ตอนที่ 8 พิษไข้
ร่างบางเดินขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอเขาอาบน้ำ จนกระทั่งเขาเดินออกมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทำให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวยมีหยดน้ำเกาะพราวตามผิวขาวเนียน ปลายยอดยังเป็นสีชมพูสวย จนเผลอมองอยู่นาน
“หิวพี่เหรอ”
“พูดจาบ้าๆ”
“ก็เห็นมองตามตาเป็นประกายเชียว”
“ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาล่ะคะ”
“พี่ลืมเอาชุดเข้าไปน่ะ”
กรภัคเอ่ยบอกก่อนจะหยิบกางเกงนอนเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเดินขึ้นมานอนบนเตียงกว้าง
“พี่เกมส์ไม่กลับไปนอนที่ห้องล่ะคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”
“พี่เป็นห่วง”
“ไว้ใจได้ป่ะเนี่ย”
“คำถามนี้พี่น่าจะถามเรามากกว่ามั้ง” กรภัคว่าเสียงขำจนร่างบางเบ้ปากกลอกตามองบนใส่ ผมจึงยื่นมือไปหยิกแก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว
“พี่เกมส์ เจ็บนะ”
“หมั่นเขี้ยว นอนได้แล้ว พี่ไม่ทำอะไรหรอก” ผมล้มตัวนอนแล้วรั้งเอวบางเข้ามากอด “ทำไมต้องนอนตัวแข็ง”
“ก็ปกติกอบัวนอนคนเดียว แบบนี้มันไม่ชิน”
“พี่จะมานอนด้วยบ่อยๆจะได้ชิน จะได้ทำความรู้จักกับเราให้มากขึ้นด้วย”
“ลืมไปหรือเปล่าคะว่าเราเป็นอะไรกัน”
“ของเล่นชิ้นโปรดมั้ง”
คำตอบของเขาทำเธอสะอึกเล็กน้อย นั่นสินะเธอเป็นคนยอมรับสถานะนี้เองตั้งแต่แรก มาเสียใจตอนนี้คงไม่ทันแล้ว จะถอยกลับก็คงไม่ได้แล้วมีแต่ต้องเดินหน้าให้สุด
“ระวังให้ดีนะคะ” รมย์รวินท์เอ่ยขึ้นลอย ๆ จนคนที่อยากรู้อดถามขึ้นมาไม่ได้
“ระวังอะไร”
“จะติดใจของเล่นเอา”
“ไม่มีทาง เพราะพี่ไม่ชอบเล่นของเล่นนานๆ”
“แต่ดูๆแล้วพี่เป็นคนชอบพูดอย่าง ทำอย่างนะคะ”
“ยังไง” ผมเท้าแขนขึ้นมองคนตัวเล็กกว่าที่หันมามองแล้วยังยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมอีก
“บอกไม่ชอบเล่นนานๆ แต่ไม่ทันข้ามวันก็มานอนกอดของเล่นเสียแล้ว”
“พูดมาก นอนได้แล้ว”
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไม่นานเธอก็หลับไปด้วยฤทธิ์ยา ผมจึงเท้าแขนมองใบหน้าสวย พลางยกมือขึ้นลูบแก้มนุ่มอย่างหลงใหล นั่นสินะ ทำไมผมถึงยื่นข้อเสนอบ้าๆนั่นให้กับเธอ ทั้งที่ไม่เคยทำแบบนี้กับใคร
“อื้อ” มือเล็กปัดป่ายไปมาเมื่อรู้สึกรำคาญที่ถูกก่อกวนเวลานอนหลับ ก่อนจะพลิกตัวหันกลับมานอนกอดแล้วซุกหน้าอยู่กับอกกำยำ
“ยัยเด็กนี่ชอบอ่อยจริงๆ”
ผมกดจูบที่หน้าผากได้รูปพร้อมทิ้งตัวลงนอนพลางกระชับอ้อมกอด แล้วนอนหลับตามเธอไปติดๆ
“นะ หนาว”
เสียงหวานครางแผ่ว ไหล่เล็กสั่นสะท้านพร้อมกับเบียดตัวซุกอกกำยำเพื่อหาไออุ่น
ผมปรือตาขึ้นมองด้วยอาการงัวเงียก่อนจะดึงร่างเล็กเข้ามากอด แต่ไอร้อนจากร่างกายของเธอทำผมตื่นจนเต็มตา พอเปิดไฟหัวเตียงก็เห็นแก้มนวลแดงระเรื่อด้วยพิษไข้
“กอบัว ตื่นก่อน มากินยาก่อน”
“หนูหนาว” เสียงหวานสั่นสะท้านซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่โดยไม่ยอมลืมตา
กรภัคที่เห็นท่าไม่ดีจึงไปหยิบยาลดไข้พร้อมกับน้ำสะอาด แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
“กอบัว กอบัว”
“...”
