ตอนที่ 2 ทำอะไรลงไป
ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือขึ้นเมื่อแสงของเช้าวันใหม่สาดทอเข้ามาภายในห้องน้ำ เธอจึงขยับตัวหันหน้าหนีแต่กลับเจอกล้ามหน้าอกของใครบางคน จนแทบหยุดหายใจ ปากคอแห้งผาดก่อนที่จะค่อยๆตั้งสติที่กำลังแตกกระเจิงให้เข้าที่เข้าทางแล้วนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืน
“เชี้ยแล้ว ทำอะไรลงไปวะเนี่ย” รมย์รวินท์ยกมือปิดปากร้องอุทานเสียงเบาในลำคอ เมื่อเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด แต่คงไม่ใช่เขาหรอกมั้ง...
จากที่คิดว่าเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่ประถมศึกษาอย่างตังเมจะคอยพูดล้อเล่นอยู่บ่อยๆว่าเธอเมาแล้วชอบอ่อยผู้ชาย บุญเท่าไรแล้วที่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ หรือเปล่าวะ?
เธอขยับตัวอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวคนข้างๆจะตื่นขึ้นมา แล้วก้มหน้างุดเพราะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นมองตัวเองที่มีเสื้อผ้าอยู่ครบทุกชิ้น แล้วลองยกขาเรียวแยกออกจากกันเล็กน้อยก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ หวังว่าเมื่อคืนคงไม่มีสงครามกลางเตียงขึ้นหรอกนะ
แต่พอขยับตัวลุกกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วทำใจกล้าหันมองคนข้างกายเธอถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดปากอยากจะกรีดร้องให้ตึกถล่มทับให้ตายคาที่ไปเลย จากที่ไม่ค่อยมั่นใจพอเห็นหน้าเขาชัดๆความจริงก็ยิ่งกระแทกเข้าหน้าสวยๆเต็มแรง เมื่อคนที่เธอไปอ่อยเป็นเสือร้ายเจ้าชู้ตัวแม่ ตัวมัม ตัวคลอดบุตรของแท้ อย่างพี่เกมส์ กรภัค จรรยาวัฒนากุลที่ชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงโด่งดังเล่าลือกันอื้ออึงทั่วทั้งคณะวิศวกรรม ไม่สิ น่าจะทั้งมหาลัยเลยมั้ง
“ตายๆ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนวะเนี่ย กอบัวมึงตายแน่ๆเลย”
เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ในคณะ และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขาเป็นเพื่อนสนิทของธนัท ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเป็นว่าที่คู่หมั้นเพื่อนสนิทอย่างพราวฟ้านั่นเอง
“โอ้ย อยู่ไม่ได้แล้ว เผ่นดีกว่า”
“จะไปไหน”
แต่ยังไม่ทันขยับกระโจนลงจากเตียงเสียงทุ้มก็ดังขึ้นเหนือหัว เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มแหยๆให้
“จะรีบไปไหน ไม่อยู่เคลียร์กันหน่อยเหรอ หืม”
“กอบัวหิวข้าวแล้วค่ะ ถ้ากินข้าวเช้าสายไปสักนาทีโรคกระเพาะจะกำเริบทันทีเลย ขอตัวก่อนนะคะ”
