ตอนที่ 5 ตามที่ใจปรารถนา
รถอาวดี้คันหรูแล่นไปตามท้องถนนเมืองหลวงที่ค่อนข้างโล่งกว่าทุกวันจนกระทั่งมาจอดสนิทที่หน้าคอนโดหรู
“พี่เกมส์ ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนูที่คอนโดคะ” ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองตึกสูงข้างหน้าไม่ว่ามุมไหน ก็ไม่ใช่คอนโดเธอ
“ก็พี่ถามเราแล้วว่าเราอยู่ที่ไหน แต่เราไม่ตอบพี่”
“ถามตอนไหน หนูไม่เห็นได้ยินเลย”
กรภัคเกาหัวแล้วเสยผมขึ้นแรงๆอยากจะเอาหัวตัวเองทุ่มใส่พวงมาลัยสักทีสองที เพราะก่อนหน้านี้เธอหลับมาตลอดทาง เขาทั้งเรียก ทั้งสะกิดถาม แต่สิ่งที่ได้มาคือความเงียบ
“ไหนๆก็มาถึงแล้วนอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับ”
“ให้หนูนอนกับพี่ หนูไม่ปลอดภัยแน่นอน ไม่เอาหนูจะกลับห้อง”
“อย่าดื้อได้ไหม แล้วตอนนี้พี่ก็ง่วงแล้วด้วย”
“แล้วถ้าหนูปล้ำพี่จะทำไงล่ะ”
“เออ เดี๋ยวพี่ขัดขืนเอง ลงมาก่อน”
“อื้อ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับ แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ เดินเซไปมาจนคนที่แอบมองอยู่ด้านหลังช้อนตัวขึ้นอุ้ม
“พี่เกมส์”
“ง่วงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นไปเอง”
“อือ”
ดวงตาคู่สวยปิดสนิทอีกครั้งแล้วหันหน้าซุกอยู่กับอกแกร่งกำยำ ปกติเธอค่อนข้างเป็นคนนอนหลับยากมาก ต่อให้กินเหล้าเมามากขนาดไหนก็ไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง แต่พอได้กลิ่นกายบุรุษแสนหอมเธอก็เผลอหลับอย่างง่ายดาย
เมื่อขึ้นมาถึงคอนโดชั้นสูงสุดผมค่อยๆวางร่างเล็กลงบนเตียงนอนอย่างเบามือเพราะกลัวเด็กขี้เมาจะตื่นขึ้นมาโวยวายอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำแล้วออกมาด้วยกางเกงนอนขายาวสีกรมเข้มเพียงตัวเดียวเปลือยท่อนอกนอนเหมือนกับทุกๆครั้ง
“เอาไงดีล่ะ นอนตรงไหนดีวะกู”
ร่างสูงยืนพูดอยู่คนเดียวข้างเตียงที่มีคนตัวเล็กนอนกอดหมอนข้างหลับตาพริ้ม แพขนตาเรียงตัวสวย จมูกโด่งทรงหยดน้ำ ปากอวบอิ่มเป็นกระจับดูน่ารัก
“หลับไปแล้ว คงไม่คึกตื่นขึ้นมาปล้ำแบบที่เธอบอกหรอกมั้ง”
เมื่อหาคำตอบให้กับตัวเองผมก็เดินไปปิดไฟแล้วอ้อมมาอีกฝั่งก่อนจะก้าวขาขึ้นไปนอนบนเตียง พร้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมอกแล้วหันหลังนอนชิดขอบเตียงเพื่อเว้นระยะห่าง
หมับ!
