ตอนที่ 8 พิษไข้
ร่างบางเดินขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอเขาอาบน้ำ จนกระทั่งเขาเดินออกมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทำให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวยมีหยดน้ำเกาะพราวตามผิวขาวเนียน ปลายยอดยังเป็นสีชมพูสวย จนเผลอมองอยู่นาน
“หิวพี่เหรอ”
“พูดจาบ้าๆ”
“ก็เห็นมองตามตาเป็นประกายเชียว”
“ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาล่ะคะ”
“พี่ลืมเอาชุดเข้าไปน่ะ”
กรภัคเอ่ยบอกก่อนจะหยิบกางเกงนอนเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเดินขึ้นมานอนบนเตียงกว้าง
“พี่เกมส์ไม่กลับไปนอนที่ห้องล่ะคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”
“พี่เป็นห่วง”
“ไว้ใจได้ป่ะเนี่ย”
“คำถามนี้พี่น่าจะถามเรามากกว่ามั้ง” กรภัคว่าเสียงขำจนร่างบางเบ้ปากกลอกตามองบนใส่ ผมจึงยื่นมือไปหยิกแก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว
“พี่เกมส์ เจ็บนะ”
“หมั่นเขี้ยว นอนได้แล้ว พี่ไม่ทำอะไรหรอก” ผมล้มตัวนอนแล้วรั้งเอวบางเข้ามากอด “ทำไมต้องนอนตัวแข็ง”
“ก็ปกติกอบัวนอนคนเดียว แบบนี้มันไม่ชิน”
“พี่จะมานอนด้วยบ่อยๆจะได้ชิน จะได้ทำความรู้จักกับเราให้มากขึ้นด้วย”
“ลืมไปหรือเปล่าคะว่าเราเป็นอะไรกัน”
“ของเล่นชิ้นโปรดมั้ง”
คำตอบของเขาทำเธอสะอึกเล็กน้อย นั่นสินะเธอเป็นคนยอมรับสถานะนี้เองตั้งแต่แรก มาเสียใจตอนนี้คงไม่ทันแล้ว จะถอยกลับก็คงไม่ได้แล้วมีแต่ต้องเดินหน้าให้สุด
“ระวังให้ดีนะคะ” รมย์รวินท์เอ่ยขึ้นลอย ๆ จนคนที่อยากรู้อดถามขึ้นมาไม่ได้
“ระวังอะไร”
“จะติดใจของเล่นเอา”
“ไม่มีทาง เพราะพี่ไม่ชอบเล่นของเล่นนานๆ”
“แต่ดูๆแล้วพี่เป็นคนชอบพูดอย่าง ทำอย่างนะคะ”
“ยังไง” ผมเท้าแขนขึ้นมองคนตัวเล็กกว่าที่หันมามองแล้วยังยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมอีก
“บอกไม่ชอบเล่นนานๆ แต่ไม่ทันข้ามวันก็มานอนกอดของเล่นเสียแล้ว”
“พูดมาก นอนได้แล้ว”
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไม่นานเธอก็หลับไปด้วยฤทธิ์ยา ผมจึงเท้าแขนมองใบหน้าสวย พลางยกมือขึ้นลูบแก้มนุ่มอย่างหลงใหล นั่นสินะ ทำไมผมถึงยื่นข้อเสนอบ้าๆนั่นให้กับเธอ ทั้งที่ไม่เคยทำแบบนี้กับใคร
“อื้อ” มือเล็กปัดป่ายไปมาเมื่อรู้สึกรำคาญที่ถูกก่อกวนเวลานอนหลับ ก่อนจะพลิกตัวหันกลับมานอนกอดแล้วซุกหน้าอยู่กับอกกำยำ
“ยัยเด็กนี่ชอบอ่อยจริงๆ”
ผมกดจูบที่หน้าผากได้รูปพร้อมทิ้งตัวลงนอนพลางกระชับอ้อมกอด แล้วนอนหลับตามเธอไปติดๆ
“นะ หนาว”
เสียงหวานครางแผ่ว ไหล่เล็กสั่นสะท้านพร้อมกับเบียดตัวซุกอกกำยำเพื่อหาไออุ่น
ผมปรือตาขึ้นมองด้วยอาการงัวเงียก่อนจะดึงร่างเล็กเข้ามากอด แต่ไอร้อนจากร่างกายของเธอทำผมตื่นจนเต็มตา พอเปิดไฟหัวเตียงก็เห็นแก้มนวลแดงระเรื่อด้วยพิษไข้
“กอบัว ตื่นก่อน มากินยาก่อน”
“หนูหนาว” เสียงหวานสั่นสะท้านซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่โดยไม่ยอมลืมตา
กรภัคที่เห็นท่าไม่ดีจึงไปหยิบยาลดไข้พร้อมกับน้ำสะอาด แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
“กอบัว กอบัว”
“...”
