ตอนที่ 5 ตามที่ใจปรารถนา
รถอาวดี้คันหรูแล่นไปตามท้องถนนเมืองหลวงที่ค่อนข้างโล่งกว่าทุกวันจนกระทั่งมาจอดสนิทที่หน้าคอนโดหรู
“พี่เกมส์ ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนูที่คอนโดคะ” ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองตึกสูงข้างหน้าไม่ว่ามุมไหน ก็ไม่ใช่คอนโดเธอ
“ก็พี่ถามเราแล้วว่าเราอยู่ที่ไหน แต่เราไม่ตอบพี่”
“ถามตอนไหน หนูไม่เห็นได้ยินเลย”
กรภัคเกาหัวแล้วเสยผมขึ้นแรงๆอยากจะเอาหัวตัวเองทุ่มใส่พวงมาลัยสักทีสองที เพราะก่อนหน้านี้เธอหลับมาตลอดทาง เขาทั้งเรียก ทั้งสะกิดถาม แต่สิ่งที่ได้มาคือความเงียบ
“ไหนๆก็มาถึงแล้วนอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับ”
“ให้หนูนอนกับพี่ หนูไม่ปลอดภัยแน่นอน ไม่เอาหนูจะกลับห้อง”
“อย่าดื้อได้ไหม แล้วตอนนี้พี่ก็ง่วงแล้วด้วย”
“แล้วถ้าหนูปล้ำพี่จะทำไงล่ะ”
“เออ เดี๋ยวพี่ขัดขืนเอง ลงมาก่อน”
“อื้อ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับ แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ เดินเซไปมาจนคนที่แอบมองอยู่ด้านหลังช้อนตัวขึ้นอุ้ม
“พี่เกมส์”
“ง่วงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นไปเอง”
“อือ”
ดวงตาคู่สวยปิดสนิทอีกครั้งแล้วหันหน้าซุกอยู่กับอกแกร่งกำยำ ปกติเธอค่อนข้างเป็นคนนอนหลับยากมาก ต่อให้กินเหล้าเมามากขนาดไหนก็ไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง แต่พอได้กลิ่นกายบุรุษแสนหอมเธอก็เผลอหลับอย่างง่ายดาย
เมื่อขึ้นมาถึงคอนโดชั้นสูงสุดผมค่อยๆวางร่างเล็กลงบนเตียงนอนอย่างเบามือเพราะกลัวเด็กขี้เมาจะตื่นขึ้นมาโวยวายอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำแล้วออกมาด้วยกางเกงนอนขายาวสีกรมเข้มเพียงตัวเดียวเปลือยท่อนอกนอนเหมือนกับทุกๆครั้ง
“เอาไงดีล่ะ นอนตรงไหนดีวะกู”
ร่างสูงยืนพูดอยู่คนเดียวข้างเตียงที่มีคนตัวเล็กนอนกอดหมอนข้างหลับตาพริ้ม แพขนตาเรียงตัวสวย จมูกโด่งทรงหยดน้ำ ปากอวบอิ่มเป็นกระจับดูน่ารัก
“หลับไปแล้ว คงไม่คึกตื่นขึ้นมาปล้ำแบบที่เธอบอกหรอกมั้ง”
เมื่อหาคำตอบให้กับตัวเองผมก็เดินไปปิดไฟแล้วอ้อมมาอีกฝั่งก่อนจะก้าวขาขึ้นไปนอนบนเตียง พร้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมอกแล้วหันหลังนอนชิดขอบเตียงเพื่อเว้นระยะห่าง
หมับ!
