ตอนที่ 4 เด็กขี้เมา
“กว่าจะมา” ตังเมเปรยขึ้นเมื่อเปิดประตูให้เพื่อนสาวที่หอบหิ้วของมาเต็มมือ
“รถติดน่ะ”
“รถติดหรือติดหัวใจลูกเจ้าของตลาดอยู่กันแน่”
“โอ้ย ก็พูดไปนั้น ไม่ชอบหรอกคนเจ้าชู้ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลยกอบัว ไม่ต้องวกมาเรื่องฉัน” พราวฟ้ารีบห้ามเพราะประเด็นร้อนมันไม่ได้อยู่ที่เธอแต่อยู่กับคนที่มาทีหลังต่างหาก
“สรุปว่าไง เรื่องเมื่อคืน” ตังเมเอ่ยถามขณะแกะผักออกจากถุงเพื่อล้างน้ำสะอาด
“ไม่มีอะไรเลย พี่เขาก็แค่ไปส่งเฉยๆ”
“จ้า เชื่อ” พราวฟ้าพยักหน้ารับแต่กลับยกยิ้มล้อเลียนจนกอบัวหน้ามุ่ย
“โอ้ย พูดก็ไม่เชื่อ งั้นไม่ตอบแล้ว”
“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว” พราวฟ้าเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบมืดหั่นแครอทแล้วหยิบใส่หม้อเพื่อทำน้ำซุป
“เอ้อ แล้วทำไมถึงกลับพร้อมพี่เขาได้” ตังเมที่กำลังล้างผักหันมาถามด้วยความสงสัย
“เมา แล้วบังเอิญไปเจอพี่เขาพอดี เขาคงสงสารมั้งเลยพาไปส่ง”
“กอบัว!!”
“อะไรตังเม จะตะโกนทำไมเนี่ย จกใจหมด”
“นั่นสิ มีอะไรหน้าตื่นเชียว เจอหนอนในผักเหรอ” พราวฟ้าเอ่ยถาม
“แกไปอ่อยพี่เขาหรือเปล่า” ตังเมถามด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าเวลาอีกฝ่ายเมาหนักมากๆจะเป็นอย่างไร
“สบายใจได้ ขนาดประครองสติตัวเองยังยากลำบากเลย จะเอาแรงที่ไหนไปอ่อย ค็อกเทลอะไรวะโคตรแรง” รมย์รวินท์เอ่ยตอบพร้อมกับเดินยกผักที่หันเสร็จแล้วออกไปวางที่โต๊ะริมระเบียงเพื่อเลี่ยงต่อการถูกเพื่อนจับได้ว่ากำลังโกหก
“แล้วไป”
“ปลอดภัยดีใช่ไหม” พราวฟ้าเอ่ยถามเมื่อกอบัวเดินกลับเข้ามาในครัวอีกครั้ง
“เออ เขาส่งถึงห้องอย่างปลอดภัย”
“คิดว่าจะเรียบร้อยโรงเรียนพี่เกมส์ไปเสียแล้ว”
“เจ้าชู้ขนาดนั้นใครจะไปอ่อยลง ถ้าได้มาคงปวดหัวใจตาย”
“ก็จริง พี่เขาเจ้าชู้ อย่าไปยุ่งดีที่สุด เป็นห่วง”
“จริง” พราวฟ้าพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันมาทางกอบัว “อย่างที่ตังเมพูดแหละ พี่ธันย์เคยบอกว่าเพื่อนในกลุ่มสายตาคนนอกมองว่าเจ้าชู้แล้วนะ พี่เกมส์คูณไปอีกสิบเท่า ร้อยเท่าของความเจ้าชู้ ฟันยับแล้วทิ้ง แบบไม่สนใจเลยด้วย”
“รู้ลึกรู้จริงไปอีก” รมย์รวินท์เอ่ยเย้า
“ฟังพี่ธันย์พูดมา”
“เออ ช่างเขาเหอะ ต่อให้อยู่คณะเดียวกันก็คงไม่ได้เจอบ่อยๆหรอก ไปกินหมูกระทะดีกว่า” รมย์รวินท์พูดเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากฟังเรื่องของเขา ฟังนานๆไม่รู้ทำไมปวดจี๊ดๆในใจ
ชนนนน!
