ตอนที่ 4 เด็กขี้เมา
“กว่าจะมา” ตังเมเปรยขึ้นเมื่อเปิดประตูให้เพื่อนสาวที่หอบหิ้วของมาเต็มมือ
“รถติดน่ะ”
“รถติดหรือติดหัวใจลูกเจ้าของตลาดอยู่กันแน่”
“โอ้ย ก็พูดไปนั้น ไม่ชอบหรอกคนเจ้าชู้ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลยกอบัว ไม่ต้องวกมาเรื่องฉัน” พราวฟ้ารีบห้ามเพราะประเด็นร้อนมันไม่ได้อยู่ที่เธอแต่อยู่กับคนที่มาทีหลังต่างหาก
“สรุปว่าไง เรื่องเมื่อคืน” ตังเมเอ่ยถามขณะแกะผักออกจากถุงเพื่อล้างน้ำสะอาด
“ไม่มีอะไรเลย พี่เขาก็แค่ไปส่งเฉยๆ”
“จ้า เชื่อ” พราวฟ้าพยักหน้ารับแต่กลับยกยิ้มล้อเลียนจนกอบัวหน้ามุ่ย
“โอ้ย พูดก็ไม่เชื่อ งั้นไม่ตอบแล้ว”
“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว” พราวฟ้าเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบมืดหั่นแครอทแล้วหยิบใส่หม้อเพื่อทำน้ำซุป
“เอ้อ แล้วทำไมถึงกลับพร้อมพี่เขาได้” ตังเมที่กำลังล้างผักหันมาถามด้วยความสงสัย
“เมา แล้วบังเอิญไปเจอพี่เขาพอดี เขาคงสงสารมั้งเลยพาไปส่ง”
“กอบัว!!”
“อะไรตังเม จะตะโกนทำไมเนี่ย จกใจหมด”
“นั่นสิ มีอะไรหน้าตื่นเชียว เจอหนอนในผักเหรอ” พราวฟ้าเอ่ยถาม
“แกไปอ่อยพี่เขาหรือเปล่า” ตังเมถามด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าเวลาอีกฝ่ายเมาหนักมากๆจะเป็นอย่างไร
“สบายใจได้ ขนาดประครองสติตัวเองยังยากลำบากเลย จะเอาแรงที่ไหนไปอ่อย ค็อกเทลอะไรวะโคตรแรง” รมย์รวินท์เอ่ยตอบพร้อมกับเดินยกผักที่หันเสร็จแล้วออกไปวางที่โต๊ะริมระเบียงเพื่อเลี่ยงต่อการถูกเพื่อนจับได้ว่ากำลังโกหก
“แล้วไป”
“ปลอดภัยดีใช่ไหม” พราวฟ้าเอ่ยถามเมื่อกอบัวเดินกลับเข้ามาในครัวอีกครั้ง
“เออ เขาส่งถึงห้องอย่างปลอดภัย”
“คิดว่าจะเรียบร้อยโรงเรียนพี่เกมส์ไปเสียแล้ว”
“เจ้าชู้ขนาดนั้นใครจะไปอ่อยลง ถ้าได้มาคงปวดหัวใจตาย”
“ก็จริง พี่เขาเจ้าชู้ อย่าไปยุ่งดีที่สุด เป็นห่วง”
“จริง” พราวฟ้าพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันมาทางกอบัว “อย่างที่ตังเมพูดแหละ พี่ธันย์เคยบอกว่าเพื่อนในกลุ่มสายตาคนนอกมองว่าเจ้าชู้แล้วนะ พี่เกมส์คูณไปอีกสิบเท่า ร้อยเท่าของความเจ้าชู้ ฟันยับแล้วทิ้ง แบบไม่สนใจเลยด้วย”
“รู้ลึกรู้จริงไปอีก” รมย์รวินท์เอ่ยเย้า
“ฟังพี่ธันย์พูดมา”
“เออ ช่างเขาเหอะ ต่อให้อยู่คณะเดียวกันก็คงไม่ได้เจอบ่อยๆหรอก ไปกินหมูกระทะดีกว่า” รมย์รวินท์พูดเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากฟังเรื่องของเขา ฟังนานๆไม่รู้ทำไมปวดจี๊ดๆในใจ
ชนนนน!
