ตอนที่ 15 ปิดบัง
“โอ๊ย หัวจะปวด” ตังเมโอดครวญเสียงดังหลังจากที่อาจารย์และเพื่อนๆออกไปจากห้องเมื่อวิชาสุดท้ายของวันนี้จบลง ก่อนจะเท้าคางนั่งมองเพื่อนสนิทที่ฟุบอยู่กับโต๊ะตาปริบๆ
“กอบัว”
“....”
“ตังเมแกว่ากอบัวมันไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา หลับทั้งคาบเช้า คาบบ่ายเลย”
“นั่นดิพราว น่าสงสัยมากทั้งที่มันตั้งใจเรียนที่สุดในห้อง” ตังเมเปรยขึ้นพร้อมกับเขย่าไหล่เล็ก แต่อีกฝ่ายก็ยังคงนอนนิ่งเหมือนเดิม
“กอบัว” พราวฟ้ายื่นมือไปสะกิดแผ่นหลังของเพื่อนที่ฟุบหลับอยู่
“อื้อ” รมย์รวินท์ที่ฟุบหน้าหลับอยู่กับโต๊ะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก็เจอเข้ากับสายตาของสองสาวจ้องเขม็ง “ว่าไง”
“เลิกคลาสแล้วจ้า”
“อ้าวเหรอ”
“ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา”
“เอ่อ...” รมย์รวินท์อึกอักเล็กน้อยจะให้บอกสาเหตุจริงๆก็กลัวเพื่อนจะตกใจเสียก่อน
“ดูซีรี่ย์สินะ”
“อือ” ฉันรีบพยักหน้ารับคำของพราวฟ้าแล้วยิ้มแหยๆให้ ก่อนจะรีบเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อหลบสายตาที่จ้องจับผิด
“ปกติแกไม่เคยดูซีรี่ย์จนเป็นแบบนี้นะ”
“มันก็ต้องมีบ้างไหมล่ะตังเม ไปๆ เดี๋ยวพี่รปภ.จะปิดตึกเสียก่อน”
“อือๆ”
ทั้งสามคนเดินมารอลิฟต์ ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออกกว้าง แต่คนที่อยู่ด้านในทำให้เธอที่กำลังจะเดินเข้าลิฟต์ชะงักเมื่อสบเข้ากับดวงตาคมพอดีก่อนจะเบือนหน้าหนีแกล้งมองไปทางอื่น
“พวกพี่ไปก่อนเลยจ้า” พราวฟ้าเอ่ยบอกเสียงใส
“มาเถอะหนูพราวลิฟต์ยังว่าง” ธนัทกวักมือเรียกว่าที่คู่หมั้นก่อนจะเอ่ยบอกรุ่นน้องร่วมคณะอีกสองคนอย่างสนิทสนมเพราะเจอหน้ากันและไปดื่มกันด้วยบ่อยๆ “กอบัวกับตังเมด้วย มาเร็วๆ”
“พราวแกไปเลย” ฉันเอ่ยบอกพร้อมกับพยักพเยิดหน้าให้อีกฝ่ายเข้าไปในลิฟต์
“ไปด้วยกันหมดนี่แหละ”
รมย์รวินท์ก้าวเดินเข้าไปในลิฟต์ตามแรงดึงของเพื่อนสนิท อย่างไม่ทันตั้งตัวจนเซถลาเกือบชนกับร่างสูงและยังเป็นคนเดียวกับเมื่อคืนที่พึ่งผ่านสงครามกลางเตียงมาด้วยกันสดๆร้อนๆอีก
“เอ่อ ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ” กรภัคยิ้มน้อยๆก่อนจะตีหน้านิ่งเฉยราวกับคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“ยืนเกร็งจังเลยนะครับน้องกอบัว” ชวกรที่ยืนอยู่ใกล้ๆเอ่ยทัก จนทุกสายตามองมาที่เธออีกครั้ง
“ค่ะ เกร็งนิดหน่อยค่ะ” เธอพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเพราะเผลอคิดเรื่องเมื่อคืนจนแก้มใสเริ่มเห่อแดงมากขึ้น
“ไอ้เกมส์ มึงก็อย่างยืนหน้านิ่งแบบนั้นสิ น้องเขาก็เกร็งกันพอดี” อรปรียาเอ่ยเย้าคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าพร้อมกับกระแทกแผ่นหลังกำยำจนอีกฝ่ายเซไปด้านหน้าเล็กน้อย
“อุ๊ย”
“พี่ขอโทษนะ เจ็บตรงไหนไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับโอบเอวประคองไว้ตามสัญชาตญาณ
“ไม่ค่ะ”
“ชะเอมมึงเล่นอะไรเนี่ย เห็นไหมโดนน้องเขาเลย” กรภัคหันไปทำตาดุใส่อรปรียาที่กระแทกไหล่จนเขาชนเข้ากับร่างเล็กที่อยู่ตรงหน้าพอดี
“เอ่อ พี่ขอโทษนะกอบัว” ท้ายประโยคอรปรียาพูดกับรมย์รวินท์ที่หันหลังมามองพอดี แต่ถ้าเธอมองไม่ผิด สองคนนี้ต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ๆ หูแดงแก้มแดงทั้งคู่แบบนี้ แบบนี้มันต้องสืบ!!
ฟู่ว!