“กอบัว”
“...” ไม่ว่าพยายามเรียกเท่าไรร่างเล็กก็ยังคงนอนหลับสนิทผมจึงก้มลงไปหอมแก้มนวลแล้วเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“กอบัว กอบัวๆ”
“หืม”
“ลุกขึ้นมากินยาก่อนนะ เราตัวร้อนมากเลย”
“อื้อ”
รมย์รวินท์ปรือตาขึ้นมองก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งโดยที่มีเขาช่วยประคอง เธอรับยาลดไข้ใส่ปากตามด้วยน้ำเกือบครึ่งขวด
“เก่งมาก นอนต่อได้แล้ว”
กรภัคนั่งพิงหัวเตียงพลางลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างเบามือแล้วคอยวัดไข้ตลอดด้วยความเป็นห่วง โชคดีที่วันนี้ผมตัดสินใจมานอนด้วย ถ้าไข้ขึ้นตอนดึกแล้วอยู่คนเดียวคงได้ไปฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาลแน่นอน
“ทำไมไข้ไม่ลดเลยวะ” ผมเปรยขึ้นเสียงเบาลังเลว่าจะพาเธอไปโรงพยาบาลดีไหม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเสิร์จข้อมูลหาวิธีดูแลคนป่วย
“เช็ดตัวลดไข้งั้นเหรอ”
ผมรีบลุกขึ้นจากเตียงเตรียมน้ำสะอาดใส่กะละมังใบเล็กพร้อมผ้าขนหนูสะอาด เดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งจัดการรูดซิปเสื้อแขนยาวลงมาแล้วเบือนหน้าหนี พร้อมรั้งเสื้อแขนยาวออกจากร่างบางแล้วดึงผ้าห่มปิดไว้ ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูไปชุบ แล้วบิดหมาด ๆ ก่อนจะนำมาเช็ดตัวให้กับร่างบางเช็ดย้อนไปตามแนวขนเพื่อเปิดรูขุมขนให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น
“หนาว พี่เกมส์ กอบัวหนาว”
“อยู่นิ่งๆ”
“อื้อ หนูหนาว” เสียงหวานแหบแห้งเอ่ยบอกพร้อมกับปัดหน้าออกจากใบหน้า
“ทนหน่อยสิ อย่าดื้อ” แม้เสียงที่เอ่ยบอกจะฟังดูดุแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง
“พี่เกมส์ขา”
“อย่าดื้อได้ไหม” ผมบอกเสียงเข้มจนร่างเล็กยอมเชื่อฟัง จึงค่อยๆเช็ดไปตามใบหน้าสวย ต่ำลงมาที่ลำคอที่ยังมีลอยจูบติดอยู่ตามเนินอกอวบอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสอดผ้าเข้าไปเช็ดตามหน้าท้องแบนราบ ตามด้วยที่แขนเรียวซ้ำไปซ้ำมาจนอุณหภูมิลดลง
“เฮ้อ”
ผมไม่รู้ว่าเผลอกลั้นหายใจนานเท่าไรกับการเช็ดตัวให้เธอ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบเสื้อยืดตัวใหญ่มาสวมให้แล้วกลับมานอนกอดร่างบางแสนนุ่มนิ่มเอาไว้
“ไอ้ยักษ์ นอนได้แล้ว จะตื่นมาฉกยัยเด็กขี้เมาตอนป่วยไม่ได้”
ผมกดเจ้ายักษ์ที่ชอบตื่นเวลานี้ให้นอนลงแล้วท่องยุบหนอ พองหนอในใจหวังให้จิตใจสงบลง แต่ดูเหมือนมันจะเชื่อฟังแต่คำหลังจนพองขยายจนปวดไปทั้งแก่นกาย
“พี่เกมส์ขา” รมย์รวินท์ที่นอนหลับสนิทเผลอละเมอออกมาด้วยพิษไข้แล้วยังวาดแขนกอดเอวหนา หนุนหัวบนลาดไหล่ราวกับลูกแมวน้อยขี้อ้อนจนเจ้ายักษ์ที่ไม่ยอมเชื่อฟังชูคอขึ้นมาอีกครั้ง แล้วมันก็ดื้อจนกดหัวแทบไม่ลง
“พี่เกมส์”
“นอนได้แล้ว พักผ่อนเยอะๆ จะได้หายไวๆ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกอย่างอ่อนโยนจนร่างเล็กยอมสงบแล้วหลับสนิทอีกครั้ง
“เฮ้อ เอาไงดีวะกู ไม่เคยทรมานอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”
ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมออกจากใบหน้าสวยแล้วโน้มตัวลงหอมที่แก้มนุ่ม กว่าจะข่มตาให้หลับก็ปาเข้าไปเกือบเช้ามืด แล้วยังต้องตื่นเพราะนาฬิกาปลุกอีก ผมจึงรีบเอื้อมมือไปกดปิดแล้วกอดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้อีกครั้ง
“อื้อ”
รมย์รวินท์ขยับตัวไปมาเพราะได้พักผ่อนเต็มที่ อาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ปวดหัวเหมือนจะไม่สบายก็หายเป็นปลิดทิ้งราวกับได้ยาดี ก่อนจะปรือตาสู้แสงแดดในช่วงสายก็เจอกับใบหน้าหล่อที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ
ดวงตาคู่สวยพิศมองใบหน้าหล่อที่กำลังหลับสนิท คิ้วเข้มได้รูป รับกับจมูกโด่ง ก่อนจะยกนิ้วแตะที่ริมฝีปากหนาอมชมพูที่เคยจูบบางครั้งก็เร้าร้อนจนแทบละลายคาอก บางทีก็อ่อนหวานจนเธอหลงมัวเมาไปกับสัมผัส
“ซนแบบนี้ หายไข้แล้วหรือไง”
“พี่เกมส์” ฉันอุทานเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆคนที่กำลังหลับสนิทลืมตาขึ้นมอง
“ต่อได้นะ เพราะมันกำลังตื่นได้ที่เลย”
รมย์รวินท์มองตามสายตาเขาก็เจอกับเจ้ายักษ์ตัวใหญ่ดันเนื้อผ้าออกมา
“ลามก”
“มันก็ตื่นของมันทุกเช้า เรานั่นแหละที่ลามกมองมันจนตาหวานฉ่ำเชียว”
“บ้าบอ ไปอาบน้ำดีกว่า แต่เอ๊ะ...” รมย์รวินท์ชะงักกึกเมื่อเห็นเสื้อคลุมแขนยาวร่วงที่พื้น แล้วบนตัวก็เป็นเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่แต่ผ้าก็บางมากจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้วมั้ง
“พี่เปลี่ยนให้เอง เมื่อคืนเราตัวร้อนมาก พี่เลยเช็ดตัวให้”
พอเห็นกะละมังพร้อมกับผ้าผืนเล็กวางไว้ด้านข้าง เธอจึงไม่พูดอะไรต่อแล้วลุกขึ้นไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ออกมาก็ไม่เจอเขาแล้ว เธอจึงเดินออกมาข้างนอกถึงกับฉีกยิ้มกว้างเกือบหลุดขำเมื่อเห็นร่างสูงในชุดผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนน่ารักสีเหลืองสดใสอยู่บนร่างกำยำ
“พี่ทำข้าวต้มหมูไว้ให้ นั่งก่อนสิ” กรภัคเอ่ยบอกเมื่อเห็นร่างเล็กเดินออกมา ชุดที่เธอใส่ผมถึงกับกุมขมับ
“กลัวพี่ขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ไม่ได้กลัว แต่ไม่ไว้ใจค่ะ” รมย์รวินท์ในชุดเสื้อกันหนาวตัวใหญ่กับกางเกงขายาวแบรนด์เดียวกันเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะกินข้าว
“อยู่กับผู้ชาย เขาต้องใส่ชุดยั่วๆ ไม่ใช่เหรอ”
“แต่ไม่ใช่กับพี่แน่นอน”
“เราตกลงกันแล้วนี่” ผมว่าขึ้นเสียงแผ่วพร้อมกับวางถ้วยข้าวต้มที่หน้าตาน่ากินมากกว่าครั้งก่อนลงตรงหน้าแล้วเท้าแขนกับโต๊ะพร้อมโน้มตัวลงมาใกล้
“แต่นี่มันสไตล์การแต่งตัวของหนู”
“เหรอ ตอนที่พี่ไปหาเสื้อให้เราชุดอยู่บ้านไม่ใช่แบบนี้นะ”
“ไม่รู้ไม่ชี้” ฉันลอยหน้าลอยตาตอบก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อถูกเขาขโมยหอมแก้ม
ฟอด!
