ตอนที่ 12 กับดัก
ร่างบางในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก้าวเดินไปตามมุมตึก ลัดเลาะไปตามทางแคบๆ สลับมองหลังเป็นระยะๆ ด้วยบรรยากาศเงียบเหงาวังเวงในช่วงห้าโมงเย็นยิ่งทำให้ดูหน้ากลัว เธอจึงรีบเดินให้เร็วขึ้นจนกระทั่งเดินมาถึงลานจอดรถ
“แอบหนีใครมาเหรอ” กรภัคที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพิงรถอาวดี้เอ่ยถามเสียงขำ
“อุ๊ย! พี่เกมส์ตกใจหมด”
“ทำลับๆล่อๆ หนีอะไรมา”
“เปล่า”
“กำลังหนีหน้าพี่ใช่ไหม” กรภัคพูดขึ้นอย่างรู้ทัน
“ไม่ได้หนี” เธอแอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านหน้าเขาไปที่รถตัวเอง
“เดี๋ยว” ฝ่ามือหนายื่นมาดึงข้อมือเล็กเอาไว้ “วันนี้โกรธพี่หรือเปล่า”
“โกรธทำไมล่ะคะ มันคือข้อตกลงของเราสองคนไม่ใช่เหรอ ห้ามรัก ห้ามเปิดเผย ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ทุกอย่างมันเริ่มต้นแบบลับๆ ก็ต้องจบแบบลับๆสิคะ”
“ประชดเหรอ”
“เปล่าค่ะหนูพูดความจริง แล้วอีกอย่างก็เป็นไปตามที่เราตกลงกันไว้ ถ้าพี่มีคนอื่นหนูค่อยโกรธดีกว่าไหม”
“งั้นกลับกับพี่”
“แต่หนูเอารถมา”
“ทิ้งไว้นี่แหละ พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวพี่มาส่ง”
กรภัคไม่รอให้เธอปฏิเสธอรีบฉุดแขนเล็กพาเข้าไปนั่งรถอาวดี้ของตัวเองทันที
“พี่เกมส์”
“อย่าดื้อ” ปลายนิ้วเรียวชี้หน้าบังคับกลายๆให้เธอยอมเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับแต่โดยดีก่อนจะปิดประตูให้ แล้วเดินอ้อมมาฝั่งคนขับก่อนที่รถคันหรูจะแล่นออกสู่ท้องถนนเมืองหลวง
“อยากกินอะไรก่อนกลับห้องไหม”
“แวะตลาดได้ไหมคะ”
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
“ก็เผื่อพี่กลัวเพื่อนพี่มาเห็นไง”
“มันไม่มาเดินตลาดหรอก”
“หนูก็ลืมไป” เพราะเพื่อนสนิทเขาแต่ละคนเป็นลูกเศรษฐีบ้านรวยกันทั้งนั้น จากที่จะมาเดินตลาดคงเดินช้อปปิ้งอยู่บนห้างสรรพสินค้ามากกว่า
“ที่บอกไม่มาเดินเพราะมันไปนอนกกกับแฟนมันหมดแล้ว”
“ว่าบาปเพื่อน”
“หึๆ ความจริงพี่ก็อยากนอนกกบ้างนะ”
“ก็ไปตามสาวในสต็อกพี่มาสักคนสิคะ”
“ก็อยู่ข้างๆพี่แล้วนี่ไง”
“อย่ามาทะลึ่งนะพี่เกมส์” รมย์รวินท์กอดอกแล้วขยับตัวออกห่างนั่งชิดประตูรถ พลางมองเขาอย่างระแวงๆ
“ตอนเมาไม่เห็นเป็นแบบนี้”
“ก็นั่นตอนเมา แต่ตอนนี้หนูไม่เมานี่คะ”