เมื่อเคลิ้มๆกำลังจะหลับแขนเรียวเล็กพาดมากอดที่เอวหนาพร้อมกับซุกใบหน้ากับแผ่นหลัง ผมจึงปล่อยเลยตามเลยโดยไม่สนใจเพราะคิดว่าเธอละเมอ แต่แล้วผมก็รู้สึกว่ามีปลายนิ้วกำลังลากวนรอบสะดือของผมจนทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วรีบตะครุบมือเล็กเอาไว้เมื่อมือนั้นกำลังเลื่อนลงที่กลางกายที่มีเจ้ายักษ์ตัวใหญ่นอนสงบนิ่งอยู่ แต่มันจะตื่นก็เพราะมือเล็กที่อยู่ไม่สุขนี่แหละ ลูบไล้จนขนในกายลุกซู่ ทำให้ความปรารถนาที่เก็บซ้อนอยู่ภายในร่างกายของผมปะทุขึ้นมาอย่างง่ายดาย
ผมพลิกหันกลับมามองเล็กน้อย ปรากฏว่าเธอลืมตามองด้วยแววตาหยาดเยิ้มก่อนจะใช้ช่วงที่ผมกำลังเผลอพลิกกายขึ้นคร่อมทันที
“พี่เกมส์ขา”
“กอบัว เราลงมานอนดีๆ”
“กอบัวจะปล้ำพี่เกมส์ล่ะนะ”
“ลงมานอนดีๆ เดี๋ยวนี้ แล้วก็เลิกพูดจาก๋ากั่นได้แล้ว” ผมสั่งเสียงเข้มเมื่อเห็นแววตาแพรวพราวของคนตัวเล็กที่นั่งทับเจ้ายักษ์ตัวใหญ่
“ไม่”
เมาแล้วน่ากลัวเป็นบ้า ถ้ายัยเด็กนี่เมาแล้วไปไล่ปล้ำคนอื่น ผมคงปวดใจน่าดู แล้วมึงจะไปปวดใจเขาทำสากกะเบืออะไรวะไอ้เกมส์ มึงไม่ได้เป็นอะไรกับเขานี่หว่า แล้วยัยเด็กนี่ก็ไม่มีอะไรตรงสเปคมึงสักอย่าง
“อ๊ะ!”
ระหว่างที่ผมนอนคิดอะไรอยู่คนเดียวก็เผลอครางเสียงต่ำในลำคอเมื่อถูกปากอวบอิ่มก้มจูบที่ยอดอกสีชมพู
“กอบัว”
“ตัวพี่เกมส์หอมจัง หอมมาก จนหนูอยากกลืนกินพี่ทั้งตัวเลย”
“หยุดเลย ลงมานอนดีๆ”
“พี่เกมส์ก็นอนเฉยๆสิ เดี๋ยวหนูทำเอง” เมื่อพูดจบร่างเล็กก็ขยับคลานเข่าถอยหลังไปนอนแทรกกลางท่อนขากำยำอย่างกับคนเจนสนาม จนหน้าอกอวบที่ซุกอยู่ในเสื้อห้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงจนเห็นร่องอกอวบอิ่ม จนพาให้ใจผมเต้นแรงหายใจติดขัด จนเผลอกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่
“ถ้าความต้องการเราตรงกัน พี่ก็แค่ปล่อยใจจอยๆสิคะ” เสียงหวานราวกับมีมนตร์สะกดให้ตกอยู่ในภวังค์ของแม่มดร้ายขี้ยั่ว ก่อนที่เจ้าตัวจะเลื่อนตัวลงจนใบหน้าเสมอกับเจ้ายักษ์ที่กำลังพองขยายจนดันกางเกงขึ้นมา
“อือ หือ”
พรึ่บ!
“พี่เกมส์!”
ผมดึงร่างบางขึ้นมานอนเกยบนอกพร้อมกอดไว้แน่น แล้วพลิกกายขึ้นคร่อมทับร่างบาง จนคนที่ไม่ทันตั้งตัวหวีดร้องจนเสียงหลง
“ว้าย พะ พี่เกมส์ จะเป็นฝ่ายรุกเองหรอคะ”
“เมาก็หลับ ก่อนที่พี่จะอดทนไม่ไหว”
“กอบัวไม่อยากให้พี่ทนนี่คะ” เสียงหวานเย้ายวนก่อนที่จะยกมือเล็กขึ้นลูบแก้มเขาอย่างแผ่วเบาก่อนจะไล้ปลายนิ้วไปตามท้ายทอยแล้วกดลงมาประกบปากจูบทันที
“อื้อ”
ปากนุ่มประกบจูบมาที่ปากผม ถึงคำพูดเธอจะดูก๋ากั่นแต่การกระทำเทียบเท่ากับเด็กอนุบาลที่ไม่ประสีประสาก่อนที่ผมจะผลักเธอออกห่าง จูบโคตรเด็กน้อยเลยยัยเด็กขี้เมานี่!
“ไม่เคยเหรอ” ผมถามออกไปอย่างที่ใจคิด
“อือ ไม่เคย” รมย์รวินท์สายหน้าไปมาจนเส้นผมสีน้ำตาลลอนมาม่าสยายไปมาเต็มที่นอน
“แล้วยังจะอ่อยเก่ง”
“กอบัวไม่รู้ทำไมพอเป็นพี่ กอบัวถึงเป็นแบบนี้ พี่ดีดน้ำมันพรายใส่กอบัวหรือเปล่าเนี่ย”
“เราไม่ใช่สเปคพี่เลย จะดีดใส่ทำไม”
“พี่พูดแบบนี้ ยิ่งกระตุ้นหนูนะ จนหนูอยากเอา...”