เสียงแก้วใบเล็กกระทบกันจนเกิดเสียงดังและทำให้น้ำสีใสบางส่วนกระเด็นออกจากแก้ว
“อ่า ชื่นใจ” ตังเมยกแก้วขึ้นดื่มก่อนจะกระแทกลงบนโต๊ะเสียงดัง
“มาๆชนๆ เอาให้หมดขวดไปเลย” ฉันบอกก่อนจะรินใส่แก้วให้เพื่อนอีกครั้ง
“เริ่มไม่ไหวแล้วเมาว่ะ” พราวฟ้าตอบเสียงอ้อแอ้
“ก็พวกแกเล่นไม่ผสมเลย ไม่เมาสิแปลก ขนาดช่วงแรกฉันผสมยังเมาเลย” รมย์รวินท์เอ่ยบอกก่อนจะยกแก้วขึ้นเทน้ำสีใสรสชาติหวานอร่อยหอมกลิ่นองุ่นลงคอรวดเดียว
ปึก!
“วางเบาๆกอบัว”
“แก้วจะแตกก่อนไหมเนี่ย โทษทีนะตังเม” รมย์รวินท์ว่าขึ้นก่อนจะหยิบแก้วช็อตใบเล็กวางลงบนโต๊ะแล้วรินโซจูใส่แก้วพร้อมกระดกใส่ปากอย่างไม่กลัวเมา
“ซื้อมาเป็นโหล ไม่ต้องกลัวแตก” ตังเมเอ่ยบอกเสียงอ้อแอ้เมื่อร่างกายได้รับปริมาณแอลกอฮอล์มาเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว “เพราะพวกแกเมาแล้วชอบทำแตกอยู่เป็นประจำ”
เพล้ง!
ตังเมเบิกตากว้างตกใจทั้งที่ยังพูดไม่ทันขาดคำแก้วใบเล็กก็ร่วงหลุดจากมือของพราวฟ้าคนที่คออ่อนที่สุดในกลุ่มก่อนที่เธอจะฟุบหน้านอนหลับไปทันที
“อึก เอาไง” รมย์รวินท์เอ่ยถามพยายามลืมตาขึ้นมองเพื่อนสนิทแล้วยื่นมือเขย่าร่างเล็กให้ตื่น แต่ทุกอย่างก็ดูเชื่องช้าไปหมด
“ไม่ตื่นว่ะ”
“มือแกยังแตะไม่ถึงตัวเพื่อนเลยกอบัว” ตังเมเอ่ยบอกเพราะตอนนี้เธอเองก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เล่นกินตั้งแต่ท้องฟ้ายังสว่างจนตอนนี้ข้ามวันใหม่มาเกือบสองชั่วโมงแล้ว
“แล้วเอาไงดี”
“โทรบอกพี่ธันย์ ให้มารับคู่หมั้นหน่อยสิ”
“เออๆ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับแล้วหันไปหยิบโทรศัพท์พราวฟ้าแต่พอหันกลับมาอีกทีเจ้าของห้องก็ฟุบหน้านอนหลับไปแล้ว
ฉันพยายามปรือตาขึ้นมองเพื่อตั้งสติแล้วเลือกกดโทรออกหาเบอร์ล่าสุดรอสายไม่นานก็ได้ยินเสียงทุ้มดังมาตามสายพร้อมกับเสียงเพลงจังหวะสนุกดังแทรกเข้ามา
“พี่ธันย์”
“หนูพราว”
“ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่นะคะ นี่กอบัวเอง”
“อ้าวกอบัว มีอะไรแล้วหนูพราวล่ะ”
“เมา หลับอยู่...”
