ตอนที่ 7 ความลับ
‘แต่’
‘แต่อะไรอีก หืม’
‘ต้องไม่มีคนรู้เรื่องนี้’
‘ตกลง จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ของเรา’
เมื่อกลับมาถึงคอนโดตัวเอง ร่างบางทิ้งตัวนอนอย่างหมดแรงยกมือขึ้นเกยหน้าผากพยายามคิดทบทวนสิ่งที่เธอพึ่งตกลงกับเขาไป เพราะความเมาอย่างเดียวที่พาเธอมาถึงจุดนี้ได้ บางครั้งก็นึกแปลกใจตัวเองว่ายอมทำไม
“โอ้ย จะบ้าตาย”
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่สั่นสะท้านอยู่ข้างตัวทำให้เธอต้องหยิบขึ้นมารับอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ค่ะแม่”
“แกอยู่ไหนกอบัว เมื่อคืนฉันก็ติดต่อไม่ได้ จนเกือบจะจองตั๋วบินไปหาแกที่กรุงเทพแล้วเนี่ย”
เสียงหวานดังแว่วเข้ามาทำให้เธอเผลอยิ้มออกมา ไม่ใช่ใครหรอกนอกจากคุณแม่สุดที่รัก เจ๊กอหญ้าเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดจันทบุรี
“คุณแม่ขา คิดถึงจังเลยค่ะ”
“ไม่ต้องมาอ้อน หายไปไหนมาโทรหาเป็นล้านๆครั้งแล้วมั้ง”
“แหะๆ ไปเที่ยวมาค่ะ หนูไม่รู้ว่าแบตมันหมด”
“มันน่าไหมเนี่ย ถ้าแกยังติดต่อไม่ได้แม่คงได้ทิ้งงานแล้วบินไปหาแกแน่นอน”
“ใจเย็นค่ะ คุณนาย ลูกไม่ได้เป็นอะไร ปลอดภัยดีทุกอย่าง”
“คิดว่าถูกใครหิ้วไปปู้ยี่ปู้ยำแล้ว”
แม่ก็พูดขึ้นมาลอยๆแต่ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆ เหมือนถูกแม่ด่าเสียเอง เพราะไม่ถูกลากก็เหมือนถูกลากแถมยังไปปู้ยี่ปู้ยำเขาก่อนอีก
“ใครจะกล้าลากลูกไปได้ล่ะคะแม่”
“โอเค รู้ว่ายังอยู่ดีก็สบายใจแล้ว แม่วางสายก่อนนะ”
“ค่ะ อย่าทำงานหนักมากนะคะคุณนาย”
“จ้า ตั้งใจเรียนแล้วอย่าเมาให้มากนักนะ”
“รับทราบค่ะ”
หลังจากวางสายของผู้เป็นแม่เธอจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วกลับมานอนอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย
ครืด ครืด ครืด
แสงหน้าจอสว่างวาบพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้สั่นสะท้านขึ้นมาก่อนที่สายจะตัดไปแล้วดังขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าของที่นอนหลับสนิทซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่
ก๊อกๆ ก๊อก
เสียงประตูที่ดังขึ้นพร้อมเสียงโทรศัพท์ทำให้เธอค่อยๆปรือตาขึ้นมาด้วยความงัวเงีย
“อือ ใครมาตอนนี้เนี่ย” เสียงหวานบ่นปากขมุบขมิบพอดวงตาปรับแสงได้จึงเดินไปเปิดประตู