รมย์รวินท์ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อลิฟต์เลื่อนมาถึงชั้นที่หนึ่งโดยที่เธอไม่หมดลมตายคาลิฟต์เสียก่อน
“เป็นอะไรกอบัว”
“เปล่าๆ กลับคอนโดกันเถอะ”
“เดี๋ยว!”
“ว่าไงตังเม” ฉันหันมองเมื่อถูกอีกฝ่ายรั้งแขนเอาไว้
“นั่นดิ มีอะไรหรือเปล่า” พราวฟ้าเอ่ยถามซ้ำเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเอาแต่ยืนยิ้มอมพะนำไม่ยอมพูด
“วันนี้วันศุกร์เราไปผ่อนคลายกันสักหน่อยไหม”
“คิดว่ามีอะไรด่วน”
“เออน่า ไปไหม”
“ขอพี่ธันย์ก่อน”
“โอ๊ย พี่ธันย์แกให้ไปอยู่แล้วแหละพราวเพราะไปผับพี่พายุรับรองปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมนักร้องหล่อดีด้วย”
“สรุปไปส่องนักร้อง” พราวฟ้ากอดอกพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเชิงถาม
“ก็มีส่วน ไปนะพราว นะๆ” ตังเมอ้อมแอ้มตอบเสียงเบาก่อนจะเขย่าแขนเรียวจนอีกฝ่ายพยักหน้ารับจึงหันมาทางรมย์รวินท์ “ไปนะกอบัว”
“ถ้าไม่ไปล่ะ”
“จะตื้อจนกว่าจะยอมไป”
“เออ ไปก็ไป”
“ดีล เจอกันตอนสองทุ่มครึ่ง ห้ามเลท ห้ามสาย มาช้าจ่าย”
@ผับ Mon Coeur
เวลา 21.00 น.
“มาช้าว่ะแก”
“เออ โทษที รีบสุดแล้วเนี่ย” รมย์รวินท์ในชุดเดรสเกาะอกสีชมพูสะพายกระเป๋าแบรนด์ดังเดินเข้ามาหาเพื่อนสนิทที่เคาน์เตอร์บาร์ด้วยความเร่งรีบ
“หืม ตามหากระเป๋าใบที่อยากได้เจอแล้วเหรอ” ตังเมเอ่ยทักเมื่อเห็นเพื่อนสนิทสะพายกระเป๋าใบใหม่เข้ามา
“อือ พึ่งได้มา”
“สวย เลิศ เหมาะกับแกที่สุด” ตังเมยิ้มกว้างพร้อมกับจับร่างเล็กหมุนไปมาอย่างชื่นชม
“พอ! เลิกอวย แล้วทำไมไม่ไปนั่งที่โต๊ะล่ะ”
“ไม่มีว่างเลย ลืมจอง”
“แหม่ แล้วชวนซะดิบดี เอาไงล่ะทีนี้ เปลี่ยนร้านไหม”
“ไม่เอา ตั้งใจมาส่องนักร้องเลยนะเว้ย” ตังเมจับแขนเรียวไว้เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะเดินออกจริงๆตามที่พูด “งั้นไปเต้นกลางฟอร์กัน เหนื่อยแล้วค่อยกลับเลยโอเค๊”
“โอเค แล้วพราวล่ะ”
“ขึ้นไปหาพี่ธันย์ บนนู้น” ตังเมบุ้ยปากไปทางชั้นสองซึ่งเป็นโซนวีไอพี สำหรับสมาชิกที่มีเมมเบอร์ที่นี่เท่านั้น
“พี่ธันย์มาเหรอ” รมย์รวินท์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนหันมองไปรอบๆร้าน ถ้าเพื่อนเขามาหวังว่าเขาจะไม่มานะ
“งั้นมั้ง กอบัวไปเต้นกันเหอะเพลงกำลังสนุกเลย”
“เดี๋ยวก่อน”
“ทำไมอ่า” ตังเมหรี่ตามองคนตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่คะ เหล้าเพรียวที่แรงที่สุดและอร่อยที่สุดสามช็อตค่ะ”
“กอบัว แกจะล้มก่อนไหม”
“จะให้ไปเมาดิบหน้าเวทีหรือไงเล่า”
“เออๆ โอเคสามช็อตพอนะ”
“อือๆ”
เมื่อบาร์เทนเดอร์วางแก้วช็อตสีใสสามแก้วตรงหน้า เธอก็รีบยกกระดกดื่มทีเดียวจนหมดทั้งสามแก้วก่อนจะสะบัดหน้าไปมาเมื่อความร้อนแรงของเหล้าทำให้มึนหัว พร้อมกับวางเงินค่าเครื่องดื่มไว้ให้
“กะเอาเมาเลยมั้ง”
“ก็มาผ่อนคลายไม่ใช่หรือไง ไปค่ะ พร้อมแล้ว”
แสงไฟสลัว พร้อมกับแสงเลเซอร์สาดส่องไปทั่วห้องมืดที่มีเหล่านักเต้นต่างออกลวดลายไปพร้อมเพลงมันส์ๆ แม้แต่ร่างเล็กในชุดเกาะอกสีชมพูก็กำลังโยกเอวเต้นไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนานด้วยท่วงท่าสุดเซ็กซี่จนพวกผู้ชายรอบข้างมองกันตาเป็นมัน
“มึงมองอะไรไอ้เกมส์”
“กูก็มองไปเรื่อย”
“เผื่อเจอเหยื่อถูกใจว่างั้น”
“อือ” ผมตอบรับในลำคอก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ แม้ในใจตอนนี้อยากจะไปลากเด็กดื้อกลับห้อง โทรไปบอกจะนอนแต่มาโผล่ที่ผับ มันใช่ไหมวะ!