เมื่อเคลิ้มๆกำลังจะหลับแขนเรียวเล็กพาดมากอดที่เอวหนาพร้อมกับซุกใบหน้ากับแผ่นหลัง ผมจึงปล่อยเลยตามเลยโดยไม่สนใจเพราะคิดว่าเธอละเมอ แต่แล้วผมก็รู้สึกว่ามีปลายนิ้วกำลังลากวนรอบสะดือของผมจนทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วรีบตะครุบมือเล็กเอาไว้เมื่อมือนั้นกำลังเลื่อนลงที่กลางกายที่มีเจ้ายักษ์ตัวใหญ่นอนสงบนิ่งอยู่ แต่มันจะตื่นก็เพราะมือเล็กที่อยู่ไม่สุขนี่แหละ ลูบไล้จนขนในกายลุกซู่ ทำให้ความปรารถนาที่เก็บซ้อนอยู่ภายในร่างกายของผมปะทุขึ้นมาอย่างง่ายดาย
ผมพลิกหันกลับมามองเล็กน้อย ปรากฏว่าเธอลืมตามองด้วยแววตาหยาดเยิ้มก่อนจะใช้ช่วงที่ผมกำลังเผลอพลิกกายขึ้นคร่อมทันที
“พี่เกมส์ขา”
“กอบัว เราลงมานอนดีๆ”
“กอบัวจะปล้ำพี่เกมส์ล่ะนะ”
“ลงมานอนดีๆ เดี๋ยวนี้ แล้วก็เลิกพูดจาก๋ากั่นได้แล้ว” ผมสั่งเสียงเข้มเมื่อเห็นแววตาแพรวพราวของคนตัวเล็กที่นั่งทับเจ้ายักษ์ตัวใหญ่
“ไม่”
เมาแล้วน่ากลัวเป็นบ้า ถ้ายัยเด็กนี่เมาแล้วไปไล่ปล้ำคนอื่น ผมคงปวดใจน่าดู แล้วมึงจะไปปวดใจเขาทำสากกะเบืออะไรวะไอ้เกมส์ มึงไม่ได้เป็นอะไรกับเขานี่หว่า แล้วยัยเด็กนี่ก็ไม่มีอะไรตรงสเปคมึงสักอย่าง
“อ๊ะ!”
ระหว่างที่ผมนอนคิดอะไรอยู่คนเดียวก็เผลอครางเสียงต่ำในลำคอเมื่อถูกปากอวบอิ่มก้มจูบที่ยอดอกสีชมพู
“กอบัว”
“ตัวพี่เกมส์หอมจัง หอมมาก จนหนูอยากกลืนกินพี่ทั้งตัวเลย”
“หยุดเลย ลงมานอนดีๆ”
“พี่เกมส์ก็นอนเฉยๆสิ เดี๋ยวหนูทำเอง” เมื่อพูดจบร่างเล็กก็ขยับคลานเข่าถอยหลังไปนอนแทรกกลางท่อนขากำยำอย่างกับคนเจนสนาม จนหน้าอกอวบที่ซุกอยู่ในเสื้อห้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงจนเห็นร่องอกอวบอิ่ม จนพาให้ใจผมเต้นแรงหายใจติดขัด จนเผลอกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่
“ถ้าความต้องการเราตรงกัน พี่ก็แค่ปล่อยใจจอยๆสิคะ” เสียงหวานราวกับมีมนตร์สะกดให้ตกอยู่ในภวังค์ของแม่มดร้ายขี้ยั่ว ก่อนที่เจ้าตัวจะเลื่อนตัวลงจนใบหน้าเสมอกับเจ้ายักษ์ที่กำลังพองขยายจนดันกางเกงขึ้นมา
“อือ หือ”
พรึ่บ!
“พี่เกมส์!”
ผมดึงร่างบางขึ้นมานอนเกยบนอกพร้อมกอดไว้แน่น แล้วพลิกกายขึ้นคร่อมทับร่างบาง จนคนที่ไม่ทันตั้งตัวหวีดร้องจนเสียงหลง
“ว้าย พะ พี่เกมส์ จะเป็นฝ่ายรุกเองหรอคะ”
“เมาก็หลับ ก่อนที่พี่จะอดทนไม่ไหว”
“กอบัวไม่อยากให้พี่ทนนี่คะ” เสียงหวานเย้ายวนก่อนที่จะยกมือเล็กขึ้นลูบแก้มเขาอย่างแผ่วเบาก่อนจะไล้ปลายนิ้วไปตามท้ายทอยแล้วกดลงมาประกบปากจูบทันที
“อื้อ”
ปากนุ่มประกบจูบมาที่ปากผม ถึงคำพูดเธอจะดูก๋ากั่นแต่การกระทำเทียบเท่ากับเด็กอนุบาลที่ไม่ประสีประสาก่อนที่ผมจะผลักเธอออกห่าง จูบโคตรเด็กน้อยเลยยัยเด็กขี้เมานี่!
“ไม่เคยเหรอ” ผมถามออกไปอย่างที่ใจคิด
“อือ ไม่เคย” รมย์รวินท์สายหน้าไปมาจนเส้นผมสีน้ำตาลลอนมาม่าสยายไปมาเต็มที่นอน
“แล้วยังจะอ่อยเก่ง”
“กอบัวไม่รู้ทำไมพอเป็นพี่ กอบัวถึงเป็นแบบนี้ พี่ดีดน้ำมันพรายใส่กอบัวหรือเปล่าเนี่ย”
“เราไม่ใช่สเปคพี่เลย จะดีดใส่ทำไม”
“พี่พูดแบบนี้ ยิ่งกระตุ้นหนูนะ จนหนูอยากเอา...”
