันนั้นฉันก็อยู่กับพวกพี่เขา พี่ชินเขาก็อยู่ด้วยนะ เขาเล่าและยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ”“แต่ตอนที่ฉันขึ้นไปฉันก็ไม่เห็นแม้แ