เสียงแก้วใบเล็กกระทบกันจนเกิดเสียงดังและทำให้น้ำสีใสบางส่วนกระเด็นออกจากแก้ว
“อ่า ชื่นใจ” ตังเมยกแก้วขึ้นดื่มก่อนจะกระแทกลงบนโต๊ะเสียงดัง
“มาๆชนๆ เอาให้หมดขวดไปเลย” ฉันบอกก่อนจะรินใส่แก้วให้เพื่อนอีกครั้ง
“เริ่มไม่ไหวแล้วเมาว่ะ” พราวฟ้าตอบเสียงอ้อแอ้
“ก็พวกแกเล่นไม่ผสมเลย ไม่เมาสิแปลก ขนาดช่วงแรกฉันผสมยังเมาเลย” รมย์รวินท์เอ่ยบอกก่อนจะยกแก้วขึ้นเทน้ำสีใสรสชาติหวานอร่อยหอมกลิ่นองุ่นลงคอรวดเดียว
ปึก!
“วางเบาๆกอบัว”
“แก้วจะแตกก่อนไหมเนี่ย โทษทีนะตังเม” รมย์รวินท์ว่าขึ้นก่อนจะหยิบแก้วช็อตใบเล็กวางลงบนโต๊ะแล้วรินโซจูใส่แก้วพร้อมกระดกใส่ปากอย่างไม่กลัวเมา
“ซื้อมาเป็นโหล ไม่ต้องกลัวแตก” ตังเมเอ่ยบอกเสียงอ้อแอ้เมื่อร่างกายได้รับปริมาณแอลกอฮอล์มาเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว “เพราะพวกแกเมาแล้วชอบทำแตกอยู่เป็นประจำ”
เพล้ง!
ตังเมเบิกตากว้างตกใจทั้งที่ยังพูดไม่ทันขาดคำแก้วใบเล็กก็ร่วงหลุดจากมือของพราวฟ้าคนที่คออ่อนที่สุดในกลุ่มก่อนที่เธอจะฟุบหน้านอนหลับไปทันที
“อึก เอาไง” รมย์รวินท์เอ่ยถามพยายามลืมตาขึ้นมองเพื่อนสนิทแล้วยื่นมือเขย่าร่างเล็กให้ตื่น แต่ทุกอย่างก็ดูเชื่องช้าไปหมด
“ไม่ตื่นว่ะ”
“มือแกยังแตะไม่ถึงตัวเพื่อนเลยกอบัว” ตังเมเอ่ยบอกเพราะตอนนี้เธอเองก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เล่นกินตั้งแต่ท้องฟ้ายังสว่างจนตอนนี้ข้ามวันใหม่มาเกือบสองชั่วโมงแล้ว
“แล้วเอาไงดี”
“โทรบอกพี่ธันย์ ให้มารับคู่หมั้นหน่อยสิ”
“เออๆ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับแล้วหันไปหยิบโทรศัพท์พราวฟ้าแต่พอหันกลับมาอีกทีเจ้าของห้องก็ฟุบหน้านอนหลับไปแล้ว
ฉันพยายามปรือตาขึ้นมองเพื่อตั้งสติแล้วเลือกกดโทรออกหาเบอร์ล่าสุดรอสายไม่นานก็ได้ยินเสียงทุ้มดังมาตามสายพร้อมกับเสียงเพลงจังหวะสนุกดังแทรกเข้ามา
“พี่ธันย์”
“หนูพราว”
“ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่นะคะ นี่กอบัวเอง”
“อ้าวกอบัว มีอะไรแล้วหนูพราวล่ะ”
“เมา หลับอยู่...”