“กอบัว”
“...” ไม่ว่าพยายามเรียกเท่าไรร่างเล็กก็ยังคงนอนหลับสนิทผมจึงก้มลงไปหอมแก้มนวลแล้วเรียกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“กอบัว กอบัวๆ”
“หืม”
“ลุกขึ้นมากินยาก่อนนะ เราตัวร้อนมากเลย”
“อื้อ”
รมย์รวินท์ปรือตาขึ้นมองก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งโดยที่มีเขาช่วยประคอง เธอรับยาลดไข้ใส่ปากตามด้วยน้ำเกือบครึ่งขวด
“เก่งมาก นอนต่อได้แล้ว”
กรภัคนั่งพิงหัวเตียงพลางลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างเบามือแล้วคอยวัดไข้ตลอดด้วยความเป็นห่วง โชคดีที่วันนี้ผมตัดสินใจมานอนด้วย ถ้าไข้ขึ้นตอนดึกแล้วอยู่คนเดียวคงได้ไปฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาลแน่นอน
“ทำไมไข้ไม่ลดเลยวะ” ผมเปรยขึ้นเสียงเบาลังเลว่าจะพาเธอไปโรงพยาบาลดีไหม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเสิร์จข้อมูลหาวิธีดูแลคนป่วย
“เช็ดตัวลดไข้งั้นเหรอ”
ผมรีบลุกขึ้นจากเตียงเตรียมน้ำสะอาดใส่กะละมังใบเล็กพร้อมผ้าขนหนูสะอาด เดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งจัดการรูดซิปเสื้อแขนยาวลงมาแล้วเบือนหน้าหนี พร้อมรั้งเสื้อแขนยาวออกจากร่างบางแล้วดึงผ้าห่มปิดไว้ ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูไปชุบ แล้วบิดหมาด ๆ ก่อนจะนำมาเช็ดตัวให้กับร่างบางเช็ดย้อนไปตามแนวขนเพื่อเปิดรูขุมขนให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น
“หนาว พี่เกมส์ กอบัวหนาว”
“อยู่นิ่งๆ”
“อื้อ หนูหนาว” เสียงหวานแหบแห้งเอ่ยบอกพร้อมกับปัดหน้าออกจากใบหน้า
“ทนหน่อยสิ อย่าดื้อ” แม้เสียงที่เอ่ยบอกจะฟังดูดุแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง
“พี่เกมส์ขา”
“อย่าดื้อได้ไหม” ผมบอกเสียงเข้มจนร่างเล็กยอมเชื่อฟัง จึงค่อยๆเช็ดไปตามใบหน้าสวย ต่ำลงมาที่ลำคอที่ยังมีลอยจูบติดอยู่ตามเนินอกอวบอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสอดผ้าเข้าไปเช็ดตามหน้าท้องแบนราบ ตามด้วยที่แขนเรียวซ้ำไปซ้ำมาจนอุณหภูมิลดลง
“เฮ้อ”
ผมไม่รู้ว่าเผลอกลั้นหายใจนานเท่าไรกับการเช็ดตัวให้เธอ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบเสื้อยืดตัวใหญ่มาสวมให้แล้วกลับมานอนกอดร่างบางแสนนุ่มนิ่มเอาไว้
“ไอ้ยักษ์ นอนได้แล้ว จะตื่นมาฉกยัยเด็กขี้เมาตอนป่วยไม่ได้”
ผมกดเจ้ายักษ์ที่ชอบตื่นเวลานี้ให้นอนลงแล้วท่องยุบหนอ พองหนอในใจหวังให้จิตใจสงบลง แต่ดูเหมือนมันจะเชื่อฟังแต่คำหลังจนพองขยายจนปวดไปทั้งแก่นกาย
“พี่เกมส์ขา” รมย์รวินท์ที่นอนหลับสนิทเผลอละเมอออกมาด้วยพิษไข้แล้วยังวาดแขนกอดเอวหนา หนุนหัวบนลาดไหล่ราวกับลูกแมวน้อยขี้อ้อนจนเจ้ายักษ์ที่ไม่ยอมเชื่อฟังชูคอขึ้นมาอีกครั้ง แล้วมันก็ดื้อจนกดหัวแทบไม่ลง
“พี่เกมส์”
“นอนได้แล้ว พักผ่อนเยอะๆ จะได้หายไวๆ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกอย่างอ่อนโยนจนร่างเล็กยอมสงบแล้วหลับสนิทอีกครั้ง
“เฮ้อ เอาไงดีวะกู ไม่เคยทรมานอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”
ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมออกจากใบหน้าสวยแล้วโน้มตัวลงหอมที่แก้มนุ่ม กว่าจะข่มตาให้หลับก็ปาเข้าไปเกือบเช้ามืด แล้วยังต้องตื่นเพราะนาฬิกาปลุกอีก ผมจึงรีบเอื้อมมือไปกดปิดแล้วกอดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้อีกครั้ง
“อื้อ”
รมย์รวินท์ขยับตัวไปมาเพราะได้พักผ่อนเต็มที่ อาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ปวดหัวเหมือนจะไม่สบายก็หายเป็นปลิดทิ้งราวกับได้ยาดี ก่อนจะปรือตาสู้แสงแดดในช่วงสายก็เจอกับใบหน้าหล่อที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ
ดวงตาคู่สวยพิศมองใบหน้าหล่อที่กำลังหลับสนิท คิ้วเข้มได้รูป รับกับจมูกโด่ง ก่อนจะยกนิ้วแตะที่ริมฝีปากหนาอมชมพูที่เคยจูบบางครั้งก็เร้าร้อนจนแทบละลายคาอก บางทีก็อ่อนหวานจนเธอหลงมัวเมาไปกับสัมผัส