“ปกติกินข้าวเช้าสิบโมงเหรอ” ร่างสูงที่นอนตะแคงเท้าแขนกับที่นอนพยักพเยิดหน้าไปทางนาฬิกาที่วางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง
“เอ่อ จริงด้วยสิบโมงแล้วนี่หว่า”
“อย่ามาแถ มาคุยให้รู้เรื่องก่อน”
“กอบัวกราบขอโทษ กราบขออภัยด้วยความสำนึกผิดจริงๆค่ะ กอบัวผิดไปแล้ว พี่เกมส์ช่วยลืมเรื่องเมื่อคืนไปเถอะนะคะ”
“แล้วพี่จะได้อะไร”
“พี่จะเอาอะไรล่ะคะ ให้กอบัวเลี้ยงข้าวไหม หรือว่าเช็คเงินสดดี เอาเท่าไรบอกมาเลยค่ะ กอบัวจะโอนให้เลยทันที” รมย์รวินท์หันมองหาโทรศัพท์ที่ไม่รู้ไปร่วงหล่นอยู่ที่ไหนเพื่อจะทำตามที่บอก ต่อให้ถูกคุณนายแม่เทศนาเป็นสิบรอบ ร้อยรอบก็ยอม เพื่อให้เรื่องน่าอายมันจบลง
“ไม่อยากได้เงิน”
“แล้วพี่อยากได้อะไรคะ”
“อยากได้กอบัว”
“พี่เกมส์!!” ฉันตะโกนเรียกชื่อเขาเสียงดุ ใบหน้าสวยเห่อร้อน เธอเป็นผู้หญิง เขามาพูดแบบนี้กับเธอได้ยังไง เอ่อ ส่วนเรื่องเมื่อคืนเมาขอไม่นับก็แล้วกันนะ
“ทีเมื่อคืนเรายังอยากเล่นเกมส์อยู่เลย”
“กอบัวอาจจะหมายถึงเกมอ่ะค่ะ เกมที่เป็นเกมจริงๆ ไม่ใช่คนที่ชื่อเกมส์”
“หรอ”
“ค่ะ” ฉันตอบรับด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจเมื่อเห็นแววตาทะเล้นทอดมองมานิ่งๆ
“แล้วถ้าพี่อยากได้จริงๆ จะทำไม”
“พี่เกมส์อย่ามาพูดเล่นนะคะ”
“พี่จริงจังนะ”
“ไม่เอาหรอก ไม่อยากเป็นแค่คู่ขา เจ้าชู้ขนาดนี้น้ำตากอบัวคงได้นองหน้าเช้าเย็นแน่ๆ” เธอพูดจบก็ผลักใบหน้าหล่อที่ขยับเข้ามาใกล้ออกห่างแล้วรีบลุกลงจากเตียงทันที
“เห็นโทรศัพท์กอบัวไหมคะ ไม่รู้ป่านนี้เพื่อนหรือแม่จะโทรหาไหม”
“อยู่นั่น” ผมพยักพเยิดหน้าไปทางโซฟาปลายเตียง “แล้วก็ไม่ต้องห่วง พี่ทักบอกเพื่อนเราให้แล้ว”
“ถ้างั้นกอบัวขอตัวก่อนนะคะ” รมย์รวินท์หยิบโทรศัพท์มาถือไว้แล้วบอกเขาด้วยน้ำเสียงร้อนรนพร้อมกับวิ่งออกจากห้องไป
“ยังคุยกันไม่จบเลย”
“พี่ก็ลืมๆ ไปเหอะค่ะ อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมาเลยนะคะ” เสียงหวานตะโกนกลับมาก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป
“แล้วมึงยิ้มเชี้ยอะไรเนี่ยไอ้เกมส์” ผมตบหัวตัวเองเบาๆก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วล้มตัวนอนต่อ
แกรก!
แต่ไม่ถึงนาทีเสียงประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง มุมปาก
กรภัคยกยิ้มกว้างเพราะคิดว่ายัยเด็กนั่นอาจเปลี่ยนใจ“กลับมา เพราะเปลี่ยน...”
“เปลี่ยนอะไรจ๊ะลูกรัก” เสียงหวานติดดุดังขึ้นทำให้ดวงตาคมเบิกกว้าง
“แม่!”
“ก็แม่น่ะสิ มีอะไรทำท่าตกอกตกใจ นี่แม่เองไม่ใช่ผีที่ไหน”
“เอ่อ ครับ”
“หรือแกพาใครเข้ามาในห้อง”
“อะไรแม่ ไม่มีหรอกจะพาใครมาล่ะ” ผมตอบเสียงสูงพอผู้เป็นแม่หันไปสำรวจห้อง ผมก็รีบมองหาความผิดปกติจนเจอสร้อยข้อมือร่วงอยู่ที่พื้นพรมไม่ไกลจากเตียงนอนมากนัก
ควับ!