“อ้าวหนูพราว ไม่ไปเต้นกับเพื่อนเหรอ” ชวกรเอ่ยถามเพราะก่อนเดินขึ้นมาเขาเห็นเพื่อนสนิทเธอทั้งสองคนกำลังเต้นอยู่กลางฟอร์อย่างสนุกสนาน
“อยากไปค่ะ แต่พี่ธันย์ไม่ให้ไป”
“ก็หนูมีว่าที่คู่หมั้นแล้วจะไปเต้นแบบนั้นได้ไง พี่หวง”
“ไม่เห็นเกี่ยว” พราวฟ้าตอบเสียงสะบัดด้วยความขัดใจ
“ทำไมจะไม่เกี่ยวก็กอบัวกับตังเมยังไม่มีแฟน...”
แค่ก แค่กๆ
“เป็นอะไรไอ้เกมส์” ธนัทเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองเพื่อนสนิทตาเขม็งที่กำลังไอจนหน้าแดง
“สำลักเหล้า แล้วมึงจะสนใจกูทำไมเนี่ย”
“พิรุธเยอะนะมึง”
“ก็ปกติไหมล่ะ”
“เออ ก็ไม่ได้ว่าอะไร”
“มุก ไปเต้นกับน้องกันไหม”
“หยุดเลยชะเอม”
“โถ่ พายุ แฟนก็อยากยืดเส้นยืดสายบ้างไหมล่ะ” อรปรียาบ่นเสียงกระเง้ากระงอดคนกำลังจะเกิด กะว่าจะไปทวงบัลลังก์ขาแดนซ์สักหน่อยโดนคนรักคุมกำเนิดเสียงั้น
“แฟนหวง” พายุลูบผมคนรักอย่างอ่อนโยนจนคนเอาแต่ใจยิ้มแฉ่งกอดซบอกกำยำอย่างอ้อนๆ
“คนมีแฟนแล้วก็หยุดค่ะชะเอม ได้ออกมาร้านเหล้าก็บุญหัวแล้ว” มุกตาภาเปรยขึ้นพร้อมกับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้มองไปทางอื่นเมื่อ
เตวิชญ์หันมอง “แต่จะว่าไปตังเมแม่งคนมาจีบเยอะเลยว่ะ” มุกตาภาพูดขึ้นแต่สายตากลับจ้องมาทางเพื่อนสนิทอย่างกรภัคแต่อีกฝ่ายก็นั่งกินเหล้าหน้าตาเฉย ไม่มีท่าทีร้อนรน แสดงว่าไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้ารู้สึกก็คงเก็บอาการเก่งเกินมนุษย์แล้วงั้นต้องอีกคน!
“น้องกอบัวก็ใช่ย่อยนะ ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ไอ้พวกนั้นมองกันตาพราวเลย เฮ้ย นั่นใช่ไอ้พฤกษ์ป่ะ ที่ไปขอเบอร์น้อง” อรปรียาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อชะเง้อคอไปมองตามที่มุกตาภาพูด เพราะเห็นว่าอีกคนก็เสน่ห์แรงไม่ต่างกัน
และคราวนี้ได้ผล เมื่อกรภัคที่กำลังจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มถึงกับชะงักวางแก้วเหล้าแล้วลุกขึ้นยืนทันที
“เป็นอะไรไอ้เกมส์ อยู่ดีๆก็ลุกขึ้น กูตกใจหมด”
“เปล่า แค่เมื่อยขา”
“เอ่อเหรอ”
“อือ” ทั้งสีหน้าและแววตาของอรปรียาและมุกตาภาทำให้ผมทำหน้าไม่ถูก “เดี๋ยวกูมานะ ไปห้องน้ำแป๊ป”
“น้องพราว กอบัวมีแฟนไหม” คล้อยหลังที่กรภัคเดินออกไปมุกตาภาจึงเอ่ยถามพราวฟ้าทันที
“ไม่มีนะคะ ตั้งแต่รู้จักกันมากอบัวไม่เคยมีแฟนเลย แม้แต่คนคุยก็ไม่มี”
“แต่คนมาจีบเยอะมากเลยนะ”
“ค่ะ แต่กอบัวก็ไม่เคยให้ช่องทางการติดต่อใครเลย หรือบางคนที่ทักมา กอบัวก็ไม่ตอบนะคะพี่มุก”
“ทำไมหรอ” อรปรียาถามด้วยความอยากรู้
“กอบัวเคยบอกว่าไม่ชอบผู้ชาย”
“ไม่ชอบผู้ชาย!” คราวนี้ทั้งกลุ่มอุทานถามขึ้นมาพร้อมกัน
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” พราวฟ้าโบกมือปฏิเสธทันที “แค่ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้เฉยๆ”
“งั้นไอ้เกมส์คงหมดสิทธิ์แล้วล่ะ” มุกตาภาหันมากระซิบอรปรียาเสียงแผ่ว งานนี้จะมีคนแอบรักข้างเดียวหรือเปล่านะ
“พวกพี่ว่าอะไรนะคะ”
“เปล่าๆจ้า” มุกตาภาโบกมือปฏิเสธ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่โทรศัพท์ของพราวฟ้ามีสายเรียกเข้าพอดี
“จะกลับแล้วเหรอ”
”...”