“พี่ล้อเล่น ขยับมานั่งดีๆ กว่าจะถึงตลาดได้เมื่อยกันพอดี” กรภัคเอ่ยบอกน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับยื่นมือมาวางบนกลุ่มผมนุ่มแล้วยีไปมาจนผมเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย
“พี่เกมส์ ผมหนูยุ่งหมดแล้ว” รมย์รวินท์ทำหน้ามุ่ยพร้อมกับเบ้ปากเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นสางผมลอนมาม่าสีน้ำตาลให้เข้าที่
“หมั่นเขี้ยว แล้วอีกอย่างพี่ไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลยนะตั้งแต่วันที่พี่ตกลงกับเราวันนั้น”
“เชื่อได้เหรอคะ”
“พี่สาบานได้เลย ว่าไม่ได้ยุ่งกับใครอีก แม้แต่แชทก็ไม่ตอบ ไปกินเหล้าที่ผับก็ไม่เคยชายตามองใคร”
“โกหกฟ้าฝ่านะพี่เกมส์ ฝนทำท่าจะตกแล้วด้วย”
“อื้อ”
“อะไรคะ ให้มาทำไม” รมย์รวินท์ถามงงๆ เมื่อจู่ๆเขายื่นโทรศัพท์มาให้
“เอาไปดูได้เลย ว่าพี่ไม่ได้โกหก รหัสผ่าน 242424”
“หืม” เสียงหวานครางในคำคออย่างไม่เชื่อหู แค่ให้เช็คโทรศัพท์ก็เกินคาดแล้ว แถมยังบอกรหัสผ่านอีก สรุปเขามันคนแบบไหนกันแน่ ชักตามอารมณ์ไม่ทันแล้ว บทจะตึงก็ตึง บทจะดีก็ดีจนน่าใจหาย บางครั้งตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็นิ่ง ทำตัวราวกับคนไม่รู้จักกัน
“ไม่เอา หนูไม่ดูหรอก” เธอดันมือเขากลับไป “มันเรื่องส่วนตัวของพี่ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อยนี่คะ”
“แต่พี่ไม่อยากให้เราไม่สบายใจ“
“หนูก็ปกติ ไม่ได้เป็นอะไรเลย” แค่จี๊ดๆในใจบ้างเล็กน้อย ท้ายประโยคเธอได้แต่พูดต่อในใจ
“ดูเถอะถือว่าพี่ขอ”
มือบางยอมรับโทรศัพท์มาปลดล็อคกดเข้าไปในแอพพลิเคชันสีเขียวที่มีแจ้งเตือนค้างไว้เก้าร้อยเก้าสิบเก้าบวก แล้วแอพสีฟ้าและไอจีก็ไม่น้อยหน้ากัน แถมรูปโปรไฟล์ทุกคนก็เป็นรูปผู้หญิงเซ็กซี่ อกทรงโตทั้งนั้น
กรภัคชำเลืองมองเล็กน้อย เมื่อเห็นเธอปัดเลื่อนข้อความดูผ่านๆ บางครั้งก็เบ้ปากจนผมหลุดขำ “ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ”
“เลี่ยนคำหวานค่ะ”
“สบายใจแล้วนะ”
“ค่ะ” รมย์รวินท์ส่งโทรศัพท์คืนเขาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาเล่น แต่เมื่อนึกเรื่องสำคัญได้จึงช้อนตาขึ้นมองและเป็นช่วงจอดติดไฟแดงพอดี
“พี่เกมส์”
“หืม” กรภัคครางรับพร้อมกับหันมามองคนข้างๆก่อนจะวางมือโยกศีรษะเล็กไปมาเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว “ว่าไงครับ”
“พี่เห็นสร้อยข้อมือหนูไหม
“แบบไหนล่ะ”
ซ่า!