ร่างสูงพุ่งกระโจนคว้าสร้อยข้อมือเจ้าปัญหาเอาไว้ได้ฉิวเฉียดทันเวลาก่อนที่ผู้เป็นแม่จะถอยหลังมาเหยียบ
“เป็นอะไรของแก”
“เปล่าครับแม่ ไม่มีอะไร”
“มีพิรุธนะ”
“ไม่มี๊”
“แกพาผู้หญิงที่ไหนขึ้นมาบนห้องหรือเปล่า” เกล้ากะรัตหรี่ตาถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเสียงเข้ม
“โห่ แม่ เกมส์จะไปพาใครมา แม่ดุอย่างกับ...” เสียงทุ้มชะงักเมื่อถูกผู้เป็นแม่ยังสาวในวัยสี่สิบสองตวัดตามองจึงรีบเปลี่ยนคำ “ดุอย่างกับเสือแบบนี้ ใครจะกล้าแหกกฎเหล็กของแม่กัน”
“ให้มันแน่นะ”
“แน่ครับแม่ แล้วทำไมวันนี้มาแต่เช้าเลยไม่เข้าตลาดเหรอครับ” ตลาดที่ว่าคือตลาดวัฒนา ตลาดกลางสินค้าการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร หนึ่งในธุรกิจตระกูลจรรยาวัฒนากุลที่ทำสืบต่อมาตั้งแต่บรรพบุรุษ พอมาถึงรุ่นคุณนายเกล้ากะรัตขึ้นบริหารจึงขยายตลาดไปทั่วทุกจังหวัดใหญ่ๆที่มีมากจนนับไม่ถ้วน และเปิดตลาดนัดกลางคืนที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งอีกหลายที่ ยังไม่รวมธุรกิจเช่าอาคารที่ดินอีกมากมายจนทำให้สองคนแม่ลูกมีกินมีใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด
“ไปสิ แต่แม่เอาข้าวมาให้ก่อน”
“ขอบคุณครับ” กรภัคลุกขึ้นไปกอดเอวบางของผู้เป็นแม่อย่างอ้อนๆแล้วหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่
“ไม่ต้องมาอ้อนโตจนหมามันเลียก้นไม่ถึงแล้ว”
“ก็เกมส์รักแม่นี่ครับ” เกล้ากะรัตยิ้มกว้างยกมือลูบผมผู้เป็นลูกชาย พลางทอดสายตามองด้วยความอ่อนโยนเพราะมีกันอยู่แค่สองคนแม่ลูก
“รักก็ส่วนรัก แต่เรื่องก่อนหน้านี้แม่ไม่ลืมนะ”
“ผม ไม่ได้พาใครมาจริงๆครับ”
“โอเค แม่จะยอมเชื่อ” แม้ในใจเขาจะไม่เชื่อในสิ่งที่ลูกชายพูดแม้แต่น้อย
“ถึงเกมส์จะเจ้าชู้ แต่เกมส์ก็ป้องกันนะครับ”
“อย่าผิดพลาดล่ะ”