“อยู่ที่ไหน” ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร้อนรนเมื่อจู่ๆเธอก็เงียบเสียงไป “ฮัลโหล กอบัว กอบัว ตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน”
“ที่ห้องตังเม พี่มารับพราวไปหน่อยนะ กอบัวไปส่งไม่น่าจะไหว หรือจะให้มันนอนที่นี่คะ”
“โอเคๆ เดี๋ยวพี่ไปรับเอง”
หลังจากวางสายฉันพยายามประคองสติที่เหลืออยู่น้อยนิดฉุดให้ตังเมลุกขึ้นแล้วพาเข้าไปนอนที่โซฟาตัวใหญ่แล้วเดินเซกลับมาดึงแขนเรียวของพราวฟ้าให้พาดที่คอแล้วโอบเอวบางเพื่อลงลิฟต์ไปข้างล่างพร้อมกัน
“หนูพราว กอบัว ทำไมอยู่ในสภาพนี้ล่ะ” ธนัทที่ก้าวลงจากรถอาวดี้คันหรูของเพื่อนสนิทรีบวิ่งมาหาเด็กขี้เมาทั้งสองคนกอดคอกันเดินออกจากลิฟต์ด้วยความทุลักทุเล เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความเร่งรีบ พอเห็นสภาพนึกอยากถ่ายรูปไว้ประจานนัก ใส่รองเท้าสลับข้างกันไปอีก แล้วใบหน้าทั้งสองคนแดงก่ำกลิ่นโซจูลอยฟุ้งเตะจมูก สมกับเป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆ
“กอบัวจะกลับบ้าน อ่ะ พี่เอาพราวไปได้แล้ว ตัวหนักเป็นบ้าเลย” รมย์รวินท์ส่งเพื่อนสนิทให้ว่าที่คู่หมั้นแล้วก้มหน้าควานหากุญแจรถในกระเป๋าสะพายใบเล็ก
“ไหวไหมเนี่ย”
“ไหว หนูไม่ได้เมา ยังมีสติดีทุกอย่าง”
“แน่ใจ”
“ค่ะ แน่ใจ ไม่ต้องห่วง สบายมาก” ธนัทมองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ บอกสบายมากแต่หยิบกุญแจรถไม่ได้สักทีทั้งที่มันก็ไม่ได้อยู่ลึกซับซ้อนอะไร เขายืนอยู่ตรงนี้ยังมองเห็นกุญแจชัดเจน
“พี่ไปส่งไหม”
“ไม่ๆ” รมย์รวินท์ส่ายหน้าเป็นพัลวันเพราะเธอกลัวการเมาของตัวเอง กลัวเผลอไปอ่อยคู่หมั้นเพื่อนสนิทจะแย่เข้าไปใหญ่ถึงเขาจะไม่ใช่สเปคก็ตามที เรื่องแบบนี้ควรปลอดภัยไว้ก่อน
“มึงไปเหอะ เดี๋ยวกูจัดการเด็กขี้เมาคนนี้เอง”
“อ้าวไอ้เกมส์ กูคิดว่ามึงกลับไปแล้ว”
“กูรอเผื่อมึงมีอะไรให้ช่วย เห็นกำลังวุ่นวายเลยลงมาหา”
“เออ งั้นก็ฝากด้วยนะ” ธนัทเอ่ยบอกเพราะรู้ดีว่าเพื่อนสนิทไม่ชอบเด็ก จึงไม่ต้องห่วงเพื่อนสนิทของพราวฟ้ามาก อีกฝ่ายต้องปลอดภัยหายห่วงแน่นอน
“อือ” กรภัคพยักหน้ารับพอเห็นเพื่อนตรงไปที่รถมินิคูเปอร์สีเหลืองสดใสและขับออกไปจึงหันกลับมาสนใจคนตัวเล็กที่เมาคอพับผิงรถเบนซ์ C-Class สองประตูสีขาว
“กอบัว”
“หืม”
“หลับเหรอ”
“เปล่าคะ พักสายตา หนูไม่ได้เมา”
“ไม่เมา?” ผมเลิกคิ้วขึ้นเมื่อสภาพคนตรงหน้าห่างไกลจากคำว่าไม่เมาอยู่มาก
“แค่ไม่เหมือนเดิม”
“ก็ไม่ต่างกันนะ ให้ไปส่งไหม”
“ไม่ค่ะ” เธอส่ายหน้าเป็นพัลวันก่อนจะขยับหนีเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น “อย่ามาใกล้หนูนะพี่เกมส์”
“ทำไม”
“เดี๋ยวหนูปล้ำพี่นะ”