“พี่เกมส์”
“ทำโทษเด็กดื้อ” กรภัคว่ายิ้มๆก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนแล้วมานั่งกินข้าวพร้อมกับคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งอ้าปากค้าง
“ยังไม่หายตกใจอีก มันน่าจับจูบไหมเนี่ย”
“ไอ้พี่เกมส์ ไอ้คนบ้า”
“กินข้าว จะได้กินยา ดื้อมากๆจะโดนทั้งที่เป็นไข้นี่แหละ”
“ค่ะดุจริงๆ เป็นคนหรือเป็นร็อตไวเลอร์คะเนี่ย”
“ลองไหมล่ะพี่จะทำให้รู้ว่าร็อตไวเลอร์เขาเป็นกันแบบไหน”
“พี่เกมส์ แต่ละคำที่พูดมากคิดดีไม่ได้เลย”
“ตอนที่พี่พูด พี่ก็ไม่ได้คิดดีนะ”
“โอ๊ย ไม่คุยด้วยแล้ว”
ตอนที่ 9 เวลาของเรา เมื่อจัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยฉันก็รับยาลดไข้จากเขามาใส่ปากแล้วตามด้วยน้ำเปล่า “อื้อ พี่เกมส์จะทำอะไร” เสียงหวานร้องท้วงเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ “พี่ขอวัดไข้หน่อย” กรภัคยกมือขึ้นทาบหน้าผากพอเห็นว่าอุณหภูมิปกติก็ค่อยเบาใจ “หายดีแล้ว”“ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนู”“พี่ขอโทษนะที่รุนแรงไปหน่อย”“ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ” รมย์รวินท์พูดเสียงแผ่วก้มหน้างุดหลบสายตาคมที่มองมาราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำน้อยๆ “แล้วนี่เราจะไปไหนไหม พี่จะพาไป”“ปกติวันหยุดหนูจะไปซื้อของใส่ตู้เย็น”
ตอนที่ 10 บรรยากาศพาไป “เป็นอะไรหรือเปล่าตั้งแต่ออกจากห้าง พี่เห็นเรานั่งเงียบมาตลอดทางเลย”“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร”“ไข้ขึ้นหรือเปล่า” กรภัคยกฝ่ามือทาบหน้าผากได้รูปแต่คนตัวเล็กกลับเบี่ยงตัวหนี“ไม่ค่ะ สบายดี”“แล้วทำไมหน้าดูซึมๆ แบบนี้ล่ะ”“เอ่อ...หนูคอแห้งเฉยๆ กินเบียร์กันไหมคะพี่เกมส์”“ยัยเด็กขี้เมา” กรภัคว่าขึ้น เขาก็อุตส่าห์เป็นห่วงที่ไหนได้ร่างกายต้องการแอลกอฮอล์นี่เอง“สรุปกินไหมคะ”“พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“มีค่ะแต่แค่กระป๋องเดียว ไม่เมาหรอก”“โอเค”ผมหยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมาสองกระป๋องก่อนจะเดินมาหาร่างบางที่นั่งอยู่ริมระเบียงที่ไม่ได้กว้างมาก มีเพียงเก้าอี้ในสวนและรอบๆยังปลูกดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงาม“อื้อ รับไ