“พี่เกมส์ มาได้ไงคะเนี่ย”
ร่างสูงไม่ตอบแต่ถามกลับด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นแววตาอ่อนล้า พร้อมสีหน้าซีดเซียว “พี่โทรหาทำไมไม่รับสาย”
“หนูนอนหลับ พึ่งตื่น”
“พี่ขอเข้าไปในห้องได้ไหม”
ค่ะ” ฉันเบี่ยงตัวเล็กน้อยให้เขาเดินเข้ามาก่อนจะเดินไปเปิดไฟจนทั่วทั้งห้องจนสว่าง “ขึ้นมาได้ไง นิติยอมเหรอคะ”
“พี่บอกมาหาเรา”
“เขาก็ยอมง่ายๆเลยเหรอ”
“เปล่าพี่บอกว่าเป็นแฟนกัน เขาทำหน้างงๆแล้วก็ให้ขึ้นมา”
“ไปพูดแบบนั้นได้ไงพี่เกมส์”
“ก็พี่เป็นห่วง แล้วนี่ไม่สบายหรือเปล่า” ฝ่ามือหนาทาบที่หน้าผากได้รูปจนฉันที่จะอ้าปากด่าเขาถึงกับหุบปากทันทีเมื่อเจอความอ่อนโยน ไหนจะแววตาอบอุ่นที่ทอดมองมาด้วยความห่วงใย พาเอาใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นแรง
“แค่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวนิดหน่อยค่ะ แล้วพี่รู้ได้ไงว่าหนูอยู่ที่นี่”
“พี่โทรถามพราวว่าคอนโดเราอยู่ที่ไหน”
“อ้าวไหนบอกว่าเรื่องของเราเป็นความลับไง ป่านนี้พราวไม่สงสัยแล้วเหรอ”
“พี่แค่บอกว่าจะเอาของมาคืนเรา”
“ทำอะไรไม่ปรึกษาเลยนะพี่เกมส์ เดี๋ยวก็โป๊ะแตกกันพอดี”
“ไม่มีใครสงสัยหรอก แล้วนี่กินข้าวกินยาหรือยัง”
“ยังค่ะ”
“งั้นไปอาบน้ำ เดี๋ยวพี่ลงไปซื้อข้าวกับยาให้”
“นี่เป็นเซอร์วิสให้คู่ขาด้วยหรือเปล่าคะพี่เกมส์”
“พิเศษสำหรับเราคนเดียว ไปอาบน้ำก่อนไป อืม!! หรือจะอยู่ชุดนี้ก็ได้นะ” สายตาคมไล่มองร่างบางในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินสีดำตัวบางจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนไหนจะหน้าอกอวบที่เห็นปลายยอดดันผ้าออกมา จนลำคอผมแห้งผากจำต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“พี่เกมส์ พี่จะหื่นกามเกินไปแล้วนะ” ฝ่ามือเล็กๆยกขึ้นปิดหน้าอกอวบก่อนจะชี้นิ้วให้เขาออกจากห้อง “จะไปซื้อข้าวไม่ใช่เหรอคะ ออกไปเลย”
“หึๆ ครับผม” กรภัคยกยิ้มทะเล้นก่อนจะคว้าคีย์การ์ดที่วางอยู่บนชั้นวางรองเท้าติดมือไปด้วย
“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำเมื่อเห็นร่างเล็กสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวแล้วยังรูดซิปชิดลำคอระหง
“ขำอะไรคะพี่เกมส์”
“หนาวเหรอ”
“เปล่า หนูกลัวพี่มากกว่า”
“พี่ไม่ทำอะไรคนป่วยหรอก นอกเสียจากคนป่วยจะทำพี่
เพียะ!