“พี่ยอม” ผมตอบกลับเสียงดุแต่แววตาเป็นประกายอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นสีหน้าเหวอๆของคนตรงหน้า ไม่รู้ทำไมถึงชอบให้เด็กคนนี้อยู่ใกล้ วนเวียนอยู่รอบๆตัว ทั้งที่ผมไม่ชอบคนที่เด็กกว่า
“พี่เกมส์!” เสียงหวานอุทานร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินคำตอบ แล้วเขาจะยืนดีๆไม่เป็นหรือไงหรือเป็นโรคกระดูกไขสันหลังเสื่อมไอ้พี่ร่วมคณะคนนี้ถึงชอบโน้มหน้าลงมาใกล้จัง ขยันทำให้ใจเธอเต้นโครมครามแบบนี้อยู่เรื่อย
“ทำไม”
“อย่ามาล้อเลียนหนูนะ”
“ขี้เมา รู้ว่าเมาแล้วขี้อ่อย ก็ยังชอบเมา”
“ก็เลยไม่อยากอยู่ใกล้ใครไงคะ” โดยเฉพาะเขาที่ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งห้ามใจลำบาก
“ขึ้นรถพี่จะไปส่ง”
“ไม่เอา”
“อย่าดื้อ สภาพแบบนี้จะขับรถยังไงไหว”
“ไม่เอา ขับได้อยู่”
“ได้อยู่คือแปลว่าไม่ได้ มานี่เลย”
“พี่เกมส์อย่าดื้อ!”
“กอบัว เรานั่นแหละอย่าดื้อ!” ผมดุคนตัวเล็กเสียงแข็งพร้อมกับรั้งจนร่างเล็กถลาซบที่อกกำยำ
ปึก!
ร่างบางช้อนตาขึ้นมองโดยมีสองแขนแข็งแรงยกขึ้นกอดเอวบางเอาไว้แน่น
“พี่จะไม่ทำอะไรเราแน่นอน กลับกับพี่ พี่จะไปส่งเอง พี่ไม่อยากปล่อยให้ไปคนเดียว พี่เป็นห่วง”
“อือ” ราวกับถูกมนต์จากดวงตาสีน้ำตาลเข้มสะกดจนเธอยอม
ศิโรราบให้เขาทุกอย่างตอนที่ 5 ตามที่ใจปรารถนารถอาวดี้คันหรูแล่นไปตามท้องถนนเมืองหลวงที่ค่อนข้างโล่งกว่าทุกวันจนกระทั่งมาจอดสนิทที่หน้าคอนโดหรู“พี่เกมส์ ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนูที่คอนโดคะ” ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองตึกสูงข้างหน้าไม่ว่ามุมไหน ก็ไม่ใช่คอนโดเธอ“ก็พี่ถามเราแล้วว่าเราอยู่ที่ไหน แต่เราไม่ตอบพี่”“ถามตอนไหน หนูไม่เห็นได้ยินเลย”กรภัคเกาหัวแล้วเสยผมขึ้นแรงๆอยากจะเอาหัวตัวเองทุ่มใส่พวงมาลัยสักทีสองที เพราะก่อนหน้านี้เธอหลับมาตลอดทาง เขาทั้งเรียก ทั้งสะกิดถาม แต่สิ่งที่ได้มาคือความเงียบ“ไหนๆก็มาถึงแล้วนอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับ”“ให้หนูนอนกับพี่ หนูไม่ปลอดภัยแน่นอน ไม่เอาหนูจะกลับห้อง”“อย่าดื้อได้ไหม แล้วตอนนี้พี่ก็ง่วงแล้วด้วย”“แล้วถ้าหนูปล้ำพี่จะทำไงล่ะ”“เออ เดี๋ยวพี่ขัดขืนเอง ลงมาก่อน”“อื้อ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับ แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ เดินเซไปมาจนคนที่แอบมองอยู่ด้านหลังช้อนตัวขึ้นอุ้ม“พี่เกมส์”“ง่วงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นไปเอง”“อือ”ดวงตาคู่สวยปิดสนิทอีกครั้งแล้วหันหน้าซุกอยู่กับอกแกร่งกำยำ ปกติเธอค่อนข้างเป็นคนนอนหลับยากมาก ต่อให้กินเหล้าเมามากขนาดไหนก็ไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง
ตอนที่ 6 ข้อตกลงร่างบางพลิกกายขยับไปมาเมื่อรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวก่อนที่เธอจะสะดุ้งตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มผืนใหญ่ร่วงลงมา เรื่องราวทุกอย่างเมื่อคืนเริ่มแจ่มชัดเข้ามาในโสตประสาทของเธอ“ตื่นมาก็จะอ่อยพี่ต่อเลยหรือไงเด็กขี้เมา”“พี่เกมส์” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเห็นร่างสูงใส่กางเกงนอนขายาวเปลือยท่อนอกพิงขอบประตูในมือถือแก้วกาแฟยกยิ้มมุมปาก เธอจึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยจูบ นั่งกอดเข่าขยับตัวถอยจนชิดหัวเตียงเมื่อเขาก้าวเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น“จะหนีไปไหน เมื่อคืนเรายังสนุกด้วยกันทั้งคืนเลยจำไม่ได้เหรอ”“พี่ฉวยโอกาสกับคนเมาเหรอคะ”“พูดดีๆนะกอบัว พี่ไม่ได้ข่มขื่นเรานะ มีแต่เรานั่นแหละที่...”“พอแล้วค่ะพี่เกมส์ หนูไม่อยากฟัง” ร่างบางยกมือขึ้นห้ามก่อนจะยกขึ้นมาอุดหูแล้วก้มหน้าเพื่อหลบสายตาคม ทำอะไรลงไปวะเนี่ย! กอบัว“พี่ก็ต้องอธิบายสิ เพราะพี่ไม่อยากเป็นคนที่ถูกตราหน้าว่าข่มขื่นเรา”“กอบัวเชื่อแล้วค่ะว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ” เพราะคนที่เริ่มคือเธอเองทุกอย่างนี้แหละ พอกันที่เหล้า เบียร์ อย่าได้เจอกันอีกเลย ลาขาดตลอดกาล“แล้วเสื้อผ้าหนูล่ะ” เธอเอ่ยถามพร้อมกับมองไปรอบ
ตอนที่ 7 ความลับ‘แต่’‘แต่อะไรอีก หืม’‘ต้องไม่มีคนรู้เรื่องนี้’‘ตกลง จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ของเรา’ เมื่อกลับมาถึงคอนโดตัวเอง ร่างบางทิ้งตัวนอนอย่างหมดแรงยกมือขึ้นเกยหน้าผากพยายามคิดทบทวนสิ่งที่เธอพึ่งตกลงกับเขาไป เพราะความเมาอย่างเดียวที่พาเธอมาถึงจุดนี้ได้ บางครั้งก็นึกแปลกใจตัวเองว่ายอมทำไม “โอ้ย จะบ้าตาย”ครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ที่สั่นสะท้านอยู่ข้างตัวทำให้เธอต้องหยิบขึ้นมารับอย่างเลี่ยงไม่ได้“ค่ะแม่”“แกอยู่ไหนกอบัว เมื่อคืนฉันก็ติดต่อไม่ได้ จนเกือบจะจองตั๋วบินไปหาแกที่กรุงเทพแล้วเนี่ย”เสียงหวานดังแว่วเข้ามาทำให้เธอเผลอยิ้มออกมา ไม่ใช่ใครหรอกนอกจากคุณแม่สุดที่รัก เจ๊กอหญ้าเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดจันทบุรี&ldqu