“แป๊บนะ” พราวฟ้าเอ่ยบอกกับปลายสายก่อนจะหันมามองรุ่นพี่ร่วมคณะ “พราวขอชวนกอบัวกับตังเมขึ้นมานั่งที่นี่ด้วยได้ไหมคะ ยังไม่อยากให้สองคนนั้นกลับเลย”
“ได้สิ พามาเลย” ธนัทเอ่ยบอก เมื่อพราวฟ้าหันไปคุยโทรศัพท์ต่อ เขาจึงหันกลับมาสนใจสองสาวอย่างมุกตาภาและอรปรียา “กูรู้นะว่าพวกมึงคิดอะไรอยู่”
“รู้ดี” อรปรียาเอ่ยบอกทันที
“ไม่ใช่แค่พวกมึงที่เห็น พวกกูก็เห็นครับเพื่อน” ชวกรเอ่ยถามอย่างรู้ทัน “และบอกไว้เลยว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ต่อให้มีทางเป็นไปได้ก็เหอะ เพราะพวกมึงก็รู้นิสัยไอ้เกมส์ดี มันไม่อยากมีความรัก ตั้งแต่รู้จักกันมามันไม่เคยคบใครด้วยซ้ำ ฟันแล้วทิ้งอย่างเดียว”
“ใครจะไปรู้ มันอาจจะยังไม่เจอคนที่ใช่ก็ได้”
“คงยากนะมุก ดูนั่นสิ” เตวิชญ์ที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยบอกก่อนจะพยักหน้าไปทางร่างสูงที่เดินกลับเข้ามาพร้อมคู่ขาในคืนนี้
“สวัสดีค่ะพี่ๆ” จีจี้ที่เกาะแขนกำยำแน่นเอ่ยทักตามมารยาท ก่อนจะทรุดนั่งลงข้างๆคนที่เธอตามจีบมานานหลายเดือน
“พี่เกมส์ขา คืนนี้...”
“พวกแกทางนี้” พราวฟ้าที่เห็นเพื่อนสนิทเดินขึ้นมาพอดีจึงเอ่ยทักอย่างลืมตัวจนถูกจีจี้ตวัดตามองแรงใส่
“สวัสดีค่ะพี่ๆ” รมย์รวินท์เอ่ยทักทายรุ่นพี่ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตัวที่ว่างข้างๆกันกับตังเมแล้วยังนั่งตรงข้ามกับกรภัคพอดี
“ดื่มเหล้าไหม” ชวกรเอ่ยถาม
“ของตังเมโซดา ส่วนกอบัว โซดาน้ำค่ะ”
“นี่ครับสาวๆ ได้แล้ว” ไม่นานชวกรที่รับเป็นมือชงเหล้าในคืนนี้ก็ยื่นแก้วให้กับคนมาใหม่
“ขอบคุณค่ะ” รมย์รวินท์ตอบรับก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
“หิวน้ำหรอ กอบัว”
“ค่ะพี่ชิน พึ่งเต้นมาเหนื่อยๆ”
“เดี๋ยวพี่ชงให้ใหม่”
“ขอบคุณนะคะ”
กรภัคชำเลืองมองรมย์รวินท์ที่หลบสายตาด้วยการกระดกเหล้าเข้าปากโดยไม่สนใจ
“พี่เกมส์ขา คืนนี้ไปส่งจีจี้ที่คอนโดหน่อยสิคะ” จีจี้ไม่พูดเปล่าแต่ยังเอนตัวซบที่ไหล่กว้าง กอดแขนไม่ปล่อยจนเจ้าอวบทั้งสองลูกถูไถแขนกำยำของกรภัคเต็มๆ “นะๆพี่เกมส์”
“พี่ไม่ว่างหรอกจีจี้”
“เมื่อไหร่พี่จะใจอ่อนให้จีจี้บ้างคะ”
“พี่เคยพูดไปแล้วนะจีจี้” กรภัคตอบกลับเสียงแข็ง
“แต่...”
“มาชนแก้วกันหน่อยดีกว่า” ธนัทเอ่ยแทรกคนทั้งคู่เมื่อเริ่มเห็นสีหน้าหงุดหงิดและอึดอัดของกรภัค ซึ่งเขายังไม่อยากให้บรรยากาศสนุกๆพังพินาศจึงพาพูดเปลี่ยนเรื่อง
เคร้งงง
“อ้าววว ชน!!”