ยังไม่ทันจะได้ตอบรมย์รวินท์ถึงกับนิ่วหน้าเมื่ออยู่ๆสายฝนเทกระหน่ำลงมา แผนที่จะเดินตลาดนัดหลังมอสุดท้ายก็ล่มไม่เป็นท่า
“ฝนตก เราคงอดเดินตลาดแล้วแหละ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวกอบัวกลับไปเวฟอาหารในตู้เย็นแทนก็ได้”
“ยังไม่บอกพี่เลย สรุปสร้อยข้อมือเราเป็นแบบไหน”
“เป็นสร้อยข้อมือทองเส้นเล็กๆ เป็นรูปใบโคลเวอร์สี่แฉกค่ะ”
“แป๊ปนะ รถติดมากเลย”
“นี่ค่ะ พี่เกมส์เป็นรูปแบบนี้เลย” เมื่อเห็นว่ารถจอดติดไฟแดงกอบัวจึงหยิบจี้ที่ห้อยติดสร้อยเส้นเล็กให้อีกฝ่ายดู เขาจึงขยับเข้ามาจ้องมองใกล้ๆจนลมหายใจอุ่นๆเป่ารดผิวเนียนพาขนอ่อนในกายลุกซู่
“ใกล้เกินไปหรือเปล่าคะ”
“พี่สายตาสั้น”
เมื่อได้เห็น กรภัคก็นึกขึ้นมาได้ทันที สร้อยที่เขาเก็บได้ในคืนนั้นนี่เอง มุมปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาเป็นประกาย
“แล้วเคยเห็นไหมคะ”
“ไม่นะ เราไปทำร่วงที่ไหนหรือเปล่า”
“จำไม่ได้ค่ะ แต่น่าจะหายคืนที่ไปค้างห้องพี่”
“ไปลองหาที่ห้องพี่ดูไหมล่ะ”
“คิดอะไรไม่ดีกับหนูอยู่ป่ะเนี่ย” รมย์รวินท์หรี่ตามองคนข้างๆอย่างไม่ไว้ใจ
“เปล่าเลย ไม่ได้คิด”
“เจ้าเล่ห์นะพี่เกมส์”
“เปล่าเลย แต่ถ้าจะคิดก็คิดถึงเราแค่คนเดียวแหละ” กรภัคเอ่ยบอกก่อนจะเท้าแขนกับเบาะข้างคนขับพร้อมจ้องคนตรงหน้าพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย “แล้วเราล่ะ คิดถึงพี่บ้างไหม”
“ชอบทำตัวหมายอกไก่อยู่เรื่อยเลยนะพี่เกมส์” เสียงหวานตอบแผ่วเบาพลางก้มหน้างุดเมื่อไม่อาจสู้แววตาคมได้
“หึๆ ว่าไง สรุปจะให้พี่ไปส่งที่คอนโดเรา หรือจะไปหาสร้อยข้อมือที่คอนโดพี่ก่อน”
“พี่เกมส์หาให้หนูไม่ได้เหรอคะ” เธอลองต่อรองเพราะถ้าเดินเข้าห้องเขาก็ไม่ต่างเหยื่อเดินเข้าปากเสือดีๆนี่เอง
“ของใครก็หาเองสิ”
“ใจร้าย”
“สรุปให้พี่ไปส่งที่ไหน เร็วๆอีกยี่สิบวิจะไฟเขียวแล้ว”
“เฮ้อ งั้นไปห้องพี่ก็ได้ค่ะ เพราะที่ห้องหนูก็หาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ” ต่อให้จะไปห้องเธอหรือห้องเขาถ้าเสือมันจะกินเหยื่อ คงไม่เลือกที่หรอก อยู่ตรงไหนก็ไม่ปลอดภัยจากคนเจ้าเล่ห์แบบเขาอยู่ดี
“สำคัญมากเหรอ” ผมลองหยั่งเชิงถาม
“สำคัญมากค่ะ แล้วเดือนหน้าต้องกลับบ้านด้วย ถ้าไม่ใส่ไปคุณแม่ได้บ่นหูดับแน่”
“ของแม่เหรอ”
“ค่ะ แม่ให้เป็นของขวัญวันเกิด แล้วให้ใส่ติดตัวเอาไว้ตลอด”
“อ๋อ แล้วไป”
“ทำไมคะ คิดว่าของใคร”
“คิดว่าแฟนซื้อให้”
“ก็บอกแล้วว่าหนูไม่อยากมีแฟน กลัวไปสะดุดตอผู้ชายเช้าชู้เข้า” แม้ตอนนี้จะสะดุดตอคนเจ้าชู้เข้าเต็มๆไปแล้วก็ตาม ใจแข็งๆไว้ กอบัวเอ้ย!!