“ครับ ไม่ผิดพลาดหรอกเพราะผมใส่เองทุกครั้ง และซื้อเองตลอด” กรภัคตอบรัวเร็วอย่างไม่มีความเขินอายเพราะตั้งแต่เขาเริ่มโตแม่ก็ปลุกฝั่งเรื่องนี้มาเสมอ ไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนต้องมาเสียใจแบบผู้เป็นแม่ที่เคยมีคนรัก คบหากันตั้งแต่เรียนมหาลัยปีหนึ่งจนถึงปีสี่ ยอมเชื่อเขาสารพัดบอกจะแต่งงานด้วย สุดท้ายหนีไปแต่งงานกับคนที่ครอบครัวหาให้ปล่อยให้เธอจมอยู่กับความเสียใจ แต่ถึงแม้จะเสียใจมากแค่ไหนแต่เธอก็ต้องสู้เพราะเธอกำลังมีเด็กน้อยคนหนึ่งอาศัยอยู่ในท้องของเธอ ซึ่งเป็นกำลังใจให้เธอมีแรงต่อสู้ในทุกๆวัน ก่อนจะตัดสินใจดรอปเรียนเพื่อดูแลเด็กน้อยที่จะกำเนิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าให้ดีที่สุด
“ผมไม่อยากเป็นเหมือนเขา”
“แต่เขาก็เป็นพ่อของลูกนะ”
“เขาแค่เป็นคนทำให้ผมเกิดมาต่างหาก ดีนะที่เขาไม่มายุ่งวุ่นวายกับเราอีก”
“เขาก็มีครอบครัวของเขา”
“ดีแล้วครับ เพราะผมเป็นห่วงแม่”
“ความรักของแม่กับเขามันจบไปนานแล้ว ที่แม่เล่าให้ลูกฟังแม่ไม่ได้อยากทำให้ลูกเกลียดพ่อเขานะ แต่อยากให้รับรู้ว่าเขาเป็นพ่อเราเท่านั้น”
“ครับผมเข้าใจ”
เกล้ากะรัตลูบผมลูกชายอย่างอ่อนโยนเจือไปด้วยความเป็นห่วงเพราะการที่ลูกใช้ชีวิตเสเพลเจ้าชู้ โดยไม่คิดจริงใจกับใคร ไม่อยากรักใครก็มาจากเหตุผลนี้ด้วยส่วนหนึ่ง
“แต่ละคนไม่เหมือนกันนะลูก แม่ไม่อยากให้เกมส์ปิดกั้นตัวเอง ถ้าลูกเจอคนที่ดี ที่รักลูกจริง แม่ไม่อยากให้ลูกพลาดที่จะเจอคนดีๆ”
“คงไม่มีหรอกครับแม่ เพราะเกมส์ไม่คิดที่จะรักใครจริงๆ อยู่กับแม่แบบนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่ต้องมานั่งเครียด นั่งสนใจใคร แค่ฟังแม่บ่นคนเดียวก็พอแล้ว เพราะการโสด มันก็ไม่ได้แย่เลย” แล้วเขาก็คงไม่ดีพอที่จะรักใครได้หรอก ท้ายประโยคเขาได้แต่พูดต่อในใจ
“แม่ไม่ได้จะอยู่กับลูกไปได้ตลอดหรอกนะ”
“ก็แน่สิมีผู้กำกับมาจีบแล้วนี่” กรภัคว่าอย่างงอนๆเมื่อรู้ว่ามีผู้กำกับสถานีตำรวจมาขายขนมจีบคุณนายเกล้ากะรัตอยู่นานเป็นเดือน
“ล้อเลียนแม่เหรอ ห๊ะ!”