“เอาอะไร” ผมถามขึ้นทันควันชอบพูดจาสองแง่สองง่ามมันน่าจับฟาดสักทีสองที
“เอาชนะพี่ไง คิดลึกอยู่อ่ะดิ”
“อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นนะ รู้ไหมมันอันตราย”
“อือ”
“งั้นนอนนะ แล้วพรุ่งนี้พี่จะไปส่ง ฝันดีนะครับ” ผมกดจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนแล้วนอนลงข้างๆจนคนตัวเล็กมองตาม คิ้วได้รูปขมวดเป็นปม
“นอนได้แล้ว งง อะไรอีก หืม”
“เปล่า”
“นอนได้แล้ว”
“แต่กอบัวนอนไม่หลับ”
“จะให้พี่ทำไง”
“ทำแบบนี้ไง”
ร่างบางดันตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วประกบจูบที่ปากหยักได้รูปแล้วบดขยี้เบาๆ จนเขาเผลออ้างปากเธอจึงสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากอย่างเงอะงะ ดูไม่ประสีประสา
“อื้อ อืม”
รมย์รวินท์ครางออกมาเสียงแผ่วเมื่อลิ้นที่สอดเข้าไปถูกเขาดูดดึงจนปวดกราม ซ้ำยังยอกเย้าไปมาจนคนไร้ประสบการณ์มัวเมา จนหลงใหล
ความยับยั้งชั่งใจเขาพังทลาย เมื่อเธอกดจูบลงมาอีกครั้ง กลิ่นกายแสนหอม และเนื้อตัวที่นุ่มนิ่ม กับความนุ่มนวลของกลีบปากทำให้เขาจูบเด็กขี้เมากลับอย่างเร้าร้อนจนเธอครางอยู่ในลำคออย่างไม่เป็นประสาเขาจึงพลิกกายขึ้นคร่อม
“จะเอาแบบนี้ใช่ไหม” ผมถามขึ้นเสียงเรียบ
“อือ”
“พี่ไม่รับผิดชอบนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้”
“กอบัวก็ไม่ต้องการความรับผิดชอบอยู่แล้ว”
สิ้นเสียงหวานผมประกบจูบอีกครั้ง ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากพลางยอกเย้าลิ้นเล็กที่พลิกหลบไปมาแล้วดูดดึงด้วยความหิวกระหาย ไม่เคยมีใครปลุกอารมณ์ผมได้มากขนาดนี้ คงจะมีแค่เด็กขี้เมาชอบอ่อยนี่ ที่กำลังทำให้ผมก้าวข้ามเส้นที่ตัวเองขีดไว้
ไม่ชอบเด็ก แต่ผมกลับจูบเด็กอย่างร้อนแรงจนเกิดเสียงดังในลำคอ ความปรารถนาก็ยิ่งลุกโชนราวกับใครเติมเชื้อไฟ
“อืม”
ร่างสูงถอนจูบแล้วเลื่อนต่ำลงมาที่ลำคอระหง พร้อมจูบไปตามไหล่เล็กจนขึ้นรอยสีกุหลาบ
“อยากให้พี่หยุดไหม”
“ไม่ค่ะ”
มือหนารั้งเสื้อตัวเล็กออกจากร่างบางจนเห็นอกอวบที่มีแผ่นซิลิโคนสีเนื้อปิดปลายยอดอยู่ เขาจึงใช้ปากดึงออกอย่างไม่ใยดีแล้วอ้าปากครอบครองส่วนปลายสีหวานพร้อมตวัดลิ้นหมุนเป็นวงกลมอย่างช่ำชองพลางสลับข้างไปมาอย่างเท่าเทียมข้างไหนที่ว่างก็ถูกมือหนาบีบเคล้นจนขึ้นรอยแดง
“อ๊ะ อื้อ พี่เกมส์ขา”
เสียงหวานครางกระเส่าเมื่อถูกเขาดูดหน้าอกอย่างมูมมาม ฟันคมครูดผิวเนียน แล้วเผลอกัดที่ปลายยอดอย่างมั่นเขี้ยวจนเธอสะดุ้งเจ็บแปรบแต่ก็เต็มไปด้วยความเสียวซ่านแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน จนเผลอแอ่นอกขึ้นให้เขาเชยชมจนหน้าอกทั้งสองข้างฉ่ำไปด้วยน้ำลาย