“ซนแบบนี้ หายไข้แล้วหรือไง”
“พี่เกมส์” ฉันอุทานเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆคนที่กำลังหลับสนิทลืมตาขึ้นมอง
“ต่อได้นะ เพราะมันกำลังตื่นได้ที่เลย”
รมย์รวินท์มองตามสายตาเขาก็เจอกับเจ้ายักษ์ตัวใหญ่ดันเนื้อผ้าออกมา
“ลามก”
“มันก็ตื่นของมันทุกเช้า เรานั่นแหละที่ลามกมองมันจนตาหวานฉ่ำเชียว”
“บ้าบอ ไปอาบน้ำดีกว่า แต่เอ๊ะ...” รมย์รวินท์ชะงักกึกเมื่อเห็นเสื้อคลุมแขนยาวร่วงที่พื้น แล้วบนตัวก็เป็นเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่แต่ผ้าก็บางมากจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้วมั้ง
“พี่เปลี่ยนให้เอง เมื่อคืนเราตัวร้อนมาก พี่เลยเช็ดตัวให้”
พอเห็นกะละมังพร้อมกับผ้าผืนเล็กวางไว้ด้านข้าง เธอจึงไม่พูดอะไรต่อแล้วลุกขึ้นไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ออกมาก็ไม่เจอเขาแล้ว เธอจึงเดินออกมาข้างนอกถึงกับฉีกยิ้มกว้างเกือบหลุดขำเมื่อเห็นร่างสูงในชุดผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนน่ารักสีเหลืองสดใสอยู่บนร่างกำยำ
“พี่ทำข้าวต้มหมูไว้ให้ นั่งก่อนสิ” กรภัคเอ่ยบอกเมื่อเห็นร่างเล็กเดินออกมา ชุดที่เธอใส่ผมถึงกับกุมขมับ
“กลัวพี่ขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ไม่ได้กลัว แต่ไม่ไว้ใจค่ะ” รมย์รวินท์ในชุดเสื้อกันหนาวตัวใหญ่กับกางเกงขายาวแบรนด์เดียวกันเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะกินข้าว
“อยู่กับผู้ชาย เขาต้องใส่ชุดยั่วๆ ไม่ใช่เหรอ”
“แต่ไม่ใช่กับพี่แน่นอน”
“เราตกลงกันแล้วนี่” ผมว่าขึ้นเสียงแผ่วพร้อมกับวางถ้วยข้าวต้มที่หน้าตาน่ากินมากกว่าครั้งก่อนลงตรงหน้าแล้วเท้าแขนกับโต๊ะพร้อมโน้มตัวลงมาใกล้
“แต่นี่มันสไตล์การแต่งตัวของหนู”
“เหรอ ตอนที่พี่ไปหาเสื้อให้เราชุดอยู่บ้านไม่ใช่แบบนี้นะ”
“ไม่รู้ไม่ชี้” ฉันลอยหน้าลอยตาตอบก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อถูกเขาขโมยหอมแก้ม
ฟอด!
“พี่เกมส์”
“ทำโทษเด็กดื้อ” กรภัคว่ายิ้มๆก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนแล้วมานั่งกินข้าวพร้อมกับคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งอ้าปากค้าง
“ยังไม่หายตกใจอีก มันน่าจับจูบไหมเนี่ย”
“ไอ้พี่เกมส์ ไอ้คนบ้า”
“กินข้าว จะได้กินยา ดื้อมากๆจะโดนทั้งที่เป็นไข้นี่แหละ”
“ค่ะดุจริงๆ เป็นคนหรือเป็นร็อตไวเลอร์คะเนี่ย”
“ลองไหมล่ะพี่จะทำให้รู้ว่าร็อตไวเลอร์เขาเป็นกันแบบไหน”
“พี่เกมส์ แต่ละคำที่พูดมากคิดดีไม่ได้เลย”
“ตอนที่พี่พูด พี่ก็ไม่ได้คิดดีนะ”
“โอ๊ย ไม่คุยด้วยแล้ว”
ตอนที่ 9 เวลาของเรา เมื่อจัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยฉันก็รับยาลดไข้จากเขามาใส่ปากแล้วตามด้วยน้ำเปล่า “อื้อ พี่เกมส์จะทำอะไร” เสียงหวานร้องท้วงเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ “พี่ขอวัดไข้หน่อย” กรภัคยกมือขึ้นทาบหน้าผากพอเห็นว่าอุณหภูมิปกติก็ค่อยเบาใจ “หายดีแล้ว”“ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนู”“พี่ขอโทษนะที่รุนแรงไปหน่อย”“ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ” รมย์รวินท์พูดเสียงแผ่วก้มหน้างุดหลบสายตาคมที่มองมาราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำน้อยๆ “แล้วนี่เราจะไปไหนไหม พี่จะพาไป”“ปกติวันหยุดหนูจะไปซื้อของใส่ตู้เย็น”