เสียงแก้วกระทบกันแข่งกับเสียงเพลงจากดีเจชื่อดัง ผู้คนต่างโยกย้ายไปตามเสียงเพลงแม้แต่ตัวฉันเองที่เริ่มโยกตัวไปตามจังหวะ มือก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเสมือนน้ำเปล่า ยิ่งเห็นภาพสองคนใกล้ชิด กอดซบกันแล้วมันคันยิบๆในใจ ยิ่งกระดกเหล้าลงคออย่างไม่กลัวเมา
“ไปเต้นต่อไหมกอบัว ก่อนเดินขึ้นมาไม่เห็นเพลงจะมันแบบนี้เลย” ตังเมกระซิบถามข้างหูพร้อมกับโยกกายไปมาตามจังหวะเพลง
“นั่นดิ พอนั่งปุ๊บเพลงมันปั๊บ”
“พี่เปลี่ยนดีเจดีไหม คอมเพลนจากลูกค้าไม่ดีเลย”
“พี่พายุ พวกหนูพูดเล่นค่ะ”
“พายุอย่าแกล้งน้องสิ”
“หึๆ” พายุยกยิ้มมุมปาก แววตาเรียบว่างเปล่าจนเสียวสันหลัง ก่อนจะหันมองรุ่นน้องแล้วพูดเสียงราบเรียบ “พี่ล้อเล่นครับ”
ตอนที่ 16 ฉันจะไม่ทนอึดอัด!อึดอัด!อึดอัดโว๊ย!รมย์รวินท์นั่งกระสับกระส่ายเมื่อความอึดอัดเพิ่มมากขึ้น จนเริ่มทนไม่ไหวจนต้องยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มดับอาการร้อนลุ่มในใจ“พี่เกมส์ขา”เสียงหวานที่ดังขึ้นเรียกความสนใจจนเธอต้องชำเลืองมองอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้รู้ว่าจะต้องเจ็บแต่ก็อดมองทั้งคู่ไม่ได้อยู่ดี“จี้คิดถึงพี่มากเลยนะ”“อือ”“พี่เกมส์ เย็นชากับจีจี้จังเลยนะ”“...” สิ่งที่จีจี้พูดไม่เคยซึมเข้ามาในหัวสมองของผมเลย เพราะจิตใจผมตอนนี้ห่วงแต่คนตัวเล็กฝั่งตรงข้ามที่กระดกเหล้าอย่างไม่กลัวเมา กลัวว่าเธอจะเมามากจนไปแผงฤทธิ์ใส่ผู้ชายคนอื่นเหมือนที่เคยทำกับผมยัยเด็กขี้เมานี่ขยันทำให้เป็นห่วงจริงๆ“พี่เกมส์ขา” จีจี้เอ่ยเรียกเสียงหวานพร้อมขยับกายเบียดแนบชิด ซบใบหน้าคลอเคลียอยู่กับอกกำยำแล้วยืดตัวไปหอมแก้มเขา แต่เจ้าตัวกลับนั่งนิ่งปล่อยให้จีจี้ทำได้ตามใจชอบรมย์รวินท์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ มือไม้สั่น จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้คนเรามีขีดความอดทนนะ และตอนนี้เธอก็
ตอนที่ 17 เกมความจริง“อย่าจีจี้” ผมพูดเสียงเข้มพร้อมกับเบือนหน้าหนีทันทีเมื่ออีกฝ่ายจะยืดตัวมาหอมแก้มอีกครั้ง“ทำไมคะพี่เกมส์” จีจี้ถามเสียงดัง เมื่อกี้ยังทำได้ แล้วทำไมตอนนี้เธอจะทำอีกไม่ได้“จีจี้! พี่บอกแล้วใช่ไหม ถ้าจะนั่งตรงนี้กับพี่ห้ามวุ่นวาย” กรภัคเอียงตัวหลบ เพราะก่อนหน้ามัวแต่มองยัยเด็กขี้เมาที่กำลังกระดกเหล้าหมดไปหลายแก้ว จนไม่ทันระวังตัวถูกจีจี้หอมที่แก้มทันทีแบบฉิวเฉียด“พี่ไม่ให้จูบ จีจี้ก็จะหอมไง”“อย่าพูดไม่รู้เรื่องได้ไหม”“จีจี้ก็ตามจีบพี่เกมส์มานานแล้ว เมื่อไหร่พี่จะใจอ่อนให้จีจี้บ้างล่ะคะ”“พี่เคยบอกไปแล้วนะว่าพี่ไม่ชอบเด็ก”“แล้วเด็กแบบจีจี้มันไม่ดีตรงไหน”“จีจี้ไม่ใช่สเปคพี่”“แหม่ พี่เกมส์ขา ของแบบนี้มันเปลี่ยนแปลงกันได้นะคะ ลองชิมดูก่อนไหมถ้าไม่ใช่ค่อยว่ากันอีกที” จีจี้ใช้ปลายนิ้วชี้ดันคางได้รูปขึ้น ก่อนจะยกยิ้มยั่วยวนแววตาเป็นประกาย“ไม่”“ใจร้าย”“จะมาว่าพี่ใจร้ายไม่ได้นะ ในเมื่อพี่ก็บอกกับจีจี้ตรงๆทุกอย่าง”“แหม่ ถ้าพี่ไม่มีใคร ก็เปิดใจให้กันหน่อยสิคะ บางทีเราสองคนอาจจะเข้ากันได้อย่างลงตัวก็ได้นะคะ”“เพ้อเจ้อ”“อ้าว แล้วนั่นพี่เกมส์จะไปไหนคะ”“อย่ามายุ่งกับ