“กอบัวเราจะตีพี่ทำไมเนี่ย” ใบหน้ายิ้มทะเล้นเมื่อเห็นใบหน้าสวยมุ่ยลงอย่าน่ารัก
“ก็พี่เกมส์ชอบแกล้ง”
“มาๆนั่งก่อน พี่ไม่แกล้งแล้ว” กรภัคเดินเข้าไปหาร่างเล็กแล้วโอบเอวบางให้นั่งลงที่เก้าอี้
การกระทำอ่อนโยนแบบนี้ จะไหวไหมเนี่ยกอบัวเอ้ย แกอย่าไปหลงรักพี่เขานะ ทุกอย่างมันต้องไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง ใจแข็งเข้าไว้ๆ
ฉันใช้ช้อนคนไปมาแล้วตักโจ๊กหมูร้อนๆใส่ปาก ก็ยังเห็นเขานั่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา จึงเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย
“แล้วพี่มาหาหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่โทรหาแล้วเราไม่รับ พี่ก็เลยเป็นห่วง”
“ขอบคุณค่ะที่เป็นห่วง”
“พี่ทำแรงไป จนหนูไม่สบายใช่ไหม เมื่อเช้าพี่ก็ไม่ได้เอายาให้หนูกินดักไว้ด้วย”
“ไม่ต้องย้ำก็ได้ค่ะพี่เกมส์”
“ครับ งั้นกินยา จะได้นอน”
“พี่ก็กลับไปได้แล้ว” ฉันเอ่ยบอกเมื่อกินยาตามที่เขาส่งให้ครบทุกเม็ดเรียบร้อย
“ไม่ พี่จะนอนที่นี่”
“พึ่งแยกกันเมื่อเช้า เริ่มคิดถึงหนูแล้วเหรอคะ” รมย์รวินท์เอ่ยถามเสียงทะเล้นพร้อมกับชะโงกหน้าเข้าไปใกล้จนเห็นว่าแก้มเขาแดงระเรื่อ
“ใช่ พี่คิดถึง”
เขาบอกหน้าตาเฉยก่อนจะหิ้วกระเป๋าสะพายแบรนด์ดังเดินเข้าไปในห้อง
“เตรียมพร้อมมาก”
ฉันยกยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา พอเขาเดินกลับเข้าไปในห้องรอยยิ้มของฉันที่มีก็ค่อยๆหุบลงแล้วยกมือขึ้นทาบที่หน้าอกด้านซ้าย
“พี่เขาเจ้าชู้มากนะกอบัว แกอย่าหลงรักเด็ดขาด ถ้าไม่อยากร้องไห้เสียใจ ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากความลับตอนจบมันก็ต้องเป็นความลับตลอดไป”
ตอนที่ 8 พิษไข้ร่างบางเดินขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอเขาอาบน้ำ จนกระทั่งเขาเดินออกมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทำให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวยมีหยดน้ำเกาะพราวตามผิวขาวเนียน ปลายยอดยังเป็นสีชมพูสวย จนเผลอมองอยู่นาน“หิวพี่เหรอ”“พูดจาบ้าๆ”“ก็เห็นมองตามตาเป็นประกายเชียว”“ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาล่ะคะ”“พี่ลืมเอาชุดเข้าไปน่ะ”กรภัคเอ่ยบอกก่อนจะหยิบกางเกงนอนเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเดินขึ้นมานอนบนเตียงกว้าง“พี่เกมส์ไม่กลับไปนอนที่ห้องล่ะคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”“พี่เป็นห่วง”“ไว้ใจได้ป่ะเนี่ย”“คำถามนี้พี่น่าจะถามเรามากกว่ามั้ง” กรภัคว่าเสียงขำจนร่างบางเบ้ปากกลอกตามองบนใส่ ผมจึงยื่นมือไปหยิกแก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว“พี่เกมส์ เจ็บนะ”“หมั่นเขี้ยว นอนได้แล้ว พี่ไม่ทำอะไรหรอก