ตอนที่ 11 แค่คนรู้จักเช้าวันต่อมารถเบนซ์ c-class สีขาวแล่นเข้ามาในรั้วมหาลัยตามกฎหมายกำหนดก่อนจะจอดสนิทที่ลานจอดรถตึกคณะวิศวกรรมที่ค่อนข้างโล่งครืด ครืด ครืดขณะที่มือบางเก็บหนังสือและไอแพดใส่กระเป๋าผ้าแบรนด์ดัง แต่ยังไม่ทันไรโทรศัพท์ในมือก็สั่นสะท้านเมื่อมีสายเรียกเข้า“เออว่าไงพราว”“อยู่ไหน”“กำลังจอดรถ”“อยู่โรงอาหารนะกับตังเม”“โอเคๆ เดี๋ยวตามไป”เท้าเรียวบนรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวเดินตรงไปยังโรงอาหารพร้อมกับชะเง้อคอมองหา จนเจอสองสาวที่นั่งกินข้าวอยู่โต๊ะริมกระจก“กว่าจะมาได้”“เออ รถติด ตื่นสายด้วยนิดหน่อย”พราวฟ้าที่กำลังเคี้ยวข้าวชะเง้อคอมองตามเพื่อนสนิทอย่างรมย์รวินท์ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “แล้วแกมองหาอะไร”“เปล่า”“พักหลังๆนี่พิรุธเยอะนะแก หรือว่าแกไปแอบปิ๊งหนุ่มที่ไหนมา”“พูดไปเรื่อยอ่าตังเม”“เอ้า ก็ท่าทีแกแปลกๆ”“แค่สงสัยว่าพี่ธันย์บอดี้การ์ดส่วนตัวพ่วงตำแหน่ง
ตอนที่ 12 กับดักร่างบางในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก้าวเดินไปตามมุมตึก ลัดเลาะไปตามทางแคบๆ สลับมองหลังเป็นระยะๆ ด้วยบรรยากาศเงียบเหงาวังเวงในช่วงห้าโมงเย็นยิ่งทำให้ดูหน้ากลัว เธอจึงรีบเดินให้เร็วขึ้นจนกระทั่งเดินมาถึงลานจอดรถ“แอบหนีใครมาเหรอ” กรภัคที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพิงรถอาวดี้เอ่ยถามเสียงขำ“อุ๊ย! พี่เกมส์ตกใจหมด”“ทำลับๆล่อๆ หนีอะไรมา”“เปล่า”“กำลังหนีหน้าพี่ใช่ไหม” กรภัคพูดขึ้นอย่างรู้ทัน“ไม่ได้หนี” เธอแอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านหน้าเขาไปที่รถตัวเอง“เดี๋ยว” ฝ่ามือหนายื่นมาดึงข้อมือเล็กเอาไว้ “วันนี้โกรธพี่หรือเปล่า”“โกรธทำไมล่ะคะ มันคือข้อตกลงของเราสองคนไม่ใช่เหรอ ห้ามรัก ห้ามเปิดเผย ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ทุกอย่างมันเริ่มต้นแบบลับๆ ก็ต้องจบแบบลับๆสิคะ”“ประชดเหรอ”“เปล่าค่ะหนูพูดความจริง แล้วอีกอย่างก็เป็นไปตามที่เราตกลงกันไว้ ถ้าพี่มีคนอื่นหนูค่อยโกรธดีกว่าไหม”“งั้นกลับกับพี่”“แต่หนูเอารถมา”“ทิ้งไว้นี่แหล
ตอนที่ 13 เพราะฝนทำให้คนเหงา@คอนโดร่างบางก้มๆเงยข้างเตียงก่อนจะรื้อหาใต้พรม แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอสร้อยข้อมือเจ้าปัญหา แต่พอจะกลับเข้าไปหาในห้องน้ำอีกครั้งก็ต้องชะงักหันมาหาเข้าของห้องที่ยืนกอดอกพิงประตูอยู่“หาเจอไหม”“ไม่เจอค่ะ” รมย์รวินท์ส่ายหน้าไปมาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ตามหาจนทั่วทุกที่ซ้ำสองรอบก็ยังหาไม่เจอ“มากินข้าวก่อนพี่จัดโต๊ะเสร็จแล้ว พอกินเสร็จเดี๋ยวพี่จะช่วยหาอีกที”“ขอหาในห้องน้ำอีกรอบก่อนได้ไหมคะ”“ไม่ได้”“เห้อ” เธอถอนหายใจด้วยความหนักใจก่อนจะเดินตามร่างสูงที่เดินเข้ามากุมมือพาเดินออกมาที่โต๊ะกินข้าว