ตอนที่ 10 บรรยากาศพาไป “เป็นอะไรหรือเปล่าตั้งแต่ออกจากห้าง พี่เห็นเรานั่งเงียบมาตลอดทางเลย”“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร”“ไข้ขึ้นหรือเปล่า” กรภัคยกฝ่ามือทาบหน้าผากได้รูปแต่คนตัวเล็กกลับเบี่ยงตัวหนี“ไม่ค่ะ สบายดี”“แล้วทำไมหน้าดูซึมๆ แบบนี้ล่ะ”“เอ่อ...หนูคอแห้งเฉยๆ กินเบียร์กันไหมคะพี่เกมส์”“ยัยเด็กขี้เมา” กรภัคว่าขึ้น เขาก็อุตส่าห์เป็นห่วงที่ไหนได้ร่างกายต้องการแอลกอฮอล์นี่เอง“สรุปกินไหมคะ”“พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“มีค่ะแต่แค่กระป๋องเดียว ไม่เมาหรอก”“โอเค”ผมหยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมาสองกระป๋องก่อนจะเดินมาหาร่างบางที่นั่งอยู่ริมระเบียงที่ไม่ได้กว้างมาก มีเพียงเก้าอี้ในสวนและรอบๆยังปลูกดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงาม“อื้อ รับไ
ตอนที่ 1 สัญชาตญาณนักสู้ ร่างบางเดินโซซัดโซเซมือเล็กเกาะผนังพยุงร่างตัวเองเดินไปตามทางเข้าห้องน้ำ ก่อนจะชะงักหยุดยกมือขึ้นกุมศีรษะพลางสะบัดส่ายหน้าไปมา เมื่อฤทธิ์ค็อกเทลร้อนแรงอย่างบีห้าสิบสอง (B52) เล่นงานจนหน้ามืด มึนหัว ดวงตาคู่สวยพร่ามัวจวนจะปิดสนิท “โอ้ย กอบัว แกไม่น่ากินตามแรงยุพวกพี่เขาเลย” เสียงหวานบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ โดยที่ในใจอดด่าเจ้าของผับไม่ได้ทำไมทำห้องน้ำไกลจังวะเท้าเรียวเดินเซมาเรื่อยๆตามทางเดินแต่ทว่า มาโผล่อีกทีดันเป็นลานจอดรถ!“อาการแกหนักแล้วกอบัว” เสียงหวานบ่นตัวเองแผ่วเบาก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในผับโดยไม่ทันระวังจนชนเข้ากับกำแพงมนุษย์เต็มแรง “โอ๊ย ซี๊ดใครแม่งมายืนขว้างหน้าวะ” มือเล็กยกขึ้นลูบจมูกตัวเองเบาๆ ถ้าไม่ใช่ว่าแม่ให้มานะป่านนี้คงนั่งน้ำตาซึมไปหาหมอที่คลินิกไปแล้ว คนบ้าอะไรวะตัวแข็งเป็นบ้า แต่ไอ้นั่นที่อยู่ใต้กางเกงจะแข็งไหมวะ พอคิดแบบนั้นดวงตาคู่สวยก็ยิ่งจดจ้องเพ่งเล็งสายตาที่เป้ากางเกงกำแพงมนุษย์ “เมาแล้วอย่าหื่น หน้าพี่อยู่นี่”“พี่เกมส์” เธอร้องตกใจเมื่อคนที่เดินชนเป็นคนเดียว
ตอนที่ 2 ทำอะไรลงไป ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือขึ้นเมื่อแสงของเช้าวันใหม่สาดทอเข้ามาภายในห้องน้ำ เธอจึงขยับตัวหันหน้าหนีแต่กลับเจอกล้ามหน้าอกของใครบางคน จนแทบหยุดหายใจ ปากคอแห้งผาดก่อนที่จะค่อยๆตั้งสติที่กำลังแตกกระเจิงให้เข้าที่เข้าทางแล้วนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืน “เชี้ยแล้ว ทำอะไรลงไปวะเนี่ย” รมย์รวินท์ยกมือปิดปากร้องอุทานเสียงเบาในลำคอ เมื่อเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด แต่คงไม่ใช่เขาหรอกมั้ง...จากที่คิดว่าเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่ประถมศึกษาอย่างตังเมจะคอยพูดล้อเล่นอยู่บ่อยๆว่าเธอเมาแล้วชอบอ่อยผู้ชาย บุญเท่าไรแล้วที่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ หรือเปล่าวะ?เธอขยับตัวอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวคนข้างๆจะตื่นขึ้นมา แล้วก้มหน้างุดเพราะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นมองตัวเองที่มีเสื้อผ้าอยู่ครบทุกชิ้น แล้วลองยกขาเรียวแยกออกจากกันเล็กน้อยก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ หวังว่าเมื่อคืนคงไม่มีสงครามกลางเตียงขึ้นหรอกนะแต่พอขยับตัวลุกกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วทำใจกล้าหันมองคนข้างกายเธอถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดปากอยากจะกรีดร้องให้ตึกถล่มทับให้ตายคาที่ไปเลย จากที่ไม่ค่อยมั่นใจพอเห็นหน้าเ