ตอนที่ 9 เวลาของเรา เมื่อจัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยฉันก็รับยาลดไข้จากเขามาใส่ปากแล้วตามด้วยน้ำเปล่า “อื้อ พี่เกมส์จะทำอะไร” เสียงหวานร้องท้วงเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ “พี่ขอวัดไข้หน่อย” กรภัคยกมือขึ้นทาบหน้าผากพอเห็นว่าอุณหภูมิปกติก็ค่อยเบาใจ “หายดีแล้ว”“ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนู”“พี่ขอโทษนะที่รุนแรงไปหน่อย”“ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ” รมย์รวินท์พูดเสียงแผ่วก้มหน้างุดหลบสายตาคมที่มองมาราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำน้อยๆ “แล้วนี่เราจะไปไหนไหม พี่จะพาไป”“ปกติวันหยุดหนูจะไปซื้อของใส่ตู้เย็น”
ตอนที่ 10 บรรยากาศพาไป “เป็นอะไรหรือเปล่าตั้งแต่ออกจากห้าง พี่เห็นเรานั่งเงียบมาตลอดทางเลย”“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร”“ไข้ขึ้นหรือเปล่า” กรภัคยกฝ่ามือทาบหน้าผากได้รูปแต่คนตัวเล็กกลับเบี่ยงตัวหนี“ไม่ค่ะ สบายดี”“แล้วทำไมหน้าดูซึมๆ แบบนี้ล่ะ”“เอ่อ...หนูคอแห้งเฉยๆ กินเบียร์กันไหมคะพี่เกมส์”“ยัยเด็กขี้เมา” กรภัคว่าขึ้น เขาก็อุตส่าห์เป็นห่วงที่ไหนได้ร่างกายต้องการแอลกอฮอล์นี่เอง“สรุปกินไหมคะ”“พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“มีค่ะแต่แค่กระป๋องเดียว ไม่เมาหรอก”“โอเค”ผมหยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมาสองกระป๋องก่อนจะเดินมาหาร่างบางที่นั่งอยู่ริมระเบียงที่ไม่ได้กว้างมาก มีเพียงเก้าอี้ในสวนและรอบๆยังปลูกดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงาม“อื้อ รับไ
ตอนที่ 11 แค่คนรู้จักเช้าวันต่อมารถเบนซ์ c-class สีขาวแล่นเข้ามาในรั้วมหาลัยตามกฎหมายกำหนดก่อนจะจอดสนิทที่ลานจอดรถตึกคณะวิศวกรรมที่ค่อนข้างโล่งครืด ครืด ครืดขณะที่มือบางเก็บหนังสือและไอแพดใส่กระเป๋าผ้าแบรนด์ดัง แต่ยังไม่ทันไรโทรศัพท์ในมือก็สั่นสะท้านเมื่อมีสายเรียกเข้า“เออว่าไงพราว”“อยู่ไหน”“กำลังจอดรถ”“อยู่โรงอาหารนะกับตังเม”“โอเคๆ เดี๋ยวตามไป”เท้าเรียวบนรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวเดินตรงไปยังโรงอาหารพร้อมกับชะเง้อคอมองหา จนเจอสองสาวที่นั่งกินข้าวอยู่โต๊ะริมกระจก“กว่าจะมาได้”“เออ รถติด ตื่นสายด้วยนิดหน่อย”พราวฟ้าที่กำลังเคี้ยวข้าวชะเง้อคอมองตามเพื่อนสนิทอย่างรมย์รวินท์ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “แล้วแกมองหาอะไร”“เปล่า”“พักหลังๆนี่พิรุธเยอะนะแก หรือว่าแกไปแอบปิ๊งหนุ่มที่ไหนมา”“พูดไปเรื่อยอ่าตังเม”“เอ้า ก็ท่าทีแกแปลกๆ”“แค่สงสัยว่าพี่ธันย์บอดี้การ์ดส่วนตัวพ่วงตำแหน่ง