“ก็แล้วไป”
“ทำไมคะถ้าเป็นของคนอื่นพี่จะทำไม”
“พี่หวง...แถมหวงมากๆด้วย”
เสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนจะจูบหน้าผากได้รูปแล้วกลับไปตั้งใจขับรถต่อเมื่อไฟจราจรสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียวพอดี
ส่วนคนที่ถูกจูบหน้าผากถึงกับเหม่อ ใจเต้นแรง จากที่ควบคุมหัวใจตัวเองได้ ก็เริ่มไม่มั่นใจ ปากบอกไม่อะไร เป็นแค่ของเล่น เจอกันเวลาเหงาๆ นี่เขาจะเหงาทุกวันเลยหรือไงกันถึงขยันมาเจอกันทุกวัน จนหัวใจดวงน้อยเต้นแรง มือไม้สั่น เหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้องคล้ายอาการตกหลุมรักใครสักคน เฮ้อ อย่านะๆกอบัว อย่าได้ตกหลุมพลางคนเจ้าเล่ห์แบบเขาเด็ดขาด
ตอนที่ 13 เพราะฝนทำให้คนเหงา@คอนโดร่างบางก้มๆเงยข้างเตียงก่อนจะรื้อหาใต้พรม แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอสร้อยข้อมือเจ้าปัญหา แต่พอจะกลับเข้าไปหาในห้องน้ำอีกครั้งก็ต้องชะงักหันมาหาเข้าของห้องที่ยืนกอดอกพิงประตูอยู่“หาเจอไหม”“ไม่เจอค่ะ” รมย์รวินท์ส่ายหน้าไปมาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ตามหาจนทั่วทุกที่ซ้ำสองรอบก็ยังหาไม่เจอ“มากินข้าวก่อนพี่จัดโต๊ะเสร็จแล้ว พอกินเสร็จเดี๋ยวพี่จะช่วยหาอีกที”“ขอหาในห้องน้ำอีกรอบก่อนได้ไหมคะ”“ไม่ได้”“เห้อ” เธอถอนหายใจด้วยความหนักใจก่อนจะเดินตามร่างสูงที่เดินเข้ามากุมมือพาเดินออกมาที่โต๊ะกินข้าว ที่แปลกตาไปกว่าทุกครั้งเพราะมีอาหารจากโรงแรมชื่อดัง พร้อมกุหลาบช่อใหญ่วางไว้บนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฟุ้งผสมผสานไปกับกลิ่นเทียนหอมที่ประดับตามมุมต่างๆ“ต้องขนาดนี้เลยเหรอคะ”“ตอนที่เราหาสร้อยอยู่พี่สั่งอาหารมาไว้ให้ ส่วนอันนี้พี่ก็สั่งเพิ่มมาให้ เห็นเราดูเครียดๆ”“ขอบคุณนะคะ”รมย์รวินท์นั่งลงบนเก้าอี้ที่เขาขย
ตอนที่ 14 กอดแก้หนาวกรภัคลุกขึ้นถอดกางเกงออกจากตัวแล้วนอนแทรกกลางขาเรียวแล้วแหวกท่อนขาเรียวออกกว้างเป็นรูปตัวเอ็ม มองเนินดอกไม้เรียบเนียนตาเป็นประกายราวกับเสือร้ายเจอเหยื่อที่แสนถูกใจ ก่อนจูบเบาๆพร้อมใช้นิ้วบดคลึงเกสรสีชมพูตรงกลางจนน้ำหวานไหลซึม“ซี๊ด พี่เกมส์ขา”รมย์รวินท์หวีดร้องครางเสียงหลง หน้าท้องแบนราบกระตุกเกร็งเมื่อถูกลิ้นร้อนแตะลงกลางกลีบดอกไม้แล้วลากลิ้นไปตามรอยแยกช้าๆ พลางปัดป่ายไปทั่วดอกไม้จนสะโพกกลมกลึงลอยขึ้นเขาทั้งดูดและขบเม้มเกสรตรงกลางอย่างมูมมามและสอดลิ้นเข้าไปในเนื้อนุ่ม น้ำหวานสีใสก็ยิ่งไหลเยิ้มออกมาไม่หยุด เขายิ่งตักตวงความหอมหวานอย่างกระหาย“พะ พี่เกมส์ขา พะ พอก่อน หนูไม่ไหวแล้ว”“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำในลำคอบอกให้เขาหยุดแต่เด็กน้อยของเขากลับกดหัวไว้แน่นพลางเด้งเอวขึ้นใส่ไม่หยุด เขาก็ยิ่งดูดน้ำหวานราวกับแมลงดูดน้ำหวานจากเกสร“ไม่ไหวแล้วพี่เกมส์ อ๊ะๆ อือ”เนื้อนิ่มบีบรัดแน่นเมื่อร่างเล็กใกล้ถึงจุดสุขสมผมจึงสอดนิ้วเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่มทีเดียวสองนิ้วขยับเข้าออกแล้วดูดเกสรด้วยความหิวกระหายจนร่างบางกระตุกเกร็งแฮกๆเสียงหอบหายใจดังแผ่ว ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อนัยน์ตาค