ตอนที่ 3 เจออีกแล้ว รมย์รวินท์เดินหาซื้อผักผลไม้ที่มีแม่ค้าตั้งแผงขายเรียงรายเต็มตลาดที่ใหญ่ที่สุด ใหญ่ระดับประเทศเลยก็ว่าได้ เดินทั้งวันขาคงได้เปลี้ยจนไม่มีแรง เพราะแค่นี้ก็เริ่มรู้สึกล้าไปทั้งขาแล้ว “เอาอันนี้ค่ะป้า” มือบางส่งกระหล่ำปลีสีเขียวแซมขาว ขึ้นฉ่ายและแครอทส่งให้แม่ค้า “หกสิบบาทจ้า” “นี่ค่ะ” เธอหยิบเงินยื่นให้แม่ค้าแล้วหยิบถุงผักใส่ตะกร้าล้อลากเดินไปยังร้านอื่นต่อ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายใบเล็กสั่นสะท้าน “เออ ว่าไงตังเม” “กอบัว แวะตลาดแค่นี้นานจังวะ” ตังเมกรอกเสียงถามมาตามปลายสายเพราะเย็นนี้ตกลงกันว่าจะกินหมูกระทะกันที่คอนโดของเธอ แต่เพื่อนสนิทอย่างกอบัวกลับยังมาไม่ถึงสักทีทั้งที่ใกล้เวลานัดเต็มที “รีบอยู่” “ซื้อผักนะจ๊ะ ไม่ใช่ให้ไปส่องพ่อค้า นานเกิ้น”“โอ้ย พ่อคงพ่อค้าอะไรล่ะ ไม่มีทั้งนั้นแหละ แต่ลูกเจ้าของตลาดก็ว่าไปอย่าง” รมย์รวินท์พูดเย้าเสียงขำก่อนจะหุบปากฉับเมื่อได้ยินเสียงพราวฟ้ารอดมาตามสาย“แล้วรู้ไหมว่าตลาดที่แกยืนอยู่ตอนนี้เขามีลูกชายหล่อด้วยนะ”
ตอนที่ 4 เด็กขี้เมา “กว่าจะมา” ตังเมเปรยขึ้นเมื่อเปิดประตูให้เพื่อนสาวที่หอบหิ้วของมาเต็มมือ“รถติดน่ะ”“รถติดหรือติดหัวใจลูกเจ้าของตลาดอยู่กันแน่”“โอ้ย ก็พูดไปนั้น ไม่ชอบหรอกคนเจ้าชู้ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้”“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลยกอบัว ไม่ต้องวกมาเรื่องฉัน” พราวฟ้ารีบห้ามเพราะประเด็นร้อนมันไม่ได้อยู่ที่เธอแต่อยู่กับคนที่มาทีหลังต่างหาก“สรุปว่าไง เรื่องเมื่อคืน” ตังเมเอ่ยถามขณะแกะผักออกจากถุงเพื่อล้างน้ำสะอาด“ไม่มีอะไรเลย พี่เขาก็แค่ไปส่งเฉยๆ”“จ้า เชื่อ” พราวฟ้าพยักหน้ารับแต่กลับยกยิ้มล้อเลียนจนกอบัวหน้ามุ่ย“โอ้ย พูดก็ไม่เชื่อ งั้นไม่ตอบแล้ว”“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว” พราวฟ้าเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบมืดหั่นแครอทแล้วหยิบใส่หม้อเพื่อทำน้ำซุป“เอ้อ แล้วทำไมถึงกลับพร้อมพี่เขาได้” ตังเมที่กำลังล้างผักหันมาถามด้วยความสงสัย“เมา แล้วบังเอิญไปเจอพี่เขาพอดี เขาคงสงสารมั้งเลยพาไปส่ง”“กอบัว!!”“อะไรตังเม จะตะโกนทำไมเนี่ย จกใจหมด”“นั่นสิ มีอะไรหน้าตื่นเชียว เจอหนอนในผักเหรอ” พราวฟ้าเอ่ยถาม“แกไปอ่อยพี่เขาหรือเปล่า” ตังเมถามด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าเวลาอีกฝ่ายเมาหนักมากๆจะเป็นอย่างไร“
ตอนที่ 5 ตามที่ใจปรารถนารถอาวดี้คันหรูแล่นไปตามท้องถนนเมืองหลวงที่ค่อนข้างโล่งกว่าทุกวันจนกระทั่งมาจอดสนิทที่หน้าคอนโดหรู“พี่เกมส์ ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนูที่คอนโดคะ” ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองตึกสูงข้างหน้าไม่ว่ามุมไหน ก็ไม่ใช่คอนโดเธอ“ก็พี่ถามเราแล้วว่าเราอยู่ที่ไหน แต่เราไม่ตอบพี่”“ถามตอนไหน หนูไม่เห็นได้ยินเลย”กรภัคเกาหัวแล้วเสยผมขึ้นแรงๆอยากจะเอาหัวตัวเองทุ่มใส่พวงมาลัยสักทีสองที เพราะก่อนหน้านี้เธอหลับมาตลอดทาง เขาทั้งเรียก ทั้งสะกิดถาม แต่สิ่งที่ได้มาคือความเงียบ“ไหนๆก็มาถึงแล้วนอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับ”“ให้หนูนอนกับพี่ หนูไม่ปลอดภัยแน่นอน ไม่เอาหนูจะกลับห้อง”“อย่าดื้อได้ไหม แล้วตอนนี้พี่ก็ง่วงแล้วด้วย”“แล้วถ้าหนูปล้ำพี่จะทำไงล่ะ”“เออ เดี๋ยวพี่ขัดขืนเอง ลงมาก่อน”“อื้อ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับ แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ เดินเซไปมาจนคนที่แอบมองอยู่ด้านหลังช้อนตัวขึ้นอุ้ม“พี่เกมส์”“ง่วงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นไปเอง”“อือ”ดวงตาคู่สวยปิดสนิทอีกครั้งแล้วหันหน้าซุกอยู่กับอกแกร่งกำยำ ปกติเธอค่อนข้างเป็นคนนอนหลับยากมาก ต่อให้กินเหล้าเมามากขนาดไหนก็ไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง
ตอนที่ 6 ข้อตกลงร่างบางพลิกกายขยับไปมาเมื่อรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวก่อนที่เธอจะสะดุ้งตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มผืนใหญ่ร่วงลงมา เรื่องราวทุกอย่างเมื่อคืนเริ่มแจ่มชัดเข้ามาในโสตประสาทของเธอ“ตื่นมาก็จะอ่อยพี่ต่อเลยหรือไงเด็กขี้เมา”“พี่เกมส์” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเห็นร่างสูงใส่กางเกงนอนขายาวเปลือยท่อนอกพิงขอบประตูในมือถือแก้วกาแฟยกยิ้มมุมปาก เธอจึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยจูบ นั่งกอดเข่าขยับตัวถอยจนชิดหัวเตียงเมื่อเขาก้าวเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น“จะหนีไปไหน เมื่อคืนเรายังสนุกด้วยกันทั้งคืนเลยจำไม่ได้เหรอ”“พี่ฉวยโอกาสกับคนเมาเหรอคะ”“พูดดีๆนะกอบัว พี่ไม่ได้ข่มขื่นเรานะ มีแต่เรานั่นแหละที่...”“พอแล้วค่ะพี่เกมส์ หนูไม่อยากฟัง” ร่างบางยกมือขึ้นห้ามก่อนจะยกขึ้นมาอุดหูแล้วก้มหน้าเพื่อหลบสายตาคม ทำอะไรลงไปวะเนี่ย! กอบัว“พี่ก็ต้องอธิบายสิ เพราะพี่ไม่อยากเป็นคนที่ถูกตราหน้าว่าข่มขื่นเรา”“กอบัวเชื่อแล้วค่ะว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ” เพราะคนที่เริ่มคือเธอเองทุกอย่างนี้แหละ พอกันที่เหล้า เบียร์ อย่าได้เจอกันอีกเลย ลาขาดตลอดกาล“แล้วเสื้อผ้าหนูล่ะ” เธอเอ่ยถามพร้อมกับมองไปรอบ
ตอนที่ 10 บรรยากาศพาไป “เป็นอะไรหรือเปล่าตั้งแต่ออกจากห้าง พี่เห็นเรานั่งเงียบมาตลอดทางเลย”“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร”“ไข้ขึ้นหรือเปล่า” กรภัคยกฝ่ามือทาบหน้าผากได้รูปแต่คนตัวเล็กกลับเบี่ยงตัวหนี“ไม่ค่ะ สบายดี”“แล้วทำไมหน้าดูซึมๆ แบบนี้ล่ะ”“เอ่อ...หนูคอแห้งเฉยๆ กินเบียร์กันไหมคะพี่เกมส์”“ยัยเด็กขี้เมา” กรภัคว่าขึ้น เขาก็อุตส่าห์เป็นห่วงที่ไหนได้ร่างกายต้องการแอลกอฮอล์นี่เอง“สรุปกินไหมคะ”“พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“มีค่ะแต่แค่กระป๋องเดียว ไม่เมาหรอก”“โอเค”ผมหยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมาสองกระป๋องก่อนจะเดินมาหาร่างบางที่นั่งอยู่ริมระเบียงที่ไม่ได้กว้างมาก มีเพียงเก้าอี้ในสวนและรอบๆยังปลูกดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงาม“อื้อ รับไ
ตอนที่ 9 เวลาของเรา เมื่อจัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยฉันก็รับยาลดไข้จากเขามาใส่ปากแล้วตามด้วยน้ำเปล่า “อื้อ พี่เกมส์จะทำอะไร” เสียงหวานร้องท้วงเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ “พี่ขอวัดไข้หน่อย” กรภัคยกมือขึ้นทาบหน้าผากพอเห็นว่าอุณหภูมิปกติก็ค่อยเบาใจ “หายดีแล้ว”“ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนู”“พี่ขอโทษนะที่รุนแรงไปหน่อย”“ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ” รมย์รวินท์พูดเสียงแผ่วก้มหน้างุดหลบสายตาคมที่มองมาราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำน้อยๆ “แล้วนี่เราจะไปไหนไหม พี่จะพาไป”“ปกติวันหยุดหนูจะไปซื้อของใส่ตู้เย็น”
ตอนที่ 8 พิษไข้ร่างบางเดินขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอเขาอาบน้ำ จนกระทั่งเขาเดินออกมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทำให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวยมีหยดน้ำเกาะพราวตามผิวขาวเนียน ปลายยอดยังเป็นสีชมพูสวย จนเผลอมองอยู่นาน“หิวพี่เหรอ”“พูดจาบ้าๆ”“ก็เห็นมองตามตาเป็นประกายเชียว”“ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาล่ะคะ”“พี่ลืมเอาชุดเข้าไปน่ะ”กรภัคเอ่ยบอกก่อนจะหยิบกางเกงนอนเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเดินขึ้นมานอนบนเตียงกว้าง“พี่เกมส์ไม่กลับไปนอนที่ห้องล่ะคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”“พี่เป็นห่วง”“ไว้ใจได้ป่ะเนี่ย”“คำถามนี้พี่น่าจะถามเรามากกว่ามั้ง” กรภัคว่าเสียงขำจนร่างบางเบ้ปากกลอกตามองบนใส่ ผมจึงยื่นมือไปหยิกแก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว“พี่เกมส์ เจ็บนะ”“หมั่นเขี้ยว นอนได้แล้ว พี่ไม่ทำอะไรหรอก