“เอาอะไร” ผมถามขึ้นทันควันชอบพูดจาสองแง่สองง่ามมันน่าจับฟาดสักทีสองที
“เอาชนะพี่ไง คิดลึกอยู่อ่ะดิ”
“อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นนะ รู้ไหมมันอันตราย”
“อือ”
“งั้นนอนนะ แล้วพรุ่งนี้พี่จะไปส่ง ฝันดีนะครับ” ผมกดจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนแล้วนอนลงข้างๆจนคนตัวเล็กมองตาม คิ้วได้รูปขมวดเป็นปม
“นอนได้แล้ว งง อะไรอีก หืม”
“เปล่า”
“นอนได้แล้ว”
“แต่กอบัวนอนไม่หลับ”
“จะให้พี่ทำไง”
“ทำแบบนี้ไง”
ร่างบางดันตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วประกบจูบที่ปากหยักได้รูปแล้วบดขยี้เบาๆ จนเขาเผลออ้างปากเธอจึงสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากอย่างเงอะงะ ดูไม่ประสีประสา
“อื้อ อืม”
รมย์รวินท์ครางออกมาเสียงแผ่วเมื่อลิ้นที่สอดเข้าไปถูกเขาดูดดึงจนปวดกราม ซ้ำยังยอกเย้าไปมาจนคนไร้ประสบการณ์มัวเมา จนหลงใหล
ความยับยั้งชั่งใจเขาพังทลาย เมื่อเธอกดจูบลงมาอีกครั้ง กลิ่นกายแสนหอม และเนื้อตัวที่นุ่มนิ่ม กับความนุ่มนวลของกลีบปากทำให้เขาจูบเด็กขี้เมากลับอย่างเร้าร้อนจนเธอครางอยู่ในลำคออย่างไม่เป็นประสาเขาจึงพลิกกายขึ้นคร่อม
“จะเอาแบบนี้ใช่ไหม” ผมถามขึ้นเสียงเรียบ
“อือ”
“พี่ไม่รับผิดชอบนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้”
“กอบัวก็ไม่ต้องการความรับผิดชอบอยู่แล้ว”
สิ้นเสียงหวานผมประกบจูบอีกครั้ง ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากพลางยอกเย้าลิ้นเล็กที่พลิกหลบไปมาแล้วดูดดึงด้วยความหิวกระหาย ไม่เคยมีใครปลุกอารมณ์ผมได้มากขนาดนี้ คงจะมีแค่เด็กขี้เมาชอบอ่อยนี่ ที่กำลังทำให้ผมก้าวข้ามเส้นที่ตัวเองขีดไว้
ไม่ชอบเด็ก แต่ผมกลับจูบเด็กอย่างร้อนแรงจนเกิดเสียงดังในลำคอ ความปรารถนาก็ยิ่งลุกโชนราวกับใครเติมเชื้อไฟ
“อืม”
ร่างสูงถอนจูบแล้วเลื่อนต่ำลงมาที่ลำคอระหง พร้อมจูบไปตามไหล่เล็กจนขึ้นรอยสีกุหลาบ
“อยากให้พี่หยุดไหม”
“ไม่ค่ะ”
มือหนารั้งเสื้อตัวเล็กออกจากร่างบางจนเห็นอกอวบที่มีแผ่นซิลิโคนสีเนื้อปิดปลายยอดอยู่ เขาจึงใช้ปากดึงออกอย่างไม่ใยดีแล้วอ้าปากครอบครองส่วนปลายสีหวานพร้อมตวัดลิ้นหมุนเป็นวงกลมอย่างช่ำชองพลางสลับข้างไปมาอย่างเท่าเทียมข้างไหนที่ว่างก็ถูกมือหนาบีบเคล้นจนขึ้นรอยแดง
“อ๊ะ อื้อ พี่เกมส์ขา”
เสียงหวานครางกระเส่าเมื่อถูกเขาดูดหน้าอกอย่างมูมมาม ฟันคมครูดผิวเนียน แล้วเผลอกัดที่ปลายยอดอย่างมั่นเขี้ยวจนเธอสะดุ้งเจ็บแปรบแต่ก็เต็มไปด้วยความเสียวซ่านแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน จนเผลอแอ่นอกขึ้นให้เขาเชยชมจนหน้าอกทั้งสองข้างฉ่ำไปด้วยน้ำลาย
ในเวลาเดียวกันมือหนาที่บีบเคล้นอกอวบได้เลื่อนลงมาที่กลางกายแล้วแหวกแพนตี้ตัวจิ๋วพร้อมสอดนิ้วไปตามรอยแยกกลางดอกไม้ช้าๆจนร่างเล็กผวาเฮือกด้วยความเจ็บ แม้จะมีน้ำหวานไหลเคลือบปลายนิ้วอยู่จำนวนมากก็ตาม ก่อนจะรั้งท่อนขาเรียวให้แยกออกจากกัน