“อยู่ที่ไหน” ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร้อนรนเมื่อจู่ๆเธอก็เงียบเสียงไป “ฮัลโหล กอบัว กอบัว ตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน”
“ที่ห้องตังเม พี่มารับพราวไปหน่อยนะ กอบัวไปส่งไม่น่าจะไหว หรือจะให้มันนอนที่นี่คะ”
“โอเคๆ เดี๋ยวพี่ไปรับเอง”
หลังจากวางสายฉันพยายามประคองสติที่เหลืออยู่น้อยนิดฉุดให้ตังเมลุกขึ้นแล้วพาเข้าไปนอนที่โซฟาตัวใหญ่แล้วเดินเซกลับมาดึงแขนเรียวของพราวฟ้าให้พาดที่คอแล้วโอบเอวบางเพื่อลงลิฟต์ไปข้างล่างพร้อมกัน
“หนูพราว กอบัว ทำไมอยู่ในสภาพนี้ล่ะ” ธนัทที่ก้าวลงจากรถอาวดี้คันหรูของเพื่อนสนิทรีบวิ่งมาหาเด็กขี้เมาทั้งสองคนกอดคอกันเดินออกจากลิฟต์ด้วยความทุลักทุเล เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความเร่งรีบ พอเห็นสภาพนึกอยากถ่ายรูปไว้ประจานนัก ใส่รองเท้าสลับข้างกันไปอีก แล้วใบหน้าทั้งสองคนแดงก่ำกลิ่นโซจูลอยฟุ้งเตะจมูก สมกับเป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆ
“กอบัวจะกลับบ้าน อ่ะ พี่เอาพราวไปได้แล้ว ตัวหนักเป็นบ้าเลย” รมย์รวินท์ส่งเพื่อนสนิทให้ว่าที่คู่หมั้นแล้วก้มหน้าควานหากุญแจรถในกระเป๋าสะพายใบเล็ก
“ไหวไหมเนี่ย”
“ไหว หนูไม่ได้เมา ยังมีสติดีทุกอย่าง”
“แน่ใจ”
“ค่ะ แน่ใจ ไม่ต้องห่วง สบายมาก” ธนัทมองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ บอกสบายมากแต่หยิบกุญแจรถไม่ได้สักทีทั้งที่มันก็ไม่ได้อยู่ลึกซับซ้อนอะไร เขายืนอยู่ตรงนี้ยังมองเห็นกุญแจชัดเจน
“พี่ไปส่งไหม”
“ไม่ๆ” รมย์รวินท์ส่ายหน้าเป็นพัลวันเพราะเธอกลัวการเมาของตัวเอง กลัวเผลอไปอ่อยคู่หมั้นเพื่อนสนิทจะแย่เข้าไปใหญ่ถึงเขาจะไม่ใช่สเปคก็ตามที เรื่องแบบนี้ควรปลอดภัยไว้ก่อน
“มึงไปเหอะ เดี๋ยวกูจัดการเด็กขี้เมาคนนี้เอง”
“อ้าวไอ้เกมส์ กูคิดว่ามึงกลับไปแล้ว”
“กูรอเผื่อมึงมีอะไรให้ช่วย เห็นกำลังวุ่นวายเลยลงมาหา”
“เออ งั้นก็ฝากด้วยนะ” ธนัทเอ่ยบอกเพราะรู้ดีว่าเพื่อนสนิทไม่ชอบเด็ก จึงไม่ต้องห่วงเพื่อนสนิทของพราวฟ้ามาก อีกฝ่ายต้องปลอดภัยหายห่วงแน่นอน
“อือ” กรภัคพยักหน้ารับพอเห็นเพื่อนตรงไปที่รถมินิคูเปอร์สีเหลืองสดใสและขับออกไปจึงหันกลับมาสนใจคนตัวเล็กที่เมาคอพับผิงรถเบนซ์ C-Class สองประตูสีขาว
“กอบัว”
“หืม”
“หลับเหรอ”
“เปล่าคะ พักสายตา หนูไม่ได้เมา”
“ไม่เมา?” ผมเลิกคิ้วขึ้นเมื่อสภาพคนตรงหน้าห่างไกลจากคำว่าไม่เมาอยู่มาก
“แค่ไม่เหมือนเดิม”
“ก็ไม่ต่างกันนะ ให้ไปส่งไหม”
“ไม่ค่ะ” เธอส่ายหน้าเป็นพัลวันก่อนจะขยับหนีเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น “อย่ามาใกล้หนูนะพี่เกมส์”
“ทำไม”
“เดี๋ยวหนูปล้ำพี่นะ”
“พี่ยอม” ผมตอบกลับเสียงดุแต่แววตาเป็นประกายอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นสีหน้าเหวอๆของคนตรงหน้า ไม่รู้ทำไมถึงชอบให้เด็กคนนี้อยู่ใกล้ วนเวียนอยู่รอบๆตัว ทั้งที่ผมไม่ชอบคนที่เด็กกว่า
“พี่เกมส์!” เสียงหวานอุทานร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินคำตอบ แล้วเขาจะยืนดีๆไม่เป็นหรือไงหรือเป็นโรคกระดูกไขสันหลังเสื่อมไอ้พี่ร่วมคณะคนนี้ถึงชอบโน้มหน้าลงมาใกล้จัง ขยันทำให้ใจเธอเต้นโครมครามแบบนี้อยู่เรื่อย
“ทำไม”
“อย่ามาล้อเลียนหนูนะ”
“ขี้เมา รู้ว่าเมาแล้วขี้อ่อย ก็ยังชอบเมา”
“ก็เลยไม่อยากอยู่ใกล้ใครไงคะ” โดยเฉพาะเขาที่ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งห้ามใจลำบาก
“ขึ้นรถพี่จะไปส่ง”
“ไม่เอา”
“อย่าดื้อ สภาพแบบนี้จะขับรถยังไงไหว”
“ไม่เอา ขับได้อยู่”
“ได้อยู่คือแปลว่าไม่ได้ มานี่เลย”
“พี่เกมส์อย่าดื้อ!”