ตอนที่ 18 ทบทวน“หนูพราวเริ่มเมาแล้ว กูกลับก่อนนะ แล้วน้องสองคนเอาไงจะให้พี่ไปส่งไหม” ธนัทเอ่ยขึ้นก่อนจะหันมองเพื่อนสนิทของพราวฟ้า“พวกหนูกลับไหวค่ะพี่ธันย์ สบายมากพี่พาพราวกลับก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวตังเมกับกอบัวก็จะกลับแล้ว”“โอเค งั้นขับรถกันดีๆนะ”คล้อยหลังธนัทไม่นานรมย์รวินท์ก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมดก่อนจะหันมาบอกกับเพื่อนสนิทอีกคนที่นั่งอยู่ “กลับกันเหอะ”“เห้ย กอบัวกลับเลยเหรอ” ตังเมฉุดแขนเรียวอีกครั้งแล้วกระซิบบอกเสียงเบา “อยู่ต่ออีกนิดนะ”“กลับเหอะ ขอร้อง” เพราะถ้านั่งนานกว่านี้น้ำตาที่กลั้นไว้ได้พังทลายไหลลงมาแน่นอน“แต่คนที่ฉันเล็งไว้ กำลังจะเดินเข้ามาอยู่แล้วนะ”รมย์รวินท์มองไปตามสายตาเพื่อนสนิทก็เห็นรุ่นพี่วิศวกรรม สาขายานยนต์ กลุ่มเพื่อนสนิทพายุเดินเข้ามา แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจแล้วว่าเพื่อนเล็งคนไหนไว้ เพราะตอนนี้เธออึดอัดจนจะเปิดตัวเองออกมาอยู่แล้ว“งั้นฉันกลับก่อน แกก็อยู่...”“ไม่ๆ” ตังเมเอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา “โอกาสเจอชายในฝันเมื่อไรก็ได้ เดี๋ยวฉันกลับพร้อมแกเลยดีกว่า” ตังเมรีบพูดตัดบท เมื่อเห็นแววตาที่ดูเศร้าๆของเพื่อนสนิท“กระซิบอะไรกันสองสาว” มุกตาภาเอ่ยถามเ
ตอนที่ 19 สองต่อสอง“หนีหน้าพี่ทำไม”ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงทุ้มดังอยู่ข้างหู ทำให้ฉันรีบหันกลับไปมองด้านหลังทันที จนใบหน้าเกือบชนกับหน้าอกกำยำ“พี่เกมส์”“ตอบคำถามพี่ก่อน” กรภัคก้าวเท้าขยับไปใกล้ก่อนจะยกมือทาบบนหลังคารถแล้วโน้มใบหน้าลงมาใกล้“ถอยไปเลยค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”“ตอบมาก่อน สองวันนี้หนีหน้าพี่ทำไม”“ไม่ได้หนีค่ะ”“แล้วโทรไปทำไมไม่รับ ทักไปก็ไม่ตอบคืออะไร”“ก็แค่...กอบัวไม่ว่าง”“แล้วเราไปนอนที่ไหน คอนโดก็ไม่ยอมกลับ”“ไปนอนที่คอนโดตังเมมาค่ะ”“โกรธพี่เรื่องจีจี้ใช่ไหม”“เปล่าค่ะ”“เอาความจริง”“กอบัวไม่ได้โกรธ แค่...”“แค่อะไร”“เปล่า ไม่มีอะไร” เพราะต่อให้พูดออกไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาท่องไว้ให้ขึ้นใจนะกอบัวกรภัคลูบผมนุ่มก่อนจะดึงเข้ามากอดไว้แนบอก “พี่ขอโทษที่พี่ไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่พี่สัญญากับเราไว้แล้ว แต่พี่พูดจริงๆนะว่าพี่กับจีจี้ไม่ได้เป็นอะไรกัน และพี่ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันแม้แต่ครั้งเดียว”“หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว ถ้าพี่จะคบกับใครก็แค่มาบอกกับหนูตรงๆ ไอ้เรื่องที่เคยตกลงกันไว้จะได้จบ”“อย่าพูดแบบนี้สิ”“ทำไมคะ
ตอนที่ 20 ปราบเด็กดื้อกรภัคเอี้ยวตัวไปปิดเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ก่อนจะหันกลับมากดจูบที่ริมฝีปากนุ่ม ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปาก แล้วดูดดึงอย่างแผ่วเบาสลับร้อนแรงยิ่งคนตัวเล็กกว่าแลกจูบตอบในขณะที่มือหนาลูบไล้ไปที่ท่อนขาสวยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเนินดอกไม้เรียบเนียน ปลายนิ้วก็เริ่มสอดเข้าไปยังใต้กางเกงตัวเล็ก ก่อนจะขยี้เกสรตรงกลางผ่านแพนตี้ตัวจิ๋ว“อื้ม พะ พี่เกมส์”เสียงหวานหวานหูทำให้ใบหน้าหล่อซุกไซ้ลำคอระหงพร้อมกับใช้นิ้วแหวกกลีบกุหลาบไปตามรอยแยกจนน้ำหวานสีใสฉ่ำเคลือบจนปลายนิ้วมันวาว“ตรงนี้ได้ไหม”“หนูเขิน”ร่างสูงไม่ทันได้ฟังคำตอบก็รั้งกางเกงขาสั้นพร้อมแพนตี้ลงมากองที่ปลายเท้าแล้ว ก่อนจะดันให้ร่างเล็กเอนตัวไปด้านหลัง พร้อมกับจับท่อนขาเรียวแยกออกจากกันเขากลืนน้ำลายลงคอ สายตาจับจ้องดอกไม้สีสวยที่กำลังผลิอ้า ฉ่ำวาว เนื้อนุ่มขมิบรัดราวกับเชิญชวนให้เขาลิ้มรสน้ำหวาน จนเขาอดทนต่อไม่ไหวจึงละเลงลิ้นเลียจนเด็กน้อยดิ้นพล่าน“พะ พี่ เกมส์ อ๊ะ อ่า”รมย์รวินท์หลับตาพริ้ม ลมหายใจสะดุดเมื่อถูกลิ้นร้อนลากเลียไปตามรอยแยกสลับกับอ้าปากงับเกสรสีชมพูตรงกลางแผ่วเบา แต่กลับทำให้ความปรารถนาที่มีพุ่งพล่