“เปล่าครับ โอ้ยๆ แม่อย่าหยิกผม” กรภัคร้องลั่นเมื่อถูกผู้เป็นแม่หยิกแขนล่ำ
“ไปอาบน้ำ แล้วมากินข้าว ถ้าวันนี้ว่างขนาดนั้นก็ไปตลาดกับแม่”
“ครับๆคุณนาย”
ตอนที่ 3 เจออีกแล้ว รมย์รวินท์เดินหาซื้อผักผลไม้ที่มีแม่ค้าตั้งแผงขายเรียงรายเต็มตลาดที่ใหญ่ที่สุด ใหญ่ระดับประเทศเลยก็ว่าได้ เดินทั้งวันขาคงได้เปลี้ยจนไม่มีแรง เพราะแค่นี้ก็เริ่มรู้สึกล้าไปทั้งขาแล้ว “เอาอันนี้ค่ะป้า” มือบางส่งกระหล่ำปลีสีเขียวแซมขาว ขึ้นฉ่ายและแครอทส่งให้แม่ค้า “หกสิบบาทจ้า” “นี่ค่ะ” เธอหยิบเงินยื่นให้แม่ค้าแล้วหยิบถุงผักใส่ตะกร้าล้อลากเดินไปยังร้านอื่นต่อ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายใบเล็กสั่นสะท้าน “เออ ว่าไงตังเม” “กอบัว แวะตลาดแค่นี้นานจังวะ” ตังเมกรอกเสียงถามมาตามปลายสายเพราะเย็นนี้ตกลงกันว่าจะกินหมูกระทะกันที่คอนโดของเธอ แต่เพื่อนสนิทอย่างกอบัวกลับยังมาไม่ถึงสักทีทั้งที่ใกล้เวลานัดเต็มที “รีบอยู่” “ซื้อผักนะจ๊ะ ไม่ใช่ให้ไปส่องพ่อค้า นานเกิ้น”“โอ้ย พ่อคงพ่อค้าอะไรล่ะ ไม่มีทั้งนั้นแหละ แต่ลูกเจ้าของตลาดก็ว่าไปอย่าง” รมย์รวินท์พูดเย้าเสียงขำก่อนจะหุบปากฉับเมื่อได้ยินเสียงพราวฟ้ารอดมาตามสาย“แล้วรู้ไหมว่าตลาดที่แกยืนอยู่ตอนนี้เขามีลูกชายหล่อด้วยนะ”
ตอนที่ 4 เด็กขี้เมา “กว่าจะมา” ตังเมเปรยขึ้นเมื่อเปิดประตูให้เพื่อนสาวที่หอบหิ้วของมาเต็มมือ“รถติดน่ะ”“รถติดหรือติดหัวใจลูกเจ้าของตลาดอยู่กันแน่”“โอ้ย ก็พูดไปนั้น ไม่ชอบหรอกคนเจ้าชู้ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้”“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลยกอบัว ไม่ต้องวกมาเรื่องฉัน” พราวฟ้ารีบห้ามเพราะประเด็นร้อนมันไม่ได้อยู่ที่เธอแต่อยู่กับคนที่มาทีหลังต่างหาก“สรุปว่าไง เรื่องเมื่อคืน” ตังเมเอ่ยถามขณะแกะผักออกจากถุงเพื่อล้างน้ำสะอาด“ไม่มีอะไรเลย พี่เขาก็แค่ไปส่งเฉยๆ”“จ้า เชื่อ” พราวฟ้าพยักหน้ารับแต่กลับยกยิ้มล้อเลียนจนกอบัวหน้ามุ่ย“โอ้ย พูดก็ไม่เชื่อ งั้นไม่ตอบแล้ว”“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว” พราวฟ้าเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบมืดหั่นแครอทแล้วหยิบใส่หม้อเพื่อทำน้ำซุป“เอ้อ แล้วทำไมถึงกลับพร้อมพี่เขาได้” ตังเมที่กำลังล้างผักหันมาถามด้วยความสงสัย“เมา แล้วบังเอิญไปเจอพี่เขาพอดี เขาคงสงสารมั้งเลยพาไปส่ง”“กอบัว!!”“อะไรตังเม จะตะโกนทำไมเนี่ย จกใจหมด”“นั่นสิ มีอะไรหน้าตื่นเชียว เจอหนอนในผักเหรอ” พราวฟ้าเอ่ยถาม“แกไปอ่อยพี่เขาหรือเปล่า” ตังเมถามด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าเวลาอีกฝ่ายเมาหนักมากๆจะเป็นอย่างไร“