ที่แปลกตาไปกว่าทุกครั้งเพราะมีอาหารจากโรงแรมชื่อดัง พร้อมกุหลาบช่อใหญ่วางไว้บนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฟุ้งผสมผสานไปกับกลิ่นเทียนหอมที่ประดับตามมุมต่างๆ“ต้องขนาดนี้เลยเหรอคะ”“ตอนที่เราหาสร้อยอยู่พี่สั่งอาหารมาไว้ให้ ส่วนอันนี้พี่ก็สั่งเพิ่มมาให้ เห็นเราดูเครียดๆ”“ขอบคุณนะคะ”รมย์รวินท์นั่งลงบนเก้าอี้ที่เขาขย
ตอนที่ 14 กอดแก้หนาวกรภัคลุกขึ้นถอดกางเกงออกจากตัวแล้วนอนแทรกกลางขาเรียวแล้วแหวกท่อนขาเรียวออกกว้างเป็นรูปตัวเอ็ม มองเนินดอกไม้เรียบเนียนตาเป็นประกายราวกับเสือร้ายเจอเหยื่อที่แสนถูกใจ ก่อนจูบเบาๆพร้อมใช้นิ้วบดคลึงเกสรสีชมพูตรงกลางจนน้ำหวานไหลซึม“ซี๊ด พี่เกมส์ขา”รมย์รวินท์หวีดร้องครางเสียงหลง หน้าท้องแบนราบกระตุกเกร็งเมื่อถูกลิ้นร้อนแตะลงกลางกลีบดอกไม้แล้วลากลิ้นไปตามรอยแยกช้าๆ พลางปัดป่ายไปทั่วดอกไม้จนสะโพกกลมกลึงลอยขึ้นเขาทั้งดูดและขบเม้มเกสรตรงกลางอย่างมูมมามและสอดลิ้นเข้าไปในเนื้อนุ่ม น้ำหวานสีใสก็ยิ่งไหลเยิ้มออกมาไม่หยุด เขายิ่งตักตวงความหอมหวานอย่างกระหาย“พะ พี่เกมส์ขา พะ พอก่อน หนูไม่ไหวแล้ว”“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำในลำคอบอกให้เขาหยุดแต่เด็กน้อยของเขากลับกดหัวไว้แน่นพลางเด้งเอวขึ้นใส่ไม่หยุด เขาก็ยิ่งดูดน้ำหวานราวกับแมลงดูดน้ำหวานจากเกสร“ไม่ไหวแล้วพี่เกมส์ อ๊ะๆ อือ”เนื้อนิ่มบีบรัดแน่นเมื่อร่างเล็กใกล้ถึงจุดสุขสมผมจึงสอดนิ้วเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่มทีเดียวสองนิ้วขยับเข้าออกแล้วดูดเกสรด้วยความหิวกระหายจนร่างบางกระตุกเกร็งแฮกๆเสียงหอบหายใจดังแผ่ว ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อนัยน์ตาค
ตอนที่ 15 ปิดบัง“โอ๊ย หัวจะปวด” ตังเมโอดครวญเสียงดังหลังจากที่อาจารย์และเพื่อนๆออกไปจากห้องเมื่อวิชาสุดท้ายของวันนี้จบลง ก่อนจะเท้าคางนั่งมองเพื่อนสนิทที่ฟุบอยู่กับโต๊ะตาปริบๆ“กอบัว”“....”“ตังเมแกว่ากอบัวมันไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา หลับทั้งคาบเช้า คาบบ่ายเลย”“นั่นดิพราว น่าสงสัยมากทั้งที่มันตั้งใจเรียนที่สุดในห้อง” ตังเมเปรยขึ้นพร้อมกับเขย่าไหล่เล็ก แต่อีกฝ่ายก็ยังคงนอนนิ่งเหมือนเดิม“กอบัว” พราวฟ้ายื่นมือไปสะกิดแผ่นหลังของเพื่อนที่ฟุบหลับอยู่“อื้อ” รมย์รวินท์ที่ฟุบหน้าหลับอยู่กับโต๊ะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก็เจอเข้ากับสายตาของสองสาวจ้องเขม็ง “ว่าไง”“เลิกคลาสแล้วจ้า”“อ้าวเหรอ”“ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา”“เอ่อ...” รมย์รวินท์อึกอักเล็กน้อยจะให้บอกสาเหตุจริงๆก็กลัวเพื่อนจะตกใจเสียก่อน“ดูซีรี่ย์สินะ”“อือ” ฉันรีบพยักหน้ารับคำของพราวฟ้าแล้วยิ้มแหยๆให้ ก่อนจะรีบเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อหลบสายตาที่จ้องจับผิด“ปกติแกไม่เคยดูซีรี่ย์จนเป็นแบบนี้นะ”
ตอนที่ 16 ฉันจะไม่ทนอึดอัด!อึดอัด!อึดอัดโว๊ย!รมย์รวินท์นั่งกระสับกระส่ายเมื่อความอึดอัดเพิ่มมากขึ้น จนเริ่มทนไม่ไหวจนต้องยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มดับอาการร้อนลุ่มในใจ“พี่เกมส์ขา”เสียงหวานที่ดังขึ้นเรียกความสนใจจนเธอต้องชำเลืองมองอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้รู้ว่าจะต้องเจ็บแต่ก็อดมองทั้งคู่ไม่ได้อยู่ดี“จี้คิดถึงพี่มากเลยนะ”“อือ”“พี่เกมส์ เย็นชากับจีจี้จังเลยนะ”“...” สิ่งที่จีจี้พูดไม่เคยซึมเข้ามาในหัวสมองของผมเลย เพราะจิตใจผมตอนนี้ห่วงแต่คนตัวเล็กฝั่งตรงข้ามที่กระดกเหล้าอย่างไม่กลัวเมา กลัวว่าเธอจะเมามากจนไปแผงฤทธิ์ใส่ผู้ชายคนอื่นเหมือนที่เคยทำกับผมยัยเด็กขี้เมานี่ขยันทำให้เป็นห่วงจริงๆ“พี่เกมส์ขา” จีจี้เอ่ยเรียกเสียงหวานพร้อมขยับกายเบียดแนบชิด ซบใบหน้าคลอเคลียอยู่กับอกกำยำแล้วยืดตัวไปหอมแก้มเขา แต่เจ้าตัวกลับนั่งนิ่งปล่อยให้จีจี้ทำได้ตามใจชอบรมย์รวินท์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ มือไม้สั่น จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้คนเรามีขีดความอดทนนะ และตอนนี้เธอก็
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้
ตอนที่ 37 ทะเลเดือด“เดี๋ยวเราไปเที่ยวที่นี่กันก่อนนะคะ ไปหาข้าวเที่ยงกินที่นี่ด้วย”“ตามใจไกด์เลยครับ” กรภัคบอกเสียงอ่อนโยนพร้อมกับกุมมือนุ่มไว้ตลอดทางจนกระทั่งถึงที่หมาย“เดี๋ยวหนูพาพี่เที่ยวที่โซนนี้ก่อนนะเวลามีน้อย คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะพาเที่ยวให้ครบแปดโซนเลยค่ะ”“โอเคครับ”“งั้นไปกันค่ะ”รมย์รวินท์เช่าจักรยานสมาสองคัน เธอกับเขาปั่นเลียบไปตามริมน้ำชมอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลที่ตั้งเด่นสง่า ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ที่มียอดแหลมตรงปลายโบสถ์ทั้งสองข้าง ภายในงดงามด้วยการประดับกระจกสี“สวยมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะ”“เป็นแลนมาร์คของจังหวัดเลยค่ะ ป่ะนี่ก็ใกล้เที่ยวแล้วเดี๋ยวหนูพาไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงกับเส้นจันท์ผัดปูนิ่มที่ร้านริมน้ำบอกเลยว่าอร่อยมาก เอ๊ะหรือส้มตำทุเรียนดี”“โอ้โห่ ทุเรียนพี่ว่าพอก่อนดีกว่า เมื่อเช้าแม่เราก็จัดให้พี่เต็มที่เลย แล้วเรายังแกล้งพี่ไว้แสบมากอีกนะ”“ก็เลือกที่จะไม่กินก็ได้นี่คะ เหมือนที่พี่ไม่ไปช่วยงานแม่พี่ที่ตลาดช่วงหน้าทุเรียนไงคะ