“กอบัว เรานั่นแหละอย่าดื้อ!” ผมดุคนตัวเล็กเสียงแข็งพร้อมกับรั้งจนร่างเล็กถลาซบที่อกกำยำ
ปึก!
ร่างบางช้อนตาขึ้นมองโดยมีสองแขนแข็งแรงยกขึ้นกอดเอวบางเอาไว้แน่น
“พี่จะไม่ทำอะไรเราแน่นอน กลับกับพี่ พี่จะไปส่งเอง พี่ไม่อยากปล่อยให้ไปคนเดียว พี่เป็นห่วง”
“อือ” ราวกับถูกมนต์จากดวงตาสีน้ำตาลเข้มสะกดจนเธอยอม
ศิโรราบให้เขาทุกอย่างตอนที่ 5 ตามที่ใจปรารถนารถอาวดี้คันหรูแล่นไปตามท้องถนนเมืองหลวงที่ค่อนข้างโล่งกว่าทุกวันจนกระทั่งมาจอดสนิทที่หน้าคอนโดหรู“พี่เกมส์ ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนูที่คอนโดคะ” ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองตึกสูงข้างหน้าไม่ว่ามุมไหน ก็ไม่ใช่คอนโดเธอ“ก็พี่ถามเราแล้วว่าเราอยู่ที่ไหน แต่เราไม่ตอบพี่”“ถามตอนไหน หนูไม่เห็นได้ยินเลย”กรภัคเกาหัวแล้วเสยผมขึ้นแรงๆอยากจะเอาหัวตัวเองทุ่มใส่พวงมาลัยสักทีสองที เพราะก่อนหน้านี้เธอหลับมาตลอดทาง เขาทั้งเรียก ทั้งสะกิดถาม แต่สิ่งที่ได้มาคือความเงียบ“ไหนๆก็มาถึงแล้วนอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับ”“ให้หนูนอนกับพี่ หนูไม่ปลอดภัยแน่นอน ไม่เอาหนูจะกลับห้อง”“อย่าดื้อได้ไหม แล้วตอนนี้พี่ก็ง่วงแล้วด้วย”“แล้วถ้าหนูปล้ำพี่จะทำไงล่ะ”“เออ เดี๋ยวพี่ขัดขืนเอง ลงมาก่อน”“อื้อ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับ แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ เดินเซไปมาจนคนที่แอบมองอยู่ด้านหลังช้อนตัวขึ้นอุ้ม“พี่เกมส์”“ง่วงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นไปเอง”“อือ”ดวงตาคู่สวยปิดสนิทอีกครั้งแล้วหันหน้าซุกอยู่กับอกแกร่งกำยำ ปกติเธอค่อนข้างเป็นคนนอนหลับยากมาก ต่อให้กินเหล้าเมามากขนาดไหนก็ไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง
ตอนที่ 1 สัญชาตญาณนักสู้ ร่างบางเดินโซซัดโซเซมือเล็กเกาะผนังพยุงร่างตัวเองเดินไปตามทางเข้าห้องน้ำ ก่อนจะชะงักหยุดยกมือขึ้นกุมศีรษะพลางสะบัดส่ายหน้าไปมา เมื่อฤทธิ์ค็อกเทลร้อนแรงอย่างบีห้าสิบสอง (B52) เล่นงานจนหน้ามืด มึนหัว ดวงตาคู่สวยพร่ามัวจวนจะปิดสนิท “โอ้ย กอบัว แกไม่น่ากินตามแรงยุพวกพี่เขาเลย” เสียงหวานบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ โดยที่ในใจอดด่าเจ้าของผับไม่ได้ทำไมทำห้องน้ำไกลจังวะเท้าเรียวเดินเซมาเรื่อยๆตามทางเดินแต่ทว่า มาโผล่อีกทีดันเป็นลานจอดรถ!“อาการแกหนักแล้วกอบัว” เสียงหวานบ่นตัวเองแผ่วเบาก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในผับโดยไม่ทันระวังจนชนเข้ากับกำแพงมนุษย์เต็มแรง “โอ๊ย ซี๊ดใครแม่งมายืนขว้างหน้าวะ” มือเล็กยกขึ้นลูบจมูกตัวเองเบาๆ ถ้าไม่ใช่ว่าแม่ให้มานะป่านนี้คงนั่งน้ำตาซึมไปหาหมอที่คลินิกไปแล้ว คนบ้าอะไรวะตัวแข็งเป็นบ้า แต่ไอ้นั่นที่อยู่ใต้กางเกงจะแข็งไหมวะ พอคิดแบบนั้นดวงตาคู่สวยก็ยิ่งจดจ้องเพ่งเล็งสายตาที่เป้ากางเกงกำแพงมนุษย์ “เมาแล้วอย่าหื่น หน้าพี่อยู่นี่”“พี่เกมส์” เธอร้องตกใจเมื่อคนที่เดินชนเป็นคนเดียว