ตอนที่ 12 กับดักร่างบางในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก้าวเดินไปตามมุมตึก ลัดเลาะไปตามทางแคบๆ สลับมองหลังเป็นระยะๆ ด้วยบรรยากาศเงียบเหงาวังเวงในช่วงห้าโมงเย็นยิ่งทำให้ดูหน้ากลัว เธอจึงรีบเดินให้เร็วขึ้นจนกระทั่งเดินมาถึงลานจอดรถ“แอบหนีใครมาเหรอ” กรภัคที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพิงรถอาวดี้เอ่ยถามเสียงขำ“อุ๊ย! พี่เกมส์ตกใจหมด”“ทำลับๆล่อๆ หนีอะไรมา”“เปล่า”“กำลังหนีหน้าพี่ใช่ไหม” กรภัคพูดขึ้นอย่างรู้ทัน“ไม่ได้หนี” เธอแอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านหน้าเขาไปที่รถตัวเอง“เดี๋ยว” ฝ่ามือหนายื่นมาดึงข้อมือเล็กเอาไว้ “วันนี้โกรธพี่หรือเปล่า”“โกรธทำไมล่ะคะ มันคือข้อตกลงของเราสองคนไม่ใช่เหรอ ห้ามรัก ห้ามเปิดเผย ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ทุกอย่างมันเริ่มต้นแบบลับๆ ก็ต้องจบแบบลับๆสิคะ”“ประชดเหรอ”“เปล่าค่ะหนูพูดความจริง แล้วอีกอย่างก็เป็นไปตามที่เราตกลงกันไว้ ถ้าพี่มีคนอื่นหนูค่อยโกรธดีกว่าไหม”“งั้นกลับกับพี่”“แต่หนูเอารถมา”“ทิ้งไว้นี่แหล
ตอนที่ 13 เพราะฝนทำให้คนเหงา@คอนโดร่างบางก้มๆเงยข้างเตียงก่อนจะรื้อหาใต้พรม แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอสร้อยข้อมือเจ้าปัญหา แต่พอจะกลับเข้าไปหาในห้องน้ำอีกครั้งก็ต้องชะงักหันมาหาเข้าของห้องที่ยืนกอดอกพิงประตูอยู่“หาเจอไหม”“ไม่เจอค่ะ” รมย์รวินท์ส่ายหน้าไปมาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ตามหาจนทั่วทุกที่ซ้ำสองรอบก็ยังหาไม่เจอ“มากินข้าวก่อนพี่จัดโต๊ะเสร็จแล้ว พอกินเสร็จเดี๋ยวพี่จะช่วยหาอีกที”“ขอหาในห้องน้ำอีกรอบก่อนได้ไหมคะ”“ไม่ได้”“เห้อ” เธอถอนหายใจด้วยความหนักใจก่อนจะเดินตามร่างสูงที่เดินเข้ามากุมมือพาเดินออกมาที่โต๊ะกินข้าว ที่แปลกตาไปกว่าทุกครั้งเพราะมีอาหารจากโรงแรมชื่อดัง พร้อมกุหลาบช่อใหญ่วางไว้บนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฟุ้งผสมผสานไปกับกลิ่นเทียนหอมที่ประดับตามมุมต่างๆ“ต้องขนาดนี้เลยเหรอคะ”“ตอนที่เราหาสร้อยอยู่พี่สั่งอาหารมาไว้ให้ ส่วนอันนี้พี่ก็สั่งเพิ่มมาให้ เห็นเราดูเครียดๆ”“ขอบคุณนะคะ”รมย์รวินท์นั่งลงบนเก้าอี้ที่เขาขย
ตอนที่ 14 กอดแก้หนาวกรภัคลุกขึ้นถอดกางเกงออกจากตัวแล้วนอนแทรกกลางขาเรียวแล้วแหวกท่อนขาเรียวออกกว้างเป็นรูปตัวเอ็ม มองเนินดอกไม้เรียบเนียนตาเป็นประกายราวกับเสือร้ายเจอเหยื่อที่แสนถูกใจ ก่อนจูบเบาๆพร้อมใช้นิ้วบดคลึงเกสรสีชมพูตรงกลางจนน้ำหวานไหลซึม“ซี๊ด พี่เกมส์ขา”รมย์รวินท์หวีดร้องครางเสียงหลง หน้าท้องแบนราบกระตุกเกร็งเมื่อถูกลิ้นร้อนแตะลงกลางกลีบดอกไม้แล้วลากลิ้นไปตามรอยแยกช้าๆ พลางปัดป่ายไปทั่วดอกไม้จนสะโพกกลมกลึงลอยขึ้นเขาทั้งดูดและขบเม้มเกสรตรงกลางอย่างมูมมามและสอดลิ้นเข้าไปในเนื้อนุ่ม น้ำหวานสีใสก็ยิ่งไหลเยิ้มออกมาไม่หยุด เขายิ่งตักตวงความหอมหวานอย่างกระหาย“พะ พี่เกมส์ขา พะ พอก่อน หนูไม่ไหวแล้ว”“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำในลำคอบอกให้เขาหยุดแต่เด็กน้อยของเขากลับกดหัวไว้แน่นพลางเด้งเอวขึ้นใส่ไม่หยุด เขาก็ยิ่งดูดน้ำหวานราวกับแมลงดูดน้ำหวานจากเกสร“ไม่ไหวแล้วพี่เกมส์ อ๊ะๆ อือ”เนื้อนิ่มบีบรัดแน่นเมื่อร่างเล็กใกล้ถึงจุดสุขสมผมจึงสอดนิ้วเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่มทีเดียวสองนิ้วขยับเข้าออกแล้วดูดเกสรด้วยความหิวกระหายจนร่างบางกระตุกเกร็งแฮกๆเสียงหอบหายใจดังแผ่ว ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อนัยน์ตาค
ตอนที่ 15 ปิดบัง“โอ๊ย หัวจะปวด” ตังเมโอดครวญเสียงดังหลังจากที่อาจารย์และเพื่อนๆออกไปจากห้องเมื่อวิชาสุดท้ายของวันนี้จบลง ก่อนจะเท้าคางนั่งมองเพื่อนสนิทที่ฟุบอยู่กับโต๊ะตาปริบๆ“กอบัว”“....”“ตังเมแกว่ากอบัวมันไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา หลับทั้งคาบเช้า คาบบ่ายเลย”“นั่นดิพราว น่าสงสัยมากทั้งที่มันตั้งใจเรียนที่สุดในห้อง” ตังเมเปรยขึ้นพร้อมกับเขย่าไหล่เล็ก แต่อีกฝ่ายก็ยังคงนอนนิ่งเหมือนเดิม“กอบัว” พราวฟ้ายื่นมือไปสะกิดแผ่นหลังของเพื่อนที่ฟุบหลับอยู่“อื้อ” รมย์รวินท์ที่ฟุบหน้าหลับอยู่กับโต๊ะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก็เจอเข้ากับสายตาของสองสาวจ้องเขม็ง “ว่าไง”“เลิกคลาสแล้วจ้า”“อ้าวเหรอ”“ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา”“เอ่อ...” รมย์รวินท์อึกอักเล็กน้อยจะให้บอกสาเหตุจริงๆก็กลัวเพื่อนจะตกใจเสียก่อน“ดูซีรี่ย์สินะ”“อือ” ฉันรีบพยักหน้ารับคำของพราวฟ้าแล้วยิ้มแหยๆให้ ก่อนจะรีบเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อหลบสายตาที่จ้องจับผิด“ปกติแกไม่เคยดูซีรี่ย์จนเป็นแบบนี้นะ”
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้
ตอนที่ 37 ทะเลเดือด“เดี๋ยวเราไปเที่ยวที่นี่กันก่อนนะคะ ไปหาข้าวเที่ยงกินที่นี่ด้วย”“ตามใจไกด์เลยครับ” กรภัคบอกเสียงอ่อนโยนพร้อมกับกุมมือนุ่มไว้ตลอดทางจนกระทั่งถึงที่หมาย“เดี๋ยวหนูพาพี่เที่ยวที่โซนนี้ก่อนนะเวลามีน้อย คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะพาเที่ยวให้ครบแปดโซนเลยค่ะ”“โอเคครับ”“งั้นไปกันค่ะ”รมย์รวินท์เช่าจักรยานสมาสองคัน เธอกับเขาปั่นเลียบไปตามริมน้ำชมอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลที่ตั้งเด่นสง่า ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ที่มียอดแหลมตรงปลายโบสถ์ทั้งสองข้าง