ตอนที่ 21 ขอร้อง จบทุกอย่างได้ไหม“ถ้าวันหนึ่งหนูรักพี่เกมส์ขึ้นมาล่ะคะ”“อย่ารักพี่เลย” กรภัคเอ่ยตอบทันทีพร้อมกับคลายอ้อมกอดแล้วลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะชะงักเมื่อถูกเธอรั้งแขนเอาไว้ ยิ่งสายตาเจ็บปวดที่มองมา ยิ่งทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเธอ“งั้นเราจบสถานะบ้าๆนี่เลยได้ไหมคะ”“ทำไมล่ะ แบบนี้มันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”รมย์รวินท์ส่ายหน้าไปมาก่อนจะกระพริบตาถี่ๆไล่หยดน้ำตาที่กำลังคลอดวงตาคู่สวยจนภาพตรงหน้าพร่าเบลอ “ไม่ดีเลย เพราะหัวใจของหนูมันรักพี่ไปแล้ว มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้วไงคะพี่เกมส์”“พี่...” เขาพูดไม่ออกได้แต่ถอนหายใจออกมาแผ่วเบาก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วดึงร่างบางมากอดไว้แนบอก “พี่ขอโทษนะ อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม”รมย์รวินท์ผละออกจากอ้อมกอดที่เคยอบอุ่นแต่บัดนี้กลับหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ ได้แต่จ้องมองใบหน้าเขานิ่งๆ ราวกับคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่เธอเคยรู้จัก “แล้วจะให้หนูทำไง ในเมื่อหนูรักพี่ไปแล้ว รักมากๆด้วย ได้ยินไหมคะว่าหนูรักพี่เกมส์”“อย่ารักพี่เลย”รมย์รวินท์เบือนหน้าหนีเมื่อน
ตอนที่ 22 ขอเวลาแสงแดดเช้าวันใหม่ลอดเข้ามาตามรอยแยกของผ้าม่านจนเธอต้องยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วขยับตัวหนี แต่กลับทำไม่ได้เมื่อถูกแขนกำยำพาดกอดอยู่ที่เอวจนขยับตัวไม่ได้“ตื่นแล้วหรอ”“ยังมั้งคะ”“กวนตีนแต่เช้า”“ปล่อยหนูได้แล้ว หนูจะกลับคอนโด”“ไม่ไปมหาลัยด้วยกันหรอ มีเรียนกี่โมง”“บ่ายค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”“กอบัว”“คะ”“เรื่องเมื่อคืน...”“ให้มันจบเถอะค่ะพี่เกมส์ ถ้าพี่สงสารหนูหลังจากนี้เราอย่ามาเจอกันเลย เวลาเจอกันที่สาธารณะก็ทำเหมือนเดิม อันนี้คงไม่ยากหรอกมั้งคะ เพราะปกติเราก็ทำแบบนั้นอยู่แล้ว” เธออดพูดเหน็บเขาไม่ได้ ก่อนจะจับแขนเขาออกแล้วลุกขึ้นนั่ง“วิวดีมาก”“ไอ้พี่เกมส์ หันไปเดี๋ยวนี้ อย่างมอง!!”เพราะไม่ทันระวังและลืมตัวว่าไม่ได้ใส่อะไรนอน พอเธอลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มจึงร่วงจากตัวจนไอ้ชีกอที่นอนอยู่มองเธอจนตาพราว“ไอ้บ้า”“ก็คิดว่าอยากให้ดู” กรภัคพูดเสียงขำก่อนจะรั้งเธอเข้ามานอนกอดอีกครั้ง“ที่บอกว่าให้จบพูดเล่นใช่ไหม”
ตอนที่ 23 ไม่กล้ารัก “กอบัว”“กินข้าวเสร็จแล้วหรอ”“อือ” ตังเมพยักหน้ารับก่อนจะมองไปที่ร่างสูง“พี่ปราณคะนี่เพื่อนกอบัวชื่อตังเม กับพราวฟ้า พวกแกนี่พี่ปราณ แพทย์ปีสี่”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” พราวฟ้ายิ้มแหยๆพร้อมกับพยักหน้ารับไมตรีจากอีกฝ่าย“งั้นพี่กลับตึกก่อนนะ”“ค่ะ”คล้อยหลังจากร่างสูงที่เดินออกไป สองเพื่อนสนิทรีบทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ เท้าแขนกับโต๊ะแล้วจ้องรอคอยคำตอบ“อะไรของพวกแกเนี่ย”“สรุปกับพี่หมอปราณนี่ยังไง”“เขาแค่มานั่งคุยเป็นเพื่อนเฉยๆ”“แค่นั้น?” ตังเมเลิกคิ้วขึ้นเชิงถาม“ฉันเดินชนพี่เขาจนกาแฟพี่เขาตก ฉันก็เลยเลี้ยงกาแฟคืน”“แค่นั้นจริงๆ” พราวฟ้าหรี่ตามองอย่างจับผิด“เออ แค่นั้น”“คิดว่าพี่เขามาจีบซะอีก”“ไม่ได้จีบ พี่เขาก็หาเรื่องอะไรมาเล่าให้ฟังระหว่างรอพวกแกนั่นแหละ”“แล้วชอบไหม”