ตอนที่ 15 ปิดบัง“โอ๊ย หัวจะปวด” ตังเมโอดครวญเสียงดังหลังจากที่อาจารย์และเพื่อนๆออกไปจากห้องเมื่อวิชาสุดท้ายของวันนี้จบลง ก่อนจะเท้าคางนั่งมองเพื่อนสนิทที่ฟุบอยู่กับโต๊ะตาปริบๆ“กอบัว”“....”“ตังเมแกว่ากอบัวมันไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา หลับทั้งคาบเช้า คาบบ่ายเลย”“นั่นดิพราว น่าสงสัยมากทั้งที่มันตั้งใจเรียนที่สุดในห้อง” ตังเมเปรยขึ้นพร้อมกับเขย่าไหล่เล็ก แต่อีกฝ่ายก็ยังคงนอนนิ่งเหมือนเดิม“กอบัว” พราวฟ้ายื่นมือไปสะกิดแผ่นหลังของเพื่อนที่ฟุบหลับอยู่“อื้อ” รมย์รวินท์ที่ฟุบหน้าหลับอยู่กับโต๊ะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก็เจอเข้ากับสายตาของสองสาวจ้องเขม็ง “ว่าไง”“เลิกคลาสแล้วจ้า”“อ้าวเหรอ”“ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา”“เอ่อ...” รมย์รวินท์อึกอักเล็กน้อยจะให้บอกสาเหตุจริงๆก็กลัวเพื่อนจะตกใจเสียก่อน“ดูซีรี่ย์สินะ”“อือ” ฉันรีบพยักหน้ารับคำของพราวฟ้าแล้วยิ้มแหยๆให้ ก่อนจะรีบเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อหลบสายตาที่จ้องจับผิด“ปกติแกไม่เคยดูซีรี่ย์จนเป็นแบบนี้นะ”
ตอนที่ 16 ฉันจะไม่ทนอึดอัด!อึดอัด!อึดอัดโว๊ย!รมย์รวินท์นั่งกระสับกระส่ายเมื่อความอึดอัดเพิ่มมากขึ้น จนเริ่มทนไม่ไหวจนต้องยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มดับอาการร้อนลุ่มในใจ“พี่เกมส์ขา”เสียงหวานที่ดังขึ้นเรียกความสนใจจนเธอต้องชำเลืองมองอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้รู้ว่าจะต้องเจ็บแต่ก็อดมองทั้งคู่ไม่ได้อยู่ดี“จี้คิดถึงพี่มากเลยนะ”“อือ”“พี่เกมส์ เย็นชากับจีจี้จังเลยนะ”“...” สิ่งที่จีจี้พูดไม่เคยซึมเข้ามาในหัวสมองของผมเลย เพราะจิตใจผมตอนนี้ห่วงแต่คนตัวเล็กฝั่งตรงข้ามที่กระดกเหล้าอย่างไม่กลัวเมา กลัวว่าเธอจะเมามากจนไปแผงฤทธิ์ใส่ผู้ชายคนอื่นเหมือนที่เคยทำกับผมยัยเด็กขี้เมานี่ขยันทำให้เป็นห่วงจริงๆ“พี่เกมส์ขา” จีจี้เอ่ยเรียกเสียงหวานพร้อมขยับกายเบียดแนบชิด ซบใบหน้าคลอเคลียอยู่กับอกกำยำแล้วยืดตัวไปหอมแก้มเขา แต่เจ้าตัวกลับนั่งนิ่งปล่อยให้จีจี้ทำได้ตามใจชอบรมย์รวินท์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ มือไม้สั่น จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้คนเรามีขีดความอดทนนะ และตอนนี้เธอก็