กรภัคเอื้อมมือควานหาถุงยางอนามัยที่เขามักซื้อเก็บไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงมาสวมใส่อย่างรวดเร็วแล้วจับเจ้ายักษ์ตัวใหญ่ที่กำลังชูคอผงาดจ่อที่กลางดอกไม้แสนสวยช้าๆ
“อ๊ะ พี่เกมส์” ใบหน้าสวยเหยเก เม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆขึ้นตามไรผมเธอหอบหายใจกระเส่าเพราะรสสัมผัสที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
“ทำไม หืม”
“จะ เจ็บ”
“นิดเดียวนะเชื่อพี่ ซักพักเราจะไม่เจ็บ” เพราะเขาเดินหน้ามาไกล จนถอยหลังกลับไม่ทันแล้ว ก่อนจะโน้มตัวจูบที่ปากนุ่มอีกครั้ง พอเธอเผลอจึงดันเจ้ายักษ์ฝ่าเนื้อนุ่มคับแน่นเข้าไปทีเดียวจนสุดความยาว
“อ๊ะ อือ พี่เกมส์ หนู จะ เจ็บ”
รมย์รวินท์หันหน้าหนีจากจูบแสนหวานหวีดร้องครางเสียงหลง ใบหน้าเล็กชื้นไปด้วยเหงื่อ
“พี่ขอโทษนะ เราอย่าเกร็งสิเด็กดี” ผมจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน เพราะตอนนี้เขาก็เจ็บไม่ต่างจากเธอเมื่อถูกบีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก
“เราไม่เคยเหรอ”
“อือ”
“ทำไมไม่บอกพี่”
“หนูบอกพี่แล้ว”
นั่นสิเธอบอกแล้วแต่ผมไม่เชื่อเองเพราะคิดว่าเธอคงโกหกเหมือนกับคู่ขาที่ผ่านๆมา ไหนจะความก๋ากั่น ขี้ยั่ว ทั้งยังชอบอ่อยแต่หยดเลือดสีน้ำตาลบางส่วนที่ติดเจ้ายักษ์ยืนยันได้ดีว่าคนตรงหน้าคือผู้หญิงบริสุทธิ์
“เจ็บมากไหม”
“อือ เจ็บ”
“พี่จะค่อยๆขยับนะ อย่าเกร็ง ถ้าเจ็บบอกพี่นะ”
พอคนใต้ร่างพยักหน้ารับผมจึงโน้มตัวไปจูบกลีบปากนุ่มที่บวมเจ่อเล็กน้อยพร้อมกับขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ
ความเจ็บที่มีเริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยความเสียวซ่านจนจมดิ่งไปกับบทรักแสนเร้าร้อน นี่ขนาดครั้งแรกของเธอเขายังขยับโพกตอกอัดความแข็งแรงเข้าหาจนสุดความยาวจนร่างบางสั่นสะท้านโยกไหวไปตามจังหวะ
“ซี๊ด อ๊ะๆๆ อ่า”
“หายเจ็บหรือยัง”
“หะ หายแล้ว แต่ว่ามัน...อื้อ”
“มันเสียวใช่ไหม” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหู ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดต้นคอก็ยิ่งลุ่มหลงไปกับสัมผัสหวาบหวาม
“อือ”
“นี่แค่ธรรมดา เตรียมตัวเจอของจริงได้เลย” เพราะรู้ตัวว่าเป็นคนกินจุ และร้อนแรง บอกเลยว่าครั้งเดียวไม่ใช่ไอ้เกมส์คนนี้
มือหนาดันท่อนขาเรียวขึ้นชิดอกอวบแล้วกระแทกสะโพกเข้าหาเนื้อนุ่ม จากที่อ่อนโยนบทรักก็เริ่มดุเดือดร้อนแรงขึ้น
พี่เกมส์ขา อ๊ะ อ่า”
รมย์รวินท์เรียกเขาไม่ขาดปากเมื่อถูกไฟรักที่เขาสร้างขึ้นแผดเผาจนร้อนลุ่มไปทั้งตัวไม่ว่าเขาจะจับพลิกอยู่ในท่วงท่าไหนก็คล้อยตามอย่างง่ายดาย เห็นหล่อๆ นิ่งๆ กวนตีนไม่คิดว่าลีลารักจะเร้าร้อนมากขนาดนี้
ท่อนขาเรียวถูกจับพาดที่บ่ากำยำสองมือบีบเคล้นอกอวบแล้วกระแทกกระทั้นเจ้ายักษ์เข้าหาอย่างรัวเร็ว จนคนใต้ร่างครางเสียงดังลั่นห้อง ผสานไปกับเสียงเนื้อกระทบกันต่อเนื่องยาวนานจนเกือบเช้า