ในเวลาเดียวกันมือหนาที่บีบเคล้นอกอวบได้เลื่อนลงมาที่กลางกายแล้วแหวกแพนตี้ตัวจิ๋วพร้อมสอดนิ้วไปตามรอยแยกกลางดอกไม้ช้าๆจนร่างเล็กผวาเฮือกด้วยความเจ็บ แม้จะมีน้ำหวานไหลเคลือบปลายนิ้วอยู่จำนวนมากก็ตาม ก่อนจะรั้งท่อนขาเรียวให้แยกออกจากกัน
กรภัคเอื้อมมือควานหาถุงยางอนามัยที่เขามักซื้อเก็บไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงมาสวมใส่อย่างรวดเร็วแล้วจับเจ้ายักษ์ตัวใหญ่ที่กำลังชูคอผงาดจ่อที่กลางดอกไม้แสนสวยช้าๆ
“อ๊ะ พี่เกมส์” ใบหน้าสวยเหยเก เม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆขึ้นตามไรผมเธอหอบหายใจกระเส่าเพราะรสสัมผัสที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
“ทำไม หืม”
“จะ เจ็บ”
“นิดเดียวนะเชื่อพี่ ซักพักเราจะไม่เจ็บ” เพราะเขาเดินหน้ามาไกล จนถอยหลังกลับไม่ทันแล้ว ก่อนจะโน้มตัวจูบที่ปากนุ่มอีกครั้ง พอเธอเผลอจึงดันเจ้ายักษ์ฝ่าเนื้อนุ่มคับแน่นเข้าไปทีเดียวจนสุดความยาว
“อ๊ะ อือ พี่เกมส์ หนู จะ เจ็บ”
รมย์รวินท์หันหน้าหนีจากจูบแสนหวานหวีดร้องครางเสียงหลง ใบหน้าเล็กชื้นไปด้วยเหงื่อ
“พี่ขอโทษนะ เราอย่าเกร็งสิเด็กดี” ผมจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน เพราะตอนนี้เขาก็เจ็บไม่ต่างจากเธอเมื่อถูกบีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก
“เราไม่เคยเหรอ”
“อือ”
“ทำไมไม่บอกพี่”
“หนูบอกพี่แล้ว”
นั่นสิเธอบอกแล้วแต่ผมไม่เชื่อเองเพราะคิดว่าเธอคงโกหกเหมือนกับคู่ขาที่ผ่านๆมา ไหนจะความก๋ากั่น ขี้ยั่ว ทั้งยังชอบอ่อยแต่หยดเลือดสีน้ำตาลบางส่วนที่ติดเจ้ายักษ์ยืนยันได้ดีว่าคนตรงหน้าคือผู้หญิงบริสุทธิ์
“เจ็บมากไหม”
“อือ เจ็บ”
“พี่จะค่อยๆขยับนะ อย่าเกร็ง ถ้าเจ็บบอกพี่นะ”
พอคนใต้ร่างพยักหน้ารับผมจึงโน้มตัวไปจูบกลีบปากนุ่มที่บวมเจ่อเล็กน้อยพร้อมกับขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ
ความเจ็บที่มีเริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยความเสียวซ่านจนจมดิ่งไปกับบทรักแสนเร้าร้อน นี่ขนาดครั้งแรกของเธอเขายังขยับโพกตอกอัดความแข็งแรงเข้าหาจนสุดความยาวจนร่างบางสั่นสะท้านโยกไหวไปตามจังหวะ
“ซี๊ด อ๊ะๆๆ อ่า”
“หายเจ็บหรือยัง”
“หะ หายแล้ว แต่ว่ามัน...อื้อ”
“มันเสียวใช่ไหม” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหู ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดต้นคอก็ยิ่งลุ่มหลงไปกับสัมผัสหวาบหวาม
“อือ”
“นี่แค่ธรรมดา เตรียมตัวเจอของจริงได้เลย” เพราะรู้ตัวว่าเป็นคนกินจุ และร้อนแรง บอกเลยว่าครั้งเดียวไม่ใช่ไอ้เกมส์คนนี้
มือหนาดันท่อนขาเรียวขึ้นชิดอกอวบแล้วกระแทกสะโพกเข้าหาเนื้อนุ่ม จากที่อ่อนโยนบทรักก็เริ่มดุเดือดร้อนแรงขึ้น
พี่เกมส์ขา อ๊ะ อ่า”
รมย์รวินท์เรียกเขาไม่ขาดปากเมื่อถูกไฟรักที่เขาสร้างขึ้นแผดเผาจนร้อนลุ่มไปทั้งตัวไม่ว่าเขาจะจับพลิกอยู่ในท่วงท่าไหนก็คล้อยตามอย่างง่ายดาย เห็นหล่อๆ นิ่งๆ กวนตีนไม่คิดว่าลีลารักจะเร้าร้อนมากขนาดนี้