ตอนที่ 17 เกมความจริง“อย่าจีจี้” ผมพูดเสียงเข้มพร้อมกับเบือนหน้าหนีทันทีเมื่ออีกฝ่ายจะยืดตัวมาหอมแก้มอีกครั้ง“ทำไมคะพี่เกมส์” จีจี้ถามเสียงดัง เมื่อกี้ยังทำได้ แล้วทำไมตอนนี้เธอจะทำอีกไม่ได้“จีจี้! พี่บอกแล้วใช่ไหม ถ้าจะนั่งตรงนี้กับพี่ห้ามวุ่นวาย” กรภัคเอียงตัวหลบ เพราะก่อนหน้ามัวแต่มองยัยเด็กขี้เมาที่กำลังกระดกเหล้าหมดไปหลายแก้ว จนไม่ทันระวังตัวถูกจีจี้หอมที่แก้มทันทีแบบฉิวเฉียด“พี่ไม่ให้จูบ จีจี้ก็จะหอมไง”“อย่าพูดไม่รู้เรื่องได้ไหม”“จีจี้ก็ตามจีบพี่เกมส์มานานแล้ว เมื่อไหร่พี่จะใจอ่อนให้จีจี้บ้างล่ะคะ”“พี่เคยบอกไปแล้วนะว่าพี่ไม่ชอบเด็ก”“แล้วเด็กแบบจีจี้มันไม่ดีตรงไหน”“จีจี้ไม่ใช่สเปคพี่”“แหม่ พี่เกมส์ขา ของแบบนี้มันเปลี่ยนแปลงกันได้นะคะ ลองชิมดูก่อนไหมถ้าไม่ใช่ค่อยว่ากันอีกที” จีจี้ใช้ปลายนิ้วชี้ดันคางได้รูปขึ้น ก่อนจะยกยิ้มยั่วยวนแววตาเป็นประกาย“ไม่”“ใจร้าย”“จะมาว่าพี่ใจร้ายไม่ได้นะ ในเมื่อพี่ก็บอกกับจีจี้ตรงๆทุกอย่าง”“แหม่ ถ้าพี่ไม่มีใคร ก็เปิดใจให้กันหน่อยสิคะ บางทีเราสองคนอาจจะเข้ากันได้อย่างลงตัวก็ได้นะคะ”“เพ้อเจ้อ”“อ้าว แล้วนั่นพี่เกมส์จะไปไหนคะ”“อย่ามายุ่งกับ
ตอนที่ 18 ทบทวน“หนูพราวเริ่มเมาแล้ว กูกลับก่อนนะ แล้วน้องสองคนเอาไงจะให้พี่ไปส่งไหม” ธนัทเอ่ยขึ้นก่อนจะหันมองเพื่อนสนิทของพราวฟ้า“พวกหนูกลับไหวค่ะพี่ธันย์ สบายมากพี่พาพราวกลับก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวตังเมกับกอบัวก็จะกลับแล้ว”“โอเค งั้นขับรถกันดีๆนะ”คล้อยหลังธนัทไม่นานรมย์รวินท์ก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมดก่อนจะหันมาบอกกับเพื่อนสนิทอีกคนที่นั่งอยู่ “กลับกันเหอะ”“เห้ย กอบัวกลับเลยเหรอ” ตังเมฉุดแขนเรียวอีกครั้งแล้วกระซิบบอกเสียงเบา “อยู่ต่ออีกนิดนะ”“กลับเหอะ ขอร้อง” เพราะถ้านั่งนานกว่านี้น้ำตาที่กลั้นไว้ได้พังทลายไหลลงมาแน่นอน“แต่คนที่ฉันเล็งไว้ กำลังจะเดินเข้ามาอยู่แล้วนะ”รมย์รวินท์มองไปตามสายตาเพื่อนสนิทก็เห็นรุ่นพี่วิศวกรรม สาขายานยนต์ กลุ่มเพื่อนสนิทพายุเดินเข้ามา แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจแล้วว่าเพื่อนเล็งคนไหนไว้ เพราะตอนนี้เธออึดอัดจนจะเปิดตัวเองออกมาอยู่แล้ว“งั้นฉันกลับก่อน แกก็อยู่...”“ไม่ๆ” ตังเมเอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา “โอกาสเจอชายในฝันเมื่อไรก็ได้ เดี๋ยวฉันกลับพร้อมแกเลยดีกว่า” ตังเมรีบพูดตัดบท เมื่อเห็นแววตาที่ดูเศร้าๆของเพื่อนสนิท“กระซิบอะไรกันสองสาว” มุกตาภาเอ่ยถามเ
ตอนที่ 19 สองต่อสอง“หนีหน้าพี่ทำไม”ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงทุ้มดังอยู่ข้างหู ทำให้ฉันรีบหันกลับไปมองด้านหลังทันที จนใบหน้าเกือบชนกับหน้าอกกำยำ“พี่เกมส์”“ตอบคำถามพี่ก่อน” กรภัคก้าวเท้าขยับไปใกล้ก่อนจะยกมือทาบบนหลังคารถแล้วโน้มใบหน้าลงมาใกล้“ถอยไปเลยค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”“ตอบมาก่อน สองวันนี้หนีหน้าพี่ทำไม”“ไม่ได้หนีค่ะ”“แล้วโทรไปทำไมไม่รับ ทักไปก็ไม่ตอบคืออะไร”“ก็แค่...