ภายในงดงามด้วยการประดับกระจกสี“สวยมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะ”“เป็นแลนมาร์คของจังหวัดเลยค่ะ ป่ะนี่ก็ใกล้เที่ยวแล้วเดี๋ยวหนูพาไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงกับเส้นจันท์ผัดปูนิ่มที่ร้านริมน้ำบอกเลยว่าอร่อยมาก เอ๊ะหรือส้มตำทุเรียนดี”“โอ้โห่ ทุเรียนพี่ว่าพอก่อนดีกว่า เมื่อเช้าแม่เราก็จัดให้พี่เต็มที่เลย แล้วเรายังแกล้งพี่ไว้แสบมากอีกนะ”“ก็เลือกที่จะไม่กินก็ได้นี่คะ เหมือนที่พี่ไม่ไปช่วยงานแม่พี่ที่ตลาดช่วงหน้าทุเรียนไงคะ
ตอนที่ 36 ดูดาวกันนะ หลังจากที่ทานข้าวอิ่มเรียบร้อยกอหญ้าก็ขอตัวไปนอนเพราะต้องลงสวนแต่เช้า กรภัคจึงรีบเดินไปรั้งเอวบางที่กำลังจะเดินเข้าห้องมากอดไว้แนบอก“พี่เกมส์ทำอะไรคะเนี่ย ปล่อยเลย”“พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะ”“ก็บอกดีๆสิคะ มากอดทำไม เดี๋ยวแม่มาเห็นเข้า”“พี่กลัวเราหนีพี่อีก” กรภัคพาร่างบางเดินมานั่งหน้าบ้านที่มุมนั่งเล่นตรงระเบียงซึ่งมีศาลาขนาดเล็กตัวไม้ระแนงมีผู้ผ้าพริ้วสีขาวตามเสาบ้าน รอบๆปลูกไม้ประดับจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว“มีอะไรก็พูดมาสิคะ”“มานอนดูดาวกันนะ”รมย์รวินท์นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆแต่กลับถูกเขาดึงไปนั่งบนตักสองแขนกำยำกอดรอบเอวบางแล้ววางคางเกยบนไหล่เล็ก“พี่คิดถึงเรามากเลยนะรู้ไหม”“....”เมื่อเธอไม่ตอบแต่การที่เธอเอียงศีรษะซบอกก็ทำให้ผมยิ้มออกมา ซึ่งยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่เปรี่ยมไปด้วยความสุข“พี่รักเรานะ ขอโทษที่พี่ไม่ได้ดีพอจนสุดท้ายทำให้เราต้องเสียใจ
ตอนที่ 35 คนเดียวสักพัก“เฮ้อ” รมย์รวินท์ถอนหายใจเฮือก ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านก่อนจะพูดคุยกับผู้เป็นแม่ ถ้าเจออะไรอย่าตกใจ อย่าใช้อารมณ์ อย่าใช้สมองให้ใช้หัวใจตัดสิน ที่แม่พูดมาทั้งหมดคงหมายถึงเขาสินะครืด ครืด ครืด“โทรมาได้จังหวะพอดีเลย” รมย์รวินท์รีบรับสายเมื่อเห็นชื่อเพื่อนสนิทโทรเข้ามา “กำลังจะโทรหาพอดีตังเม”“แกเจอพี่เกมส์แล้วใช่ไหม”“เจอแล้ว แกรู้อยู่แล้วหรอว่าเขามาที่นี่”“อือ”“แล้วแกไม่บอกฉันก่อน”“แหม่ๆ ทำอย่างกับรับสายงั้นแหละ ฉันกับพราวโทรหาแกจนสายเกือบไหม้แล้วมั้ง ข้อความที่ส่งไปเปิดอ่านบ้างหรือเปล่าเถอะ”“โทษทีจะเพื่อนรัก แต่หยุดบ่นก่อน ช่วยคิดหน่อย”“จะให้ช่วยคิดยังไง เรื่องนี้แกต้องตัดสินใจเอง หัวใจแก แกก็น่าจะรู้ดีที่สุดแล้วนะกอบัว มาถามฉันก็จะช่วยอะไรได้นอกจากโทรมาฟังแกระบาย”“เรื่องจริงใช่ไหม”“อือ วันนั้นฉันก็อยู่กับพวกพี่เขา พี่ชินเขาก็อยู่ด้วยนะ เขาเล่าและยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ”“แต่ตอนที่ฉันขึ้นไปฉันก็ไม่เห็นแม้แ