ตอนที่ 6 ข้อตกลงร่างบางพลิกกายขยับไปมาเมื่อรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวก่อนที่เธอจะสะดุ้งตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มผืนใหญ่ร่วงลงมา เรื่องราวทุกอย่างเมื่อคืนเริ่มแจ่มชัดเข้ามาในโสตประสาทของเธอ“ตื่นมาก็จะอ่อยพี่ต่อเลยหรือไงเด็กขี้เมา”“พี่เกมส์” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเห็นร่างสูงใส่กางเกงนอนขายาวเปลือยท่อนอกพิงขอบประตูในมือถือแก้วกาแฟยกยิ้มมุมปาก เธอจึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยจูบ นั่งกอดเข่าขยับตัวถอยจนชิดหัวเตียงเมื่อเขาก้าวเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น“จะหนีไปไหน เมื่อคืนเรายังสนุกด้วยกันทั้งคืนเลยจำไม่ได้เหรอ”“พี่ฉวยโอกาสกับคนเมาเหรอคะ”“พูดดีๆนะกอบัว พี่ไม่ได้ข่มขื่นเรานะ มีแต่เรานั่นแหละที่...”“พอแล้วค่ะพี่เกมส์ หนูไม่อยากฟัง” ร่างบางยกมือขึ้นห้ามก่อนจะยกขึ้นมาอุดหูแล้วก้มหน้าเพื่อหลบสายตาคม ทำอะไรลงไปวะเนี่ย! กอบัว“พี่ก็ต้องอธิบายสิ เพราะพี่ไม่อยากเป็นคนที่ถูกตราหน้าว่าข่มขื่นเรา”“กอบัวเชื่อแล้วค่ะว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ” เพราะคนที่เริ่มคือเธอเองทุกอย่างนี้แหละ พอกันที่เหล้า เบียร์ อย่าได้เจอกันอีกเลย ลาขาดตลอดกาล“แล้วเสื้อผ้าหนูล่ะ” เธอเอ่ยถามพร้อมกับมองไปรอบ
ตอนที่ 7 ความลับ‘แต่’‘แต่อะไรอีก หืม’‘ต้องไม่มีคนรู้เรื่องนี้’‘ตกลง จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ของเรา’ เมื่อกลับมาถึงคอนโดตัวเอง ร่างบางทิ้งตัวนอนอย่างหมดแรงยกมือขึ้นเกยหน้าผากพยายามคิดทบทวนสิ่งที่เธอพึ่งตกลงกับเขาไป เพราะความเมาอย่างเดียวที่พาเธอมาถึงจุดนี้ได้ บางครั้งก็นึกแปลกใจตัวเองว่ายอมทำไม “โอ้ย จะบ้าตาย”ครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ที่สั่นสะท้านอยู่ข้างตัวทำให้เธอต้องหยิบขึ้นมารับอย่างเลี่ยงไม่ได้“ค่ะแม่”“แกอยู่ไหนกอบัว เมื่อคืนฉันก็ติดต่อไม่ได้ จนเกือบจะจองตั๋วบินไปหาแกที่กรุงเทพแล้วเนี่ย”เสียงหวานดังแว่วเข้ามาทำให้เธอเผลอยิ้มออกมา ไม่ใช่ใครหรอกนอกจากคุณแม่สุดที่รัก เจ๊กอหญ้าเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดจันทบุรี&ldqu
ตอนที่ 8 พิษไข้ร่างบางเดินขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอเขาอาบน้ำ จนกระทั่งเขาเดินออกมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ทำให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวยมีหยดน้ำเกาะพราวตามผิวขาวเนียน ปลายยอดยังเป็นสีชมพูสวย จนเผลอมองอยู่นาน“หิวพี่เหรอ”“พูดจาบ้าๆ”“ก็เห็นมองตามตาเป็นประกายเชียว”“ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาล่ะคะ”“พี่ลืมเอาชุดเข้าไปน่ะ”กรภัคเอ่ยบอกก่อนจะหยิบกางเกงนอนเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเดินขึ้นมานอนบนเตียงกว้าง“พี่เกมส์ไม่กลับไปนอนที่ห้องล่ะคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”“พี่เป็นห่วง”“ไว้ใจได้ป่ะเนี่ย”“คำถามนี้พี่น่าจะถามเรามากกว่ามั้ง” กรภัคว่าเสียงขำจนร่างบางเบ้ปากกลอกตามองบนใส่ ผมจึงยื่นมือไปหยิกแก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว“พี่เกมส์ เจ็บนะ”“หมั่นเขี้ยว นอนได้แล้ว พี่ไม่ทำอะไรหรอก