ตอนที่ 5 ตามที่ใจปรารถนารถอาวดี้คันหรูแล่นไปตามท้องถนนเมืองหลวงที่ค่อนข้างโล่งกว่าทุกวันจนกระทั่งมาจอดสนิทที่หน้าคอนโดหรู“พี่เกมส์ ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนูที่คอนโดคะ” ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองตึกสูงข้างหน้าไม่ว่ามุมไหน ก็ไม่ใช่คอนโดเธอ“ก็พี่ถามเราแล้วว่าเราอยู่ที่ไหน แต่เราไม่ตอบพี่”“ถามตอนไหน หนูไม่เห็นได้ยินเลย”กรภัคเกาหัวแล้วเสยผมขึ้นแรงๆอยากจะเอาหัวตัวเองทุ่มใส่พวงมาลัยสักทีสองที เพราะก่อนหน้านี้เธอหลับมาตลอดทาง เขาทั้งเรียก ทั้งสะกิดถาม แต่สิ่งที่ได้มาคือความเงียบ“ไหนๆก็มาถึงแล้วนอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับ”“ให้หนูนอนกับพี่ หนูไม่ปลอดภัยแน่นอน ไม่เอาหนูจะกลับห้อง”“อย่าดื้อได้ไหม แล้วตอนนี้พี่ก็ง่วงแล้วด้วย”“แล้วถ้าหนูปล้ำพี่จะทำไงล่ะ”“เออ เดี๋ยวพี่ขัดขืนเอง ลงมาก่อน”“อื้อ” รมย์รวินท์พยักหน้ารับ แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ เดินเซไปมาจนคนที่แอบมองอยู่ด้านหลังช้อนตัวขึ้นอุ้ม“พี่เกมส์”“ง่วงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นไปเอง”“อือ”ดวงตาคู่สวยปิดสนิทอีกครั้งแล้วหันหน้าซุกอยู่กับอกแกร่งกำยำ ปกติเธอค่อนข้างเป็นคนนอนหลับยากมาก ต่อให้กินเหล้าเมามากขนาดไหนก็ไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง
ตอนที่ 1 สัญชาตญาณนักสู้ ร่างบางเดินโซซัดโซเซมือเล็กเกาะผนังพยุงร่างตัวเองเดินไปตามทางเข้าห้องน้ำ ก่อนจะชะงักหยุดยกมือขึ้นกุมศีรษะพลางสะบัดส่ายหน้าไปมา เมื่อฤทธิ์ค็อกเทลร้อนแรงอย่างบีห้าสิบสอง (B52) เล่นงานจนหน้ามืด มึนหัว ดวงตาคู่สวยพร่ามัวจวนจะปิดสนิท “โอ้ย กอบัว แกไม่น่ากินตามแรงยุพวกพี่เขาเลย” เสียงหวานบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ โดยที่ในใจอดด่าเจ้าของผับไม่ได้ทำไมทำห้องน้ำไกลจังวะเท้าเรียวเดินเซมาเรื่อยๆตามทางเดินแต่ทว่า มาโผล่อีกทีดันเป็นลานจอดรถ!“อาการแกหนักแล้วกอบัว” เสียงหวานบ่นตัวเองแผ่วเบาก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในผับโดยไม่ทันระวังจนชนเข้ากับกำแพงมนุษย์เต็มแรง “โอ๊ย ซี๊ดใครแม่งมายืนขว้างหน้าวะ” มือเล็กยกขึ้นลูบจมูกตัวเองเบาๆ ถ้าไม่ใช่ว่าแม่ให้มานะป่านนี้คงนั่งน้ำตาซึมไปหาหมอที่คลินิกไปแล้ว คนบ้าอะไรวะตัวแข็งเป็นบ้า แต่ไอ้นั่นที่อยู่ใต้กางเกงจะแข็งไหมวะ พอคิดแบบนั้นดวงตาคู่สวยก็ยิ่งจดจ้องเพ่งเล็งสายตาที่เป้ากางเกงกำแพงมนุษย์ “เมาแล้วอย่าหื่น หน้าพี่อยู่นี่”“พี่เกมส์” เธอร้องตกใจเมื่อคนที่เดินชนเป็นคนเดียว