ตอนที่ 7 ความลับ‘แต่’‘แต่อะไรอีก หืม’‘ต้องไม่มีคนรู้เรื่องนี้’‘ตกลง จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ของเรา’ เมื่อกลับมาถึงคอนโดตัวเอง ร่างบางทิ้งตัวนอนอย่างหมดแรงยกมือขึ้นเกยหน้าผากพยายามคิดทบทวนสิ่งที่เธอพึ่งตกลงกับเขาไป เพราะความเมาอย่างเดียวที่พาเธอมาถึงจุดนี้ได้ บางครั้งก็นึกแปลกใจตัวเองว่ายอมทำไม “โอ้ย จะบ้าตาย”ครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ที่สั่นสะท้านอยู่ข้างตัวทำให้เธอต้องหยิบขึ้นมารับอย่างเลี่ยงไม่ได้“ค่ะแม่”“แกอยู่ไหนกอบัว เมื่อคืนฉันก็ติดต่อไม่ได้ จนเกือบจะจองตั๋วบินไปหาแกที่กรุงเทพแล้วเนี่ย”เสียงหวานดังแว่วเข้ามาทำให้เธอเผลอยิ้มออกมา ไม่ใช่ใครหรอกนอกจากคุณแม่สุดที่รัก เจ๊กอหญ้าเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดจันทบุรี&ldqu
ตอนที่ 6 ข้อตกลงร่างบางพลิกกายขยับไปมาเมื่อรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวก่อนที่เธอจะสะดุ้งตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มผืนใหญ่ร่วงลงมา เรื่องราวทุกอย่างเมื่อคืนเริ่มแจ่มชัดเข้ามาในโสตประสาทของเธอ“ตื่นมาก็จะอ่อยพี่ต่อเลยหรือไงเด็กขี้เมา”“พี่เกมส์” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเห็นร่างสูงใส่กางเกงนอนขายาวเปลือยท่อนอกพิงขอบประตูในมือถือแก้วกาแฟยกยิ้มมุมปาก เธอจึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยจูบ นั่งกอดเข่าขยับตัวถอยจนชิดหัวเตียงเมื่อเขาก้าวเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น“จะหนีไปไหน เมื่อคืนเรายังสนุกด้วยกันทั้งคืนเลยจำไม่ได้เหรอ”“พี่ฉวยโอกาสกับคนเมาเหรอคะ”“พูดดีๆนะกอบัว พี่ไม่ได้ข่มขื่นเรานะ มีแต่เรานั่นแหละที่...”“พอแล้วค่ะพี่เกมส์ หนูไม่อยากฟัง” ร่างบางยกมือขึ้นห้ามก่อนจะยกขึ้นมาอุดหูแล้วก้มหน้าเพื่อหลบสายตาคม ทำอะไรลงไปวะเนี่ย! กอบัว“พี่ก็ต้องอธิบายสิ เพราะพี่ไม่อยากเป็นคนที่ถูกตราหน้าว่าข่มขื่นเรา”“กอบัวเชื่อแล้วค่ะว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ” เพราะคนที่เริ่มคือเธอเองทุกอย่างนี้แหละ พอกันที่เหล้า เบียร์ อย่าได้เจอกันอีกเลย ลาขาดตลอดกาล“แล้วเสื้อผ้าหนูล่ะ” เธอเอ่ยถามพร้อมกับมองไปรอบ
ตอนที่ 5 ตามที่ใจปรารถนารถอาวดี้คันหรูแล่นไปตามท้องถนนเมืองหลวงที่ค่อนข้างโล่งกว่าทุกวันจนกระทั่งมาจอดสนิทที่หน้าคอนโดหรู“พี่เกมส์ ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนูที่คอนโดคะ” ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองตึกสูงข้างหน้าไม่ว่ามุมไหน ก็ไม่ใช่คอนโดเธอ“ก็พี่ถามเราแล้วว่าเราอยู่ที่ไหน แต่เราไม่ตอบพี่”“ถามตอนไหน หนูไม่เห็นได้ยินเลย”กรภัคเกาหัวแล้วเสยผมขึ้นแรงๆอยากจะเอาหัวตัวเองทุ่มใส่พวงมาลัยสักทีสองที เพราะก่อนหน้านี้เธอหลับมาตลอดทาง เขาทั้งเรียก ทั้งสะกิดถาม แต่สิ่งที่ได้มาคือความเงียบ“ไหนๆก็มาถึงแล้วนอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับ”“ให้หนูนอนกับพี่ หนูไม่ปลอดภัยแน่นอน ไม่เอาหนูจะกลับห้อง”“อย่าดื้อได้ไหม แล้วตอนนี้พี่ก็ง่วงแล้วด้วย”“แล้วถ้าหนูปล้ำพี่จะทำไงล่ะ”“เออ เดี๋ยวพี่ขัดขืนเอง ลงมาก่อน”“อื้อ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับ แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ เดินเซไปมาจนคนที่แอบมองอยู่ด้านหลังช้อนตัวขึ้นอุ้ม“พี่เกมส์”“ง่วงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นไปเอง”“อือ”ดวงตาคู่สวยปิดสนิทอีกครั้งแล้วหันหน้าซุกอยู่กับอกแกร่งกำยำ ปกติเธอค่อนข้างเป็นคนนอนหลับยากมาก ต่อให้กินเหล้าเมามากขนาดไหนก็ไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง
ตอนที่ 4 เด็กขี้เมา “กว่าจะมา” ตังเมเปรยขึ้นเมื่อเปิดประตูให้เพื่อนสาวที่หอบหิ้วของมาเต็มมือ“รถติดน่ะ”“รถติดหรือติดหัวใจลูกเจ้าของตลาดอยู่กันแน่”“โอ้ย ก็พูดไปนั้น ไม่ชอบหรอกคนเจ้าชู้ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้”“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลยกอบัว ไม่ต้องวกมาเรื่องฉัน” พราวฟ้ารีบห้ามเพราะประเด็นร้อนมันไม่ได้อยู่ที่เธอแต่อยู่กับคนที่มาทีหลังต่างหาก“สรุปว่าไง เรื่องเมื่อคืน” ตังเมเอ่ยถามขณะแกะผักออกจากถุงเพื่อล้างน้ำสะอาด“ไม่มีอะไรเลย พี่เขาก็แค่ไปส่งเฉยๆ”“จ้า เชื่อ” พราวฟ้าพยักหน้ารับแต่กลับยกยิ้มล้อเลียนจนกอบัวหน้ามุ่ย“โอ้ย พูดก็ไม่เชื่อ งั้นไม่ตอบแล้ว”“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว” พราวฟ้าเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบมืดหั่นแครอทแล้วหยิบใส่หม้อเพื่อทำน้ำซุป“เอ้อ แล้วทำไมถึงกลับพร้อมพี่เขาได้” ตังเมที่กำลังล้างผักหันมาถามด้วยความสงสัย“เมา แล้วบังเอิญไปเจอพี่เขาพอดี เขาคงสงสารมั้งเลยพาไปส่ง”“กอบัว!!”“อะไรตังเม จะตะโกนทำไมเนี่ย จกใจหมด”“นั่นสิ มีอะไรหน้าตื่นเชียว เจอหนอนในผักเหรอ” พราวฟ้าเอ่ยถาม“แกไปอ่อยพี่เขาหรือเปล่า” ตังเมถามด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าเวลาอีกฝ่ายเมาหนักมากๆจะเป็นอย่างไร“
ตอนที่ 3 เจออีกแล้ว รมย์รวินท์เดินหาซื้อผักผลไม้ที่มีแม่ค้าตั้งแผงขายเรียงรายเต็มตลาดที่ใหญ่ที่สุด ใหญ่ระดับประเทศเลยก็ว่าได้ เดินทั้งวันขาคงได้เปลี้ยจนไม่มีแรง เพราะแค่นี้ก็เริ่มรู้สึกล้าไปทั้งขาแล้ว “เอาอันนี้ค่ะป้า” มือบางส่งกระหล่ำปลีสีเขียวแซมขาว ขึ้นฉ่ายและแครอทส่งให้แม่ค้า “หกสิบบาทจ้า” “นี่ค่ะ” เธอหยิบเงินยื่นให้แม่ค้าแล้วหยิบถุงผักใส่ตะกร้าล้อลากเดินไปยังร้านอื่นต่อ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายใบเล็กสั่นสะท้าน “เออ ว่าไงตังเม” “กอบัว แวะตลาดแค่นี้นานจังวะ” ตังเมกรอกเสียงถามมาตามปลายสายเพราะเย็นนี้ตกลงกันว่าจะกินหมูกระทะกันที่คอนโดของเธอ แต่เพื่อนสนิทอย่างกอบัวกลับยังมาไม่ถึงสักทีทั้งที่ใกล้เวลานัดเต็มที “รีบอยู่” “ซื้อผักนะจ๊ะ ไม่ใช่ให้ไปส่องพ่อค้า นานเกิ้น”“โอ้ย พ่อคงพ่อค้าอะไรล่ะ ไม่มีทั้งนั้นแหละ แต่ลูกเจ้าของตลาดก็ว่าไปอย่าง” รมย์รวินท์พูดเย้าเสียงขำก่อนจะหุบปากฉับเมื่อได้ยินเสียงพราวฟ้ารอดมาตามสาย“แล้วรู้ไหมว่าตลาดที่แกยืนอยู่ตอนนี้เขามีลูกชายหล่อด้วยนะ”
ตอนที่ 2 ทำอะไรลงไป ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือขึ้นเมื่อแสงของเช้าวันใหม่สาดทอเข้ามาภายในห้องน้ำ เธอจึงขยับตัวหันหน้าหนีแต่กลับเจอกล้ามหน้าอกของใครบางคน จนแทบหยุดหายใจ ปากคอแห้งผาดก่อนที่จะค่อยๆตั้งสติที่กำลังแตกกระเจิงให้เข้าที่เข้าทางแล้วนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืน “เชี้ยแล้ว ทำอะไรลงไปวะเนี่ย” รมย์รวินท์ยกมือปิดปากร้องอุทานเสียงเบาในลำคอ เมื่อเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด แต่คงไม่ใช่เขาหรอกมั้ง...จากที่คิดว่าเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่ประถมศึกษาอย่างตังเมจะคอยพูดล้อเล่นอยู่บ่อยๆว่าเธอเมาแล้วชอบอ่อยผู้ชาย บุญเท่าไรแล้วที่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ หรือเปล่าวะ?เธอขยับตัวอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวคนข้างๆจะตื่นขึ้นมา แล้วก้มหน้างุดเพราะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นมองตัวเองที่มีเสื้อผ้าอยู่ครบทุกชิ้น แล้วลองยกขาเรียวแยกออกจากกันเล็กน้อยก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ หวังว่าเมื่อคืนคงไม่มีสงครามกลางเตียงขึ้นหรอกนะแต่พอขยับตัวลุกกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วทำใจกล้าหันมองคนข้างกายเธอถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดปากอยากจะกรีดร้องให้ตึกถล่มทับให้ตายคาที่ไปเลย จากที่ไม่ค่อยมั่นใจพอเห็นหน้าเ