ตอนที่ 2 ทำอะไรลงไป ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือขึ้นเมื่อแสงของเช้าวันใหม่สาดทอเข้ามาภายในห้องน้ำ เธอจึงขยับตัวหันหน้าหนีแต่กลับเจอกล้ามหน้าอกของใครบางคน จนแทบหยุดหายใจ ปากคอแห้งผาดก่อนที่จะค่อยๆตั้งสติที่กำลังแตกกระเจิงให้เข้าที่เข้าทางแล้วนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืน “เชี้ยแล้ว ทำอะไรลงไปวะเนี่ย” รมย์รวินท์ยกมือปิดปากร้องอุทานเสียงเบาในลำคอ เมื่อเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด แต่คงไม่ใช่เขาหรอกมั้ง...จากที่คิดว่าเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่ประถมศึกษาอย่างตังเมจะคอยพูดล้อเล่นอยู่บ่อยๆว่าเธอเมาแล้วชอบอ่อยผู้ชาย บุญเท่าไรแล้วที่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ หรือเปล่าวะ?เธอขยับตัวอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวคนข้างๆจะตื่นขึ้นมา แล้วก้มหน้างุดเพราะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นมองตัวเองที่มีเสื้อผ้าอยู่ครบทุกชิ้น แล้วลองยกขาเรียวแยกออกจากกันเล็กน้อยก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ หวังว่าเมื่อคืนคงไม่มีสงครามกลางเตียงขึ้นหรอกนะแต่พอขยับตัวลุกกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วทำใจกล้าหันมองคนข้างกายเธอถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดปากอยากจะกรีดร้องให้ตึกถล่มทับให้ตายคาที่ไปเลย จากที่ไม่ค่อยมั่นใจพอเห็นหน้าเ
ตอนที่ 3 เจออีกแล้ว รมย์รวินท์เดินหาซื้อผักผลไม้ที่มีแม่ค้าตั้งแผงขายเรียงรายเต็มตลาดที่ใหญ่ที่สุด ใหญ่ระดับประเทศเลยก็ว่าได้ เดินทั้งวันขาคงได้เปลี้ยจนไม่มีแรง เพราะแค่นี้ก็เริ่มรู้สึกล้าไปทั้งขาแล้ว “เอาอันนี้ค่ะป้า” มือบางส่งกระหล่ำปลีสีเขียวแซมขาว ขึ้นฉ่ายและแครอทส่งให้แม่ค้า “หกสิบบาทจ้า” “นี่ค่ะ” เธอหยิบเงินยื่นให้แม่ค้าแล้วหยิบถุงผักใส่ตะกร้าล้อลากเดินไปยังร้านอื่นต่อ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายใบเล็กสั่นสะท้าน “เออ ว่าไงตังเม” “กอบัว แวะตลาดแค่นี้นานจังวะ” ตังเมกรอกเสียงถามมาตามปลายสายเพราะเย็นนี้ตกลงกันว่าจะกินหมูกระทะกันที่คอนโดของเธอ แต่เพื่อนสนิทอย่างกอบัวกลับยังมาไม่ถึงสักทีทั้งที่ใกล้เวลานัดเต็มที “รีบอยู่” “ซื้อผักนะจ๊ะ ไม่ใช่ให้ไปส่องพ่อค้า นานเกิ้น”“โอ้ย พ่อคงพ่อค้าอะไรล่ะ ไม่มีทั้งนั้นแหละ แต่ลูกเจ้าของตลาดก็ว่าไปอย่าง” รมย์รวินท์พูดเย้าเสียงขำก่อนจะหุบปากฉับเมื่อได้ยินเสียงพราวฟ้ารอดมาตามสาย“แล้วรู้ไหมว่าตลาดที่แกยืนอยู่ตอนนี้เขามีลูกชายหล่อด้วยนะ”