ตอนที่ 9 เวลาของเรา เมื่อจัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยฉันก็รับยาลดไข้จากเขามาใส่ปากแล้วตามด้วยน้ำเปล่า “อื้อ พี่เกมส์จะทำอะไร” เสียงหวานร้องท้วงเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ “พี่ขอวัดไข้หน่อย” กรภัคยกมือขึ้นทาบหน้าผากพอเห็นว่าอุณหภูมิปกติก็ค่อยเบาใจ “หายดีแล้ว”“ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนู”“พี่ขอโทษนะที่รุนแรงไปหน่อย”“ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ” รมย์รวินท์พูดเสียงแผ่วก้มหน้างุดหลบสายตาคมที่มองมาราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว“หึๆ” กรภัคหัวเราะขำน้อยๆ “แล้วนี่เราจะไปไหนไหม พี่จะพาไป”“ปกติวันหยุดหนูจะไปซื้อของใส่ตู้เย็น”
ตอนที่ 10 บรรยากาศพาไป “เป็นอะไรหรือเปล่าตั้งแต่ออกจากห้าง พี่เห็นเรานั่งเงียบมาตลอดทางเลย”“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร”“ไข้ขึ้นหรือเปล่า” กรภัคยกฝ่ามือทาบหน้าผากได้รูปแต่คนตัวเล็กกลับเบี่ยงตัวหนี“ไม่ค่ะ สบายดี”“แล้วทำไมหน้าดูซึมๆ แบบนี้ล่ะ”“เอ่อ...หนูคอแห้งเฉยๆ กินเบียร์กันไหมคะพี่เกมส์”“ยัยเด็กขี้เมา” กรภัคว่าขึ้น เขาก็อุตส่าห์เป็นห่วงที่ไหนได้ร่างกายต้องการแอลกอฮอล์นี่เอง“สรุปกินไหมคะ”“พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“มีค่ะแต่แค่กระป๋องเดียว ไม่เมาหรอก”“โอเค”ผมหยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมาสองกระป๋องก่อนจะเดินมาหาร่างบางที่นั่งอยู่ริมระเบียงที่ไม่ได้กว้างมาก มีเพียงเก้าอี้ในสวนและรอบๆยังปลูกดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงาม“อื้อ รับไ
ตอนที่ 11 แค่คนรู้จักเช้าวันต่อมารถเบนซ์ c-class สีขาวแล่นเข้ามาในรั้วมหาลัยตามกฎหมายกำหนดก่อนจะจอดสนิทที่ลานจอดรถตึกคณะวิศวกรรมที่ค่อนข้างโล่งครืด ครืด ครืดขณะที่มือบางเก็บหนังสือและไอแพดใส่กระเป๋าผ้าแบรนด์ดัง แต่ยังไม่ทันไรโทรศัพท์ในมือก็สั่นสะท้านเมื่อมีสายเรียกเข้า“เออว่าไงพราว”“อยู่ไหน”“กำลังจอดรถ”“อยู่โรงอาหารนะกับตังเม”“โอเคๆ เดี๋ยวตามไป”เท้าเรียวบนรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวเดินตรงไปยังโรงอาหารพร้อมกับชะเง้อคอมองหา จนเจอสองสาวที่นั่งกินข้าวอยู่โต๊ะริมกระจก“กว่าจะมาได้”“เออ รถติด ตื่นสายด้วยนิดหน่อย”พราวฟ้าที่กำลังเคี้ยวข้าวชะเง้อคอมองตามเพื่อนสนิทอย่างรมย์รวินท์ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “แล้วแกมองหาอะไร”“เปล่า”“พักหลังๆนี่พิรุธเยอะนะแก หรือว่าแกไปแอบปิ๊งหนุ่มที่ไหนมา”“พูดไปเรื่อยอ่าตังเม”“เอ้า ก็ท่าทีแกแปลกๆ”“แค่สงสัยว่าพี่ธันย์บอดี้การ์ดส่วนตัวพ่วงตำแหน่ง