ท่อนขาเรียวถูกจับพาดที่บ่ากำยำสองมือบีบเคล้นอกอวบแล้วกระแทกกระทั้นเจ้ายักษ์เข้าหาอย่างรัวเร็ว จนคนใต้ร่างครางเสียงดังลั่นห้อง ผสานไปกับเสียงเนื้อกระทบกันต่อเนื่องยาวนานจนเกือบเช้า
ตอนที่ 1 สัญชาตญาณนักสู้ ร่างบางเดินโซซัดโซเซมือเล็กเกาะผนังพยุงร่างตัวเองเดินไปตามทางเข้าห้องน้ำ ก่อนจะชะงักหยุดยกมือขึ้นกุมศีรษะพลางสะบัดส่ายหน้าไปมา เมื่อฤทธิ์ค็อกเทลร้อนแรงอย่างบีห้าสิบสอง (B52) เล่นงานจนหน้ามืด มึนหัว ดวงตาคู่สวยพร่ามัวจวนจะปิดสนิท “โอ้ย กอบัว แกไม่น่ากินตามแรงยุพวกพี่เขาเลย” เสียงหวานบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ โดยที่ในใจอดด่าเจ้าของผับไม่ได้ทำไมทำห้องน้ำไกลจังวะเท้าเรียวเดินเซมาเรื่อยๆตามทางเดินแต่ทว่า มาโผล่อีกทีดันเป็นลานจอดรถ!“อาการแกหนักแล้วกอบัว” เสียงหวานบ่นตัวเองแผ่วเบาก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในผับโดยไม่ทันระวังจนชนเข้ากับกำแพงมนุษย์เต็มแรง “โอ๊ย ซี๊ดใครแม่งมายืนขว้างหน้าวะ” มือเล็กยกขึ้นลูบจมูกตัวเองเบาๆ ถ้าไม่ใช่ว่าแม่ให้มานะป่านนี้คงนั่งน้ำตาซึมไปหาหมอที่คลินิกไปแล้ว คนบ้าอะไรวะตัวแข็งเป็นบ้า แต่ไอ้นั่นที่อยู่ใต้กางเกงจะแข็งไหมวะ พอคิดแบบนั้นดวงตาคู่สวยก็ยิ่งจดจ้องเพ่งเล็งสายตาที่เป้ากางเกงกำแพงมนุษย์ “เมาแล้วอย่าหื่น หน้าพี่อยู่นี่”“พี่เกมส์” เธอร้องตกใจเมื่อคนที่เดินชนเป็นคนเดียว
ตอนที่ 2 ทำอะไรลงไป ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือขึ้นเมื่อแสงของเช้าวันใหม่สาดทอเข้ามาภายในห้องน้ำ เธอจึงขยับตัวหันหน้าหนีแต่กลับเจอกล้ามหน้าอกของใครบางคน จนแทบหยุดหายใจ ปากคอแห้งผาดก่อนที่จะค่อยๆตั้งสติที่กำลังแตกกระเจิงให้เข้าที่เข้าทางแล้วนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืน “เชี้ยแล้ว ทำอะไรลงไปวะเนี่ย” รมย์รวินท์ยกมือปิดปากร้องอุทานเสียงเบาในลำคอ เมื่อเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด แต่คงไม่ใช่เขาหรอกมั้ง...จากที่คิดว่าเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่ประถมศึกษาอย่างตังเมจะคอยพูดล้อเล่นอยู่บ่อยๆว่าเธอเมาแล้วชอบอ่อยผู้ชาย บุญเท่าไรแล้วที่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ หรือเปล่าวะ?เธอขยับตัวอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวคนข้างๆจะตื่นขึ้นมา แล้วก้มหน้างุดเพราะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นมองตัวเองที่มีเสื้อผ้าอยู่ครบทุกชิ้น แล้วลองยกขาเรียวแยกออกจากกันเล็กน้อยก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ หวังว่าเมื่อคืนคงไม่มีสงครามกลางเตียงขึ้นหรอกนะแต่พอขยับตัวลุกกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วทำใจกล้าหันมองคนข้างกายเธอถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดปากอยากจะกรีดร้องให้ตึกถล่มทับให้ตายคาที่ไปเลย จากที่ไม่ค่อยมั่นใจพอเห็นหน้าเ