กอบัวไม่ว่าง”“แล้วเราไปนอนที่ไหน คอนโดก็ไม่ยอมกลับ”“ไปนอนที่คอนโดตังเมมาค่ะ”“โกรธพี่เรื่องจีจี้ใช่ไหม”“เปล่าค่ะ”“เอาความจริง”“กอบัวไม่ได้โกรธ แค่...”“แค่อะไร”“เปล่า ไม่มีอะไร” เพราะต่อให้พูดออกไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาท่องไว้ให้ขึ้นใจนะกอบัวกรภัคลูบผมนุ่มก่อนจะดึงเข้ามากอดไว้แนบอก “พี่ขอโทษที่พี่ไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่พี่สัญญากับเราไว้แล้ว แต่พี่พูดจริงๆนะว่าพี่กับจีจี้ไม่ได้เป็นอะไรกัน และพี่ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันแม้แต่ครั้งเดียว”“หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว ถ้าพี่จะคบกับใครก็แค่มาบอกกับหนูตรงๆ ไอ้เรื่องที่เคยตกลงกันไว้จะได้จบ”“อย่าพูดแบบนี้สิ”“ทำไมคะ
ตอนที่ 20 ปราบเด็กดื้อกรภัคเอี้ยวตัวไปปิดเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ก่อนจะหันกลับมากดจูบที่ริมฝีปากนุ่ม ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปาก แล้วดูดดึงอย่างแผ่วเบาสลับร้อนแรงยิ่งคนตัวเล็กกว่าแลกจูบตอบในขณะที่มือหนาลูบไล้ไปที่ท่อนขาสวยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเนินดอกไม้เรียบเนียน ปลายนิ้วก็เริ่มสอดเข้าไปยังใต้กางเกงตัวเล็ก ก่อนจะขยี้เกสรตรงกลางผ่านแพนตี้ตัวจิ๋ว“อื้ม พะ พี่เกมส์”เสียงหวานหวานหูทำให้ใบหน้าหล่อซุกไซ้ลำคอระหงพร้อมกับใช้นิ้วแหวกกลีบกุหลาบไปตามรอยแยกจนน้ำหวานสีใสฉ่ำเคลือบจนปลายนิ้วมันวาว“ตรงนี้ได้ไหม”“หนูเขิน”ร่างสูงไม่ทันได้ฟังคำตอบก็รั้งกางเกงขาสั้นพร้อมแพนตี้ลงมากองที่ปลายเท้าแล้ว ก่อนจะดันให้ร่างเล็กเอนตัวไปด้านหลัง พร้อมกับจับท่อนขาเรียวแยกออกจากกันเขากลืนน้ำลายลงคอ สายตาจับจ้องดอกไม้สีสวยที่กำลังผลิอ้า ฉ่ำวาว เนื้อนุ่มขมิบรัดราวกับเชิญชวนให้เขาลิ้มรสน้ำหวาน จนเขาอดทนต่อไม่ไหวจึงละเลงลิ้นเลียจนเด็กน้อยดิ้นพล่าน“พะ พี่ เกมส์ อ๊ะ อ่า”รมย์รวินท์หลับตาพริ้ม ลมหายใจสะดุดเมื่อถูกลิ้นร้อนลากเลียไปตามรอยแยกสลับกับอ้าปากงับเกสรสีชมพูตรงกลางแผ่วเบา แต่กลับทำให้ความปรารถนาที่มีพุ่งพล่
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้
ตอนที่ 37 ทะเลเดือด“เดี๋ยวเราไปเที่ยวที่นี่กันก่อนนะคะ ไปหาข้าวเที่ยงกินที่นี่ด้วย”“ตามใจไกด์เลยครับ” กรภัคบอกเสียงอ่อนโยนพร้อมกับกุมมือนุ่มไว้ตลอดทางจนกระทั่งถึงที่หมาย“เดี๋ยวหนูพาพี่เที่ยวที่โซนนี้ก่อนนะเวลามีน้อย คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะพาเที่ยวให้ครบแปดโซนเลยค่ะ”“โอเคครับ”“งั้นไปกันค่ะ”รมย์รวินท์เช่าจักรยานสมาสองคัน เธอกับเขาปั่นเลียบไปตามริมน้ำชมอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลที่ตั้งเด่นสง่า ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ที่มียอดแหลมตรงปลายโบสถ์ทั้งสองข้าง ภายในงดงามด้วยการประดับกระจกสี“สวยมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะ”“เป็นแลนมาร์คของจังหวัดเลยค่ะ ป่ะนี่ก็ใกล้เที่ยวแล้วเดี๋ยวหนูพาไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงกับเส้นจันท์ผัดปูนิ่มที่ร้านริมน้ำบอกเลยว่าอร่อยมาก เอ๊ะหรือส้มตำทุเรียนดี”“โอ้โห่ ทุเรียนพี่ว่าพอก่อนดีกว่า เมื่อเช้าแม่เราก็จัดให้พี่เต็มที่เลย แล้วเรายังแกล้งพี่ไว้แสบมากอีกนะ”“ก็เลือกที่จะไม่กินก็ได้นี่คะ เหมือนที่พี่ไม่ไปช่วยงานแม่พี่ที่ตลาดช่วงหน้าทุเรียนไงคะ
ตอนที่ 36 ดูดาวกันนะ หลังจากที่ทานข้าวอิ่มเรียบร้อยกอหญ้าก็ขอตัวไปนอนเพราะต้องลงสวนแต่เช้า กรภัคจึงรีบเดินไปรั้งเอวบางที่กำลังจะเดินเข้าห้องมากอดไว้แนบอก“พี่เกมส์ทำอะไรคะเนี่ย ปล่อยเลย”“พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะ”“ก็บอกดีๆสิคะ มากอดทำไม เดี๋ยวแม่มาเห็นเข้า”“พี่กลัวเราหนีพี่อีก” กรภัคพาร่างบางเดินมานั่งหน้าบ้านที่มุมนั่งเล่นตรงระเบียงซึ่งมีศาลาขนาดเล็กตัวไม้ระแนงมีผู้ผ้าพริ้วสีขาวตามเสาบ้าน รอบๆปลูกไม้ประดับจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว“มีอะไรก็พูดมาสิคะ”“มานอนดูดาวกันนะ”รมย์รวินท์นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆแต่กลับถูกเขาดึงไปนั่งบนตักสองแขนกำยำกอดรอบเอวบางแล้ววางคางเกยบนไหล่เล็ก“พี่คิดถึงเรามากเลยนะรู้ไหม”“....”เมื่อเธอไม่ตอบแต่การที่เธอเอียงศีรษะซบอกก็ทำให้ผมยิ้มออกมา ซึ่งยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่เปรี่ยมไปด้วยความสุข“พี่รักเรานะ ขอโทษที่พี่ไม่ได้ดีพอจนสุดท้ายทำให้เราต้องเสียใจ
ตอนที่ 35 คนเดียวสักพัก“เฮ้อ” รมย์รวินท์ถอนหายใจเฮือก ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านก่อนจะพูดคุยกับผู้เป็นแม่ ถ้าเจออะไรอย่าตกใจ อย่าใช้อารมณ์ อย่าใช้สมองให้ใช้หัวใจตัดสิน ที่แม่พูดมาทั้งหมดคงหมายถึงเขาสินะครืด ครืด ครืด“โทรมาได้จังหวะพอดีเลย” รมย์รวินท์รีบรับสายเมื่อเห็นชื่อเพื่อนสนิทโทรเข้ามา “กำลังจะโทรหาพอดีตังเม”“แกเจอพี่เกมส์แล้วใช่ไหม”“เจอแล้ว แกรู้อยู่แล้วหรอว่าเขามาที่นี่”“อือ”“แล้วแกไม่บอกฉันก่อน”“แหม่ๆ ทำอย่างกับรับสายงั้นแหละ ฉันกับพราวโทรหาแกจนสายเกือบไหม้แล้วมั้ง ข้อความที่ส่งไปเปิดอ่านบ้างหรือเปล่าเถอะ”“โทษทีจะเพื่อนรัก แต่หยุดบ่นก่อน ช่วยคิดหน่อย”“จะให้ช่วยคิดยังไง เรื่องนี้แกต้องตัดสินใจเอง หัวใจแก แกก็น่าจะรู้ดีที่สุดแล้วนะกอบัว มาถามฉันก็จะช่วยอะไรได้นอกจากโทรมาฟังแกระบาย”“เรื่องจริงใช่ไหม”“อือ วันนั้นฉันก็อยู่กับพวกพี่เขา พี่ชินเขาก็อยู่ด้วยนะ เขาเล่าและยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ”“แต่ตอนที่ฉันขึ้นไปฉันก็ไม่เห็นแม้แ