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้
ตอนที่ 37 ทะเลเดือด“เดี๋ยวเราไปเที่ยวที่นี่กันก่อนนะคะ ไปหาข้าวเที่ยงกินที่นี่ด้วย”“ตามใจไกด์เลยครับ” กรภัคบอกเสียงอ่อนโยนพร้อมกับกุมมือนุ่มไว้ตลอดทางจนกระทั่งถึงที่หมาย“เดี๋ยวหนูพาพี่เที่ยวที่โซนนี้ก่อนนะเวลามีน้อย คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะพาเที่ยวให้ครบแปดโซนเลยค่ะ”“โอเคครับ”“งั้นไปกันค่ะ”รมย์รวินท์เช่าจักรยานสมาสองคัน เธอกับเขาปั่นเลียบไปตามริมน้ำชมอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลที่ตั้งเด่นสง่า ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ที่มียอดแหลมตรงปลายโบสถ์ทั้งสองข้าง ภายในงดงามด้วยการประดับกระจกสี“สวยมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะ”“เป็นแลนมาร์คของจังหวัดเลยค่ะ ป่ะนี่ก็ใกล้เที่ยวแล้วเดี๋ยวหนูพาไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงกับเส้นจันท์ผัดปูนิ่มที่ร้านริมน้ำบอกเลยว่าอร่อยมาก เอ๊ะหรือส้มตำทุเรียนดี”“โอ้โห่ ทุเรียนพี่ว่าพอก่อนดีกว่า เมื่อเช้าแม่เราก็จัดให้พี่เต็มที่เลย แล้วเรายังแกล้งพี่ไว้แสบมากอีกนะ”“ก็เลือกที่จะไม่กินก็ได้นี่คะ เหมือนที่พี่ไม่ไปช่วยงานแม่พี่ที่ตลาดช่วงหน้าทุเรียนไงคะ
ตอนที่ 36 ดูดาวกันนะ หลังจากที่ทานข้าวอิ่มเรียบร้อยกอหญ้าก็ขอตัวไปนอนเพราะต้องลงสวนแต่เช้า กรภัคจึงรีบเดินไปรั้งเอวบางที่กำลังจะเดินเข้าห้องมากอดไว้แนบอก“พี่เกมส์ทำอะไรคะเนี่ย ปล่อยเลย”“พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะ”“ก็บอกดีๆสิคะ มากอดทำไม เดี๋ยวแม่มาเห็นเข้า”“พี่กลัวเราหนีพี่อีก” กรภัคพาร่างบางเดินมานั่งหน้าบ้านที่มุมนั่งเล่นตรงระเบียงซึ่งมีศาลาขนาดเล็กตัวไม้ระแนงมีผู้ผ้าพริ้วสีขาวตามเสาบ้าน รอบๆปลูกไม้ประดับจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว“มีอะไรก็พูดมาสิคะ”“มานอนดูดาวกันนะ”รมย์รวินท์นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆแต่กลับถูกเขาดึงไปนั่งบนตักสองแขนกำยำกอดรอบเอวบางแล้ววางคางเกยบนไหล่เล็ก“พี่คิดถึงเรามากเลยนะรู้ไหม”“....”เมื่อเธอไม่ตอบแต่การที่เธอเอียงศีรษะซบอกก็ทำให้ผมยิ้มออกมา ซึ่งยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่เปรี่ยมไปด้วยความสุข“พี่รักเรานะ ขอโทษที่พี่ไม่ได้ดีพอจนสุดท้ายทำให้เราต้องเสียใจ
ตอนที่ 35 คนเดียวสักพัก“เฮ้อ” รมย์รวินท์ถอนหายใจเฮือก ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านก่อนจะพูดคุยกับผู้เป็นแม่ ถ้าเจออะไรอย่าตกใจ อย่าใช้อารมณ์ อย่าใช้สมองให้ใช้หัวใจตัดสิน ที่แม่พูดมาทั้งหมดคงหมายถึงเขาสินะครืด ครืด ครืด“โทรมาได้จังหวะพอดีเลย” รมย์รวินท์รีบรับสายเมื่อเห็นชื่อเพื่อนสนิทโทรเข้ามา “กำลังจะโทรหาพอดีตังเม”“แกเจอพี่เกมส์แล้วใช่ไหม”“เจอแล้ว แกรู้อยู่แล้วหรอว่าเขามาที่นี่”“อือ”“แล้วแกไม่บอกฉันก่อน”“แหม่ๆ ทำอย่างกับรับสายงั้นแหละ ฉันกับพราวโทรหาแกจนสายเกือบไหม้แล้วมั้ง ข้อความที่ส่งไปเปิดอ่านบ้างหรือเปล่าเถอะ”“โทษทีจะเพื่อนรัก แต่หยุดบ่นก่อน ช่วยคิดหน่อย”“จะให้ช่วยคิดยังไง เรื่องนี้แกต้องตัดสินใจเอง หัวใจแก แกก็น่าจะรู้ดีที่สุดแล้วนะกอบัว มาถามฉันก็จะช่วยอะไรได้นอกจากโทรมาฟังแกระบาย”“เรื่องจริงใช่ไหม”“อือ วันนั้นฉันก็อยู่กับพวกพี่เขา พี่ชินเขาก็อยู่ด้วยนะ เขาเล่าและยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ”“แต่ตอนที่ฉันขึ้นไปฉันก็ไม่เห็นแม้แ