ตอนที่ 3 เจออีกแล้ว รมย์รวินท์เดินหาซื้อผักผลไม้ที่มีแม่ค้าตั้งแผงขายเรียงรายเต็มตลาดที่ใหญ่ที่สุด ใหญ่ระดับประเทศเลยก็ว่าได้ เดินทั้งวันขาคงได้เปลี้ยจนไม่มีแรง เพราะแค่นี้ก็เริ่มรู้สึกล้าไปทั้งขาแล้ว “เอาอันนี้ค่ะป้า” มือบางส่งกระหล่ำปลีสีเขียวแซมขาว ขึ้นฉ่ายและแครอทส่งให้แม่ค้า “หกสิบบาทจ้า” “นี่ค่ะ” เธอหยิบเงินยื่นให้แม่ค้าแล้วหยิบถุงผักใส่ตะกร้าล้อลากเดินไปยังร้านอื่นต่อ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายใบเล็กสั่นสะท้าน “เออ ว่าไงตังเม” “กอบัว แวะตลาดแค่นี้นานจังวะ” ตังเมกรอกเสียงถามมาตามปลายสายเพราะเย็นนี้ตกลงกันว่าจะกินหมูกระทะกันที่คอนโดของเธอ แต่เพื่อนสนิทอย่างกอบัวกลับยังมาไม่ถึงสักทีทั้งที่ใกล้เวลานัดเต็มที “รีบอยู่” “ซื้อผักนะจ๊ะ ไม่ใช่ให้ไปส่องพ่อค้า นานเกิ้น”“โอ้ย พ่อคงพ่อค้าอะไรล่ะ ไม่มีทั้งนั้นแหละ แต่ลูกเจ้าของตลาดก็ว่าไปอย่าง” รมย์รวินท์พูดเย้าเสียงขำก่อนจะหุบปากฉับเมื่อได้ยินเสียงพราวฟ้ารอดมาตามสาย“แล้วรู้ไหมว่าตลาดที่แกยืนอยู่ตอนนี้เขามีลูกชายหล่อด้วยนะ”
ตอนที่ 4 เด็กขี้เมา “กว่าจะมา” ตังเมเปรยขึ้นเมื่อเปิดประตูให้เพื่อนสาวที่หอบหิ้วของมาเต็มมือ“รถติดน่ะ”“รถติดหรือติดหัวใจลูกเจ้าของตลาดอยู่กันแน่”“โอ้ย ก็พูดไปนั้น ไม่ชอบหรอกคนเจ้าชู้ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้”“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลยกอบัว ไม่ต้องวกมาเรื่องฉัน” พราวฟ้ารีบห้ามเพราะประเด็นร้อนมันไม่ได้อยู่ที่เธอแต่อยู่กับคนที่มาทีหลังต่างหาก“สรุปว่าไง เรื่องเมื่อคืน” ตังเมเอ่ยถามขณะแกะผักออกจากถุงเพื่อล้างน้ำสะอาด“ไม่มีอะไรเลย พี่เขาก็แค่ไปส่งเฉยๆ”“จ้า เชื่อ” พราวฟ้าพยักหน้ารับแต่กลับยกยิ้มล้อเลียนจนกอบัวหน้ามุ่ย“โอ้ย พูดก็ไม่เชื่อ งั้นไม่ตอบแล้ว”“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว” พราวฟ้าเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบมืดหั่นแครอทแล้วหยิบใส่หม้อเพื่อทำน้ำซุป“เอ้อ แล้วทำไมถึงกลับพร้อมพี่เขาได้” ตังเมที่กำลังล้างผักหันมาถามด้วยความสงสัย“เมา แล้วบังเอิญไปเจอพี่เขาพอดี เขาคงสงสารมั้งเลยพาไปส่ง”“กอบัว!!”“อะไรตังเม จะตะโกนทำไมเนี่ย จกใจหมด”“นั่นสิ มีอะไรหน้าตื่นเชียว เจอหนอนในผักเหรอ” พราวฟ้าเอ่ยถาม“แกไปอ่อยพี่เขาหรือเปล่า” ตังเมถามด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าเวลาอีกฝ่ายเมาหนักมากๆจะเป็นอย่างไร“