ตอนที่ 36 ดูดาวกันนะ หลังจากที่ทานข้าวอิ่มเรียบร้อยกอหญ้าก็ขอตัวไปนอนเพราะต้องลงสวนแต่เช้า กรภัคจึงรีบเดินไปรั้งเอวบางที่กำลังจะเดินเข้าห้องมากอดไว้แนบอก“พี่เกมส์ทำอะไรคะเนี่ย ปล่อยเลย”“พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะ”“ก็บอกดีๆสิคะ มากอดทำไม เดี๋ยวแม่มาเห็นเข้า”“พี่กลัวเราหนีพี่อีก” กรภัคพาร่างบางเดินมานั่งหน้าบ้านที่มุมนั่งเล่นตรงระเบียงซึ่งมีศาลาขนาดเล็กตัวไม้ระแนงมีผู้ผ้าพริ้วสีขาวตามเสาบ้าน รอบๆปลูกไม้ประดับจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว“มีอะไรก็พูดมาสิคะ”“มานอนดูดาวกันนะ”รมย์รวินท์นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆแต่กลับถูกเขาดึงไปนั่งบนตักสองแขนกำยำกอดรอบเอวบางแล้ววางคางเกยบนไหล่เล็ก“พี่คิดถึงเรามากเลยนะรู้ไหม”“....”เมื่อเธอไม่ตอบแต่การที่เธอเอียงศีรษะซบอกก็ทำให้ผมยิ้มออกมา ซึ่งยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่เปรี่ยมไปด้วยความสุข“พี่รักเรานะ ขอโทษที่พี่ไม่ได้ดีพอจนสุดท้ายทำให้เราต้องเสียใจ
ตอนที่ 35 คนเดียวสักพัก“เฮ้อ” รมย์รวินท์ถอนหายใจเฮือก ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านก่อนจะพูดคุยกับผู้เป็นแม่ ถ้าเจออะไรอย่าตกใจ อย่าใช้อารมณ์ อย่าใช้สมองให้ใช้หัวใจตัดสิน ที่แม่พูดมาทั้งหมดคงหมายถึงเขาสินะครืด ครืด ครืด“โทรมาได้จังหวะพอดีเลย” รมย์รวินท์รีบรับสายเมื่อเห็นชื่อเพื่อนสนิทโทรเข้ามา “กำลังจะโทรหาพอดีตังเม”“แกเจอพี่เกมส์แล้วใช่ไหม”“เจอแล้ว แกรู้อยู่แล้วหรอว่าเขามาที่นี่”“อือ”“แล้วแกไม่บอกฉันก่อน”“แหม่ๆ ทำอย่างกับรับสายงั้นแหละ ฉันกับพราวโทรหาแกจนสายเกือบไหม้แล้วมั้ง ข้อความที่ส่งไปเปิดอ่านบ้างหรือเปล่าเถอะ”“โทษทีจะเพื่อนรัก แต่หยุดบ่นก่อน ช่วยคิดหน่อย”“จะให้ช่วยคิดยังไง เรื่องนี้แกต้องตัดสินใจเอง หัวใจแก แกก็น่าจะรู้ดีที่สุดแล้วนะกอบัว มาถามฉันก็จะช่วยอะไรได้นอกจากโทรมาฟังแกระบาย”“เรื่องจริงใช่ไหม”“อือ วันนั้นฉันก็อยู่กับพวกพี่เขา พี่ชินเขาก็อยู่ด้วยนะ เขาเล่าและยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ”“แต่ตอนที่ฉันขึ้นไปฉันก็ไม่เห็นแม้แ