ตอนที่ 8 พิษไข้ร่างบางเดินขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอเขาอาบน้ำ จนกระทั่งเขาเดินออกมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทำให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวยมีหยดน้ำเกาะพราวตามผิวขาวเนียน ปลายยอดยังเป็นสีชมพูสวย จนเผลอมองอยู่นาน“หิวพี่เหรอ”“พูดจาบ้าๆ”“ก็เห็นมองตามตาเป็นประกายเชียว”“ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาล่ะคะ”“พี่ลืมเอาชุดเข้าไปน่ะ”กรภัคเอ่ยบอกก่อนจะหยิบกางเกงนอนเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเดินขึ้นมานอนบนเตียงกว้าง“พี่เกมส์ไม่กลับไปนอนที่ห้องล่ะคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”“พี่เป็นห่วง”“ไว้ใจได้ป่ะเนี่ย”“คำถามนี้พี่น่าจะถามเรามากกว่ามั้ง” กรภัคว่าเสียงขำจนร่างบางเบ้ปากกลอกตามองบนใส่ ผมจึงยื่นมือไปหยิกแก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว“พี่เกมส์ เจ็บนะ”“หมั่นเขี้ยว นอนได้แล้ว พี่ไม่ทำอะไรหรอก
ตอนที่ 9 เวลาของเรา เมื่อจัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยฉันก็รับยาลดไข้จากเขามาใส่ปากแล้วตามด้วยน้ำเปล่า “อื้อ พี่เกมส์จะทำอะไร” เสียงหวานร้องท้วงเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ “พี่ขอวัดไข้หน่อย” กรภัคยกมือขึ้นทาบหน้าผากพอเห็นว่าอุณหภูมิปกติก็ค่อยเบาใจ “หายดีแล้ว”“ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนู”“พี่ขอโทษนะที่รุนแรงไปหน่อย”“ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ” รมย์รวินท์พูดเสียงแผ่วก้มหน้างุดหลบสายตาคมที่มองมาราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำน้อยๆ “แล้วนี่เราจะไปไหนไหม พี่จะพาไป”“ปกติวันหยุดหนูจะไปซื้อของใส่ตู้เย็น”
ตอนที่ 10 บรรยากาศพาไป “เป็นอะไรหรือเปล่าตั้งแต่ออกจากห้าง พี่เห็นเรานั่งเงียบมาตลอดทางเลย”“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร”“ไข้ขึ้นหรือเปล่า” กรภัคยกฝ่ามือทาบหน้าผากได้รูปแต่คนตัวเล็กกลับเบี่ยงตัวหนี“ไม่ค่ะ สบายดี”“แล้วทำไมหน้าดูซึมๆ แบบนี้ล่ะ”“เอ่อ...หนูคอแห้งเฉยๆ กินเบียร์กันไหมคะพี่เกมส์”“ยัยเด็กขี้เมา” กรภัคว่าขึ้น เขาก็อุตส่าห์เป็นห่วงที่ไหนได้ร่างกายต้องการแอลกอฮอล์นี่เอง“สรุปกินไหมคะ”“พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“มีค่ะแต่แค่กระป๋องเดียว ไม่เมาหรอก”“โอเค”ผมหยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมาสองกระป๋องก่อนจะเดินมาหาร่างบางที่นั่งอยู่ริมระเบียงที่ไม่ได้กว้างมาก มีเพียงเก้าอี้ในสวนและรอบๆยังปลูกดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงาม“อื้อ รับไ