ตอนที่ 12 กับดักร่างบางในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก้าวเดินไปตามมุมตึก ลัดเลาะไปตามทางแคบๆ สลับมองหลังเป็นระยะๆ ด้วยบรรยากาศเงียบเหงาวังเวงในช่วงห้าโมงเย็นยิ่งทำให้ดูหน้ากลัว เธอจึงรีบเดินให้เร็วขึ้นจนกระทั่งเดินมาถึงลานจอดรถ“แอบหนีใครมาเหรอ” กรภัคที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพิงรถอาวดี้เอ่ยถามเสียงขำ“อุ๊ย! พี่เกมส์ตกใจหมด”“ทำลับๆล่อๆ หนีอะไรมา”“เปล่า”“กำลังหนีหน้าพี่ใช่ไหม” กรภัคพูดขึ้นอย่างรู้ทัน“ไม่ได้หนี” เธอแอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านหน้าเขาไปที่รถตัวเอง“เดี๋ยว” ฝ่ามือหนายื่นมาดึงข้อมือเล็กเอาไว้ “วันนี้โกรธพี่หรือเปล่า”“โกรธทำไมล่ะคะ มันคือข้อตกลงของเราสองคนไม่ใช่เหรอ ห้ามรัก ห้ามเปิดเผย ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน ทุกอย่างมันเริ่มต้นแบบลับๆ ก็ต้องจบแบบลับๆสิคะ”“ประชดเหรอ”“เปล่าค่ะหนูพูดความจริง แล้วอีกอย่างก็เป็นไปตามที่เราตกลงกันไว้ ถ้าพี่มีคนอื่นหนูค่อยโกรธดีกว่าไหม”“งั้นกลับกับพี่”“แต่หนูเอารถมา”“ทิ้งไว้นี่แหล
ตอนที่ 13 เพราะฝนทำให้คนเหงา@คอนโดร่างบางก้มๆเงยข้างเตียงก่อนจะรื้อหาใต้พรม แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอสร้อยข้อมือเจ้าปัญหา แต่พอจะกลับเข้าไปหาในห้องน้ำอีกครั้งก็ต้องชะงักหันมาหาเข้าของห้องที่ยืนกอดอกพิงประตูอยู่“หาเจอไหม”“ไม่เจอค่ะ” รมย์รวินท์ส่ายหน้าไปมาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ตามหาจนทั่วทุกที่ซ้ำสองรอบก็ยังหาไม่เจอ“มากินข้าวก่อนพี่จัดโต๊ะเสร็จแล้ว พอกินเสร็จเดี๋ยวพี่จะช่วยหาอีกที”“ขอหาในห้องน้ำอีกรอบก่อนได้ไหมคะ”“ไม่ได้”“เห้อ” เธอถอนหายใจด้วยความหนักใจก่อนจะเดินตามร่างสูงที่เดินเข้ามากุมมือพาเดินออกมาที่โต๊ะกินข้าว ที่แปลกตาไปกว่าทุกครั้งเพราะมีอาหารจากโรงแรมชื่อดัง พร้อมกุหลาบช่อใหญ่วางไว้บนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฟุ้งผสมผสานไปกับกลิ่นเทียนหอมที่ประดับตามมุมต่างๆ“ต้องขนาดนี้เลยเหรอคะ”“ตอนที่เราหาสร้อยอยู่พี่สั่งอาหารมาไว้ให้ ส่วนอันนี้พี่ก็สั่งเพิ่มมาให้ เห็นเราดูเครียดๆ”“ขอบคุณนะคะ”รมย์รวินท์นั่งลงบนเก้าอี้ที่เขาขย
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้
ตอนที่ 37 ทะเลเดือด“เดี๋ยวเราไปเที่ยวที่นี่กันก่อนนะคะ ไปหาข้าวเที่ยงกินที่นี่ด้วย”“ตามใจไกด์เลยครับ” กรภัคบอกเสียงอ่อนโยนพร้อมกับกุมมือนุ่มไว้ตลอดทางจนกระทั่งถึงที่หมาย“เดี๋ยวหนูพาพี่เที่ยวที่โซนนี้ก่อนนะเวลามีน้อย คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะพาเที่ยวให้ครบแปดโซนเลยค่ะ”“โอเคครับ”“งั้นไปกันค่ะ”รมย์รวินท์เช่าจักรยานสมาสองคัน เธอกับเขาปั่นเลียบไปตามริมน้ำชมอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลที่ตั้งเด่นสง่า ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ที่มียอดแหลมตรงปลายโบสถ์ทั้งสองข้าง ภายในงดงามด้วยการประดับกระจกสี“สวยมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะ”“เป็นแลนมาร์คของจังหวัดเลยค่ะ ป่ะนี่ก็ใกล้เที่ยวแล้วเดี๋ยวหนูพาไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงกับเส้นจันท์ผัดปูนิ่มที่ร้านริมน้ำบอกเลยว่าอร่อยมาก เอ๊ะหรือส้มตำทุเรียนดี”“โอ้โห่ ทุเรียนพี่ว่าพอก่อนดีกว่า เมื่อเช้าแม่เราก็จัดให้พี่เต็มที่เลย แล้วเรายังแกล้งพี่ไว้แสบมากอีกนะ”“ก็เลือกที่จะไม่กินก็ได้นี่คะ เหมือนที่พี่ไม่ไปช่วยงานแม่พี่ที่ตลาดช่วงหน้าทุเรียนไงคะ
ตอนที่ 36 ดูดาวกันนะ หลังจากที่ทานข้าวอิ่มเรียบร้อยกอหญ้าก็ขอตัวไปนอนเพราะต้องลงสวนแต่เช้า กรภัคจึงรีบเดินไปรั้งเอวบางที่กำลังจะเดินเข้าห้องมากอดไว้แนบอก“พี่เกมส์ทำอะไรคะเนี่ย ปล่อยเลย”“พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะ”“ก็บอกดีๆสิคะ มากอดทำไม เดี๋ยวแม่มาเห็นเข้า”“พี่กลัวเราหนีพี่อีก” กรภัคพาร่างบางเดินมานั่งหน้าบ้านที่มุมนั่งเล่นตรงระเบียงซึ่งมีศาลาขนาดเล็กตัวไม้ระแนงมีผู้ผ้าพริ้วสีขาวตามเสาบ้าน รอบๆปลูกไม้ประดับจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว“มีอะไรก็พูดมาสิคะ”“มานอนดูดาวกันนะ”รมย์รวินท์นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆแต่กลับถูกเขาดึงไปนั่งบนตักสองแขนกำยำกอดรอบเอวบางแล้ววางคางเกยบนไหล่เล็ก“พี่คิดถึงเรามากเลยนะรู้ไหม”“....”เมื่อเธอไม่ตอบแต่การที่เธอเอียงศีรษะซบอกก็ทำให้ผมยิ้มออกมา ซึ่งยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่เปรี่ยมไปด้วยความสุข“พี่รักเรานะ ขอโทษที่พี่ไม่ได้ดีพอจนสุดท้ายทำให้เราต้องเสียใจ
ตอนที่ 35 คนเดียวสักพัก“เฮ้อ” รมย์รวินท์ถอนหายใจเฮือก ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านก่อนจะพูดคุยกับผู้เป็นแม่ ถ้าเจออะไรอย่าตกใจ อย่าใช้อารมณ์ อย่าใช้สมองให้ใช้หัวใจตัดสิน ที่แม่พูดมาทั้งหมดคงหมายถึงเขาสินะครืด ครืด ครืด“โทรมาได้จังหวะพอดีเลย” รมย์รวินท์รีบรับสายเมื่อเห็นชื่อเพื่อนสนิทโทรเข้ามา “กำลังจะโทรหาพอดีตังเม”“แกเจอพี่เกมส์แล้วใช่ไหม”“เจอแล้ว แกรู้อยู่แล้วหรอว่าเขามาที่นี่”“อือ”“แล้วแกไม่บอกฉันก่อน”“แหม่ๆ ทำอย่างกับรับสายงั้นแหละ ฉันกับพราวโทรหาแกจนสายเกือบไหม้แล้วมั้ง ข้อความที่ส่งไปเปิดอ่านบ้างหรือเปล่าเถอะ”“โทษทีจะเพื่อนรัก แต่หยุดบ่นก่อน ช่วยคิดหน่อย”“จะให้ช่วยคิดยังไง เรื่องนี้แกต้องตัดสินใจเอง หัวใจแก แกก็น่าจะรู้ดีที่สุดแล้วนะกอบัว มาถามฉันก็จะช่วยอะไรได้นอกจากโทรมาฟังแกระบาย”“เรื่องจริงใช่ไหม”“อือ วันนั้นฉันก็อยู่กับพวกพี่เขา พี่ชินเขาก็อยู่ด้วยนะ เขาเล่าและยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ”“แต่ตอนที่ฉันขึ้นไปฉันก็ไม่เห็นแม้แ