ตอนที่ 11 แค่คนรู้จักเช้าวันต่อมารถเบนซ์ c-class สีขาวแล่นเข้ามาในรั้วมหาลัยตามกฎหมายกำหนดก่อนจะจอดสนิทที่ลานจอดรถตึกคณะวิศวกรรมที่ค่อนข้างโล่งครืด ครืด ครืดขณะที่มือบางเก็บหนังสือและไอแพดใส่กระเป๋าผ้าแบรนด์ดัง แต่ยังไม่ทันไรโทรศัพท์ในมือก็สั่นสะท้านเมื่อมีสายเรียกเข้า“เออว่าไงพราว”“อยู่ไหน”“กำลังจอดรถ”“อยู่โรงอาหารนะกับตังเม”“โอเคๆ เดี๋ยวตามไป”เท้าเรียวบนรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวเดินตรงไปยังโรงอาหารพร้อมกับชะเง้อคอมองหา จนเจอสองสาวที่นั่งกินข้าวอยู่โต๊ะริมกระจก“กว่าจะมาได้”“เออ รถติด ตื่นสายด้วยนิดหน่อย”พราวฟ้าที่กำลังเคี้ยวข้าวชะเง้อคอมองตามเพื่อนสนิทอย่างรมย์รวินท์ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “แล้วแกมองหาอะไร”“เปล่า”“พักหลังๆนี่พิรุธเยอะนะแก หรือว่าแกไปแอบปิ๊งหนุ่มที่ไหนมา”“พูดไปเรื่อยอ่าตังเม”“เอ้า ก็ท่าทีแกแปลกๆ”“แค่สงสัยว่าพี่ธันย์บอดี้การ์ดส่วนตัวพ่วงตำแหน่ง
ตอนที่ 12 กับดักร่างบางในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก้าวเดินไปตามมุมตึก ลัดเลาะไปตามทางแคบๆ สลับมองหลังเป็นระยะๆ ด้วยบรรยากาศเงียบเหงาวังเวงในช่วงห้าโมงเย็นยิ่งทำให้ดูหน้ากลัว เธอจึงรีบเดินให้เร็วขึ้นจนกระทั่งเดินมาถึงลานจอดรถ“แอบหนีใครมาเหรอ” กรภัคที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพิงรถอาวดี้เอ่ยถามเสียงขำ“อุ๊ย! พี่เกมส์ตกใจหมด”“ทำลับๆล่อๆ หนีอะไรมา”“เปล่า”“กำลังหนีหน้าพี่ใช่ไหม” กรภัคพูดขึ้นอย่างรู้ทัน“ไม่ได้หนี” เธอแอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านหน้าเขาไปที่รถตัวเอง“เดี๋ยว” ฝ่ามือหนายื่นมาดึงข้อมือเล็กเอาไว้ “วันนี้โกรธพี่หรือเปล่า”“โกรธทำไมล่ะคะ มันคือข้อตกลงของเราสองคนไม่ใช่เหรอ ห้ามรัก ห้ามเปิดเผย ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ทุกอย่างมันเริ่มต้นแบบลับๆ ก็ต้องจบแบบลับๆสิคะ”“ประชดเหรอ”“เปล่าค่ะหนูพูดความจริง แล้วอีกอย่างก็เป็นไปตามที่เราตกลงกันไว้ ถ้าพี่มีคนอื่นหนูค่อยโกรธดีกว่าไหม”“งั้นกลับกับพี่”“แต่หนูเอารถมา”“ทิ้งไว้นี่แหล
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้
ตอนที่ 37 ทะเลเดือด“เดี๋ยวเราไปเที่ยวที่นี่กันก่อนนะคะ ไปหาข้าวเที่ยงกินที่นี่ด้วย”“ตามใจไกด์เลยครับ” กรภัคบอกเสียงอ่อนโยนพร้อมกับกุมมือนุ่มไว้ตลอดทางจนกระทั่งถึงที่หมาย“เดี๋ยวหนูพาพี่เที่ยวที่โซนนี้ก่อนนะเวลามีน้อย คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะพาเที่ยวให้ครบแปดโซนเลยค่ะ”“โอเคครับ”“งั้นไปกันค่ะ”รมย์รวินท์เช่าจักรยานสมาสองคัน เธอกับเขาปั่นเลียบไปตามริมน้ำชมอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลที่ตั้งเด่นสง่า ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ที่มียอดแหลมตรงปลายโบสถ์ทั้งสองข้าง ภายในงดงามด้วยการประดับกระจกสี“สวยมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะ”“เป็นแลนมาร์คของจังหวัดเลยค่ะ ป่ะนี่ก็ใกล้เที่ยวแล้วเดี๋ยวหนูพาไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงกับเส้นจันท์ผัดปูนิ่มที่ร้านริมน้ำบอกเลยว่าอร่อยมาก เอ๊ะหรือส้มตำทุเรียนดี”“โอ้โห่ ทุเรียนพี่ว่าพอก่อนดีกว่า เมื่อเช้าแม่เราก็จัดให้พี่เต็มที่เลย แล้วเรายังแกล้งพี่ไว้แสบมากอีกนะ”“ก็เลือกที่จะไม่กินก็ได้นี่คะ เหมือนที่พี่ไม่ไปช่วยงานแม่พี่ที่ตลาดช่วงหน้าทุเรียนไงคะ
ตอนที่ 36 ดูดาวกันนะ หลังจากที่ทานข้าวอิ่มเรียบร้อยกอหญ้าก็ขอตัวไปนอนเพราะต้องลงสวนแต่เช้า กรภัคจึงรีบเดินไปรั้งเอวบางที่กำลังจะเดินเข้าห้องมากอดไว้แนบอก“พี่เกมส์ทำอะไรคะเนี่ย ปล่อยเลย”“พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะ”“ก็บอกดีๆสิคะ มากอดทำไม เดี๋ยวแม่มาเห็นเข้า”“พี่กลัวเราหนีพี่อีก” กรภัคพาร่างบางเดินมานั่งหน้าบ้านที่มุมนั่งเล่นตรงระเบียงซึ่งมีศาลาขนาดเล็กตัวไม้ระแนงมีผู้ผ้าพริ้วสีขาวตามเสาบ้าน รอบๆปลูกไม้ประดับจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว“มีอะไรก็พูดมาสิคะ”“มานอนดูดาวกันนะ”รมย์รวินท์นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆแต่กลับถูกเขาดึงไปนั่งบนตักสองแขนกำยำกอดรอบเอวบางแล้ววางคางเกยบนไหล่เล็ก“พี่คิดถึงเรามากเลยนะรู้ไหม”“....”เมื่อเธอไม่ตอบแต่การที่เธอเอียงศีรษะซบอกก็ทำให้ผมยิ้มออกมา ซึ่งยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่เปรี่ยมไปด้วยความสุข“พี่รักเรานะ ขอโทษที่พี่ไม่ได้ดีพอจนสุดท้ายทำให้เราต้องเสียใจ
ตอนที่ 35 คนเดียวสักพัก“เฮ้อ” รมย์รวินท์ถอนหายใจเฮือก ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านก่อนจะพูดคุยกับผู้เป็นแม่ ถ้าเจออะไรอย่าตกใจ อย่าใช้อารมณ์ อย่าใช้สมองให้ใช้หัวใจตัดสิน ที่แม่พูดมาทั้งหมดคงหมายถึงเขาสินะครืด ครืด ครืด“โทรมาได้จังหวะพอดีเลย” รมย์รวินท์รีบรับสายเมื่อเห็นชื่อเพื่อนสนิทโทรเข้ามา “กำลังจะโทรหาพอดีตังเม”“แกเจอพี่เกมส์แล้วใช่ไหม”“เจอแล้ว แกรู้อยู่แล้วหรอว่าเขามาที่นี่”“อือ”“แล้วแกไม่บอกฉันก่อน”“แหม่ๆ ทำอย่างกับรับสายงั้นแหละ ฉันกับพราวโทรหาแกจนสายเกือบไหม้แล้วมั้ง ข้อความที่ส่งไปเปิดอ่านบ้างหรือเปล่าเถอะ”“โทษทีจะเพื่อนรัก แต่หยุดบ่นก่อน ช่วยคิดหน่อย”“จะให้ช่วยคิดยังไง เรื่องนี้แกต้องตัดสินใจเอง หัวใจแก แกก็น่าจะรู้ดีที่สุดแล้วนะกอบัว มาถามฉันก็จะช่วยอะไรได้นอกจากโทรมาฟังแกระบาย”“เรื่องจริงใช่ไหม”“อือ วันนั้นฉันก็อยู่กับพวกพี่เขา พี่ชินเขาก็อยู่ด้วยนะ เขาเล่าและยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ”“แต่ตอนที่ฉันขึ้นไปฉันก็ไม่เห็นแม้แ